สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 17

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 17 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ค่ำคืนแรกหลังการล้มสลายของไมยาร์ดได้มาถึงไอเดนเบิร์ก หน่วยของดูเวยที่กำลังอยู่ในการลาดตระเวนสองกะ ได้ใช้กระท่อมริมน้ำที่ถูกทิ้งร้างเป็นที่พักแรม

 

โดยปกติวอลล์มมักจะอยู่กับใครสักคน แต่วันนี้เขากำลังสูบบุหรี่อยู่คนเดียว แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่ไม่สามารถทำได้ในสนามรบแต่ตอนนี้ความปลอดภัยเมืองก็ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วจากการเข้าควบคุมอย่างละเอียดในระหว่างวัน

 

บวกกับการห้ามออกมาขัางนอกตอนกลางคืนอย่างเคร่งครัด ยกเว้นแค่ทหารไฮเซิร์คเท่านั้น มีแค่คนไม่ยั้งคิดหรือคนโง่เท่านั้นแหละที่จะกล้าออกมา

 

วอล์มโยนปลาแม่น้ำเค็มที่เข้าปล้นมาได้เข้าไปในปาก มันเค็มมากเพราะแต่เดิมทีมันจะถูกใช้ใส่ในซุบหรือละลายน้ำก่อนกิน เขาจะไม่กินมันถ้าเขาไม่หมดแรงและมานา

 

เพื่อขจัดความเค็มในปาก วอล์มหยิบขวดออกมาแล้วเอาไปที่ปาก แอลกอฮอล์ไหลผ่านปากไปที่ท้องแล้วหายใจออกเบาๆ จากนั้นก็มองไปที่ท้องฟ้า

 

ในตอนกลางคืนดวงจันทร์สองดวงจะปรากฏบนท้องฟ้าราวกับว่ามันกำลังไล่ตามกัน แม้ว่าจะเป็นพระจันทร์เสี้ยวหรือเต็มดวงก็รู้สึกว่ามันนั้นสว่างกว่าโลกก่อนของวอล์ม แต่วันนี้เป็นเป็นคืนขึ้น ดังนั้นรอบๆจึงมืดมิด

 

ทุกครั้งที่วอล์มเห็นพระจันทร์ มันทำให้เขาตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในโลกที่ต่างออกไป กับบุหรี่ที่คาบไว้ที่จุดด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ หลังจากวอล์มได้เรียนรู้มัน เขาก็ไม่สามารถกลับไปใช้ไฟแช็กได้อีก

 

ควันค่อยๆเข้าไปในปอด ทันทีที่วอล์มหายใจออก ควันก็ลอยไปบนฟ้าแล้วหายไป

 

ราวกับการต่อสู้อันดุเดือนเมื่อตอนกลางวันเป็นเรื่องโกหก ความเงียบได้เข้าครอบงำเวลากลางคืน วอล์มนั้นไม่ได้เกลียดการคุยกับคนอื่น แต่เขาชอบที่จะใช้เวลาอยู่คนเดียวแบบนี้เป็นบางคราว

 

เวลาที่ได้อยู่คนเดียวอาจพูดได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับชีวิตของทหาร คนอื่นๆในหน่วยอาจอยู่คนเดียวเป็นบางครั้งก็ได้ ตราบใดที่ความปลอดภัยได้รับประกัน

 

เกาหัวและคลายร่างกายลง มันง่ายที่จะเห็นว่าร่างกายที่ออนล้ากำลังขอให้เขาเข้านอน

 

วอล์ม ได้ยินเสียง

 

แม้ว่าจะอยู่ในสถานะผ่อนคลาย แต่วอล์มก็ไม่เคยพลาดเสียงแว่ว จุดต้นตอของเสียงนั้นมาจากมุมหนึ่งของท่าเรือ

 

เรือข้ามฟากและเรือประมงถูกใช้เพื่อไล่ตามเศษกองกำลังของเฟอร์เรียสหมดแล้ว แล้วถ้าเกิดมีใครมา ก็อาจเป็นคนที่อยากใช้เวลาเพลิดเพลินตามลำพังแบบวอล์ม ไม่ก็คงเป็นคนที่พยายามหนีออกจากเมือง หรืออาจเป็นแค่สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างแมวก็ได้ —แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้

 

นอกจากทหารแล้วยังมีพลเรือนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีออกจากเมือง แม้พวกที่หลบหนีไปตั้งแต่เนิ่นๆนั้นไม่เป็นไร แต่จักรวรรดิไฮเซิร์ค นั้นไม่ต้องการให้ประชากรไหลออกจากเมือง ตอนนี้ได้ทำการจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขาจากเมือง

 

“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”

 

ไม่มีการตอบกลับ บางทีคนๆนั้นอาจกำลังสงสัยว่าวอล์มจะปล่อยเขาไปหรือไม่ โดยคิดว่าจะทำยังไงดี แต่ถ้าเกิดไม่มีใครอยู่ตรงนั้นละก็ วอล์มกูจะดูเหมือนไอ้โง่ทันที

 

วอล์ม ทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นและเหยียบด้วยเท้าของเขา

 

ชุดเกราะและอุปกรณ์ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในกระท่อม ตอนนี้เขาสวมแค่สนับมือและดาบยาวที่เอวของเขา

 

“ฉันจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย ใครอยู่ตรงนั้น”

 

เมื่อวอล์มจงใจจับดาบของเขา ก็มีร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากกระท่อมที่ใช้ตกปลา

 

“ดูไม่เหมือนทหารไฮเซิร์คเลย นายไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาตอนกลางคืนนะรู้ไหม”

 

เป็นคนสองคน  เนื่องจากพวกเขาอยู่ในที่มืด วอล์มจึกมองเห็นแค่โครงร่างเท่านั้น

 

“ข-ขอภัยด้วย”

 

ชายชราและหญิงสาวได้ขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

ฉันสงสัยว่าจะเป็นอะไรไหม  ถ้าพวกเขาไม่เป็นภัย ก็แค่เตือนพวกเขาและให้พวกเขากลับไป

 

–วอล์มเดินเข้าใกล้ขึ้นอีกสองสามก้าวแล้วจึงร่ายเวทย์

“《คบเพลิง》”

มองห่างออกไปจากต้นกำเนิดแสง วอล์มมอมไปที่ทั้งสอง ตรงนั้นคือชายชราผมหงอกและหญิงสาวผมสีบลอนด์ที่ลืมตาด้วยความแปลกใจ

ดูเหมือนชายชราและหลานสาวที่พยายมหลบหนีจากเมืองที่เกิดการข่มขืนและปล้นสะดม

สวมเสื้อผ้าที่ไปที่ประชาชนสวนใส่ แต่มีบางอย่างดึงดูดความสนใจของวอล์ม

ชายชรานั้นมีริ้วรอยเหมาะสมกับอายุของเขา แต่หน้าอกและความกว้างของไหล่นั้นจะเห็นได้ว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาเมื่อเขายังหนุ่ม

ผมของหญิงสาวก็สกปรกไปด้วยเขม่า แต่กลิ่นตัวของเธอเบาบาง นอกจากนั้นเล็บและนิ้วมือก็งดงาม และยังไม่มีร่องรอยของการถูกแดดเผา โดยปกติถ้าได้มีส่วนร่วมในการทำงานมือจะหยาบและสกปรก 

“….ออกมาทำอะไร”

“เมืองนี้มันอันตราย การข่มขืนและปล้นสะดมพบได้ทั่วไป เรากำลังคิดว่าจะไปพบญาติของเราในประเทศ”

สัญชาตญาณของวอล์มบอกว่าเขาไม่ใช่พลเมือง บางทีชายชราอาจเป็นทหารระดับสูงหรือพ่อข้าที่ร่ำรวยหรือ….ขุนนาง

“คุณเป็นทหารใช่ไหม”

“ไม่ฉันไม่ได้เป็นแล้ว  แน่นอนว่าฉันเคยมีส่วนร่วมในสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแม้แต่ดาบ”

ชายชราแก้ตัวกับวอล์มด้วยท่าทางหวาดกลัว

“สำหรับคนที่เกษียณไปนานแล้ว คุณยังดูค่อนข้างที่จะได้รับการฝึกฝน สำหรับคนที่อายุประมาณคุณมันเป็นปกติกว่ามากที่หลังจะงอ และเธอก็มีมือที่สวยงาม เธอเป็นคนเก็บตัวหรือยังไง”

“ความแข็งแรงเป็นอย่างเดียวที่ฉันมี หลานสาวฉันยังเด็กเกินไปเมื่อพ่อแม่ของเธอตาย ดังนั้นฉันจึงดูแลเธอเพื่อที่เธอจะไม่ได้ยากลำบาก”

โดยไม่ได้ปฏิเสธหรือยืนยัน วอล์มมองพวกเขาเงียบๆ แววตาของชายชราเปลี่ยนไปเมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นการตอบสนองนั้นเขามั่นใจว่าชายชราคนนี้จะต้องมีฝีมือมากในช่วงยุคทองของเขา

ไม่พบเจออาวุธในสัมภาระพี่พวกเขาเอามา แต่มันก็อาจเอาออกมาจากกระเป๋าเวทย์หรืออาจซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้ และมีแม้กระทั่งนักรบที่จัดการกับอาวุธได้ด้วยมือเปล่า เขาไม่สามารถปล่อยให้การป้องกันตกลงได้

 
วอล์ม ยังไม่ได้ตัดสินว่าพวกเขาเป็นขุนนาง และแม้พวกเขาจะเป็นขุนนาง แต่เป้าหมายหลักก็ถูกจับกุมหรือสังหารไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นถ้าวอล์มเข้าไปขัดขวางคนที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่พยายามจบหลบหนี

ความสามารถของชายชราก็ไม่เป็นที่รับรู้เช่นกัน แสดงความรู้ออกมาและแกล้งทำเป็นมือใหม่และทำให้ดูเหมือนเขาไม่กำลังแสดงอยู่ หากวอล์มจัดการกับเขาได้ไม่ดีมันมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเอง

ฉันควรถ่วงเวลาและรอคนมาช่วยดีไหม

――วอล์มยังคงจ้องมองอยู่สองสามวิแล้วก็มีเสียงดังออกมา ต้นเสียงคือหญิงสาว ชัดๆว่าจากท้องของเธอ เธอหิว บอกได้เลยว่าท้องของเธอกล้ามาก

“ขอโทษค่ะ คือมัน….”

หญิงสาวเพยใบหน้าขาวและแดงขึ้นนั้นน่ารักมาก

“ฮ่าๆ!”

เมื่อทั้งสองเห็นวอล์มหัวเราะพวกเขาก็ตาโต

“โทษทีโทษที เธอน่ารักมาก หากเธอน่ารักมากเกินไปและได้รับการดูแลแบบนี้เธอจะถูกพาตัวไปโดยทหารที่ไม่ดีอย่่างที่เห็น “ถ้ามันปลอดภัยแล้ว” ก็กลับมา คราวนี้ฉันจะปล่อยไป”

หลังจากที่พวกเขาโค้งคำนับวอล์มและพยายามจะหายไปในซอยด้านหลัง

“รอก่อน”

ขณะที่ทั้งสองที่ถูกเรียกตัว วอล์มกลับไปที่ๆเขาสูบบุหรี่แล้วเอาของสองอย่างให้

“โทษที ฉันกินมันไปแล้วนิดหน่อย แค่เธอหิวใช่ไหม? เอาไปมันจะช่วยบรรเทาความหิวของเธอ”

วอล์มยื่นปลาเค็มแม่น้ำในโหลและถั่วจากถุงให้

“ข-ขอบคุณมากค่ะ”

หญิงสาวรับมันในลักษะที่สับสน และชายชราก็มองไปที่วอล์มเพราะเขาไม่สามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้

“วันนี้มันแย่มาก ฉันอาจดูเหมือนคนไม่จริงใจ แต่สิ่งนี้มันจะช่วยเบาความผิดบางอย่างของฉันได้ ไม่ต้องลังเลมันไม่มีพิษ”

เมื่อวอล์มยื่นโหลและถุงให้ หญิงสาวก็เอื้อมมือไปรับมันมา มันซ่อนอยู่ใต้ฮูด ผมที่ซ่อนไว้ใต้ฮูดเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายนั้นมีสีทองอ่อนนุ่มดั่งทุ่งข้าวสาลี แสงที่สะท้อนออกมาจาก《คบเพลิง》มันเป็นสีทองเหมือนกับผมของเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

วอล์มมองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แม้มันจะเป็นคำพูดและการกระทำสั้นๆ แต่ละอย่างก็น่ารักดี และเขาสามารถเห็นการได้รับการศักษาระดับสูงที่เธอได้รับ

“ใช่….ด้วยความยินดี”

วอล์มออกจากตรงนั้นในขณะที่จุดบุหรี่อีกอัน ระหว่างกลับไปที่ที่หน่วยอยู่ วอล์มก็เฝ้าดูแม่น้ำ มันยากที่จะมองเห็นฝั่งตรงข้ามเพราะแสงน้อยในตอนกลางคืน ถึงอย่างนั้นในคืนที่มืดมิดเขาก็สามารถเห็นเรือข้ามแม่น้ำได้โดยไม่ต้องใช้คบเพลิงหรือเวทมนตร์

“ตามที่คิด พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านได้ง่ายๆ เฮ่อ”

อาจฟังดูไร้สาระที่วอล์มที่เป็นผู้รักรานจะเห็นใจเหยื่อ เขาเป็นคนที่อาจฆ่าครอบครัวหรือเพื่อนบ้านของพวกเขา สุดท้ายมันก็เป็นแค่การฆาตกรรมตามกฏหมายที่มีข้ออ้างที่เรียกว่า “สงคราม”  ยิ่งไปกว่านั้นความรักชาติและความรักที่เขามีต่อบ้านเกิดก็น้อยนิด เขาเป็นคนที่อุทิศตนให้กับสงครามในขณะที่ถูกสถานการณ์พัดพาไป เขาไม่มีเหตุผลหรือความภาคภูมิใจหรืออื่นใด สำหรับบ้านเกิดของเขา

“คิดว่าจะได้รับการให้อภัย เฮอะ ไอ้เวรคนเสแสร้ง”

จุดหมายปลายทางของผู้ที่สูญเสียวิถีชีวิตของพวกเขาอาจต้องย่อยยับ และวอล์มยังพยายามที่จะทำความคุ้นเคกับโลกนี้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

แต่ตอนนี้ วอล์มไม่มั่นใจอีกต่อไปว่าเขาจะไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์และศีลธรรมที่เขาได้รับการปลูกฝังในโลกก่อนไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 17

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 17 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ค่ำคืนแรกหลังการล้มสลายของไมยาร์ดได้มาถึงไอเดนเบิร์ก หน่วยของดูเวยที่กำลังอยู่ในการลาดตระเวนสองกะ ได้ใช้กระท่อมริมน้ำที่ถูกทิ้งร้างเป็นที่พักแรม

 

โดยปกติวอลล์มมักจะอยู่กับใครสักคน แต่วันนี้เขากำลังสูบบุหรี่อยู่คนเดียว แม้ว่ามันจะเป็นการกระทำที่ไม่สามารถทำได้ในสนามรบแต่ตอนนี้ความปลอดภัยเมืองก็ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็วจากการเข้าควบคุมอย่างละเอียดในระหว่างวัน

 

บวกกับการห้ามออกมาขัางนอกตอนกลางคืนอย่างเคร่งครัด ยกเว้นแค่ทหารไฮเซิร์คเท่านั้น มีแค่คนไม่ยั้งคิดหรือคนโง่เท่านั้นแหละที่จะกล้าออกมา

 

วอล์มโยนปลาแม่น้ำเค็มที่เข้าปล้นมาได้เข้าไปในปาก มันเค็มมากเพราะแต่เดิมทีมันจะถูกใช้ใส่ในซุบหรือละลายน้ำก่อนกิน เขาจะไม่กินมันถ้าเขาไม่หมดแรงและมานา

 

เพื่อขจัดความเค็มในปาก วอล์มหยิบขวดออกมาแล้วเอาไปที่ปาก แอลกอฮอล์ไหลผ่านปากไปที่ท้องแล้วหายใจออกเบาๆ จากนั้นก็มองไปที่ท้องฟ้า

 

ในตอนกลางคืนดวงจันทร์สองดวงจะปรากฏบนท้องฟ้าราวกับว่ามันกำลังไล่ตามกัน แม้ว่าจะเป็นพระจันทร์เสี้ยวหรือเต็มดวงก็รู้สึกว่ามันนั้นสว่างกว่าโลกก่อนของวอล์ม แต่วันนี้เป็นเป็นคืนขึ้น ดังนั้นรอบๆจึงมืดมิด

 

ทุกครั้งที่วอล์มเห็นพระจันทร์ มันทำให้เขาตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในโลกที่ต่างออกไป กับบุหรี่ที่คาบไว้ที่จุดด้วยเวทมนตร์ธาตุไฟ หลังจากวอล์มได้เรียนรู้มัน เขาก็ไม่สามารถกลับไปใช้ไฟแช็กได้อีก

 

ควันค่อยๆเข้าไปในปอด ทันทีที่วอล์มหายใจออก ควันก็ลอยไปบนฟ้าแล้วหายไป

 

ราวกับการต่อสู้อันดุเดือนเมื่อตอนกลางวันเป็นเรื่องโกหก ความเงียบได้เข้าครอบงำเวลากลางคืน วอล์มนั้นไม่ได้เกลียดการคุยกับคนอื่น แต่เขาชอบที่จะใช้เวลาอยู่คนเดียวแบบนี้เป็นบางคราว

 

เวลาที่ได้อยู่คนเดียวอาจพูดได้ว่าเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับชีวิตของทหาร คนอื่นๆในหน่วยอาจอยู่คนเดียวเป็นบางครั้งก็ได้ ตราบใดที่ความปลอดภัยได้รับประกัน

 

เกาหัวและคลายร่างกายลง มันง่ายที่จะเห็นว่าร่างกายที่ออนล้ากำลังขอให้เขาเข้านอน

 

วอล์ม ได้ยินเสียง

 

แม้ว่าจะอยู่ในสถานะผ่อนคลาย แต่วอล์มก็ไม่เคยพลาดเสียงแว่ว จุดต้นตอของเสียงนั้นมาจากมุมหนึ่งของท่าเรือ

 

เรือข้ามฟากและเรือประมงถูกใช้เพื่อไล่ตามเศษกองกำลังของเฟอร์เรียสหมดแล้ว แล้วถ้าเกิดมีใครมา ก็อาจเป็นคนที่อยากใช้เวลาเพลิดเพลินตามลำพังแบบวอล์ม ไม่ก็คงเป็นคนที่พยายามหนีออกจากเมือง หรืออาจเป็นแค่สัตว์ตัวเล็กๆ อย่างแมวก็ได้ —แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้

 

นอกจากทหารแล้วยังมีพลเรือนจำนวนมากที่พยายามหลบหนีออกจากเมือง แม้พวกที่หลบหนีไปตั้งแต่เนิ่นๆนั้นไม่เป็นไร แต่จักรวรรดิไฮเซิร์ค นั้นไม่ต้องการให้ประชากรไหลออกจากเมือง ตอนนี้ได้ทำการจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขาจากเมือง

 

“ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?”

 

ไม่มีการตอบกลับ บางทีคนๆนั้นอาจกำลังสงสัยว่าวอล์มจะปล่อยเขาไปหรือไม่ โดยคิดว่าจะทำยังไงดี แต่ถ้าเกิดไม่มีใครอยู่ตรงนั้นละก็ วอล์มกูจะดูเหมือนไอ้โง่ทันที

 

วอล์ม ทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นและเหยียบด้วยเท้าของเขา

 

ชุดเกราะและอุปกรณ์ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในกระท่อม ตอนนี้เขาสวมแค่สนับมือและดาบยาวที่เอวของเขา

 

“ฉันจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย ใครอยู่ตรงนั้น”

 

เมื่อวอล์มจงใจจับดาบของเขา ก็มีร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากกระท่อมที่ใช้ตกปลา

 

“ดูไม่เหมือนทหารไฮเซิร์คเลย นายไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาตอนกลางคืนนะรู้ไหม”

 

เป็นคนสองคน  เนื่องจากพวกเขาอยู่ในที่มืด วอล์มจึกมองเห็นแค่โครงร่างเท่านั้น

 

“ข-ขอภัยด้วย”

 

ชายชราและหญิงสาวได้ขอโทษด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

ฉันสงสัยว่าจะเป็นอะไรไหม  ถ้าพวกเขาไม่เป็นภัย ก็แค่เตือนพวกเขาและให้พวกเขากลับไป

 

–วอล์มเดินเข้าใกล้ขึ้นอีกสองสามก้าวแล้วจึงร่ายเวทย์

“《คบเพลิง》”

มองห่างออกไปจากต้นกำเนิดแสง วอล์มมอมไปที่ทั้งสอง ตรงนั้นคือชายชราผมหงอกและหญิงสาวผมสีบลอนด์ที่ลืมตาด้วยความแปลกใจ

ดูเหมือนชายชราและหลานสาวที่พยายมหลบหนีจากเมืองที่เกิดการข่มขืนและปล้นสะดม

สวมเสื้อผ้าที่ไปที่ประชาชนสวนใส่ แต่มีบางอย่างดึงดูดความสนใจของวอล์ม

ชายชรานั้นมีริ้วรอยเหมาะสมกับอายุของเขา แต่หน้าอกและความกว้างของไหล่นั้นจะเห็นได้ว่าเขาได้รับการฝึกฝนมาเมื่อเขายังหนุ่ม

ผมของหญิงสาวก็สกปรกไปด้วยเขม่า แต่กลิ่นตัวของเธอเบาบาง นอกจากนั้นเล็บและนิ้วมือก็งดงาม และยังไม่มีร่องรอยของการถูกแดดเผา โดยปกติถ้าได้มีส่วนร่วมในการทำงานมือจะหยาบและสกปรก 

“….ออกมาทำอะไร”

“เมืองนี้มันอันตราย การข่มขืนและปล้นสะดมพบได้ทั่วไป เรากำลังคิดว่าจะไปพบญาติของเราในประเทศ”

สัญชาตญาณของวอล์มบอกว่าเขาไม่ใช่พลเมือง บางทีชายชราอาจเป็นทหารระดับสูงหรือพ่อข้าที่ร่ำรวยหรือ….ขุนนาง

“คุณเป็นทหารใช่ไหม”

“ไม่ฉันไม่ได้เป็นแล้ว  แน่นอนว่าฉันเคยมีส่วนร่วมในสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแม้แต่ดาบ”

ชายชราแก้ตัวกับวอล์มด้วยท่าทางหวาดกลัว

“สำหรับคนที่เกษียณไปนานแล้ว คุณยังดูค่อนข้างที่จะได้รับการฝึกฝน สำหรับคนที่อายุประมาณคุณมันเป็นปกติกว่ามากที่หลังจะงอ และเธอก็มีมือที่สวยงาม เธอเป็นคนเก็บตัวหรือยังไง”

“ความแข็งแรงเป็นอย่างเดียวที่ฉันมี หลานสาวฉันยังเด็กเกินไปเมื่อพ่อแม่ของเธอตาย ดังนั้นฉันจึงดูแลเธอเพื่อที่เธอจะไม่ได้ยากลำบาก”

โดยไม่ได้ปฏิเสธหรือยืนยัน วอล์มมองพวกเขาเงียบๆ แววตาของชายชราเปลี่ยนไปเมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นการตอบสนองนั้นเขามั่นใจว่าชายชราคนนี้จะต้องมีฝีมือมากในช่วงยุคทองของเขา

ไม่พบเจออาวุธในสัมภาระพี่พวกเขาเอามา แต่มันก็อาจเอาออกมาจากกระเป๋าเวทย์หรืออาจซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งก็ได้ และมีแม้กระทั่งนักรบที่จัดการกับอาวุธได้ด้วยมือเปล่า เขาไม่สามารถปล่อยให้การป้องกันตกลงได้

 
วอล์ม ยังไม่ได้ตัดสินว่าพวกเขาเป็นขุนนาง และแม้พวกเขาจะเป็นขุนนาง แต่เป้าหมายหลักก็ถูกจับกุมหรือสังหารไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นถ้าวอล์มเข้าไปขัดขวางคนที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่พยายามจบหลบหนี

ความสามารถของชายชราก็ไม่เป็นที่รับรู้เช่นกัน แสดงความรู้ออกมาและแกล้งทำเป็นมือใหม่และทำให้ดูเหมือนเขาไม่กำลังแสดงอยู่ หากวอล์มจัดการกับเขาได้ไม่ดีมันมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเอง

ฉันควรถ่วงเวลาและรอคนมาช่วยดีไหม

――วอล์มยังคงจ้องมองอยู่สองสามวิแล้วก็มีเสียงดังออกมา ต้นเสียงคือหญิงสาว ชัดๆว่าจากท้องของเธอ เธอหิว บอกได้เลยว่าท้องของเธอกล้ามาก

“ขอโทษค่ะ คือมัน….”

หญิงสาวเพยใบหน้าขาวและแดงขึ้นนั้นน่ารักมาก

“ฮ่าๆ!”

เมื่อทั้งสองเห็นวอล์มหัวเราะพวกเขาก็ตาโต

“โทษทีโทษที เธอน่ารักมาก หากเธอน่ารักมากเกินไปและได้รับการดูแลแบบนี้เธอจะถูกพาตัวไปโดยทหารที่ไม่ดีอย่่างที่เห็น “ถ้ามันปลอดภัยแล้ว” ก็กลับมา คราวนี้ฉันจะปล่อยไป”

หลังจากที่พวกเขาโค้งคำนับวอล์มและพยายามจะหายไปในซอยด้านหลัง

“รอก่อน”

ขณะที่ทั้งสองที่ถูกเรียกตัว วอล์มกลับไปที่ๆเขาสูบบุหรี่แล้วเอาของสองอย่างให้

“โทษที ฉันกินมันไปแล้วนิดหน่อย แค่เธอหิวใช่ไหม? เอาไปมันจะช่วยบรรเทาความหิวของเธอ”

วอล์มยื่นปลาเค็มแม่น้ำในโหลและถั่วจากถุงให้

“ข-ขอบคุณมากค่ะ”

หญิงสาวรับมันในลักษะที่สับสน และชายชราก็มองไปที่วอล์มเพราะเขาไม่สามารถเข้าใจเหตุการณ์ได้

“วันนี้มันแย่มาก ฉันอาจดูเหมือนคนไม่จริงใจ แต่สิ่งนี้มันจะช่วยเบาความผิดบางอย่างของฉันได้ ไม่ต้องลังเลมันไม่มีพิษ”

เมื่อวอล์มยื่นโหลและถุงให้ หญิงสาวก็เอื้อมมือไปรับมันมา มันซ่อนอยู่ใต้ฮูด ผมที่ซ่อนไว้ใต้ฮูดเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ง่ายนั้นมีสีทองอ่อนนุ่มดั่งทุ่งข้าวสาลี แสงที่สะท้อนออกมาจาก《คบเพลิง》มันเป็นสีทองเหมือนกับผมของเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

วอล์มมองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แม้มันจะเป็นคำพูดและการกระทำสั้นๆ แต่ละอย่างก็น่ารักดี และเขาสามารถเห็นการได้รับการศักษาระดับสูงที่เธอได้รับ

“ใช่….ด้วยความยินดี”

วอล์มออกจากตรงนั้นในขณะที่จุดบุหรี่อีกอัน ระหว่างกลับไปที่ที่หน่วยอยู่ วอล์มก็เฝ้าดูแม่น้ำ มันยากที่จะมองเห็นฝั่งตรงข้ามเพราะแสงน้อยในตอนกลางคืน ถึงอย่างนั้นในคืนที่มืดมิดเขาก็สามารถเห็นเรือข้ามแม่น้ำได้โดยไม่ต้องใช้คบเพลิงหรือเวทมนตร์

“ตามที่คิด พวกเขาไม่สามารถกลับบ้านได้ง่ายๆ เฮ่อ”

อาจฟังดูไร้สาระที่วอล์มที่เป็นผู้รักรานจะเห็นใจเหยื่อ เขาเป็นคนที่อาจฆ่าครอบครัวหรือเพื่อนบ้านของพวกเขา สุดท้ายมันก็เป็นแค่การฆาตกรรมตามกฏหมายที่มีข้ออ้างที่เรียกว่า “สงคราม”  ยิ่งไปกว่านั้นความรักชาติและความรักที่เขามีต่อบ้านเกิดก็น้อยนิด เขาเป็นคนที่อุทิศตนให้กับสงครามในขณะที่ถูกสถานการณ์พัดพาไป เขาไม่มีเหตุผลหรือความภาคภูมิใจหรืออื่นใด สำหรับบ้านเกิดของเขา

“คิดว่าจะได้รับการให้อภัย เฮอะ ไอ้เวรคนเสแสร้ง”

จุดหมายปลายทางของผู้ที่สูญเสียวิถีชีวิตของพวกเขาอาจต้องย่อยยับ และวอล์มยังพยายามที่จะทำความคุ้นเคกับโลกนี้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี

แต่ตอนนี้ วอล์มไม่มั่นใจอีกต่อไปว่าเขาจะไม่สูญเสียความเป็นมนุษย์และศีลธรรมที่เขาได้รับการปลูกฝังในโลกก่อนไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+