สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 31

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 31 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สติของวอล์มเริ่มตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากเสียงสะท้อนของดิน เขาเหยียดแขนขาออกจากเสื้อคลุมและเงยหน้าขึ้นจากกระเป๋าเป้และกระเป๋าคาดที่เขาใช้เป็นหมอน

อารมณ์ของวอล์มนั้นไม่ดี เมื่อเขารู้สึกเปียกในมือซ้ายและเมื่อมองลงไป นัวร์คว้ามือซ้ายของวอล์มไว้แล้วน้ำลายไหล

ขุ่นเคืองกับการกระทำที่ไม่สมเหตุผล วอล์มปิดจมูกของนัวร์ด้วยมือของเขา อย่างที่วอล์มคาดไว้นัวร์เริ่มหายใจไม่ออก

เป็นบาริโต้ที่ได้รับความเสียหายแทน เมื่อนัวร์เหวี่ยงแขนและขาของเธอมันได้กระแทกกับเขาหลายครั้ง บาริโต้ครวญครางออกมาแล้วจับหัวของเขาด้วยมือเพื่อปกป้องหงอนไก่ของเขา

เมื่อวอล์มพอใจแล้วเขาก็ปล่อยมือของเขาจากนัวร์และถูกมือของเขากับดินในขณะที่เผาสิ่งสกปรกด้วยเวทย์ไฟ

พวกผู้ชายนอนเขียงกัน คนโง่ทั้งสามก็อยู่ในท่านอนที่ไม่ดีและหัวหน้าดูเวยก็กรนด้วย

จากระยะไกล เสียงโจมตีของเวมมนตร์และเสียงโกรธดังก้องกังวาน กลิ่นเหม็นของอวัยวะภายในและสิ่งสกปรกอยู่ตามสายลม มันเป็นกิจวัตรประจำวันของวอล์มตามปกติ

น้ำถูกนำออกมาจากขวดน้ำและทำให้คอชุ่มชื้น จากนั้นเมื่อมันฝรั่งแห้งถูกกัด เนื้อสัมผัสที่เหนียวและความหวานก็กระจายไปทั่วปาก

หลังจากกินทั้งแล้ว วอล์มเอียงขวดน้ำอีกครั้งแล้วก็นอนลง

วอล์มตัดสินจากสีของท้องฟ้าและสภาพของพระอาทิตย์ที่ขึ้นว่ายังมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงในก่อนผลัดหน่วย มันยังเร็วเกินไปที่จะลุก

วอล์มที่หมดทั้งแรงกายและใจก็หลับไปอย่างรวดเร็ว แต่การนอนของเขานั้นไม่ได้นานนัก 

“ตื่น พวกแกทุกคนลุกขึ้น! การโจมตีครั้งใหญ่ของศัตรู เราจะออกไปในเร็วๆนี้”

หัวหน้าดูเวยที่ตื่นขึ้นมาก่อนเขย่าแก้วหูของวอล์มด้วยเสียงโกรธ แต่ก็ดีกว่าถูกปลุกด้วยเวทมนตร์หรือทักษะของศัตรู

วอล์มกระโจนขึ้นไปสวมอุปกรณ์ด้วยความคร่องแคล่วที่ไม่เกินจริงที่จะบอกว่าเขาทำได้โดยไม่ต้องคิด ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ แล้วทุกคนในหน่วยก็มาเข้าแถวกัน

“ฟังให้ดี หน่วยเราได้รับคำสั่งจากหัวหน้าโคซูรุให้ไปช่วยหมวดของพาร์ม่า ศัตรูได้สร้างโล่และกำบังขึ้นจากสนามเพลาะที่พวกมันขุดไว้ตามปกติและพยายามจะรุดเข้ามา เราจะปิดกั้นให้ได้มากเท่าที่จะทำได้และหากการบุกทะลวงจะเกิดขึ้นให้จัดการด้วย《เพลิงปีศาจ》ของวอล์ม มันก็ง่ายๆ วอล์มแกควรจะประหยัดมานาไว้ โจเซ่แกดูแลนัวร์และบาริโต้ และวิลลาร์ทภาระจะเป็นของนายคนเดียว เพราะวอล์มจะออกไป ไรนัส ทิเบิร์ดและดานฟาน พวกแกสามคนจะเล็งหาช่องว่างและโจมตี่ตามดปกติ เอาล่ะไปกันเถอะ วันนี้เราจะเอาคืนไอ้พวกไครซิทและส่งพวกมันทั้งหมดไปสวรรค!”   (TN:ไม่รูแฮะมันไช้ Heavenจริงๆ)

“”” รับทราบ”””

หน่วยรีบเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับระเบิดเสียงตะโกน

ฝุ่นลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าเนื่องจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์ และเสียงแหวกสายลมของลูกธนูที่ไปมาระหว่างกองทัพทั้งสอง

วอล์มคว้าหินขนาดเท่ากำปั้นและขว้างใส่ทหารไครซิทที่กำลังต่อสู้อย่างหนักบนทางลาด

หลังจากการกระทบอันจืดชืดที่โดนกับร่างกาย ทหารไครซิทก็เสียการทรงตัวและจะล้มลงจากบนเนิน

ทหารที่พยายามอย่างหนักเพื่อให้กลับมาสมดุล เขาดูกระตือรือร้นและสุขภาพดี ช่างน่าประทับใจ แล้ววอล์มก็ได้นำเสนอหินเท่ากำปั้นให้เขาอีกครั้ง คราวนี้ทหารทนไว้ไม่ได้และกลิ้งลงไปด้านล่าง

ถึงอย่างนั้นเหล่าทหารไครซิทที่ซึ่งมีรอยบุบเล็กน้อยก็ไม่หยุดการบุดทะลวงลง ลูกไฟกระทบกับโล่ที่ตั้งอยู่บนเนิน ชิ้นส่วนของไม้และดินกระจายไปรอบๆ ทหารที่ซ่อนตัวอยู่หลังโล่ถูกโยนออกจากเงาด้วยความตกใจ

ลูกธนูได้แทงที่หลังของทหารที่พยายามจะหลบไปที่หลังซาก อากาศสั่นไหวที่ขอบของการมองเห็นของวอล์ม และนัวร์ดูเหมือนจะพยายามจะยิงธนูนัดที่สอง

การยิงครั้งที่สองเจาะเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของทหารไครซิทที่หันออกจากโล่ วอล์มผิวปากและต้องการจะชื่นชมการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นนั่น ในระยะประชิดนัวร์มีฝีมืออยู่ในค่าเฉลี่่ยของทหารจักรวรรดิไฮเซิร์ค แต่จริงๆแล้วมีฝีมือการยิงธนูเธอเก่งที่สุดในหน่วย

ด้วยเหตุนี้ไอ้หงอนไก่บาริโต้ที่เป็นทหารใหม่เหมือนกันจึงอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายในหน่วยสินะ

หลังจากคิดเกี่ยวกับบาริโต้ วอล์มก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

ไม่ดีแล้ว ฉันหลงคิดมากไป

มันเป็นนิสัยที่ไม่ดีของวอล์มที่จะดำดิ่งไปในความคิดของเขาในระหว่างการต่อสู้ ในตอนนี้เขาได้เก็บเรื่่องความเด่นของมือใหม่ลงในมุมหนึ่งในหัวเขา

แม้ว่าการรบุกจะดำเนินต่อไปแล้วหลายครั้ง แต่ครั่งนี้วอล์มสังเกตเห็นความจริงจังของศัตรูได้ ไม่ว่าทหารจะล้มลงกี่คนพวกมันก็ตั้งโล่บนเนินอย่างไม่ลดละ และพยายามจะทะลวงแนวป้องกัน แม้แต่ผู้ใช้เวทมนตร์ที่มักจะคอยสนับสนุนจากด้านหลังเสมอก็ยังโน้มไปด้านหน้า

บางทีหนึ่งในผู้ใช้เวทมนตร์อาจไม่ชอบหงอนไก่ การโจมตีด้วยเวทมนตร์ก็ได้เข้าหาบาริโต้

“โวู้ว!?”

บาริโต้ก้มต่ำลงบนพื้นราวกับกระต่ายป่า  เมื่อเวทมนตร์น้ำพุ่งไปที่เนินมันก็ก่อตัวเป็นเสาน้ำแข็งทันที วอล์มฟันมันด้วยดาบ

“ฮึๆ”

“ห๋า”

บาริโต้ส่งเสียงอย่างรุนแรงใส่วอล์ที่เยาะเย้ยเขา

“ไม่ต้องมาหัวเราะแบบนั้นเลย!”

ถึงคราวของวอล์ม กระสุนดินได้ลอยเข้าหาวอล์ม เวทมนตร์ดินที่ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่คุณสมบัตินั้นมีประโยชน์ตรงข้ามกับลักษณะที่เห็น

การสร้างฐาน ศึกปิดล้อม เสริมแกร่งกองกำลังด้วยโกเลม มีหลายประเภทที่ได้ใช้ในสนามรบตามที่วอล์มรู้ แต่ในหมู่พวกนั้น《กระสุนดิน》เป็นเวทมนตร์ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก แม้ว่ามันจะเป็นแค่เวทมนตร์ขึ้นพื้นฐาน

แทนที่จะสร้างอะไรบางอย่างด้วยมานา มันมีประสิทธิภาพมากกว่่าในการใช้มานาเพื่อจัดการกับสิ่งที่มีอยู่ ในฐานะที่เป็นเวทมนตร์ที่ทำให้คุณต้องก้มหัวยอมรับ มันยากที่จะไม่เห็น《กระสุนดิน》ในสนามรบ

วอล์มสังเกตเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของผู้ใช้เวทย์ที่อยู่ด้านหลังโกเลม ดูเหมือนเขาจะตกใจมากที่เวทมนตร์ที่เขาภาคภูมิใจนั้นถูกตีแตกด้วยดาบ แต่เขานั้นไม่ยอมแพ้และยิง《กระสุนดิน》ใส่วอล์มครั้งแล้วครั้งเล่า

“ดูเหมือนแกอย่างจะเล่นโคลนสินะ หึ”

เมื่อวอล์มตีมันลงเป็นครั้งที่สาม ลูกไฟก็ลอยเข้ามาจากทางอื่น วอล์มหลอกว่ากำลังหลบมัน แต่ใจของเขานั้นตรงกันข้าม ท้ายที่สุดในฐานะคนที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ เขานั้นแข็งแกร่งต่อธาตุเดียวกัน

แม้ว่าไฟจะทำให้เกิดการเผาไหม้กับผู้อื่น แต่มันก็แค่ร้อนเมื่อมีคุณสมบัติธาตุไฟ หลังจากได้รับ《เพลิงปีศาจ》วอล์มก็ได้รับความต้านทานต่อไฟและความร้อนและประสิทธิภาพของมันก็ยอดเยี่ยมแม้ในหมู่ผู้คนที่มีคุณสมบัติธาตุเดียวกัน

เป็นผลให้เปลวไฟที่กระทบบางส่วนของวอล์มไม่เป็นอันตราย วอล์มที่ซึ่งคลุมด้วยบาร์เรียเวทมนตร์และรวมถึงอุปกรณ์ด้วยนั้นปลอดภัย ปัญหาก็คือมือที่ยึดกับร่างของวอล์ม ที่ไม่ใช่ที่ไหนไกล

“โอ้ยๆ ใช้สหายตัวเองเป็นกำแพง เอาจริงดิ”

วอล์มโกรธโจเซ่และมือใหม่ทั้งสองคนที่แอบหลังเงาของเขาเล็กน้อย

วอล์มไม่พอใจที่สหายของเขาเลือกโล่เนื้อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหรือป้องกันก็ได้

“อื่ม มันสุดยอกมากค่ะ วอล์มซัง”

“ใช่-แล้ว แม้ว่าเปลวไฟจะโดนโดยตรง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย”

“เป็นเรื่องดีที่ฉันไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์กันไฟ”

หากสามารถฆ่าคนด้วยการจ้องมองได้ ไอ้คนคิดแผน ไอ้หงอนไก่และไอ้คนงี่เง่าถือธนู วอล์มมั่นใจว่าการจ้องมองของเขาจะสามารถฆ่าพวกเขาได้ในตอนนี้

“ชิ ช่างเป็นพวกจ้อแจ้จริงๆ”

วอล์มต้องการเข้าหาทั้งสามคน แต่เขาไม่มีเวลาที่จะทำอย่างนั้น บางทีทหารศัตรูคิดว่าพวกเรากำลังลำบาก พวกเขากระโจนออกจากสนามเพลาะไปที่วอล์มอย่างแรง

“ตามฉันมา!!”

ทหารกระโจนออกพร้อมกันในครั้งเดียว สัดส่วนของอัศวินมีมากกว่าเมื่อก่อนสะท้อนให้เห็นในสายตาของวอล์ม โดยเฉพาะอัศวินที่วิ่งมาด้านหน้า ดูจะเป็นภาระหนักที่จะต้องรับมือ

ผทสีม่วงที่ไหลลื่นและความงดงามของร่ากายที่สามารถแยกให้เห็นได้แม้จากด้านนอกเกราะ เมื่อเห็นดังนั้น วอล์มคิดว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่เป็นอัศวินเพราะครอบครัวของเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเธอมากนัก ตอนแรกเขาคิดอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม วอล์มเปลี่ยนใจเมื่อเห็นโล่ที่ซึ่งผู้หญิงคนนั้นถือถูกคลุมด้วยมานา เธอสวนกลับ《ใบมีดลม》และพันธมิตรที่ออกจากเนินก็ถูกแทงโดยหอก

อัศวินหญิงดูเหมือนจะมี《กำแพงเหล็ก》และยังมีมานามากจนไร้สาระ ตรงกันข้ามกับรูปร่างหน้าตาของเธอ อัศวินดูเหมือนจะเป็นพวกสมองกล้ามขณะที่เธอกระโจนเข้าสู่ความตายโดยไม่ลังเล วอล์มไม่ต้องการต่อสู้กับคนแบบนี้ เขาคิดว่าเธอจะเหมาะสำหรับหัวหน้าดูเวยเท่านั้น

หัวหน้าดูเวยที่ยิ้มด้วยดวงตาที่เเปล่งประกาย จินตราการนั้นเข้ามาในความคิดของวอล์ม

“วอล์มมมมมม ตอนนี้แหละะะะ”

หูของวอล์มได้ยินเสียงอันน่าสะเทือนใจจากหัวหน้าหมวดโคซูรุ ด้วยความตั้งใจของหัวหน้าของเขาและความต้องการที่จะไม่สู้กับอัศวิน วอล์มจึงหยิบหน้ากากออกจากกระเป๋าเอวของเขา หน้ากากยังคงสั่นราวกับว่ามันไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

สยองดี―― ความสะดวงของหน้ากากนี่คือมันจะเกาะกับใบหน้า

โดยไม่ได้ลังเลใดๆ วอล์มสวมหน้ากากและเตรียมที่จะใช้ทักษะ

วอล์มพร้อมที่จะปล่อยมานาของเขาออกจากทั้งตัว และใช้มานาที่เก็บไว้ทั้งหมดของเขาในครั้งเดียว อากาศร้อนและเปลวไฟเริ่มออกมาจากร่างกายของเขา ถึงอย่างนั้นอัศวินหญิงที่อยู่ตรงหน้าของวอล์มก็ไม่ได้ลังเลเลย

สายตาที่เฉียบคมดึงดูดความสนใจของวอล์มอย่างสุดใจ

ในยามสงบวอล์มจะยินดีกับการจ้องมองเช่นนี้เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะไม่มีเจตนาฆ่าอยู่เบื่องหลัง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันของทั้งสองนั้น วอล์มคิดว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่จะเข้ามาหาเขา

ถึงอย่างนั้นวอล์มก็ไม่ได้หวั่นไหว การควบคุมของเขายังอยู่ เขามีประสบการณ์ที่ได้เห็นคนที่ยังคงเคลื่อนไหวต่อไปแม้หลังจากร่างกายทั้งหมดปกคลุมไปด้วย《เพลิงปีศาจ》

แต่มันแตกต่างจากตอนนั้น ตอนนี้วอล์มอยู่ในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย นอกเหนือจากการสนับสนุนจากกองกำลังพันธมิตรแล้วศัตรูก็ยังวิ่งขึ้นมาจากทางลาด วอล์มต้องปล่อยไฟและเผาศัตรูใต้สายตาของเขาเท่านั้น

จังหวะที่《เพลิงปีศาจ》ถูกเปิดใช้งาน――ทั้งกลุ่มหยุดลงอย่างรวดเร็วและทำท่างของพวกเขาให้ต่ำแนบติดกับพื้นดินให้มากที่สุด

บางคนสร้างกำแพงดินเหนียวและหลุม ถ้ามันเป็นเพียงแค่เวทมนตร์มันก็พอจะเผชิญได้ แต่ต่อหน้า《เพลิงปีศาจ》ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะป้องกันเว้นแต่จะปินกั้นทุกทิศทาง

ข้อสันนิษฐานที่ว่าอัศวินจะรีบวิ่งฝ่าเข้าไปใน《เพลิงปีศาจ》ที่วอล์มกลัวไม่มีอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความสงสัยขึ้น

ทำไมเธอถึงตั้งหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบและเสริมแกร่งให้กับการป้องกันแม้ว่าจะมีโมเมนตัมขนานนี้ก็ตาม? ทำไมทหารไครซิทถึงไม่ได้เรียนรู้จากเมื่อวานและเลือกกลยุทธ์การโจมตีเดิม?

ฉันคิดมากเกินไปหรือเปล่า

――สงสัยว่าเขาจะคิดมากเกินไปหรือเปล่า วอล์มพยายามเปลี่ยนความคิดของเขา แต่เขาก็ต้องตกตะลึงกับมานาที่บวมขึ้นจากในสนามเพลาะ

“ตัวล่อเรอะ”

เหล่มองชั่วขณะและค้นหาที่มาของมัน จากนั้นวอล์มก็พบบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เด็กหนุ่มที่มีผมและตาสีดำและเด็กสาวผิวสีเกาลัดที่มีผมสีดำ ทั้งสองกำลังมองมาที่เขา

วอล์มรู้จักคนเพียงไม่กี่คนที่มีมานาที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา และมันยังคงโป่งขึ้นหลายครั้งเมื่อเขามองมันอย่างใกล้ชิด เขามองเห็นผู้ใช้เวทมนตร์คนอื่นๆอีกมากมายที่กำลังซุ่มอยู่

ขนลุกขึ้นทั่วร่างกายและเหงื่อเย็นก็ไหลออกมา

เวรเอ้ย

วอล์มด่าตัวเขาเองขณะที่จ้องมองเด็กหนุ่มและเด็กสาว เขาติดกับ เขาติดเข้าไปในแผนของศัตรู และสายตาของเขาถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์หลากหลายมากมายที่ซึ่งได้เติมเต็มขอบเขตการมองเห็นของเขา โดยเฉพาะแสงสร่างแพรวพราว

ในขณะที่เอนไปทางที่ที่มีความหนาแน่นกว่าเล็กน้อย ปล่อย《เพลิงปีศาจ》ด้วยพลังทั้งหมดของเขา เวทมนตร์นับไม่ถ้วนปะทะกันทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แรงทำให้ผมกระพือและร่างกายทั้งหมดก็ถูกกระแทกด้วยวัตถุที่ลอยมาและคลื่นกระแทก

ราวกับกัดเซาะ《เพลิงปีศาจ》เวทมนตร์พุ่งเข้าหาวอล์มด้วยพลังทำลายที่ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาจัดการกับอากาศร้อน และเบนร่างของเขาไปข้างหลังเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็สายเกินไป

“วอล์มมมมมมม!”

หัวหน้าดูเวยที่เรียกชื่อของเขาโผล่ขึ้นมาที่ขอบการมองเห็นของเขา แต่ลำแสงก็ได้กลืนกินทั้งหน่วย

“อ้ากกกกก”

ในฐานะของการต่อต้านครั้งสุดท้าย วอล์มพับแขนและขาของเขา ปิดหูและหายใจออก และความเจ็บปวดก็ได้วิ่งไปทั่วร่างกายที่แข็งทื่อของเขา เขารู้สึกได้ถึงลำแสง การระเบิด คลื่นกระแทก สัมผัสกับร่างของเขา ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้ายและขวาไม่รู้สึก ถูกกลืนโดยลำแสง เขาเริ่มสูญเสียความรู้สึกของร่ายกายไป

อีกครั้ง ฉันจะตายอีกแล้วเหรอ?

――หลังจากความรู้สึกบิดเบี้ยววิ่งผ่านร่างกาย ในที่สุดวิสัยทัศน์ของเขาก็เริ่มหายไปและมันก็มืดลง ถึงแม้เสียงมันจะดังมาก แต่เสียงทั้งหมดก็ได้หายไป และสุดท้ายสติของวอล์มก็ได้หายไปโดยสมบูรณ์

 

 

―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――

จบ – แตก  และตอนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายของ LN เล่ม 1 ด้วย หยุดไว้เท่านี้ดีไหมน้าาาาา  หยอก
 ขอ comment เยอะๆตอนนี้ ฮ่า
ขอขอบคุณ ENG จาก Kinokura Translation  
เพจผู้แปล  (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebo

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 31

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 31 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สติของวอล์มเริ่มตื่นขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากเสียงสะท้อนของดิน เขาเหยียดแขนขาออกจากเสื้อคลุมและเงยหน้าขึ้นจากกระเป๋าเป้และกระเป๋าคาดที่เขาใช้เป็นหมอน

อารมณ์ของวอล์มนั้นไม่ดี เมื่อเขารู้สึกเปียกในมือซ้ายและเมื่อมองลงไป นัวร์คว้ามือซ้ายของวอล์มไว้แล้วน้ำลายไหล

ขุ่นเคืองกับการกระทำที่ไม่สมเหตุผล วอล์มปิดจมูกของนัวร์ด้วยมือของเขา อย่างที่วอล์มคาดไว้นัวร์เริ่มหายใจไม่ออก

เป็นบาริโต้ที่ได้รับความเสียหายแทน เมื่อนัวร์เหวี่ยงแขนและขาของเธอมันได้กระแทกกับเขาหลายครั้ง บาริโต้ครวญครางออกมาแล้วจับหัวของเขาด้วยมือเพื่อปกป้องหงอนไก่ของเขา

เมื่อวอล์มพอใจแล้วเขาก็ปล่อยมือของเขาจากนัวร์และถูกมือของเขากับดินในขณะที่เผาสิ่งสกปรกด้วยเวทย์ไฟ

พวกผู้ชายนอนเขียงกัน คนโง่ทั้งสามก็อยู่ในท่านอนที่ไม่ดีและหัวหน้าดูเวยก็กรนด้วย

จากระยะไกล เสียงโจมตีของเวมมนตร์และเสียงโกรธดังก้องกังวาน กลิ่นเหม็นของอวัยวะภายในและสิ่งสกปรกอยู่ตามสายลม มันเป็นกิจวัตรประจำวันของวอล์มตามปกติ

น้ำถูกนำออกมาจากขวดน้ำและทำให้คอชุ่มชื้น จากนั้นเมื่อมันฝรั่งแห้งถูกกัด เนื้อสัมผัสที่เหนียวและความหวานก็กระจายไปทั่วปาก

หลังจากกินทั้งแล้ว วอล์มเอียงขวดน้ำอีกครั้งแล้วก็นอนลง

วอล์มตัดสินจากสีของท้องฟ้าและสภาพของพระอาทิตย์ที่ขึ้นว่ายังมีเวลาอีกสองสามชั่วโมงในก่อนผลัดหน่วย มันยังเร็วเกินไปที่จะลุก

วอล์มที่หมดทั้งแรงกายและใจก็หลับไปอย่างรวดเร็ว แต่การนอนของเขานั้นไม่ได้นานนัก 

“ตื่น พวกแกทุกคนลุกขึ้น! การโจมตีครั้งใหญ่ของศัตรู เราจะออกไปในเร็วๆนี้”

หัวหน้าดูเวยที่ตื่นขึ้นมาก่อนเขย่าแก้วหูของวอล์มด้วยเสียงโกรธ แต่ก็ดีกว่าถูกปลุกด้วยเวทมนตร์หรือทักษะของศัตรู

วอล์มกระโจนขึ้นไปสวมอุปกรณ์ด้วยความคร่องแคล่วที่ไม่เกินจริงที่จะบอกว่าเขาทำได้โดยไม่ต้องคิด ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ แล้วทุกคนในหน่วยก็มาเข้าแถวกัน

“ฟังให้ดี หน่วยเราได้รับคำสั่งจากหัวหน้าโคซูรุให้ไปช่วยหมวดของพาร์ม่า ศัตรูได้สร้างโล่และกำบังขึ้นจากสนามเพลาะที่พวกมันขุดไว้ตามปกติและพยายามจะรุดเข้ามา เราจะปิดกั้นให้ได้มากเท่าที่จะทำได้และหากการบุกทะลวงจะเกิดขึ้นให้จัดการด้วย《เพลิงปีศาจ》ของวอล์ม มันก็ง่ายๆ วอล์มแกควรจะประหยัดมานาไว้ โจเซ่แกดูแลนัวร์และบาริโต้ และวิลลาร์ทภาระจะเป็นของนายคนเดียว เพราะวอล์มจะออกไป ไรนัส ทิเบิร์ดและดานฟาน พวกแกสามคนจะเล็งหาช่องว่างและโจมตี่ตามดปกติ เอาล่ะไปกันเถอะ วันนี้เราจะเอาคืนไอ้พวกไครซิทและส่งพวกมันทั้งหมดไปสวรรค!”   (TN:ไม่รูแฮะมันไช้ Heavenจริงๆ)

“”” รับทราบ”””

หน่วยรีบเข้าสู่การต่อสู้พร้อมกับระเบิดเสียงตะโกน

ฝุ่นลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าเนื่องจากการโจมตีด้วยเวทมนตร์ และเสียงแหวกสายลมของลูกธนูที่ไปมาระหว่างกองทัพทั้งสอง

วอล์มคว้าหินขนาดเท่ากำปั้นและขว้างใส่ทหารไครซิทที่กำลังต่อสู้อย่างหนักบนทางลาด

หลังจากการกระทบอันจืดชืดที่โดนกับร่างกาย ทหารไครซิทก็เสียการทรงตัวและจะล้มลงจากบนเนิน

ทหารที่พยายามอย่างหนักเพื่อให้กลับมาสมดุล เขาดูกระตือรือร้นและสุขภาพดี ช่างน่าประทับใจ แล้ววอล์มก็ได้นำเสนอหินเท่ากำปั้นให้เขาอีกครั้ง คราวนี้ทหารทนไว้ไม่ได้และกลิ้งลงไปด้านล่าง

ถึงอย่างนั้นเหล่าทหารไครซิทที่ซึ่งมีรอยบุบเล็กน้อยก็ไม่หยุดการบุดทะลวงลง ลูกไฟกระทบกับโล่ที่ตั้งอยู่บนเนิน ชิ้นส่วนของไม้และดินกระจายไปรอบๆ ทหารที่ซ่อนตัวอยู่หลังโล่ถูกโยนออกจากเงาด้วยความตกใจ

ลูกธนูได้แทงที่หลังของทหารที่พยายามจะหลบไปที่หลังซาก อากาศสั่นไหวที่ขอบของการมองเห็นของวอล์ม และนัวร์ดูเหมือนจะพยายามจะยิงธนูนัดที่สอง

การยิงครั้งที่สองเจาะเข้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของทหารไครซิทที่หันออกจากโล่ วอล์มผิวปากและต้องการจะชื่นชมการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นนั่น ในระยะประชิดนัวร์มีฝีมืออยู่ในค่าเฉลี่่ยของทหารจักรวรรดิไฮเซิร์ค แต่จริงๆแล้วมีฝีมือการยิงธนูเธอเก่งที่สุดในหน่วย

ด้วยเหตุนี้ไอ้หงอนไก่บาริโต้ที่เป็นทหารใหม่เหมือนกันจึงอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายในหน่วยสินะ

หลังจากคิดเกี่ยวกับบาริโต้ วอล์มก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

ไม่ดีแล้ว ฉันหลงคิดมากไป

มันเป็นนิสัยที่ไม่ดีของวอล์มที่จะดำดิ่งไปในความคิดของเขาในระหว่างการต่อสู้ ในตอนนี้เขาได้เก็บเรื่่องความเด่นของมือใหม่ลงในมุมหนึ่งในหัวเขา

แม้ว่าการรบุกจะดำเนินต่อไปแล้วหลายครั้ง แต่ครั่งนี้วอล์มสังเกตเห็นความจริงจังของศัตรูได้ ไม่ว่าทหารจะล้มลงกี่คนพวกมันก็ตั้งโล่บนเนินอย่างไม่ลดละ และพยายามจะทะลวงแนวป้องกัน แม้แต่ผู้ใช้เวทมนตร์ที่มักจะคอยสนับสนุนจากด้านหลังเสมอก็ยังโน้มไปด้านหน้า

บางทีหนึ่งในผู้ใช้เวทมนตร์อาจไม่ชอบหงอนไก่ การโจมตีด้วยเวทมนตร์ก็ได้เข้าหาบาริโต้

“โวู้ว!?”

บาริโต้ก้มต่ำลงบนพื้นราวกับกระต่ายป่า  เมื่อเวทมนตร์น้ำพุ่งไปที่เนินมันก็ก่อตัวเป็นเสาน้ำแข็งทันที วอล์มฟันมันด้วยดาบ

“ฮึๆ”

“ห๋า”

บาริโต้ส่งเสียงอย่างรุนแรงใส่วอล์ที่เยาะเย้ยเขา

“ไม่ต้องมาหัวเราะแบบนั้นเลย!”

ถึงคราวของวอล์ม กระสุนดินได้ลอยเข้าหาวอล์ม เวทมนตร์ดินที่ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่คุณสมบัตินั้นมีประโยชน์ตรงข้ามกับลักษณะที่เห็น

การสร้างฐาน ศึกปิดล้อม เสริมแกร่งกองกำลังด้วยโกเลม มีหลายประเภทที่ได้ใช้ในสนามรบตามที่วอล์มรู้ แต่ในหมู่พวกนั้น《กระสุนดิน》เป็นเวทมนตร์ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก แม้ว่ามันจะเป็นแค่เวทมนตร์ขึ้นพื้นฐาน

แทนที่จะสร้างอะไรบางอย่างด้วยมานา มันมีประสิทธิภาพมากกว่่าในการใช้มานาเพื่อจัดการกับสิ่งที่มีอยู่ ในฐานะที่เป็นเวทมนตร์ที่ทำให้คุณต้องก้มหัวยอมรับ มันยากที่จะไม่เห็น《กระสุนดิน》ในสนามรบ

วอล์มสังเกตเห็นใบหน้าที่ตกตะลึงของผู้ใช้เวทย์ที่อยู่ด้านหลังโกเลม ดูเหมือนเขาจะตกใจมากที่เวทมนตร์ที่เขาภาคภูมิใจนั้นถูกตีแตกด้วยดาบ แต่เขานั้นไม่ยอมแพ้และยิง《กระสุนดิน》ใส่วอล์มครั้งแล้วครั้งเล่า

“ดูเหมือนแกอย่างจะเล่นโคลนสินะ หึ”

เมื่อวอล์มตีมันลงเป็นครั้งที่สาม ลูกไฟก็ลอยเข้ามาจากทางอื่น วอล์มหลอกว่ากำลังหลบมัน แต่ใจของเขานั้นตรงกันข้าม ท้ายที่สุดในฐานะคนที่มีคุณสมบัติธาตุไฟ เขานั้นแข็งแกร่งต่อธาตุเดียวกัน

แม้ว่าไฟจะทำให้เกิดการเผาไหม้กับผู้อื่น แต่มันก็แค่ร้อนเมื่อมีคุณสมบัติธาตุไฟ หลังจากได้รับ《เพลิงปีศาจ》วอล์มก็ได้รับความต้านทานต่อไฟและความร้อนและประสิทธิภาพของมันก็ยอดเยี่ยมแม้ในหมู่ผู้คนที่มีคุณสมบัติธาตุเดียวกัน

เป็นผลให้เปลวไฟที่กระทบบางส่วนของวอล์มไม่เป็นอันตราย วอล์มที่ซึ่งคลุมด้วยบาร์เรียเวทมนตร์และรวมถึงอุปกรณ์ด้วยนั้นปลอดภัย ปัญหาก็คือมือที่ยึดกับร่างของวอล์ม ที่ไม่ใช่ที่ไหนไกล

“โอ้ยๆ ใช้สหายตัวเองเป็นกำแพง เอาจริงดิ”

วอล์มโกรธโจเซ่และมือใหม่ทั้งสองคนที่แอบหลังเงาของเขาเล็กน้อย

วอล์มไม่พอใจที่สหายของเขาเลือกโล่เนื้อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะสามารถหลบหรือป้องกันก็ได้

“อื่ม มันสุดยอกมากค่ะ วอล์มซัง”

“ใช่-แล้ว แม้ว่าเปลวไฟจะโดนโดยตรง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย”

“เป็นเรื่องดีที่ฉันไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์กันไฟ”

หากสามารถฆ่าคนด้วยการจ้องมองได้ ไอ้คนคิดแผน ไอ้หงอนไก่และไอ้คนงี่เง่าถือธนู วอล์มมั่นใจว่าการจ้องมองของเขาจะสามารถฆ่าพวกเขาได้ในตอนนี้

“ชิ ช่างเป็นพวกจ้อแจ้จริงๆ”

วอล์มต้องการเข้าหาทั้งสามคน แต่เขาไม่มีเวลาที่จะทำอย่างนั้น บางทีทหารศัตรูคิดว่าพวกเรากำลังลำบาก พวกเขากระโจนออกจากสนามเพลาะไปที่วอล์มอย่างแรง

“ตามฉันมา!!”

ทหารกระโจนออกพร้อมกันในครั้งเดียว สัดส่วนของอัศวินมีมากกว่าเมื่อก่อนสะท้อนให้เห็นในสายตาของวอล์ม โดยเฉพาะอัศวินที่วิ่งมาด้านหน้า ดูจะเป็นภาระหนักที่จะต้องรับมือ

ผทสีม่วงที่ไหลลื่นและความงดงามของร่ากายที่สามารถแยกให้เห็นได้แม้จากด้านนอกเกราะ เมื่อเห็นดังนั้น วอล์มคิดว่าเธอจะต้องเป็นผู้หญิงที่เป็นอัศวินเพราะครอบครัวของเธอ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเธอมากนัก ตอนแรกเขาคิดอย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม วอล์มเปลี่ยนใจเมื่อเห็นโล่ที่ซึ่งผู้หญิงคนนั้นถือถูกคลุมด้วยมานา เธอสวนกลับ《ใบมีดลม》และพันธมิตรที่ออกจากเนินก็ถูกแทงโดยหอก

อัศวินหญิงดูเหมือนจะมี《กำแพงเหล็ก》และยังมีมานามากจนไร้สาระ ตรงกันข้ามกับรูปร่างหน้าตาของเธอ อัศวินดูเหมือนจะเป็นพวกสมองกล้ามขณะที่เธอกระโจนเข้าสู่ความตายโดยไม่ลังเล วอล์มไม่ต้องการต่อสู้กับคนแบบนี้ เขาคิดว่าเธอจะเหมาะสำหรับหัวหน้าดูเวยเท่านั้น

หัวหน้าดูเวยที่ยิ้มด้วยดวงตาที่เเปล่งประกาย จินตราการนั้นเข้ามาในความคิดของวอล์ม

“วอล์มมมมมม ตอนนี้แหละะะะ”

หูของวอล์มได้ยินเสียงอันน่าสะเทือนใจจากหัวหน้าหมวดโคซูรุ ด้วยความตั้งใจของหัวหน้าของเขาและความต้องการที่จะไม่สู้กับอัศวิน วอล์มจึงหยิบหน้ากากออกจากกระเป๋าเอวของเขา หน้ากากยังคงสั่นราวกับว่ามันไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

สยองดี―― ความสะดวงของหน้ากากนี่คือมันจะเกาะกับใบหน้า

โดยไม่ได้ลังเลใดๆ วอล์มสวมหน้ากากและเตรียมที่จะใช้ทักษะ

วอล์มพร้อมที่จะปล่อยมานาของเขาออกจากทั้งตัว และใช้มานาที่เก็บไว้ทั้งหมดของเขาในครั้งเดียว อากาศร้อนและเปลวไฟเริ่มออกมาจากร่างกายของเขา ถึงอย่างนั้นอัศวินหญิงที่อยู่ตรงหน้าของวอล์มก็ไม่ได้ลังเลเลย

สายตาที่เฉียบคมดึงดูดความสนใจของวอล์มอย่างสุดใจ

ในยามสงบวอล์มจะยินดีกับการจ้องมองเช่นนี้เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะไม่มีเจตนาฆ่าอยู่เบื่องหลัง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันของทั้งสองนั้น วอล์มคิดว่าอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่จะเข้ามาหาเขา

ถึงอย่างนั้นวอล์มก็ไม่ได้หวั่นไหว การควบคุมของเขายังอยู่ เขามีประสบการณ์ที่ได้เห็นคนที่ยังคงเคลื่อนไหวต่อไปแม้หลังจากร่างกายทั้งหมดปกคลุมไปด้วย《เพลิงปีศาจ》

แต่มันแตกต่างจากตอนนั้น ตอนนี้วอล์มอยู่ในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย นอกเหนือจากการสนับสนุนจากกองกำลังพันธมิตรแล้วศัตรูก็ยังวิ่งขึ้นมาจากทางลาด วอล์มต้องปล่อยไฟและเผาศัตรูใต้สายตาของเขาเท่านั้น

จังหวะที่《เพลิงปีศาจ》ถูกเปิดใช้งาน――ทั้งกลุ่มหยุดลงอย่างรวดเร็วและทำท่างของพวกเขาให้ต่ำแนบติดกับพื้นดินให้มากที่สุด

บางคนสร้างกำแพงดินเหนียวและหลุม ถ้ามันเป็นเพียงแค่เวทมนตร์มันก็พอจะเผชิญได้ แต่ต่อหน้า《เพลิงปีศาจ》ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะป้องกันเว้นแต่จะปินกั้นทุกทิศทาง

ข้อสันนิษฐานที่ว่าอัศวินจะรีบวิ่งฝ่าเข้าไปใน《เพลิงปีศาจ》ที่วอล์มกลัวไม่มีอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ก็เกิดความสงสัยขึ้น

ทำไมเธอถึงตั้งหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบและเสริมแกร่งให้กับการป้องกันแม้ว่าจะมีโมเมนตัมขนานนี้ก็ตาม? ทำไมทหารไครซิทถึงไม่ได้เรียนรู้จากเมื่อวานและเลือกกลยุทธ์การโจมตีเดิม?

ฉันคิดมากเกินไปหรือเปล่า

――สงสัยว่าเขาจะคิดมากเกินไปหรือเปล่า วอล์มพยายามเปลี่ยนความคิดของเขา แต่เขาก็ต้องตกตะลึงกับมานาที่บวมขึ้นจากในสนามเพลาะ

“ตัวล่อเรอะ”

เหล่มองชั่วขณะและค้นหาที่มาของมัน จากนั้นวอล์มก็พบบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เด็กหนุ่มที่มีผมและตาสีดำและเด็กสาวผิวสีเกาลัดที่มีผมสีดำ ทั้งสองกำลังมองมาที่เขา

วอล์มรู้จักคนเพียงไม่กี่คนที่มีมานาที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา และมันยังคงโป่งขึ้นหลายครั้งเมื่อเขามองมันอย่างใกล้ชิด เขามองเห็นผู้ใช้เวทมนตร์คนอื่นๆอีกมากมายที่กำลังซุ่มอยู่

ขนลุกขึ้นทั่วร่างกายและเหงื่อเย็นก็ไหลออกมา

เวรเอ้ย

วอล์มด่าตัวเขาเองขณะที่จ้องมองเด็กหนุ่มและเด็กสาว เขาติดกับ เขาติดเข้าไปในแผนของศัตรู และสายตาของเขาถูกโจมตีด้วยเวทมนตร์หลากหลายมากมายที่ซึ่งได้เติมเต็มขอบเขตการมองเห็นของเขา โดยเฉพาะแสงสร่างแพรวพราว

ในขณะที่เอนไปทางที่ที่มีความหนาแน่นกว่าเล็กน้อย ปล่อย《เพลิงปีศาจ》ด้วยพลังทั้งหมดของเขา เวทมนตร์นับไม่ถ้วนปะทะกันทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แรงทำให้ผมกระพือและร่างกายทั้งหมดก็ถูกกระแทกด้วยวัตถุที่ลอยมาและคลื่นกระแทก

ราวกับกัดเซาะ《เพลิงปีศาจ》เวทมนตร์พุ่งเข้าหาวอล์มด้วยพลังทำลายที่ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาจัดการกับอากาศร้อน และเบนร่างของเขาไปข้างหลังเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็สายเกินไป

“วอล์มมมมมมม!”

หัวหน้าดูเวยที่เรียกชื่อของเขาโผล่ขึ้นมาที่ขอบการมองเห็นของเขา แต่ลำแสงก็ได้กลืนกินทั้งหน่วย

“อ้ากกกกก”

ในฐานะของการต่อต้านครั้งสุดท้าย วอล์มพับแขนและขาของเขา ปิดหูและหายใจออก และความเจ็บปวดก็ได้วิ่งไปทั่วร่างกายที่แข็งทื่อของเขา เขารู้สึกได้ถึงลำแสง การระเบิด คลื่นกระแทก สัมผัสกับร่างของเขา ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้ายและขวาไม่รู้สึก ถูกกลืนโดยลำแสง เขาเริ่มสูญเสียความรู้สึกของร่ายกายไป

อีกครั้ง ฉันจะตายอีกแล้วเหรอ?

――หลังจากความรู้สึกบิดเบี้ยววิ่งผ่านร่างกาย ในที่สุดวิสัยทัศน์ของเขาก็เริ่มหายไปและมันก็มืดลง ถึงแม้เสียงมันจะดังมาก แต่เสียงทั้งหมดก็ได้หายไป และสุดท้ายสติของวอล์มก็ได้หายไปโดยสมบูรณ์

 

 

―――――――――――――――――――――――――――――――――――――――――

จบ – แตก  และตอนนี้ก็เป็นตอนสุดท้ายของ LN เล่ม 1 ด้วย หยุดไว้เท่านี้ดีไหมน้าาาาา  หยอก
 ขอ comment เยอะๆตอนนี้ ฮ่า
ขอขอบคุณ ENG จาก Kinokura Translation  
เพจผู้แปล  (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebo

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+