Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 639 ก้มหัวของเขา

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 639 ก้มหัวของเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 639 ก้มหัวของเขา

 

“เจ้าต้องการเดิมพันอะไร” เจ้าซีถามซูหยางในเวลาต่อมา

 

“พูดตามตรง เจ้ามีมีอะไรที่ข้าต้องการ” ซูหยางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ และพูดต่อ “เช่นนั้นเจ้าควรบอกข้าก่อนว่าเจ้าต้องการอะไรจากข้า”

 

“เจ้าก็มมีอะไรที่ข้าต้องการจริงๆเช่นเดียวกัน” เจ้าซีกล่าวกับเขาพร้อมขมวดคิ้ว “อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่ข้าต้องการให้เจ้าทําก้มหัวลงต่อหน้าข้าและขอโทษสําหรับจํานวนครั้งที่เจ้าไม่เคารพต่อข้าเจ้าคิดว่าเจ้าทําได้ไหม”

 

ซูหยางเล็กคิ้วและแสดงท่าที่ประหลาดใจ “เจ้าต้องการให้ข้าก้มหัวลงรี นั้นเป็นความต้องการที่ค่อนข้างแพงนั่นจะทําให้เจ้าเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อรู้นิสัยของเจ้าแล้ว เจ้าย่อมจะไม่ก้มหัวลงแม้ว่าเจ้าจะถูกทุบตีจนตาย ด้วยเหตุนี้ข้าจึงเลือกทําแบบนี้”เจ้าซีหัวเราะในใจ

 

“จํานวนครั้งที่ข้าก้มหัวลงสําหรับใครสักคนสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียวและพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ข้าทําผิดต่อเธอหากเจ้าต้องการให้ข้าก้มหัวสําหรับการเดิมพันนี้ข้าก็จะต้องขอบางสิ่งบางอย่างจากเจ้าที่มีค่าใกล้เคียงกันแต่แม้ว่าข้าจะเอาชีวิตของเจ้ามันก็ไม่เพียงพอที่จะสมดุลตราชั่ง”ซูหยางพูดด้วยเสียงถอนหายใจ

 

“อะไรนะ เจ้ากล้าอ้างว่าชีวิตของข้าไม่มีค่าเท่ากับการก้มหัวของเจ้าลงรี” เจ้าซึมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างในขณะที่เขาไม่คาดหวังว่าซูหยางจะพูดคําเช่นนี้“แล้วเจ้าต้องการอะไรจากข้าทั้งที่กระทั่งชีวิตข้าก็ยังไม่ เพียงพอ”

 

“มีคํากล่าวว่าศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชายนั้นมีค่ามากกว่าชีวิตของพวกเขาถ้าข้าสามารถหาผนึกในสถานที่นี้ได้ก่อนที่สระสวรรค์จะเปิดขึ้นข้าต้องการให้เจ้าวิ่งไปรอบๆเมืองหิมะโปรยโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้า” ซูหยางกล่าวด้วยเสียงที่สงบ

 

“เจ้าต้องการให้ข้าทําอะไรนะ”กรามของเจ้าซีร่วงลงที่พื้นหลังจากได้ยินความต้องการที่ไร้เหตุผลของเขา

 

แม้แต่ซีซึ่งฟางก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากของเธอจากความตกใจ ไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการถึงภาพของพ่อของเธอที่วิ่งไปทั่วเมืองในขณะที่เปลือยเปล่า

 

ในขณะเดียวกันซีหวังก็หัวเราะเบาๆความคิดนั้น

 

“เจ้าขอมากเกินไปซูหยางไม่มีทางที่ข้าจะวิ่งไปรอบๆเมืองเปลือยไม่แม้ว่าเจ้าจะทรมานข้าก็ตาม”เจ้าตะโกนด้วยความโกรธ

 

ซูหยางส่ายหน้าและพูดว่า “เจ้าเป็นคนที่รับมือได้ยากเช่นนั้นก็ได้เนื่องจากข้ามต้องการให้พันธมิตรของ เราจบลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นข้าจะทําให้ง่ายขึ้นสําหรับเจ้า แทนที่จะวิ่งเปลือยกายไปทั่วเมือง ,ข้าต้องการให้เจ้า เรียกทุกตระกูลและสํานักในทวีปตะวันออกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้า และให้พวกเขามารวมกันในที่เดียว และต้องการตัวแทนเพียงคนเดียวจากแต่ละขั้วอ่านาจ”

 

“อะไรอีกรีนั่น” เจ้าซึมองไปที่ซูหยางด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง เขาพยายามทําอะไรที่นี่กันแน่

 

“มีหลายหมื่นตระกูล และหลายพันสํานัก ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการจัดเตรียมอะไรเช่นนั้นและเจ้าพยายามรวบรวมผู้คนจํานวนมากเช่นนั้นเพื่อจุดประสงค์อะไรรี เจ้าซีถามเขาพร้อมขมวดคิ้ว

 

“สมมติว่าข้ามีเรื่องสําคัญที่จะประกาศ” ซูหยางตอบอย่างใจเย็น

 

“ทําไมเจ้าไม่แค่ประกาศต่อสาธารณะและปล่อยให้มันแพร่กระจายไปตามกลไก นั่นจะสะดวกกว่าการเรียกทุกตระกูลในทวีปตะวันออก”เจ้าซีพูดกับเขา

 

“เพราะมันจะส่งผลดีกว่าถ้าทําเช่นนั้น” ซูหยางกล่าว

 

จากนั้นเขาก็พูดต่อ “อม เจ้าทําได้หรือไม่ ข้าจะให้โอสถสู่สวรรค์แก่เจ้าเป็นรางวัลอีกด้วย”

 

“อะไรนะโอสถสู่สวรรค์ เจ้ามีของเช่นนั้นได้ยังไง ทําไมเจ้าถึงทําเหมือนกับว่าข้าแพ้แล้วล่ะ”เจ้าขมวดคิ้ว

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ซูหยางก็ชี้ไปในทิศทางหนึ่งและพูดด้วยน้ําเสียงสงบ “ผนึกอยู่ห่างจากจุดที่ข้ายืนอ ยู่ 23 เมตร

 

เจ้าซีหันไปมองที่ซึ่งซูหยางชี้ไป และนั่นก็คือจุดที่ผนึกมักจะปรากฏขึ้น

 

“ได้ยังไงกัน…” เจ้าชีจ้องมองไปที่ซูหยางด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับจานรองชา เขามีความสามารถในการมองเห็นผนึกจริงๆเขาทําได้อย่างไรเมื่อแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลที่มีความสามารถมากที่สุดในโลกท่างานร่วมกันก็ไม่สามารถไขมันออกมาได้

 

“ที่ข้าเห็นค่ายกลนั้นมิได้เป็นสิ่งที่สําคัญในตอนนี้เจ้าจะให้เกียรติการเดิมพันของเราและเรียกตระกูลและสํานักมาหรือไม่หรือว่าเจ้าจะวิ่งไปรอบๆเมืองในขณะที่เปลือยเปล่า”ซูหยางพูดกับเขา

 

เจ้าชีพูดไม่ออกทันที เขาไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งใดเลยเนื่องจากซูหยางชนะพนันก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตกลงใจ

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งในที่สุดเขาก็พูดด้วยน้ําเสียงที่พ่ายแพ้ “เจ้าแค่ต้องการให้ข้าเรียกคนมารวมกันใช่ไหม”

 

“ถูกต้องเจ้าสามารถเลือกสถานที่และเวลาได้ แต่ต้องใช้เวลาไม่เกิน 9 เดือน”

 

“ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ ซูหยาง หากเจ้าจะทําอะไรบางอย่างที่จะทําลายภาพลักษณ์ของข้า…” เจ้าชีจ้องมองเขาพร้อมหรี่ตา

 

เมื่อเห็นสายตาคุกคามของเขาซูหยางก็เพียงแค่ยักไหล่และพูดว่า “ไม่ต้องห่วงมีมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าและทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับตัวข้าเอง”

 

ในเวลาต่อมาโหลวหลานจีพูดกับเขาว่า “ข้าพอจะรบกวนถามได้ไหมว่าทําไมเจ้าจึงต้องการรวบรวมผู้คนจำนวนมาก”

 

ซูหยางยิ้มให้เธอและพูดว่า “สําหรับงานเลี้ยงอาลาของข้า”

 

“เจ้า…อะไรนะ” โหลวหลานจีมองไปที่เขาพร้อมกับเลิกคิ้ว และเห็นได้ชัดว่างนงงกับคําพูดของเขา

 

“เจ้าจะเข้าใจเมื่อถึงเวลานั้น”

 

ในเวลาต่อมาเจ้าซีก็เข้าไปหาโหลวหลานจีและศิษย์คนอื่นๆและพูดกับพวกเธอว่า “มีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ผนึกจะปรากฏขึ้นและข้าต้องการใช้เวลานี้เพื่ออธิบายให้พวกท่านทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเวลานั้นมาถึง”

 

จากนั้นเขาก็หยิบยันต์หน้าตาธรรมดาสองสามชิ้นออกมาจากกระเป๋ามิติและส่งให้โหลวหลานจ์และเหล่าศิษย์”ก่อนอื่นยันต์เหล่านี้จะบอกพวกท่านว่าเมื่อไหร่ที่เวลาของพวกท่านใกล้หมดลงดังนั้นเมื่อมันทํางานพวกท่านต้องหยุดการฝึกวิชาและออกจากสระสวรรค์ไม่เช่นนั้นพวกท่านจะติดอยู่ข้างในเป็นเวลา 100 ปี “

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 639 ก้มหัวของเขา

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 639 ก้มหัวของเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 639 ก้มหัวของเขา

 

“เจ้าต้องการเดิมพันอะไร” เจ้าซีถามซูหยางในเวลาต่อมา

 

“พูดตามตรง เจ้ามีมีอะไรที่ข้าต้องการ” ซูหยางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ และพูดต่อ “เช่นนั้นเจ้าควรบอกข้าก่อนว่าเจ้าต้องการอะไรจากข้า”

 

“เจ้าก็มมีอะไรที่ข้าต้องการจริงๆเช่นเดียวกัน” เจ้าซีกล่าวกับเขาพร้อมขมวดคิ้ว “อย่างไรก็ตามมีบางอย่างที่ข้าต้องการให้เจ้าทําก้มหัวลงต่อหน้าข้าและขอโทษสําหรับจํานวนครั้งที่เจ้าไม่เคารพต่อข้าเจ้าคิดว่าเจ้าทําได้ไหม”

 

ซูหยางเล็กคิ้วและแสดงท่าที่ประหลาดใจ “เจ้าต้องการให้ข้าก้มหัวลงรี นั้นเป็นความต้องการที่ค่อนข้างแพงนั่นจะทําให้เจ้าเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อรู้นิสัยของเจ้าแล้ว เจ้าย่อมจะไม่ก้มหัวลงแม้ว่าเจ้าจะถูกทุบตีจนตาย ด้วยเหตุนี้ข้าจึงเลือกทําแบบนี้”เจ้าซีหัวเราะในใจ

 

“จํานวนครั้งที่ข้าก้มหัวลงสําหรับใครสักคนสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียวและพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้หญิงที่ข้าทําผิดต่อเธอหากเจ้าต้องการให้ข้าก้มหัวสําหรับการเดิมพันนี้ข้าก็จะต้องขอบางสิ่งบางอย่างจากเจ้าที่มีค่าใกล้เคียงกันแต่แม้ว่าข้าจะเอาชีวิตของเจ้ามันก็ไม่เพียงพอที่จะสมดุลตราชั่ง”ซูหยางพูดด้วยเสียงถอนหายใจ

 

“อะไรนะ เจ้ากล้าอ้างว่าชีวิตของข้าไม่มีค่าเท่ากับการก้มหัวของเจ้าลงรี” เจ้าซึมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้างในขณะที่เขาไม่คาดหวังว่าซูหยางจะพูดคําเช่นนี้“แล้วเจ้าต้องการอะไรจากข้าทั้งที่กระทั่งชีวิตข้าก็ยังไม่ เพียงพอ”

 

“มีคํากล่าวว่าศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชายนั้นมีค่ามากกว่าชีวิตของพวกเขาถ้าข้าสามารถหาผนึกในสถานที่นี้ได้ก่อนที่สระสวรรค์จะเปิดขึ้นข้าต้องการให้เจ้าวิ่งไปรอบๆเมืองหิมะโปรยโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้า” ซูหยางกล่าวด้วยเสียงที่สงบ

 

“เจ้าต้องการให้ข้าทําอะไรนะ”กรามของเจ้าซีร่วงลงที่พื้นหลังจากได้ยินความต้องการที่ไร้เหตุผลของเขา

 

แม้แต่ซีซึ่งฟางก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากของเธอจากความตกใจ ไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการถึงภาพของพ่อของเธอที่วิ่งไปทั่วเมืองในขณะที่เปลือยเปล่า

 

ในขณะเดียวกันซีหวังก็หัวเราะเบาๆความคิดนั้น

 

“เจ้าขอมากเกินไปซูหยางไม่มีทางที่ข้าจะวิ่งไปรอบๆเมืองเปลือยไม่แม้ว่าเจ้าจะทรมานข้าก็ตาม”เจ้าตะโกนด้วยความโกรธ

 

ซูหยางส่ายหน้าและพูดว่า “เจ้าเป็นคนที่รับมือได้ยากเช่นนั้นก็ได้เนื่องจากข้ามต้องการให้พันธมิตรของ เราจบลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นข้าจะทําให้ง่ายขึ้นสําหรับเจ้า แทนที่จะวิ่งเปลือยกายไปทั่วเมือง ,ข้าต้องการให้เจ้า เรียกทุกตระกูลและสํานักในทวีปตะวันออกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้า และให้พวกเขามารวมกันในที่เดียว และต้องการตัวแทนเพียงคนเดียวจากแต่ละขั้วอ่านาจ”

 

“อะไรอีกรีนั่น” เจ้าซึมองไปที่ซูหยางด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง เขาพยายามทําอะไรที่นี่กันแน่

 

“มีหลายหมื่นตระกูล และหลายพันสํานัก ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการจัดเตรียมอะไรเช่นนั้นและเจ้าพยายามรวบรวมผู้คนจํานวนมากเช่นนั้นเพื่อจุดประสงค์อะไรรี เจ้าซีถามเขาพร้อมขมวดคิ้ว

 

“สมมติว่าข้ามีเรื่องสําคัญที่จะประกาศ” ซูหยางตอบอย่างใจเย็น

 

“ทําไมเจ้าไม่แค่ประกาศต่อสาธารณะและปล่อยให้มันแพร่กระจายไปตามกลไก นั่นจะสะดวกกว่าการเรียกทุกตระกูลในทวีปตะวันออก”เจ้าซีพูดกับเขา

 

“เพราะมันจะส่งผลดีกว่าถ้าทําเช่นนั้น” ซูหยางกล่าว

 

จากนั้นเขาก็พูดต่อ “อม เจ้าทําได้หรือไม่ ข้าจะให้โอสถสู่สวรรค์แก่เจ้าเป็นรางวัลอีกด้วย”

 

“อะไรนะโอสถสู่สวรรค์ เจ้ามีของเช่นนั้นได้ยังไง ทําไมเจ้าถึงทําเหมือนกับว่าข้าแพ้แล้วล่ะ”เจ้าขมวดคิ้ว

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ซูหยางก็ชี้ไปในทิศทางหนึ่งและพูดด้วยน้ําเสียงสงบ “ผนึกอยู่ห่างจากจุดที่ข้ายืนอ ยู่ 23 เมตร

 

เจ้าซีหันไปมองที่ซึ่งซูหยางชี้ไป และนั่นก็คือจุดที่ผนึกมักจะปรากฏขึ้น

 

“ได้ยังไงกัน…” เจ้าชีจ้องมองไปที่ซูหยางด้วยดวงตาที่เบิกกว้างราวกับจานรองชา เขามีความสามารถในการมองเห็นผนึกจริงๆเขาทําได้อย่างไรเมื่อแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลที่มีความสามารถมากที่สุดในโลกท่างานร่วมกันก็ไม่สามารถไขมันออกมาได้

 

“ที่ข้าเห็นค่ายกลนั้นมิได้เป็นสิ่งที่สําคัญในตอนนี้เจ้าจะให้เกียรติการเดิมพันของเราและเรียกตระกูลและสํานักมาหรือไม่หรือว่าเจ้าจะวิ่งไปรอบๆเมืองในขณะที่เปลือยเปล่า”ซูหยางพูดกับเขา

 

เจ้าชีพูดไม่ออกทันที เขาไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งใดเลยเนื่องจากซูหยางชนะพนันก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตกลงใจ

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งในที่สุดเขาก็พูดด้วยน้ําเสียงที่พ่ายแพ้ “เจ้าแค่ต้องการให้ข้าเรียกคนมารวมกันใช่ไหม”

 

“ถูกต้องเจ้าสามารถเลือกสถานที่และเวลาได้ แต่ต้องใช้เวลาไม่เกิน 9 เดือน”

 

“ข้าขอสาบานต่อสวรรค์ ซูหยาง หากเจ้าจะทําอะไรบางอย่างที่จะทําลายภาพลักษณ์ของข้า…” เจ้าชีจ้องมองเขาพร้อมหรี่ตา

 

เมื่อเห็นสายตาคุกคามของเขาซูหยางก็เพียงแค่ยักไหล่และพูดว่า “ไม่ต้องห่วงมีมีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าและทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับตัวข้าเอง”

 

ในเวลาต่อมาโหลวหลานจีพูดกับเขาว่า “ข้าพอจะรบกวนถามได้ไหมว่าทําไมเจ้าจึงต้องการรวบรวมผู้คนจำนวนมาก”

 

ซูหยางยิ้มให้เธอและพูดว่า “สําหรับงานเลี้ยงอาลาของข้า”

 

“เจ้า…อะไรนะ” โหลวหลานจีมองไปที่เขาพร้อมกับเลิกคิ้ว และเห็นได้ชัดว่างนงงกับคําพูดของเขา

 

“เจ้าจะเข้าใจเมื่อถึงเวลานั้น”

 

ในเวลาต่อมาเจ้าซีก็เข้าไปหาโหลวหลานจีและศิษย์คนอื่นๆและพูดกับพวกเธอว่า “มีเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ผนึกจะปรากฏขึ้นและข้าต้องการใช้เวลานี้เพื่ออธิบายให้พวกท่านทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเวลานั้นมาถึง”

 

จากนั้นเขาก็หยิบยันต์หน้าตาธรรมดาสองสามชิ้นออกมาจากกระเป๋ามิติและส่งให้โหลวหลานจ์และเหล่าศิษย์”ก่อนอื่นยันต์เหล่านี้จะบอกพวกท่านว่าเมื่อไหร่ที่เวลาของพวกท่านใกล้หมดลงดังนั้นเมื่อมันทํางานพวกท่านต้องหยุดการฝึกวิชาและออกจากสระสวรรค์ไม่เช่นนั้นพวกท่านจะติดอยู่ข้างในเป็นเวลา 100 ปี “

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+