ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1434 ถือว่าพวกนายโชคดี

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1434 ถือว่าพวกนายโชคดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปีเตอร์สันยอมรับในความพ่ายแพ้ พวกเขาวิวาทกันจนทำโต๊ะทำเก้าอี้พัง เขาจึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

ความจริงแล้วโต๊ะเก้าอี้พวกนี้ไม่ได้มีค่าเท่าไร เพราะแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรีนแลนด์จะปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แต่เนื่องจากมีการทำลายน้อย พื้นที่ป่าไม้ของที่นี่จึงได้รับการปกป้องไว้อย่างดี ดังนั้น สำหรับที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้อย่างโต๊ะเก้าอี้จึงเป็นของที่ราคาถูกมาก และที่เจ้าของร้านเรียกเงินไปห้าพันก็เพราะอยากจะรีดไถพวกเขาเท่านั้นแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

พอเกิดเรื่องขึ้น ฉินสือโอวคิดว่าแค่พาคนของเขาออกไปซะก็จบ สุดท้ายหลังจากคุยเรื่องค่าชดเชยกันเสร็จเรียบร้อย ปีเตอร์สันและคนของเขาก็คลานมานั่งลงที่ข้างเคาน์เตอร์ ส่วนชาร์คและคนของเขาก็เข้ามานั่งลงเช่นกัน พวกเขานั่งด้วยกันและเริ่มนับถือกันเป็นพี่น้อง

“ให้ตายสิ!” ฉินสือโอวไม่อยากจะเชื่อภาพที่เห็นตรงหน้า นี่เพิ่งจะตีกันเสร็จเองนะ? ต้องสนิทสนมกลมเกลียวกันเบอร์นั้น? ชาวประมงพวกนั้นก็ไม่มีศักดิ์ศรีขนาดนั้นเลย? ชาร์คยื่นเหล้าให้ ปีเตอร์สันก็รับเฉยเลย?

ซีมอนสเตอร์เลยพูดกับเขา “นี่มันเป็นเรื่องปกติมากบอส พวกเราทายาทไวกิ้ง หลังจากจัดการเหตุวิวาทได้แล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน”

พอเขาอธิบายให้ฟัง ฉินสือโอวก็ถึงค่อยเข้าใจวิถีของคนพวกนี้ ซึ่งนี่มีความเกี่ยวข้องกับธรรมเนียม ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองไม่ว่าจะเป็นนิวฟันด์แลนด์ แลบราดอร์หรือกรีนแลนด์ต่างก็มีสถานภาพเป็นเอกราช พวกเขามีประชากรเบาบาง ไม่มีตำรวจและศาล และถ้ามีข้อพิพาทเกิดขึ้น ทุกคนก็จะเรียกเพื่อนพ้องมาเพื่อหาพื้นที่ในการใช้หมัดจัดการปัญหา ใครชนะคนนั้นเป็นฝ่ายถูก ซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายมาก

และนี่ได้ก่อตัวเป็นธรรมเนียม จนถึงปัจจุบันกรีนแลนด์ก็ยังคงมีการใช้วิธีนี้จัดการปัญหาอย่างแพร่หลาย มีย่านที่อยู่อาศัยหลายแห่งอยู่ไกลจากตัวเมือง แถมยังมีเพียงไม่กี่สิบกี่ร้อยคน จึงไม่มีพวกศาลหรือสถานีตำรวจ

ดังนั้น เมื่อกี้ตอนที่เห็นพวกปีเตอร์สันอารมณ์ขึ้น ชาร์คถึงได้บอกเขาว่าถ้าคุยกันดีดีก่อนถ้าไม่ได้ก็ลงมือเลย ไม่ต้องคิดมาก และเมื่อต่อยกันเสร็จ ชาร์คก็ยื่นวอดก้าให้ปีเตอร์สันแล้วถามเขาว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร

ปีเตอร์สันดื่มเหล้าที่เขายื่นให้ เพื่อเป็นการแสดงว่าเขายอมรับผิดและยอมแพ้แล้ว

ซึ่งการกระทำที่ถือเป็นบรรทัดฐานของชาวประมงพวกนี้คือลงมือทำมากกว่าพูดฉอดๆ

พวกเขาชนะ แถมเป็นการชนะอย่างขาดลอย ชนะจนทำให้พวกปีเตอร์สันกลัวได้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทุกคนจึงสามารถมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันได้ เพราะพวกเขาคือฝ่ายชนะ

ฉินสือโอวไม่ค่อยฉินกับอะไรแบบนี้ เขานั่งลงข้างเกิงจุนเจี๋ยและคนอื่นๆ รวมกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ

อีกฝั่ง ชาร์ค ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ ผูกมิตรกับชาวประมงท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มคนหน้าตาฟกซ้ำดำเขียวนั่งรวมตัวชนแก้วกันไม่หยุด และพูดพร่ำไปเรื่อยเปื่อย

ผ่านไปสักพัก ชาร์คก็พาปีเตอร์สันและพวกของเขาอีกสี่คนเดินเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “บอส รู้ไหมว่าทำไมปีเตอร์สันถึงมาหาเรื่องพวกเรา?”

ตอนนี้ฉินสือโอวไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับคำถามนี้แล้ว เขามองหน้าปีเตอร์สันด้วยความไม่แน่ใจ จากนั้นปีเตอร์สันก็ยิ้มเยาะขึ้น “พวก คิดไม่ถึงเลยว่าถึงแม้พวกนายจะไม่มีปืนบาซูก้าก็เก่งได้ถึงขนาดนี้!”

พอเขาพูดจบ ฉินสือโอวก็นึกออกว่าพวกเขาคือใคร ตอนนั้นที่มีเรือประมงของกรีนแลนด์สองลำไปขโมยปลาที่ฟาร์มปลาของเขา เขายิงปืนบาซูก้าไปในครั้งแรก เพื่อเป็นการบีบให้คนที่อยู่บนเรือพากันกระโดดน้ำ ที่แท้พวกปีเตอร์สันก็เป็นคนที่อยู่บนเรือลำนั้น

ฉินสือโอวแสดงสีหน้าคิดได้ทันที ปีเตอร์สันและพวกของเขาก็ถามด้วยความตื่นเต้นดีใจว่า “จำได้ว่าพวกฉันเป็นใครแล้วใช่ไหม?”

ฉินสือโอวหันไปหาเขาแล้วส่ายหน้า “ขอโทษด้วย ฉันจำไม่ได้ พอดีว่าโจรที่ไปขโมยปลาที่ฟาร์มปลาของฉันมีเยอะเกินไป และฉันก็จัดการไปซะเยอะจนจำไม่ได้แล้วน่ะ”

พวกปีเตอร์สันถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เห็นเช่นนั้น ฉินสือโอวก็ถึงกับหัวเราะออกมา แล้วเทวอดก้าสองสามแก้ว “เรือเคียฟ ใช่ไหม? ล้อเล่นหรอกน่า ฉันจะลืมได้อย่างไรล่ะ?”

พอฉินสือโอวพูดจบ ชาวประมงสี่คนนั้นก็หัวเราะออกมายกใหญ่ ฉินสือโอวยกแก้วเหล้าเป็นการบอกใบ้ว่าให้ทุกคนชนแก้วกันสักหน่อย และเพื่อเป็นการลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้วเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง

เนื่องด้วยคำที่คนพวกนี้ใช้เรียกเขา จริงๆ แล้วเขายังคงโกรธอยู่เล็กน้อยเลยพูดขึ้น “เพื่อน หวังว่าคราวหน้าพวกนายจะไม่เอาลิงมาเรียกแทนพวกฉันหรอกนะ ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปคงไม่ง่ายแบบนี้แน่”

ปีเตอร์สันแพ้แล้วไม่พาล แต่ก็ยืดลำคอตอบกลับว่า “แน่นอน ครั้งหน้าพวกเราจะเตรียมคนไว้ให้เยอะกว่านี้”

ฉินสือโอวมองเขาอย่างยโส “เตรียมคนไว้เยอะๆ เพื่อ? พวกนายต้องขอบคุณสวรรค์นะที่ฉันมาวันนี้ไม่ได้พาบอดี้การ์ดมาด้วย ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสเจอกันอีกล่ะก็ จะแนะนำให้พวกนายรู้จักจอมพลังแห่งนิวฟันด์แลนด์สักหน่อย!”

ชาร์คพูดเสริมขึ้นอีกว่า “ที่ฟาร์มปลาของพวกเรามีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าอีวิลสัน ตัวใหญ่กว่าพวกเราสองเท่า สามารถทำหมีสีน้ำตาลให้หนีหัวซุกหัวซุนได้เลย!”

“นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก” ชาวประมงพวกนั้นหัวเราะกันยกใหญ่ อย่ามาโม้หน่อยเลย ถ้าพวกฉันเชื่อแกนะสมองพวกฉันคงเพี้ยนไปแล้ว

ชาร์คจึงควักโทรศัพท์ออกมาและหาวิดีโอที่อัดไว้ และเปิดให้ปีเตอร์สันกับพวกของเขาดู ข้างในคือภาพที่อีวิลสันและฉงต้าหยอกเล่นกันอย่างสนุกสนาน แน่นอนว่าทั้งสองต่างก็เป็นพวกโง่ไร้สมอง ในการหยอกกันแต่ละครั้งจะต้องมีการกระเซ้าเย้าแหย่กันก่อนถึงค่อยจะเป็นการเปิดฉากจริง ฉงต้าไม่สามารถเล่นถึงตายได้ ดังนั้นอีวิลสันถึงชนะเป็นซะส่วนมาก

ในวิดีโอคืออีวิลสันล้มฉงต้าลงกับพื้นจากนั้นก็ขึ้นไปขี่ที่หลังมันแล้วใช้กำปั้นต่อยมันอย่างแรงราวกับบู๊ซ้งปราบเสือ ฉงต้าถูกตีจนมึน พอได้สติกลับมาก็ฟาดไปที่อีวิลสันหนึ่งทีพร้อมกับเข้าไปคำรามขู่ขวัญใส่ แต่อีวิลสันนั้นเป็นพวกมุทะลุอยู่แล้ว จะกลัวอะไรซะที่ไหน? จากนั้นเขาก็พลิกตัวกลับมาสู้ต่อ

จนสุดท้าย เมื่อฉงต้าเห็นท่าไม่ดีจึงได้ผลักอีวิลสันที่หนีบหางของมันอยู่และวิ่งหนี แต่อีวิลสันได้แผ่ไหล่ออกเผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อย่างกับคนเหล็ก แล้วไล่ตามฉงต้าไป ดูแล้วดุดันไม่น้อย

พอได้ดูวิดีโอนี้แล้ว ปีเตอร์สันกับคนของเขาก็พากันเหงื่อแตกพลั่กพร้อมกับมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กและถามด้วยความหวั่นใจว่า “เจ้านี่มันยังใช่คนอยู่ไหม?”

ชาร์คจึงตอบอย่างภูมิใจว่า “ก็ใช่น่ะสิ เขาคือนักรบไวกิ้งคนแรกของพวกเรา! ฟังชื่อของเขาไว้แล้วกัน บุตรแห่งความชั่วร้าย อีวิลสัน! วันนี้เขาหิวเลยกินข้าวอยู่ที่โรงแรม ไม่อย่างนั้นเขาก็คงตามพวกเรามาบาร์ด้วยแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกนายแย่แน่!”

แต่ความจริงแล้วฉินสือโอวไม่ให้อีวิลสันตามมาด้วยต่างหาก เจ้านี่นอกจากจะกินเก่งแล้วยังดื่มเก่งอีกด้วย ความสามารถในการดื่มของเขาล้ำเลิศ ดื่มเบียร์เหมือนดื่มน้ำ การพาเขาไปบาร์ด้วยก็เหมือนกับเอาเงินไปเผาทิ้ง

ปีเตอร์สันและคนของเขาถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม พวกเขาไม่คิดจะเหิมเกริมอีก เพราะตอนนี้แต่ละคนทำตัวราวกับนักเรียนที่น่ารักเมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์  ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่มีคนคิดอยากจะมาดวลเหล้ากับฉินสือโอว พวกปีเตอร์สันก็รีบเข้าไปหยุดพวกเขาเอาไว้ทันที

คนที่สามารถสั่งให้ยักษ์สู้กับหมีได้ ยังจะมีใครกล้าหือกับเขาอีกไหม?!

หลังจากดื่มเสร็จ ฉินสือโอวให้พวกชาวประมงของเขากลับไปก่อน ส่วนเขาจะขอไปเดินเล่นพอให้สร่างเมาสักรอบก่อน

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง เขาเพียงแค่อยากจะมาเอากล่องที่คราเคนจะเอามาส่งให้ที่ท่าเรือ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เขาต้องออกมาบาร์

เวลากลางคืนของเกาะแอตตูนั้นหนาวจนไม่มีที่ใดเทียบได้ ลมทะเลก็คล้ายกับมีด หลังจากที่ฉินสือโอวย่ำหิมะที่สะสมกันจนหนาไปจนถึงท่าเรือ ใบหน้าของเขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว เขาพยายามจะแยกเขี้ยวยิงฟัน สุดท้ายก็ไม่เป็นผลเขาไม่รับรู้ถึงสีหน้าของตัวเองแล้วตอนนี้ เพราะกล้ามเนื้อชาไปหมดแล้ว!

เมื่อเป็นเช่นนี้พอเขาได้กล่องแล้ว ก็รีบวิ่งก้มหน้ากลับโรงแรมทันที เพราะกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้คงได้แข็งไปทั้งตัวแน่…

……………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1434 ถือว่าพวกนายโชคดี

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1434 ถือว่าพวกนายโชคดี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปีเตอร์สันยอมรับในความพ่ายแพ้ พวกเขาวิวาทกันจนทำโต๊ะทำเก้าอี้พัง เขาจึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

ความจริงแล้วโต๊ะเก้าอี้พวกนี้ไม่ได้มีค่าเท่าไร เพราะแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรีนแลนด์จะปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แต่เนื่องจากมีการทำลายน้อย พื้นที่ป่าไม้ของที่นี่จึงได้รับการปกป้องไว้อย่างดี ดังนั้น สำหรับที่ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้อย่างโต๊ะเก้าอี้จึงเป็นของที่ราคาถูกมาก และที่เจ้าของร้านเรียกเงินไปห้าพันก็เพราะอยากจะรีดไถพวกเขาเท่านั้นแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

พอเกิดเรื่องขึ้น ฉินสือโอวคิดว่าแค่พาคนของเขาออกไปซะก็จบ สุดท้ายหลังจากคุยเรื่องค่าชดเชยกันเสร็จเรียบร้อย ปีเตอร์สันและคนของเขาก็คลานมานั่งลงที่ข้างเคาน์เตอร์ ส่วนชาร์คและคนของเขาก็เข้ามานั่งลงเช่นกัน พวกเขานั่งด้วยกันและเริ่มนับถือกันเป็นพี่น้อง

“ให้ตายสิ!” ฉินสือโอวไม่อยากจะเชื่อภาพที่เห็นตรงหน้า นี่เพิ่งจะตีกันเสร็จเองนะ? ต้องสนิทสนมกลมเกลียวกันเบอร์นั้น? ชาวประมงพวกนั้นก็ไม่มีศักดิ์ศรีขนาดนั้นเลย? ชาร์คยื่นเหล้าให้ ปีเตอร์สันก็รับเฉยเลย?

ซีมอนสเตอร์เลยพูดกับเขา “นี่มันเป็นเรื่องปกติมากบอส พวกเราทายาทไวกิ้ง หลังจากจัดการเหตุวิวาทได้แล้วก็กลายเป็นเพื่อนกัน”

พอเขาอธิบายให้ฟัง ฉินสือโอวก็ถึงค่อยเข้าใจวิถีของคนพวกนี้ ซึ่งนี่มีความเกี่ยวข้องกับธรรมเนียม ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองไม่ว่าจะเป็นนิวฟันด์แลนด์ แลบราดอร์หรือกรีนแลนด์ต่างก็มีสถานภาพเป็นเอกราช พวกเขามีประชากรเบาบาง ไม่มีตำรวจและศาล และถ้ามีข้อพิพาทเกิดขึ้น ทุกคนก็จะเรียกเพื่อนพ้องมาเพื่อหาพื้นที่ในการใช้หมัดจัดการปัญหา ใครชนะคนนั้นเป็นฝ่ายถูก ซึ่งเป็นอะไรที่ง่ายมาก

และนี่ได้ก่อตัวเป็นธรรมเนียม จนถึงปัจจุบันกรีนแลนด์ก็ยังคงมีการใช้วิธีนี้จัดการปัญหาอย่างแพร่หลาย มีย่านที่อยู่อาศัยหลายแห่งอยู่ไกลจากตัวเมือง แถมยังมีเพียงไม่กี่สิบกี่ร้อยคน จึงไม่มีพวกศาลหรือสถานีตำรวจ

ดังนั้น เมื่อกี้ตอนที่เห็นพวกปีเตอร์สันอารมณ์ขึ้น ชาร์คถึงได้บอกเขาว่าถ้าคุยกันดีดีก่อนถ้าไม่ได้ก็ลงมือเลย ไม่ต้องคิดมาก และเมื่อต่อยกันเสร็จ ชาร์คก็ยื่นวอดก้าให้ปีเตอร์สันแล้วถามเขาว่าจะจัดการปัญหาอย่างไร

ปีเตอร์สันดื่มเหล้าที่เขายื่นให้ เพื่อเป็นการแสดงว่าเขายอมรับผิดและยอมแพ้แล้ว

ซึ่งการกระทำที่ถือเป็นบรรทัดฐานของชาวประมงพวกนี้คือลงมือทำมากกว่าพูดฉอดๆ

พวกเขาชนะ แถมเป็นการชนะอย่างขาดลอย ชนะจนทำให้พวกปีเตอร์สันกลัวได้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทุกคนจึงสามารถมานั่งดื่มเหล้าด้วยกันได้ เพราะพวกเขาคือฝ่ายชนะ

ฉินสือโอวไม่ค่อยฉินกับอะไรแบบนี้ เขานั่งลงข้างเกิงจุนเจี๋ยและคนอื่นๆ รวมกลุ่มคุยกันเป็นกลุ่มเล็กๆ

อีกฝั่ง ชาร์ค ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆ ผูกมิตรกับชาวประมงท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มคนหน้าตาฟกซ้ำดำเขียวนั่งรวมตัวชนแก้วกันไม่หยุด และพูดพร่ำไปเรื่อยเปื่อย

ผ่านไปสักพัก ชาร์คก็พาปีเตอร์สันและพวกของเขาอีกสี่คนเดินเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “บอส รู้ไหมว่าทำไมปีเตอร์สันถึงมาหาเรื่องพวกเรา?”

ตอนนี้ฉินสือโอวไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับคำถามนี้แล้ว เขามองหน้าปีเตอร์สันด้วยความไม่แน่ใจ จากนั้นปีเตอร์สันก็ยิ้มเยาะขึ้น “พวก คิดไม่ถึงเลยว่าถึงแม้พวกนายจะไม่มีปืนบาซูก้าก็เก่งได้ถึงขนาดนี้!”

พอเขาพูดจบ ฉินสือโอวก็นึกออกว่าพวกเขาคือใคร ตอนนั้นที่มีเรือประมงของกรีนแลนด์สองลำไปขโมยปลาที่ฟาร์มปลาของเขา เขายิงปืนบาซูก้าไปในครั้งแรก เพื่อเป็นการบีบให้คนที่อยู่บนเรือพากันกระโดดน้ำ ที่แท้พวกปีเตอร์สันก็เป็นคนที่อยู่บนเรือลำนั้น

ฉินสือโอวแสดงสีหน้าคิดได้ทันที ปีเตอร์สันและพวกของเขาก็ถามด้วยความตื่นเต้นดีใจว่า “จำได้ว่าพวกฉันเป็นใครแล้วใช่ไหม?”

ฉินสือโอวหันไปหาเขาแล้วส่ายหน้า “ขอโทษด้วย ฉันจำไม่ได้ พอดีว่าโจรที่ไปขโมยปลาที่ฟาร์มปลาของฉันมีเยอะเกินไป และฉันก็จัดการไปซะเยอะจนจำไม่ได้แล้วน่ะ”

พวกปีเตอร์สันถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เห็นเช่นนั้น ฉินสือโอวก็ถึงกับหัวเราะออกมา แล้วเทวอดก้าสองสามแก้ว “เรือเคียฟ ใช่ไหม? ล้อเล่นหรอกน่า ฉันจะลืมได้อย่างไรล่ะ?”

พอฉินสือโอวพูดจบ ชาวประมงสี่คนนั้นก็หัวเราะออกมายกใหญ่ ฉินสือโอวยกแก้วเหล้าเป็นการบอกใบ้ว่าให้ทุกคนชนแก้วกันสักหน่อย และเพื่อเป็นการลืมสิ่งที่ผ่านมาแล้วเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง

เนื่องด้วยคำที่คนพวกนี้ใช้เรียกเขา จริงๆ แล้วเขายังคงโกรธอยู่เล็กน้อยเลยพูดขึ้น “เพื่อน หวังว่าคราวหน้าพวกนายจะไม่เอาลิงมาเรียกแทนพวกฉันหรอกนะ ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปคงไม่ง่ายแบบนี้แน่”

ปีเตอร์สันแพ้แล้วไม่พาล แต่ก็ยืดลำคอตอบกลับว่า “แน่นอน ครั้งหน้าพวกเราจะเตรียมคนไว้ให้เยอะกว่านี้”

ฉินสือโอวมองเขาอย่างยโส “เตรียมคนไว้เยอะๆ เพื่อ? พวกนายต้องขอบคุณสวรรค์นะที่ฉันมาวันนี้ไม่ได้พาบอดี้การ์ดมาด้วย ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสเจอกันอีกล่ะก็ จะแนะนำให้พวกนายรู้จักจอมพลังแห่งนิวฟันด์แลนด์สักหน่อย!”

ชาร์คพูดเสริมขึ้นอีกว่า “ที่ฟาร์มปลาของพวกเรามีเพื่อนคนหนึ่งชื่อว่าอีวิลสัน ตัวใหญ่กว่าพวกเราสองเท่า สามารถทำหมีสีน้ำตาลให้หนีหัวซุกหัวซุนได้เลย!”

“นั่นเป็นไปไม่ได้หรอก” ชาวประมงพวกนั้นหัวเราะกันยกใหญ่ อย่ามาโม้หน่อยเลย ถ้าพวกฉันเชื่อแกนะสมองพวกฉันคงเพี้ยนไปแล้ว

ชาร์คจึงควักโทรศัพท์ออกมาและหาวิดีโอที่อัดไว้ และเปิดให้ปีเตอร์สันกับพวกของเขาดู ข้างในคือภาพที่อีวิลสันและฉงต้าหยอกเล่นกันอย่างสนุกสนาน แน่นอนว่าทั้งสองต่างก็เป็นพวกโง่ไร้สมอง ในการหยอกกันแต่ละครั้งจะต้องมีการกระเซ้าเย้าแหย่กันก่อนถึงค่อยจะเป็นการเปิดฉากจริง ฉงต้าไม่สามารถเล่นถึงตายได้ ดังนั้นอีวิลสันถึงชนะเป็นซะส่วนมาก

ในวิดีโอคืออีวิลสันล้มฉงต้าลงกับพื้นจากนั้นก็ขึ้นไปขี่ที่หลังมันแล้วใช้กำปั้นต่อยมันอย่างแรงราวกับบู๊ซ้งปราบเสือ ฉงต้าถูกตีจนมึน พอได้สติกลับมาก็ฟาดไปที่อีวิลสันหนึ่งทีพร้อมกับเข้าไปคำรามขู่ขวัญใส่ แต่อีวิลสันนั้นเป็นพวกมุทะลุอยู่แล้ว จะกลัวอะไรซะที่ไหน? จากนั้นเขาก็พลิกตัวกลับมาสู้ต่อ

จนสุดท้าย เมื่อฉงต้าเห็นท่าไม่ดีจึงได้ผลักอีวิลสันที่หนีบหางของมันอยู่และวิ่งหนี แต่อีวิลสันได้แผ่ไหล่ออกเผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อย่างกับคนเหล็ก แล้วไล่ตามฉงต้าไป ดูแล้วดุดันไม่น้อย

พอได้ดูวิดีโอนี้แล้ว ปีเตอร์สันกับคนของเขาก็พากันเหงื่อแตกพลั่กพร้อมกับมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กและถามด้วยความหวั่นใจว่า “เจ้านี่มันยังใช่คนอยู่ไหม?”

ชาร์คจึงตอบอย่างภูมิใจว่า “ก็ใช่น่ะสิ เขาคือนักรบไวกิ้งคนแรกของพวกเรา! ฟังชื่อของเขาไว้แล้วกัน บุตรแห่งความชั่วร้าย อีวิลสัน! วันนี้เขาหิวเลยกินข้าวอยู่ที่โรงแรม ไม่อย่างนั้นเขาก็คงตามพวกเรามาบาร์ด้วยแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกนายแย่แน่!”

แต่ความจริงแล้วฉินสือโอวไม่ให้อีวิลสันตามมาด้วยต่างหาก เจ้านี่นอกจากจะกินเก่งแล้วยังดื่มเก่งอีกด้วย ความสามารถในการดื่มของเขาล้ำเลิศ ดื่มเบียร์เหมือนดื่มน้ำ การพาเขาไปบาร์ด้วยก็เหมือนกับเอาเงินไปเผาทิ้ง

ปีเตอร์สันและคนของเขาถึงกับหน้าซีดเป็นไก่ต้ม พวกเขาไม่คิดจะเหิมเกริมอีก เพราะตอนนี้แต่ละคนทำตัวราวกับนักเรียนที่น่ารักเมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์  ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่มีคนคิดอยากจะมาดวลเหล้ากับฉินสือโอว พวกปีเตอร์สันก็รีบเข้าไปหยุดพวกเขาเอาไว้ทันที

คนที่สามารถสั่งให้ยักษ์สู้กับหมีได้ ยังจะมีใครกล้าหือกับเขาอีกไหม?!

หลังจากดื่มเสร็จ ฉินสือโอวให้พวกชาวประมงของเขากลับไปก่อน ส่วนเขาจะขอไปเดินเล่นพอให้สร่างเมาสักรอบก่อน

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง เขาเพียงแค่อยากจะมาเอากล่องที่คราเคนจะเอามาส่งให้ที่ท่าเรือ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เขาต้องออกมาบาร์

เวลากลางคืนของเกาะแอตตูนั้นหนาวจนไม่มีที่ใดเทียบได้ ลมทะเลก็คล้ายกับมีด หลังจากที่ฉินสือโอวย่ำหิมะที่สะสมกันจนหนาไปจนถึงท่าเรือ ใบหน้าของเขาก็ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว เขาพยายามจะแยกเขี้ยวยิงฟัน สุดท้ายก็ไม่เป็นผลเขาไม่รับรู้ถึงสีหน้าของตัวเองแล้วตอนนี้ เพราะกล้ามเนื้อชาไปหมดแล้ว!

เมื่อเป็นเช่นนี้พอเขาได้กล่องแล้ว ก็รีบวิ่งก้มหน้ากลับโรงแรมทันที เพราะกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้คงได้แข็งไปทั้งตัวแน่…

……………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+