ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1530 ภัยพิบัติจากนกนางนวล

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1530 ภัยพิบัติจากนกนางนวล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โครงการหัวอาหารปลาผ่านไปแล้ว ส่วนทางฝั่งของฉินสือโอวก็แค่ต้องผลิตหัวอาหารปลาออกมาจำหน่าย บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาจะต้องซื้อไปใช้อยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ยั้งไว้ก่อนว่าตอนนี้ยังเป็นเพียงแนวความคิดเท่านั้น พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็คงจะพากันจ่ายเงินซื้อทันที

เมื่อเลิกประชุมแล้ว ฉินสือโอวก็เริ่มวางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตหัวอาหาร หน้าที่หลักของฟาร์มปลาต้าฉินสองคือการเพาะปลูกสาหร่ายทะเลแล้วนำไปผลิตอาหารสัตว์ แค่ต้องสร้างท่าเรือขึ้นมาอีกหนึ่งท่า เท่านี้ก็จะสามารถใช้ฟาร์มปลาในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว

หว่านเมล็ดพันธุ์ปลูกสาหร่ายสีน้ำตาลแล้ว หญ้าปลาไหลก็กำลังจะถูกยกขึ้นมาไว้ในกำหนดการ และจะเริ่มปลูกพืชพันธุ์จำพวกไดอะตอม พืชน้ำ สาหร่ายคอมบุและสาหร่ายโนริในช่วงเวลาถัดไป

เขาโทรศัพท์ไปหาเจนนิเฟอร์แล้วบอกกับเธอว่าเขาต้องการสร้างฟาร์มผลิตหัวอาหารปลาหลังหนึ่ง ขอให้เธอช่วยติดต่อบริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์การผลิต ส่วนโรงงานก็ปล่อยให้ทีมก่อสร้างของวิลเป็นฝ่ายจัดการ ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องไปสร้างท่าเรือ

ขณะอยู่บนเรือลาดตระเวนบนทางกลับไปยังฟาร์มปลา ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ไม่ว่าเขาจะทอดสายตามองไปทางไหนก็เห็นแต่นกนางนวล ทั้งยังมีนกนางนวลบางส่วนที่บินผ่านหัวเขาไปแล้วทิ้งอึลงมาจนมันตกลงบนไหล่ของเขา…

แม่เอ็ง ท่านชายฉินวิ่งเข้าไปในเคบินเรือด้วยความทุลักทุเล เขาอดทนกับความสะอิดสะเอียนเพื่อเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าตัวใหม่แล้วเดินไปหยิบปืนที่ห้องบังคับการเรือออกมาข้างนอก หลังจากนั้นก็ยกมันขึ้นแล้วขึ้นไกปืน

เขาไม่ได้จะฆ่านกนางนวลพวกนี้ แค่อยากไล่พวกมันให้ออกห่างจากเรือยอชต์ของเขาก็เท่านั้น ไม่อย่างนั้นคงมีขี้นกตกใส่ดาดฟ้าเรือไปตลอดทาง

หลังจากกลับมาถึงฟาร์มปลา พอขึ้นมายืนบนท่าเรือแล้วมองไปรอบๆ เขาก็รู้สึกว่านกนางนวลมีจำนวนเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม บนท้องฟ้ามีแต่ฝูงนกบินว่อนอยู่เต็มไปหมด เสียงที่เข้ามาในโสตประสาทก็มีแต่เสียงนกร้อง

เสียงแบบนี้ได้ฟังไม่กี่ครั้งยังนับว่าไม่เท่าไร แต่พอได้ฟังบ่อยเข้า ก็มีแต่จะทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญ

นกนางนวลฝูงแล้วฝูงเล่าที่ตีปีกบินผ่านไปบนท้องฟ้า พวกมันมักจะบินโฉบลงไปที่ผิวน้ำแล้วคาบปลาเล็กขึ้นมาหรือไม่ก็มุดหัวลงไปคาบลูกปลาขึ้นมากินอยู่เป็นประจำ พอเห็นท่าทางสะบัดหัวส่ายก้นของพวกมันฉินสือโอวก็รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างหนัก เขาพูดด้วยความโมโหว่า “ตั้งใจทำท่าทำทางช่างหน้าไม่อายจริงๆ ฉันจะต้องจัดการพวกมันให้ได้!”

พวกนกนางนวลกับนกจมูกหลอดหางสั้นเจ้าถิ่นของฟาร์มปลาไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ ฉินสือโอวยืนอยู่บนท่าเรือมาหนึ่งชั่วโมง นกสองชนิดนี้ก็ยกพวกตีกันไปสองรอบแล้ว

อีกทั้งนกนางนวลบางส่วนที่หยุดการเดินทางมาอาศัยอยู่บนท่าเรือ ยังจิกเอาของจำพวกกิ่งไม้ ใบไม้แห้งกับสาหร่ายทะเลแห้งไปทำรังอยู่บนท่าเรืออีกต่างหาก

ทำเอาท่านชายฉินตกตะลึงจนตาค้างนี่ไม่ใช่แค่มาขโมยปลาในฟาร์มของเขาอย่างเดียวแล้ว นกพวกนี้ยังคิดที่จะแย่งชิงอาณาเขตของเขาด้วย!

เกิงจุนเจี๋ยกำลังพานายทหารสองนายมาคอยคุ้มกันเรือฮาวิซท ฉินสือโอวจึงตะโกนเรียกพวกเขาให้มาปัดกวาดพื้นถนนตรงท่าเรือ

เกิงจุนเจี๋ยหยิบไม้กวาดกับพลั่วลงมาจากบนเรือราวกับเล่นมายากล พวกเขาทั้งสามคนทุ่มกำลังปัดกวาดอย่างเต็มที่ ฉินสือโอวที่กำลังตกตะลึงอยู่ก็ถามขึ้นมาว่า “เตรียมของพวกนี้ไว้บนเรือด้วยเหรอ?”

เกิงจุนเจี๋ยหัวเราะแหะๆ แล้วอธิบายให้เขาฟังว่า “พวกเราพกติดเรือมาด้วยน่ะครับ หลายวันมานี้คุณยุ่งอยู่กับการประชุมของบริษัท ABTX อะไรนั่นก็เลยอาจจะไม่ทันสังเกตเห็น นกพวกนี้มันจะสร้างรังอยู่บนชายหาดกับบนถนนในฟาร์มปลา ดังนั้นพวกเราเลยต้องพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดติดตัวมาด้วย”

ฝูงนกนางนวลตกใจกลัวจนบินหนีไป แต่พอเห็นว่ารังของตัวเองถูกทำลาย นกพวกนั้นก็ตัดสินใจบินขึ้นไปข้างบนแล้วใช้จะงอยปากแหลมคมจิกทึ้งศีรษะของเกิงจุนเจี๋ยกับอีกสองคนที่เหลือ

พวกของเกิงจุนเจี๋ยไม่คิดว่าตัวเองจะถูกนกโจมตี จึงตั้งตัวรับไม่ทันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จนหัวของพวกเขาคนหนึ่งมีเลือดไหลออกมาให้เห็น เกิงจุนเจี๋ยกับเพื่อนคนที่เหลือจึงรีบโบกด้ามไม้กวาดไล่พวกมันไป

นกนางนวลไม่ใช่สัตว์ที่รับมือด้วยได้ง่ายๆ นกนางนวลแฮร์ริ่ง พวกมันสามารถเติบโตได้ถึงครึ่งเมตรและมีปากที่แหลมคมมาก พออยู่รวมกันแบบนี้จึงไม่ต่างอะไรกับฝูงบินรบขนาดเล็ก ที่ไล่จิกจนพวกของเกิงจุนเจี๋ยจนต้องวิ่งหนี

แน่นอนว่าลำพังแค่ขาสองข้างย่อมต้องวิ่งหนีไม่พ้นนกที่มีปีกอยู่แล้ว ฉินสือโอวจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นราวกับว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แล้วหนีไปหลบที่ริมท่าเรือ ทว่าพวกนกนางนวลแฮร์ริ่งกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป หลังจากที่ไล่เกิงจุนเจี๋ยกับอีกสองคนที่เหลือไปแล้ว พวกมันก็มุ่งหน้ามาหาเขาด้วยท่าทางดุร้าย

เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจึงตะโกนเรียกแก๊งนกสามตัวด้วยความรีบร้อน แต่ปรากฏว่านกตัวแสบทั้งสามตัวกลับไม่ได้อยู่บ้าน ในเมื่อเรียกพวกมันมาไม่ได้ เขาเลยต้องกระโดดลงไปซ่อนตัวจากการโจมตีอยู่ในน้ำ

หลังจากที่ฝูงนกนางนวลแฮร์ริ่งเห็นเขาหายลงไปในน้ำพวกมันก็ยังบินวนอยู่บนท้องฟ้าหลายรอบก่อนจะบินจากไปอย่างยโสโอหัง

ท่านชายฉินถูกยั่วโมโหเข้าแล้ว นกนางนวลแฮร์ริ่งต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย ไม่สิ เดิมทีเขาก็ไม่คิดจะลดตัวลงไปยุ่งกับสิ่งที่เรียกว่าปีศาจแห่งท้องทะเลอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูท่าว่าเขาคงจะต้องทำอะไรบ้างแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกนกนางนวลแฮร์ริ่งคงไม่รู้ซึ้งสักทีว่าที่นี่เป็นถิ่นของใคร

พวกของเกิงจุนเจี๋ยลุกขึ้นมาจากบนชายหาดด้วยความทุลักทุเล ทั้งสามคนแอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ แล้วถามกับเขาว่า “บอสครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

พอฉินสือโอวเห็นว่าใบหนูของนายทหารคนหนึ่งถูกจิกจนเป็นแผล เขาก็ส่ายหัวบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แล้วบอกให้เกิงจุนเจี๋ยรีบขับรถพาเขาไปโรงพยาบาลเล็กในเมืองเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ใครจะรู้ล่ะว่านกพวกนี้มีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือพวกปรสิตอะไรแบบนั้นหรือเปล่า? เพราะขนาดค้างคาวก็ยังมี จึงป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

เมื่อแก๊งนกสามตัวของบุชกลับมาแล้ว ฉินสือโอวก็ตำหนิเรื่องความไร้ระเบียบวินัยพวกมันก่อนเป็นอย่างแรก “ทำไมตอนกลางวันถึงเอาแต่พากันออกไปเที่ยวเล่น? รู้ไหมว่าวันนี้พ่อเกือบจะถูกนกพวกนั้นกินเข้าไปแล้ว? หลังจากนี้ต้องอยู่ให้ติดบ้าน! ออกไปเที่ยวเล่นให้มันได้อะไร? วันๆ เอาแต่ก่อเรื่องทะเลาะกับคนอื่น มันมีประโยชน์หรือไง? ช่วยให้พวกแกหาเมียได้ไหม?”

ต่อจากนั้นหู่จือกับเป้าจือส่งเสียงก็เห่าสมทบคำพูดของเขาด้วยท่าทีขึงขัง นกทั้งสามตัวเบิกดวงตาสีดำสนิทมองฉินสือโอวด้วยความงุนงง พวกมันสับสนไปหมดแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันละนี่?

ไฟแค้นของฉินสือโอวยังคงลุกโหมโชติช่วง ถึงตอนนี้จะเป็นว่าดึกดื่นค่ำคืนแล้ว แต่เขาก็ยังชี้ไปที่นกนางนวลที่กำลังบินกลับมาแล้วออกคำสั่งกับนกทั้งสามตัวว่า “ไปไล่พวกมันซะ ไล่พวกมันไปให้หมด!”

หากจะแก้วิกฤตการณ์ในตอนนี้ก็คงมีแต่จะต้องพึ่งนกทั้งสามตัวนี้ เนื่องจากนกนางนวลแฮร์ริ่งชอบกินสัตว์ฟันแทะ จำพวกหนูเป็นอาหาร ดังนั้นจึงถือว่าพวกมันเป็นนกที่มีประโยชน์ กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของแคนาดาจึงให้การคุ้มครองแก่พวกมัน โดยไม่อนุญาตให้มนุษย์ล่าหรือฆ่าพวกมัน ไม่อย่างนั้นคงต้องถูกดำเนินคดี

เมื่อก่อนฉินสือโอวก็เคยเห็นนกนางนวลแฮร์ริ่ง แต่ไม่เคยเห็นนกนางนวลแฮร์ริ่งที่มีจำนวนมากและบ้าคลั่งขนาดนี้ นกชนิดนี้มีชื่อเรียกอื่นคือ นกนางนวลหลังดำ นกนางนวลเท้าแดงและนกนางนวลขาเหลือง ขนาดตัวโตได้ถึง 60 เซนติเมตร ทั้งยังมีลำตัวหนามีน้ำหนักมาก ไม่สามารถพูดได้เลยว่ามันเป็นนกขนาดเล็ก อีกทั้งมันยังเป็นนกที่มีกำลังสู้รบอีกต่างหาก

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฝูงนกนางนวลแฮร์ริ่งจะบินกลับมาบนฝั่งของฟาร์มปลา พวกมันจะออกไปหาอาหารที่ทะเลในเวลากลางวัน และจะมักจะกินปลาเป็นอาหาร พวกมันมีทักษะการว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมทั้งยังสามารถดำน้ำได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อปลามาก

พวกมันกางปีกบินอย่างกระฉับกระเฉงว่องไว นกขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนบินกำลังพากันกระพือปีกเบาๆ บินกลับมา มีบางตัวบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยใช้กระแสลมร้อนทะยานตัว เหาะเหินไปในอากาศ หลังจากบินลงมาสู่พื้นดินแล้ว พวกมันก็ยังสามารถกระโดดไปรอบๆ ได้ ฝีเท้าของพวกมันเบายิ่งกว่านกโจรสลัดเสียอีก ทำให้ท่านชายฉินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามา วินนี่ขับรถกลับมาแล้ว หลังจากก้าวลงจากรถอยู่ๆ เธอก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ จนทำให้ฉินสือโอวสะดุ้งตามไปด้วย เขาถามเธอว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

วินนี่สะบัดกระเป๋าในมือไล่นกนางนวลแฮร์ริ่งคู่หนึ่งที่บินอยู่บนสนามหญ้า โดยที่มีลูกกระรอกดินตัวหนังกำลังหลบอยู่ข้างๆ เธอด้วยตัวที่สั่นเทิ้ม วินนี่อุ้มมันขึ้นมาแล้วเล่าให้เขาฟังว่า “พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย นกพวกนี้มันชักจะระรานกันเกินไปแล้ว พวกมันกล้าดียังไงถึงคิดจะมาจับลูกกระรอกดินไปกิน!”

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1530 ภัยพิบัติจากนกนางนวล

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1530 ภัยพิบัติจากนกนางนวล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

โครงการหัวอาหารปลาผ่านไปแล้ว ส่วนทางฝั่งของฉินสือโอวก็แค่ต้องผลิตหัวอาหารปลาออกมาจำหน่าย บรรดาเจ้าของฟาร์มปลาจะต้องซื้อไปใช้อยู่แล้ว ถ้าเขาไม่ยั้งไว้ก่อนว่าตอนนี้ยังเป็นเพียงแนวความคิดเท่านั้น พวกเจ้าของฟาร์มปลาก็คงจะพากันจ่ายเงินซื้อทันที

เมื่อเลิกประชุมแล้ว ฉินสือโอวก็เริ่มวางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตหัวอาหาร หน้าที่หลักของฟาร์มปลาต้าฉินสองคือการเพาะปลูกสาหร่ายทะเลแล้วนำไปผลิตอาหารสัตว์ แค่ต้องสร้างท่าเรือขึ้นมาอีกหนึ่งท่า เท่านี้ก็จะสามารถใช้ฟาร์มปลาในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว

หว่านเมล็ดพันธุ์ปลูกสาหร่ายสีน้ำตาลแล้ว หญ้าปลาไหลก็กำลังจะถูกยกขึ้นมาไว้ในกำหนดการ และจะเริ่มปลูกพืชพันธุ์จำพวกไดอะตอม พืชน้ำ สาหร่ายคอมบุและสาหร่ายโนริในช่วงเวลาถัดไป

เขาโทรศัพท์ไปหาเจนนิเฟอร์แล้วบอกกับเธอว่าเขาต้องการสร้างฟาร์มผลิตหัวอาหารปลาหลังหนึ่ง ขอให้เธอช่วยติดต่อบริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์การผลิต ส่วนโรงงานก็ปล่อยให้ทีมก่อสร้างของวิลเป็นฝ่ายจัดการ ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องไปสร้างท่าเรือ

ขณะอยู่บนเรือลาดตระเวนบนทางกลับไปยังฟาร์มปลา ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ไม่ว่าเขาจะทอดสายตามองไปทางไหนก็เห็นแต่นกนางนวล ทั้งยังมีนกนางนวลบางส่วนที่บินผ่านหัวเขาไปแล้วทิ้งอึลงมาจนมันตกลงบนไหล่ของเขา…

แม่เอ็ง ท่านชายฉินวิ่งเข้าไปในเคบินเรือด้วยความทุลักทุเล เขาอดทนกับความสะอิดสะเอียนเพื่อเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าตัวใหม่แล้วเดินไปหยิบปืนที่ห้องบังคับการเรือออกมาข้างนอก หลังจากนั้นก็ยกมันขึ้นแล้วขึ้นไกปืน

เขาไม่ได้จะฆ่านกนางนวลพวกนี้ แค่อยากไล่พวกมันให้ออกห่างจากเรือยอชต์ของเขาก็เท่านั้น ไม่อย่างนั้นคงมีขี้นกตกใส่ดาดฟ้าเรือไปตลอดทาง

หลังจากกลับมาถึงฟาร์มปลา พอขึ้นมายืนบนท่าเรือแล้วมองไปรอบๆ เขาก็รู้สึกว่านกนางนวลมีจำนวนเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม บนท้องฟ้ามีแต่ฝูงนกบินว่อนอยู่เต็มไปหมด เสียงที่เข้ามาในโสตประสาทก็มีแต่เสียงนกร้อง

เสียงแบบนี้ได้ฟังไม่กี่ครั้งยังนับว่าไม่เท่าไร แต่พอได้ฟังบ่อยเข้า ก็มีแต่จะทำให้รู้สึกหงุดหงิดรำคาญ

นกนางนวลฝูงแล้วฝูงเล่าที่ตีปีกบินผ่านไปบนท้องฟ้า พวกมันมักจะบินโฉบลงไปที่ผิวน้ำแล้วคาบปลาเล็กขึ้นมาหรือไม่ก็มุดหัวลงไปคาบลูกปลาขึ้นมากินอยู่เป็นประจำ พอเห็นท่าทางสะบัดหัวส่ายก้นของพวกมันฉินสือโอวก็รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างหนัก เขาพูดด้วยความโมโหว่า “ตั้งใจทำท่าทำทางช่างหน้าไม่อายจริงๆ ฉันจะต้องจัดการพวกมันให้ได้!”

พวกนกนางนวลกับนกจมูกหลอดหางสั้นเจ้าถิ่นของฟาร์มปลาไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ ฉินสือโอวยืนอยู่บนท่าเรือมาหนึ่งชั่วโมง นกสองชนิดนี้ก็ยกพวกตีกันไปสองรอบแล้ว

อีกทั้งนกนางนวลบางส่วนที่หยุดการเดินทางมาอาศัยอยู่บนท่าเรือ ยังจิกเอาของจำพวกกิ่งไม้ ใบไม้แห้งกับสาหร่ายทะเลแห้งไปทำรังอยู่บนท่าเรืออีกต่างหาก

ทำเอาท่านชายฉินตกตะลึงจนตาค้างนี่ไม่ใช่แค่มาขโมยปลาในฟาร์มของเขาอย่างเดียวแล้ว นกพวกนี้ยังคิดที่จะแย่งชิงอาณาเขตของเขาด้วย!

เกิงจุนเจี๋ยกำลังพานายทหารสองนายมาคอยคุ้มกันเรือฮาวิซท ฉินสือโอวจึงตะโกนเรียกพวกเขาให้มาปัดกวาดพื้นถนนตรงท่าเรือ

เกิงจุนเจี๋ยหยิบไม้กวาดกับพลั่วลงมาจากบนเรือราวกับเล่นมายากล พวกเขาทั้งสามคนทุ่มกำลังปัดกวาดอย่างเต็มที่ ฉินสือโอวที่กำลังตกตะลึงอยู่ก็ถามขึ้นมาว่า “เตรียมของพวกนี้ไว้บนเรือด้วยเหรอ?”

เกิงจุนเจี๋ยหัวเราะแหะๆ แล้วอธิบายให้เขาฟังว่า “พวกเราพกติดเรือมาด้วยน่ะครับ หลายวันมานี้คุณยุ่งอยู่กับการประชุมของบริษัท ABTX อะไรนั่นก็เลยอาจจะไม่ทันสังเกตเห็น นกพวกนี้มันจะสร้างรังอยู่บนชายหาดกับบนถนนในฟาร์มปลา ดังนั้นพวกเราเลยต้องพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดติดตัวมาด้วย”

ฝูงนกนางนวลตกใจกลัวจนบินหนีไป แต่พอเห็นว่ารังของตัวเองถูกทำลาย นกพวกนั้นก็ตัดสินใจบินขึ้นไปข้างบนแล้วใช้จะงอยปากแหลมคมจิกทึ้งศีรษะของเกิงจุนเจี๋ยกับอีกสองคนที่เหลือ

พวกของเกิงจุนเจี๋ยไม่คิดว่าตัวเองจะถูกนกโจมตี จึงตั้งตัวรับไม่ทันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จนหัวของพวกเขาคนหนึ่งมีเลือดไหลออกมาให้เห็น เกิงจุนเจี๋ยกับเพื่อนคนที่เหลือจึงรีบโบกด้ามไม้กวาดไล่พวกมันไป

นกนางนวลไม่ใช่สัตว์ที่รับมือด้วยได้ง่ายๆ นกนางนวลแฮร์ริ่ง พวกมันสามารถเติบโตได้ถึงครึ่งเมตรและมีปากที่แหลมคมมาก พออยู่รวมกันแบบนี้จึงไม่ต่างอะไรกับฝูงบินรบขนาดเล็ก ที่ไล่จิกจนพวกของเกิงจุนเจี๋ยจนต้องวิ่งหนี

แน่นอนว่าลำพังแค่ขาสองข้างย่อมต้องวิ่งหนีไม่พ้นนกที่มีปีกอยู่แล้ว ฉินสือโอวจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นราวกับว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้แล้วหนีไปหลบที่ริมท่าเรือ ทว่าพวกนกนางนวลแฮร์ริ่งกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป หลังจากที่ไล่เกิงจุนเจี๋ยกับอีกสองคนที่เหลือไปแล้ว พวกมันก็มุ่งหน้ามาหาเขาด้วยท่าทางดุร้าย

เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว เขาจึงตะโกนเรียกแก๊งนกสามตัวด้วยความรีบร้อน แต่ปรากฏว่านกตัวแสบทั้งสามตัวกลับไม่ได้อยู่บ้าน ในเมื่อเรียกพวกมันมาไม่ได้ เขาเลยต้องกระโดดลงไปซ่อนตัวจากการโจมตีอยู่ในน้ำ

หลังจากที่ฝูงนกนางนวลแฮร์ริ่งเห็นเขาหายลงไปในน้ำพวกมันก็ยังบินวนอยู่บนท้องฟ้าหลายรอบก่อนจะบินจากไปอย่างยโสโอหัง

ท่านชายฉินถูกยั่วโมโหเข้าแล้ว นกนางนวลแฮร์ริ่งต้องได้รับบทเรียนสักหน่อย ไม่สิ เดิมทีเขาก็ไม่คิดจะลดตัวลงไปยุ่งกับสิ่งที่เรียกว่าปีศาจแห่งท้องทะเลอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดูท่าว่าเขาคงจะต้องทำอะไรบ้างแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกนกนางนวลแฮร์ริ่งคงไม่รู้ซึ้งสักทีว่าที่นี่เป็นถิ่นของใคร

พวกของเกิงจุนเจี๋ยลุกขึ้นมาจากบนชายหาดด้วยความทุลักทุเล ทั้งสามคนแอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆ แล้วถามกับเขาว่า “บอสครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

พอฉินสือโอวเห็นว่าใบหนูของนายทหารคนหนึ่งถูกจิกจนเป็นแผล เขาก็ส่ายหัวบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แล้วบอกให้เกิงจุนเจี๋ยรีบขับรถพาเขาไปโรงพยาบาลเล็กในเมืองเพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ใครจะรู้ล่ะว่านกพวกนี้มีเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือพวกปรสิตอะไรแบบนั้นหรือเปล่า? เพราะขนาดค้างคาวก็ยังมี จึงป้องกันไว้ก่อนดีกว่า

เมื่อแก๊งนกสามตัวของบุชกลับมาแล้ว ฉินสือโอวก็ตำหนิเรื่องความไร้ระเบียบวินัยพวกมันก่อนเป็นอย่างแรก “ทำไมตอนกลางวันถึงเอาแต่พากันออกไปเที่ยวเล่น? รู้ไหมว่าวันนี้พ่อเกือบจะถูกนกพวกนั้นกินเข้าไปแล้ว? หลังจากนี้ต้องอยู่ให้ติดบ้าน! ออกไปเที่ยวเล่นให้มันได้อะไร? วันๆ เอาแต่ก่อเรื่องทะเลาะกับคนอื่น มันมีประโยชน์หรือไง? ช่วยให้พวกแกหาเมียได้ไหม?”

ต่อจากนั้นหู่จือกับเป้าจือส่งเสียงก็เห่าสมทบคำพูดของเขาด้วยท่าทีขึงขัง นกทั้งสามตัวเบิกดวงตาสีดำสนิทมองฉินสือโอวด้วยความงุนงง พวกมันสับสนไปหมดแล้ว เกิดอะไรขึ้นกันละนี่?

ไฟแค้นของฉินสือโอวยังคงลุกโหมโชติช่วง ถึงตอนนี้จะเป็นว่าดึกดื่นค่ำคืนแล้ว แต่เขาก็ยังชี้ไปที่นกนางนวลที่กำลังบินกลับมาแล้วออกคำสั่งกับนกทั้งสามตัวว่า “ไปไล่พวกมันซะ ไล่พวกมันไปให้หมด!”

หากจะแก้วิกฤตการณ์ในตอนนี้ก็คงมีแต่จะต้องพึ่งนกทั้งสามตัวนี้ เนื่องจากนกนางนวลแฮร์ริ่งชอบกินสัตว์ฟันแทะ จำพวกหนูเป็นอาหาร ดังนั้นจึงถือว่าพวกมันเป็นนกที่มีประโยชน์ กฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของแคนาดาจึงให้การคุ้มครองแก่พวกมัน โดยไม่อนุญาตให้มนุษย์ล่าหรือฆ่าพวกมัน ไม่อย่างนั้นคงต้องถูกดำเนินคดี

เมื่อก่อนฉินสือโอวก็เคยเห็นนกนางนวลแฮร์ริ่ง แต่ไม่เคยเห็นนกนางนวลแฮร์ริ่งที่มีจำนวนมากและบ้าคลั่งขนาดนี้ นกชนิดนี้มีชื่อเรียกอื่นคือ นกนางนวลหลังดำ นกนางนวลเท้าแดงและนกนางนวลขาเหลือง ขนาดตัวโตได้ถึง 60 เซนติเมตร ทั้งยังมีลำตัวหนามีน้ำหนักมาก ไม่สามารถพูดได้เลยว่ามันเป็นนกขนาดเล็ก อีกทั้งมันยังเป็นนกที่มีกำลังสู้รบอีกต่างหาก

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ฝูงนกนางนวลแฮร์ริ่งจะบินกลับมาบนฝั่งของฟาร์มปลา พวกมันจะออกไปหาอาหารที่ทะเลในเวลากลางวัน และจะมักจะกินปลาเป็นอาหาร พวกมันมีทักษะการว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมทั้งยังสามารถดำน้ำได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อปลามาก

พวกมันกางปีกบินอย่างกระฉับกระเฉงว่องไว นกขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนบินกำลังพากันกระพือปีกเบาๆ บินกลับมา มีบางตัวบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าโดยใช้กระแสลมร้อนทะยานตัว เหาะเหินไปในอากาศ หลังจากบินลงมาสู่พื้นดินแล้ว พวกมันก็ยังสามารถกระโดดไปรอบๆ ได้ ฝีเท้าของพวกมันเบายิ่งกว่านกโจรสลัดเสียอีก ทำให้ท่านชายฉินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามา วินนี่ขับรถกลับมาแล้ว หลังจากก้าวลงจากรถอยู่ๆ เธอก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ จนทำให้ฉินสือโอวสะดุ้งตามไปด้วย เขาถามเธอว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

วินนี่สะบัดกระเป๋าในมือไล่นกนางนวลแฮร์ริ่งคู่หนึ่งที่บินอยู่บนสนามหญ้า โดยที่มีลูกกระรอกดินตัวหนังกำลังหลบอยู่ข้างๆ เธอด้วยตัวที่สั่นเทิ้ม วินนี่อุ้มมันขึ้นมาแล้วเล่าให้เขาฟังว่า “พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย นกพวกนี้มันชักจะระรานกันเกินไปแล้ว พวกมันกล้าดียังไงถึงคิดจะมาจับลูกกระรอกดินไปกิน!”

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+