ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] 330 หนิงฝานบ้าคลั่ง ประตูพิภพเปิดออก!

Now you are reading ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] Chapter 330 หนิงฝานบ้าคลั่ง ประตูพิภพเปิดออก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 330 หนิงฝานบ้าคลั่ง ประตูพิภพเปิดออก!

กึก! ครืน! ครืน!

เสียงของหนิงฝานผสมกับพลังต้องห้าม ดังกึกก้องราวฟ้าร้องสะท้อนอยู่ในนภากาศ

“หืม? เกิดอะไรขึ้น!”

“องค์ราชันหนิงผู้นี้มีความแค้นกับหอเซียน!”

“ใช่ ตอนเขาอยู่โลกภายนอก เขาไล่ล่าผู้คนในพระราชวังเวียน ตอนนั้น ข้าคิดว่าเขาเป็นคนหัวแข็ง มาตอนนี้ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายเช่นนั้น!”

“เหอะ จักรพรรดิเซียนขั้นกลางกล้าที่จะยั่วยุคนของหอเซียน คนผู้นี้กลัวว่าอายุขัยของเขาจะยืนยาวเกินไปหรือไร!”

“…”

ในเวลานี้ ผู้คนจากกองกำลังหลักทั้งแปดกำลังพูดคุยกันมากมาย ด้วยสีหน้าที่ดูตื่นเต้นขึ้น

“หึ!”

แน่นอนว่าในลมหายใจต่อมา กู้จิ่วเฟิ่งเย้ยหยันทันทีและมองไปที่หนิงฝานด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามปนจิตสังหาร “โจรชั่วจากที่ใด ยั่วยุหอเซียนของข้าซ้ำแล้วซ้ำอีก อยากตายนักหรือ!”

“เหอะเหอะ ดูเหมือนว่าหอเซียนของเจ้าจะลืมอะไรไปจริง ๆ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็หัวเราะเยาะ แล้วพูดด้วยแววตาเคร่งขรึม “เช่นนั้นข้าจะเตือนเจ้า!”

“เจ้ายังจำหญิงสาวที่เจ้าพรากไปจากโลกเซียนยุทธ์ ดินแดนชั้นล่าง เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีก่อนได้หรือไม่!!”

“หืม?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าเย้ยหยันของกู้จิ่วเฟิ่งก็ค่อย ๆ หายไป แทนที่ด้วยท่าทางเคร่งขรึม

เห็นนางเหลือบมองรถเซียน และจากนั้นใบหน้าของเขาก็กลับมาเย็นชา “ผู้หญิงธรรมดาอันใด คนธรรมดาสามัญ คู่ควรให้ข้าลงมือด้วยหรือ เหลวไหลนัก!”

“นังสารเลว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็โกรธทันทีและตะโกนต่อว่า “หอเซียนระยำนัก กล้าทำ แต่ไม่กล้ายอมรับงั้นหรือ!”

“ยอมรับอันใด!”

กู้จิ่วเฟิ่งเย้ยหยันอย่างเหยียดหยามจากนั้นเยาะเย้ย “เจ้าหนู เจ้าควรจะดีใจที่ที่นี่คือยุคของตี้ลั่ว มีพายุห้วงมิติคั่นระหว่างเจ้ากับข้า หากอยู่ข้างนอก ผู้บัญชาการคนนี้จะสังหารเจ้าด้วยดาบเสีย!”

“งั้นหรือ!”

หนิงฝานไม่สนใจคำขู่ของกู่จิ่วเฟิ่ง ในสายตาของเขาค่อย ๆ เผยแววบ้าคลั่ง จากนั้นก็ตะโกนว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้โอกาสนี้แก่เจ้า!”

ตู้ม!

ทันทีทันใด หนิงฝานควบคุมเศษชิ้นส่วนของโลก และกระแทกเข้ากับโลกเศษส่วนซึ่งเป็นที่ตั้งของหอเซียนอย่างรวดเร็ว

“หืม?!”

“บัดซบ!”

“เจ้ากำลังทำอันใด!”

“เจ้าอยากตายงั้นหรือ!”

“เมื่อทั้งสองโลกปะทะกัน เจ้าจะถูกพายุห้วงมิติบีบเจ้าให้เข้าสู่ความว่างเปล่าทันที!”

เมื่อเห็นการกระทำอุกอาจของหนิงฝาน สตรีวัยกลางคนที่กำลังเย้ยหยันพลันตกใจขึ้นมา

และกองกำลังขององค์ราชันทั้งแปดก็ตกตะลึงเช่นกัน!

เมื่อทั้งสองโลกปะทะกัน พายุห้วงมิติปั่นป่วน เศษโลกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ของพวกเขาย่อมไม่อาจรับไหว

“บัดซบ!”

“เจ้าจะทำอันใด!”

“อยากตายก็ไม่ต้องดึงพวกข้าไปด้วยหรอกนะ!”

“หยุดนะ ไอ้สารเลว!”

“นี่มันคนบ้าชัด ๆ!”

“…”

ผู้คนจากกองกำลังหลักทั้งแปดก็ตะโกนด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาของพวกเขาสั่นไหว!

ทว่าหนิงฝานไม่สนใจการต่อต้านของทุกคน เขายังคงจ้องไปที่กู้จิ่วเฟิ่งตาเขม็ง

“บอกข้ามาว่านางอยู่ที่ใด!” หนิงฝานถาม!

“ไม่รู้!”

ท่าทางของกู้จิ่วเฟิ่งนั้นแข็งกร้าวมาก จากนั้นเขาก็พูดประชดประชัน “ข้าไม่เชื่อ เจ้ากล้าที่จะชนมันจริง ๆ!”

“เช่นนั้นหรือ ก็ลองดูว่าข้ากล้าหรือไม่!!”

หนิงฝานแสยะยิ้ม และเพิ่มความเร็วอีกครั้งทันที!

โลกพุ่งไปอย่างรวดเร็วส่งเสียงดังโครมครามลากยาวไปเป็นทาง!

เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้จิ่วเฟิ่งไม่สามารถหยุดขมวดคิ้วได้ แต่นางยังคงเย็นชาและนิ่งเงียบ!

เมื่อเห็นนางไม่พูดอะไร หนิงฝานก็เตรียมพร้อมที่จะโจมตี!

“ข้าจะถามอีกครั้งว่า นางอยู่ที่ใด!”

“ข้าจะตอบอีกครั้งว่า ไม่รู้!”

“ที่ใด!”

“ไม่รู้!”

หนิงฝานและกู้จิ่วเฟิ่งไม่มีใครยอมยอม ฝั่งหนึ่งพนันว่านางไม่กล้าพูด อีกฝั่งพนันว่าเขาไม่กล้าลงมือ!

แต่เมื่อโลกทั้งสองเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจากกองกำลังหลักทั้งแปดที่อยู่ด้านข้าง เป็นคนกลุ่มแรกที่ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้

“บัดซบ!”

“ท่านทั้งสอง!”

“อย่าทำเช่นนี้ หากทำเช่นนี้ พวกเราจะพลอยตายกันหมด!”

“องค์ราชันหนิง อย่าถามเลย อย่าถามอีกเลย!”

“หอเซียน เจ้าบอกเขา บอกเขาไปสิ!”

“บัดซบ! เรากำลังจะถูกโจมตี เรากำลังจะถูกโจมตี!”

“…”

ท่ามกลางเสียงตื่นตระหนกของผู้คนจากกองกำลังหลักทั้งแปด ทั้งสองโลกก็เข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ!

ล้านจั้ง!

แสนจั้ง!

หมื่นจั้ง!

ใกล้แล้ว!

ใกล้เข้ามาแล้ว!

“ในเมื่อเจ้าไม่พูด ข้าก็จะถือว่าชิงเซียนตายแล้ว ข้าจะให้เจ้าถูกฝังไปพร้อมกับนาง!!”

ราวกับหนิงฝานบ้าคลั่งไปแล้ว ตัวเขาหมายจะควบคุมโลกให้พุ่งชนเข้าไปเต็มกำลัง

เมื่อเห็นเช่นนี้ คิ้วของสตรีวัยกลางคนพลันกระตุกอย่างรุนแรง กลิ่นอายแห่งความตายพลุ่งพล่าน และร่างกายของนางก็รู้สึกเย็นยะเยือก!

หึ่ง!

ในเวลานี้เอง กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกพุ่งออกมาจากรถม้าที่เงียบงันมาโดนตลอดอย่างกะทันหัน!

“แย่แล้ว!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้จิ่วเฟิ่งตัวสั่นเทาทันที นางรู้ว่าคนในรถม้าเซียนกำลังโกรธและไม่พอใจตน!

“อ๊า!”

เมื่อเห็นเช่นนั้น กู้จิ่วเฟิ่งก็เปล่งเสียงตะโกนทันที และรีบพูดว่า “ข้าจะบอกเจ้า!”

ทว่าหนิงฝานดูเหมือนจะไม่ได้ยินและยังคงพุ่งเข้ามา ตอนนี้เอง สีหน้าของกู้จิ่วเฟิ่งเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง!

เพราะไม่สำคัญว่านางจะตายหรือไม่ แต่เป็นเพราะถ้าการตายของนางทำให้คนในรถม้าเซียนตาย ต่อให้นางตายไป นางก็ไม่อาจจะรอดพ้นจากเงื้อมมือมาร!

“หยุด!”

“หยุดเดี๋ยวนี้!”

“บัดซบ!”

“อ๊า!!”

ตู้ม!

ตามด้วยเสียงคำราม ในที่สุดเมื่อระยะห่างระหว่างโลกทั้งสองห่างกันไม่ถึงสิบจั้ง หนิงฝานก็หยุดโลกทันทีด้วยพลังอันมหาศาล!

ตึง!

กู้จิ่วเฟิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากจนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ร่างกายเกือบจะทรุดลงกับพื้น

เห็นได้ชัดว่าในการประลองที่ไร้เสียงนี้ นางแพ้แล้ว!

เว้นแต่กู้จิ่วเฟิ่ง ทุกคนในที่แห่งนี้ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลท่วม หัวใจของพวกเขาเต้นแรง!

“หึหึ!”

หนิงฝานเย้ยหยัน จากนั้นเอ่ยถามว่า “บอกข้ามา ตอนนี้นางอยู่ที่ใด!”

สีหน้าของหนิงฝานยังคงบ้าคลั่ง ราวกับว่าหากเขาไม่ได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ เขาจะทำให้มันชนกันทันที

“ข้า…”

กู้จิ่วเฟิ่งอยากจะบอกว่านางไม่รู้จริง ๆ แต่เมื่อเห็นความบ้าคลั่งบนใบหน้าของหนิงฝานนางจึงเปลี่ยนคำพูดทันที “ในหอเซียน! นางอยู่ในหอเซียน!”

“หอเซียนอยู่ที่ใด” หนิงฝานถามต่อ

“เหนือสวรรค์ทั้งเก้า!” กู้จิ่วเฟิ่งตอบด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม

“เหนือสวรรค์ทั้งเก้า?” หนิงฝานเลิกคิ้ว จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “พาข้าไปหานาง!”

“ตอนนี้ข้าไปไม่ได้ บุปผาตี้ลั่วบานน้อยกว่าร้อยปี และไม่มีใครสามารถออกจากยุคตี้ลั่วได้!” กู่จิ่วเฟิงกล่าว สีหน้าของนางค่อย ๆ ฟื้นตัว

เห็นได้ว่า หลังจากที่หนิงฝานได้ยินเกี่ยวกับที่อยู่ของหลัวชิงเซียน ความบ้าคลั่งบนใบหน้าของเขาก็จางหายไปนานแล้ว

เขาไม่ได้กระทำการบ้า ๆ บอ ๆ ดั่งเมื่อครู่อีกแล้ว!

หลังจากคิดได้เช่นนี้ กู้จิ่วเฟิ่งก็ฟื้นคืนสติและพูดว่า “แน่นอน ถ้าเจ้าต้องการออกจากยุคตี้ลั่วเพื่อตามหานางให้เร็วที่สุด เจ้าสามารถเข้าร่วมกับเราเพื่อเปิดประตูนี้ และตราบใดที่เจ้าเข้าไป ในโลกนี้ข้ามีวิธีให้เจ้าได้เจอนางทันที!”

“จริงหรือ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างอดไม่ได้

“เจ้าไม่ต้องเชื่อก็ได้!”

กู้จิ่วเฟิ่งฟื้นคืนความสงบ ไอสังหารที่ริบหรี่ในใจของนางสั่นไหว คล้ายกับตั้งใจแน่วแน่ว่า เมื่อนางรอดพ้นจากการคุกคามของพายุ นางจะฆ่าหนิงฝานทันที!

“ข้าจะเชื่อใจเจ้าสักครั้ง!”

หนิงฝานตอบอย่างเย็นชา เขาเดาได้อย่างเป็นธรรมชาติว่ากู้จิ่วเฟิ่งกำลังคิดอะไร และเขาก็มีความคิดแบบเดียวกัน เมื่อเข้าไปข้างในกู้จิ่วเฟิ่งจะถูกเขาจัดการทันที เขาจะสอบสวนนางอย่างหนัก!

“ฮ่าฮ่า ถูกต้อง!”

“ถูกต้องแล้ว!”

“ต่างก็มาเพื่อล่าสมบัติ ความสงบสุขถือเป็นสิ่งสำคัญ!”

เมื่อเห็นว่าในที่สุดหนิงฝานกับกู้จิ่วเฟิ่งหยุดเผชิญหน้ากัน องค์ราชันของกองกำลังทั้งแปดก็แอบเช็ดเหงื่อเย็น ๆ จากหน้าผากของพวกเขา

แน่นอนว่า ในใจลึก ๆ ของพวกเขาต่างมีความปรารถนาที่จะฆ่าหนิงฝานเช่นกัน แต่พวกเขาไม่กล้า!

ในที่สุด องค์ราชันทั้งแปดก็พูดว่า “มา มา มา เรามาร่วมมือกันเพื่อเปิดประตูนี้กันเถอะ!”

หลังจากนั้นกลุ่มกองกำลังก็ระดัมกำลังโจมตีต่อไป ทีละนิดเพื่อขจัดพลังที่ประตูพิภพ!

“ไม่ต้อง!”

ทว่าในเวลานี้เอง หนิงฝานตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ชักกระบี่ออกมาฟาดฟัน

ตู้ม!

เมื่อแสงกระบี่ทะลุผ่านอากาศและฟันไปที่ประตูพิภพ เจตจำนงที่แท้จริงของตี้ลั่วก็เปล่งประกาย!

ฉับพลันนั้น เมื่อเจตจำนงที่แท้จริงของตี้ลั่วเปล่งประกาย พลังงานอันไร้ขอบเขตบนประตูก็หายไปราวกับความฝัน!

กึก!

ในท้ายที่สุด เมื่อพลังงานทั้งหมดกระจายไปจนหมด ประตูพิภพที่ปิดสนิทก็—— เปิดออก!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *