Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 525 เด็กสาวที่ซื่อสัตย์

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 525 เด็กสาวที่ซื่อสัตย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 525 เด็กสาวที่ซื่อสัตย์
“อาจารย์ ท่านเชื่อใจข้าถึงกับมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เลยรึ” แม้ว่าเธอ
จะไม่เข้าใจค่าที่แท้จริงของของขวัญสองอย่างนี้ เยี่ยนเยี่ยนก็รู้ว่าพวก
มันมีค่ามากอาจถึงขั้นประเมินค่าไม่ได้
“แน่นอน ทำไมข้าจักมิเชื่อใจเจ้าล่ะ”
“ท่านมิกลัวว่าข้าจักวิ่งหนีไปกับพวกมันรึ มิว่าอย่างไรพวกเราก็เพียง
แค่เพิ่งจะพบกัน”
“เช่นนั้นเจ้าจักวิ่งหนีไปกับสิ่งของพวกนี้หรือไม่” ซูหยางถามเธอ
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
“ไม่…” เธอส่ายหน้า
“เช่นนั้นก็มิมีอะไรที่ต้องกังวล” เขากล่าว ยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้า
แม้ว่าสิบล้านก้อนหินวิญญาณอาจจะดูเหมือนเป็นเงินจำนวนมหาศาล
แต่จริงแล้วมันเป็นเหมือนแค่เงินติดกระเป๋าในสายตาของซูหยาง ยิ่ง
ไปกว่านั้นยังมีหินวิญญาณอีกนับหลายร้อยล้านก้อนอยู่ในนิกาย
ส่วนสำหรับวิชาระดับเทพนั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีค่ามากจริง ๆ และมี
เพียงแค่หนึ่งเดียวในโลกนี้ แต่วิชาฝึกปราณนี้ก็พิเศษใช้ได้เฉพาะ
เพียงคนที่เป็นที่รักของปราณไร้ลักษณ์อย่างเช่นเยี่ยนเยี่ยน ดังนั้น
ถึงแม้ว่าเธอจะให้ใครไปก็ไม่สำคัญ ในเมื่อไม่มีใครอีกที่จะสามารถ
ใช้มันได้
“อย่างไรก็ตามเจ้าสามารถเลือกที่พักที่เจ้าต้องการอาศัยได้ตราบเท่าที่
มันยังมิถูกจับจอง ข้าจักตรวจสอบความก้าวหน้าของเจ้าเป็นระยะ
และถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ก็เพียงแค่ส่งข้อความมาหา
ข้าผ่านหยกสื่อสาร”
เยี่ยนเยี่ยนพยักหน้า และเธอก็ตัดสินใจที่จะอยู่ในบ้านข้าง ๆ บ้านซู
หยาง
ครั้นเมื่อทุกสิ่งผ่านพ้นไปแล้ว ซูหยางก็อยู่ภายในบ้านและเริ่มเขียน
วิชาฝึกปราณมากขึ้น ในเมื่อเขามีศิษย์มากกว่าแปดร้อยคนที่รอวิชา
การฝึกปราณก่อนที่พวกเขาจะสามารถเริ่มฝึกวิชา
เวลาที่เหลือในวันนั้นจนถึงเช้าของอีกวัน ซูหยางก็ไม่ได้ทำอะไรไป
มากกว่าคัดลอกวิชาฝีมือที่เขามีเก็บไว้ในห้วงความจำ
วันถัดมา ซูหยาลก็จากไปสู่นิกายดอกบัวเพลิง
“ซูหยาง” จางซิวยิงดีใจแกมประหลาดใจเมื่อเห็นซูหยางยืนอยู่ตรง
หน้าบ้านของเธอตั้งแต่เช้ามืด
“ท่านสบายดีไหม ข้าได้ยินถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการทดสอบศิษย์”
เธอกล่าวกับเขาด้วยใบหน้าเป็นกังวล
“โอ เรื่องนั้นรึ มิมีอะไรที่มีค่าให้กล่าวถึง” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม
“ข้าโล่งใจที่ได้ยินเช่นนั้น อย่างไรก็ตามอะไรที่นำท่านมาที่นี่ในวันนี้”
เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “เจ้ายังจำได้ไหมในเรื่องที่พวกเราพูดถึง
ครั้งที่แล้ว”
“ท่านคงมิได้หมายถึง…”
“ตอนนี้เมื่อการทดสอบศิษย์ได้จบลงไปแล้วและพวกเราก็มีศิษย์ใหม่
จำนวนมาก ข้าคิดว่านี่ควรเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าในการมายัง
นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย”
“ต-แต่ข้ายังมิได้พูดกับอาจารย์ของข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้…”
“เช่นนั้นพวกเราก็ไปพูดกับเธอกันในตอนนี้ ข้าเองก็อยู่ในระหว่าง
ทางที่จะไปพบกับเธออยู่เช่นกัน”
จางซิวยิงพยักหน้าและติดตามซูหยางไปยังที่พักของหวังชูเหริน
เวลาผ่านไป พวกเขาก็ไปถึงที่พักของหวังชูเหริน
“ข้าหวังจริง ๆ ว่าอาจารย์จะมิบ้าคลั่งใส่ข้า…” จางซิวยิงร่ำร้องในใจ
ขณะที่ซูหยางเคาะประตู
สองสามนาทีให้หลัง หวังชูเหรินก็เปิดประตู
“เจ้ามาทำอะไรกับซูหยางรึ ซิวยิง” หวังชูเหรินเลิกคิ้วหลังจากที่เห็น
ศิษย์ของเธอที่นี่
“เราไปพูดกันข้างใน” ซูหยางกล่าว
แม้ว่าเธอจะยังคงสงสัย หวังชูเหรินก็พยักหน้าและต้อนรับพวกเขา
เข้าไปข้างใน
ครั้นเมื่อพวกเขานั่งลงแล้ว ซูหยางก็มองไปยังจางซิวยิงและกล่าวว่า
“เอาสิ บอกเธอได้เลย”
“เจ้ามีอะไรรึ” หวังชูเหรินมองไปยังจางซิวยิงพร้อมขมวดคิ้ว คิดว่า
ศิษย์ของเธอได้ทำอะไรที่เธอไม่ควรจะทำ
เมื่อเห็นใบหน้าของหวังชูเหริน ความกระวนกระวายของจางซิวยิงก็
เพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด
แต่ทว่าซูหยางพลันจับมือเธอไว้และกล่าวด้วยรอยยิ้มนุ่มนวลว่า “ถ้า
เจ้ามิบอกเธอ เธอก็จักมิรู้”
จางซิวยิงสูดลมหายใจลึกก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลแต่
ชัดเจนว่า “อาจารย์ ศิษย์ทรยศคนนี้ต้องการที่จะจากนิกายดอกบัว
เพลิงเพื่อไปเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย”
“…”
หวังชูเหรินไม่ได้ตอบในทันที ความจริงแล้วเธอแทบจะไม่ได้มี
ปฏิกิริยาใดกับคำพูดของจางซิวยิงด้วยซ้ำ
หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ จางซิวยิงก็พูดต่อว่า “ข้าต้องขอบคุณต่อ
ท่านอาจารย์ที่รับคนที่มิได้มีพรสวรรค์ใดอย่างเช่นตัวข้าเป็นศิษย์ไป
ตลอดชีวิต แต่ก่อนหน้านี้ศิษย์คนนี้ได้ตระหนักว่าเธอมิได้มีความ
ผูกพันกับที่แห่งนี้ และซูหยางก็ได้เสนอที่ให้ข้ายังนิกายกุสุมาลย์พ้น
พิสัย”
จางซิวยิงถึงกับคุกเข่าคำนับหวังชูเหริน
“แม้ว่าข้ามิได้บอกอาจารย์เรื่องนี้ ซูหยางก็ได้ช่วยข้าไว้หลายครั้ง
นับตั้งแต่ข้าได้พบกับเขาที่โรงประมูล และก็มิถือว่าจะเป็นการพูด
เกินจริงหากข้าจะพูดว่าข้าเป็นหนี้ชีวิตเขา”
“…”
หลังจากนั้น หวังชูเหรินก็พูดด้วยเสียงเยือกเย็นชัดเจนว่า “สบายใจ
ได้ ซิวยิง ข้ามิได้กล่าวโทษเจ้าในความต้องการที่จะย้ายสำนัก ความ
จริงแล้วข้าเองก็ได้สังเกตเห็นมานานแล้วว่าเจ้ามิสามารถเข้าได้กับ
ศิษย์คนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ข้ารับเจ้าไว้เป็นศิษย์ของ
ข้า”
“นี่หมายความว่า…” จางซิวยิงมองดูอีกฝ่ายด้วยดวงตาโต
หวังชูเหรินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น “เจ้าสามารถเข้าร่วมกับ
นิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยได้ และถ้าเจ้ายังต้องการคำแนะนำหรือความ
ช่วยเหลือ เจ้ายังสามารถมาพบข้าได้ แม้ว่าข้าจะสงสัยว่าเจ้าจักต้องการ
ข้าอีกหรือไม่เมื่อมีคนอย่างซูหยางอยู่ข้างกายเจ้า”
“ขอบพระคุณอาจารย์” จางซิวยิงร้องไห้เสียงดัง ในเมื่อเธอไม่ได้
คาดคิดว่ามันจะดำเนินไปได้ง่ายดายเช่นนี้
บางทีเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ทำไมหวังชูเหรินเห็นด้วยกับเธอใน
การย้ายไปสู่สำนักอื่นก็เพราะว่ามีซูหยางอยู่ด้วย แต่นั่นไม่สำคัญ
แม้แต่น้อย ในเมื่อเธอได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว
“กลับไปเก็บของของเจ้า พวกเราจักจากไปในวันพรุ่งนี้หลังจากที่ข้า
เสร็จสิ้นธุระของข้าที่นี่” ซูหยางกล่าวกับจางซิงยิง ซึ่งเธอก็รีบไป
จากที่นั่นในทันที
“เจ้าชอบเธอจริง ๆ มิใช่รึ แรกสุดเจ้าก็ปกป้องเธอจากหวังหมิง
จากนั้นเจ้าก็อ้างว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเธอ และตอนนี้เจ้าก็ถึงกับ
ทำเช่นนี้” หวังชูเหรินกล่าวกับเขาหลังจากนั้น
“เธอเป็นเด็กสาวที่ซื่อสัตย์ และข้าก็ชอบเด็กสาวที่ซื่อสัตย์” เขาตอบ
พร้อมกับรอยยิ้ม
“แล้วข้าล่ะ ข้าก็มิเคยโกหกเจ้า นี่มิได้ทำให้ข้าเป็นผู้หญิงที่ซื่อสัตย์
หรอกรึ” หวังชูเหรินหัวเราะเบา ๆ
“มีคนที่ซื่อสัตย์อยู่หลายจำพวก และพวกเจ้าทั้งสองคนก็เป็นคนที่
แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”
“เช่นนั้น เจ้าชอบข้าเช่นกันหรือไม่” เธอถามเขาด้วยสายตายั่วเย้า
“ถ้าข้ามิชอบเจ้า ข้าก็คงจักมิเสียเวลาข้าที่นี่ ใช่ไหม” เขาตอบอย่างใจ
เย็น
“น่าประทับใจ…”
หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาทั้งคู่ก็เข้าสู่ห้องปรุงยา และซูหยางก็
ดำเนินการฝึกหวังชูเหรินไปตลอดทั้งวัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด