Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม

 

หลังจากที่กลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พันพิสัย ซูหยางก็ดําเนินการตามกิจวัตรประจําวันของเขาในการฝึกฝนศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยและอบรมไป่ลี่ฮัวกับหวังชูเหรินสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

 

สามสัปดาห์ให้หลัง โหลวหลานจีก็เคาะประตูห้องเขาแล้วกล่าวว่า “เราได้รับจดหมายอย่างเป็นทางการจากตระกูลซี เชิญผู้นํานิกายและศิษย์สามคนไปยังบ้านของเขาเพื่อทานอาหารมื้อเย็นและรับรางวัลจากการแข่งขันระดับภูมิภาค”

 

“เวลาเท่าไหร่” ซูหยางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เราต้องไปถึงเมื่อไหร่”

 

“จดหมายมิได้ให้วันเวลาที่แน่ชัด เพียงแต่บอกเราให้ไปเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเรารู้สึกว่าเราพร้อม” เธอตอบขณะที่มองไปยังจดหมาย

 

“นั่นหมายความว่าพวกเขาบอกให้เราไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สินะ”

 

“เมื่อไหร่ที่เจ้าต้องการไป” เขาถามเธอหลังจากนั้น

 

“ข้าสามารถไปได้ภายในหนึ่งชั่วโมง” เธอรีบพูด

 

“ถ้าเช่นนั้นเราก็จะไปภายในหนึ่งชั่วโมง” เขาพยักหน้า

 

“แล้วศิษย์สามคนที่เราควรจะนําไปด้วยล่ะ อย่างน้อยนี่ก็เป็นสระสวรรค์ แต่เรายังมิได้ตัดสินว่าใครที่เราควรจะเลือก” โหลวหลานจีกล่าว

 

“อืมมม… เช่นนั้นเราก็คงต้องตัดสินใจในตอนนี้ เรียกศิษย์ทุกคนในนิกายมา”

 

“ตกลง” จากนั้นโหลวหลานจีก็ดึงเอาป้ายหยกของตัวเองออกมาแล้วพูดกับศิษย์ทุกคนในนิกาย “ข้าต้องการให้ศิษย์ทุกคนหยุดทุกอย่างที่เจ้ากําลังทําอยู่ในตอนนี้และมุ่งหน้ามายังพื้นที่รวมพลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้นํานิกายมีเรื่องสําคัญที่จะปรึกษากับพวกเจ้าทุกคน”

 

สิบห้านาทีให้หลัง ซูหยางกับโหลวหลานจี ก็ไปยืนต่อหน้าศิษย์ทั้งเก่าและใหม่กว่าหนึ่งพันคนในพื้นที่รวมพล

 

“อะแฮ่ม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรางวัลจากชัยชนะของพวกเราในการแข่งขันระดับภูมิภาค สระสวรรค์” โหลวหลานจีกล่าวกับพวกเธอ

 

“สระสวรรค์เป็นจุดฝึกฝีมือที่ลึกลับที่สามารถเพิ่มพูนความเร็วในการฝึกฝีมือได้ 100 เท่าถ้าหากว่าใครได้ไปฝึกฝีมือที่นั่น และเราได้รับสิทธิ์จากตระกูลซีให้ส่งศิษย์สามคนเข้าไปฝึกฝนในที่แห่งนั้นเป็นเวลาเจ็ดวัน หมายความว่าพลังการฝึกปรือของพวกเจ้าก็จะเพิ่มพูนราวกับว่าเจ้าฝึกฝนเป็นเวลาสองปี หรือ 700 วันหากจะให้แม่นยําขึ้น”

 

เหล่าศิษย์ต่างพากันมีสีหน้าตื่นตระหนกและตื่นเต้นเมื่อรู้เรื่องสระสวรรค์ เมื่อโดยพื้นฐานแล้วมันจะให้เวลา พวกเขาฟรีเป็นเวลาสองปี สมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้และโอกาสอันยิ่งใหญ่สําหรับผู้ฝึกยุทธ

 

“อย่างไรก็ตาม อย่างที่เจ้าได้ยินไปแล้ว พวกเราได้รับความยินยอมให้นําพาศิษย์ไปเพียงสามคนร่วมกับเราและนี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเรานัดชุมนุมพวกเจ้าในวันนี้ ในเมื่อพวกเราจักตัดสินที่นี่และเดี๋ยวนี้ว่าจะเป็นศิษย์สาม คนไหนที่พวกเราจะน่าไปด้วย”

 

จากนั้นโหลวหลานจีก็กล่าวต่อว่า “ก่อนที่เราจะเริ่ม ถ้าเจ้ามต้องการที่จะฝึกในสระสวรรค์ ก็ให้กาวออกไปด้านข้างในตอนนี้”

 

เหล่าศิษย์ต่างพากันมองดูหน้ากัน ใครกันที่จะมีจิตใจเปิดกว้างยอมยกโอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้อย่างเต็มใจโดยไม่ได้อะไรตอบแทน

 

สองสามอึดใจให้หลัง บรรดาศิษย์ดั้งเดิมและผู้อาวุโสนิกายก็เริ่มเดินออกจากฝูงชนและยืนอยู่ด้านนอก สร้างความงุนงงให้กับเหล่าศิษย์ใหม่

 

“ใครจะต้องการสระสวรรค์ไปไยกันในเมื่อเรามีซูหยางอยู่แล้ว ปราณหลางของเขาแน่นอนว่ามิด้อยกว่าสระสวรรค์นั่นแน่นอน” หนึ่งในศิษย์ดั้งเดิมกระซิบด้วยเสียงเบาๆที่สามารถได้ยินจากคนหลายคนจากที่นั่น

 

ใช่แล้ว ซูหยางสามารถที่จะช่วยพวกเธอเข้าถึงเขตสัมมาวิญญาณจากเขตปฐมวิญญาณในเวลาที่น้อยกว่าหนึ่งปี ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้ความพยายามหลายปี แม้ว่าปราณหยางของเขาอาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับสระสวรรค์ แต่พวกเธอก็สามารถที่จะดูดซับปราณหยางของเขาได้ทุกวันในขณะที่สระสวรรค์นั้นสามารถใช้ได้ ครั้งหนึ่งในทุกๆ 100 ปีเท่านั้น

 

สองสามอึดใจให้หลัง ก็เห็นศิษย์เดินออกไปด้านข้างมากขึ้น และพวกเขาก็คือศิษย์รุ่นเยาว์

 

“มิมีประโยชน์สําหรับพวกเราที่จะไปที่นั่นในเมื่อพวกเรามสามารถที่จะฝึกฝนจนกว่าพวกเราจะโตเป็นผู้ใหญ่” หนึ่งในศิษย์รุ่นเยาว์กล่าวขึ้น

 

“ยังมีใครอีกไหมที่มปรารถนาที่จะไป” โหลวหลานจีถามพวกเขาหลังจากนั้น

 

เมื่อไม่มีมีศิษย์ที่จะก้าวเท้าออกมาจากในหมู่ชนอีกต่อไปแม้ว่าจะรอไปอีกชั่วขณะ โหลวหลานจีก็กล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นข้าก็จักให้ผู้นํานิกายซูรับช่วงต่อไปจากนี้”

 

ครั้นเมื่อโหลวหลานจีก้าวเท้าถอยกลับไปแล้ว ซูหยางก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าและกล่าวกับเหล่าศิษย์ว่า “เพราะว่าเรามิได้มีเวลามากนักข้าจักทําให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย”

 

“ข้าได้ซุกซ่อนหินธรรมดาที่มีชื่อข้าติดอยู่สามก้อนไว้ในนิกาย และคนสามคนที่พบมันก็จักได้รับการยอมรับให้เข้าฝึกฝนในสระสวรรค์”

 

ทั่วทั้งสถานที่นั้นเงียบสงัด ในเมื่อพวกเขาต่างพากันงงงันพูดไม่ออกกับวิธีพิสดารของเขา

 

เมื่อเห็นสีหน้าชวนขบขันบนหน้าของเหล่าศิษย์ ซูหยางก็พูดต่อไปด้วยเสียงเยือกเย็น “พวกเจ้าเชื่อว่านี้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาอย่างงั้นรี บางคนอาจจะเชื่อว่ามิว่าเจ้าจะตัดสินจะทําอะไรในชีวิต นั่นก็จักมีเหตุการณ์ในชีวิตที่ได้กําหนดไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยโชคชะตาและมิสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้มิว่าเจ้าจะทําอะไร ดังนั้นพวกเรามาดูกันว่าพวกเจ้าคนไหนที่มีชะตาที่จะพบก้อนหินและได้ฝึกฝนในสระสวรรค์”

 

“และเพราะว่าข้ามิได้ต้องการให้เรื่องนี้ใช้เวลาทั้งวัน ข้าจึงได้จํากัดสถานที่ที่ข้าได้ซ่อนก้อนหินไว้ อันดับแรก มันมิได้อยู่ในพื้นที่พักหรืออาคารที่มีสามารถเข้าไปได้หากปราศจากสิทธิพิเศษ สองหินทั้งสามก้อนนั้นล้วนอยู่ในเขตศิษย์นอก ดังนั้นเจ้ามจําเป็นจะต้องไปค้นหาทั่วทั้งนิกาย และสุดท้ายมันมิได้อยู่ในสถานที่ที่พวกเจ้ามิ สามารถเข้าไปได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของวิชาหรือสมบัติ”

 

หลังจากที่อธิบายกฏให้กับเหล่าศิษย์แล้ว ซูหยางก็กล่าวกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “พวกเจ้าทั้งหมดมีเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงที่จะนําก้อนหินกลับมาที่ข้า ถ้ามิมีใครค้นพบก้อนหินหลังจากนั้น ข้าก็จักทําง่ายๆ เหมือนกับว่ามีมีพวกเจ้าคนไหนที่มีโชคชะตาที่จะได้ฝึกฝนในสระสวรรค์ และในกรณีที่มีคนน้อยกว่าสามคนที่พบก้อนหิน ข้าก็จักนําไปเพียงผู้ที่ได้ค้นพบก้อนหิน โชคดี เวลาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม

Now you are reading Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน Chapter 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 625 ขึ้นอยู่กับชะตากรรม

 

หลังจากที่กลับไปยังนิกายกุสุมาลย์พันพิสัย ซูหยางก็ดําเนินการตามกิจวัตรประจําวันของเขาในการฝึกฝนศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยและอบรมไป่ลี่ฮัวกับหวังชูเหรินสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง

 

สามสัปดาห์ให้หลัง โหลวหลานจีก็เคาะประตูห้องเขาแล้วกล่าวว่า “เราได้รับจดหมายอย่างเป็นทางการจากตระกูลซี เชิญผู้นํานิกายและศิษย์สามคนไปยังบ้านของเขาเพื่อทานอาหารมื้อเย็นและรับรางวัลจากการแข่งขันระดับภูมิภาค”

 

“เวลาเท่าไหร่” ซูหยางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เราต้องไปถึงเมื่อไหร่”

 

“จดหมายมิได้ให้วันเวลาที่แน่ชัด เพียงแต่บอกเราให้ไปเมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเรารู้สึกว่าเราพร้อม” เธอตอบขณะที่มองไปยังจดหมาย

 

“นั่นหมายความว่าพวกเขาบอกให้เราไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สินะ”

 

“เมื่อไหร่ที่เจ้าต้องการไป” เขาถามเธอหลังจากนั้น

 

“ข้าสามารถไปได้ภายในหนึ่งชั่วโมง” เธอรีบพูด

 

“ถ้าเช่นนั้นเราก็จะไปภายในหนึ่งชั่วโมง” เขาพยักหน้า

 

“แล้วศิษย์สามคนที่เราควรจะนําไปด้วยล่ะ อย่างน้อยนี่ก็เป็นสระสวรรค์ แต่เรายังมิได้ตัดสินว่าใครที่เราควรจะเลือก” โหลวหลานจีกล่าว

 

“อืมมม… เช่นนั้นเราก็คงต้องตัดสินใจในตอนนี้ เรียกศิษย์ทุกคนในนิกายมา”

 

“ตกลง” จากนั้นโหลวหลานจีก็ดึงเอาป้ายหยกของตัวเองออกมาแล้วพูดกับศิษย์ทุกคนในนิกาย “ข้าต้องการให้ศิษย์ทุกคนหยุดทุกอย่างที่เจ้ากําลังทําอยู่ในตอนนี้และมุ่งหน้ามายังพื้นที่รวมพลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้นํานิกายมีเรื่องสําคัญที่จะปรึกษากับพวกเจ้าทุกคน”

 

สิบห้านาทีให้หลัง ซูหยางกับโหลวหลานจี ก็ไปยืนต่อหน้าศิษย์ทั้งเก่าและใหม่กว่าหนึ่งพันคนในพื้นที่รวมพล

 

“อะแฮ่ม เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับรางวัลจากชัยชนะของพวกเราในการแข่งขันระดับภูมิภาค สระสวรรค์” โหลวหลานจีกล่าวกับพวกเธอ

 

“สระสวรรค์เป็นจุดฝึกฝีมือที่ลึกลับที่สามารถเพิ่มพูนความเร็วในการฝึกฝีมือได้ 100 เท่าถ้าหากว่าใครได้ไปฝึกฝีมือที่นั่น และเราได้รับสิทธิ์จากตระกูลซีให้ส่งศิษย์สามคนเข้าไปฝึกฝนในที่แห่งนั้นเป็นเวลาเจ็ดวัน หมายความว่าพลังการฝึกปรือของพวกเจ้าก็จะเพิ่มพูนราวกับว่าเจ้าฝึกฝนเป็นเวลาสองปี หรือ 700 วันหากจะให้แม่นยําขึ้น”

 

เหล่าศิษย์ต่างพากันมีสีหน้าตื่นตระหนกและตื่นเต้นเมื่อรู้เรื่องสระสวรรค์ เมื่อโดยพื้นฐานแล้วมันจะให้เวลา พวกเขาฟรีเป็นเวลาสองปี สมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้และโอกาสอันยิ่งใหญ่สําหรับผู้ฝึกยุทธ

 

“อย่างไรก็ตาม อย่างที่เจ้าได้ยินไปแล้ว พวกเราได้รับความยินยอมให้นําพาศิษย์ไปเพียงสามคนร่วมกับเราและนี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเรานัดชุมนุมพวกเจ้าในวันนี้ ในเมื่อพวกเราจักตัดสินที่นี่และเดี๋ยวนี้ว่าจะเป็นศิษย์สาม คนไหนที่พวกเราจะน่าไปด้วย”

 

จากนั้นโหลวหลานจีก็กล่าวต่อว่า “ก่อนที่เราจะเริ่ม ถ้าเจ้ามต้องการที่จะฝึกในสระสวรรค์ ก็ให้กาวออกไปด้านข้างในตอนนี้”

 

เหล่าศิษย์ต่างพากันมองดูหน้ากัน ใครกันที่จะมีจิตใจเปิดกว้างยอมยกโอกาสครั้งเดียวในชีวิตนี้อย่างเต็มใจโดยไม่ได้อะไรตอบแทน

 

สองสามอึดใจให้หลัง บรรดาศิษย์ดั้งเดิมและผู้อาวุโสนิกายก็เริ่มเดินออกจากฝูงชนและยืนอยู่ด้านนอก สร้างความงุนงงให้กับเหล่าศิษย์ใหม่

 

“ใครจะต้องการสระสวรรค์ไปไยกันในเมื่อเรามีซูหยางอยู่แล้ว ปราณหลางของเขาแน่นอนว่ามิด้อยกว่าสระสวรรค์นั่นแน่นอน” หนึ่งในศิษย์ดั้งเดิมกระซิบด้วยเสียงเบาๆที่สามารถได้ยินจากคนหลายคนจากที่นั่น

 

ใช่แล้ว ซูหยางสามารถที่จะช่วยพวกเธอเข้าถึงเขตสัมมาวิญญาณจากเขตปฐมวิญญาณในเวลาที่น้อยกว่าหนึ่งปี ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้ความพยายามหลายปี แม้ว่าปราณหยางของเขาอาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับสระสวรรค์ แต่พวกเธอก็สามารถที่จะดูดซับปราณหยางของเขาได้ทุกวันในขณะที่สระสวรรค์นั้นสามารถใช้ได้ ครั้งหนึ่งในทุกๆ 100 ปีเท่านั้น

 

สองสามอึดใจให้หลัง ก็เห็นศิษย์เดินออกไปด้านข้างมากขึ้น และพวกเขาก็คือศิษย์รุ่นเยาว์

 

“มิมีประโยชน์สําหรับพวกเราที่จะไปที่นั่นในเมื่อพวกเรามสามารถที่จะฝึกฝนจนกว่าพวกเราจะโตเป็นผู้ใหญ่” หนึ่งในศิษย์รุ่นเยาว์กล่าวขึ้น

 

“ยังมีใครอีกไหมที่มปรารถนาที่จะไป” โหลวหลานจีถามพวกเขาหลังจากนั้น

 

เมื่อไม่มีมีศิษย์ที่จะก้าวเท้าออกมาจากในหมู่ชนอีกต่อไปแม้ว่าจะรอไปอีกชั่วขณะ โหลวหลานจีก็กล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นข้าก็จักให้ผู้นํานิกายซูรับช่วงต่อไปจากนี้”

 

ครั้นเมื่อโหลวหลานจีก้าวเท้าถอยกลับไปแล้ว ซูหยางก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าและกล่าวกับเหล่าศิษย์ว่า “เพราะว่าเรามิได้มีเวลามากนักข้าจักทําให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย”

 

“ข้าได้ซุกซ่อนหินธรรมดาที่มีชื่อข้าติดอยู่สามก้อนไว้ในนิกาย และคนสามคนที่พบมันก็จักได้รับการยอมรับให้เข้าฝึกฝนในสระสวรรค์”

 

ทั่วทั้งสถานที่นั้นเงียบสงัด ในเมื่อพวกเขาต่างพากันงงงันพูดไม่ออกกับวิธีพิสดารของเขา

 

เมื่อเห็นสีหน้าชวนขบขันบนหน้าของเหล่าศิษย์ ซูหยางก็พูดต่อไปด้วยเสียงเยือกเย็น “พวกเจ้าเชื่อว่านี้ขึ้นอยู่กับโชคชะตาอย่างงั้นรี บางคนอาจจะเชื่อว่ามิว่าเจ้าจะตัดสินจะทําอะไรในชีวิต นั่นก็จักมีเหตุการณ์ในชีวิตที่ได้กําหนดไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยโชคชะตาและมิสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้มิว่าเจ้าจะทําอะไร ดังนั้นพวกเรามาดูกันว่าพวกเจ้าคนไหนที่มีชะตาที่จะพบก้อนหินและได้ฝึกฝนในสระสวรรค์”

 

“และเพราะว่าข้ามิได้ต้องการให้เรื่องนี้ใช้เวลาทั้งวัน ข้าจึงได้จํากัดสถานที่ที่ข้าได้ซ่อนก้อนหินไว้ อันดับแรก มันมิได้อยู่ในพื้นที่พักหรืออาคารที่มีสามารถเข้าไปได้หากปราศจากสิทธิพิเศษ สองหินทั้งสามก้อนนั้นล้วนอยู่ในเขตศิษย์นอก ดังนั้นเจ้ามจําเป็นจะต้องไปค้นหาทั่วทั้งนิกาย และสุดท้ายมันมิได้อยู่ในสถานที่ที่พวกเจ้ามิ สามารถเข้าไปได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของวิชาหรือสมบัติ”

 

หลังจากที่อธิบายกฏให้กับเหล่าศิษย์แล้ว ซูหยางก็กล่าวกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “พวกเจ้าทั้งหมดมีเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงที่จะนําก้อนหินกลับมาที่ข้า ถ้ามิมีใครค้นพบก้อนหินหลังจากนั้น ข้าก็จักทําง่ายๆ เหมือนกับว่ามีมีพวกเจ้าคนไหนที่มีโชคชะตาที่จะได้ฝึกฝนในสระสวรรค์ และในกรณีที่มีคนน้อยกว่าสามคนที่พบก้อนหิน ข้าก็จักนําไปเพียงผู้ที่ได้ค้นพบก้อนหิน โชคดี เวลาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+