[นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร 209

Now you are reading [นิยายแปล] เกิดใหม่เป็นไข่มังกร Chapter 209 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 กางเขนจำนวนสิบอัน เรียงรายไปตามพื้นที่ประหาร

 ผู้ที่ถูกมัดตรึงอยู่นั้นคือญาติของอดอล์ฟ กับมนุษย์สัตว์หนึ่งคน

 ปากของพวกนั้นถูกผ้าปิดเอาไว้

 

 ทุกคนต่างก็มีสีหน้าสิ้นหวัง

 เพราะผมยืนอยู่กับอัศวินระหว่างนักโทษประหารกับประชาชน เลยสามารถเห็นใบหน้าของทุกคนได้ชัดเจน

 

 วิวดีจังเลยนะ

 ที่อุตส่าห์ออกปากขอมายืนรักษาการณ์ตรงนี้ ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ

 

 ถ้าคนพวกนี้รู้สึกเคียดแค้นอดอล์ฟกว่านี้สักหน่อยจะดีกว่าก็เถอะ แต่เพราะถูกจับมาหลายวันเลยทำใจได้กันหมดแล้ว

 ตอนนี้มีแต่ความกลัวเท่านั้น

 

 เรื่องที่ไม่ได้ยินคำพูดร้องขอชีวิตเพราะปากโดนมัดอยู่ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าดันพูดมากก็ไม่ดี

 ยังไงก็ไม่มีใครใส่ใจอยู่แล้ว แค่ขี้เกียจต้องแสร้งทำเป็นเสียใจทุกครั้งเท่านั้นแหละ

 

 ที่ประเทศอื่น มีบางที่เอาถุงคลุมหน้าก่อนประหารด้วย

 ผมไม่ชอบแบบนั้นเท่าไหร่ เพราะผมไม่เห็นสีหน้าก่อนจะตายยังไงล่ะ

 

 ส่วนวิธีประหารของที่นี่คือให้เลือกเพชรฆาตจากหนึ่งในอัศวิน แล้วฟันลงไปตรง ๆ

 เท่านั้นแหละ

 คราวหน้าลองเสนอวิธีประหารแบบอื่นดีมั้ยนะ?

 แต่คงไม่ได้รับการยอมรับหรอก เพราะดันมีความเชื่องี่เง่าเรื่องการชำระล้างวิญญาณด้วยการฟันให้ขาดพร้อมที่ตรึงไปด้วยอะไรก็ไม่รู้อยู่ด้วย

 

 ผมเงยหน้ามองขึ้นฟ้า

 พระอาทิตย์อยู่เหนือหัวเป็นที่เรียบร้อย

 สุดท้ายมังกรแห่งโรคภัยนั่นก็ไม่มา

 น่าเสียดายจริง ๆ

 

 ผมอุตส่าห์ตั้งความหวังไว้กับเจ้ามังกรแห่งโรคภัยไว้ซะสูง

 แต่ก็นะ มันคงไม่เอาชีวิตตัวเองมาทิ้งเพื่อทาสคนนึงหรอก

 คงเพราะผมมัวแต่ตื่นเต้นจากการได้ฆ่าอดอล์ฟเลยเผลอคิดว่าจะได้ผลล่ะมั้ง

 ช่วยไม่ได้ เรื่องใช้อสูรโจมตีฮาเรเนไว้คราวหลังแล้วกัน

 จะอัญเชิญมาเองก็ไม่ได้ เพราะแบบนั้นจะโดนตามรอยเอา

 

 เพชรฆาตเดินเข้าไปหาเหล่าคนที่ถูกตรึงไว้

 จากนั้นก็หันกลับมาหาประชาชน ก่อนจะชี้ดาบในมือขึ้นฟ้า

 

 「ผู้คนเหล่านี้คือคนบาปที่คิดร้ายต่อฮาเรเน! ขอให้วิญญาณจงถูกชำระล้างด้วยความตายด้วยเถิด!」

 

 ไม่รู้จะร่ายยาวไปไหน ผมเลยเกือบหาวออกมา แต่ยกมือขึ้นมาปิดได้ทัน

 เกือบผ่อนคลายจนเกินไปแล้วสิ

 

 ทันใดนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามา

 ตามมาด้วยเสียงเอะอะจากฝูงชน

 

 ผมลดมือลงแล้วหันไปหาต้นตอของเสียง

 ไม่ใครที่น่าจะเป็นคนทำเสียงเมื่อครู่

 

 แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงดาบกระทบดังขึ้นจากด้านข้าง

 ที่ด้านข้างนั่นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ สวมผ้าคลุมปิดบังใบหน้าไว้

 ถูกโจมตีแล้ว อัศวินคนหนึ่งโดนเล่นงานจนล้มไปอยู่กับพื้นเรียบร้อย

 

 ไม่ใช่พวกปลาซิวปลาสร้อย

 หมอนั่น กำลังรอให้ผมลดการระวังลงอยู่

 

 「ทำไมแกถึงมีดาบอัศวินอยู่! แกเป็นใครกันแน่!?」

 

 หนึ่งในหมู่อัศวินตะโดนขึ้นพร้อมกับชี้ดาบไปหาผู้บุกรุก

 ในมือของหมอนั่นมีดาบใหญ่ที่มีรอยสลักของอัศวินอยู่

 อันเดียวกันกับที่อดอล์ฟมี

 ไปเก็บมาได้จากศพกลางทะเลทรายงั้นเหรอ?

 

 ชายคนนั้นขว้างผ้าคลุมของตัวเองมาทางผม

 ผมชักดาบออกมาฟันผ้าคลุมออกเป็นสองส่วน

 

 ชายคนนั้นเข้ามาใกล้มากแล้ว

 เขาพุ่งเข้ามาพร้อมกับผ้าคลุม โดยใช้ผ้าเป็นเครื่องบังหน้า

 ทริกไม่เลว แต่ชักช้า อ่อนแอชะมัด

 

 ผมจัดท่าทางใหม่อีกครั้งในทันที

 ด้วยระยะห่างกับความต่างของความเร็ว ผมตั้งท่าทางได้ทันอยู่แล้ว

 

 ผ้าคลุมที่ถูกฟันร่วงลงไปกับพื้น แล้วใบหน้าของผู้บุกรุกก็ถูกเผยให้เห็น

 ภาพเบื้องหน้าทำให้ผมตะลึงไปชั่วคราว

 

 「อดอล์ฟ!? ทำไม ถึงยังมีชีวิตอยู่….!?」

 

 รอดมาได้ทั้งสภาพแบบนั้นเนี่ยนะ!?

 พอเห็นผมชะงักไป อดอล์ฟก็เปลี่ยนวิถีดาบ

 ปลายดาบนั่นพุ่งตรงมาที่ใบหน้าผม

 เจ็บแค่เล็กน้อยก็จริง แต่จะปล่อยให้มีบาดแผลบนใบหน้าไม่ได้

 

 ชักดาบกลับมาไม่ทัน ระยะห่างใกล้เกินไป แต่ถ้าเป็นอดอล์ฟก็หมายความว่ายังใช้ตราประทับได้อยู่

 ผมกระโดดถอยหลังแล้วตะโกนออกมา

 

 「『คุกเข่าลงซะ!』」

 

 การเคลื่อนไหวของอดอล์ฟช้าลงในพริบตา แล้วดาบในมือก็หลุดออกไป

 ร่างของอดอล์ฟเปลี่ยนไปก้มลงกับพื้นแทน

 

 อัศวินคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผม

 

 「ปลอดภัยรึเปล่าครับ ท่านอิลเชีย!」

 

 「ฟู่….ไม่ล่ะ ไม่เป็นอะไร ช่วยจับกุม…..ไปที……」

 

 「ว่าแต่ ทำไมจู่ ๆ เขาก็ล้มลงไปล่ะครับ? เมื่อตะกี้…..」

 

 พอเหล่าสาวกเดินเข้ามาใกล้ลานประหาร ผมก็นึกขึ้นได้

 

 อดอล์ฟไม่ควรจะมีตราประทับอยู่สักหน่อย

 

 หนึ่งในพวกสาวกพวกนี้คือคนที่ประทับตราให้อดอล์ฟเอง

 ก่อนหน้านี้คงจะคร่ำครวญอยู่ว่าเกิดเรื่องได้ยังไง ทั้งที่จัดการดีแล้ว

 พอเห็นอดอล์ฟกลับมาแล้วอาจจะใช้โอกาสนี้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก็ได้

 

 「….แกอ้างเรื่องตราว่าเป็นความผิดของโบสถ์สินะ กะแล้วว่าแกต้องทำแบบนี้」

 

 อดอล์ฟพูดขึ้นขณะที่กำลังโดนอัศวินจับกุมตัวอยู่

 หมอนี่ตั้งใจจะให้ผมใช้ตราประทับแต่แรกแล้วเหรอ?

 

 ผมกำดาบในมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 ใจเย็นก่อน ฆ่าทิ้งไปตอนนี้มีแต่เสีย

 ยังไงอดอล์ฟก็โดนประหารทีหลังอยู่แล้ว

 

 เหล่าสาวกมองมาทางผมด้วยความสงสัย

 ตัวผมเป็นคนบอกเองว่าอดอล์ฟไม่มีตรา แต่กลับต้องใช้ตราในการจับกุมตัว

 น่าสงสัยเกินไป

 

 สาวกคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม

 

 「ท่านอิลเชีย อาจจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ขอถาม…..」

 

 「…..เอาไว้ก่อน จับเขาไปขังแล้วดำเนินการประหารต่อซะ」

 

 「แต่ว่า…..เอ่อ ในเมื่ออดอล์ฟกลับมาแล้ว เราอาจจะคำนึงเรื่องการประหารญาติของเขาใหม่ เราต้องสืบสวนใหม่อีกครั้งก่อนจะ….」

 

 「ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นแหละ! ไม่จำเป็น! กลับไปประจำตำแหน่งได้แล้ว!」

 

 ตอนนี้ผมต้องซื้อเวลาไว้ให้ได้

 ยิ่งมีเวลายิ่งหาทางจัดการได้

 ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องตราประทับค่อยหาทางหลอกทีหลัง

 

 ผมส่งสัญญาณให้บาทหลวง

 

 「ไม่เป็นปัญหา! เหตุวุ่นวายสงบลงแล้ว ดำเนินการประหารคนบาปต่อเสีย! ส่งผู้บุกรุกไปขุมขังด้วย!」

 

 พอบาทหลวงกล่าวขึ้น พวกสาวกก็กลับไปประจำตำแหน่งตัวเอง

 

 เหล่าผู้คนกับสาวกมองมาหาผมด้วยความระแวง

 โธ่เว้ย ไอ้เจ้าอดอล์ฟ

 รอดมาได้ยังไงกัน?

 ไม่คิดเลยว่าแค่การที่ผมไม่ได้ยืนยันเรื่องที่ไม่ได้ค่าประสบการณ์จากอดอล์ฟจะทำให้ทุกอย่างผิดแผนไปขนาดนี้

 จนวินาทีสุดท้ายก็ยังจะตามขัดขวางผมจนได้

 

 ช่างเถอะ

 เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาแล้ว

 ยังไงก็ไม่มีหลักฐานอะไรอยู่ดี

 ที่เหลือก็แค่หาทางให้โบสถ์กำจัดอดอล์ฟทิ้งซะก็จบ

 

 「ท่านอิลเชียครับ ผมมีบางอย่างอยากจะถามจะปากคุณเหมือนกัน」

 

 มีชายอีกคนหนึ่งเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหา

 แล้วก็มีเสียงเอะอะดังขึ้นตามมา

 

 「ฮะ ฮาเกน!? ทะ ทำไม ทำไมแก…..」

 

 「ผมได้ยินมาว่าผมตายไปแล้ว แต่เรื่องนั้นไว้ทีหลัง ผมอยากถามว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมปราบปรามที่หนีไปได้ก่อนผม ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้วครับ?」

 

 น่าจะเอะใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแท้ ๆ

 เจ้านั่นเป็นมังกรที่ช่วยแม้กระทั่งทาสครึ่งมนุษย์

 

 ฮาเกนจะไปโดนมันฆ่าได้ยังไง

 รายงานที่ผมได้มันผิดตั้งแต่แรกแล้ว

 

 「นะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ครับท่านอิลเชีย! ผมคงต้องขอให้ท่านช่วยอธิบายมาบัดเดี๋ยวนี้เลย!」

 

 อัศวินนายหนึ่งเดินเข้ามาหา

 เหล่าสาวกที่กลับไปประจำตำแหน่งก็เดินเข้ามาด้วยเช่นกัน

 

 「ช่วยอธิบายมาตรง ๆ ตอนนี้เลยจะดีกว่านะครับ ยิ่งอยู่ต่อหน้าประชาชนขนาดนี้ด้วย….」

 

 ผิดแผน ผิดแผนไปหมดทุกอย่าง….

 สถานการณ์เลวร้ายที่สุด

 ทั้งอดอล์ฟ ทั้งฮาเกน ไม่คิดเลยว่าจะยังมีชีวิตอยู่ทั้งคู่

 

 อดอล์ฟน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ฮาเกนต่างหากที่เป็นตัวปัญหา

 สองคนนี้คงบังเอิญไปเจอกันเข้า ก็เลยร่วมมือกันสินะ

 งั้นหมอนี่ก็น่าจะรู้เรื่องระหว่างผมกับอดอล์ฟด้วยเหมือนกัน

 

 ก่อนอื่นต้องพาฮาเกนออกไปจากที่นี่ก่อนให้ได้

 ต้องพาฮาเกนไปคุยด้วยคนเดียว แล้วหาข้ออ้างที่เหมาะสมต่อ

 ทำไมมันถึงมีปัญหาไม่หยุดหย่อนแบบนี้นะ?

 

 「รีบประหารต่อได้แล้ว ไม่ได้ยินที่ท่านบาทหลวงบอกรึไงกัน!? เรื่องของฮาเกน างผมต่างหากที่อยากจะรู้!ไว้เราค่อยสืบสวนทีหลักก็ได้ หมอนี่คงไม่หนีหรอก แต่เป็นไปได้ว่ามันจะเป็นอสูรปลอมตัวมา เอาจับขังคุกเผื่อไว้ก่อนซะ!」

 

 จะปล่อยให้พูดไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว

 ก่อนอื่นก็จับตัวไว้ก่อน แล้วค่อยหาเหตุผลให้ทางโบสถ์ลงโทษฮาเกนให้ได้

 

 ถ้าทุกอย่างไปได้ดี ผมก็แค่ยอมรับเรื่องที่โกหกนิดหน่อย

 ปัญหาคือจะหาเหตุผลที่โกหกมายังไงดี แต่ถ้ามีเวลาสักหน่อย ผมน่าจะหาทางได้

 ถึงความเชื่อใจในตัวผมจะลดต่ำลงบ้างแต่ก็ช่วยไม่ได้

 

 「….เร็วเข้าสิ」

 

 เหล่าอัศวินยังคงนิ่งเฉยแม้จะได้ยินคำที่ผมพูด

 

 「เป็นบ้าอะไรกัน! ก็บอกให้รีบลงมือไงเล่า! งานของพวกแกไม่ใช่ยืนอยู่เฉย ๆ นะ! รีบจับฮาเกนได้แล้ว!」

 

 ทำไมไม่ขยับกันล่ะ!

 

 ผมส่งซิกหาบาทหลวงอีกครั้ง

 แต่บาทหลวงกลับมองกลับมาอย่างเหยียดหยัน

 

 「คิดว่าจะช่วยได้ตลอดรึไง…..เจ้าโง่」

 

 ทันทีที่ผมได้ยินคำพูดนั่น เลือดก็สูบฉีดไปทั่วทั้งตัว

 

 พวกอัศวินก็ยืนนิ่ง

 เหล่าสาวกก็สงสัยในตัวผม

 ทั้งบาทหลวงทั้งคนอื่น ๆ ของทางโบสถ์ต่างก็ไม่พูดอะไรออกมา

 

 「หนะ…หนะ……..」

 

 ผมหันกลับไปมองข้างหลัง

 สายตาทั้งหมดจับต้องมาทางนี้

 ไม่ว่าจะทางไหนก็มองมาด้วยสายตาเดียวกัน

 

 ในหัวร้อนไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลยสักนิด

 

 รู้แล้ว

 ก่อนที่ข้อสงสัยจะเป็นจริง ต้องรีบถอยไปก่อน แล้วก็หนีจากฮาเรเนซะ

 แล้วก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก

 

 「หลีกไปซะ!」

 

 ผมผลักสาวกคนหนึ่งที่ยืนขวางทางอยู่แล้วรีบเดินออกไป

 

 「ก็บอกให้ออกไปไง! มองอะไรกันหา!」

 

 ผมเดินต่อโดยผลักอัศวินที่ยืนขวางไปด้วย

 

 「หลีกเดี๋ยวนี้! ขวางทาง! อย่ามาขวางทาง!」

 

 ฮาเกนวิ่งตามมาแล้วจับไหล่ผมไว้

 

 「ดะ เดี๋ยว! จู่ ๆ จะคิดหนีไปเฉย ๆ ……」

 

 「อย่าเอามือสกปรกของแกมาแตะต้องนะ!」

 

 ผมชักดาบออกมาแล้วผลักฮาเกนล้ม

 

 ปลายดาบของผมชี้ไปหาฮาเกนที่กำลังล้มลงกับพื้นอยู่

 ปลายดาบสั่นเทิ้มไปด้วยโทสะ

 ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหมอนี่ล่ะก็ ทุกอย่างคงราบรื่น

 เพราะไอ้โง่นี่คนเดียวถึงกลายเป็นแบบนี้

 

 ตราบใดที่ฮาเกนยังมีชีวิตอยู่ ผมก็ไม่มีทางแก้ไขเรื่องราวทั้งหมดได้

 

 ฆ่าไปตอนนี้ก็ยิ่งสร้างปัญหาเพิ่มขี้นอีก แต่ถ้าปล่อยไว้ผมก็ไม่มีทางรอด

 เพราะงั้นอย่างน้อยก็เลือกอันที่มันสบายใจกว่าดีกว่า

 

 พอแล้ว เลิกสนมันทุกอย่างแล้ว

 ถ้าผมลงมือไป ใครจะหยุดผมได้?

 ฆ่าอดอล์ฟกับฮาเกนทิ้งแล้วหนีจากฮาเรเน เท่านั้นพอ

 ยังไงผมก็ไม่มีอะไรผูกพันธ์กับที่นี่อยู่แล้ว

 ดีไม่ดีจะบั่นหัวเจ้าบาทหลวงที่กล้ามาว่าว่าไอ้โง่ด้วย

 

 ชั่วขณะที่ผมฟาดดาบลงไปก็กลับมีคนอีกคนโผล่มาขวางไว้

 ตอนแรกนึกว่าเป็นคนที่ผมนึกว่าฆ่าตายไปแล้วอีกคน แต่กลับเป็นคนที่ผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

 ชายผิวซีด ผมสีขาว…..ไม่สิ หมอนี่ ไม่ใช่มนุษย์

 

 「กรรรรรรร!」

 

 ตัวของมันขยายใหญ่ขึ้น เปลี่ยนไปเป็นร่างของมังกร

 

 มังกรแห่งโรคภัยนั่นไม่ได้หนีไปไหนเลย

 มันซ่อนตัวอยู่ในหมู่มนุษย์ต่างหาก

 

 รอดแล้ว

 เห็นแสงแห่งความหวังแล้ว

 ถ้ามังกรเกิดอาละวาดขึ้นที่นี่ คงโกลาหลกันหมดแน่

 ผมยังใช้โอกาสนั้นฆ่าอดอล์ฟกับฮาเกนได้

 เรื่องมังกรอาละวาดน่ะใหญ่กว่าเยอะ

 

 หัวของมังกรปรากฏขึ้น พร้อมกับแยกเขี้ยวเข้าหาผม

 

 จะฆ่าทิ้งทันทีไม่ได้

 ต้องให้มันอาละวาดก่อนสักหน่อย

 ถ้างั้น ใช้ดาบธรรมดาก่อนดีกว่ามั้ง ไม่ต้องถึงดาบศักดิ์สิทธิ์ก็ได้

 

 ผมเหวี่ยงดาบในมือเข้าไปตรงปากของมัน

 มันหุบปากตัวเองแล้วใช้เขี้ยวกัดดาบเอาไว้

 

 ดึงดาบไม่ออก ทรงพลังกว่าที่คาดไว้

 พอผมพยายามดึงดาบออก ก็เพิ่งสังเกตว่าใบหน้าของมังกรนั้นเป็นสีฟ้าอ่อน

 เจ้านี่ไม่ใช่มังกรแห่งโรคภัยหรอกเรอะ?

 

 「ก่าาาา!」

 

 มังกรตัวที่สองปรากฏขึ้นพร้อมเสียงคำราม เอาหัวพุ่งมาทางผม

 ผมปล่อยดาบในมือ แต่ก็ไม่ทัน

 

 ถีบหัวมันเป็นแรงส่งให้ถอยกลับไปข้างหลังสักหน่อยดีกว่า

 

 「อึ่ก!?」

 

 ทันทีที่ผมยื่นขาออกไป การมองเห็นก็เปลี่ยนไปโดยพลัน

 รู้สึกได้ถึงแรงกระแทกรุนแรงจากข้างหลัง ไม่นานนักก็เข้าใจว่าผมโดนมันโจมตีจนกระเด็นมา

 ผู้คนรอบข้างต่างก็โหวกเหวกโวยวายไปทั่ว

 

 「 [ฟื้นฟูขั้นสูง] 」

 

 เมื่อแสงล้อมร่างกายของผมไว้ ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ หายไป

 พอเงยหน้ามองขึ้นก็เจอมังกรสองตัว…..ไม่สิ มังกรสองหัวต่างหาก

 

 「แกเป็น….ตัวอะไรกันแน่…..」

 

 หัวทั้งสองคำรามขึ้นพร้อมกันเป็นคำตอบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด