ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1840 เก็บเกี่ยวปลาได้ผลอุดมสมบูรณ์

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1840 เก็บเกี่ยวปลาได้ผลอุดมสมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การตกเบ็ดราวถือเป็นการตกปลาแบบอุตสาหกรรมอย่างหนึ่ง ตอนดึงเบ็ดขึ้นมาจึงควรจะพึ่งเรือหาปลา ให้เรือหาปลาดึงขึ้นมาถึงจะถูก แต่หากว่าใช้การตกเบ็ดกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน พึ่งแรงคนจะดีกว่า การใช้เรือหาปลาจำต้องรอเวลาสักพักหนึ่ง จากนั้นค่อยเก็บขึ้นมา เพราะไม่ว่าจะมีปลาหรือไม่มีปลาก็คือการดึงเบ็ดขึ้นมาแท่งเดียวอยู่ดี

สำหรับปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ล้ำค่าและชอบหนีไปนั้น จำต้องให้เหล่าชาวประมงไปเฝ้าดูอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ขอแค่เครื่องแจ้งเตือนดังขึ้น ก็ต้องไปเช็คดูแล้ว เพื่อที่จะทำการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้แต่เนิ่นๆ

การเก็บเบ็ดโดยใช้เรือหาปลาคือการตกเบ็ดกับปลาจำพวกปลาโอแถบ ปลาดาบและปลาเเซลมอนแปซิฟิก เพราะปลาพวกนี้ไม่มีความสามารถที่จะดึงสายเบ็ดหนีไปเรื่อยได้

ดังนั้นพอวางสายเบ็ดโค้งงอยาวๆ สองเส้นลงไปบนผิวน้ำทะเลแล้ว ฉินสือโอวก็พาชาวประมงนั่งรอกันบนเรือเป็นเวลาสักพัก แต่ว่าก่อนหน้านี้ เขาต้องไปตรวจดูผลผลิตของการเก็บเกี่ยวปลาด้วยอวนลากก่อน

เหล่าชาวประมงเพิ่งจะเอาเชือกเบ็ดที่ต้องใช้สำหรับเบ็ดราวหย่อนลงไปในน้ำ จากนั้นยังไม่ทันหยุดพัก พวกเขาก็ทำการใส่ถุงมือแบบลวกๆ หยิบมีดฆ่าปลาขึ้นมา ต้องเตรียมไปจัดการกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินอีกแล้ว

ปลาทูน่าน้ำเงินที่เก็บเกี่ยวโดยอวนลากนั้นไม่สามารถเก็บแหขึ้นมาได้ทันที แต่จำต้องทำการปิดอวนก่อน ต้องมีคนพายเรือเล็กแล้วใช้การหว่านแหเพื่อแบ่งปลาออกมาก่อนด้วย

และในขั้นตอนนี้ เรือลากอวนล้อมยังต้องทำการเดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นหากไม่มีกระแสน้ำไหลแล้ว ปลาทูน่าจะไม่สามารถหายใจจนขาดอากาศหายใจตายได้ และหากไม่ได้ทำการปล่อยเลือดของปลาทูน่าน้ำเงินที่ตายไปแล้วในทันที คุณภาพของเนื้อปลาก็จะลดลงอย่างมาก ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่มีมูลค่าอะไรแล้ว

งานนี้จำต้องให้ชาวประมงที่ร่างกายแข็งแรงมากมารับผิดชอบ บูลถอดเสื้อออกอย่างภาคภูมิใจเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ราวกับก้อนหินก้อนใหญ่แล้วยืนสง่าอยู่บนดาดฟ้าเรือ จงต้าจวิ้นพูดด้วยความอิจฉาว่า “โอ้โห พวกฝรั่งพวกนี้ไม่เสียแรงที่กินเนื้อวัวโตนะเนี่ย กล้ามเนื้อพวกนี้นี่สร้างมาได้อย่างไรเนี่ย?”

บูลกำลังวางมาดอย่างภาคภูมิใจอยู่ ก็มีเงาดำทมิฬปรากฏอยู่บนตัวเขา เขาหันหน้าไปมอง คนยักษ์ที่กำยำกว่าได้ปรากฏอยู่ด้านหลังเขา หน้าตาโกรธเคือง หนวดยาวราวกับมังกร แม้จะใส่เสื้อหนาวตัวใหญ่อยู่ แต่ก็ยังปิดบังกล้ามเนื้อที่ราวกับถูกตีด้วยเหล็กกล้าไว้ไม่อยู่ เพราะได้ยืดออกมาจนเสื้อแน่นไปหมด ราวกับว่าแค่เขาออกแรงก็สามารถใช้กล้ามเนื้อฉีกเสื้อออกได้อย่างนั้น!

“ชิท อีวิลสัน นายอย่ามาโผล่ข้างตัวฉันได้ไหม?” บูลพูดอย่างหัวเสีย

อีวิลสันหรี่ตามองดูเขา กำกำปั้นขึ้นมาแล้วถามว่า “นายรังเกียจอีวิลสันเหรอ?”

บูลกลืนน้ำลายทีหนึ่ง รีบพูดว่า “ไม่ๆๆ บูลชอบอีวิลสัน อีวิลสันเป็นเพื่อนที่ดีของบูล! แต่ว่า นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าน่ะ? ฉันกำลังอาบแดดอยู่!”

อีวิลสันฉีกยิ้มออกมา มือที่ใหญ่ราวกับกระด้งไปกางออกแล้วจับลงไปที่ไหปลาร้าของบูลทีหนึ่ง แล้วก็ดึงเขาขึ้นมาราวกับกำลังแบกถุงกระสอบไปที่กราบเรือ ยิ้มอย่างบื้อๆ พูดว่า “อยู่ใกล้กับพระอาทิตย์หน่อย อบอุ่น…”

เหล่าชาวประมงที่อยู่รอบๆ มองดูบูลที่เก้ๆ กังๆ แล้วก็หัวเราะร่ากันขึ้นมาในทันใด คนทั้งกลุ่มพากันทยอยชูนิ้วกลางให้เขา พูดว่า “เพื่อน นายไม่ใช่เพื่อนที่ดีของอีวิลสัน นายน่ะเป็นเพื่อนตัวน้อยของเขา!” “โอ้ ฉันกล้าพนันเลย ความภาคภูมิใจในตัวเองของเจ้าบูลได้ถูกอีวิลสันทำร้ายเสียแล้ว!” “จากนี้อีกหนึ่งเดือน เขาไม่เข้าใกล้อีวิลสันอีกแล้วล่ะ!”

ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมตบมือ พูดว่า “พอแล้วเพื่อนฝูงทั้งหลาย ทำงานได้แล้ว อย่าให้ปลาของพวกเรารออยู่ในน้ำนานเกินไป! ไป ออกไป ไปพาพวกมันขึ้นมา!”

“เฮ้ๆๆ!” เหล่าชาวประมงโห่ร้องพร้อมกับหยิบเครื่องมือที่เตรียมไว้ขึ้นมา ทำหน้าที่ของใครของมัน

เรือตกปลาสองลำได้ถูกปล่อยลงมาจากเรือปริ๊นเซสเมล่อน อีวิลสันและบูลได้พาคนไปขึ้นเรือกันคนละลำ เรือตกปลาไล่ตามเรือหาปลาสองลำไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปิดปากแหออก บูลและชาวประมงโยนแหออกไป ราวกับคาวบอยคล้องม้า ทำการคล้องไปที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินอย่างแม่นยำแล้วดึงกลับมา

เรือตกปลากลับมา แต่ยังอยู่ห่างจากเรือปริ๊นเซสอยู่มาก ชาวประมงบนเรือก็ร้องตะโกนออกมาว่า “บูล เพื่อนรักของฉัน รีบบอกฉันเร็ว ผลผลิตของวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

บูลหัวเราะร่าอย่างได้ใจ ว่า “ฮ่าๆๆ ถ้าอยากรู้ งั้นก็ค่อยๆ รอต่อไปเถอะ!”

เหล่าชาวประมงทำการชูนิ้วกลางให้เขาอีกครั้ง จากนั้นเสียงก่นด่าก็ดังขึ้นมา แต่ทว่าพวกเขารู้ว่าผลผลิตในครั้งนี้ต้องดีมากแน่ เพราะเสียงหัวเราะที่ดีใจของบูลได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกมาแล้ว

ก่อนอื่นปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ถูกลากขึ้นเรือดูแล้วมีความยาวถึงสี่เมตร มีชาวประมงรีบเข้าไปทำการชั่งน้ำหนักและวัดขนาด ตะโกนว่า “ว้าว ไม่น่าเชื่อจริงๆ สิบสามฟุตพอดีเลย! สิบสามฟุต!”

“ฮาวเวิร์ด อย่า***ไร้สาระ ปลานี่หนักเท่าไร? ฉันเดาว่ามีหนึ่งพันปอนด์ถูกหรือเปล่า? ต้องมีหนึ่งพันปอนด์แน่!”

“ชาลส์ นายนี่แหละที่พูดไร้สาระ ปลาที่ยาวถึงสิบสามฟุตจะหนักไม่ถึงหนึ่งพันปอนด์เหรอ? ถ้าไม่ถึงแล้วล่ะก็สามารถพูดได้เพียงว่าปลาตัวนี้ก็เหมือนกับพวกผู้หญิงพวกนั้นที่วันๆ เอาแต่ลดน้ำหนัก! แต่ว่าใครก็รู้ ปลาทูน่าไม่ชอบลดน้ำหนัก แม้ว่าการออกกำลังกายในแต่ละวันของพวกมันจะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายของพวกผู้หญิงพวกนั้นหนึ่งปีก็เถอะ!”

“ฉันกล้าพนัน ปลาตัวนี้ต้องมีประมาณหนึ่งพันหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์แน่!” ชาร์คเข้าไปมองดูปลาตัวนี้แล้วกะออกมาคร่าวๆ

ฮาเวิร์ดที่รับผิดชอบชั่งน้ำหนักชูนิ้วโป้งขึ้นมาพูดว่า “ชาร์ค ฉันไม่นับถือเจ้าสารเลวอย่างนายไม่ได้จริงๆ แม้ว่าที่นายเดามาจะไม่ตรงเป๊ะเสียทีเดียว แต่เจ้าตัวน่ารักนี้น่ะมีหนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าปอนด์! ความผิดพลาดของนายนั้นเป็นเรื่องที่รับได้!”

“ว้าววววว! หนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าปอนด์ ได้ทำลายสถิติอะไรไปบ้างหรือเปล่า?” ชาวประมงบนเรือร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

ชาร์คส่ายหัวแล้วพูดว่า “เท่าที่ฉันจำได้ น่าจะไม่มี พวกเราสามารถเข้าร่วมได้แค่สถิติของเขตนิวฟันด์แลนด์กับเขตมหาสมุทรแอตแลนติกเท่านั้น แถมที่นี่ยังเป็นที่ๆเต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่อีก!”

ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “พอแล้วน่า รีบจัดการปลาตัวนี้เถอะ ส่งมันกลับไปหาพระเจ้า ลงมือให้เร็วนะ อย่าทรมานเจ้าตัวน่าสงสารตัวนี้เลย!”

เหล่าชาวประมงกรูกันเข้าไป ตัดเหงือก หั่นหางแล้วก็ปล่อยเลือดของปลาออก มีชาวประมงที่เตรียมกล่องเก็บอุณหภูมิไว้ ในนั้นเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่เย็นจัด พอปล่อยเลือดของปลาตัวนี้จนหมดแล้ว ก็จะรีบใส่เข้าไปเก็บไว้ในกล่องเก็บอุณภูมิทันที

สิบสามฟุตก็คือยาวเกือบสี่เมตร ปริมาณเลือดของปลาตัวใหญ่ที่มีความยาวแบบนี้น่าดูชมมาก จงต้าจวิ้นได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ครั้งแรก จึงทนดูไม่ไหวแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้จะไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ?”

ฉินสือโอวพูดว่า “แน่นอน ความจริงแล้วการฆ่าก็ล้วนไม่ดีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะฆ่าปลาตัวหนึ่งหรือมดตัวหนึ่งก็ตาม แต่ปลานี่เป็นปลาที่ฟาร์มปลาเลี้ยงไว้ ปลาที่เลี้ยงกับวัวแพะหมูที่เลี้ยงไว้ล้วนเพื่อเอาไปขายเอาเงินทั้งนั้น คิดแบบนี้นายน่าจะรู้สึกดีขึ้นนะ”

“อีกอย่าง พอเอาปลาพวกนี้ไปเปลี่ยนเป็นเงินแล้วฉันก็ไม่ได้เอามาใช้เองทั้งหมดนี่ ฉันได้เอาไปเปลี่ยนเป็นการลงทุนให้กับมหาสมุทร เพื่อเลี้ยงชีพปลากุ้งปูและสาหร่ายทะเลกับพวกสัตว์น้ำเปลือกแข็งได้มากขึ้นด้วย นี่น่ะเป็นการหมุนเวียนที่ดี” ฉินสือโอวพูดเสริมไปอีกประโยค

ถ้าหากว่าเป็นเหมาเหว่ยหลงที่มาถามคำถามงี่เง่าแบบนี้ล่ะก็ เขาต้องตอบกลับแบบไม่พอใจแน่ ขอร้องล่ะ ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่กันแล้วไหม? ฟาร์มปลาไม่ผลิตปลาที่เก็บเกี่ยวได้แล้วจะยังเปิดไว้ทำไมอีก? อย่างไรเสียไอคิวและความสัมพันธ์ของปลาก็สู้สัตว์จำพวกวัวแพะไม่ได้อยู่แล้วไหม? งั้นโรงฆ่าสัตว์ไม่ใช่ว่ายิ่งโหดร้ายกว่าเหรอ?

แต่ว่านี่เป็นจงต้าจวิ้นเป็นคนถาม ความสัมพันธ์ของเขาสองคนไม่ได้สบายๆ เหมือนเขากับเหมาเหว่ยหลง ดังนั้นเรื่องบางเรื่องจึงต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นจงต้าจวิ้นจะคิดมากได้

จากนั้นก็มีปลาใหญ่ถูกส่งขึ้นมาเรื่อยๆ เหล่าชาวประมงฝ่าน้ำเข้าไปจัดการปลาแต่ละตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานท้ายเรือก็กองเต็มไปด้วยกล่องเก็บอุณหภูมิ ฤดูเก็บเกี่ยวปลาที่อุดมสมบูรณ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว

……………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา 1840 เก็บเกี่ยวปลาได้ผลอุดมสมบูรณ์

Now you are reading ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา Chapter 1840 เก็บเกี่ยวปลาได้ผลอุดมสมบูรณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การตกเบ็ดราวถือเป็นการตกปลาแบบอุตสาหกรรมอย่างหนึ่ง ตอนดึงเบ็ดขึ้นมาจึงควรจะพึ่งเรือหาปลา ให้เรือหาปลาดึงขึ้นมาถึงจะถูก แต่หากว่าใช้การตกเบ็ดกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน พึ่งแรงคนจะดีกว่า การใช้เรือหาปลาจำต้องรอเวลาสักพักหนึ่ง จากนั้นค่อยเก็บขึ้นมา เพราะไม่ว่าจะมีปลาหรือไม่มีปลาก็คือการดึงเบ็ดขึ้นมาแท่งเดียวอยู่ดี

สำหรับปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ล้ำค่าและชอบหนีไปนั้น จำต้องให้เหล่าชาวประมงไปเฝ้าดูอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ขอแค่เครื่องแจ้งเตือนดังขึ้น ก็ต้องไปเช็คดูแล้ว เพื่อที่จะทำการจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้แต่เนิ่นๆ

การเก็บเบ็ดโดยใช้เรือหาปลาคือการตกเบ็ดกับปลาจำพวกปลาโอแถบ ปลาดาบและปลาเเซลมอนแปซิฟิก เพราะปลาพวกนี้ไม่มีความสามารถที่จะดึงสายเบ็ดหนีไปเรื่อยได้

ดังนั้นพอวางสายเบ็ดโค้งงอยาวๆ สองเส้นลงไปบนผิวน้ำทะเลแล้ว ฉินสือโอวก็พาชาวประมงนั่งรอกันบนเรือเป็นเวลาสักพัก แต่ว่าก่อนหน้านี้ เขาต้องไปตรวจดูผลผลิตของการเก็บเกี่ยวปลาด้วยอวนลากก่อน

เหล่าชาวประมงเพิ่งจะเอาเชือกเบ็ดที่ต้องใช้สำหรับเบ็ดราวหย่อนลงไปในน้ำ จากนั้นยังไม่ทันหยุดพัก พวกเขาก็ทำการใส่ถุงมือแบบลวกๆ หยิบมีดฆ่าปลาขึ้นมา ต้องเตรียมไปจัดการกับปลาทูน่าครีบน้ำเงินอีกแล้ว

ปลาทูน่าน้ำเงินที่เก็บเกี่ยวโดยอวนลากนั้นไม่สามารถเก็บแหขึ้นมาได้ทันที แต่จำต้องทำการปิดอวนก่อน ต้องมีคนพายเรือเล็กแล้วใช้การหว่านแหเพื่อแบ่งปลาออกมาก่อนด้วย

และในขั้นตอนนี้ เรือลากอวนล้อมยังต้องทำการเดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นหากไม่มีกระแสน้ำไหลแล้ว ปลาทูน่าจะไม่สามารถหายใจจนขาดอากาศหายใจตายได้ และหากไม่ได้ทำการปล่อยเลือดของปลาทูน่าน้ำเงินที่ตายไปแล้วในทันที คุณภาพของเนื้อปลาก็จะลดลงอย่างมาก ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะไม่มีมูลค่าอะไรแล้ว

งานนี้จำต้องให้ชาวประมงที่ร่างกายแข็งแรงมากมารับผิดชอบ บูลถอดเสื้อออกอย่างภาคภูมิใจเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ราวกับก้อนหินก้อนใหญ่แล้วยืนสง่าอยู่บนดาดฟ้าเรือ จงต้าจวิ้นพูดด้วยความอิจฉาว่า “โอ้โห พวกฝรั่งพวกนี้ไม่เสียแรงที่กินเนื้อวัวโตนะเนี่ย กล้ามเนื้อพวกนี้นี่สร้างมาได้อย่างไรเนี่ย?”

บูลกำลังวางมาดอย่างภาคภูมิใจอยู่ ก็มีเงาดำทมิฬปรากฏอยู่บนตัวเขา เขาหันหน้าไปมอง คนยักษ์ที่กำยำกว่าได้ปรากฏอยู่ด้านหลังเขา หน้าตาโกรธเคือง หนวดยาวราวกับมังกร แม้จะใส่เสื้อหนาวตัวใหญ่อยู่ แต่ก็ยังปิดบังกล้ามเนื้อที่ราวกับถูกตีด้วยเหล็กกล้าไว้ไม่อยู่ เพราะได้ยืดออกมาจนเสื้อแน่นไปหมด ราวกับว่าแค่เขาออกแรงก็สามารถใช้กล้ามเนื้อฉีกเสื้อออกได้อย่างนั้น!

“ชิท อีวิลสัน นายอย่ามาโผล่ข้างตัวฉันได้ไหม?” บูลพูดอย่างหัวเสีย

อีวิลสันหรี่ตามองดูเขา กำกำปั้นขึ้นมาแล้วถามว่า “นายรังเกียจอีวิลสันเหรอ?”

บูลกลืนน้ำลายทีหนึ่ง รีบพูดว่า “ไม่ๆๆ บูลชอบอีวิลสัน อีวิลสันเป็นเพื่อนที่ดีของบูล! แต่ว่า นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้ฉันไม่ได้ใส่เสื้อผ้าน่ะ? ฉันกำลังอาบแดดอยู่!”

อีวิลสันฉีกยิ้มออกมา มือที่ใหญ่ราวกับกระด้งไปกางออกแล้วจับลงไปที่ไหปลาร้าของบูลทีหนึ่ง แล้วก็ดึงเขาขึ้นมาราวกับกำลังแบกถุงกระสอบไปที่กราบเรือ ยิ้มอย่างบื้อๆ พูดว่า “อยู่ใกล้กับพระอาทิตย์หน่อย อบอุ่น…”

เหล่าชาวประมงที่อยู่รอบๆ มองดูบูลที่เก้ๆ กังๆ แล้วก็หัวเราะร่ากันขึ้นมาในทันใด คนทั้งกลุ่มพากันทยอยชูนิ้วกลางให้เขา พูดว่า “เพื่อน นายไม่ใช่เพื่อนที่ดีของอีวิลสัน นายน่ะเป็นเพื่อนตัวน้อยของเขา!” “โอ้ ฉันกล้าพนันเลย ความภาคภูมิใจในตัวเองของเจ้าบูลได้ถูกอีวิลสันทำร้ายเสียแล้ว!” “จากนี้อีกหนึ่งเดือน เขาไม่เข้าใกล้อีวิลสันอีกแล้วล่ะ!”

ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมตบมือ พูดว่า “พอแล้วเพื่อนฝูงทั้งหลาย ทำงานได้แล้ว อย่าให้ปลาของพวกเรารออยู่ในน้ำนานเกินไป! ไป ออกไป ไปพาพวกมันขึ้นมา!”

“เฮ้ๆๆ!” เหล่าชาวประมงโห่ร้องพร้อมกับหยิบเครื่องมือที่เตรียมไว้ขึ้นมา ทำหน้าที่ของใครของมัน

เรือตกปลาสองลำได้ถูกปล่อยลงมาจากเรือปริ๊นเซสเมล่อน อีวิลสันและบูลได้พาคนไปขึ้นเรือกันคนละลำ เรือตกปลาไล่ตามเรือหาปลาสองลำไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเปิดปากแหออก บูลและชาวประมงโยนแหออกไป ราวกับคาวบอยคล้องม้า ทำการคล้องไปที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินอย่างแม่นยำแล้วดึงกลับมา

เรือตกปลากลับมา แต่ยังอยู่ห่างจากเรือปริ๊นเซสอยู่มาก ชาวประมงบนเรือก็ร้องตะโกนออกมาว่า “บูล เพื่อนรักของฉัน รีบบอกฉันเร็ว ผลผลิตของวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

บูลหัวเราะร่าอย่างได้ใจ ว่า “ฮ่าๆๆ ถ้าอยากรู้ งั้นก็ค่อยๆ รอต่อไปเถอะ!”

เหล่าชาวประมงทำการชูนิ้วกลางให้เขาอีกครั้ง จากนั้นเสียงก่นด่าก็ดังขึ้นมา แต่ทว่าพวกเขารู้ว่าผลผลิตในครั้งนี้ต้องดีมากแน่ เพราะเสียงหัวเราะที่ดีใจของบูลได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกมาแล้ว

ก่อนอื่นปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ถูกลากขึ้นเรือดูแล้วมีความยาวถึงสี่เมตร มีชาวประมงรีบเข้าไปทำการชั่งน้ำหนักและวัดขนาด ตะโกนว่า “ว้าว ไม่น่าเชื่อจริงๆ สิบสามฟุตพอดีเลย! สิบสามฟุต!”

“ฮาวเวิร์ด อย่า***ไร้สาระ ปลานี่หนักเท่าไร? ฉันเดาว่ามีหนึ่งพันปอนด์ถูกหรือเปล่า? ต้องมีหนึ่งพันปอนด์แน่!”

“ชาลส์ นายนี่แหละที่พูดไร้สาระ ปลาที่ยาวถึงสิบสามฟุตจะหนักไม่ถึงหนึ่งพันปอนด์เหรอ? ถ้าไม่ถึงแล้วล่ะก็สามารถพูดได้เพียงว่าปลาตัวนี้ก็เหมือนกับพวกผู้หญิงพวกนั้นที่วันๆ เอาแต่ลดน้ำหนัก! แต่ว่าใครก็รู้ ปลาทูน่าไม่ชอบลดน้ำหนัก แม้ว่าการออกกำลังกายในแต่ละวันของพวกมันจะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายของพวกผู้หญิงพวกนั้นหนึ่งปีก็เถอะ!”

“ฉันกล้าพนัน ปลาตัวนี้ต้องมีประมาณหนึ่งพันหนึ่งร้อยห้าสิบปอนด์แน่!” ชาร์คเข้าไปมองดูปลาตัวนี้แล้วกะออกมาคร่าวๆ

ฮาเวิร์ดที่รับผิดชอบชั่งน้ำหนักชูนิ้วโป้งขึ้นมาพูดว่า “ชาร์ค ฉันไม่นับถือเจ้าสารเลวอย่างนายไม่ได้จริงๆ แม้ว่าที่นายเดามาจะไม่ตรงเป๊ะเสียทีเดียว แต่เจ้าตัวน่ารักนี้น่ะมีหนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าปอนด์! ความผิดพลาดของนายนั้นเป็นเรื่องที่รับได้!”

“ว้าววววว! หนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบห้าปอนด์ ได้ทำลายสถิติอะไรไปบ้างหรือเปล่า?” ชาวประมงบนเรือร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

ชาร์คส่ายหัวแล้วพูดว่า “เท่าที่ฉันจำได้ น่าจะไม่มี พวกเราสามารถเข้าร่วมได้แค่สถิติของเขตนิวฟันด์แลนด์กับเขตมหาสมุทรแอตแลนติกเท่านั้น แถมที่นี่ยังเป็นที่ๆเต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่อีก!”

ฉินสือโอวหัวเราะแล้วพูดว่า “พอแล้วน่า รีบจัดการปลาตัวนี้เถอะ ส่งมันกลับไปหาพระเจ้า ลงมือให้เร็วนะ อย่าทรมานเจ้าตัวน่าสงสารตัวนี้เลย!”

เหล่าชาวประมงกรูกันเข้าไป ตัดเหงือก หั่นหางแล้วก็ปล่อยเลือดของปลาออก มีชาวประมงที่เตรียมกล่องเก็บอุณหภูมิไว้ ในนั้นเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่เย็นจัด พอปล่อยเลือดของปลาตัวนี้จนหมดแล้ว ก็จะรีบใส่เข้าไปเก็บไว้ในกล่องเก็บอุณภูมิทันที

สิบสามฟุตก็คือยาวเกือบสี่เมตร ปริมาณเลือดของปลาตัวใหญ่ที่มีความยาวแบบนี้น่าดูชมมาก จงต้าจวิ้นได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ครั้งแรก จึงทนดูไม่ไหวแล้วพูดว่า “ทำแบบนี้จะไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ?”

ฉินสือโอวพูดว่า “แน่นอน ความจริงแล้วการฆ่าก็ล้วนไม่ดีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะฆ่าปลาตัวหนึ่งหรือมดตัวหนึ่งก็ตาม แต่ปลานี่เป็นปลาที่ฟาร์มปลาเลี้ยงไว้ ปลาที่เลี้ยงกับวัวแพะหมูที่เลี้ยงไว้ล้วนเพื่อเอาไปขายเอาเงินทั้งนั้น คิดแบบนี้นายน่าจะรู้สึกดีขึ้นนะ”

“อีกอย่าง พอเอาปลาพวกนี้ไปเปลี่ยนเป็นเงินแล้วฉันก็ไม่ได้เอามาใช้เองทั้งหมดนี่ ฉันได้เอาไปเปลี่ยนเป็นการลงทุนให้กับมหาสมุทร เพื่อเลี้ยงชีพปลากุ้งปูและสาหร่ายทะเลกับพวกสัตว์น้ำเปลือกแข็งได้มากขึ้นด้วย นี่น่ะเป็นการหมุนเวียนที่ดี” ฉินสือโอวพูดเสริมไปอีกประโยค

ถ้าหากว่าเป็นเหมาเหว่ยหลงที่มาถามคำถามงี่เง่าแบบนี้ล่ะก็ เขาต้องตอบกลับแบบไม่พอใจแน่ ขอร้องล่ะ ทุกคนล้วนเป็นผู้ใหญ่กันแล้วไหม? ฟาร์มปลาไม่ผลิตปลาที่เก็บเกี่ยวได้แล้วจะยังเปิดไว้ทำไมอีก? อย่างไรเสียไอคิวและความสัมพันธ์ของปลาก็สู้สัตว์จำพวกวัวแพะไม่ได้อยู่แล้วไหม? งั้นโรงฆ่าสัตว์ไม่ใช่ว่ายิ่งโหดร้ายกว่าเหรอ?

แต่ว่านี่เป็นจงต้าจวิ้นเป็นคนถาม ความสัมพันธ์ของเขาสองคนไม่ได้สบายๆ เหมือนเขากับเหมาเหว่ยหลง ดังนั้นเรื่องบางเรื่องจึงต้องปฏิบัติอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นจงต้าจวิ้นจะคิดมากได้

จากนั้นก็มีปลาใหญ่ถูกส่งขึ้นมาเรื่อยๆ เหล่าชาวประมงฝ่าน้ำเข้าไปจัดการปลาแต่ละตัวอย่างรวดเร็ว ไม่นานท้ายเรือก็กองเต็มไปด้วยกล่องเก็บอุณหภูมิ ฤดูเก็บเกี่ยวปลาที่อุดมสมบูรณ์ได้เริ่มขึ้นแล้ว

……………………………

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+