สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 22

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 22 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากการต่อสู้ที่หนึ่งในถ้ำเสือ วอล์มได้ถอยออกจากแนวนหน้าและใช้เวลาสามสัปดาห์กับคำร้องของโบสถ์ที่ตีนเขาจนกว่าไหล่ของเขาจะหายดี แม้แต่กองทัพจักรวรรดิไฮเซิร์คที่หัวรุนแรงก็จะไม่ลงไม้ลงมือกับคนของโบสถ์ (one of the tiger dens)

บาดแผลที่ไหล่นั้นลึกไปถึงกระดูกและกระดูกไหปลาร้าก็หัก แผลและการต่อกระดูกของวอล์มนั้นได้รับการรักษาจากเวทย์รักษา แต่เขาต้องพักผ่อนสักพักและนั่นคือเหตุผลที่เขาสามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากสงครามสักพักหนึ่ง

ศัตรูที่อยู่ในเหมืองนั้นค่อยๆถูกเล็มและค่อยๆทำรายตัวเองลงช้าๆ

ศัตรูนั้นสามารถทนต่อไปได้ถ้านับจากจำนวนแล้ว แต่นอกจากการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว เมื่อประตูถูกสะเทือน ในที่สุดพวกเขาก็ตกเป็นของกองทัพไฮเซิร์ค

ผู้ส่งสารได้บอกกับเหล่าทหารเฟอร์เรียสว่า กองทัพไฮเซิร์คจะฆ่าทหารและพลเรือนทั้งหมดที่อยู่ข้างในถ้าหากพวกเขายังไม่ยอกจำนน ทหารเฟอร์เรียสที่ได้ข้อสรุปได้ก็ออกจากเหมืองไปทีละคน

ทุกคนนั้นไม่ได้ผอมทั้งหมด แต่พวกเขาทั้งหมดนั้นมีรอยคล้ำใต้ตาและมีสีผิวที่ไม่ดี บางคนนั้นมีร่างที่สั่นไหวและบางคนยังคงพูดกับตัวเองอย่างไม่รู้จบเหมือนคนป่วยจิต

ไม่มีความบันเทิงใดๆในเมือง และวอล์มยังคงเฝ้าดูเชลย ทหารและผู้คนสัญจรไปมาจนแผลหายดี แล้ววันนี้ก็จบลง

“ดูแข็งแรงดีนิ่”

โจเซ่ทักทายวอล์มที่ก็กลับมาที่หน่วยในที่สุด

“เวทมนตร์รักษาเจ๋งมาก บาดแผลที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการรักษากลับหายเป็นปกติในหนึ่งสัปดาห์”

วอล์มขยับไหล่ของเขาเพื่ออวดกระดูกไหปลาร้าที่เชื่อมกันแล้ว

“โอ้ ยินดีต้อนรับค่ะ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”

เจ้าของเสียงคือนัวร์ ชุดเกราะของเธอนั้นมีรอยขีดข่วนและเธอดูมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม

“มันลำบากตั้งแต่นั้นมาเลยค่ะ บางชั้นถูกทำมาเพื่อเข้าควบคุมเรา และหน่วยของเราก็กำลังลงไปลึกขึ้น แต่บาริโต้เขา….”

นัวร์ตัดคำพูดของเธอแล้วหันไปจ้องที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ วอล์มหันมองตามไป ตรงนั้นคือบาริโต้ แต่ความสูงของหงอนไก่เขานั้นลดลงมาครึ่งหนึ่ง  (เรื่องเศร้าที่ว่าคือผมเสียทรง)

“ฮ่าๆๆ เกิดอะไรขึ้นกับหงอนนั่นน่ะ? หรือเปลี่ยนทรงมา!!?”

 บาริโต้พูดประท้วง

“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย มันเป็นเพราะผู้ไช้เวทย์ของศัตรูต่างหากล่ะครับ!!!”

“มันเล็งไปที่บาริโต้น่ะ ตอนวิ่งลงเนิน แต่ไอ้หงอนไก่ที่แกว่งไปแกว่งมาน่าจะทำให้ศัตรูเสียสมาธิหอกไฟมันเลยยิงพลาด ดังนั้นจึงปลอดภัยดี แต่ผมดันถูกเผาซะงั้น…”

บางทีโจเซ่อาจจำฉากนั้นได้แล้วเขาก็หัวเราะในตอนท้าย

“อื้ม อย่างน้อยหงอนไก่นั้นก็ไม่ได้เป็นแค่ภาระ ยังไงก็ตามดูทุกคนจะปลอดภัยดี แต่เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าดูเวย?”

วิลลาร์ทนั้นนั่งห่างออกไปเล็กน้อย แต่วอล์มนั้นไม่เห็นหัวหน้าดูเวย

“เขาถูกหัวหน้าหมวดโคซูรุเรียกตัวด่วนน่ะ”

“อ่าเราควรเก็บกวาดที่นี่แล้วสิ และในที่สุดเรากำลังจะบุกพื้นที่ด้านในแล้วใช่ไหม?”

ในตอนแรกกองทัพไฮเซิร์คนั้นทุ่มเทให้กับการลดอำนาจชาติของเฟอร์เรียส แต่ดูเหมือนศัตรูจะหมดแรงเร็วกว่าที่คิด บางทีสงครามอาจจบลงเร็วกว่ากำหนด วอล์มหวังไว้เช่นนั้น 

มีบรรยากาศที่ดีสำหรับกองพันลิกูเรีย ขณะที่พวกเขากำลังนำเหมืองไปสู่การล้มสลาย

“พวกมันไม่เห็นสนุกเลย”

ที่ทางตัน ทหารที่อยู่ในกองพันซาร์เรียของกองทัพไฮเซิร์คพึมพำแบบนั้น ที่ชายของหมู่บ้านที่ที่ทหารเฟอร์เรียสและชาวบ้านต่อต้านการยึดครองหมู่บ้าน

ในทางกลับกันจำนวนการเสียชีวิตของทหารไฮเซิร์คนั้นมีจำนวนน้อยมาก

เชลยถูกทุบตีจนถึงจุดที่ไม่สามารถจำหน้าได้และถูกทำร้ายเป็นครั้งคราว และถูกบังคับให้ใช้แรงงานโดยไม่หยุดพัก

“เพราะทหารดีๆตายหมดแล้วที่การต่อสู่ที่ไมยาร์ดน่ะสิ และทหารดีๆที่เหลืออยู่ก็อยู่ที่เมืองหลวงหรือที่ชายแดนประเทศอื่น”

เหล่าทหารได้เข้าสู่อาณาจักรเฟอร์เรียส และกองพันซาร์เรียก็ได้พบกับการค่อสู้ 5 ครั้งทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่มันเป็นชัยชนะติดต่อกันหลายครั้งและมีการกล่าวกันว่ายอดผู้เสียชีวิตในกองพันทั้งหมดนั้นไม่ถึง 100 

ตอนนี้กองพันได้แบ่งออกเป็นกองร้อย และปล้นสะดมหมู่บ้านรอบๆอย่างเป็นระบบและโกนอำนาจชาติของเฟอร์เรียส โดยธรรมชาติแล้วคำสั่งนี้ได้รับการยอมรับจากทหารซาร์เรีย

“ไม่เลว เราได้รับเท่าไรก็ได้ตามที่เราต้องการที่นี่ ที่ไมยาร์ดฉันไม่ได้อะไรเลยแม้แต่ผู้หญิงสักคน แต่ตอนนี้ที่เฟอร์เรียสนั้นอิศระที่จะปล้นและล้มรสผู้หญิง”

ชายคนนั้นพูดและลูบแหวนที่ปล้นมาได้ ตั้งแต่เหล่าทหารเข้ามาที่เฟรอ์เรียส อาหารการกินของเหล่าทหารซาร์เรียก็ดีขึ้น และทหารหลายคนกำลังสวนใส่สิ่งของฟุ่มเฟือยที่ไม่เหมาะสำหรับพวกเขา

“อนึ่ง ไอ้พวกที่ทนไม่ไหวแล้วถูกเฆี่ยนที่ไมยาร์ดนี่มันโง่ๆจริง”

ทหารพูดอย่างนั้นออกมาด้วยรอยยิ้มน่ารังเกียจ

“แต่ฉันอยากรู้จริงๆ ถ้าผู้หญิงที่นี่กินแต่อาหารดีๆแล้วล่ะก็ แบบ มันจะมีความสุขแค่ไหนที่ได้กินพวกเธอกัน”

ในไมยาร์ดและไฮเซิร์คนั้นมีผู้หญิงที่ผอมมากมายและแม้แต่ผิวและผมก็หยาบกร้าน ผู้หญิงที่ทหารหาได้ในเฟอร์เรียสนั้นดีกว่ามาก  (แน่นๆแบบนัวร์เป็นข้อยกเว้นสินะ :3 )

“ใช่แล้ว มันจะทำให้นายอยากจะทำมากขึ้นไปอีก เสียดายถ้าทำมากเกินไปมันจะเป็นผลเสียซะเอง”

ชายคนนั้นถูไปที่ของลับของเขาตอนเข้าพูดออกมา จากนั้นเพื่อนทั้งหมดของเขาก็สาปแช่งเขาในครั้งเดียว

“แกอ่อนไปแล้วเห้ย ดูของฉันนี่”

“ฮะ? ไหนวะ เล็กเกินไปแล้วนั่น”

“เอาไอ้ของสกปรกนั้นกลับเข้าไปเลยนะเว้ย”

ทหารคนหนึ่งที่ออกจากการสนทนากล่าวออกมาเล็กน้อย

“ได้เวลาแล้ว เราจะไปที่หมู่บ้านถันไป เราปล้นทุกอย่างที่ทำได้แล้ว”

“ฉันเคยสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคาโนอาล้มสลาย แต่การชนะการรบนี่โคตรดี ฉันดีใจจริงๆที่ได้เข้าร่วมกองทัพไฮเซิร์ค”

ทหารจะถูกจับเป็นเชลยของจักวรรดิไฮเซิร์คในระหว่างศึกกับคาโนอา แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวหลังจากผ่านไปสี่เดือนของการใช้แรงานและยังรอดอยู่และได้เข้าร่วมกองทัพไอเซิร์ค

ทหารรอบๆตัวเขานั้นมีสถานการณ์คล้ายๆกัน เหล่าทหารที่รู้เพียงแต่ความพ่ายแพ้ถูกทำให้มึนเมาไปกับชัยชนะเป็นครั้งแรก

เหล่าทหารยังคงพูดคุยกันต่อไป แต่ก็ถูกบังคับให้ต้องเงียบ เมื่อมีแสงวาบวิ่งผ่าน เกิดการะเบิดครั้งใหญ่ที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน

ฝุ่นบางลงตรงที่ที่มีโรงเก็บของที่เหล่าทหารพักอยู่พังทลายลง

“อะไรกัน? แสงนั่นมันอะไรน่ะ!?”

“ป้อมและหน่วยของทารัสปลิวหายไปแล้ว”

ไม่ว่่าพวกเขาจะผ่อนคลายแค่ไหน ทหารที่ต่อสู้ในแนวหน้าก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว สวมชุดเกราะป้องในระดับสูงและสำรวจหาเหตุผลที่แท้จริงของการระเบิด

“ถูกโจมตี!! มีนักเวทย์ที่ใช้เวทมนตร์ขนาดใหญ่”

เสียงแจ้งสถานการณ์ดังมาจากมุมหนึ่งของหมู่บ้าน

“ชิ พวกมันเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว――”

ทหารที่คุยกันอยู่ขณะปฏิบัติหน้าทีก็สามารถสังเกตุเห็นเงาศัตรูได้

“มีใครยังรอดไหม?”

จากเงามืด เหล่าทหารตระหนักได้ว่าศัตรูนั้นมีอุปกรณ์คุณภาพดี พวกเขาใส่ชุดเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเข้าให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นทหารประจำการที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่ใช่ทหารอาสาเซ่อซ่าจำนวนมากที่ประเทศจะรวมมในกรณีฉุกเฉิน

“ระวังโดนพวกกันเองด้วย”

“ไอ้พวกนี่มันอะไรกัน? พวกมันแตกต่างจากทหารที่เจอจนถึงตอนนี้”

เหล่าทหารที่ได้เข้าต่อสู้ก่อนหน้านี้ได้ล้มลงพื้นหมดแล้ว แม้จะเป็นการเคลื่อนพลครั้งแรก แต่ก็เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติสำหรับทหารไฮเซิร์คทที่ซึ่งมีทหารที่มีประสบการณ์มากมาย

“เวรเอ้ย หน่วยของทาร์คินถูกจัดการแล้ว”

“พวกมัน――เหมือนจะไม่ใช่เฟอร์เรียส พวกกมันคือทหารของเครสท์”

“เกิดอะไรขึ้นวะเนี้ย? มันแปลกเกินไปที่มันจะมาจากเครสท์”

 เครสท์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศขนาดกลางที่อยู่ห่างไกลจากไฮเซิร์ค ทหารของไฮเซิร์คไม่เคยเผชิญกับทหารของเครสท์ที่ชายแดนมาก่อย พวกเขานั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ที่อาจไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้มาก่อน แต่เหล่าทหารไฮเซิร์คก็ยังคงก่นด่าต่อไปในขณะที่ถูกโค่นลงทีละคน

“อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย นั่นมันภาคีอัศวินเรฮาเซนของเครสท์ พวกมันร่วมมือกันแล้ว”

มีสองกองทัพในเครสท์ กองทัพหนึ่งประกอบไปด้วยการผสมผสานระหว่างชาวนาครึ่งหนึ่งและทหารครึ่งหนึ่ง และอัศวินที่รับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน แม้ตอนนี้การดำรงอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าอัศวินจะยังคงเหลืออยู่รอบๆ ไฮเซิร์ค แต่อัศวินของอาณาจักรเครสท์นั้นทรงพลังและน่าหวาดกลัวที่สุดในประเทศรอบๆ

“แม้จะโค่นอัศวินได้คนหนึ่ง แต่ก็จะมีคนมากกว่า10 คนที่ถูกฆ่า”

ทหารคนถูกฟันถูกทุบร่างส่วนบนด้วยโล่ และทหารอีกคนก็ถูกทุบด้วยค้อนสงคราม

“ความแข็งแกร่งและปริมาณมานาต่างกันเกินไป นอกจากนั้นฉันเกรงว่าพวกมันจะมีทักษะ”

เมื่อพูดถึงอัศวินแล้ว ไม่ว่าทหารไฮเซิร์คจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากพวกเขาต้องต่อสู้ด้วยจำนวนเท่ากันแล้วทหารจะด้อยกว่า ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากการโจมตีเซอร์ไพรส์แล้วการรวมพลและสายบังคับบัญชายังถูกรบกวนด้วยเวทมนตร์ขนาดใหญ่จำนวนมาก

“ละทิ้งหมู่บ้านซะ ยอมแพ้ เอาไปเท่าที่เอาไปได้”

หัวหน้าหมวดที่เป็นทหารผ่านศึกตัดสินใจล่าถอยตามดุลยพินิจของเขาเอง เขานั้นไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชากองร้อย และเขาตัดสินว่าพวกเขานั้นพ่ายแพ้แล้วหลังจากเห็นการโจมตีครั้งแรก

“เวรเอ้ย ต่อให้มีปัญหาฉันก็จะเอามันไป”

“มันก็ดีกว่าตายหน่า มันจะดีกว่าถ้าเป็นกองพันทหารม้าจาฟฟ์หรือกองพันลิกูเรียที่จะมารับมือกับพวกมัน”

ทั้งสองที่กล่าวถึงคือกองกำลังที่พลังการต่อสู้สูงที่สุดในกองทัพไฮเซิร์ค ในการต่อสู้กับไมยาร์ดทั้งสองเอาโค่นวินส์ตัน เฟอร์เรียส และยูท ไมยาร์ดลง และได้ตันสินชัยชนะ

หมวดที่แนวทางของตัว ได้ท่วมเข้าไปที่ส่วนหนึ่งของวงล้อมเพื่อฝ่าวงล้อม จำนวนของอัศวันนั้นมีไม่มากนัก และนอกจากอัศวินแล้ว พวกมันก็ไม่ต่างจากทหารประจำการของเฟอร์เรียส

ทหารไฮเซิร์คที่ได้แทงทหารเครสท์สองคนด้วยหอก เชื่อว่าพวกเขาสามารถหลบหนีออกจากวงล้อมได้แล้ว

แต่มีชายคนหนึ่งขวางพวกเขาอยู่

“ต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์ ยอมจำนนซะ”

“หลบไปซะ ไอ้เวร”

ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นทหารคนหนึ่งที่มีผมและตาสีดำ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่เคยไปรบในที่ใดๆมาก่อน  และชุดเกราะก็มีการตกแต่งที่ฉูดฉาดที่รู้สึกแปลกๆ ด้วยการขู่นั้น ทหารก็ได้แทงหอกของเขาไปที่คอของศัตรู

“เดี๋ยว ชายคนนั้นมัน――”

ทหารไฮเซิร์คอีกคนที่เห็นมานาที่เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา พยายามที่จะหยุดเขา

แสงส่องออกมาจากดาบที่เหวี่ยงลงมา

“แสงนี่มันอะไรกัน!!”

เมื่อการมองเห็นของทหารปกคลุมไปด้วยแสงเขาก็ถูกกลืนไปโดยการระเบิดและจิตสำนักของเขาก็หายไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย

กองพันซาร์เรีย ที่มีสามกองร้อยแยกออกมาเพื่อสำรวจร่วงหน้านั้น ทั้งหมดถูกทำลายล้าง และทหารกว่า 700 นายก็ไม่ได้กลับไปที่จุดรวมพล มันเป็นความเสียหายครั้งใหญ๋ของกองทัพไฮเซิร์ค

――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบตอน  นึกขึ้นมาได้ว่าจะเปลี่ยนชื่อของอาณาจักร เครสท์ เป็น ไครซิท ดีไหม จริงๆมันควรจะเป็นงั้นแหละ 
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) 22

Now you are reading สายตาที่เหมือนโคลนนั่น กำลังคาดหวังสิ่งใด? (Nigoru Hitomi de Nani wo Negau) Chapter 22 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากการต่อสู้ที่หนึ่งในถ้ำเสือ วอล์มได้ถอยออกจากแนวนหน้าและใช้เวลาสามสัปดาห์กับคำร้องของโบสถ์ที่ตีนเขาจนกว่าไหล่ของเขาจะหายดี แม้แต่กองทัพจักรวรรดิไฮเซิร์คที่หัวรุนแรงก็จะไม่ลงไม้ลงมือกับคนของโบสถ์ (one of the tiger dens)

บาดแผลที่ไหล่นั้นลึกไปถึงกระดูกและกระดูกไหปลาร้าก็หัก แผลและการต่อกระดูกของวอล์มนั้นได้รับการรักษาจากเวทย์รักษา แต่เขาต้องพักผ่อนสักพักและนั่นคือเหตุผลที่เขาสามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากสงครามสักพักหนึ่ง

ศัตรูที่อยู่ในเหมืองนั้นค่อยๆถูกเล็มและค่อยๆทำรายตัวเองลงช้าๆ

ศัตรูนั้นสามารถทนต่อไปได้ถ้านับจากจำนวนแล้ว แต่นอกจากการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว เมื่อประตูถูกสะเทือน ในที่สุดพวกเขาก็ตกเป็นของกองทัพไฮเซิร์ค

ผู้ส่งสารได้บอกกับเหล่าทหารเฟอร์เรียสว่า กองทัพไฮเซิร์คจะฆ่าทหารและพลเรือนทั้งหมดที่อยู่ข้างในถ้าหากพวกเขายังไม่ยอกจำนน ทหารเฟอร์เรียสที่ได้ข้อสรุปได้ก็ออกจากเหมืองไปทีละคน

ทุกคนนั้นไม่ได้ผอมทั้งหมด แต่พวกเขาทั้งหมดนั้นมีรอยคล้ำใต้ตาและมีสีผิวที่ไม่ดี บางคนนั้นมีร่างที่สั่นไหวและบางคนยังคงพูดกับตัวเองอย่างไม่รู้จบเหมือนคนป่วยจิต

ไม่มีความบันเทิงใดๆในเมือง และวอล์มยังคงเฝ้าดูเชลย ทหารและผู้คนสัญจรไปมาจนแผลหายดี แล้ววันนี้ก็จบลง

“ดูแข็งแรงดีนิ่”

โจเซ่ทักทายวอล์มที่ก็กลับมาที่หน่วยในที่สุด

“เวทมนตร์รักษาเจ๋งมาก บาดแผลที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการรักษากลับหายเป็นปกติในหนึ่งสัปดาห์”

วอล์มขยับไหล่ของเขาเพื่ออวดกระดูกไหปลาร้าที่เชื่อมกันแล้ว

“โอ้ ยินดีต้อนรับค่ะ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว”

เจ้าของเสียงคือนัวร์ ชุดเกราะของเธอนั้นมีรอยขีดข่วนและเธอดูมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม

“มันลำบากตั้งแต่นั้นมาเลยค่ะ บางชั้นถูกทำมาเพื่อเข้าควบคุมเรา และหน่วยของเราก็กำลังลงไปลึกขึ้น แต่บาริโต้เขา….”

นัวร์ตัดคำพูดของเธอแล้วหันไปจ้องที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ วอล์มหันมองตามไป ตรงนั้นคือบาริโต้ แต่ความสูงของหงอนไก่เขานั้นลดลงมาครึ่งหนึ่ง  (เรื่องเศร้าที่ว่าคือผมเสียทรง)

“ฮ่าๆๆ เกิดอะไรขึ้นกับหงอนนั่นน่ะ? หรือเปลี่ยนทรงมา!!?”

 บาริโต้พูดประท้วง

“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย มันเป็นเพราะผู้ไช้เวทย์ของศัตรูต่างหากล่ะครับ!!!”

“มันเล็งไปที่บาริโต้น่ะ ตอนวิ่งลงเนิน แต่ไอ้หงอนไก่ที่แกว่งไปแกว่งมาน่าจะทำให้ศัตรูเสียสมาธิหอกไฟมันเลยยิงพลาด ดังนั้นจึงปลอดภัยดี แต่ผมดันถูกเผาซะงั้น…”

บางทีโจเซ่อาจจำฉากนั้นได้แล้วเขาก็หัวเราะในตอนท้าย

“อื้ม อย่างน้อยหงอนไก่นั้นก็ไม่ได้เป็นแค่ภาระ ยังไงก็ตามดูทุกคนจะปลอดภัยดี แต่เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าดูเวย?”

วิลลาร์ทนั้นนั่งห่างออกไปเล็กน้อย แต่วอล์มนั้นไม่เห็นหัวหน้าดูเวย

“เขาถูกหัวหน้าหมวดโคซูรุเรียกตัวด่วนน่ะ”

“อ่าเราควรเก็บกวาดที่นี่แล้วสิ และในที่สุดเรากำลังจะบุกพื้นที่ด้านในแล้วใช่ไหม?”

ในตอนแรกกองทัพไฮเซิร์คนั้นทุ่มเทให้กับการลดอำนาจชาติของเฟอร์เรียส แต่ดูเหมือนศัตรูจะหมดแรงเร็วกว่าที่คิด บางทีสงครามอาจจบลงเร็วกว่ากำหนด วอล์มหวังไว้เช่นนั้น 

มีบรรยากาศที่ดีสำหรับกองพันลิกูเรีย ขณะที่พวกเขากำลังนำเหมืองไปสู่การล้มสลาย

“พวกมันไม่เห็นสนุกเลย”

ที่ทางตัน ทหารที่อยู่ในกองพันซาร์เรียของกองทัพไฮเซิร์คพึมพำแบบนั้น ที่ชายของหมู่บ้านที่ที่ทหารเฟอร์เรียสและชาวบ้านต่อต้านการยึดครองหมู่บ้าน

ในทางกลับกันจำนวนการเสียชีวิตของทหารไฮเซิร์คนั้นมีจำนวนน้อยมาก

เชลยถูกทุบตีจนถึงจุดที่ไม่สามารถจำหน้าได้และถูกทำร้ายเป็นครั้งคราว และถูกบังคับให้ใช้แรงงานโดยไม่หยุดพัก

“เพราะทหารดีๆตายหมดแล้วที่การต่อสู่ที่ไมยาร์ดน่ะสิ และทหารดีๆที่เหลืออยู่ก็อยู่ที่เมืองหลวงหรือที่ชายแดนประเทศอื่น”

เหล่าทหารได้เข้าสู่อาณาจักรเฟอร์เรียส และกองพันซาร์เรียก็ได้พบกับการค่อสู้ 5 ครั้งทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่มันเป็นชัยชนะติดต่อกันหลายครั้งและมีการกล่าวกันว่ายอดผู้เสียชีวิตในกองพันทั้งหมดนั้นไม่ถึง 100 

ตอนนี้กองพันได้แบ่งออกเป็นกองร้อย และปล้นสะดมหมู่บ้านรอบๆอย่างเป็นระบบและโกนอำนาจชาติของเฟอร์เรียส โดยธรรมชาติแล้วคำสั่งนี้ได้รับการยอมรับจากทหารซาร์เรีย

“ไม่เลว เราได้รับเท่าไรก็ได้ตามที่เราต้องการที่นี่ ที่ไมยาร์ดฉันไม่ได้อะไรเลยแม้แต่ผู้หญิงสักคน แต่ตอนนี้ที่เฟอร์เรียสนั้นอิศระที่จะปล้นและล้มรสผู้หญิง”

ชายคนนั้นพูดและลูบแหวนที่ปล้นมาได้ ตั้งแต่เหล่าทหารเข้ามาที่เฟรอ์เรียส อาหารการกินของเหล่าทหารซาร์เรียก็ดีขึ้น และทหารหลายคนกำลังสวนใส่สิ่งของฟุ่มเฟือยที่ไม่เหมาะสำหรับพวกเขา

“อนึ่ง ไอ้พวกที่ทนไม่ไหวแล้วถูกเฆี่ยนที่ไมยาร์ดนี่มันโง่ๆจริง”

ทหารพูดอย่างนั้นออกมาด้วยรอยยิ้มน่ารังเกียจ

“แต่ฉันอยากรู้จริงๆ ถ้าผู้หญิงที่นี่กินแต่อาหารดีๆแล้วล่ะก็ แบบ มันจะมีความสุขแค่ไหนที่ได้กินพวกเธอกัน”

ในไมยาร์ดและไฮเซิร์คนั้นมีผู้หญิงที่ผอมมากมายและแม้แต่ผิวและผมก็หยาบกร้าน ผู้หญิงที่ทหารหาได้ในเฟอร์เรียสนั้นดีกว่ามาก  (แน่นๆแบบนัวร์เป็นข้อยกเว้นสินะ :3 )

“ใช่แล้ว มันจะทำให้นายอยากจะทำมากขึ้นไปอีก เสียดายถ้าทำมากเกินไปมันจะเป็นผลเสียซะเอง”

ชายคนนั้นถูไปที่ของลับของเขาตอนเข้าพูดออกมา จากนั้นเพื่อนทั้งหมดของเขาก็สาปแช่งเขาในครั้งเดียว

“แกอ่อนไปแล้วเห้ย ดูของฉันนี่”

“ฮะ? ไหนวะ เล็กเกินไปแล้วนั่น”

“เอาไอ้ของสกปรกนั้นกลับเข้าไปเลยนะเว้ย”

ทหารคนหนึ่งที่ออกจากการสนทนากล่าวออกมาเล็กน้อย

“ได้เวลาแล้ว เราจะไปที่หมู่บ้านถันไป เราปล้นทุกอย่างที่ทำได้แล้ว”

“ฉันเคยสงสัยว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคาโนอาล้มสลาย แต่การชนะการรบนี่โคตรดี ฉันดีใจจริงๆที่ได้เข้าร่วมกองทัพไฮเซิร์ค”

ทหารจะถูกจับเป็นเชลยของจักวรรดิไฮเซิร์คในระหว่างศึกกับคาโนอา แต่ก็ได้รับการปล่อยตัวหลังจากผ่านไปสี่เดือนของการใช้แรงานและยังรอดอยู่และได้เข้าร่วมกองทัพไอเซิร์ค

ทหารรอบๆตัวเขานั้นมีสถานการณ์คล้ายๆกัน เหล่าทหารที่รู้เพียงแต่ความพ่ายแพ้ถูกทำให้มึนเมาไปกับชัยชนะเป็นครั้งแรก

เหล่าทหารยังคงพูดคุยกันต่อไป แต่ก็ถูกบังคับให้ต้องเงียบ เมื่อมีแสงวาบวิ่งผ่าน เกิดการะเบิดครั้งใหญ่ที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน

ฝุ่นบางลงตรงที่ที่มีโรงเก็บของที่เหล่าทหารพักอยู่พังทลายลง

“อะไรกัน? แสงนั่นมันอะไรน่ะ!?”

“ป้อมและหน่วยของทารัสปลิวหายไปแล้ว”

ไม่ว่่าพวกเขาจะผ่อนคลายแค่ไหน ทหารที่ต่อสู้ในแนวหน้าก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว สวมชุดเกราะป้องในระดับสูงและสำรวจหาเหตุผลที่แท้จริงของการระเบิด

“ถูกโจมตี!! มีนักเวทย์ที่ใช้เวทมนตร์ขนาดใหญ่”

เสียงแจ้งสถานการณ์ดังมาจากมุมหนึ่งของหมู่บ้าน

“ชิ พวกมันเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว――”

ทหารที่คุยกันอยู่ขณะปฏิบัติหน้าทีก็สามารถสังเกตุเห็นเงาศัตรูได้

“มีใครยังรอดไหม?”

จากเงามืด เหล่าทหารตระหนักได้ว่าศัตรูนั้นมีอุปกรณ์คุณภาพดี พวกเขาใส่ชุดเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเข้าให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นทหารประจำการที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่ใช่ทหารอาสาเซ่อซ่าจำนวนมากที่ประเทศจะรวมมในกรณีฉุกเฉิน

“ระวังโดนพวกกันเองด้วย”

“ไอ้พวกนี่มันอะไรกัน? พวกมันแตกต่างจากทหารที่เจอจนถึงตอนนี้”

เหล่าทหารที่ได้เข้าต่อสู้ก่อนหน้านี้ได้ล้มลงพื้นหมดแล้ว แม้จะเป็นการเคลื่อนพลครั้งแรก แต่ก็เป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติสำหรับทหารไฮเซิร์คทที่ซึ่งมีทหารที่มีประสบการณ์มากมาย

“เวรเอ้ย หน่วยของทาร์คินถูกจัดการแล้ว”

“พวกมัน――เหมือนจะไม่ใช่เฟอร์เรียส พวกกมันคือทหารของเครสท์”

“เกิดอะไรขึ้นวะเนี้ย? มันแปลกเกินไปที่มันจะมาจากเครสท์”

 เครสท์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศขนาดกลางที่อยู่ห่างไกลจากไฮเซิร์ค ทหารของไฮเซิร์คไม่เคยเผชิญกับทหารของเครสท์ที่ชายแดนมาก่อย พวกเขานั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เป็นที่รู้จัก ที่อาจไม่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้มาก่อน แต่เหล่าทหารไฮเซิร์คก็ยังคงก่นด่าต่อไปในขณะที่ถูกโค่นลงทีละคน

“อย่ามาล้อเล่นนะเว้ย นั่นมันภาคีอัศวินเรฮาเซนของเครสท์ พวกมันร่วมมือกันแล้ว”

มีสองกองทัพในเครสท์ กองทัพหนึ่งประกอบไปด้วยการผสมผสานระหว่างชาวนาครึ่งหนึ่งและทหารครึ่งหนึ่ง และอัศวินที่รับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน แม้ตอนนี้การดำรงอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าอัศวินจะยังคงเหลืออยู่รอบๆ ไฮเซิร์ค แต่อัศวินของอาณาจักรเครสท์นั้นทรงพลังและน่าหวาดกลัวที่สุดในประเทศรอบๆ

“แม้จะโค่นอัศวินได้คนหนึ่ง แต่ก็จะมีคนมากกว่า10 คนที่ถูกฆ่า”

ทหารคนถูกฟันถูกทุบร่างส่วนบนด้วยโล่ และทหารอีกคนก็ถูกทุบด้วยค้อนสงคราม

“ความแข็งแกร่งและปริมาณมานาต่างกันเกินไป นอกจากนั้นฉันเกรงว่าพวกมันจะมีทักษะ”

เมื่อพูดถึงอัศวินแล้ว ไม่ว่าทหารไฮเซิร์คจะแข็งแกร่งแค่ไหนหากพวกเขาต้องต่อสู้ด้วยจำนวนเท่ากันแล้วทหารจะด้อยกว่า ยิ่งไปกว่านั้นนอกจากการโจมตีเซอร์ไพรส์แล้วการรวมพลและสายบังคับบัญชายังถูกรบกวนด้วยเวทมนตร์ขนาดใหญ่จำนวนมาก

“ละทิ้งหมู่บ้านซะ ยอมแพ้ เอาไปเท่าที่เอาไปได้”

หัวหน้าหมวดที่เป็นทหารผ่านศึกตัดสินใจล่าถอยตามดุลยพินิจของเขาเอง เขานั้นไม่ได้รับคำสั่งจากผู้บัญชากองร้อย และเขาตัดสินว่าพวกเขานั้นพ่ายแพ้แล้วหลังจากเห็นการโจมตีครั้งแรก

“เวรเอ้ย ต่อให้มีปัญหาฉันก็จะเอามันไป”

“มันก็ดีกว่าตายหน่า มันจะดีกว่าถ้าเป็นกองพันทหารม้าจาฟฟ์หรือกองพันลิกูเรียที่จะมารับมือกับพวกมัน”

ทั้งสองที่กล่าวถึงคือกองกำลังที่พลังการต่อสู้สูงที่สุดในกองทัพไฮเซิร์ค ในการต่อสู้กับไมยาร์ดทั้งสองเอาโค่นวินส์ตัน เฟอร์เรียส และยูท ไมยาร์ดลง และได้ตันสินชัยชนะ

หมวดที่แนวทางของตัว ได้ท่วมเข้าไปที่ส่วนหนึ่งของวงล้อมเพื่อฝ่าวงล้อม จำนวนของอัศวันนั้นมีไม่มากนัก และนอกจากอัศวินแล้ว พวกมันก็ไม่ต่างจากทหารประจำการของเฟอร์เรียส

ทหารไฮเซิร์คที่ได้แทงทหารเครสท์สองคนด้วยหอก เชื่อว่าพวกเขาสามารถหลบหนีออกจากวงล้อมได้แล้ว

แต่มีชายคนหนึ่งขวางพวกเขาอยู่

“ต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์ ยอมจำนนซะ”

“หลบไปซะ ไอ้เวร”

ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นทหารคนหนึ่งที่มีผมและตาสีดำ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่เคยไปรบในที่ใดๆมาก่อน  และชุดเกราะก็มีการตกแต่งที่ฉูดฉาดที่รู้สึกแปลกๆ ด้วยการขู่นั้น ทหารก็ได้แทงหอกของเขาไปที่คอของศัตรู

“เดี๋ยว ชายคนนั้นมัน――”

ทหารไฮเซิร์คอีกคนที่เห็นมานาที่เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา พยายามที่จะหยุดเขา

แสงส่องออกมาจากดาบที่เหวี่ยงลงมา

“แสงนี่มันอะไรกัน!!”

เมื่อการมองเห็นของทหารปกคลุมไปด้วยแสงเขาก็ถูกกลืนไปโดยการระเบิดและจิตสำนักของเขาก็หายไปและไม่เคยกลับมาอีกเลย

กองพันซาร์เรีย ที่มีสามกองร้อยแยกออกมาเพื่อสำรวจร่วงหน้านั้น ทั้งหมดถูกทำลายล้าง และทหารกว่า 700 นายก็ไม่ได้กลับไปที่จุดรวมพล มันเป็นความเสียหายครั้งใหญ๋ของกองทัพไฮเซิร์ค

――――――――――――――――――――――――――――――――――――
จบตอน  นึกขึ้นมาได้ว่าจะเปลี่ยนชื่อของอาณาจักร เครสท์ เป็น ไครซิท ดีไหม จริงๆมันควรจะเป็นงั้นแหละ 
ขอขอบคุณ ENG จากKinokura Translation  
เพจผู้แปล (1) เหนื่อยน้อ การแปล | Facebook

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+