สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 14

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 14 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้รับผิดชอบบัญชาการกองทัพของอาณาจักรเฟอร์เรียสที่เข้าสนับสนุนไมยาร์ดคือ วินส์ตัน เฟอร์เรียส ที่ซึ่งเป็นสมาชิคของราชวงศ์ด้วย

วินส์ตันได้จบจากโรงเรียนทหารในระดับสูงท่ามกลางผู้อื่น เขาเป็นคนมีความสามารถที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการในสงคราม โดยไม่ต้องพิจการณาถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นผู้มีสิทธิในราชสมบัติ เป็นอันดับ 2 แม้แต่นิด

เขามีความสามารถในการจัดการกลุ่ม และทักษะส่วนบุคคลของเขาก็ดีพอๆ กับอัศวินเนื่องจากการศึกษาในวัยเด็กของเขา  เขามีประสบการณ์กับทุกอย่างตั้งแต่การต่อสู้จนถึงการการรบภาคสนามแบบเต็มรูปแบบ และก็ได้รับความไว้ใจในการส่งเขาไปเป็นผู้บัญชาการ

ที่ปรึกศาและนายพลที่คอยช่วยเหลือเขานั้นทั้งหมดมีความสามารถและเป็นหัวกะทิที่ประสบการณ์มากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของวินส์ตันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกร้อนใจ

“โมเมนตัมของศัตรูยังคงไม่หยุดลง!!”

“รั้วกันม้าถูกจัดการ และศัตรูกำลังเข้ามาที่นี่แล้ว”

วินส์ตันกัดฟันในขณะที่ข่าวร้ายเข้ามาเรื่อยๆ

“ถ้าแค่ทหารม้ายังดี แต่นี่มีทหารราบที่ผสานมาด้วยกว่า 6 กม. ทำไมเราถึงโดนผลักกลับเช่นนี้!?”

เป็นไปไม่ได้  ใช่มันดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่วินส์ตันจำเป็นต้องจัดลำดับในสถานการณ์นี้
ในตอนแรกกองทัพไมยาร์ดที่ผสมกับกองอาสานั้นไม่เหมาที่จะทำสงครามเคลื่อนที่ชั้นสูง

ดังนั้นการตั้งรับที่เนินเขาระหว่างทางสู่เมืองหลวงไมยาร์ด มันจึงแข็งแกร่งขึ้นจากการประชุมกลยุทธ์ก่อนหน้านี้  และกองทัพไฮ์เซิร์คก็ได้เข้าไปติดกับของไมยาร์ดและเฟอร์เรียสและถูกขังไว้และกำลังสร้างวงล้อมเพื่อที่จะทำลายกองทัพของมัน นั่นคือแผน

ตามที่คาดไว้ศัตรูโจมตีไมยาร์ดที่เต็มไปด้วยทหารที่อ่อนแอก่อน และแนวหน้าก็ถูกหยุดลงและไม่สามารถผลักดันไมยาร์ดที่เสริมการป้องกันได้

วันส์ตันคิดว่าเขาจะไม่มีวันแพ้เมื่อเขาปิดล้อมกองทัพหลักของศัตรูครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้นั้นเขากำลังมีปัญหา

วันส์ตันและเหล่านายพลคาดว่าจะมีเพียงทหารม้าเท่านั้นที่อาจมาโจมตีที่ค่าย ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งรั้วกันม้าเพื่อป้องกันและเตรียมทหาร2000 นายเป็นกองหนุน

กองทัพเฟอร์เรียสต่างจากไมยาร์ดตรงที่เต็มไปด้วยทหารประจำการที่ได้รับการฝึกฝนขั้นพื้นฐาน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นทหารไฮเซิร์คที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย แต่พวกเขาก็ควรต่อกรกับพวกมันได้

วินส์ตัน ไม่เคยได้ยินมาก่อนที่ทหารราบเบาจะผสานมากับทหารม้า  แม้มันจะเป็นไปได้ที่จะตามทหารม้ามาแต่พวกเขาก็จะเหนื่อยล้าและอยู่ในสภาพที่ไม่สมารถต่อสู้ได้ดี

แต่กองทัพไฮเซืร์คนั้นก็รู้ดี

กองทหารราบไมยาร์ดที่ฝั่งซ้ายถูกโจมตีโดยทหารม้าและในขณะที่เฟอร์เรียสที่ตั้งรับอยู่บนเนินเขาก็จะถูกบดขยี้

“… อันตรายแล้วท่านวินส์ตัน เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเข้าร่วมกับกองพันสุดท้าย”

หนึ่งในนักยุทธศาสตร์ตั้งใจที่จะเกลี้ยกล่อมวินส์ตัน

“อย่ามาพูดบ้าๆ นายกำลังบอกให้ฉันละทิ้งค่ายแล้วหนีไปเรอะ”

ที่ปีกขวา กองทัพหลักยังคงโจมตีต่อไป ถ้าหากละทิ้งค่ายไปและเนินจะเปิดออก กองทัพหลักจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันเป็นข้อเสนอที่ยอมรับไม่ได้สำหรับวินส์ตัน

“หากผู้บัญชาการถูกสังหารสายบังคับบัญชาจะพังทลายลง ตอนนี้เราควรยอมแพ้ที่เนินเขาและค่อยตั้งกองทัพขึ้นมาใหม่!!”

“อ่าา…”

วินส์ตันลังเลในความเห็นของนักยุทธศาสตร์และคร่ำครวญ ศัตรูคือกลุ่มคนกว่า4000 นาย ตราบใดที่กองพันเข้าร่วมก็ยังคงทนต่อไปได้  ที่ปีกซ้ายทหารราบไมยาร์ดยังคงรักษาความสามารถในการต่อสู้ไว้ได้เนื่องจากศัตรูให้ความสำคัญกับความเร็วเป็นอันดับแรก ถ้าสามารถซื้อเวลาได้เฟอร์เรียสจะได้รับชัยชนะแน่

วินส์ตันไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันที หากเขาละทิ้งเนินเขานี้ไปชัยชนะก็จะยิ่งหากไกลยื่งขึ้น

เสียงของเวทมนตร์ยังคงก้องกังวานในแนวหน้า เสียงกรีดร้องที่ดังไปพร้อมกับสายลมเสียงนั่นจะต้องเป็นของทหารเฟอร์เรียสแน่ ในฐานะทหารและราชวงศ์วินสตันไม่สามารถตัดสินใจได้

ทหารที่โชกไปด้วยเลือดได้รับเข้ามาในข้างใน

“นี่มันอะไกัน? นายอยู่ต่อหน้าท่านวินส์ตันนะรู้ไหม!?”

ทหารรายงานต่อไปโดยไม่สนใจอัศวินที่ตำนิ

“รั้วกันม้าถูกทำลายแล้ว ทหารม้าศัตรูกำลังบุกมาที่นี่ เราไม่สามารถกัน ไว้ได้อีกต่อไป!!”

รายงานนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนที่นี่สิ้นหวัง

“ท่านวินส์ตัน เราต้องรีบไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้ว”

คนแรกที่ตอบสนองคิอทหารที่อยู่ใต้วินส์ตันโดยตรง

“พาท่านไป!”

ก่อนที่วินส์ตันจะได้ตัดสินใจทหารและนักยุทธศาสตร์ได้ผลักวินส์ตันและพาเขาออกจากกองบัญชาการ

“เตรียมตัวล่อซะ พวกมันเข้าใกล้เราแล้ว”

แล้วเต็นท์ของค่ายหลักได้ถูกระเบิดออกและศัตรูก็กำลังบุกมาหาวินส์ตัน

“ทำอะไรสักอย่าง หยุดพวกมันซะ!!”

“พวกมันมาแล้ว ไอ้พวกทหารนั่น”

ในสายตาของวินส์ตันเขาเห็นองครักษ์ที่เข้าไว้วางใจอย่างมากถูกทหารธรรมดาของศัตรูจัดการ

คนหนึ่งเป็นคนที่่มีกล้ามหนา แต่อีกคนหนึ่งนั้นตราตรึงวินส์ตัน เป็นเพราะเขาเป็นชายธรรมดาที่ดูไม่เป็นอันตรายแต่เขากก็เปิดใช้งานทักษะและฟันองครักษ์พร้อมกับชุดเกราะ

“ท ทหารไฮเซิร์คช่างน่าเกรงขามจริงๆ

วันส์ตันรับรู้ได้ทันทีว่าถ้าเป็นการต่อสู้ตันสินกันในที่ราบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะ ถ้าหากแม้แต่ทหารธรรมดาก็มีทักษะแบบนั้น และเขาควรตั้งรับในศึกปิดล้อมใกล้กับเมืองหลวกของไมยาร์ด ไอเดนเบิร์กแทน

องครักษ์กำลังพยายามเพื่อที่จะให้วินส์ตันนายของพวกเขาหนีไปได้ แต่ปัญหาคือคนบางคนที่สามารถคว่ำกลยุทธ์และสามารถจัดการกับความต่างกว่าหลายสิบได้

วินส์ตันได้รู้สึกร้อนที่หลังของเขาและทันทีที่เขาพยายามหันมองเขาก็สังเกตุว่าทหารที่อยู่ฝั่งซ้ายและขวาของเขากำลังมาบังเขาอยู่ ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีฟ้าอันดุเดือดก็กระจายไปทั่วด้วยความร้อนมหาศาล

“อ-อะไรนะ…W

วินส์ตันตกตะลึงที่ได้เห็นเปลวเพลิงที่ผสมกับลมนั่น ทหารที่พยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องวินส์ตันได้ถูกเพลิงกลืนกินและพยายามแกว่งแขนขาไปมาราวกับกำลังเต้นลำแล้วจากนั้นก็หยุดนิ่งลง

ทหารที่อยู่ด้านหลังวินส์ตันถูกเผาไปครึ่งหนึ่งและกำลังอ้าปากพะงาบๆ

“ไม่ เราจะปด้วยกัน!!”

วินส์ตันได้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆในสนามรบ เมื่อทหารอาวุโสที่เป็นผู้สอนของเขาได้บอกไว้

『”ถ้าคุนได้เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าในสนามรบ เพลิงนั่นคือเพลิงที่จะนำไปสู่ประตูแห่งนรก และถ้าได้รับเชิญจากสิ่งนั้น สิ่งที่รออยู่ก็คือความตาย ชื่อของมันก็คือ――”』

ตอนแรกวินส์ตันคิดว่ามันเป็นเพียงความเชื่อหรือตำนานแต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นจริงกับเขา

“ป…《เพลิงปีศาจ》   TN《Demon Fire》《鬼火》(Onibi)

ศัตรูที่ครอบครองทักษะนั้นคือทหารทั่วไปที่ไม่มีอะไรพิเศษ และกำลังเดินเข้ามาใกล้อย่างสงบท่านกลางเหล่าทหารที่ถูกไฟลุด

“เหลือแค่แกเท่านั้น…ไอ้ผู้บัญชาการ”

ชายคนนั้นได้พูดกับวินส์ตันโดยไม่ได้มีการแสดงออกเป็นพิเศษราวกับกำลังมองไปที่วัชพืชที่รกตา

****
จบไปแล้วกับตอนที่14 แล้วก็ออกมาแล้วสำหรับชื่อของทักษะใหม่ 《เพลิงปีศาจ》,《Demon Fire》,《鬼火》(Onibi) หรือใครได้ชื่อเท่กว่านี้บอกได้นะครับ แล้วก็อีกไม่กี่ตอนก็ทันมังงะแล้ว
จริงๆลงไปแล้งรอบแล้วไปกินข้าว แต่พอมาเปิดดูเอ้า ไม่ครบ ทำไงแปลใหม่สิ นั่นแหละครับถึงช้า แล้วก็
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆComment ครับ
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
ภาพจาก Blue Exocist 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 14

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 14 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้รับผิดชอบบัญชาการกองทัพของอาณาจักรเฟอร์เรียสที่เข้าสนับสนุนไมยาร์ดคือ วินส์ตัน เฟอร์เรียส ที่ซึ่งเป็นสมาชิคของราชวงศ์ด้วย

วินส์ตันได้จบจากโรงเรียนทหารในระดับสูงท่ามกลางผู้อื่น เขาเป็นคนมีความสามารถที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการในสงคราม โดยไม่ต้องพิจการณาถึงความจริงที่ว่าเขาเป็นผู้มีสิทธิในราชสมบัติ เป็นอันดับ 2 แม้แต่นิด

เขามีความสามารถในการจัดการกลุ่ม และทักษะส่วนบุคคลของเขาก็ดีพอๆ กับอัศวินเนื่องจากการศึกษาในวัยเด็กของเขา  เขามีประสบการณ์กับทุกอย่างตั้งแต่การต่อสู้จนถึงการการรบภาคสนามแบบเต็มรูปแบบ และก็ได้รับความไว้ใจในการส่งเขาไปเป็นผู้บัญชาการ

ที่ปรึกศาและนายพลที่คอยช่วยเหลือเขานั้นทั้งหมดมีความสามารถและเป็นหัวกะทิที่ประสบการณ์มากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของวินส์ตันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกร้อนใจ

“โมเมนตัมของศัตรูยังคงไม่หยุดลง!!”

“รั้วกันม้าถูกจัดการ และศัตรูกำลังเข้ามาที่นี่แล้ว”

วินส์ตันกัดฟันในขณะที่ข่าวร้ายเข้ามาเรื่อยๆ

“ถ้าแค่ทหารม้ายังดี แต่นี่มีทหารราบที่ผสานมาด้วยกว่า 6 กม. ทำไมเราถึงโดนผลักกลับเช่นนี้!?”

เป็นไปไม่ได้  ใช่มันดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่วินส์ตันจำเป็นต้องจัดลำดับในสถานการณ์นี้
ในตอนแรกกองทัพไมยาร์ดที่ผสมกับกองอาสานั้นไม่เหมาที่จะทำสงครามเคลื่อนที่ชั้นสูง

ดังนั้นการตั้งรับที่เนินเขาระหว่างทางสู่เมืองหลวงไมยาร์ด มันจึงแข็งแกร่งขึ้นจากการประชุมกลยุทธ์ก่อนหน้านี้  และกองทัพไฮ์เซิร์คก็ได้เข้าไปติดกับของไมยาร์ดและเฟอร์เรียสและถูกขังไว้และกำลังสร้างวงล้อมเพื่อที่จะทำลายกองทัพของมัน นั่นคือแผน

ตามที่คาดไว้ศัตรูโจมตีไมยาร์ดที่เต็มไปด้วยทหารที่อ่อนแอก่อน และแนวหน้าก็ถูกหยุดลงและไม่สามารถผลักดันไมยาร์ดที่เสริมการป้องกันได้

วันส์ตันคิดว่าเขาจะไม่มีวันแพ้เมื่อเขาปิดล้อมกองทัพหลักของศัตรูครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้นั้นเขากำลังมีปัญหา

วันส์ตันและเหล่านายพลคาดว่าจะมีเพียงทหารม้าเท่านั้นที่อาจมาโจมตีที่ค่าย ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งรั้วกันม้าเพื่อป้องกันและเตรียมทหาร2000 นายเป็นกองหนุน

กองทัพเฟอร์เรียสต่างจากไมยาร์ดตรงที่เต็มไปด้วยทหารประจำการที่ได้รับการฝึกฝนขั้นพื้นฐาน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นทหารไฮเซิร์คที่มีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย แต่พวกเขาก็ควรต่อกรกับพวกมันได้

วินส์ตัน ไม่เคยได้ยินมาก่อนที่ทหารราบเบาจะผสานมากับทหารม้า  แม้มันจะเป็นไปได้ที่จะตามทหารม้ามาแต่พวกเขาก็จะเหนื่อยล้าและอยู่ในสภาพที่ไม่สมารถต่อสู้ได้ดี

แต่กองทัพไฮเซืร์คนั้นก็รู้ดี

กองทหารราบไมยาร์ดที่ฝั่งซ้ายถูกโจมตีโดยทหารม้าและในขณะที่เฟอร์เรียสที่ตั้งรับอยู่บนเนินเขาก็จะถูกบดขยี้

“… อันตรายแล้วท่านวินส์ตัน เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากเข้าร่วมกับกองพันสุดท้าย”

หนึ่งในนักยุทธศาสตร์ตั้งใจที่จะเกลี้ยกล่อมวินส์ตัน

“อย่ามาพูดบ้าๆ นายกำลังบอกให้ฉันละทิ้งค่ายแล้วหนีไปเรอะ”

ที่ปีกขวา กองทัพหลักยังคงโจมตีต่อไป ถ้าหากละทิ้งค่ายไปและเนินจะเปิดออก กองทัพหลักจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก มันเป็นข้อเสนอที่ยอมรับไม่ได้สำหรับวินส์ตัน

“หากผู้บัญชาการถูกสังหารสายบังคับบัญชาจะพังทลายลง ตอนนี้เราควรยอมแพ้ที่เนินเขาและค่อยตั้งกองทัพขึ้นมาใหม่!!”

“อ่าา…”

วินส์ตันลังเลในความเห็นของนักยุทธศาสตร์และคร่ำครวญ ศัตรูคือกลุ่มคนกว่า4000 นาย ตราบใดที่กองพันเข้าร่วมก็ยังคงทนต่อไปได้  ที่ปีกซ้ายทหารราบไมยาร์ดยังคงรักษาความสามารถในการต่อสู้ไว้ได้เนื่องจากศัตรูให้ความสำคัญกับความเร็วเป็นอันดับแรก ถ้าสามารถซื้อเวลาได้เฟอร์เรียสจะได้รับชัยชนะแน่

วินส์ตันไม่สามารถตัดสินใจได้ในทันที หากเขาละทิ้งเนินเขานี้ไปชัยชนะก็จะยิ่งหากไกลยื่งขึ้น

เสียงของเวทมนตร์ยังคงก้องกังวานในแนวหน้า เสียงกรีดร้องที่ดังไปพร้อมกับสายลมเสียงนั่นจะต้องเป็นของทหารเฟอร์เรียสแน่ ในฐานะทหารและราชวงศ์วินสตันไม่สามารถตัดสินใจได้

ทหารที่โชกไปด้วยเลือดได้รับเข้ามาในข้างใน

“นี่มันอะไกัน? นายอยู่ต่อหน้าท่านวินส์ตันนะรู้ไหม!?”

ทหารรายงานต่อไปโดยไม่สนใจอัศวินที่ตำนิ

“รั้วกันม้าถูกทำลายแล้ว ทหารม้าศัตรูกำลังบุกมาที่นี่ เราไม่สามารถกัน ไว้ได้อีกต่อไป!!”

รายงานนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนที่นี่สิ้นหวัง

“ท่านวินส์ตัน เราต้องรีบไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้ว”

คนแรกที่ตอบสนองคิอทหารที่อยู่ใต้วินส์ตันโดยตรง

“พาท่านไป!”

ก่อนที่วินส์ตันจะได้ตัดสินใจทหารและนักยุทธศาสตร์ได้ผลักวินส์ตันและพาเขาออกจากกองบัญชาการ

“เตรียมตัวล่อซะ พวกมันเข้าใกล้เราแล้ว”

แล้วเต็นท์ของค่ายหลักได้ถูกระเบิดออกและศัตรูก็กำลังบุกมาหาวินส์ตัน

“ทำอะไรสักอย่าง หยุดพวกมันซะ!!”

“พวกมันมาแล้ว ไอ้พวกทหารนั่น”

ในสายตาของวินส์ตันเขาเห็นองครักษ์ที่เข้าไว้วางใจอย่างมากถูกทหารธรรมดาของศัตรูจัดการ

คนหนึ่งเป็นคนที่่มีกล้ามหนา แต่อีกคนหนึ่งนั้นตราตรึงวินส์ตัน เป็นเพราะเขาเป็นชายธรรมดาที่ดูไม่เป็นอันตรายแต่เขากก็เปิดใช้งานทักษะและฟันองครักษ์พร้อมกับชุดเกราะ

“ท ทหารไฮเซิร์คช่างน่าเกรงขามจริงๆ

วันส์ตันรับรู้ได้ทันทีว่าถ้าเป็นการต่อสู้ตันสินกันในที่ราบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะ ถ้าหากแม้แต่ทหารธรรมดาก็มีทักษะแบบนั้น และเขาควรตั้งรับในศึกปิดล้อมใกล้กับเมืองหลวกของไมยาร์ด ไอเดนเบิร์กแทน

องครักษ์กำลังพยายามเพื่อที่จะให้วินส์ตันนายของพวกเขาหนีไปได้ แต่ปัญหาคือคนบางคนที่สามารถคว่ำกลยุทธ์และสามารถจัดการกับความต่างกว่าหลายสิบได้

วินส์ตันได้รู้สึกร้อนที่หลังของเขาและทันทีที่เขาพยายามหันมองเขาก็สังเกตุว่าทหารที่อยู่ฝั่งซ้ายและขวาของเขากำลังมาบังเขาอยู่ ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีฟ้าอันดุเดือดก็กระจายไปทั่วด้วยความร้อนมหาศาล

“อ-อะไรนะ…W

วินส์ตันตกตะลึงที่ได้เห็นเปลวเพลิงที่ผสมกับลมนั่น ทหารที่พยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องวินส์ตันได้ถูกเพลิงกลืนกินและพยายามแกว่งแขนขาไปมาราวกับกำลังเต้นลำแล้วจากนั้นก็หยุดนิ่งลง

ทหารที่อยู่ด้านหลังวินส์ตันถูกเผาไปครึ่งหนึ่งและกำลังอ้าปากพะงาบๆ

“ไม่ เราจะปด้วยกัน!!”

วินส์ตันได้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆในสนามรบ เมื่อทหารอาวุโสที่เป็นผู้สอนของเขาได้บอกไว้

『”ถ้าคุนได้เห็นเปลวเพลิงสีฟ้าในสนามรบ เพลิงนั่นคือเพลิงที่จะนำไปสู่ประตูแห่งนรก และถ้าได้รับเชิญจากสิ่งนั้น สิ่งที่รออยู่ก็คือความตาย ชื่อของมันก็คือ――”』

ตอนแรกวินส์ตันคิดว่ามันเป็นเพียงความเชื่อหรือตำนานแต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นจริงกับเขา

“ป…《เพลิงปีศาจ》   TN《Demon Fire》《鬼火》(Onibi)

ศัตรูที่ครอบครองทักษะนั้นคือทหารทั่วไปที่ไม่มีอะไรพิเศษ และกำลังเดินเข้ามาใกล้อย่างสงบท่านกลางเหล่าทหารที่ถูกไฟลุด

“เหลือแค่แกเท่านั้น…ไอ้ผู้บัญชาการ”

ชายคนนั้นได้พูดกับวินส์ตันโดยไม่ได้มีการแสดงออกเป็นพิเศษราวกับกำลังมองไปที่วัชพืชที่รกตา

****
จบไปแล้วกับตอนที่14 แล้วก็ออกมาแล้วสำหรับชื่อของทักษะใหม่ 《เพลิงปีศาจ》,《Demon Fire》,《鬼火》(Onibi) หรือใครได้ชื่อเท่กว่านี้บอกได้นะครับ แล้วก็อีกไม่กี่ตอนก็ทันมังงะแล้ว
จริงๆลงไปแล้งรอบแล้วไปกินข้าว แต่พอมาเปิดดูเอ้า ไม่ครบ ทำไงแปลใหม่สิ นั่นแหละครับถึงช้า แล้วก็
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆComment ครับ
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
ภาพจาก Blue Exocist 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+