ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] 303 ไร้เทียมทาน การเดิมพันอีกครั้ง!

Now you are reading ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] Chapter 303 ไร้เทียมทาน การเดิมพันอีกครั้ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 303 ไร้เทียมทาน การเดิมพันอีกครั้ง!

“หนิงฝาน เป็นเช่นไรบ้าง?”

เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาจากวังเซียนฮวงเทียน จักรพรรดิอวี่ที่รออยู่ข้างนอกก็ถามขึ้นในทันที

หนิงฝานส่ายหัว

เห็นเช่นนั้นจักรพรรดิอวี่ก็พูดขึ้นว่า “ดูไปแล้ว องค์ราชันคงจะยังไม่พอใจในตัวเจ้า เจ้ายังคงต้องพยายามต่อไป!”

“ทราบแล้ว!”

หนิงฝานพยักหน้า หลังจากนั้นก็กล่าวลากับจักรพรรดิอวี่และกลับไปยังเส้นชีพจรเซียน เพื่อเตรียมตัวในการฝึกฝนต่อไป

ลำดับของเขาในตอนนี้เลื่อนขั้นมาอยู่ในลำดับที่สี่ร้อยแปดสิบ เขาจึงย้ายมาอยู่ที่เส้นชีพจรเซียนลำดับที่สี่ร้อยแปดสิบ

พรึ่บ!

เมื่อมาถึงโถงกลางของวัง เขาก็นั่งลง ทว่ามิได้เริ่มฝึกฝนในทันที แต่กลับหยิบเอาเสาฮวงที่องค์ราชันให้ขึ้นมา

“อืม!”

“ทันทีที่เริ่มใช้งานเสา ก็จะได้รับเวลาห้าร้อยปี!”

เมื่อมองดูเสาฮวงแล้ว ภายในใจของหนิงฝานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง

เสาฮวงนี้จะต้องเป็นสมบัติเหนือสวรรค์เป็นแน่ คาดไม่ถึงว่าองค์ราชันจะมอบมันให้กับเขา

“เพียงแค่ไม่รู้ว่าหลังจากใช้งานเสาฮวงนี้ การลงชื่อเข้าใช้ระบบจะติดตามมาหรือไม่?”

ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็เปิดใช้งานเสาฮวง

ครืน!

เมื่อเริ่มใช้งาน เสาฮวงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงของมันเจิดจ้าไร้สิ่งใดเทียม ความว่างเปล่าภายในวังตอนนี้เกิดการหยุดนิ่งในทันที

แม้สายตาและร่างกายจะไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันใด แต่เวลาในดินแดนแห่งนี้และเวลาในโลกภายนอกนั้นแตกต่างกัน

“ฮึ่ม!”

“ช่างน่าทึ่งเสียจริง!”

หนิงฝานประหลาดใจ

ชายหนุ่มพูดกับระบบในใจ “ระบบ เจ้าติดตามเข้ามาในช่วงเวลาของดินแดนแห่งนี้ หรือยังอยู่กับช่วงเวลาของโลกภายนอก?”

[ตอบโฮสต์ ระบบจะติดตามไปในช่วงเวลาเดียวกันกับโฮสต์!]

“ดี! แบบนี้ภายในหนึ่งชั่วยามของโลกภายนอก ข้าจะสามารถลงชื่อเข้าใช้ในดินแดนแห่งนี้ได้ถึงห้าร้อยปี!”

[ถูกต้อง!]

“เสาฮวงนี้ช่างเป็นสมบัติที่ดีจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เหลือเวลาเพียงห้าร้อยปีสุดท้ายแล้ว!”

หนิงฝานถอนหายใจ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเสียดายมาก

ในไม่ช้า เขาก็จัดการกับอารมณ์ของตัวเองและเริ่มต้นลงชื่อเข้าใช้

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จ และได้รับแก่นแท้ชีพจรเซียน!]

พรึ่บ!

ด้วยการลงชื่อเข้าใช้ในครั้งนี้ แก่นแท้ชีพจรเซียนที่มีขนาดเล็กเท่ากำปั้นก็ปรากฏออกมา

“ขัดเกลา!”

โดยไม่ลังเล หนิงฝานใช้งานคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียนในทันที และเริ่มต้นหลอมรวมแก่นแท้ชีพจรเซียนเพื่อฝึกฝน

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จ และได้รับแก่นแท้ชีพจรเซียน!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จ และได้รับแก่นแท้ชีพจรเซียน!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จ และได้รับพลังต้นกำเนิดจักรพรรดิเซียน!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสำเร็จ และได้รับเม็ดยาเซียนเก้าอายุวัฒนะ!]

[…]

เป็นเช่นนี้ผ่านไปเป็นวันและจากวันเป็นปีที่เขาลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝน พลังบ่มเพาะของหนิงฝานพัฒนาขึ้นมากอีกครั้ง

และในช่วงเวลาที่ชายหนุ่มลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝนตนอยู่ในเสาฮวงมาตลอดห้าร้อยปี ในตอนนี้ถึง ณ เส้นชีพจรเซียนลำดับที่สิบ

“บังอาจ!”

“บัดซบ!”

“สมควรตาย!”

ได้ยินเพียงแค่เสียงร้องตะโกนอันเกรี้ยวโกรธที่ดังลั่นไปทั่ววัง

แววตาของจักรพรรดิหลิงเต็มไปด้วยความโกรธจัด ทั้งร่างกายเดือดพล่านไปด้วยปราณอันบ้าคลั่ง อีกด้านหนึ่งก็มีเหล่าเซียนทาสที่กำลังก้มหมอบลงกับพื้นด้วยอาการตัวสั่น

“หนิงฝาน เจ้าบัดซบที่ทำให้ภาพวาดหลิงเทียนและเกราะเซียนหลิงเทียนของข้าต้องตกไปอยู่ในมือของจักรพรรดิอวี่!”

จักรพรรดิหลิงตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ

สมบัติทั้งหมดของเขามีสี่ชิ้นคือ ภาพวาดหลิงเทียน เกราะเซียนหลิงเทียน กระบี่เซียนหลิงเทียน รองเท้าเซียนหลิงเทียน ทั้งหมดนี้เรียกว่าสมบัติทั้งสี่แห่งหลิงเทียน

สมบัติทุกชิ้นราวกับเป็นดวงใจและจิตวิญญาณของเขา แต่ตอนนี้มีสมบัติสองชิ้นที่พ่ายแพ้และตกไปอยู่ในมือของจักรพรรดิอวี่

“ไม่ได้!”

“ข้าจะต้องนำภาพวาดเซียนและเกราะเซียนกลับคืนมาให้ได้!”

ยิ่งจักรพรรดิหลิงคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ยิ่งไม่พอใจ ท้ายที่สุดก็เร่งสั่งการ “ใครก็ได้จงเร่งไปแจ้งข่าวกับฉินเจวี่ยซื่อและฉินเจวี่ยมิ่งที่ยังเก็บตัวอยู่ว่าตระกูลฉินทั้งเจ็ดตายแล้วเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนสุดท้ายเท่านั้น พวกเขาจะต้องแก้แค้นด้วยเลือด บอกพวกเขาว่าข้ามีโอกาสที่จะทำให้พวกเขาสังหารหนิงฝานได้!”

“รับทราบ!”

คนผู้นั้นจากไปในทันที เพื่อออกตามหาตระกูลฉินที่เหลืออยู่สองคนสุดท้าย

เวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งชั่วยามในโลกภายนอก หนิงฝานสามารถลงชื่อเข้าใช้และฝึกฝนตนมาถึงห้าร้อยปีแล้ว

ฟู่!

เวลาผ่านไปกว่าห้าร้อยปีนี้ แสงแวววาวของเสาฮวงก็จางหายไปในทันทีก่อนที่จะตกลงมา

“หึ!”

“ห้าร้อยปี โลกย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงไป!”

หนิงฝานลืมตาขึ้น ในดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมแห่งการเปลี่ยนแปลง นี่ยังคงเป็นการเก็บตัวที่ยาวนานมากที่สุดครั้งหนึ่งของเขา แต่หากเปรียบเทียบกับโลกภายนอกกลับเป็นช่วงเวลาที่สั้นมากที่สุดของเขา

และด้วยการลงชื่อเข้าใช้เพื่อฝึกฝนตลอดห้าร้อยปีมานี้ พลังการฝึกฝนของเข้าพัฒนาถึงขอบเขตกึ่งสุดยอดจักรพรรดิเซียน

ห่างจากขอบเขตจักรพรรดิเซียนเพียงแค่ขั้นเดียว!

“หึ!”

“ฝึกฝนต่อไป รอจนถึงวันที่ข้าไปถึงขั้นจักรพรรดิเซียน ก็จะถึงเวลาท้าทายองค์ราชัน!”

แล้วหนิงฝานก็ยังคงฝึกฝนต่อไป

ในเวลาเดียวกันนั้น ตระกูลฉินที่เหลืออยู่สองคนสุดท้ายก็มาถึงเส้นชีพจรเซียนลำดับที่สิบ เพื่อมาพบกับจักรพรรดิหลิง

“ฉินเจวี่ยซื่อ ฉินเจวี่ยมิ่ง เคารพต่อจักรพรรดิหลิง!”

ทันทีที่ทั้งสองมาถึงก็ทำความเคารพจักรพรรดิหลิงในทันที ใบหน้าของทั้งสองคนเต็มไปด้วยปราณอันโกรธแค้นและจิตสังหารอย่างกักเก็บเอาไว้ไม่อยู่ เห็นได้ชัดว่าคงทราบเรื่องที่ตระกูลฉินทั้งห้าถูกหนิงฝานสังหารแล้ว

“อืม ลุกขึ้นเถิด!”

จักรพรรดิหลิงโบกมือไปมาและพูดขึ้น “พวกเจ้าคงจะทราบถึงเรื่องราวการตายของพี่น้องทั้งห้าคนของพวกเจ้าแล้วใช่หรือไม่!”

“ทราบแล้ว!”

“เชิญจักรพรรดิหลิงโปรดช่วยพวกข้าด้วย!”

“พวกข้าจะต้องสังหารหนิงฝานให้จงได้ เพื่อล้างแค้นให้กับพี่น้องทั้งห้าของพวกข้า!”

ทั้งสองคนคุกเข่าลงอีกครั้ง

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ถึงฝีมือความโหดเหี้ยมของหนิงฝานดี แต่ตามกฎของราชวงศ์เซียน หากล้มลงในลานประลองเซียน ราชวงศ์เซียนไม่อนุญาตให้มีการล้างแค้นเป็นการส่วนตัวได้ พวกเขาจึงทำได้เพียงฝากความหวังเอาไว้กับจักรพรรดิหลิง

“อืม วางใจเถิด ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้ให้พวกเจ้าแล้ว!”

จักรพรรดิหลิงพยักหน้า หลังจากนั้นก็หยิบป้ายเซียนสองชิ้นออกมาจากอกของตัวเอง นั่นก็คือป้ายเซียนสองชิ้นที่ไม่มีเจ้าของซึ่งได้มาจากการตายของตระกูลฉินทั้งห้าคน ชิ้นแรกลำดับที่สามพัน อีกชิ้นหนึ่งลำดับที่สองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า

“เจ้าทั้งสองจงควบคุมป้ายเซียนทั้งสองชิ้นนี้เสีย เช่นนั้นจึงจะสามารถประลองกับหนิงฝานได้อย่างเปิดเผย!”

“แน่นอน ว่าหากเขาปฏิเสธ เขาก็จะสูญเสียตำแหน่งลำดับเซียนไป เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็สามารถลงมือฆ่าเขาได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หนิงฝานจะหนีความตายในครั้งนี้ไปไม่ได้!”

“ขอบคุณท่านจักรพรรดิหลิงเป็นอย่างสูง!”

เห็นเช่นนั้น สายตาของคนตระกูลฉินทั้งสองก็เปล่งประกาย ทันใดนั้นพวกเขาก็ใส่จิตแห่งเซียนของตัวเองลงไปยังป้ายเซียน ในเวลานั้นลำดับของทั้งสองคนกลายเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดคือ ลำดับที่สามพันและลำดับที่สองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า

“ข้าต้องการประลองกับหนิงฝาน!”

“ข้าก็ต้องการประลองกับหนิงฝาน!”

ตู้ม! ตู้ม!

ทันทีที่ทั้งสองคนครอบครองป้ายเซียนได้ก็ร้องขอการประลองทันที ลานประลองเซียนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้งในความว่างเปล่า

ในเวลาเดียวกัน เสียงตะโกนนี้ก็ดังลั่นไปทั่วทั้งราชวงศ์เซียนฮวงเทียน

“ลานประลองเซียนเริ่มต้น ผู้ท้าประลองคือฉินเจวี่ยซื่อลำดับที่สามพัน ผู้ถูกท้าประลองคือหนิงฝาน ลำดับที่สี่ร้อยแปดสิบ!”

ลานประลองเซียนเริ่มต้น ผู้ท้าประลองคือฉินเจวี่ยมิ่งลำดับที่สองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า ผู้ถูกท้าประลองคือหนิงฝาน ลำดับที่สี่ร้อยแปดสิบ!”

ตู้ม!

กำเนิดลานประลองเซียน ราชวงศ์เซียนฮวงเทียนที่เงียบสงบอยู่เมื่อครู่ตอนนี้ราวกับเกิดคลื่นพายุขึ้นอีกครั้ง

“ข้าไปเอง นี่พึ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วยาม ก็มีผู้คนขอท้าประลองอีกแล้วรึ!”

“หืม? เป็นสองคนสุดท้ายแห่งตระกูลฉินทั้งเจ็ด ไม่ใช่ว่าพวกเขาอยู่ในลำดับเซียนร้อยคนแรกหรือ แล้วกลายเป็นลำดับที่สามพันกับลำดับที่สองพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“ฮ่าฮ่า! ดูเหมือนพวกเขาจะฉวยโอกาสนี้เอาไว้เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับตระกูลฉินทั้งห้าคนที่ตายไป!”

“เหอะ! ฉินเจวี่ยซื่อและฉินเจวี่ยมิ่งเป็นถึงผู้ที่มีพลังจักรพรรดิเซียนขั้นสูง เกรงว่าหนิงฝานผู้นี้จะต้องถูกสังหารเป็นแน่!”

“ใช่แล้ว หนิงฝานไม่สามารถปฏิเสธการท้าประลองได้ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสินให้แพ้และต้องสูญเสียตำแหน่งเซียนไป ไม่มีผู้ใดในราชวงศ์เซียนฮวงเทียนสามารถปกป้องเขาได้ เช่นนั้นเขาต้องตายอย่างแน่นอน!”

“ฮ่าฮ่า การแสดงครั้งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งแล้ว!”

“…”

และในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังถกเถียงกัน

หนิงฝานก็ได้รับการแจ้งเตือนจากการท้าประลอง

“หึหึ! คนของตระกูลฉินอีกแล้วรึ? ดูเหมือนว่าจะต้องการฉวยโอกาสนี้เผื่อสังหารข้าสินะ!”

“น่าเสียดายที่พวกเจ้าจะต้องผิดหวัง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะส่งพวกเจ้าทั้งเจ็ดคนไปอยู่ด้วยกันเสีย!”

ชายหนุ่มยิ้มอย่างเย็นชา และหยุดแผนการโจมตีขอบเขตราชันเซียนเอาไว้ก่อน เพื่อมารับคำท้าประลอง

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

ทันทีที่หนิงฝานรับคำท้าประลอง ร่างของทั้งสองฝ่ายก็ถูกค่ายกลเคลื่อนย้ายส่งตัวไปยังบนลานประลองเซียน

และในเวลาเดียวกันนี้ ผู้คนที่พึ่งแยกย้ายกันไปไม่นานต่างก็เร่งกลับมารวมตัวกันรอบ ๆ ลานประลองเซียนอีกครั้ง

แน่นอนว่าจักรพรรดิอวี่และจักรพรรดิหลิงก็ไม่ยอมพลาด

“จักรพรรดิหลิง การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นเจ้าที่สร้างเรื่องขึ้นใช่หรือไม่?!”

ทันทีที่จักรพรรดิอวี่มาถึงก็พุ่งตัวและตะโกนใส่จักรพรรดิหลิงทันที

“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง!”

ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิหลิงยอมรับและยิ้มอย่างเย็นชา “อวี่รั่วเสวียน ข้าต้องการพนันกับเจ้าอีกครั้ง!”

“หากตระกูลฉินทั้งสองคนชนะ ภาพวาดหลิงเทียนและเกราะเซียนหลิงเทียนที่เป็นของข้า เจ้าจะต้องคืนมันมาทั้งหมด!”

“หากว่าพวกเขาพ่ายแพ้ สมบัติทั้งสี่แห่งหลิงเทียนที่เหลืออยู่อีกสองชิ้น ข้าจะมอบให้เจ้า!”

“เจ้ากล้าพนันหรือไม่?”

ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิอวี่ไม่ตอบ ทว่าแววตากลับปะทุไฟแห่งความโกรธขึ้น เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิหลิงสนใจแต่พนันมากเกินไป!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *