สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 21

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 21 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรวรรดิไฮเซิร์ค นั้นเป็นหนึ่งในประเทศเล็กๆที่ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ที่มีประเทศ กษัตริย์ และขุนนางนับไม่ถ้วน

สงครามครั้งแรกหลังจากก่อตั้งประเทศนั้นได้รับการกล่าวว่าเป็นศึกป้องกัน และเมื่อกองกำลังหลักศัตรูถูกดึงเข้าไปในอาณาเขตของไฮเซิร์ค พวกเขาทั้งหมดก็ถูกทำลายในสงคราม

จักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ ยังคงมีโมนตัมและได้ผนวกดินแดนของประเทศที่เข้ามาโจมตี

ความสมดุลของอำนางนั้นได้ตอกย้ำกับพื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยประเทศเล็กๆ และประเทศเพื่อนบ้านก็ได้ร่วมมือกันเพื่อบุกรุกจักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่โผล่ออกมาและทำให้สมดุลยุ่งเหยิง แต่หลังจากทำสงครามมานานหลายทศวรรษ มีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ในตอนจบ จักรวรรดิไฮเซิร์ค

แต่จากมุมมองของประเทศขนาดกลางแล้ว มันก็แค่ประเทศขี้เหร่เล็กๆที่อาละวาดท่ามกลางพวกมันเอง

ในตอนแรก ทุกๆประเทศรู้สึกอย่างนั้น ที่แรกที่สังเกตุเห็นอุบัติการณ์นั่นคือสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ ที่หนึ่งในรัฐข้าราชบริพารได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้และได้เข้ามาเสริมกำลัง

ลิเบอริโต้ส่งกองกำลังไป 10,000 นาย ที่อาจเรียกได้ว่ามากเกินไป รวมกับจำนวนกองกำลังของรัฐข้าราชบริพารแล้ว ก็จะมี 15,000 นาย สำหรับไฮเซิร์คนั้นมีน้อยกว่ามีแค่ครึ่งเดียวของนั่นเท่านั้น และสนามรบยังได้เปรียบสำหรับลิเบอริโต้ และจะจบลงด้วยชัยชนะครั้งใหญ่ นั่นคิอสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ผลลัพธ์คือความพ่ายแพ้อย่างร้ายแรงของลิเบอริโต้ และรัฐราชบริพารยังต้องยกดินแดนบางส่วนให้ไฮเซิร์ค

จากนั้นลิเบอริโต้ก็ได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับไฮเซิร์คหลังจากที่ได้ลิ้มรสความแข็งแกร่งของทหารที่คาดไม่ถึงและความคุ้นเคยของสงครามของพวกเขาอย่างไร และถูกบังคับให้ต้องจ่ายรางวัลอย่างสูงให้กับไฮเซิร์ค มันเป็นพลังที่ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะซ่อนอยู่ในประเทศเล็กๆ

และต่อไปที่ได้สังเกตุเห็นคืออาณาจักรคาโนอา ขุนนางที่ครอบชายแดน นั้นถูกรบกวนจากไฮเซิรคที่กำลังขยายตัว และจากนั้นก็ได้เข้าปะทะกับไฮเซิร์คที่ได้ควบคุมแม่น้ำ

การต่อสู้นั้นจบลงเพียงเค่ 6 วันเท่านั้น และดินแดนทั้งหมดของขุนนางท้องถิ่นนั่นก็ได้หายไป ขุนนางและทั้งครอบครัวของเขานั้นถูกฆ่า และดินแดนก็ถูกยึดไปโดยไฮเซิร์ค

ทีนี้ ประเทศรอบๆ อาณาจักรเฟอร์เรียสและอาณาจักรเครสท์ก็ได้ร่วมเป็นสักขีพยานถึงภัยคุกคามของจักรวรรดิไฮเซิร์ค แต่เนื่องจากพวกเขายินดีที่จะให้ประเทศขนาดกลางเช่นกันนั้นอ่อนแอลงโดยผู้มาใหม่ พวกเขานั้นไม่ต้องการที่จะให้ความร่วมมือหรือการสนับสนุนแก่อาณาจักรคาโนอา  และอื่นๆที่อยู่รอบๆ

หลังจากนั้น ที่แนวหน้าของไฮเซิร์ค ที่ได้มีศึกป้องกันและได้มีเหตุผลที่จะโจมตี อาณาจักรคาโนอาก็ได้มาถึงจุดลบ

และตอนนี้ ที่แม้แต่ไมยาร์ดก็ได้ยอมจำนนต่อจักรวรรดิไฮเซิร์ค แล้วประเทศขนาดกลางที่เหลืออยู่ในตอนเหนือก็ได้เหลือแค่สามประเทศ และตอนนี้ดินแดนของจักรวรรดิไฮเซิร์คก็ได้เป็นมากว่าประเทศขนาดกลาง และก็ไม่รู้ว่าจักวรรดิไฮเซิร์คจะเติบโต่และขยายดินแดนไปไกลแค่ไหน

อาณาเขตุที่มีเคยมีขนาดเท่ากับร่างของก็อบลิน ตอนนี้นั้นได้เป็นดินแดนที่โด่ดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอาณาจักรเฟอร์เรียสที่เป็นอัมพาตในบางส่วน ต้องล้มสลายลง จุดจบของประเทศรอบๆคงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

ความร้อนรนและความกลัวของประเทศรอบๆกำลังทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในยามสงบ

ตอนนี้ ณ ห้องสักแห่งในอาณาจักรเครสท์ ที่ซึ่งติดกับอาณาเขตทั้งสองของอาณาจักรเฟอร์เรียสและสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ ที่กำลังได้รับการปกป้องโดยการระดมอัศวินทั้งหมด

หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญ ฮิวโก้ อาแวนส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ นั้นนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งต่อโต๊ะกลม เขาจุดบุหรี่ด้วยเวทไฟแล้วควันก็กระจายไปในอากาศ

หนึ่งในผู้พิทักษ์ของอาณาจักรเครสท์กำลังมองไปที่ฮิวโก้ที่ได้เปิดใช้งานเวทไฟ ฮัวโก้นั้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศมา 10 ปีแล้ว แต่เขานั้นไม่ได้อยู่บนเส้นทางของข้าราชการพลเรือน

ในฐานะทหารราบ เขาได้วิ่งไปรอบๆสนามรบและมีประสบการณ์ในสนามรบมากมาย หัวของเขานั้นโล่งเนื่องจากหมวกของเขาและหนังหัวที่ถูกเผาในสนามรบ

แม้หลังจากชราแล้ว เขานั้นยังสามารถรับมือกับทหารราบได้สองสามคน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับคนคุ้มกันที่ดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศอื่นได้หรือไม่

“ดูจะกระตือรือร้นกับงานมากนะ”

ฮิวโก้ ยิ้วด้วยแก้มที่ถูกเผาของเขา ชมเชยอัศวินของอาณาจักรเครสท์ แต่คำตอบที่เขาให้กลับไปนั้นทื่อๆ

“….ขอบคุณ”

ฮิวโก้และสมาชิกคนอื่นๆของรัฐสภาสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้นั้นอารมย์ดีกับการเพิ่มขึ้นมาของอาณาจักรเฟอร์เรียสและราชรัฐไมยาร์ดที่ได้มีสงครามกับจักวรรดิไฮเซิร์ค แต่สถานการณ์ก็ไม่ค่อยดีในทุกวันนี้

ประเทศทั้งสองนั้นเสียใจกับการล้มสลายของราชรัฐไมยาร์ด และอาณาจักรเฟอร์เรียสที่ตอนนี้อยู่ในการป้องกันประเทศ

มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้ฮิวโกท้อ ที่คาดการไว้ว่าเฟอร์เรียสจะมีแนวรบหลายแห่งกับไฮเซิร์ค

ฮิวโก็จ้องมองเหล่าคนที่นั่งอยู่รอบๆโต๊ะ

ที่หัวโต๊ะคือกษัตริย์ เชสเตอร์ เครสท์ แห่งประเทศเจ้าภาพ อาณาจักรเครสท์ ที่ทางขวาคือกษัตริย์ บัลลิสตัน เฟอร์เรียส แห่งอาณาจักรเฟอร์เรียส ที่ซึ่งถูกไฮเซิร์ครุกรานเมื่อเร็วๆนี้

ร่างของบัลลิสตันที่ซึ่งผอมบางกว่าน้องชายของเขา วินส์ตันที่เป็นนักรบนั้นตอนนี้ผอมกว่าที่ฮิวโก้พบที่การประชุมเมื่อครั้งก่อนอีก

ผิวพรรณของเขานั้นไม่ดีนัก แต่สายตานั้นคมชัดกว่าตอนที่พบเชสเตอร์เมื่อครั้งก่อนอีก สายตาแบบนั้นเป็นแบบที่ฮิวโก้ชอบ

“เอาล่ะ ตอนนี้อาณาจักรเฟอร์เรียสนั้นดูเหมือนจะมีปัญหา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าไมยาร์ดจะล้มสลายลง และอาณาจักรของนายก็เสียกองกำลังหลักไปอีก… น่าอนาถ ฉันไม่รู้จะใช้คำไหนจะพูดเลย”

ฮิวโก้เป็นคนแรกที่เปิดปากพูด

“…ฮ่า ขอบคุณสำหรับคำช่างคิดเหล่านั้น ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าอาณาจักรของฉันจะทำพลาดแบบ ลิเบอริโต้”

สำหรับการเสียดสีของฮิวโก้ บัลลิสตันมองแทงรุนแรงและตอบกลับ

“วู้ว…. ความผิดพลาดเดียวกัน? ฉันจำไม่เห็นได้ว่า ลิเบอริโต้ได้สูญเสียหนึ่งในสามของดินแดนอย่างเฟอร์เรียส”

“พอแค่นั้นแหละ รู้ไหมตอนนี้เราไม่ได้มารวมตัวกันเพื่อสนุกไปกับการสนทนาแบบนั้นสักหน่อย”

เชสเตอร์ที่เป็นเจ้าภาพได้ตักเตือน ฮิวโก้ไม่ได้จะยุยงปลุกปั่นจริงๆ เขาแค่เริ่มการสนทนาเบาๆ ก่อนเข้าสู่หัวข้อหลักเท่านั้น

“ใช่ ฉันควรจะเริ่มทักทายรึไม่ โดยการ――”

เขาหยุดพูด ตรงนั้นฮิวโก้หันไปมองที่มุมหนึ่งของโต๊ะ

“สาวสวยคนนั้นมาจากไหนกันน่ะ”

ที่สุดสายตาของเขา เป็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสายเลือดผู้ดีกำลังไหลอยู่ในตัวของเธอ ตามท่าทางและพฤติกรรมของเธอ แต่ฮิวโก้นั้นไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ท้ายที่สุดมันควรจะเป็นที่สำหรับประชุมของทั้งสามประเทศ ลิเบอริโต้ เฟอร์เรียส และเครสท์

ผู้ช่วยจะถูกจำกัดให้อยู่ที่ด้านหลังของตัวหลักที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ หากสามารถนั่งตรงนั้นได้ มันก็หมายความว่า เป็นผู้มีอิทธิพลในระดับของประเทศและมีอิทธิพลต่ออนาคตของประเทศ ตรงไปตรงมา ฮิวโก้คิดว่าผู้หญิงคนนั้น นั้นอยู่ผิดที่

“ไมยาร์ด”

เป็นบัลลิสตันที่ตอบคำถาม แล้วหญิงสาวก็พูดต่อ

“ดิฉันชื่อ ริต้า ไมยาร์ด ฉันเข้าร่วมในฐานะตัวแทนของไมยาร์ด”

ฮิวโก้จัดระเบียบในหัวของเขาทันที เขาไม่ได้สนิทสนมโดยตรงกับเธอ แต่เขารู้ว่าเธอนั้นมีอยู่จริง

“เข้าใจแล้ว เธอคือลูกสาวเพียงคนเดียวของ ยูท ไมยาร์ด สินะ? คิดว่าหนีไปแล้วซะอีก ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ… แต่มันก็แปลกนะที่จะเป็นตัวแทนของไมยาร์ดที่เพิ่งล้มสลายลงเมื่อเร็วๆนี้”

โดยไม่หวั่นไหวโดยคำพูดของฮิวโก้ ริต้าตอบกลับ

“เพราะมีอัศวินที่ฉันไว้ใจได้… แน่นอนว่่าไมยาร์ดได้สูญเสียดินแดนมากไปกว่าครึ่่ง แต่เซลต้ายังคงอยู่”

หลังจากคิดนิดหน่อย ฮิวโก้ก็ปรบมือให้

“เซลต้า… โอ้ แน่นอนว่าการประมงและทางน้ำนั่นจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้หน้าที่เดียวของมันก็คือเป็นฐานสำหรับการต่อสู้กับมังกรในทะเลสาบ มีแค่ทหารเรือและทหารที่หลบหนีมาได้ไม่กี่กำมือ บวกกับมังทะเลสาบแล้ว มันก็มีรสชาติที่น่าดึงดูดไม่พอ ฉันมั่นใจว่าไฮเซิร์คจะไม่ได้สนใจสักนิด”

สำหรับฮิวโก้ ทะเลสาบใหญ่เซลต้าและแม่น้ำรอบๆนั้นต้องถูกระงับ ในแง่ของทรัพยากรและเศรษฐกิจแล้ว เจ้าของของพื่นที่นั้นจะมีแต่เสียมากกว่ากำไร

บวกกับกองทัพเรือที่ภูมิใจในทักษะที่โดดเด่นเพราะสามารถยึดทะเลสาบไว้ได้เป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอในการต่อสู้บนบกก็ตาม ฮิวโก้นั้นรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจว่า ไฮเซิร์คไม่ใช่ประเทศที่โง่เขลาที่จะเอื้อมมือไปที่นั่นเพียงเพื่อรับความเสียหายมากมาย

“ค่ะ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มันเป็นอย่างที่ท่านฮิวโก้พูด แต่ตอนนี้มังกรทะเลสาบถูกปราบแล้ว”

ใบหน้าของฮิวโก้ได้บิดเบี้ยวขึ้นมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมเริ่มขึ้ัน

“มันถูกปราบไปแล้ว?

“ค่ะ…มันถูกปราบไปแล้ว”

แม้มันจะเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกร แต่มันก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังที่ติดอันดับสูงสุดในบรรดาเหล่าสัตว์ประหลาด ปากที่ใหญ่ยักของมันแม้แต่โอเกอร์และโทรลถูกบด เมื่ออดีตมังกรได้โจมตีเมืองลอยน้ำของลิเบอริโต้ และมันถูกปราบโดยจ่ายด้วย กองพัน 2 กองพันและอีกครึ่งกองร้อย 

การต่อสู้ที่มีการสังเวยครั้งใหญ่เช่นนั้น ฮิวโก้ก็ควรจะเคยได้ยินจากพ่อค้าหรือสายลับ

“อื่ม นั่นเป็นข่าวดี ฉันแน่ใจว่าทหารที่กล้าหาญของเธอจะมีช่วงเวลาที่ขมขื่น”

“โชคดีที่ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ตาย”

เป็นเชสเตอร์ ที่พูดแทรกขึ้นมาในการสนทนาเกี่ยวกับทะเลสาบ

“ไม่มีใครเลย? กับมังกรทะเลสาบอะน่ะ?”

ฮิวโก้บิดปากของเขา เพราะเขาไม่อย่างจะเชื่อเลย

“ต้องขอบคุณ กองทัพเรือไมยาร์ด อัศวินอาณาจักรเครสท์ และผู้มาเยือนจาก “ต่างโลก”  ฉันจะไม่พูดว่าแค่หนึ่งก็มีค่าถึงพัน แต่แน่นอนว่ามันมีค่าร้อยถึงสองร้อยคน”

เชสเตอร์ปรกมือ แล้วชายหนุ่มคนหนึ่งที่รออยู่ที่กำแพงก็ก้าวมาข้างหน้า

“เขาเป็นหนึ่งใน ผู้มาเยือนจากต่างโลก”

“ยินดีที่ได้พบ…ผมชื่อ อาซา….ยูโตะ อาซามะครับ”

เป็นชายหนุ่มที่มีผมสีดำและดวงตาสีดำที่แนะนำตัวเอง เขานั้นยังเด็ก และบางทีเขาอาจไม่คุ้นเคยกัยสถานการณ์แบบนี้การเคลื่อนไหวของเขาก็แข็งทื่อ หากไม่ได้รับการบอกจากเชสเตอร์เรื่องผู้มาเยือนจากต่างโลก ฮิวโก้จะไม่เชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เอาชนะมังกรทะเลสาบ

“โฮ่ ปราบมังกรทะเลในวัยแค่นี้ ช่างน่าประทับใจ ชื่อของผู้คนจากต่างโลกช่างแปลกใหม่จริงๆ ถ้านี่เป็นที่อื่น ฉันคงต้องการที่จะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องรางอันกล้าหาญในการปราบมังกรทะเลสาบ”

ฮิวโก้ต้องการรู้ว่าชายหนุ่มนั้นมีเวทมนตร์และทักษะอะไรและเขาต่อสู้อย่างไร แต่ฮิวโก้ก็เข้าใจว่าคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนี่ไม่ได้โง่พอที่จะเผยไพ่ของพวกเขาขนาดนั้น

“มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผมนั้นสู้ตามคำแนะของอัศวินของอาณาจักรเครสท์”

ฮิวโก้เข้าใจจุดมุ่งหมายของเชสเตอร์ทันที ที่แสดง ริต้าและบัลลิสตันและผู้มาเยือนจากต่างโลก

“แม้ว่าริต้าโดโนะ และยูโตะโดโนะจะยังเด็ก แต่ทั้งคู่นั้นก็ทำได้ดีมาก”   (ผู้แปล โดโนะ ประมาณไหนดีเรียกเด็กงี้

ฮิวโก้กล่าวชมครึ่งจริงจังครึ่ง อาณาจักรเครสท์นั้นเป็นประเทศที่มีดินแดนที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกอื่นได้อย่างง่ายดาย และได้พัฒนาประเทศทั้งในด้านวรรณกรรมและศิลปะการทหารโดยการแนะนำจากผู้มาเยือนจากต่างโลก เหมือนคนที่ได้รับสมบัติที่ตกลงมาจากสวรรค์ เขาอยากให้มันเป็นเพียงแค่เทพนิยายเท่านั้น

“กลับมาที่หัวข้อหลักกันเถอะ”

เชสเตอร์กล่าวออกมาด้วยความพึงพอใจ การหารือระหว่างสามประเทศก็ได้เริ่มขึ้น ฮิวโก้จึงมั่นใจอย่างนะเน

เจ้านครสมัยศักดินาและอดีตรัฐราชบริพาร การแบ่งปันผลกำไรของทะเลสาบ ความสมดุลทางทหาร ฮิวโก้ตรวจสอบเหล่าทรัพยาการที่จะใช้ในการต่อรอง

 “ถ้าอย่างนั้น ตรงไปตรงมา เฟอร์เรียสต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เป็นพันธมิตรที่มุ่งเน้นทั้งเรื่องการทหารและเศรษฐกิจโดยมีทะเลสาบเซลต้าเป็นเขตเศรษฐกิจ”

ทันใดนั้นบัลลิสตันก็ได้ตั้งใส่ฮิวโก้

สำหรับฮิวโก้ การทูตนั้นไม่ต่างจากสงคราม แต่เขาเชื่ออย่างยิ่งว่าสงครามเป็นส่วนหนึ่งของการทูต

ฮิวโก้รู้สึกรำคาญที่แม้ว่าเขาจะตั้งหลักตำแหน่งของเขาก่อนสงครามด้วยวาจา แต่เขาก็ไม่สามารถพูดได้ว่ามันไม่ใช่ข้อเสนอที่ไม่น่าสนใจ

“ตรงไปตรงมาจริงๆ”

เมื่อพันธมิตรได้ก่อตั้งขึ้น สงครามเต็มรูปแบบกับจักรวรรดิไฮเซิร์คก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างนั้นข้อเสนอนี้ก็ไม่สามารถถือไว้ได้นานเกินไปสำหรับอนาคตของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ การเผชิญกับการขยายดินแดนของจักรวรรดิไฮเซิร์คในท้ายที่สุดก็มาถึง

กอบโกยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้――ด้วยการแก้ใขดังกล่าวเกียร์ในหัวของฮิวโก้กำลังหมุนด้วยความเร็ว เขาไม่ได้สังเกตุเห็นตัวเอง แต่ฮิวโก้รู้สึกมีความสุขมากกว่าตอนที่คุยกันแบบงี่เง่า

“พูดต่อไป มันนั้นเกี่ยวกับความรุ่งโรจน์และความเสื่อมโทรมของแต่ละประเทศ”

แม้ผิวหนังที่ถูกเผาของฮิวโก้จะกระตุกเวลายิ้ม แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยด้วยซ้ำ

―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ แถมภาพนิดหน่อยตอนนี้ นี่ไม่ใช่ทวีปแบบเต็มๆนะ 
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 21

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 21 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรวรรดิไฮเซิร์ค นั้นเป็นหนึ่งในประเทศเล็กๆที่ก่อตั้งขึ้นในพื้นที่ที่มีประเทศ กษัตริย์ และขุนนางนับไม่ถ้วน

สงครามครั้งแรกหลังจากก่อตั้งประเทศนั้นได้รับการกล่าวว่าเป็นศึกป้องกัน และเมื่อกองกำลังหลักศัตรูถูกดึงเข้าไปในอาณาเขตของไฮเซิร์ค พวกเขาทั้งหมดก็ถูกทำลายในสงคราม

จักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ ยังคงมีโมนตัมและได้ผนวกดินแดนของประเทศที่เข้ามาโจมตี

ความสมดุลของอำนางนั้นได้ตอกย้ำกับพื้นที่รอบๆที่เต็มไปด้วยประเทศเล็กๆ และประเทศเพื่อนบ้านก็ได้ร่วมมือกันเพื่อบุกรุกจักรวรรดิไฮเซิร์ค ที่โผล่ออกมาและทำให้สมดุลยุ่งเหยิง แต่หลังจากทำสงครามมานานหลายทศวรรษ มีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ในตอนจบ จักรวรรดิไฮเซิร์ค

แต่จากมุมมองของประเทศขนาดกลางแล้ว มันก็แค่ประเทศขี้เหร่เล็กๆที่อาละวาดท่ามกลางพวกมันเอง

ในตอนแรก ทุกๆประเทศรู้สึกอย่างนั้น ที่แรกที่สังเกตุเห็นอุบัติการณ์นั่นคือสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ ที่หนึ่งในรัฐข้าราชบริพารได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้และได้เข้ามาเสริมกำลัง

ลิเบอริโต้ส่งกองกำลังไป 10,000 นาย ที่อาจเรียกได้ว่ามากเกินไป รวมกับจำนวนกองกำลังของรัฐข้าราชบริพารแล้ว ก็จะมี 15,000 นาย สำหรับไฮเซิร์คนั้นมีน้อยกว่ามีแค่ครึ่งเดียวของนั่นเท่านั้น และสนามรบยังได้เปรียบสำหรับลิเบอริโต้ และจะจบลงด้วยชัยชนะครั้งใหญ่ นั่นคิอสิ่งที่ควรจะเป็น แต่ผลลัพธ์คือความพ่ายแพ้อย่างร้ายแรงของลิเบอริโต้ และรัฐราชบริพารยังต้องยกดินแดนบางส่วนให้ไฮเซิร์ค

จากนั้นลิเบอริโต้ก็ได้เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับไฮเซิร์คหลังจากที่ได้ลิ้มรสความแข็งแกร่งของทหารที่คาดไม่ถึงและความคุ้นเคยของสงครามของพวกเขาอย่างไร และถูกบังคับให้ต้องจ่ายรางวัลอย่างสูงให้กับไฮเซิร์ค มันเป็นพลังที่ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะซ่อนอยู่ในประเทศเล็กๆ

และต่อไปที่ได้สังเกตุเห็นคืออาณาจักรคาโนอา ขุนนางที่ครอบชายแดน นั้นถูกรบกวนจากไฮเซิรคที่กำลังขยายตัว และจากนั้นก็ได้เข้าปะทะกับไฮเซิร์คที่ได้ควบคุมแม่น้ำ

การต่อสู้นั้นจบลงเพียงเค่ 6 วันเท่านั้น และดินแดนทั้งหมดของขุนนางท้องถิ่นนั่นก็ได้หายไป ขุนนางและทั้งครอบครัวของเขานั้นถูกฆ่า และดินแดนก็ถูกยึดไปโดยไฮเซิร์ค

ทีนี้ ประเทศรอบๆ อาณาจักรเฟอร์เรียสและอาณาจักรเครสท์ก็ได้ร่วมเป็นสักขีพยานถึงภัยคุกคามของจักรวรรดิไฮเซิร์ค แต่เนื่องจากพวกเขายินดีที่จะให้ประเทศขนาดกลางเช่นกันนั้นอ่อนแอลงโดยผู้มาใหม่ พวกเขานั้นไม่ต้องการที่จะให้ความร่วมมือหรือการสนับสนุนแก่อาณาจักรคาโนอา  และอื่นๆที่อยู่รอบๆ

หลังจากนั้น ที่แนวหน้าของไฮเซิร์ค ที่ได้มีศึกป้องกันและได้มีเหตุผลที่จะโจมตี อาณาจักรคาโนอาก็ได้มาถึงจุดลบ

และตอนนี้ ที่แม้แต่ไมยาร์ดก็ได้ยอมจำนนต่อจักรวรรดิไฮเซิร์ค แล้วประเทศขนาดกลางที่เหลืออยู่ในตอนเหนือก็ได้เหลือแค่สามประเทศ และตอนนี้ดินแดนของจักรวรรดิไฮเซิร์คก็ได้เป็นมากว่าประเทศขนาดกลาง และก็ไม่รู้ว่าจักวรรดิไฮเซิร์คจะเติบโต่และขยายดินแดนไปไกลแค่ไหน

อาณาเขตุที่มีเคยมีขนาดเท่ากับร่างของก็อบลิน ตอนนี้นั้นได้เป็นดินแดนที่โด่ดเด่นเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอาณาจักรเฟอร์เรียสที่เป็นอัมพาตในบางส่วน ต้องล้มสลายลง จุดจบของประเทศรอบๆคงเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น

ความร้อนรนและความกลัวของประเทศรอบๆกำลังทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในยามสงบ

ตอนนี้ ณ ห้องสักแห่งในอาณาจักรเครสท์ ที่ซึ่งติดกับอาณาเขตทั้งสองของอาณาจักรเฟอร์เรียสและสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ ที่กำลังได้รับการปกป้องโดยการระดมอัศวินทั้งหมด

หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ได้รับเชิญ ฮิวโก้ อาแวนส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ นั้นนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งต่อโต๊ะกลม เขาจุดบุหรี่ด้วยเวทไฟแล้วควันก็กระจายไปในอากาศ

หนึ่งในผู้พิทักษ์ของอาณาจักรเครสท์กำลังมองไปที่ฮิวโก้ที่ได้เปิดใช้งานเวทไฟ ฮัวโก้นั้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศมา 10 ปีแล้ว แต่เขานั้นไม่ได้อยู่บนเส้นทางของข้าราชการพลเรือน

ในฐานะทหารราบ เขาได้วิ่งไปรอบๆสนามรบและมีประสบการณ์ในสนามรบมากมาย หัวของเขานั้นโล่งเนื่องจากหมวกของเขาและหนังหัวที่ถูกเผาในสนามรบ

แม้หลังจากชราแล้ว เขานั้นยังสามารถรับมือกับทหารราบได้สองสามคน แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับคนคุ้มกันที่ดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศอื่นได้หรือไม่

“ดูจะกระตือรือร้นกับงานมากนะ”

ฮิวโก้ ยิ้วด้วยแก้มที่ถูกเผาของเขา ชมเชยอัศวินของอาณาจักรเครสท์ แต่คำตอบที่เขาให้กลับไปนั้นทื่อๆ

“….ขอบคุณ”

ฮิวโก้และสมาชิกคนอื่นๆของรัฐสภาสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้นั้นอารมย์ดีกับการเพิ่มขึ้นมาของอาณาจักรเฟอร์เรียสและราชรัฐไมยาร์ดที่ได้มีสงครามกับจักวรรดิไฮเซิร์ค แต่สถานการณ์ก็ไม่ค่อยดีในทุกวันนี้

ประเทศทั้งสองนั้นเสียใจกับการล้มสลายของราชรัฐไมยาร์ด และอาณาจักรเฟอร์เรียสที่ตอนนี้อยู่ในการป้องกันประเทศ

มันเพียงพอแล้วที่จะทำให้ฮิวโกท้อ ที่คาดการไว้ว่าเฟอร์เรียสจะมีแนวรบหลายแห่งกับไฮเซิร์ค

ฮิวโก็จ้องมองเหล่าคนที่นั่งอยู่รอบๆโต๊ะ

ที่หัวโต๊ะคือกษัตริย์ เชสเตอร์ เครสท์ แห่งประเทศเจ้าภาพ อาณาจักรเครสท์ ที่ทางขวาคือกษัตริย์ บัลลิสตัน เฟอร์เรียส แห่งอาณาจักรเฟอร์เรียส ที่ซึ่งถูกไฮเซิร์ครุกรานเมื่อเร็วๆนี้

ร่างของบัลลิสตันที่ซึ่งผอมบางกว่าน้องชายของเขา วินส์ตันที่เป็นนักรบนั้นตอนนี้ผอมกว่าที่ฮิวโก้พบที่การประชุมเมื่อครั้งก่อนอีก

ผิวพรรณของเขานั้นไม่ดีนัก แต่สายตานั้นคมชัดกว่าตอนที่พบเชสเตอร์เมื่อครั้งก่อนอีก สายตาแบบนั้นเป็นแบบที่ฮิวโก้ชอบ

“เอาล่ะ ตอนนี้อาณาจักรเฟอร์เรียสนั้นดูเหมือนจะมีปัญหา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าไมยาร์ดจะล้มสลายลง และอาณาจักรของนายก็เสียกองกำลังหลักไปอีก… น่าอนาถ ฉันไม่รู้จะใช้คำไหนจะพูดเลย”

ฮิวโก้เป็นคนแรกที่เปิดปากพูด

“…ฮ่า ขอบคุณสำหรับคำช่างคิดเหล่านั้น ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าอาณาจักรของฉันจะทำพลาดแบบ ลิเบอริโต้”

สำหรับการเสียดสีของฮิวโก้ บัลลิสตันมองแทงรุนแรงและตอบกลับ

“วู้ว…. ความผิดพลาดเดียวกัน? ฉันจำไม่เห็นได้ว่า ลิเบอริโต้ได้สูญเสียหนึ่งในสามของดินแดนอย่างเฟอร์เรียส”

“พอแค่นั้นแหละ รู้ไหมตอนนี้เราไม่ได้มารวมตัวกันเพื่อสนุกไปกับการสนทนาแบบนั้นสักหน่อย”

เชสเตอร์ที่เป็นเจ้าภาพได้ตักเตือน ฮิวโก้ไม่ได้จะยุยงปลุกปั่นจริงๆ เขาแค่เริ่มการสนทนาเบาๆ ก่อนเข้าสู่หัวข้อหลักเท่านั้น

“ใช่ ฉันควรจะเริ่มทักทายรึไม่ โดยการ――”

เขาหยุดพูด ตรงนั้นฮิวโก้หันไปมองที่มุมหนึ่งของโต๊ะ

“สาวสวยคนนั้นมาจากไหนกันน่ะ”

ที่สุดสายตาของเขา เป็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสายเลือดผู้ดีกำลังไหลอยู่ในตัวของเธอ ตามท่าทางและพฤติกรรมของเธอ แต่ฮิวโก้นั้นไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ท้ายที่สุดมันควรจะเป็นที่สำหรับประชุมของทั้งสามประเทศ ลิเบอริโต้ เฟอร์เรียส และเครสท์

ผู้ช่วยจะถูกจำกัดให้อยู่ที่ด้านหลังของตัวหลักที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ หากสามารถนั่งตรงนั้นได้ มันก็หมายความว่า เป็นผู้มีอิทธิพลในระดับของประเทศและมีอิทธิพลต่ออนาคตของประเทศ ตรงไปตรงมา ฮิวโก้คิดว่าผู้หญิงคนนั้น นั้นอยู่ผิดที่

“ไมยาร์ด”

เป็นบัลลิสตันที่ตอบคำถาม แล้วหญิงสาวก็พูดต่อ

“ดิฉันชื่อ ริต้า ไมยาร์ด ฉันเข้าร่วมในฐานะตัวแทนของไมยาร์ด”

ฮิวโก้จัดระเบียบในหัวของเขาทันที เขาไม่ได้สนิทสนมโดยตรงกับเธอ แต่เขารู้ว่าเธอนั้นมีอยู่จริง

“เข้าใจแล้ว เธอคือลูกสาวเพียงคนเดียวของ ยูท ไมยาร์ด สินะ? คิดว่าหนีไปแล้วซะอีก ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ… แต่มันก็แปลกนะที่จะเป็นตัวแทนของไมยาร์ดที่เพิ่งล้มสลายลงเมื่อเร็วๆนี้”

โดยไม่หวั่นไหวโดยคำพูดของฮิวโก้ ริต้าตอบกลับ

“เพราะมีอัศวินที่ฉันไว้ใจได้… แน่นอนว่่าไมยาร์ดได้สูญเสียดินแดนมากไปกว่าครึ่่ง แต่เซลต้ายังคงอยู่”

หลังจากคิดนิดหน่อย ฮิวโก้ก็ปรบมือให้

“เซลต้า… โอ้ แน่นอนว่าการประมงและทางน้ำนั่นจะมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้หน้าที่เดียวของมันก็คือเป็นฐานสำหรับการต่อสู้กับมังกรในทะเลสาบ มีแค่ทหารเรือและทหารที่หลบหนีมาได้ไม่กี่กำมือ บวกกับมังทะเลสาบแล้ว มันก็มีรสชาติที่น่าดึงดูดไม่พอ ฉันมั่นใจว่าไฮเซิร์คจะไม่ได้สนใจสักนิด”

สำหรับฮิวโก้ ทะเลสาบใหญ่เซลต้าและแม่น้ำรอบๆนั้นต้องถูกระงับ ในแง่ของทรัพยากรและเศรษฐกิจแล้ว เจ้าของของพื่นที่นั้นจะมีแต่เสียมากกว่ากำไร

บวกกับกองทัพเรือที่ภูมิใจในทักษะที่โดดเด่นเพราะสามารถยึดทะเลสาบไว้ได้เป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอ่อนแอในการต่อสู้บนบกก็ตาม ฮิวโก้นั้นรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็เข้าใจว่า ไฮเซิร์คไม่ใช่ประเทศที่โง่เขลาที่จะเอื้อมมือไปที่นั่นเพียงเพื่อรับความเสียหายมากมาย

“ค่ะ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มันเป็นอย่างที่ท่านฮิวโก้พูด แต่ตอนนี้มังกรทะเลสาบถูกปราบแล้ว”

ใบหน้าของฮิวโก้ได้บิดเบี้ยวขึ้นมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การประชุมเริ่มขึ้ัน

“มันถูกปราบไปแล้ว?

“ค่ะ…มันถูกปราบไปแล้ว”

แม้มันจะเป็นสายพันธุ์ย่อยของมังกร แต่มันก็เป็นสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังที่ติดอันดับสูงสุดในบรรดาเหล่าสัตว์ประหลาด ปากที่ใหญ่ยักของมันแม้แต่โอเกอร์และโทรลถูกบด เมื่ออดีตมังกรได้โจมตีเมืองลอยน้ำของลิเบอริโต้ และมันถูกปราบโดยจ่ายด้วย กองพัน 2 กองพันและอีกครึ่งกองร้อย 

การต่อสู้ที่มีการสังเวยครั้งใหญ่เช่นนั้น ฮิวโก้ก็ควรจะเคยได้ยินจากพ่อค้าหรือสายลับ

“อื่ม นั่นเป็นข่าวดี ฉันแน่ใจว่าทหารที่กล้าหาญของเธอจะมีช่วงเวลาที่ขมขื่น”

“โชคดีที่ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ตาย”

เป็นเชสเตอร์ ที่พูดแทรกขึ้นมาในการสนทนาเกี่ยวกับทะเลสาบ

“ไม่มีใครเลย? กับมังกรทะเลสาบอะน่ะ?”

ฮิวโก้บิดปากของเขา เพราะเขาไม่อย่างจะเชื่อเลย

“ต้องขอบคุณ กองทัพเรือไมยาร์ด อัศวินอาณาจักรเครสท์ และผู้มาเยือนจาก “ต่างโลก”  ฉันจะไม่พูดว่าแค่หนึ่งก็มีค่าถึงพัน แต่แน่นอนว่ามันมีค่าร้อยถึงสองร้อยคน”

เชสเตอร์ปรกมือ แล้วชายหนุ่มคนหนึ่งที่รออยู่ที่กำแพงก็ก้าวมาข้างหน้า

“เขาเป็นหนึ่งใน ผู้มาเยือนจากต่างโลก”

“ยินดีที่ได้พบ…ผมชื่อ อาซา….ยูโตะ อาซามะครับ”

เป็นชายหนุ่มที่มีผมสีดำและดวงตาสีดำที่แนะนำตัวเอง เขานั้นยังเด็ก และบางทีเขาอาจไม่คุ้นเคยกัยสถานการณ์แบบนี้การเคลื่อนไหวของเขาก็แข็งทื่อ หากไม่ได้รับการบอกจากเชสเตอร์เรื่องผู้มาเยือนจากต่างโลก ฮิวโก้จะไม่เชื่อว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เอาชนะมังกรทะเลสาบ

“โฮ่ ปราบมังกรทะเลในวัยแค่นี้ ช่างน่าประทับใจ ชื่อของผู้คนจากต่างโลกช่างแปลกใหม่จริงๆ ถ้านี่เป็นที่อื่น ฉันคงต้องการที่จะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องรางอันกล้าหาญในการปราบมังกรทะเลสาบ”

ฮิวโก้ต้องการรู้ว่าชายหนุ่มนั้นมีเวทมนตร์และทักษะอะไรและเขาต่อสู้อย่างไร แต่ฮิวโก้ก็เข้าใจว่าคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนี่ไม่ได้โง่พอที่จะเผยไพ่ของพวกเขาขนาดนั้น

“มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผมนั้นสู้ตามคำแนะของอัศวินของอาณาจักรเครสท์”

ฮิวโก้เข้าใจจุดมุ่งหมายของเชสเตอร์ทันที ที่แสดง ริต้าและบัลลิสตันและผู้มาเยือนจากต่างโลก

“แม้ว่าริต้าโดโนะ และยูโตะโดโนะจะยังเด็ก แต่ทั้งคู่นั้นก็ทำได้ดีมาก”   (ผู้แปล โดโนะ ประมาณไหนดีเรียกเด็กงี้

ฮิวโก้กล่าวชมครึ่งจริงจังครึ่ง อาณาจักรเครสท์นั้นเป็นประเทศที่มีดินแดนที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกอื่นได้อย่างง่ายดาย และได้พัฒนาประเทศทั้งในด้านวรรณกรรมและศิลปะการทหารโดยการแนะนำจากผู้มาเยือนจากต่างโลก เหมือนคนที่ได้รับสมบัติที่ตกลงมาจากสวรรค์ เขาอยากให้มันเป็นเพียงแค่เทพนิยายเท่านั้น

“กลับมาที่หัวข้อหลักกันเถอะ”

เชสเตอร์กล่าวออกมาด้วยความพึงพอใจ การหารือระหว่างสามประเทศก็ได้เริ่มขึ้น ฮิวโก้จึงมั่นใจอย่างนะเน

เจ้านครสมัยศักดินาและอดีตรัฐราชบริพาร การแบ่งปันผลกำไรของทะเลสาบ ความสมดุลทางทหาร ฮิวโก้ตรวจสอบเหล่าทรัพยาการที่จะใช้ในการต่อรอง

 “ถ้าอย่างนั้น ตรงไปตรงมา เฟอร์เรียสต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เป็นพันธมิตรที่มุ่งเน้นทั้งเรื่องการทหารและเศรษฐกิจโดยมีทะเลสาบเซลต้าเป็นเขตเศรษฐกิจ”

ทันใดนั้นบัลลิสตันก็ได้ตั้งใส่ฮิวโก้

สำหรับฮิวโก้ การทูตนั้นไม่ต่างจากสงคราม แต่เขาเชื่ออย่างยิ่งว่าสงครามเป็นส่วนหนึ่งของการทูต

ฮิวโก้รู้สึกรำคาญที่แม้ว่าเขาจะตั้งหลักตำแหน่งของเขาก่อนสงครามด้วยวาจา แต่เขาก็ไม่สามารถพูดได้ว่ามันไม่ใช่ข้อเสนอที่ไม่น่าสนใจ

“ตรงไปตรงมาจริงๆ”

เมื่อพันธมิตรได้ก่อตั้งขึ้น สงครามเต็มรูปแบบกับจักรวรรดิไฮเซิร์คก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงอย่างนั้นข้อเสนอนี้ก็ไม่สามารถถือไว้ได้นานเกินไปสำหรับอนาคตของสหพันธ์การค้าลิเบอริโต้ การเผชิญกับการขยายดินแดนของจักรวรรดิไฮเซิร์คในท้ายที่สุดก็มาถึง

กอบโกยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้――ด้วยการแก้ใขดังกล่าวเกียร์ในหัวของฮิวโก้กำลังหมุนด้วยความเร็ว เขาไม่ได้สังเกตุเห็นตัวเอง แต่ฮิวโก้รู้สึกมีความสุขมากกว่าตอนที่คุยกันแบบงี่เง่า

“พูดต่อไป มันนั้นเกี่ยวกับความรุ่งโรจน์และความเสื่อมโทรมของแต่ละประเทศ”

แม้ผิวหนังที่ถูกเผาของฮิวโก้จะกระตุกเวลายิ้ม แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยด้วยซ้ำ

―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบ แถมภาพนิดหน่อยตอนนี้ นี่ไม่ใช่ทวีปแบบเต็มๆนะ 
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook
 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+