ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอบทที่ 444 ไม่ใช่ว่าถูกรังแกจากข้างนอก แล้วมาร้องไห้ที่ผมนะ

Now you are reading ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ Chapter บทที่ 444 ไม่ใช่ว่าถูกรังแกจากข้างนอก แล้วมาร้องไห้ที่ผมนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่ผ่านมา เธอฟื้นจากอาการโคม่า เห็นบรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไปหมด และข้างตัวฟู่สีเกอมีแฟนสาวอยู่ เธอเลือกจะไม่รบกวน

เพราะเธอเป็นอดีตของเขาไปแล้ว แม้ว่าสำหรับเธอ ผลของมันจะมาอย่างกะทันหัน

และตอนนี้ หันจื่ออี้ก็เหมือนมีคนที่ชอบแล้ว เธอกลายเป็นส่วนเกินอีกครั้ง

ตามหลัก เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรรบกวนเขา

แต่บนความรัก เธออาลัยอาวรณ์เหมือนทำไม่ได้

ที่แท้ในระหว่างพวกเขาคบกันไม่ถึง 1 ปี คิดไม่ถึงว่าจะทิ้งร่องรอยลึกขนาดนี้ในชีวิตของเธอ

ฮั่วชิงชิงพิงอยู่ในอ้อมกอดของหันจื่ออี้ อาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไป

หันจื่ออี้รู้สึกหดหู่ไม่ต่างกัน

พวกเขาเคยเป็นสามีภรรยาที่รักกัน ผู้หญิงคนเดียวที่เขาเคยสัมผัสก็มีแค่เธอ

เขาเคยวาดฝันว่าจะอยู่กับเธอไปชั่วชีวิต มีลูกสาวที่น่ารัก 2 คน มอบความอบอุ่นให้กันและกัน ฟันฝ่าอุปสรรคในชีวิต

เพียงแต่โชคชะตามักเล่นตลก สองปีมานี้ เขาเหมือนค่อยๆเริ่มเปิดใจ

ชีวิตสั้นๆไม่กี่สิบปี ไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ต้องดึงดัน อยู่กับปัจจุบันก็พอแล้ว

เขาลูบหลังฮั่วชิงชิงเบาๆ น้ำเสียงมีความผ่อนคลายและเย้าแหย่ “มุดหน้าอกผมอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าถูกรังแกจากข้างนอก แล้วมาร้องไห้ที่ผมนะ”

ฮั่วชิงชิงใจสั่น

เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนเธอยังไม่ได้หลงรักเขา มีหลายครั้งที่พิงหน้าอกเขาร้องไห้หลายครั้งจริงๆ เขาลูบปลอบเธอเบาๆ

เพียงแต่ต่อมา ไม่รู้ตอนไหน เธอเอาหัวใจตัวเองไปอยู่ที่เขา

ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว เขาให้ไตข้างหนึ่งกับเธอ ดังนั้นสองปีนี้ของเธอ ตอนดึกเหมือนฝันถึงเขาวนไปวนมา

ทุกอย่างถึงอยู่ในความไม่รู้ตัว กลายเป็นยากที่จะตัดขาดแบบนี้

ดังนั้นตอนได้ยินหันจื่ออี้พูดคำนั้น ฮั่วชิงชิงควบคุมหัวใจที่ทรมานไม่ได้ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่บอกกล่าว

เธอดูแลHuo Groupมา1ปีกว่า ในตลาดธุรกิจเจอเรื่องทำใจลำบากและไม่ยุติธรรมมากมาย เธอเหมือนไม่ได้ร้องไห้ออกมาสักหยด

ถึงขนาดในสายตาคนมากมาย โดยเฉพาะในสายตาของคู่แข่ง ต่างพูดว่าภายนอกเธอดูเป็นคนอ่อนแอ ภายในเป็น

ผู้หญิงแกร่ง

แต่ตอนนี้ หันจื่ออี้แค่พูดประโยคง่ายๆ ก็ทำให้เธอห้ามน้ำตาจากความเศร้าไม่อยู่

หันจื่ออี้เห็นไหล่ฮั่วชิงชิงกำลังสั่น อดไม่ได้ที่จะผลักเธอออกมาเล็กน้อย ภายใต้แสงไฟ บนแก้มของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาจริงๆ

เธอเหมือนเกรงใจ เขาก็แค่มองเธอครู่เดียว เธอก็มุดหน้าในอ้อมกอดเขาทันที ทำเสื้อเขาชื้นต่อ

หันจื่ออี้ถาม“อยู่ข้างนอกโดนคนรังแกเหรอ?”เห็นไหล่เธอสั่นนิดๆ ท่าทางอดทนไม่ออกเสียง หัวใจเขาเกิดความเวทนาอีกครั้ง

ฮั่วชิงชิงส่ายหน้า

“งั้นทำไมถึงร้องไห้?”เขาคิดไม่ออกจริงๆ อดไม่ได้จะลูบหลังฮั่วชิงชิงเบาๆ แล้วพูดอย่างจนใจ “อยู่Huo Group พวกเขาเรียกคุณประธานฮั่วแล้ว ทำไมยังเป็นยัยขี้แยอีก?”

ยัยขี้แย

เขายังจำได้เหรอ?

ฮั่วชิงชิงกอดหลังหันจื่ออี้แน่น น้ำตาไหลพราก

เธอเคยมีโอกาสเป็นยัยขี้แยตลอดชีวิตของเขา แต่ว่า…

แต่แม้ว่าตอนนี้จะเสียใจแค่ไหน ย้อนคิดกลับไป เธอก็เข้าใจ เธอในตอนนั้นแม้ว่าจะให้เลือกอีกครั้ง ยังเป็นเงื่อนตายที่แก้ไม่ได้เหมือนเดิม

หันจื่ออี้เห็นฮั่วชิงชิงเศร้า เขาใช้ความคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดเหมือนปรึกษา“ชิงชิงหยุดร้องไห้ได้แล้ว ร้องไห้ไปเดี๋ยวจะ

ตาบวม เรากลับห้องดีกว่าไหม คุณเล่าว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าหากผมช่วยคุณได้ จะช่วยคุณอย่างเต็มที่ ที่นี่อีกเดี๋ยวอาจจะมีคนเดินผ่าน คุณอยากให้คนอื่นเห็นเหรอ?”

ในที่สุดฮั่วชิงชิงก็พยักหน้า

ด้วยเหตุนี้ หันจื่ออี้เลยพาเธอกลับห้อง

ฮั่วชิงชิงนั่งบนโซฟา เพราะร้องไห้อยู่นาน ยังสะอึกสะอื้นอยู่นิดๆ

หันจื่ออี้นั่งอยู่ข้างเธอ ยื่นกระดาษให้เธอ

ฮั่วชิงชิงรับมา เช็ดๆหน้าแล้วกัดริมฝีปากไม่ยอมพูด

ในห้องค่อนข้างเงียบ หันจื่ออี้ดูเวลา เหมือนจะไม่ทันเวลาที่นัดกับเซียวหลินแล้ว

เขาคิดครู่หนึ่ง พูดกับฮั่วชิงชิง “ผมไปห้องผู้ช่วยหวังแป๊บหนึ่ง ชิงชิงคุณอยู่ตรงนี้รอผม”

พูดอยู่เขาลุกขึ้นไปห้องข้างๆ กำลังจะเคาะประตู ผู้ช่วยหวังก็เปิดประตูมาแล้ว

เห็นเขา ผู้ช่วยหวังพูด“ประธานหัน จะออกเดินทางแล้ว?”

“ทางชิงชิงมีเรื่อง คุณยกเลิกร้านอาหารเถอะ”หันจื่ออี้พูด“เดี๋ยวผมโทรไปอธิบายกับเซียวหลินก่อน”

“ประธานหัน”ผู้ช่วยหวังไม่บ่อยที่จะยุ่งเรื่องหันจื่ออี้ แต่ตอนนี้อดพูดไม่ได้“ประธานหัน คุณกับคุณฮั่วทำดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ไม่ง่ายที่จะเจอแฟนสาวที่รู้สึกเข้ากันได้ ไม่ควรทำแบบนี้…”

หันจื่ออี้ยิ้ม “ดูคุณร้อนรนกว่าผมอีก ผมก็แค่เห็นชิงชิงอาการไม่ค่อยดี ดังนั้น…”

พูดอยู่ เขาเดินเข้าห้องผู้ช่วยหวัง กดโทรหาเซียวหลิน

“พี่จื่ออี้”เสียงเซียวหลินแฝงความดีใจนิดๆ

หันจื่ออี้พูดด้วยความเสียใจ “เซียวหลินขอโทษ ทางผมมีเรื่องนิดหน่อย คงไปหาคุณไม่ได้แล้ว”

ผู้ช่วยหวังที่อยู่ข้างๆได้ยิน ถอนหายใจเศร้าๆ ต่อว่าฮั่วชิงชิงในใจ

“อ้อ แบบนี้เอง…”เซียวหลินยิ้ม “ไม่เป็นไร งั้นฉันออกไปเดินเล่นเองก็ได้ พี่ไปทำงานเถอะ”

“อืม ขอโทษจริงๆ”หันจื่ออี้พูดต่อ

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เซียวหลินวางสาย

“ประธานหัน ดังนั้นคืนนี้คุณจะกินมื้อเย็นด้วยกันกับคุณฮั่วเหรอ?”ผู้ช่วยหวังพูดแค้นๆ

หันจื่ออี้พูด“ต่อจากนี้ผมกับชิงชิงก็แค่เพื่อนกัน มื้อเย็นไม่ต้องพิเศษ อีกเดี๋ยวกินใต้ตึกโรงแรมนิดหน่อยก็พอ”

“ประธานหัน ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องของผม แต่ผมอยากถามคุณคำหนึ่ง คุณยังมีรู้สึกต่อคุณฮั่วใช่ไหม?”ผู้ช่วยหวังพูดอย่างใคร่ครวญ

“ผม”รูม่านตาหันจื่ออี้หดลงช้าๆ เขานึกถึงความรู้สึกที่กอดเธอเมื่อครู่ ไม่ได้พูดอะไร

ผู้ช่วยหวังจู่ ๆรู้สึก ตัวเองเป็นผู้ช่วยคนหนึ่งแท้ๆ ตอนนี้กลับเหมือนเป็นสาวใช้ที่เป็นกังวลคนหนึ่ง

เขาถอนหายใจ ส่ายหน้า“ประธานหัน งั้นผมไปจองที่นั่งให้คุณ”

ถ้าหาก เจ้านายเขารักภรรยาคนก่อนจริงๆ เขาร้อนรนแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์

“อืม”หันจื่ออี้พยักหน้า กลับไปถึงห้องตัวเอง

ตอนนี้ ฮั่วชิงชิงปรับอารมณ์ได้แล้ว เธอเคยคิด เธอควรพยายามเพื่ออนาคตของตัวเองสักครั้ง

ถ้าหาก หันจื่ออี้ไม่รักเธอจริงๆ ถ้างั้นแม้ว่าจะอาลัยอาวรณ์ ก็ต้องให้อิสระเขา

แต่ถ้าหากเขารู้สึกดีๆกับเธอแม้เพียงนิดเดียว งั้นเธอจะพยายามสักตั้ง

เพราะเขาให้ชีวิตกับเธออีกครั้ง เธอควรใช้ชีวิตที่เหลือ มาอยู่เคียงข้างเขา ดูแลเขา ตอบแทนเขา

เพราะบนโลกนี้ ไม่มีอะไรทำให้ตัวเองสบายใจ ได้เท่ากับการลงมือทำด้วยตัวเองแล้ว

เขาไม่ให้ผู้ช่วยบอกคนอื่นว่าสภาพร่างกายเขาเป็นไง บางที ผู้หญิงคนนั้นที่เขาโทรหาเมื่อครู่ก็ไม่รู้ ถ้าเกิดอนาคตเขาไม่สบายตรงไหน คนใกล้ตัวไม่รู้สภาพร่างกายเขาจะทำยังไง?

ตอนที่ฮั่วชิงชิงพะวง หันจื่ออี้กลับมาแล้ว พูดกับเธอ“ชิงชิง ผมว่างแล้ว คุณบอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ฮั่วชิงชิงตกใจ “เมื่อกี้คุณไปเลื่อนนัด?”

หันจื่ออี้พยักหน้า “ไม่เป็นไร เธอเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลคนหนึ่ง รอเจอกันครั้งหน้า ผมค่อยอธิบายกับเธอก็พอ”

เดิมที่ดีใจ ตอนได้ยินหันจื่ออี้พูดถึงผู้หญิงคนอื่น ครู่เดียวก็ตกลงไปในเหวลึก

แค่รอยยิ้มฮั่วชิงชิงยังเค้นออกมายาก เพียงแค่เงยหน้าพูดกับหันจื่ออี้“ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้ฉันเสียมารยาทไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรจริงๆใช่ไหม?”หันจื่ออี้คิดแล้วคิดอีก ถามว่า“ครั้งนี้คุณมาเมืองหนิงเฉิงเพราะ…”

“มาเซ็นสัญญาฉบับหนึ่ง ถือโอกาสดูงานบริษัทที่ร่วมงาน”ฮั่วชิงชิงพูด

“บริษัทยังราบรื่นดีนะ?”หันจื่ออี้ถาม

“อืม มีติดขัดบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าใช้ได้”ฮั่วชิงชิงพูด“ตอนนี้ เวลาส่วนใหญ่คุณอยู่ที่อังกฤษใช่ไหม?งั้นอนาคตคุณวางแผนจะปักหลักที่ไหนเหรอ?”

หันจื่ออี้พูด“เกินครึ่งอยู่ที่อังกฤษ ผมไม่รับผิดชอบบริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศแล้ว ตอนนี้ผมกลับมาแค่ในวันพิเศษๆเท่านั้น”

วันพิเศษที่เขาพูดคือ วันครบรอบวันตายของพ่อแม่

ฮั่วชิงชิงเข้าใจเหมือนกัน ชั่วครู่ทั้งสองคนต่างเงียบไปเล็กน้อย

“จริงด้วย เหมียวเหมี่ยวเป็นยังไงบ้าง?”หันจื่ออี้เปลี่ยนเรื่อง“อีกปีกว่าก็จะจบแล้วมั้ง?”

ฮั่วชิงชิงพยักหน้า“ตอนนี้เธอสบายดี มีแฟนแล้วด้วย หลังจบคงจะกลับHuo Group”

“ใช้ได้”หันจื่ออี้อุทาน“ตอนนั้นยังเพิ่งเริ่มเป็นสาว ตอนนี้มีแฟนแล้ว”

เขานึกถึงคำถามเมื่อกี้ของผู้ช่วยหวัง อดไม่ได้ที่จะถาม“จริงด้วย ชิงชิง 2 ปีนี้ไม่เจอคนที่ชอบเลยเหรอ?”

คนที่เธอชอบ คือเขามาโดยตลอด…ฮั่วชิงชิงส่ายหน้า“ไม่มี”

พลันบรรยากาศกลับไปเงียบอีกครั้ง

หันจื่ออี้ดูเวลา “เราลงไปกินข้าวข้างล่างเถอะ”

ฮั่วชิงชิงพยักหน้า เดินตามหันจื่ออี้ไป

พวกเขานั่งลงในห้องอาหาร หันจื่ออี้ยื่นเมนูให้ฮั่วชิงชิง“ดูก่อนว่าอยากกินอะไร?”

ฮั่วชิงชิงดันเมนูกลับไป“ฉันอะไรก็ได้”

“งั้นผมสั่งอะไรที่จืดๆหน่อยแล้วกัน”หันจื่ออี้รู้ว่าฮั่วชิงชิงชอบจืดๆ และตอนนี้เขาก็พยายามเปลี่ยนนิสัยอาหารการกิน

ฮั่วชิงชิงดูที่เขาสั่ง เหมือนเป็นของโปรดเธอทั้งนั้น

เธอมองเขาภายใต้แสงไฟคริสทัล หัวใจว้าวุ่นอีกครั้ง

ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน พูดคุยกันเหมือนเพื่อนที่รู้จักกันมาหลายปี เพียงแต่ วันเวลาพวกนั้นถูกฝังอย่างจงใจ ต่างเลือกจะปิดปากไม่พูด

หลังจบมื้ออาหาร ฮั่วชิงชิงเรียกหันจื่ออี้ให้รอเดี๋ยว แล้วเธอเดินไปที่ตลาดหน้าประตูซื้อนมมา 1 กล่อง ยื่นให้หันจื่ออี้ “ฉันเห็นนมในโรงแรมคุณหมดแล้ว”

หันจื่ออี้นิ่งอึ้งไป

เขามีนิสัยอย่างหนึ่ง ก็คือก่อนหน้าต้องดื่มนมผสมน้ำผึ้ง 1 แก้วมาโดยตลอด

วันนี้ เดิมคิดจะให้ผู้ช่วยหวังช่วยเขาซื้อ ปรากฏว่าเพราะฮั่วชิงชิงมา ดังนั้นเลยลืมเรื่องนี้ไป กลับคิดไม่ถึงว่าเธอกลับสังเกตเห็น

จู่ ๆเขาคิดได้ เดตครั้งหนึ่งเขาและเธอไปบ่อน้ำร้อนด้วยกัน เธอถูกอันธพาลกลุ่มหนึ่งตามรังควาน เขาโมโหมาก รีบเข้าไปตีกับพวกนั้น

แม้ว่าเขาจะต่อยตีเก่ง แต่สองหมัดสู้สี่มือไม่ได้ ถูกตีจนบาดเจ็บ นอนพักที่โรงพยาบาลหลายวัน

เวลานั้น เธออยู่โรงพยาบาลดูแลเขาไม่ห่าง

และก็เป็นตอนนั้น จู่ ๆเขาคิด อันที่จริง เขาควรเรียนรู้ที่จะปล่อยวางหลานเสี่ยวถาง แล้วมองทิวทัศน์รอบๆได้แล้ว

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *