ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1718 การพัฒนาที่ยั่งยืน

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1718 การพัฒนาที่ยั่งยืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับของเล่นนวัตกรรมใหม่พวกนี้ ฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกคลั่งไคล้อะไรมากมาย อย่างเช่นบอลลูน หรือบ้านทรงไข่ หลังจากเขามีแล้วลองใช้ไปไม่กี่ครั้งเท่านั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ถือว่าใช้น้อยมาก

แต่เขาในตอนนี้รู้สึกยินดีจริงๆ กับการได้รับของเล่นพวกนี้ เพราะว่าทางเมืองเตรียมจะจัดงานสงครามผู้กล้าแล้ว ของเหล่านี้ล้วนสามารถเอามาใช้เป็นอุปกรณ์ได้หมดเลย

สถานที่จัดงานสงครามผู้กล้าจะจัดขึ้นรอบทะเลสาบเฉินเป่า บริเวณรอบๆ ทะเลสาบมีพื้นที่สีเขียวและป่าไม้ที่มีพื้นที่มากที่สุดอยู่ สนามหญ้าเกิดจากตอนที่ขุดเอาฟอสซิลจากทะเลสาบขึ้นมา พอคนจากพิพิธภัณฑ์ฟอสซิลจากไปแล้ว พื้นที่ว่างแห่งนี้จึงถูกโปรยไปด้วยเมล็ดพันธุ์หญ้าแล้วกลายเป็นสนามหญ้าแห่งนี้

มองดูเจ็ทแพ็คที่สามารถพาคนบินได้แล้ว ฉินสือโอวก็ออกไอเดียให้วินนี่ ว่า “คุณสามารถแต่งเป็นนางฟ้า แล้วบินลงมาจากฟ้าได้นะ จะต้องสุดยอดมากแน่”

วินนี่คิดทบทวนสักพักแล้วก็รู้สึกว่าวิธีนี้ใช้ได้ พูดว่า “โอเคค่ะ งั้นฉันก็เป็นนางฟ้าแล้วกัน คุณล่ะคะ? คุณจะเป็นอะไร?”

สำหรับชุดคอสตูมของตัวเอง ฉินสือโอวไม่มีไอเดียอะไรเลย เขาอยากขี่วาฬหัวทุยเพื่อแสดงเป็นเทพโพไซดอน แต่ว่าวาฬหัวทุยไม่สามารถเข้าไปในทะเลสาบเฉินเป่าได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้ไอเดียนี้เป็นจริงได้ เขาจึงไปถามพวกชาวประมงว่า “พวกนายคิดว่าฉันเหมาะที่จะแต่งเป็นอะไร?”

บูลพูดด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า “จะเป็นอะไรได้อีกครับ ก็ต้องเป็นดรูอิดสิครับ!”

เหล่าชาวประมงมองดูเจ้าพวกตัวเล็กที่ส่ายหัวสะบัดหางอยู่รอบๆ ฉินสือโอวแล้ว ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย นั่นสิ ทั้งจูงหมาพกเหยี่ยวพกหมาป่าพกหมีอีก หากไม่แต่งเป็นดรูอิดก็น่าเสียดายแย่

ฉินสือโอวไม่อยากแต่งเป็นดรูอิด เขารู้สึกว่ามันไม่ค่อยเท่เท่าไร อีกอย่างไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์เขาเท่าไรด้วย หากว่าไม่สามารถแต่งเป็นเทพโพไซดอนได้ล่ะก็ งั้นเขาก็จะแต่งเป็นนายพลชื่อดังในประวัติศาสตร์จีนแทน

แต่ว่าเรื่องนี้ไม่รีบ งานจะเริ่มกลางเดือนสิงหาคม ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือน เดือนนี้มีงานที่ต้องทำในฟาร์มปลาอีกมากมายเลย

ตอนที่เคนเนดีมา ฉินสือโอวได้กินปูดันเจเนสส์ แล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เลวเลย นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวปลาแล้ว งั้นก็จัดการให้ทำการจับปูและกุ้งมังกรในไม่กี่วันนี้แล้วกัน

เขาจำเป็นต้องรีบส่งกุ้งมังกรเข้าไปในตลาด เพราะผลกระทบจากเชื้อรากุ้งมังกรแก๊ฟคี่ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกับที่นักวิชาการคาดไว้ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนของมหาสมุทรนั้นแข็งแกร่งมาก ตอนเดือนมิถุนายนทางศูนย์ศึกษาชีวิตสัตว์ใต้ทะเลได้ทำการทดลองกับน้ำทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแล้ว พบว่าน้ำได้มาตรฐานพอที่จะเลี้ยงกุ้งมังกรได้แล้ว

เดินเครื่องเรือปริ้นเซสเมล่อน เขาพาคนไปยังสถานที่ที่อยู่อาศัยของกุ้งมังกร จากนั้นก็นำเอาตะกร้าจับกุ้งแต่ละอันโยนลงไปในน้ำ ในระกร้าจับกุ้งพวกนี้ได้ใส่ชิ้นปลาแช่แข็งไว้ เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายออก พวกกุ้งมังกรก็จะถูกดึงดูดเข้าไปอย่างแน่นอน

ขั้นตอนเดียวกัน เขานำตะกร้าจับปูทั้งหมดของฟาร์มปลาโยนลงไปในน้ำ ชาร์คสั่งการให้ปล่อยตะกร้าลงไป พร้อมกับหัวเราะไปด้วย พูดว่า “นี่น่าจะเป็นการจับปูดันเจเนสส์ที่สบายที่สุดแล้ว หากว่าเป็นที่มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือแล้วล่ะก็ ไม่มีทางง่ายขนาดนี้แน่”

แน่นอนว่าฤดูที่จับปูดันเจเนสส์คือฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกาเหนือหนาวที่สุด ในตอนนั้นเรือหาปลาจะต้องฝ่าคลื่นที่สูงกว่าสองเมตรถึงห้าเมตรในทะเล จากข้อมูลสถิติแล้ว ในการจับปูดันเจเนสส์ จะมีคนเสียชีวิตเฉลี่ยวันละหนึ่งคน และบาดเจ็บอีกวันละห้าคน!

แต่ตอนนี้การเก็บเกี่ยวเจ้าพวกนี้ของฟาร์มปลาต้าฉินกลับทั้งง่ายและสนุกสนาน บนทะเลไม่มีคลื่นลมใหญ่ เหล่าชาวประมงก็ไม่ต้องสวมเสื้อขนสัตว์ตัวหนาจนทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกด้วย ขอแค่ระวังไม่ให้โดนตะกร้าจับปูพวกนี้ทับใส่ก็พอแล้ว

การโดนตะกร้าจับปูทับโดนไม่ใช่เรื่องตลกเลย เจ้าสิ่งนี้หนักอันละครึ่งตัน สร้างจากเหล็กกล้า เมื่อชนโดนตัวคนแม้จะเบาที่สุดก็สามารถทำให้กระดูกแตกหักได้!

เหล่าชาวประมงกำลังพูดล้อเล่นกันอยู่ ฉินสือโอวไม่เคยไปร่วมงานจับปูดันเจเนสส์ในฤดูหนาว ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ามันโหดร้ายแค่ไหน ชายร่างใหญ่ที่ชื่อนีลได้ชูมือให้เขาดู ตรงนิ้วชี้ข้างขวาของเขาได้หายไปสองข้อ

“เห็นหรือยังครับ บอส? นี่ก็คือผลของการถูกลวดสลิงรัดโดนล่ะ! นั่นน่ะเป็นเรื่องเมื่อห้าปีก่อนครับ มีครั้งหนึ่งตอนที่ปล่อยตะกร้าลงน้ำไป ผมเห็นว่าตะกร้าไปติดอยู่ตรงที่กราบเรือ จึงใช้มือไปเกี่ยวลวดสลิงแล้วสะบัดไปมา สุดท้ายตะกร้าจับปูหลุดจากกราบเรือไปแล้ว แต่ลวดสลิงที่ผมเกี่ยวไว้กลับลื่นลงข้างล่าง เลยตัดนิ้วผมไปด้วย!”

ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “ฟัค ถือว่านายดวงดีแล้ว ถ้าตอนนั้นนายใช้ฝ่ามือไปจับบนลวดสลิง ก็หายไปทั้งมือเลยน่ะสิใช่ไหม?”

หรือไม่ก็อุตสาหกรรมการประมงในแคนาดาตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่น่าทำแล้ว อาชีพนี้มีความเสี่ยงในตัวกะลาสีและชาวประมงที่ชีวิตในท้องทะเลของแต่ละปี นอกจากพวกทหารและนักดับเพลิงแล้วก็เป็นอาชีพนี้แหละที่สูงที่สุด

พวกเขาเปลี่ยนสถานที่ที่จับปูไปที่อื่น พอหลังจากปล่อยตะกร้าลงไปในน้ำแล้ว ก็มีปลาไหลอเมริกันสวยงามหลายตัวลอยขึ้นมาแทน

เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเหล่าชาวประมงก็พากันร้องยินดีออกมาว่า “โชคดี โชคดีจัง!”

หากตอนที่ปล่อยตะกร้าจับปูลงในน้ำมีความเร็วมากพอ ตะกร้าที่หนักอึ้งพอกระแทกโดนน้ำแล้วจะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้มีปลาที่ถูกสะเทือนจนสลบลอยขึ้นมา การเก็บเกี่ยวที่นอกเหนือความคาดหมายแบบนี้ถูกชาวประมงมองว่าเป็นสัญญาณแห่งความโชคดี

พอปล่อยตะกร้าลงไปแล้ว เมื่อผิวน้ำกลับสู่ปกติ บูลจึงเตรียมที่จะกระโดดลงน้ำเพื่อจับปลาไหลอเมริกันตัวสวยพวกนี้

ฉินสือโอวส่ายหัว จากนั้นก็ผิวปากทีหนึ่ง หู่จือกับเป้าจือที่ออกทะเลตามมาด้วยก็แย่งกระโดดลงทะเลไปก่อน เพื่อจับปลาไหลอเมริกันที่อ้วนใหญ่นี้ขึ้นมา

มองดูปลาไหลที่อวบอ้วนพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา พูดว่า “ได้อาหารสำหรับมื้อกลางวันของวันนี้แล้ว”

ปลาไหลอเมริกันเป็นหนึ่งในอาหารที่รสเลิศที่สุดของปลาทะเล เพราะว่ามีจำนวนลดลงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีโอกาสได้กินปลาไหลอเมริกันธรรมชาตินั้นมีไม่มากเลย ต้องขอบคุณแนวคิดเรื่องการพัฒนาที่ยังยืนของฉินสือโอวก่อนหน้านี้ ทำให้ปลาไหลอเมริกันมีชีวิตอยู่รอดได้ ตอนนี้พวกมันได้ขยายพันธุ์จนกลายเป็นกลุ่มที่ไม่เล็กแล้ว ในแต่ละเดือนสามารถให้ผลผลิตกว่าสองตันเพื่อส่งเข้าไปในร้านอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินเลยทีเดียว

ความสุดยอดของฟาร์มปลาที่อุดมสมบูรณ์ก็คือ เมื่อกี้เพิ่งจะจับปลาไหลอเมริกันที่เยี่ยมยอดได้เอง เครื่องโซนาตรวจหาปลาในห้องบังคับการก็ส่งเสียงติ๊ดๆ ดังขึ้นมา ฉินสือโอวเข้าไปดู ก็เห็นจุดแดงจุดใหญ่ได้เลื่อนผ่านไปบนหน้าจอนั่น

“ฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงิน!” ชาร์คที่อยู่ข้างๆ มองออกได้ในทันที เหล่าชาวประมงไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ทุกครั้งที่พวกเขาออกทะเลมักจะบังเอิญเจอเข้ากับปลาใหญ่ที่มีค่าพวกนี้ประจำ แถมยังรู้ด้วยว่าที่ฟาร์มปลามีปลาจำพวกนี้อาศัยอยู่

งานจัดแสดงปลาทั่วโลกของสภาการประมงใกล้จะเริ่มแล้ว แถมปลาทูน่าครีบน้ำเงินในตลาดอาหารทะเลระดับสูงของประเทศแถบเอเชียตะวันออกอย่างญี่ปุ่นก็ได้ลดลงไปพอสมควรแล้ว ฉินสือโอวคิดว่าจะจับขึ้นมาจำนวนหนึ่งแล้วส่งไปขายในตลาด

เรือลำใหญ่ได้ขับไปยังจุดเก็บเกี่ยวจุดต่อไป เบิร์ดถือปลาไหลอเมริกันที่สวยงามสี่ตัวเข้าไปในห้องครัว ตัวที่ถูกแรงสะเทือนทำให้สลบไปมีสองตัว ตัวหนึ่งเป็นแม่ปลาไหลที่ท้องป่องส่วนอีกตัวเป็นลูกปลาไหล หลังจากพวกมันสองตัวตื่นแล้วก็ถูกปล่อยไป ส่วนอีกสี่ตัวที่เหลือนั้นไม่ได้โชคดีอย่างนั้น

เบิร์ดลงมีดอย่างรวดเร็ว เครื่องในของปลาไหลอเมริกันทั้งสี่ตัวก็ได้ถูกล้างจนสะอาดแล้ว เขาทำการตัดหัวและหางของปลาออก แล้วก็นำไปให้ฉินสือโอวเป็นคนไปทำอาหาร

ชาร์คพิงตัวไว้ที่ประตูแล้วพูดว่า “ในท้องแม่ปลาไหลตัวนั้นต้องมีไข่ปลาเยอะแน่เลย ไข่ปลาไหลเป็นอาหารที่ยอดมากเลยนะครับบอส”

ฉินสือโอวกลอกตา พูดว่า “คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง? แต่ฉันไม่คิดจะฆ่าผู้หญิงกับเด็ก”

เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว พวกชาร์คก็หัวเราะออกมา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของฟาร์มปลา พวกเขาก็จะไม่ฆ่าผู้หญิงกับเด็กด้วย

……………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1718 การพัฒนาที่ยั่งยืน

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1718 การพัฒนาที่ยั่งยืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับของเล่นนวัตกรรมใหม่พวกนี้ ฉินสือโอวไม่ได้รู้สึกคลั่งไคล้อะไรมากมาย อย่างเช่นบอลลูน หรือบ้านทรงไข่ หลังจากเขามีแล้วลองใช้ไปไม่กี่ครั้งเท่านั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ถือว่าใช้น้อยมาก

แต่เขาในตอนนี้รู้สึกยินดีจริงๆ กับการได้รับของเล่นพวกนี้ เพราะว่าทางเมืองเตรียมจะจัดงานสงครามผู้กล้าแล้ว ของเหล่านี้ล้วนสามารถเอามาใช้เป็นอุปกรณ์ได้หมดเลย

สถานที่จัดงานสงครามผู้กล้าจะจัดขึ้นรอบทะเลสาบเฉินเป่า บริเวณรอบๆ ทะเลสาบมีพื้นที่สีเขียวและป่าไม้ที่มีพื้นที่มากที่สุดอยู่ สนามหญ้าเกิดจากตอนที่ขุดเอาฟอสซิลจากทะเลสาบขึ้นมา พอคนจากพิพิธภัณฑ์ฟอสซิลจากไปแล้ว พื้นที่ว่างแห่งนี้จึงถูกโปรยไปด้วยเมล็ดพันธุ์หญ้าแล้วกลายเป็นสนามหญ้าแห่งนี้

มองดูเจ็ทแพ็คที่สามารถพาคนบินได้แล้ว ฉินสือโอวก็ออกไอเดียให้วินนี่ ว่า “คุณสามารถแต่งเป็นนางฟ้า แล้วบินลงมาจากฟ้าได้นะ จะต้องสุดยอดมากแน่”

วินนี่คิดทบทวนสักพักแล้วก็รู้สึกว่าวิธีนี้ใช้ได้ พูดว่า “โอเคค่ะ งั้นฉันก็เป็นนางฟ้าแล้วกัน คุณล่ะคะ? คุณจะเป็นอะไร?”

สำหรับชุดคอสตูมของตัวเอง ฉินสือโอวไม่มีไอเดียอะไรเลย เขาอยากขี่วาฬหัวทุยเพื่อแสดงเป็นเทพโพไซดอน แต่ว่าวาฬหัวทุยไม่สามารถเข้าไปในทะเลสาบเฉินเป่าได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถทำให้ไอเดียนี้เป็นจริงได้ เขาจึงไปถามพวกชาวประมงว่า “พวกนายคิดว่าฉันเหมาะที่จะแต่งเป็นอะไร?”

บูลพูดด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า “จะเป็นอะไรได้อีกครับ ก็ต้องเป็นดรูอิดสิครับ!”

เหล่าชาวประมงมองดูเจ้าพวกตัวเล็กที่ส่ายหัวสะบัดหางอยู่รอบๆ ฉินสือโอวแล้ว ก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย นั่นสิ ทั้งจูงหมาพกเหยี่ยวพกหมาป่าพกหมีอีก หากไม่แต่งเป็นดรูอิดก็น่าเสียดายแย่

ฉินสือโอวไม่อยากแต่งเป็นดรูอิด เขารู้สึกว่ามันไม่ค่อยเท่เท่าไร อีกอย่างไม่ค่อยเข้ากับภาพลักษณ์เขาเท่าไรด้วย หากว่าไม่สามารถแต่งเป็นเทพโพไซดอนได้ล่ะก็ งั้นเขาก็จะแต่งเป็นนายพลชื่อดังในประวัติศาสตร์จีนแทน

แต่ว่าเรื่องนี้ไม่รีบ งานจะเริ่มกลางเดือนสิงหาคม ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือน เดือนนี้มีงานที่ต้องทำในฟาร์มปลาอีกมากมายเลย

ตอนที่เคนเนดีมา ฉินสือโอวได้กินปูดันเจเนสส์ แล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เลวเลย นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวปลาแล้ว งั้นก็จัดการให้ทำการจับปูและกุ้งมังกรในไม่กี่วันนี้แล้วกัน

เขาจำเป็นต้องรีบส่งกุ้งมังกรเข้าไปในตลาด เพราะผลกระทบจากเชื้อรากุ้งมังกรแก๊ฟคี่ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนกับที่นักวิชาการคาดไว้ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนของมหาสมุทรนั้นแข็งแกร่งมาก ตอนเดือนมิถุนายนทางศูนย์ศึกษาชีวิตสัตว์ใต้ทะเลได้ทำการทดลองกับน้ำทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแล้ว พบว่าน้ำได้มาตรฐานพอที่จะเลี้ยงกุ้งมังกรได้แล้ว

เดินเครื่องเรือปริ้นเซสเมล่อน เขาพาคนไปยังสถานที่ที่อยู่อาศัยของกุ้งมังกร จากนั้นก็นำเอาตะกร้าจับกุ้งแต่ละอันโยนลงไปในน้ำ ในระกร้าจับกุ้งพวกนี้ได้ใส่ชิ้นปลาแช่แข็งไว้ เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลายออก พวกกุ้งมังกรก็จะถูกดึงดูดเข้าไปอย่างแน่นอน

ขั้นตอนเดียวกัน เขานำตะกร้าจับปูทั้งหมดของฟาร์มปลาโยนลงไปในน้ำ ชาร์คสั่งการให้ปล่อยตะกร้าลงไป พร้อมกับหัวเราะไปด้วย พูดว่า “นี่น่าจะเป็นการจับปูดันเจเนสส์ที่สบายที่สุดแล้ว หากว่าเป็นที่มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือแล้วล่ะก็ ไม่มีทางง่ายขนาดนี้แน่”

แน่นอนว่าฤดูที่จับปูดันเจเนสส์คือฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกาเหนือหนาวที่สุด ในตอนนั้นเรือหาปลาจะต้องฝ่าคลื่นที่สูงกว่าสองเมตรถึงห้าเมตรในทะเล จากข้อมูลสถิติแล้ว ในการจับปูดันเจเนสส์ จะมีคนเสียชีวิตเฉลี่ยวันละหนึ่งคน และบาดเจ็บอีกวันละห้าคน!

แต่ตอนนี้การเก็บเกี่ยวเจ้าพวกนี้ของฟาร์มปลาต้าฉินกลับทั้งง่ายและสนุกสนาน บนทะเลไม่มีคลื่นลมใหญ่ เหล่าชาวประมงก็ไม่ต้องสวมเสื้อขนสัตว์ตัวหนาจนทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกด้วย ขอแค่ระวังไม่ให้โดนตะกร้าจับปูพวกนี้ทับใส่ก็พอแล้ว

การโดนตะกร้าจับปูทับโดนไม่ใช่เรื่องตลกเลย เจ้าสิ่งนี้หนักอันละครึ่งตัน สร้างจากเหล็กกล้า เมื่อชนโดนตัวคนแม้จะเบาที่สุดก็สามารถทำให้กระดูกแตกหักได้!

เหล่าชาวประมงกำลังพูดล้อเล่นกันอยู่ ฉินสือโอวไม่เคยไปร่วมงานจับปูดันเจเนสส์ในฤดูหนาว ดังนั้นจึงไม่รู้ว่ามันโหดร้ายแค่ไหน ชายร่างใหญ่ที่ชื่อนีลได้ชูมือให้เขาดู ตรงนิ้วชี้ข้างขวาของเขาได้หายไปสองข้อ

“เห็นหรือยังครับ บอส? นี่ก็คือผลของการถูกลวดสลิงรัดโดนล่ะ! นั่นน่ะเป็นเรื่องเมื่อห้าปีก่อนครับ มีครั้งหนึ่งตอนที่ปล่อยตะกร้าลงน้ำไป ผมเห็นว่าตะกร้าไปติดอยู่ตรงที่กราบเรือ จึงใช้มือไปเกี่ยวลวดสลิงแล้วสะบัดไปมา สุดท้ายตะกร้าจับปูหลุดจากกราบเรือไปแล้ว แต่ลวดสลิงที่ผมเกี่ยวไว้กลับลื่นลงข้างล่าง เลยตัดนิ้วผมไปด้วย!”

ฉินสือโอวพูดด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “ฟัค ถือว่านายดวงดีแล้ว ถ้าตอนนั้นนายใช้ฝ่ามือไปจับบนลวดสลิง ก็หายไปทั้งมือเลยน่ะสิใช่ไหม?”

หรือไม่ก็อุตสาหกรรมการประมงในแคนาดาตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งไม่น่าทำแล้ว อาชีพนี้มีความเสี่ยงในตัวกะลาสีและชาวประมงที่ชีวิตในท้องทะเลของแต่ละปี นอกจากพวกทหารและนักดับเพลิงแล้วก็เป็นอาชีพนี้แหละที่สูงที่สุด

พวกเขาเปลี่ยนสถานที่ที่จับปูไปที่อื่น พอหลังจากปล่อยตะกร้าลงไปในน้ำแล้ว ก็มีปลาไหลอเมริกันสวยงามหลายตัวลอยขึ้นมาแทน

เมื่อเห็นแบบนี้แล้วเหล่าชาวประมงก็พากันร้องยินดีออกมาว่า “โชคดี โชคดีจัง!”

หากตอนที่ปล่อยตะกร้าจับปูลงในน้ำมีความเร็วมากพอ ตะกร้าที่หนักอึ้งพอกระแทกโดนน้ำแล้วจะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทำให้มีปลาที่ถูกสะเทือนจนสลบลอยขึ้นมา การเก็บเกี่ยวที่นอกเหนือความคาดหมายแบบนี้ถูกชาวประมงมองว่าเป็นสัญญาณแห่งความโชคดี

พอปล่อยตะกร้าลงไปแล้ว เมื่อผิวน้ำกลับสู่ปกติ บูลจึงเตรียมที่จะกระโดดลงน้ำเพื่อจับปลาไหลอเมริกันตัวสวยพวกนี้

ฉินสือโอวส่ายหัว จากนั้นก็ผิวปากทีหนึ่ง หู่จือกับเป้าจือที่ออกทะเลตามมาด้วยก็แย่งกระโดดลงทะเลไปก่อน เพื่อจับปลาไหลอเมริกันที่อ้วนใหญ่นี้ขึ้นมา

มองดูปลาไหลที่อวบอ้วนพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวก็หัวเราะออกมา พูดว่า “ได้อาหารสำหรับมื้อกลางวันของวันนี้แล้ว”

ปลาไหลอเมริกันเป็นหนึ่งในอาหารที่รสเลิศที่สุดของปลาทะเล เพราะว่ามีจำนวนลดลงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีโอกาสได้กินปลาไหลอเมริกันธรรมชาตินั้นมีไม่มากเลย ต้องขอบคุณแนวคิดเรื่องการพัฒนาที่ยังยืนของฉินสือโอวก่อนหน้านี้ ทำให้ปลาไหลอเมริกันมีชีวิตอยู่รอดได้ ตอนนี้พวกมันได้ขยายพันธุ์จนกลายเป็นกลุ่มที่ไม่เล็กแล้ว ในแต่ละเดือนสามารถให้ผลผลิตกว่าสองตันเพื่อส่งเข้าไปในร้านอาหารทะเลแบรนด์ต้าฉินเลยทีเดียว

ความสุดยอดของฟาร์มปลาที่อุดมสมบูรณ์ก็คือ เมื่อกี้เพิ่งจะจับปลาไหลอเมริกันที่เยี่ยมยอดได้เอง เครื่องโซนาตรวจหาปลาในห้องบังคับการก็ส่งเสียงติ๊ดๆ ดังขึ้นมา ฉินสือโอวเข้าไปดู ก็เห็นจุดแดงจุดใหญ่ได้เลื่อนผ่านไปบนหน้าจอนั่น

“ฝูงปลาทูน่าครีบน้ำเงิน!” ชาร์คที่อยู่ข้างๆ มองออกได้ในทันที เหล่าชาวประมงไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ทุกครั้งที่พวกเขาออกทะเลมักจะบังเอิญเจอเข้ากับปลาใหญ่ที่มีค่าพวกนี้ประจำ แถมยังรู้ด้วยว่าที่ฟาร์มปลามีปลาจำพวกนี้อาศัยอยู่

งานจัดแสดงปลาทั่วโลกของสภาการประมงใกล้จะเริ่มแล้ว แถมปลาทูน่าครีบน้ำเงินในตลาดอาหารทะเลระดับสูงของประเทศแถบเอเชียตะวันออกอย่างญี่ปุ่นก็ได้ลดลงไปพอสมควรแล้ว ฉินสือโอวคิดว่าจะจับขึ้นมาจำนวนหนึ่งแล้วส่งไปขายในตลาด

เรือลำใหญ่ได้ขับไปยังจุดเก็บเกี่ยวจุดต่อไป เบิร์ดถือปลาไหลอเมริกันที่สวยงามสี่ตัวเข้าไปในห้องครัว ตัวที่ถูกแรงสะเทือนทำให้สลบไปมีสองตัว ตัวหนึ่งเป็นแม่ปลาไหลที่ท้องป่องส่วนอีกตัวเป็นลูกปลาไหล หลังจากพวกมันสองตัวตื่นแล้วก็ถูกปล่อยไป ส่วนอีกสี่ตัวที่เหลือนั้นไม่ได้โชคดีอย่างนั้น

เบิร์ดลงมีดอย่างรวดเร็ว เครื่องในของปลาไหลอเมริกันทั้งสี่ตัวก็ได้ถูกล้างจนสะอาดแล้ว เขาทำการตัดหัวและหางของปลาออก แล้วก็นำไปให้ฉินสือโอวเป็นคนไปทำอาหาร

ชาร์คพิงตัวไว้ที่ประตูแล้วพูดว่า “ในท้องแม่ปลาไหลตัวนั้นต้องมีไข่ปลาเยอะแน่เลย ไข่ปลาไหลเป็นอาหารที่ยอดมากเลยนะครับบอส”

ฉินสือโอวกลอกตา พูดว่า “คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง? แต่ฉันไม่คิดจะฆ่าผู้หญิงกับเด็ก”

เมื่อได้ยินคำนี้แล้ว พวกชาร์คก็หัวเราะออกมา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของฟาร์มปลา พวกเขาก็จะไม่ฆ่าผู้หญิงกับเด็กด้วย

……………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+