Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์

 

“เจ้ามั่นใจว่าพวกเราจะไปพบกับพวกนั้นตามลําพัง มิปลอดภัยกว่าหากให้จอมยุทธสักคนตามเราไปด้วย” ซีหวังกล่าวกับเขาหลังจากที่พวกเขาออกจากยานบินแล้ว

 

“อย่ากังวลไป พวกนั้นมิทําอันตรายท่านหรอก” ซูหยางกล่าวพร้อมกับยิ้ม

 

สองสามอึดใจให้หลัง พวกเขาก็ไปถึงทะเลหยก

 

“ข้ารู้สึกได้ถึงพวกเขาแล้ว พวกเราไปทักทายแขกของพวกเรากันเถอะ” ซูหยางพูดขึ้นก่อนที่จะบินไปเหนือทะเลหยก

 

อย่างไรก็ตามไม่ทันได้ถึงครึ่งนาทีให้หลังปลาขนาดใหญ่ที่ดูน่าเกลียดก็พุ่งขึ้นมาจากน้ําพร้อมกับขากรรไกรที่อ้ากว้างเล็งไปที่ซูหยาง

 

ซูหยางเพียงแค่เหลือบมองไปที่ปลาก่อนที่จะนําเอากระบออกมาตัดมันออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดาย

 

“พวกนี้ก้าวร้าวกว่าที่ข้าคิด” ซูหยางกล่าวหลังจากนั้น

 

“แน่นอน พวกมันจักโจมตีเจ้าแม้กระทั่งว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าพวกมัน ราวกับว่าเป็นธรรมชาติของพวกมันที่จักต้องโจมตีทุกสิ่งที่อยู่ในสายตา และสัตว์ทะเลก็จักแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆหากว่าเจ้าเดินทางลึกเข้าไป นี่เป็นเหตุผลที่ทําไมจึงมิมีใครกล้าที่จะเดินทางไปในทะเลหยก”

 

หลังจากที่บินไปได้อีกสองสามนาทีพร้อมกับจัดการกับสัตว์ทะเลไปอีกมากกว่าโหล สุดท้ายซูหยางก็สามารถเห็นเรือลําใหญ่จากระยะห่างด้วยตาเปล่า

 

“มิน่าว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าแล่นเรือผ่านทะเลหยก เพราะพวกเขามีสมบัติวิญญาณที่ลึกล้ำเช่นนี้” ซีหวังมีสีหน้าหวาดหวั่นหลังจากที่เห็นยานที่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงอำนาจ

 

ก็เหมือนกับยานบินของชิวเยว่ ยานบินจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางเป็นสมบัติวิญญาณที่มีกลไกการป้องกันมากมาย ยอมให้พวกเขาเดินทางผ่านทะเลหยกโดยมิต้องหวาดกลัวว่ามันอาจจะถูกทําลายจากสัตว์ทะเล

 

ในเวลานั้นบนยาน เจ้าสํานักทองก็สังเกตเห็นการปรากฏตัวขึ้นของซูหยางกับซีหวัง

 

“คนหนึ่งอยู่ในเขตราชันวิญญาณส่วนอีกคนในไขตอัมพรวิญญาณ….พวกเขาเป็นพวกของเจ้าหรือไม่” เจ้าสํานักทองหันไปมองผู้ส่งสารของดาบเสี้ยวจันทร์ที่อยู่ข้างกาย

 

“ม-ไม่ใช่ แม้ว่าข้ามิรู้จักคนที่อยู่ในเขตอัมพรวิญญาณ แต่ผู้ที่อยู่ในเขตราชันวิญญาณ ต้องเป็นบรรพบุรุษตระกูลซี ซีหวังแน่” ผู้ส่งสารของดาบเสียวจันทร์กล่าว

 

“ตระกูลซีรึ ผู้ปกครองปัจจุบันของทวีปตะวันออกรึ พวกเขารู้ว่าพวกเราจะมาถึงก่อนหน้านี้หรือไม่” เจ้าสํานักทองถามอีกครั้ง

 

“นั่นเป็นไปไม่ไดก ต่อให้พวกเขาพบเห็นแผนของเรา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่ จะต้องเกิดบางสิ่งขึ้นกับดาบเสี้ยวจันทร์เป็นแน่”

 

“ถ้าเช่นนั้นก็มิมีความหมายว่าพวกเขาจะทําอะไร เมื่อข้าสามารถที่จะจัดการกับคนทั้งสองนี้ได้ด้วยตัวข้าเอง” เจ้าสํานักทองกล่าวขึ้นก่อนที่เขาจะกระโดดออกจากเรือและพุ่งไปยังซูหยางกับซีหวัง

 

ระหว่างที่เขาเหินบินไปนั้น สัตว์ทะเลขนาดยักษ์ที่ใหญ่เท่ากับลําเรือที่มีพลังการฝึกปรือในระดับสูงสุดเขตอัมพรวิญญาณก็โจนขึ้นมาจากท้องทะเลและพยายามที่จะกัดเจ้าสํานักทอง

 

แต่ทว่า เจ้าสํานักทองเพียงแค่แค่นเสียงก่อนที่จะสังหารมันด้วยเพียงหมัดเดียว

 

เมื่อซีหวังเห็นกระแสพลังที่แหลมคมของเจ้าสํานักทอง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตระหนก

 

“ชายคนนั้นทรงอํานาจมาก แข็งแกร่งกว่าข้ามากนัก เจ้ามั่นใจว่าเรามจําเป็นต้องหากองหนุนรึ” ซีหวังกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

 

“ท่านเป็นจอมยุทธเขตราชันวิญญาณแนร์ ข้าได้บอกท่านไปแล้วว่าอย่ากังวล ข้ามิรู้ว่าจะพูดอะไรจริงๆ” ซูหยางส่ายหน้า

 

สองสามอึดใจให้หลัง เจ้าสํานักทองก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาด้วยกระแสพลังที่กดดัน

 

“เจ้าพวกอ่อนแอต้องการบ้าอะไร” เขากล่าวกับซีหวัง

 

“เจ้าคือเจ้าสํานักทองจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางงั้นรึ” ซีหวังต้องการยืนยัน

 

“โฮ่ เจ้ารู้จักข้าอย่างงั้นรี สําหรับคนที่อยู่ห่างออกไปไกลนับแสนกิโลเมตรยังรู้จักข้านั้น ข้าต้องมีชื่อเสียงมากกว่าที่ข้าได้คาดคิดไว้” เจ้าสํานักทองพูดด้วยรอยยิ้มภูมิใจบนใบหน้า

 

“เจ้ามีเจตนาอะไรจึงมาที่ทวีปตะวันออกนี้ ถ้าเจ้ามาด้วยเจตนาที่ดีข้ายินดีรับประกันว่าเจ้าต้องได้รับประสบการณ์ที่พึงพอใจที่นี่ ในเมื่อตระกูลของข้าปกครองที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา…” ซีหวังหรี่ตาจ้องมองเจ้าสํานักทอง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าขู่ข้ารึ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้านะรึ ช่างน่าหัวร่อ”

 

เจ้าสํานักทองหัวเราะเสียงดังลั่นจนทําให้ทั้งทะเลหยกและซีหวังสั่นสะท้าน

 

ครั้นเมื่อเขาหยุดหัวเราะแล้ว เจ้าสํานักทองก็พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ข้ามีเพียงเจตนาเดียวในการมาที่นี่ ก็คือการพาผู้หญิงที่มีร่างสวรรค์กลับไป ในเมื่อเจ้ามาจากตระกูลซี เจ้าคงรู้ว่าข้าพูดถึงใคร”

 

ซีหวังกัดฟันหลังจากที่ได้ยินคําพูดของเจ้าสํานักทอง แม้ว่าเขาได้คาดการณ์อะไรแบบนี้ไว้แล้วก็ตาม มันก็ยังทําให้เลือดเขาเดือดพล่านด้วยความโกรธ

 

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าปฏิเสธ” ชีหวังพูดขึ้นหลังจากนั้น

 

“ปฏิเสธรึ…ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ามิได้ขอให้เจ้าอนุญาต แต่ข้าสั่งเจ้าให้นําผู้หญิงมา คนอ่อนแออย่างเจ้ามิได้มีสิทธิ์หรูหราที่จะปฏิเสธ” เจ้าสํานักทองพลันปลดปล่อยพลังการฝึกปรือออกมา จนทําให้เกิดแรงกดดันอันกล้าแข็งปรากฏขึ้นยังบริเวณนั้น

 

“….”

 

ซีหวังรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นมดเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันอันกล้าแข็งของเจ้าสํานักทองเป็นความรู้สึกไร้พลังที่เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะประสบมาก่อน

 

“ถ้าเจ้ามินําหญิงที่มีร่างสวรรค์มา ข้าจักพลิกแผ่นดินคว่ําทวีปตะวันออกนี้ซะจนกว่าข้าจะเจอตัวเธอ และเพื่อนที่อยู่ในเรือก็จักร่วมสนุกด้วยเช่นกัน”

 

“เจ้าชาติชั่ว…” ซีหวังร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธ และดวงตาของเขาก็มีประกายของความคิดฆ่าฟัน”

 

“ข้าจักมิทําเช่นเจ้า เจ้าแก่” เจ้าสํานักทองหัวเราะเยาะเย้ยหลังจากที่รับรู้ถึงกลิ่นอายการฆ่าฟัน

 

“ต่อให้พวกเจ้าสองคนโจมตีข้าพร้อมกัน พวกเจ้าก็ยังมิสามารถที่จะเอาชนะข้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจอมยุทธในเขตอัมพรวิญญาณบนเรือที่ข้าได้นํามาด้วยอีกยี่สิบห้าคน”

 

“อย่างไรก็ตาม ข้าจักมิเสียลมหายใจของข้านานไปกว่านี้ เจ้ามีเวลาสิบวินาทีในการตัดสินใจ”

 

“ให้ตายข้าก็ ”

 

เพียงแต่ว่าในขณะที่ซีหวังกําลังอ้าปาก ซูหยางก็พูดตัดบทเขา กล่าวว่า “ตกลง เราจักนําหญิงมาให้เจ้า”

 

“เจ้ากําลังคิดบ้าอะไร ซูหยาง” ซีหวังถามเขาด้วยเสียงที่พยายามระงับความโกรธ

 

“เงียบไว้แล้วปล่อยให้ข้าจัดการเอง” ซูหยางรีบกล่าวกับเขา พร้อมกับพูดต่อไปอีกว่า “ให้เวลาพวกเราสักสองสามนาที ผู้หญิงที่มีร่างสวรรค์นั้นตามความเป็นจริงแล้ว มิได้อยู่ห่างออกไปจากที่นี่มากนัก”

 

“โอ ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง ข้าจักให้เวลาเจ้าหนึ่งชั่วโมงในการนําตัวผู้หญิงคนนี้มา” เจ้าสํานักทองกล่าวด้วยความอัศจรรย์พึงพอใจบนใบหน้าที่ดูดุร้ายนั้น

 

“ข้าจักกลับมาภายในสิบนาที” ซูหยางกล่าว

 

“อย่าได้กระทั่งคิดที่จะหนี เจ้าหนุ่ม เพราะว่าข้าจักตามหาเจ้ามิว่าเจ้าจะอยู่ไหนก็ตาม” เจ้าสํานักทองกล่าวกับเขา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้ามิต้องกังวลในเรื่องนี้ ในเมื่อข้ามิได้มีแผนที่จะวิ่งหนี ตามความเป็นจริงผู้เฒ่าท่านนี้จักอยู่กับเจ้าชั่วขณะในระหว่างที่ข้านําเอาผู้หญิงมาให้เจ้า” ซูหยางตอบกลับด้วยเสียงลึกลับจนทําให้เจ้าสํานักทองขมวดคิ้ว

 

“เจ้าเด็กคนนี้มีแผนอะไร…” เขาครุ่นคิดในใจ

 

“เจ้าบ้าหรือเปล่า ซูหยาง เจ้ากล้าทิ้งข้าไว้ที่นี่ตามลําพังกับเจ้าบ้านั่นได้อย่างไร” ชีหยางรีบปฏิเสธความคิดของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ซูหยางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าท่านทําตัวขี้ขลาดเช่นนี้ พลังการฝึกปรือของท่านจักมิพัฒนาถึงแม้ว่าจะไปที่ทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางก็ตาม”

 

“จ-เจ้าหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น” ซีหวังมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ชีหวังจะทันได้รับคําตอบจากเขา ซูหยางก็ได้หันกายและเหินร่อนกลับไปยังทวีปตะวันออก ปล่อยเขาทิ้งไว้ตามลําพัง

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 590 พบกับสํานักสุวรรณสิงห์

 

“เจ้ามั่นใจว่าพวกเราจะไปพบกับพวกนั้นตามลําพัง มิปลอดภัยกว่าหากให้จอมยุทธสักคนตามเราไปด้วย” ซีหวังกล่าวกับเขาหลังจากที่พวกเขาออกจากยานบินแล้ว

 

“อย่ากังวลไป พวกนั้นมิทําอันตรายท่านหรอก” ซูหยางกล่าวพร้อมกับยิ้ม

 

สองสามอึดใจให้หลัง พวกเขาก็ไปถึงทะเลหยก

 

“ข้ารู้สึกได้ถึงพวกเขาแล้ว พวกเราไปทักทายแขกของพวกเรากันเถอะ” ซูหยางพูดขึ้นก่อนที่จะบินไปเหนือทะเลหยก

 

อย่างไรก็ตามไม่ทันได้ถึงครึ่งนาทีให้หลังปลาขนาดใหญ่ที่ดูน่าเกลียดก็พุ่งขึ้นมาจากน้ําพร้อมกับขากรรไกรที่อ้ากว้างเล็งไปที่ซูหยาง

 

ซูหยางเพียงแค่เหลือบมองไปที่ปลาก่อนที่จะนําเอากระบออกมาตัดมันออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดาย

 

“พวกนี้ก้าวร้าวกว่าที่ข้าคิด” ซูหยางกล่าวหลังจากนั้น

 

“แน่นอน พวกมันจักโจมตีเจ้าแม้กระทั่งว่าเจ้าแข็งแกร่งกว่าพวกมัน ราวกับว่าเป็นธรรมชาติของพวกมันที่จักต้องโจมตีทุกสิ่งที่อยู่ในสายตา และสัตว์ทะเลก็จักแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆหากว่าเจ้าเดินทางลึกเข้าไป นี่เป็นเหตุผลที่ทําไมจึงมิมีใครกล้าที่จะเดินทางไปในทะเลหยก”

 

หลังจากที่บินไปได้อีกสองสามนาทีพร้อมกับจัดการกับสัตว์ทะเลไปอีกมากกว่าโหล สุดท้ายซูหยางก็สามารถเห็นเรือลําใหญ่จากระยะห่างด้วยตาเปล่า

 

“มิน่าว่าทําไมพวกเขาถึงกล้าแล่นเรือผ่านทะเลหยก เพราะพวกเขามีสมบัติวิญญาณที่ลึกล้ำเช่นนี้” ซีหวังมีสีหน้าหวาดหวั่นหลังจากที่เห็นยานที่ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงอำนาจ

 

ก็เหมือนกับยานบินของชิวเยว่ ยานบินจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางเป็นสมบัติวิญญาณที่มีกลไกการป้องกันมากมาย ยอมให้พวกเขาเดินทางผ่านทะเลหยกโดยมิต้องหวาดกลัวว่ามันอาจจะถูกทําลายจากสัตว์ทะเล

 

ในเวลานั้นบนยาน เจ้าสํานักทองก็สังเกตเห็นการปรากฏตัวขึ้นของซูหยางกับซีหวัง

 

“คนหนึ่งอยู่ในเขตราชันวิญญาณส่วนอีกคนในไขตอัมพรวิญญาณ….พวกเขาเป็นพวกของเจ้าหรือไม่” เจ้าสํานักทองหันไปมองผู้ส่งสารของดาบเสี้ยวจันทร์ที่อยู่ข้างกาย

 

“ม-ไม่ใช่ แม้ว่าข้ามิรู้จักคนที่อยู่ในเขตอัมพรวิญญาณ แต่ผู้ที่อยู่ในเขตราชันวิญญาณ ต้องเป็นบรรพบุรุษตระกูลซี ซีหวังแน่” ผู้ส่งสารของดาบเสียวจันทร์กล่าว

 

“ตระกูลซีรึ ผู้ปกครองปัจจุบันของทวีปตะวันออกรึ พวกเขารู้ว่าพวกเราจะมาถึงก่อนหน้านี้หรือไม่” เจ้าสํานักทองถามอีกครั้ง

 

“นั่นเป็นไปไม่ไดก ต่อให้พวกเขาพบเห็นแผนของเรา พวกเขาก็ไม่ควรที่จะอยู่ที่นี่ จะต้องเกิดบางสิ่งขึ้นกับดาบเสี้ยวจันทร์เป็นแน่”

 

“ถ้าเช่นนั้นก็มิมีความหมายว่าพวกเขาจะทําอะไร เมื่อข้าสามารถที่จะจัดการกับคนทั้งสองนี้ได้ด้วยตัวข้าเอง” เจ้าสํานักทองกล่าวขึ้นก่อนที่เขาจะกระโดดออกจากเรือและพุ่งไปยังซูหยางกับซีหวัง

 

ระหว่างที่เขาเหินบินไปนั้น สัตว์ทะเลขนาดยักษ์ที่ใหญ่เท่ากับลําเรือที่มีพลังการฝึกปรือในระดับสูงสุดเขตอัมพรวิญญาณก็โจนขึ้นมาจากท้องทะเลและพยายามที่จะกัดเจ้าสํานักทอง

 

แต่ทว่า เจ้าสํานักทองเพียงแค่แค่นเสียงก่อนที่จะสังหารมันด้วยเพียงหมัดเดียว

 

เมื่อซีหวังเห็นกระแสพลังที่แหลมคมของเจ้าสํานักทอง ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตระหนก

 

“ชายคนนั้นทรงอํานาจมาก แข็งแกร่งกว่าข้ามากนัก เจ้ามั่นใจว่าเรามจําเป็นต้องหากองหนุนรึ” ซีหวังกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

 

“ท่านเป็นจอมยุทธเขตราชันวิญญาณแนร์ ข้าได้บอกท่านไปแล้วว่าอย่ากังวล ข้ามิรู้ว่าจะพูดอะไรจริงๆ” ซูหยางส่ายหน้า

 

สองสามอึดใจให้หลัง เจ้าสํานักทองก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาด้วยกระแสพลังที่กดดัน

 

“เจ้าพวกอ่อนแอต้องการบ้าอะไร” เขากล่าวกับซีหวัง

 

“เจ้าคือเจ้าสํานักทองจากทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางงั้นรึ” ซีหวังต้องการยืนยัน

 

“โฮ่ เจ้ารู้จักข้าอย่างงั้นรี สําหรับคนที่อยู่ห่างออกไปไกลนับแสนกิโลเมตรยังรู้จักข้านั้น ข้าต้องมีชื่อเสียงมากกว่าที่ข้าได้คาดคิดไว้” เจ้าสํานักทองพูดด้วยรอยยิ้มภูมิใจบนใบหน้า

 

“เจ้ามีเจตนาอะไรจึงมาที่ทวีปตะวันออกนี้ ถ้าเจ้ามาด้วยเจตนาที่ดีข้ายินดีรับประกันว่าเจ้าต้องได้รับประสบการณ์ที่พึงพอใจที่นี่ ในเมื่อตระกูลของข้าปกครองที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา…” ซีหวังหรี่ตาจ้องมองเจ้าสํานักทอง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าขู่ข้ารึ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้านะรึ ช่างน่าหัวร่อ”

 

เจ้าสํานักทองหัวเราะเสียงดังลั่นจนทําให้ทั้งทะเลหยกและซีหวังสั่นสะท้าน

 

ครั้นเมื่อเขาหยุดหัวเราะแล้ว เจ้าสํานักทองก็พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ข้ามีเพียงเจตนาเดียวในการมาที่นี่ ก็คือการพาผู้หญิงที่มีร่างสวรรค์กลับไป ในเมื่อเจ้ามาจากตระกูลซี เจ้าคงรู้ว่าข้าพูดถึงใคร”

 

ซีหวังกัดฟันหลังจากที่ได้ยินคําพูดของเจ้าสํานักทอง แม้ว่าเขาได้คาดการณ์อะไรแบบนี้ไว้แล้วก็ตาม มันก็ยังทําให้เลือดเขาเดือดพล่านด้วยความโกรธ

 

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าปฏิเสธ” ชีหวังพูดขึ้นหลังจากนั้น

 

“ปฏิเสธรึ…ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ามิได้ขอให้เจ้าอนุญาต แต่ข้าสั่งเจ้าให้นําผู้หญิงมา คนอ่อนแออย่างเจ้ามิได้มีสิทธิ์หรูหราที่จะปฏิเสธ” เจ้าสํานักทองพลันปลดปล่อยพลังการฝึกปรือออกมา จนทําให้เกิดแรงกดดันอันกล้าแข็งปรากฏขึ้นยังบริเวณนั้น

 

“….”

 

ซีหวังรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นมดเมื่อเผชิญหน้ากับแรงกดดันอันกล้าแข็งของเจ้าสํานักทองเป็นความรู้สึกไร้พลังที่เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะประสบมาก่อน

 

“ถ้าเจ้ามินําหญิงที่มีร่างสวรรค์มา ข้าจักพลิกแผ่นดินคว่ําทวีปตะวันออกนี้ซะจนกว่าข้าจะเจอตัวเธอ และเพื่อนที่อยู่ในเรือก็จักร่วมสนุกด้วยเช่นกัน”

 

“เจ้าชาติชั่ว…” ซีหวังร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธ และดวงตาของเขาก็มีประกายของความคิดฆ่าฟัน”

 

“ข้าจักมิทําเช่นเจ้า เจ้าแก่” เจ้าสํานักทองหัวเราะเยาะเย้ยหลังจากที่รับรู้ถึงกลิ่นอายการฆ่าฟัน

 

“ต่อให้พวกเจ้าสองคนโจมตีข้าพร้อมกัน พวกเจ้าก็ยังมิสามารถที่จะเอาชนะข้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีจอมยุทธในเขตอัมพรวิญญาณบนเรือที่ข้าได้นํามาด้วยอีกยี่สิบห้าคน”

 

“อย่างไรก็ตาม ข้าจักมิเสียลมหายใจของข้านานไปกว่านี้ เจ้ามีเวลาสิบวินาทีในการตัดสินใจ”

 

“ให้ตายข้าก็ ”

 

เพียงแต่ว่าในขณะที่ซีหวังกําลังอ้าปาก ซูหยางก็พูดตัดบทเขา กล่าวว่า “ตกลง เราจักนําหญิงมาให้เจ้า”

 

“เจ้ากําลังคิดบ้าอะไร ซูหยาง” ซีหวังถามเขาด้วยเสียงที่พยายามระงับความโกรธ

 

“เงียบไว้แล้วปล่อยให้ข้าจัดการเอง” ซูหยางรีบกล่าวกับเขา พร้อมกับพูดต่อไปอีกว่า “ให้เวลาพวกเราสักสองสามนาที ผู้หญิงที่มีร่างสวรรค์นั้นตามความเป็นจริงแล้ว มิได้อยู่ห่างออกไปจากที่นี่มากนัก”

 

“โอ ถ้าสิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง ข้าจักให้เวลาเจ้าหนึ่งชั่วโมงในการนําตัวผู้หญิงคนนี้มา” เจ้าสํานักทองกล่าวด้วยความอัศจรรย์พึงพอใจบนใบหน้าที่ดูดุร้ายนั้น

 

“ข้าจักกลับมาภายในสิบนาที” ซูหยางกล่าว

 

“อย่าได้กระทั่งคิดที่จะหนี เจ้าหนุ่ม เพราะว่าข้าจักตามหาเจ้ามิว่าเจ้าจะอยู่ไหนก็ตาม” เจ้าสํานักทองกล่าวกับเขา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…เจ้ามิต้องกังวลในเรื่องนี้ ในเมื่อข้ามิได้มีแผนที่จะวิ่งหนี ตามความเป็นจริงผู้เฒ่าท่านนี้จักอยู่กับเจ้าชั่วขณะในระหว่างที่ข้านําเอาผู้หญิงมาให้เจ้า” ซูหยางตอบกลับด้วยเสียงลึกลับจนทําให้เจ้าสํานักทองขมวดคิ้ว

 

“เจ้าเด็กคนนี้มีแผนอะไร…” เขาครุ่นคิดในใจ

 

“เจ้าบ้าหรือเปล่า ซูหยาง เจ้ากล้าทิ้งข้าไว้ที่นี่ตามลําพังกับเจ้าบ้านั่นได้อย่างไร” ชีหยางรีบปฏิเสธความคิดของเขา

 

อย่างไรก็ตาม ซูหยางส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าท่านทําตัวขี้ขลาดเช่นนี้ พลังการฝึกปรือของท่านจักมิพัฒนาถึงแม้ว่าจะไปที่ทวีปศักดิ์สิทธิ์กลางก็ตาม”

 

“จ-เจ้าหมายความว่าอย่างไรเช่นนั้น” ซีหวังมองดูเขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ชีหวังจะทันได้รับคําตอบจากเขา ซูหยางก็ได้หันกายและเหินร่อนกลับไปยังทวีปตะวันออก ปล่อยเขาทิ้งไว้ตามลําพัง

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+