โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน 9 โลกสีเลือด

Now you are reading โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน Chapter 9 โลกสีเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 9 โลกสีเลือด

 

   [ตัวเอก]

 

   ฉันตื่นขึ้นในโลกที่มีเพียงตัวฉันคนเดียวอีกครั้ง แต่เวลานี้ ทุกสิ่งมันแปลกไปจากที่รู้จัก บนท้องฟ้า แทนที่จะเป็นท้องฟ้าดำมืด เต็มไปด้วยดวงดาว กลับเป็นท้องฟ้าสีแดงคล้ายสีของเลือด จันทราที่ไม่ได้มีแสงทอง ทำให้รู้สึกอันตรายเล็กน้อย จิตใจอดรู้สึกกลัวไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? ฉันทำบางอย่างผิดพลาดไปรับเปล่า? ทำไมถึงเป็นอย่างงี้? มันไม่ถูกต้อง

 

   ควรทำยังไงดี? หวังว่าจะไม่มีเรื่องแปลกๆนะ ไม่ตลกเลย ฉันควรระมัดระวังไว้ก่อน เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝัน อาวุธป้องกันตัว ต้องมีมัน ถ้ามีจะรู้สึกปลอดภัยกว่าเดิมมาก ปัญหาคือ ฉันจะไปเอาของแบบนั้นมาจากไหนกัน? ห้องครัว? มีดทำอาหาร? ระหว่างมีดกับกีตาร์ อย่างไหนจะรุนแรงกว่ากัน?

 

   คำตอบอาจจะเป็นมีดทำอาหาร ทว่าเก็บทั้งสองไว้กับตัวก็ไม่เสียหายอะไรหนิ ใช่ไหม? เก็บสองอย่างไปเลย สมมุติของสิ่งหนึ่งหาย หรือพัง ก็ยังมีอีกสิ่งเหลืออยู่ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าปัจจุบันกำลังจะเจอกับสถานการณ์แบบไหน แต่เห็นดวงจันทร์แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยสุดๆ เหมือนเรื่องร้ายๆกำลังเกิดขึ้น

 

   เมื่อเดินเข้าไปในห้องครัว บรรยากาศก็ค่อยๆแปรเปลี่ยน ความเงียบในยามนี้ ฉันรู้สึกไม่ชอบสักนิด อยากออกไปจากโลกนี้ ณ ตอนนี้ ไม่อยากอยู่ ทว่ากลับไปยังโลกเดิม ฉันต้องทำยังไงล่ะ? นอนหลับ? อาจจะได้ผล แต่ก็แค่อาจจะ ไม่มีอะไรรับประกัน บางทีอาจเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจก็ได้ 

 

   “เรื่องแปลกๆจะเกิดกับฉันไม่หยุดเลยรึไง?”

 

   ฉันบ่นนิดหน่อยก่อนจะหยิบมีดทำอาหาร ทันทีที่นิ้วสัมผัสกับมีด ใบมีดสเตนเลสพลันแตกกระจาย โชคดีร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ฉันก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ มองไปที่ด้ามมีดด้วยความรู้สึกหลากหลาย บ้าจริง ฉันจะจับของแล้วพังอย่างงี้ไม่ได้นะ ร่างกายฉันไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อย เป็นเพียงร่างกายมนุษย์ธรรมดา มั้ง อาจจะ

 

   ในความเป็นจริงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพิ่งได้ร่างกายใหม่มาไม่นาน แทบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับร่างกายนี้ และโลกที่ไร้ผู้คน คงต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าอีกนานถึงจะพอเข้าใจบ้าง

 

   เหลือแต่ด้ามมีด เอาวางลงที่เดิมของมันดีกว่า ใบมีดถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้จะเก็บด้ามไว้ทำไม เก็บไว้น่าจะไม่ทำประโยชน์เท่าไหร่

 

   “จะผี ปีศาจ หรืออะไรก็เข้ามาเถอะ ตอนนี้ฉันไม่สนแล้ว”

 

   พอเห็นใบมีดแตกกระจาย ความสิ้นหวังก็ก่อเกิดภายในจิตใจอย่างรวดเร็ว แต่ตัวฉันน่ะ แตกต่างจากคนก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าสิ้นหวังแค่ไหน ฉันก็จะพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสรรพสิ่ง ทว่าหากไม่ต้องเผชิญหน้าจะดีกว่า

 

   เวลาที่คิดหลายสิ่งในหัว สายตาพลันบังเอิญเห็นผนังไม่เหมือนเดิม จากที่ดู ผนังคล้ายมีเส้นเลือดปรากฏ สิ่งที่เหมือนเส้นเลือดโผล่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด ฉันยืนนิ่งค้าง ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี

 

   ฉันที่เป็นคนทั่วไป เจอเข้าสถานการณ์แบบนี้ ทำตัวไม่ถูกเลย แต่สัญชาตญาณเหมือนกำลังร้องเตือนให้ฉันก้าวเท้าวิ่งหนีไป ในปัจจุบัน ความสามารถยังไม่เพียงพอรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เวลานี้

 

   หนี? ขาไม่ขยับแฮะ ไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือแม้แต่น้อย ฉันนี่มันช่างอ่อนแอจริงๆ นึกว่าจะเปลี่ยนไปแล้วซะอีก สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีสิ่งใดแตกต่างจากตัวฉันคนก่อน เฮ้ออ~ ถ้ามีเวลาเปลี่ยนตัวเองมากกว่านี้ ฉันจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้หรือไม่นะ?

 

   เส้นเลือดปรากฏทั่วทั้งบ้าน ผนังดูไม่ใช่ผนังห้องอีกต่อไป มันดูน่าขนลุก น่ากลัว ไหล่ขวารู้สึกราวกับมีบางสิ่งกดทับ รู้สึกคล้ายมีสายลมเย็นผ่านร่างกายไป ทั้งๆที่มันไม่ควรมี หน้าต่างไม่ได้เปิด พัดลมเองก็เช่นกัน

 

   ! ? เหมือนมีใครสักคนกำลังกระซิบอยู่ข้างๆหู คำพูดไม่ชัดเจน ฟังไม่รู้เรื่อง… มีคนเล่นดนตรีเบาๆอยู่ใกล้ๆหรือเปล่านะ? ได้ยินเสียงดนตรี คิดไปเองเหรอ?

 

   หนาวจัง อุณหภูมิตํ่าขนาดนี้ มันเปลี่ยนเร็วเกินไปแล้ว ร่างกายฉันทนไม่ไหว ตัวสั่นโดยไม่อาจควบคุม

 

   ผนังห้องขยับเข้าใกล้ฉันใช่ไหมนะ? หรือฉันมองผิดไป? ง่วง ฝืนทนลืมตาไม่ได้เลย สติเริ่มไม่มี กำลังจะตาย? ชีวิตฉันจบลงเท่านี้? แย่จัง ยังไม่ได้มีชีวิตที่ต้องการก็ต้องตายซะแล้ว

 

/

/

/

/

 

   ยังไม่ตายเหรอ? รอดสินะ เกิดอะไรขึ้นกัน? ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เจอคือเพดานที่คุ้นเคย เป็นเพดานห้องของตัวฉันเอง โลกอีกใบไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดแฮะ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ทว่าตอนนี้ก็ยังรอดปลอดภัยดี สิ่งใดก็ตามในโลกนั้นคงไม่สามารถทำอันตรายต่อฉันได้ง่ายๆ

 

   คิดอย่างงั้น ภายในจิตใจก็รู้สึกปลอดภัยมากกว่าเดิม ผนังที่มีเส้นเลือด เสียงดนตรี และเสียงอื่น พวกมันเป็นอะไร ฉันไม่รู้หรอกนะ คิดจะหาคำตอบเวลานี้ด้วย แค่รู้พวกมันไม่อันตรายถึงตายก็เพียงพอแล้ว 

 

   เวลาเท่าไหร่แล้วนะ? ด้วยความสงสัย ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอ มองดูเวลา ยังกลางคืนอยู่ เพิ่งนอนไปนิดเดียว เพราะฉันตกอยู่ในอันตราย โลกใบนั้นเลยน่าจะดึงฉันออก ทำให้ฉันกลับมายังที่แห่งนี้ ตื่นก่อนเวลาที่ควรตื่น

 

   เจอเรื่องแปลกๆไป นอนไม่หลับแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาและฝึกเล่นกีตาร์ดีกว่า ถึงจะมีเทคนิควิธีการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว แต่หากไม่พยายาม ไม่ขยัน มันก็ไม่ได้ช่วยใดๆ

 

   ยามที่ยืนอยู่ ฉันพลันนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ในห้องนํ้าเองก็เคยเกิดเรื่องประหลาด เวลานั้นก็มีเสียงอะไรสักอย่างเช่นกัน ควรเปิดเข้าไปดีไหมนะ? หรือกลับไปนอนต่อ รอให้เช้าก่อนค่อยฝึกเล่นกีตาร์?

 

   ช่างเถอะ คงไม่เกิดเรื่องแปลกประหลาดติดๆกัน มันต้องเป็นอย่างงั้นแน่ ไม่งั้นชีวิตฉันจะโชคร้ายเกินไป ถึงจะโชคร้ายมาเกือบทั้วชีวิตแล้วก็เถอะ

 

   มันจะไปมีอะไรกัน? บ้านหลังนี้ฉันอยู่มาหลายปี แทบไม่เคยเกิดเรื่องลึกลับขึ้น ล้างหน้าล้างตาจบก็ออกมาแค่นั้น ไม่ยากเลย ไม่ได้เข้าไปกลางสนามรบสักหน่อย ตัวฉัน ทำไมถึงกลัว?

 

   เปิดไฟ เปิดประตูช้าๆ มองสำรวจทั่วทั้งห้อง อ้างอาบนํ้า ซิงค์ล้างหน้า อื่นๆ ทุกสิ่งในห้องปกติดี ฉันถอนหายใจโล่งอก ความกังวลสลายหายไป เดินเข้าห้องน้ำตามปกติ เปิดก๊อกล้างหน้าเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พออยู่ใกล้กระจกแล้ว จิตใจก็รู้สึกสั่นกลัวไปเองโดยไม่อาจควบคุม อาจเป็นผลจากเรื่องประหลาดครั้งก่อนก็ได้ ร่างกายจึงเป็นแบบนี้

 

   เสร็จละ รีบไปฝึกกีตาร์ดีกว่า ฉันเริ่มเล่นดีขึ้นกว่าก่อนหน้าแล้ว ความรู้สึกของการพัฒนา มันช่างรู้สึกดีจริงๆ ไม่แปลกใจเลย ทำไมคนเก่งๆถึงเติบโตได้เร็วมาก เป็นวงจรที่น่าสนใจ เมื่อเกิดการพัฒนาแบบเห็นได้ชัดเจน ก็จะรู้สึกมีความสุข มีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ ส่งผลให้ศึกษา เข้าใจ เติบโตดีขึ้น จากนั้นก็จะวนไปจุดแรก เป็นลูปที่วนเรื่อยๆ พัฒนา > มีกำลังใจ > พัฒนากว่าเดิม

 

   การเห็นพัฒนาการของตัวเอง และสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม มันช่วยให้คนเราสามารถเติบโตได้ยิ่งกว่าในอดีต เติบโตไปเรื่อยๆ แน่นอน มีที่สิ้นสุด เพราะสุดท้าย มนุษย์ทุกคนก็มีอายุขัยจำกัด ทุกคนต้องตาย ถึงไม่ตายด้วยอุบัติเหตุ มือมนุษย์ด้วยกันเอง หรือโรคร้าย ท้ายสุดก็ต้องตายโดยความแก่ชรา

 

   ยกเว้นว่าเป็นอมตะ สิ่งมีชีวิตอย่างเราไม่มีทางหนีสิ่งที่เรียกว่าความตายไปได้ ซึ่งสำหรับฉัน มันเป็นทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดีในเวลาเดียวกัน ดีที่ไม่ต้องทนเจ็บปวดทรมานไปตลอดกาล ไม่ดีตรงที่มนุษย์อายุขัยน้อยเกินไป หากเทียบกับอายุของโลก อายุมนุษย์ มันน้อยนิดเหลือเกิน…

 

 

 

   

   

   

    

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน 9 โลกสีเลือด

Now you are reading โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน Chapter 9 โลกสีเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 9 โลกสีเลือด

 

   [ตัวเอก]

 

   ฉันตื่นขึ้นในโลกที่มีเพียงตัวฉันคนเดียวอีกครั้ง แต่เวลานี้ ทุกสิ่งมันแปลกไปจากที่รู้จัก บนท้องฟ้า แทนที่จะเป็นท้องฟ้าดำมืด เต็มไปด้วยดวงดาว กลับเป็นท้องฟ้าสีแดงคล้ายสีของเลือด จันทราที่ไม่ได้มีแสงทอง ทำให้รู้สึกอันตรายเล็กน้อย จิตใจอดรู้สึกกลัวไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ? ฉันทำบางอย่างผิดพลาดไปรับเปล่า? ทำไมถึงเป็นอย่างงี้? มันไม่ถูกต้อง

 

   ควรทำยังไงดี? หวังว่าจะไม่มีเรื่องแปลกๆนะ ไม่ตลกเลย ฉันควรระมัดระวังไว้ก่อน เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝัน อาวุธป้องกันตัว ต้องมีมัน ถ้ามีจะรู้สึกปลอดภัยกว่าเดิมมาก ปัญหาคือ ฉันจะไปเอาของแบบนั้นมาจากไหนกัน? ห้องครัว? มีดทำอาหาร? ระหว่างมีดกับกีตาร์ อย่างไหนจะรุนแรงกว่ากัน?

 

   คำตอบอาจจะเป็นมีดทำอาหาร ทว่าเก็บทั้งสองไว้กับตัวก็ไม่เสียหายอะไรหนิ ใช่ไหม? เก็บสองอย่างไปเลย สมมุติของสิ่งหนึ่งหาย หรือพัง ก็ยังมีอีกสิ่งเหลืออยู่ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าปัจจุบันกำลังจะเจอกับสถานการณ์แบบไหน แต่เห็นดวงจันทร์แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยสุดๆ เหมือนเรื่องร้ายๆกำลังเกิดขึ้น

 

   เมื่อเดินเข้าไปในห้องครัว บรรยากาศก็ค่อยๆแปรเปลี่ยน ความเงียบในยามนี้ ฉันรู้สึกไม่ชอบสักนิด อยากออกไปจากโลกนี้ ณ ตอนนี้ ไม่อยากอยู่ ทว่ากลับไปยังโลกเดิม ฉันต้องทำยังไงล่ะ? นอนหลับ? อาจจะได้ผล แต่ก็แค่อาจจะ ไม่มีอะไรรับประกัน บางทีอาจเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจก็ได้ 

 

   “เรื่องแปลกๆจะเกิดกับฉันไม่หยุดเลยรึไง?”

 

   ฉันบ่นนิดหน่อยก่อนจะหยิบมีดทำอาหาร ทันทีที่นิ้วสัมผัสกับมีด ใบมีดสเตนเลสพลันแตกกระจาย โชคดีร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ฉันก้าวถอยหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ มองไปที่ด้ามมีดด้วยความรู้สึกหลากหลาย บ้าจริง ฉันจะจับของแล้วพังอย่างงี้ไม่ได้นะ ร่างกายฉันไม่ได้มีอะไรพิเศษสักหน่อย เป็นเพียงร่างกายมนุษย์ธรรมดา มั้ง อาจจะ

 

   ในความเป็นจริงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพิ่งได้ร่างกายใหม่มาไม่นาน แทบไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับร่างกายนี้ และโลกที่ไร้ผู้คน คงต้องใช้เวลาศึกษาทำความเข้าอีกนานถึงจะพอเข้าใจบ้าง

 

   เหลือแต่ด้ามมีด เอาวางลงที่เดิมของมันดีกว่า ใบมีดถูกทำลายเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้จะเก็บด้ามไว้ทำไม เก็บไว้น่าจะไม่ทำประโยชน์เท่าไหร่

 

   “จะผี ปีศาจ หรืออะไรก็เข้ามาเถอะ ตอนนี้ฉันไม่สนแล้ว”

 

   พอเห็นใบมีดแตกกระจาย ความสิ้นหวังก็ก่อเกิดภายในจิตใจอย่างรวดเร็ว แต่ตัวฉันน่ะ แตกต่างจากคนก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าสิ้นหวังแค่ไหน ฉันก็จะพร้อมเผชิญหน้ากับทุกสรรพสิ่ง ทว่าหากไม่ต้องเผชิญหน้าจะดีกว่า

 

   เวลาที่คิดหลายสิ่งในหัว สายตาพลันบังเอิญเห็นผนังไม่เหมือนเดิม จากที่ดู ผนังคล้ายมีเส้นเลือดปรากฏ สิ่งที่เหมือนเส้นเลือดโผล่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด ฉันยืนนิ่งค้าง ไม่รู้ควรทำอย่างไรดี

 

   ฉันที่เป็นคนทั่วไป เจอเข้าสถานการณ์แบบนี้ ทำตัวไม่ถูกเลย แต่สัญชาตญาณเหมือนกำลังร้องเตือนให้ฉันก้าวเท้าวิ่งหนีไป ในปัจจุบัน ความสามารถยังไม่เพียงพอรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เวลานี้

 

   หนี? ขาไม่ขยับแฮะ ไม่มีเรี่ยวแรงหลงเหลือแม้แต่น้อย ฉันนี่มันช่างอ่อนแอจริงๆ นึกว่าจะเปลี่ยนไปแล้วซะอีก สุดท้ายก็เหมือนเดิม ไม่มีสิ่งใดแตกต่างจากตัวฉันคนก่อน เฮ้ออ~ ถ้ามีเวลาเปลี่ยนตัวเองมากกว่านี้ ฉันจะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้หรือไม่นะ?

 

   เส้นเลือดปรากฏทั่วทั้งบ้าน ผนังดูไม่ใช่ผนังห้องอีกต่อไป มันดูน่าขนลุก น่ากลัว ไหล่ขวารู้สึกราวกับมีบางสิ่งกดทับ รู้สึกคล้ายมีสายลมเย็นผ่านร่างกายไป ทั้งๆที่มันไม่ควรมี หน้าต่างไม่ได้เปิด พัดลมเองก็เช่นกัน

 

   ! ? เหมือนมีใครสักคนกำลังกระซิบอยู่ข้างๆหู คำพูดไม่ชัดเจน ฟังไม่รู้เรื่อง… มีคนเล่นดนตรีเบาๆอยู่ใกล้ๆหรือเปล่านะ? ได้ยินเสียงดนตรี คิดไปเองเหรอ?

 

   หนาวจัง อุณหภูมิตํ่าขนาดนี้ มันเปลี่ยนเร็วเกินไปแล้ว ร่างกายฉันทนไม่ไหว ตัวสั่นโดยไม่อาจควบคุม

 

   ผนังห้องขยับเข้าใกล้ฉันใช่ไหมนะ? หรือฉันมองผิดไป? ง่วง ฝืนทนลืมตาไม่ได้เลย สติเริ่มไม่มี กำลังจะตาย? ชีวิตฉันจบลงเท่านี้? แย่จัง ยังไม่ได้มีชีวิตที่ต้องการก็ต้องตายซะแล้ว

 

/

/

/

/

 

   ยังไม่ตายเหรอ? รอดสินะ เกิดอะไรขึ้นกัน? ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เจอคือเพดานที่คุ้นเคย เป็นเพดานห้องของตัวฉันเอง โลกอีกใบไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดแฮะ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ทว่าตอนนี้ก็ยังรอดปลอดภัยดี สิ่งใดก็ตามในโลกนั้นคงไม่สามารถทำอันตรายต่อฉันได้ง่ายๆ

 

   คิดอย่างงั้น ภายในจิตใจก็รู้สึกปลอดภัยมากกว่าเดิม ผนังที่มีเส้นเลือด เสียงดนตรี และเสียงอื่น พวกมันเป็นอะไร ฉันไม่รู้หรอกนะ คิดจะหาคำตอบเวลานี้ด้วย แค่รู้พวกมันไม่อันตรายถึงตายก็เพียงพอแล้ว 

 

   เวลาเท่าไหร่แล้วนะ? ด้วยความสงสัย ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอ มองดูเวลา ยังกลางคืนอยู่ เพิ่งนอนไปนิดเดียว เพราะฉันตกอยู่ในอันตราย โลกใบนั้นเลยน่าจะดึงฉันออก ทำให้ฉันกลับมายังที่แห่งนี้ ตื่นก่อนเวลาที่ควรตื่น

 

   เจอเรื่องแปลกๆไป นอนไม่หลับแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาและฝึกเล่นกีตาร์ดีกว่า ถึงจะมีเทคนิควิธีการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว แต่หากไม่พยายาม ไม่ขยัน มันก็ไม่ได้ช่วยใดๆ

 

   ยามที่ยืนอยู่ ฉันพลันนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ในห้องนํ้าเองก็เคยเกิดเรื่องประหลาด เวลานั้นก็มีเสียงอะไรสักอย่างเช่นกัน ควรเปิดเข้าไปดีไหมนะ? หรือกลับไปนอนต่อ รอให้เช้าก่อนค่อยฝึกเล่นกีตาร์?

 

   ช่างเถอะ คงไม่เกิดเรื่องแปลกประหลาดติดๆกัน มันต้องเป็นอย่างงั้นแน่ ไม่งั้นชีวิตฉันจะโชคร้ายเกินไป ถึงจะโชคร้ายมาเกือบทั้วชีวิตแล้วก็เถอะ

 

   มันจะไปมีอะไรกัน? บ้านหลังนี้ฉันอยู่มาหลายปี แทบไม่เคยเกิดเรื่องลึกลับขึ้น ล้างหน้าล้างตาจบก็ออกมาแค่นั้น ไม่ยากเลย ไม่ได้เข้าไปกลางสนามรบสักหน่อย ตัวฉัน ทำไมถึงกลัว?

 

   เปิดไฟ เปิดประตูช้าๆ มองสำรวจทั่วทั้งห้อง อ้างอาบนํ้า ซิงค์ล้างหน้า อื่นๆ ทุกสิ่งในห้องปกติดี ฉันถอนหายใจโล่งอก ความกังวลสลายหายไป เดินเข้าห้องน้ำตามปกติ เปิดก๊อกล้างหน้าเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พออยู่ใกล้กระจกแล้ว จิตใจก็รู้สึกสั่นกลัวไปเองโดยไม่อาจควบคุม อาจเป็นผลจากเรื่องประหลาดครั้งก่อนก็ได้ ร่างกายจึงเป็นแบบนี้

 

   เสร็จละ รีบไปฝึกกีตาร์ดีกว่า ฉันเริ่มเล่นดีขึ้นกว่าก่อนหน้าแล้ว ความรู้สึกของการพัฒนา มันช่างรู้สึกดีจริงๆ ไม่แปลกใจเลย ทำไมคนเก่งๆถึงเติบโตได้เร็วมาก เป็นวงจรที่น่าสนใจ เมื่อเกิดการพัฒนาแบบเห็นได้ชัดเจน ก็จะรู้สึกมีความสุข มีกำลังใจ มีแรงบันดาลใจ ส่งผลให้ศึกษา เข้าใจ เติบโตดีขึ้น จากนั้นก็จะวนไปจุดแรก เป็นลูปที่วนเรื่อยๆ พัฒนา > มีกำลังใจ > พัฒนากว่าเดิม

 

   การเห็นพัฒนาการของตัวเอง และสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม มันช่วยให้คนเราสามารถเติบโตได้ยิ่งกว่าในอดีต เติบโตไปเรื่อยๆ แน่นอน มีที่สิ้นสุด เพราะสุดท้าย มนุษย์ทุกคนก็มีอายุขัยจำกัด ทุกคนต้องตาย ถึงไม่ตายด้วยอุบัติเหตุ มือมนุษย์ด้วยกันเอง หรือโรคร้าย ท้ายสุดก็ต้องตายโดยความแก่ชรา

 

   ยกเว้นว่าเป็นอมตะ สิ่งมีชีวิตอย่างเราไม่มีทางหนีสิ่งที่เรียกว่าความตายไปได้ ซึ่งสำหรับฉัน มันเป็นทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดีในเวลาเดียวกัน ดีที่ไม่ต้องทนเจ็บปวดทรมานไปตลอดกาล ไม่ดีตรงที่มนุษย์อายุขัยน้อยเกินไป หากเทียบกับอายุของโลก อายุมนุษย์ มันน้อยนิดเหลือเกิน…

 

 

 

   

   

   

    

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+