ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 943 เรือล่อปลามาแล้ว

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 943 เรือล่อปลามาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากเคนเนดีออกโรงแล้วได้เริ่มพูดหยอกผู้ร่วมงานก่อน เขาบอกว่าอย่าคิดว่าที่บริษัทเอ็กซ์เพรสเชิญทุกคนมาร่วมงานเลี้ยงจะมีแต่กินๆ ดื่มๆ เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเชิญทุกคนมาร่วมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

มีคนหัวเราะขึ้นมา เคนเนดีจึงทำทีว่าโกรธ ชี้ไปที่เขาแล้วบอกว่าเศรษฐกิจโลกตอนนี้ตกต่ำถึงเพียงนี้ แต่ทุกคนที่เป็นถึงคนสำคัญในสายธุรกิจของตัวเองนั้นกลับคิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้อิ่มท้อง ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ

หลังจากพูดหยอกเสร็จแล้ว เคนเนดีก็เริ่มพูดถึงสถานการณ์การลงทุนและรายได้ประจำปีของบริษัทเอ็กซ์เพรส

บริษัทเอ็กซ์เพรสไม่เพียงแต่เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการวิเคราะห์การเงิน การลงทุนกับข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย เป็นบริษัทระดับแนวหน้าในด้านบัตรเครดิต ตรวจสอบการเดินทาง การท่องเที่ยว และการวางแผนการเงินกับธนาคารนานาชาติ ดังนั้นรายงานการลงทุนของเขานั้นจึงมีค่าอย่างมาก

น่าเสียดายที่ฉินสือโอวดูไม่รู้เรื่อง และเขาก็ไม่สนใจการลงทุนทางการเงินอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องงัดความสามารถที่ใช้สมัยเรียนมหาวิทยาลัยออกมา นั่นก็คือสองมือเท้าคางไว้ จ้องไปที่หน้าจออย่างเหม่อลอย พวกนายพูดของพวกนายไป ส่วนฉันก็ใจลอยของฉันไป

เขาปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปที่ฟาร์มปลา เริ่มจากไปดูหมึกยักษ์ก่อน ดูว่ามันคุ้นเคยกับอาวุธชุดนี้หรือยัง

คราเคนที่พกกระบองเหล็กที่หนักหน่วงกำลังว่ายไปมาอย่างช้าๆ ใต้ท้องทะเลลึก ท่าทางมันเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่างอยู่ ดวงตาโตสองดวงกำลังจ้องไปรอบด้านอย่างดุร้าย มองดูแล้วเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต

กุ้งปลารอบๆ สามารถรับรู้ถึงรังสีนี้ได้แม้ว่าตัวจะอยู่ไกล พวกมันจึงพากันอ้อมไปอีกทางกันอย่างเงียบๆ

ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนค้นหาบริเวณรอบๆ ในที่ไม่ไกลนักก็ได้พบเข้ากับฉลามหางยาวตัวนั้นอีก มันกำลังตามหลังหมึกยักษ์ไปด้วยท่าทางลับๆล่อๆ ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่

ฉินสือโอวไม่อยากคิดมาก เพราะอย่างไรเสียพลังการต่อสู้ของฉลามหางยาวกับคราเคนนั้นต่างกันมาก ในรายการอาหารของคราเคนนั้น ฉลามประเภทนี้จัดว่าไม่ได้มีค่าอะไรเลย หากบอกว่าฉลามหางยาวสามารถทำให้คราเคนอยู่ในอันตรายแล้วล่ะก็ ให้ตายท่านฉินคนนี้ก็เชื่อไม่ลง

เมื่อเห็นคราเคนมีชีวิตชีวาดี ฉินสือโอวจึงไปแถวภูเขาหินหนืด อุณหภูมิของน้ำตรงนี้ค่อนข้างสูง ฝูงงูไททันโอโบอาก็เริ่มฟื้นตัวแล้ว แถมยังมีทีท่าว่าจะสร้างหลักปักฐานกันที่นี่ด้วย งูตัวใหญ่หลายตัวรวมกลุ่มกันอยู่บนภูเขาลูกเล็ก ดูไปแล้วช่างน่าขนลุกเสียจริง

แต่ก็ใช่ว่าสัตว์ทุกชนิดจะกลัวงูทะเลกันหมด อย่างเช่นครั้งที่แล้วที่ฉินสือโอวเจอปลาตัวใสขนาดยาวเท่านิ้วมือนั้น ก็อาศัยอยู่รอบๆ พวกงูทะเล บางครั้งที่พวกงูทะเลอ้าปาก พวกมันก็มุดเข้าไปในนั้น รอจนพวกมันออกมาก่อน งูทะเลจึงจะปิดปากลง

ฉินสือโอวเห็นแล้วก็เข้าใจทันที ปลาตัวเล็กพวกนี้น่าจะเหมือนกับปลาบำบัด เป็นหมอเท้าเปล่าในบรรดาปลา พวกมันสามารถกำจัดปรสิตให้กับงูทะเลแถมยังสามารถกินผิวหนังที่ตายไปแล้วได้ด้วย

ความจริงแล้วแม้ว่างูทะเลจะมีรูปร่างหน้าตาน่ากลัว แต่ว่ากลับเป็นพวกที่มีนิสัยดีที่สุดในบรรดาราชาทั้งห้าเลยทีเดียว กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีนี่ไม่ต้องพูดถึง พวกมันเป็นนักเลงจำพวกที่แค่เดินผ่านโขดหินก็ทำลายโขดหิน เจอคลื่นทะเลก็ว่ายฝ่าคลื่นทะเลเลยทีเดียว

พวกที่เหลือเช่นฝูงปลาฉลามขาวที่นำฝูงโดยซานเสี่ยวกับเฮยป้าหวัง ก็เป็นนักเลงในมหาสมุทรเช่นกัน ส่วนคราเคนที่ตอนนี้มีอาวุธครบมือนั้นก็เป็นหัวหน้าใหญ่ในกลุ่มพวกนักเลงอีกที

นอกจากล่าอาหารแล้ว งูทะเลจะไม่เข้าทำร้าย นี่เกี่ยวกับสัญชาตญาณของงูทะเล งูทะเลล้วนมีพิษร้ายแรง แต่น้อยนักที่จะได้ยินว่าพวกมันทำร้ายคนหรือทำร้ายสัตว์ทะเลด้วยกัน

หลังฉินสือโอวตรวจดูน่านน้ำโดยรอบพบว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ย้ายจิตสำนึกเข้าไปยังทะเลที่ลึกกว่าเดิม ไปดูว่าเรือหาปลาในทะเลลึกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง พอเห็นแล้วก็พบว่า ไม่มีปัญหาจริงด้วย!

เพราะเรือฟลาวเวอร์ฟอกซ์เป็นเหตุ ทำให้น่านน้ำในทิศใต้มักมีเรือจำพวกสอดแนมเข้ามา เพราะอยากจะมาเจอกับเรือผี บนเรือพวกนี้เต็มไปด้วยกล้องที่นำสมัย หรือแม้แต่อาวุธจู่โจมก็มีด้วยเช่นกัน

ฉินสือโอวไม่สนใจเรือพวกนี้ ขอแค่พวกเขาไม่ขโมยปลาก็พอ แต่กลับเป็นเพราะมีเรือของพวกเขาเข้ามา ทำให้เรือขโมยปลาไม่กล้าเข้ามาในฟาร์มปลาของเขาอีก เพราะว่าคนพวกนี้อยู่บนทะเลจนรู้สึกเบื่อ เมื่อเห็นเรือขโมยปลาก็จะรีบถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในการแจ้งความ เพื่อเป็นการฆ่าเวลา

แต่ว่าตอนนี้ เขาได้เจอกับเรือขโมยปลาอีกแล้ว แถมยังเป็นเรือขโมยปลาแบบที่ฉลาดมากอีกด้วย

เรือหาปลาขนาดระดับสี่ถึงห้าร้อยตันสองลำกำลังแล่นอยู่ตรงชายแดนฟาร์มปลาของเขา แต่ว่าไม่ได้หว่านแห การทำแบบนี้ทำให้ไม่ว่าจะตำรวจทะเลหรือหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งต่างไม่สามารถทำการหยุดพวกเขาได้

แคนาดาเป็นประเทศติดทะเล ธุรกิจมากมายที่ต้องพึ่งการขนส่งทางทะเล ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นฟาร์มปลาส่วนบุคคล ก็อนุญาตให้เรือที่ไม่เกี่ยวข้องขับผ่านน่านน้ำนั้นได้ ขอแค่ไม่ขโมยปลา เจ้าของฟาร์มปลาก็มีสิทธิ์แค่จับตามองเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ขับไล่

เรือหาปลาทั้งสองลำนี้ไม่ได้จับปลาอยู่ ไม่เพียงแต่ไม่ได้จับปลาเท่านั้น แต่ยังทิ้งเหยื่อล่อปลาอีกด้วย

ตอนแรกฉินสือโอวไม่ได้สนใจ คิดว่าเป็นเพียงเรือสอดแนมทั่วไปเท่านั้น แต่ว่าตอนที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนผ่านเรือไปนั้น กลับพบว่าเรือพวกนี้ได้ปล่อยอาหารปลาไว้เป็นพักๆ แถมยังมีปลาแฮดดัคกับปลาอลาสก้าพอลล็อคไม่น้อยที่ว่ายตามหลังไป

ให้ตายสิ นี่มันตกปลานี่นา! ท่านฉินเข้าใจขึ้นมาในทันที

เขาเข้าไปดูอีกที ชิ้นปลาที่ตกลงไปนั้นไม่ค่อยสดสักเท่าไร กลิ่นคาวเลือดของปลาแรงมาก แรงจนผิดปกติ

ในฐานะเจ้าของฟาร์มปลาตัวจริง แน่นอนว่าฉินสือโอวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ชิ้นปลาพวกนี้ถูกหมักด้วยสารเคมี และชื่อทางการของสารเคมีนั้น ก็คือสารล่อปลา

สารล่อปลานั้นเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางเคมีที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนัก มันเป็นสารที่ทำกลิ่นคล้ายกลิ่นคาวเลือดปลาเพื่อล่อฝูงปลาให้ติดกับ แต่ไม่ใช่ว่าปลาทุกชนิดจะชอบกลิ่นคาวเลือด แต่ปลาที่ชอบกลิ่นคาวเลือดมากที่สุดก็คือฉลาม

ดังนั้นตอนที่เจ้าสิ่งนี้ถูกค้นพบนั้นก็ได้กลายเป็นเหมือนสมบัติในสายตาของชาวญี่ปุ่นทันที พวกเขาใช้มันเพื่อล่อฉลามนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ ทั้งแคนาดากับอเมริกาจึงห้ามไม่ให้ขายและผลิตสารล่อปลาตัวนี้ แต่ว่าที่ไหนที่มีความต้องการที่นั่นก็จะมีธุรกิจ เพราะความจริงแล้วสารล่อปลาแบบนี้ได้ผลไม่เลวเลย และได้ผลเป็นอย่างมากกับปลาตัวใหญ่จำพวกปลาค็อด ปลาแฮร์ริ่ง กับปลากระโทงสีน้ำเงิน

เจ้าสิ่งนี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลในช่วงฤดูร้อน เพราะมีจำนวนฉลามมากเกินไป ทำให้ยังไม่ทันล่อปลาเศรษฐกิจมาติดกับเลย ก็ล่อฉลามมาเสียก่อน ทำให้เกิดความเสียหายเป็นประจำ ต้องรอจนถึงฤดูหนาวก่อน จึงจะสามารถแสดงพลังของเจ้าสิ่งนี้ออกมาได้

ในฤดูหนาว ฉลามจะว่ายไปทางน่านน้ำแถบเส้นศูนย์สูตร มีเหลืออยู่ที่นี่แค่ไม่กี่ตัว ทำให้โอกาสที่จะล่อฉลามได้นั้นลดลงไปอย่างมาก

เรือสองลำค่อยๆ ทิ้งเหยื่อลงไป จากนั้นก็ขับเรือจากฟาร์มปลาฉินสือโอวออกไปทางฟาร์มปลาสาธารณะ เครื่องโซนาร์สำหรับหาปลาก็เปิดใช้งานไว้ตลอดเวลา ขอแค่ขับไปถึงฟาร์มปลาสาธารณะแล้ว พวกเขาก็สามารถหว่านแหจับปลาได้แล้ว

ฉินสือโอวปวดหัวขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว เจ้าสารเลวพวกนี้เพียงแค่จะจับปลาถึงขั้นยอมทำได้ทุกอย่างจริงๆ แถมยังกล้ามากอีกด้วย แม้กระทั่งเรือผีก็ไม่กลัวเหรอไง? ได้ งั้นก็ต้องใช้ความรุนแรงกันหน่อย!

เรือผีก็แค่ทำให้คนกลัว แต่ครั้งนี้ฉินสือโอวตัดสินใจว่าจะทำให้เจ็บตัวบ้าง ใบพัดเรืออยู่ในน้ำ เขาคิดจะให้คราเคนใช้กระบองเหล็กทำลายใบพัดซะ อย่างไรเสียน่านน้ำแถบนี้ก็มีเรือสอดแนมจำนวนมากอยู่แล้ว แม้ว่าใบพัดเรือของเรือขโมยปลาจะเสีย แต่ก็ยังถูกลากกลับไปได้

พอดีเลย คราเคนเพิ่งติดอาวุธไปก็จะได้ใช้งานแล้ว ฉินสือโอวถือว่าเป็นเรื่องดี เขาจึงไปหาคราเคนให้มันรีบตามมา แต่ว่าต้องถ่วงเวลาไว้ก่อน เพราะคราเคนยังอยู่ห่างจากเรือทั้งสองลำอยู่หนึ่งร้อยห้าสิบกว่ากิโลเมตร

เรือทั้งสองลำแล่นไปถึงชายแดนฟาร์มปลาแล้ว และดูท่าว่ากำลังเตรียมจะหว่านแหลงไปแล้วด้วย ฉินสือโอวจึงรีบเรียกกองกำลังของเฮยป้าหวังมาก่อน

ภายใต้การสั่งการของจิตสำนึกแห่งโพไซดอน เฮยป้าหวังได้นำพวกฉลามขาวว่ายมาด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด พวกมันออกท่าทางดุดันกันมาแต่ไกล ทำให้ปลาค็อดที่หลับหูหลับตาว่ายตามเรือล่อปลาตกใจจนพากันว่ายกระเจิดกระเจิงหนีไป

คนบนเรือที่คิดว่ากำลังจะได้ปลาอยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลับมีฝูงฉลามที่โผล่มาจากไหนไม่รู้แทน ทำให้คนเหล่านี้พากันร้อนใจในทันที!

……………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด