ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] 37 รางวัลของจักรพรรดินี!

Now you are reading ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] Chapter 37 รางวัลของจักรพรรดินี! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 37 รางวัลของจักรพรรดินี! (รีไรท์)

“สะเพร่า!”

หนิงฝานขมวดคิ้ว ขณะมองดูคำสาปอมตะที่เคลื่อนเข้าสู่ร่างกาย

เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากเข้าสู่ขอบเขตปราชญ์แล้ว เขาจะกลายเป็นอมตะในโลกและไม่มีผู้ใดทำร้ายตนเองได้อีก แต่ใครจะคิดว่ามีสิ่งเช่นคำสาปอมตะอยู่ในโลกนี้ด้วย

ขณะนี้เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่า คำสาปอมตะกำลังดูดกลืนโลหิตและพลังวิญญาณในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง

แม้รากฐานของปราชญ์ยุทธ์จะแข็งแกร่ง แต่หากพบเจอสิ่งนี้ ฐานการฝึกฝนของเขาจะเสื่อมถอยและค่อย ๆ อ่อนแอลง จากนั้นพลังในเส้นลมปราณทั้งหมดจะเหือดแห้ง จิตวิญญาณจะอ่อนแอลงและตายตกในที่สุด

กล่าวสั้น ๆ ก็คือ นี่คือคาถาอันทรงพลังและน่าสะพรึง เมื่อถูกร่ายออก ผู้ที่ได้รับผลจะต้องตายตกไม่ก็นอนเป็นผัก

“หนิงฝาน เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”

ในเวลานี้หลัวชิงเซียนที่อยู่ด้านข้างเผยใบหน้าซีดขาวด้วยความกังวล

“ไม่ค่อยดีนัก”

หนิงฝานส่ายศีรษะ เวลานี้เขาคิดแค่ว่าอยากจะกลับวังจักรพรรดินีเร็ว ๆ

จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนไม่สนใจที่จะออกคำสั่งใดกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนอีกแล้ว นางติดตามเขากลับทันทีด้วยความกังวลใจ

“โอ๊ะ! ไปแล้วงั้นหรือ!”

“กลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!”

“ข้าอิจฉานัก! อิจฉาเหลือเกิน!”

“…”

เมื่อเห็นหนิงฝานและหลัวชิงเซียนจากไป ทุกคนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจ

ความสุขเดิมที่เคยมีหลังจากพบเจอหายนะพลันสูญสลายไปแล้ว

ภายในวังจักรพรรดินี หนิงฝานเข้าสู่สมาธิทันทีหลังจากกลับมาถึง

ยามนี้ รากทองคำภายในร่างกายกำลังเดือดพล่านเพราะผลกระทบรุนแรงจากคำสาป

เขาหลับตาและพยายามทำลายคำสาปนี้

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วใบหน้าของชายหนุ่มเผยเพียงคิ้วที่ขมวดแน่นเป็นปม

หนิงฝานพบว่าไม่ว่าจะเป็นพลังของมหาเคล็ดขัดเกลาร่างอสูรสวรรค์ หรือแม้แต่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียน กระดิ่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ และอื่น ๆ ก็ยังไม่มีผลต่อคำสาปอมตะที่อยู่ในร่างกาย

พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!

จนกระทั่งเขาใช้พลังร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลตัดรากสีทองที่กำลังเต้นระบำทั่วร่างกายออก นี่คือวิธีสุดท้าย… ทว่าร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลก็ยังไม่อาจทำลายรากสีทองและจิตวิญญาณของมันได้เลย!

รักษาที่อาการไม่ใช่ต้นเหตุ!

ในเวลานี้ จักรพรรดินีหลัวชิงเซียนมาถึงแล้ว นางเห็นว่าหนิงฝานยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จึงรีบกล่าวถามอย่างร้อนรน “หนิงฝาน เป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีทำลายคำสาปหรือไม่?”

“ไม่มี พลังเวทของคำสาปอมตะหยั่งรากลึกในร่างกายและจิตวิญญาณของข้าแล้ว เว้นแต่ร่างกายและจิตวิญญาณนี้จะถูกทำลายพร้อมกัน ย่อมไม่มีหนทางอื่นอีกแล้ว!”

หนิงฝานส่ายศีรษะ เขารู้สึกปวดหัวกับสถานการณ์ตอนนี้นัก

“ไม่มีวิธีอื่น?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตางดงามของหลัวชิงเซียนพลันน้ำตารื้น นางรู้สึกเป็นทุกข์ไปกับเขาด้วย

หนิงฝานอาศัยอยู่ในวังจักรพรรดินีกว่าสิบสามปี คราวนี้เขาถือกำเนิดขึ้นและสร้างความประหลาดใจให้กับโลกใบนี้ เขาสมควรได้รับคำชมจากทุกคน

หากหนิงฝานไม่สามารถถอนคำสาปได้ การฝึกฝนทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำ และเขาไม่อาจฟื้นคืนความสามารถได้อีก นี่คือสิ่งที่โหดร้ายเกินไป

“อย่าได้กังวล แม้คำสาปอมตะในตำนานจะถูกกล่าวขานว่าไม่อาจแก้ไข แต่ท้ายที่สุดแล้วข้าก็ได้รับเพียงเศษเสี้ยวคำสาป มันน่าจะทำลายได้ ทว่าอาจจะต้องใช้เวลา”

เมื่อเห็นหลัวชิงเซียนกังวลจนแทบจะร่ำไห้ออกมา หนิงฝานจึงรีบกล่าวปลอบโยนนาง

“อย่างไรก็ตาม ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนมีตำราและคัมภีร์มากมาย ความรู้จากทั่วทุกมุมโลกอยู่ในสถานที่แห่งนั้น ข้าคิดว่ามันน่าจะมีวิธีการทำลายคำสาปอมตะนี้!”

“สามี เช่นนั้นรอข้าประเดี๋ยว ข้าจะรีบไปดูเดี๋ยวนี้!”

หลัวชิงเซียนกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะหันหลังกลับออกไปโดยไม่รอให้หนิงฝานเอ่ยตอบ

เมื่อเห็นว่าหลัวชิงเซียนพยายามช่วยหาทางแก้คำสาปอย่างกระตือรือร้น หนิงฝานพลันรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา

หลังจากนั้นเขาก็หันกลับมาให้ความสนใจกับคำสาปอมตะนี้โดยเร็ว

“คำสาปอมตะ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่สามารถทำลายได้”

หนิงฝานเย้ยหยันก่อนจะค้นหาวิธีทำลายคำสาปต่อไป

หลังจากนั้น

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านมาแล้วกว่าครึ่งปี

ช่วงเวลานี้โลกทั้งใบสงบสุข และไม่มีวันที่เหล่าปีศาจจะกลับมาสร้างความวุ่นวายได้อีก

แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนจะรอดพ้นจากภัยพิบัติสำเร็จ แต่บรรยากาศในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กลับเต็มไปด้วยความหดหู่ หลายคนมักจะเหม่อมองพระราชวังจักรพรรดินีจากระยะไกล

พวกเขาทราบว่าเซียนกระบี่อาวุโสกำลังจะตายอย่างเงียบ ๆ!

ณ พระราชวังจักรพรรดินี

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา หนิงฝานพยายามศึกษาวิธีทำลายคำสาป และเขายังออกค้นหาในสถานที่ต่าง ๆ ภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกวันเพื่อหวังว่าจะค้นพบวิธีนั้นเสียที

ผลที่ตามมาคือ ครึ่งปีหลังไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการลงชื่อเข้าใช้เพื่อรับวิธีทำลายคำสาปเท่านั้น แต่ยังได้รับข่าวร้ายยิ่งกว่านั้นอีก

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้หอหมื่นวิถีล้มเหลว สถานที่แห่งนี้ไม่มีวิถีอุบัติแล้ว!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้วิหารโอสถล้มเหลว สถานที่แห่งนี้ไม่มีวิถีอุบัติแล้ว!]

[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้หุบเขาศาสตราเทพล้มเหลว สถานที่แห่งนี้ไม่มีวิถีอุบัติแล้ว!]

“…”

หนิงฝานเงียบงัน หลังจากพยายามลงชื่อเข้าใช้อย่างต่อเนื่องมากว่าสิบปี วิถีอุบัติภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น

นับตั้งแต่หอหมื่นวิถี วิหารโอสถ หุบเขาศาสตราเทพ จนไปถึงสถานที่ต้องห้ามเช่นหอบรรพชน คลังสมบัติศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่อื่น ๆ ทั้งหมดล้วนแต่ไม่มีวิถีอุบัติหลงเหลือ และไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อีกต่อไป

“เฮ้อ หมดสิ้นปัญญาแล้วจริง ๆ ข้าคงออกไปไหนไม่ได้แล้ว!”

เมื่อคิดไตร่ตรอง หนิงฝานไม่รู้จะทำอย่างไร เขาทำได้เพียงหยุดการลงชื่อเข้าใช้และกลับมาสนใจการถอนคำสาปอมตะ

จวบจนวันนี้

“หือ… มีบางอย่างผิดปกติ!”

เมื่อหนิงฝานลองใช้ร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลเพื่อตัดรากสีทองของคำสาปออก เขาค้นพบว่าหลังจากผ่านไปกว่าครึ่งปีที่ต่อสู้กับคำสาปอมตะ ร่างกายและวิญญาณของเขายังไม่แสดงอาการอ่อนล้า แต่กลับแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย

การค้นพบนี้ทำให้หนิงฝานตกตะลึง

“มันเป็นความผิดปกติของคำสาปอมตะ หรือเป็นความผิดของข้า หรือทั้งสองอย่าง?”

หนิงฝานครุ่นคิด แต่ในไม่ช้าเขาก็คาดเดาได้

เหตุผลก็คือคำสาปอมตะที่เขาถูกร่ายใส่นั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวคำสาป และพลังของมันไม่ได้น่าหวาดกลัวเหมือนตำนานเล่าขานเอาไว้

ประการที่สอง หนิงฝานครอบครองร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลมาเนิ่นนาน ซึ่งเป็นร่างเซียนกระบี่ที่แท้จริง มันไม่อาจถูกทำลายด้วยเศษเสี้ยวคำสาปอมตะได้ เมื่อหลอมรวมกับร่างแห่งเซียนกระบี่บรรพกาลแล้ว มันจึงถูกทำลายไป

และในที่สุดก็เป็นเช่นสถานการณ์ในปัจจุบันนี้

“ฮ่า ๆ!”

“น่าประทับใจนัก”

หนิงฝานหัวเราะ

ดังคำโบราณกล่าวไว้ ผู้เฒ่าชายแดนเสียม้า เรื่องเคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นนั้นไม่แน่นัก อาจจะนำโชคมาให้ก็ได้!

พรึ่บ!

ภายในวันที่หนิงฝานค้นพบความน่าประหลาดใจ หลัวชิงเซียนก็กลับสู่พระราชวังจักรพรรดินีด้วยเช่นกัน

“หนิงฝาน ข้าขอโทษแล้ว ครึ่งปีผ่านไปข้าค้นหาตำราโบราณและคัมภีร์ต่าง ๆ ภายในหอตำราหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ไม่พบวิธีแก้คำสาป”

เมื่อมองดูหลัวชิงเซียนที่เผยใบหน้าโศกเศร้า หัวใจของหนิงฝานพลันอบอุ่นขึ้น และสิ่งนี้ทำให้หัวใจของเขาวูบไหวอย่างอดไม่ได้

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือเขาในการแก้คำสาป หลัวชิงเซียนใช้เวลาทั้งวันและคืนเพื่อค้นหาตำราโบราณและคัมภีร์ต่าง ๆ ภายในหอตำรา

“ภรรยาข้า เจ้าไม่ต้องค้นหาวิธีทำลายคำสาปอีกต่อไปแล้ว ข้าไม่รู้สึกเลยว่าตัวของข้าอ่อนแอลงจากคำสาปนี้ ตรงกันข้ามข้ากลับรู้สึกว่ามีพละกำลังยิ่งกว่าเก่าและดีขึ้นด้วย!”

หนิงฝานหัวเราะและบอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งที่เขาค้นพบกับหลัวชิงเซียน

แต่ใครจะทราบว่าหลัวชิงเซียนส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “หนิงฝาน ท่านมองโลกในแง่ดีเกินไป ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แม้ข้าจะไม่พบวิธีทำลายคำสาป แต่ข้าก็ได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับคำสาปอมตะจากตำราโบราณต่าง ๆ มากมาย ตามคำบอกเล่าของผู้ถูกสาป คำสาปนี้จะไม่ฆ่าบุคคลผู้นั้นในชั่วข้ามคืน แต่จะค่อย ๆ ทำลายรากฐานการฝึกฝนของผู้ฝึกยุทธ์ทีละนิดโดยกินเวลาหลายปี เหตุผลที่เจ้ายังสบายในเวลานี้เป็นเพราะขอบเขตปราชญ์ยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งโลหิต จิตวิญญาณ และพลังวิญญาณในร่างกายจะค่อย ๆ อ่อนแอลงจนกว่าจะตายตกหรือพิการ!”

“มันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น!”

หนิงฝานเผยรอยยิ้ม

ทว่าหลัวชิงเซียนไม่เชื่อถือคำพูดของเขาเลย

“หนิงฝาน ข้าทราบว่าเจ้าสิ้นหวังกับคำสาปอมตะ แต่อย่าได้ท้อแท้เลย ข้าจะหาวิธีทำลายคำสาปให้ได้!”

หลัวชิงเซียนเปิดปากของนางเพื่อกล่าวปลอบใจหนิงฝาน เพราะคิดว่าอีกฝ่ายยอมแพ้ในการค้นหาวิธีแก้ไขคำสาปแล้ว

“…”

หนิงฝานพูดไม่ออก และรู้สึกว่าหลัวชิงเซียนไม่เชื่อถือคำพูดของเขา เขาจึงหยุดกล่าวคำ

ปล่อยนางไป ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกัน

เมื่อเห็นการแสดงออกของหลัวชิงเซียนที่ดูคล้ายกับปลอบใจผู้ป่วยระยะสุดท้าย เขาเพียงกลอกตาไปมา

ทันใดนั้น เขาก็แสร้งทำเป็นโศกเศร้า “ภรรยาข้า บอกตามตรงว่าคำสาปอมตะนี้น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง ข้ารู้สึกสิ้นหวังอย่างที่เจ้ากล่าว!”

“ข้าไม่คิดว่าความตายจะมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ แต่… ข้าอยากทราบว่าข้าจะสามารถร้องขอรางวัลที่ภรรยาสัญญาเอาไว้ก่อนตายได้หรือไม่…”

“หนิงฝาน! เจ้า…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลัวชิงเซียนคิดตำหนิเขาในคราวแรก แต่เมื่อนางนึกถึงหนิงฝานที่ถูกคำสาปอมตะเล่นงาน แววตาจึงอ่อนลงในทันที

“เอาล่ะ หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะมอบรางวัลให้…”

แก้มสองข้างถึงกับแดงเรื่อขึ้นมา น้ำเสียงของนางแผ่วเบาราวกับเสียงยุงบิน “แต่สามี… โปรดอ่อนโยนกับข้า…”

ฮ่า!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานพลันตื่นเต้นขึ้นมาทันที หมาป่าในจิตใจกรีดร้องอย่างโหยหวน

ฮ่า ๆ!

ในที่สุดก็มาถึงวันที่เขาจะได้โค่นล้มจักรพรรดินีผู้เป็นภรรยาของตนอีกครั้งแล้ว!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *