Memorizeเล่มที่ 15 13

Now you are reading Memorize Chapter เล่มที่ 15 13 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหล่าผู้เล่นต่างก็หันไปมองตามเสียงตะโกนอันสิ้นหวังของชายคนนั้น ตอนนั้นเอง เมื่อพวกเขาได้ยินดังมาว่า ‘ดูเหมือนจะเจอแล้วนะ’ ชายคนนั้นก็เบิกตากว้าง แต่เมื่อนักบวชท่องคาถาพลางขยับเข้ามาใกล้ สีหน้าหวาดกลัวของเขาก็หายไป ไม้เท้าของนักบวชเล็งไปที่ชายหนุ่มโดยไม่รีรอ

 

 

“รักษา”

 

 

“หือ”

 

 

ชายคนนั้นอ้าปากด้วยสีหน้างุนงง นักบวชทัดผมยาวๆ ไปไว้หลังใบหูพลางพูดอย่างอ่อนโยน

 

 

“เรารู้แล้ว ไม่ต้องกังวลไปหรอก”

 

 

“เอ๊ะ”

 

 

“เราได้ยินรายงานการสูญหายไปอย่างแปลกประหลาดเป็นจำนวนมากตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พวกเราเป็นองค์กรตรวจสอบป่าสีนิลที่ถูกส่งมาจากตัวแทนเผ่า พวกเราเพิ่งออกเดินทางเมื่อเช้าแต่ไม่นึกว่าจะได้เบาะแสรวดเร็วขนาดนี้”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น…!”

 

 

“ใช่แล้ว ดูเหมือนคุณจะรู้บางอย่างที่เกี่ยวกับการสูญหาย ช่วยบอกให้เรารู้ได้ไหม”

 

 

ชายคนนั้นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ดูราวกับซาบซึ้งว่าในที่สุดก็มีทางรอดแล้ว เขาหันไปมองด้านหลังอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็พยักหน้าและพูดต่อ ไม่สิ พยายามจะพูดต่อต่างหาก

 

 

“เข้าใจแล้วครับ แต่ก่อนอื่นเราต้องไปจากที่นี่…”

 

 

ฟิ้ว! ฉึก!

 

 

“อั่ก!”

 

 

ได้ยินเสียงแหวกผ่านอากาศมาจากที่ไหนสักแห่ง ปลายดาบคมแทงทะลุหน้าผากของนักบวชจนปริแยก หญิงสาวกรีดร้องพร้อมกับทรุดลง ชายคนนั้นรับร่างนั้นไว้โดยอัตโนมัติ

 

 

“ฮีซอน!”

 

 

“บ้าเอ๊ย เราถูกโจมตี! ตั้งสติไว้!”

 

 

“พะ พี่! ผู้ชายคนนี้กับฮีซอน…”

 

 

“รีบพาเขาไป ทิ้งศพเอาไว้ที่นี่! รีบไปเร็ว!”

 

 

เสียงตะโกนของพวกผู้เล่นดังทั่วบริเวณ ชายคนนั้นทรุดลงกับพื้น ท่าทางขาจะไร้เรี่ยวแรง ดังนั้นศพของนักบวชจึงคว่ำหน้าลงกับพื้นและเผยให้เห็นท้ายทอยที่แยกออกจากกัน เป็นการขว้างมีดสั้นมาด้วยแรงมหาศาล

 

 

ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆ ที่ไหลทะลักลงบนพื้นจากด้านหลังของศีรษะนั้น คนจำนวนนับสิบวิ่งผ่านพุ่มไม้หนาทึบมา

 

 

 

 

* * *

 

 

 

 

ผมถูกลากมาจนถึงคลังอุปกรณ์และตั้งสติได้ในตอนนั้น ภาพตรงหน้าคือพี่ชายที่กำลังพิจารณาอุปกรณ์ด้วยแววตาลุกโชน ท่าทางคงจะนึกถึงหน้าที่ว่าต้องปกป้องน้องชายไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

 

 

พอเห็นพี่ชายที่ค่อยๆ เลือกอุปกรณ์แต่ละอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง ผมก็ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะอธิบายเรื่องถุงมือที่สวมอยู่ตอนนี้ อีกทั้ง TOPG, รองเท้าบู๊ทยาว รวมไปถึงเกียรติยศแห่งสวรรค์และเกียรติยศแห่งตะวัน ดูท่าแล้วคงต้องอธิบายจนปากเปียกปากแฉะ

 

 

เวลาผ่านไปไม่นาน ดูเหมือนพี่ชายจะเข้าใจอุปกรณ์ของผมมากขึ้น และผมก็อธิบายว่าความสามารถในการป้องกันเวทมนตร์ของผมสูงมากแล้วจึงไม่เป็นไร แต่พี่ก็ยังเสริมเรื่องไม่จำเป็นขึ้นมาอีก

 

 

พี่ครุ่นคิดและถามต่อว่า “ถ้างั้นการป้องกันทางกายภาพล่ะ” ผมตอบไปว่ามีโค้ตออฟเพลตแต่ว่าไม่ได้สวมมาด้วย นั่นเป็นความผิดพลาด มือของพี่ชายที่หยุดไปสักพักแล้วเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

 

 

บางทีถ้าพี่จินฮาไม่ได้นำเกียรติยศแห่งวิคตอเรียมาให้ในระหว่างนั้น อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบในคลังอุปกรณ์ของเผ่าแฮมิลอาจจะหมดเกลี้ยงคลังเลยก็ได้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยจริงๆ

 

 

ในที่สุดเราก็ออกจากคลังอุปกรณ์หลังจากโต้เถียงกันยาวนานกว่าสองชั่วโมง

 

 

พวกเรากลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง บนโต๊ะมีอุปกรณ์สามชิ้นส่องประกายสีสันสวยงาม ชิ้นหนึ่งคือต่างหูแสนหรูหราส่องแสงสีขาวและอีกชิ้นหนึ่งคือเสื้อยืดนิ่มๆ ที่ทอแสงสีทองรางๆ ส่วนชิ้นที่เหลือคือเสื้อตัวนอกไม่มีแขนที่ใช้สวมทับไหล่สีน้ำทะเล มันก็คือเสื้อคลุมนั่นแหละ

 

 

อุปกรณ์ทั้งสามชิ้นเป็นของที่มีราคาสูง ผมถอนหายใจเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้น พี่ชายมีสีหน้าไม่พอใจสักเท่าไหร่ รวมถึงสมาชิกเผ่าแฮมิลที่ส่ายหน้าไปมา

 

 

เมื่อผมจ้องเขาโดยไม่พูดอะไร พี่ก็รีบเปลี่ยนสีหน้าพลางยิ้มเจื่อนๆ และส่งสายตามาให้ผมราวกับจะบอกให้ลองอ่านคำอธิบายดูก่อน ผมเลียปากพลางเปิดใช้ดวงตาที่สาม

 

 

 

 

[เกียรติยศแห่งวิคตอเรีย]

 

 

นี่คือ ‘ดาบของกษัตริย์’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรวิคตอเรียที่ถูกเรียกว่ามหาอำนาจในสมัยโบราณ แม้ว่าจะมีอาณาจักรมากมายเกิดขึ้นและล่มสลาย แต่วิคตอเรียเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่มีอายุยืนยาวที่สุด เป็นอาณาจักรที่ชื่นชอบสงครามสมกับที่อาณาจักรอื่นๆ เรียกอาณาจักรวิคตอเรียว่า “เผ่าพันธุ์นักรบ” แม้ว่าจะเสื่อมถอยลงจากสงครามที่กินเวลากว่าสองร้อยปี แต่เห็นได้ชัดว่าครั้งหนึ่งวิคตอเรียเคยเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรืองพอที่จะรวบรวมทุกทวีปของฮอลล์เพลน ‘เกียรติยศแห่งวิคตอเรีย’ เป็นดาบที่สืบทอดกันมาในราชวงศ์ มีตำนานกล่าวว่ามีเพียงผู้ที่มีคุณสมบัติของกษัตริย์เท่านั้นที่จะได้รับพลังที่แท้จริงของดาบ

 

 

1. ความภูมิใจในตนเองของดาบนั้นรุนแรงมากเพราะเป็นดาบของกษัตริย์ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น มันตัดสินใจและเลือกเจ้าของด้วยตนเอง หากผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจะเป็นเจ้าของปรากฏตัวขึ้น มันจะเปลี่ยนรูปร่างจากต่างหูและเผยร่างของดาบ สามารถเปลี่ยนรูปร่างกลับไปเป็นต่างหูได้อีกหากผู้สวมใส่ต้องการ

 

 

2. เพิ่มคะแนนความแข็งแกร่ง 2 พอยต์ แต่หากเป็นผู้เล่นที่สวมใส่มีตะแนนมากกว่า 95 พอยต์ในตอนรับผลประโยชน์ครั้งแรก จะไม่ได้รับผลประโยชน์นี้

 

 

3. มอบพลังชีวิตให้กับผู้เล่น การเคลื่อนไหวของร่างกายและการไหลเวียนของพลังเวทเป็นอิสระมากขึ้น ไม่ได้ช่วยเพิ่มค่าความสามารถ ช่วยต้านทานพลังชั่วร้าย เช่น คำสาป, การหลอกลวง เป็นต้น ที่แทรกซึมเข้าสู้ภายใน

 

 

4. ในกรณีที่เปลี่ยนรูปร่างจากต่างหูและเปิดเผยร่างที่แท้จริงแล้ว ผู้สวมใส่สามารถแผ่ออร่าความสง่างาม (คาริสม่า) ที่สอดคล้องกับระดับคะแนนเวทมนตร์ของตนเองได้

 

 

5. ในกรณีที่เปลี่ยนรูปร่างจากต่างหูและเปิดเผยร่างที่แท้จริงแล้ว สามารถใช้ ‘ดาบแห่งแสง’ ซึ่งเป็นพลังที่ถูกซ่อนไว้ในดาบได้

 

 

 

 

[เสื้อโนเบิลมิธริล]

 

 

[เสื้อคลุมของอัศวินมังกรสีน้ำเงิน]

 

 

 

 

‘ว้าว’

 

 

ขณะที่อ่านคำอธิบายผมอ้าปากค้าง ผมเคยเห็นเสื้อโนเบิลมิธริลกับเสื้อคลุมของอัศวินมังกรสีน้ำเงินแล้วในรอบแรก แต่ผมจำเกียรติยศแห่งวิคตอเรียไม่ได้ ผมเงยหน้าเพื่อจะถามว่าทำไมเรื่องราวจึงเป็นเช่นนี้ก็เห็นพี่ชายทำสีหน้าราวกับจะถามว่า “เป็นยังไง ถูกใจหรือเปล่า”

 

 

“พี่ นี่มัน…”

 

 

“ไม่เป็นไร เอาไปเถอะ ดาบนั่นมันภูมิใจในตัวเองมากเกินไป ไม่มีใครในเผ่าที่ได้รับการยอมรับเลย”

 

 

“ถึงจะพูดแบบนั้น…ผมเองก็อาจจะไม่ได้รับการยอมรับเหมือนกันก็ได้”

 

 

“รับไปเถอะ ถึงจะใช้เป็นต่างหูมันก็มีประโยชน์พอสมควร อ๊ะ คะแนนความแข็งแกร่งของนายไม่เกิน 95 พอยต์ใช่ไหม”

 

 

ผมพยักหน้ารับเงียบๆ ทันทีที่ได้ยินคำว่าคะแนนความแข็งแกร่ง ผมก็นึกอยากรู้ข้อมูลผู้เล่นของพี่ขึ้นมา ดวงตาที่สามยังคงทำงานอยู่ ผมจึงหันไปมองพี่ทันที

 

 

 

 

ข้อมูลผู้เล่น (Player Status)

 

 

1.    ชื่อ (Name) : คิมยูฮยอน (ปีที่ 2)

 

 

2.    คลาส (Class) : ราชาแห่งสายฟ้า (Secret, The Lord of the Thunder, Master)

 

 

3.    ถิ่นกำเนิด(Nation) : บาร์บาร่า

 

 

4.    ชนเผ่า(Clan) : แฮมิล (ระดับเผ่า : อยู่ในระหว่างประเมินผลงาน)

 

 

5.    นามแท้ · สัญชาติ : ผู้ควบคุมฟ้าผ่าและฟ้าแลบ · พวกติดน้อง · สาธารณรัฐเกาหลีใต้

 

 

6.    เพศ (Sex) : ชาย (26)

 

 

7.    ส่วนสูง · น้ำหนัก : 180.7 ซม. · 70.8 กก.

 

 

8.    อุปนิสัย : เลือดเย็น · เย็นชา (Blood and iron · Cool)

 

 

[พละกำลัง 70] [ความทนทาน 87] [ความคล่องแคล่ว 88][ความแข็งแกร่ง 97] [พลังเวท 97(+2)] [โชค 94]

 

 

คะแนนความสามารถเหลืออยู่ 0 พอยต์

 

 

เปรียบเทียบค่าความสามารถ

 

 

1.     คิมซูฮยอน: 562 พอยต์

 

 

 [พละกำลัง 96(+2)] [ความทนทาน 92] [ความคล่องแคล่ว 98] [ความแข็งแกร่ง 90] [พลังเวท 96] [โชค 90(+2)]

 

 

คะแนนความสามารถคงเหลือ 6 พอยต์

 

 

2.     คิมยูฮยอน: 533 พอยต์

 

 

[พละกำลัง 70] [ความทนทาน 87] [ความคล่องแคล่ว 88][ความแข็งแกร่ง 97] [พลังเวท 97(+2)] [โชค 94]

 

 

คะแนนความสามารถคงเหลือ 0 พอยต์

 

 

 

 

‘…?’

 

 

หลังจากเห็นค่าความสามารถของพี่ สิ่งแรกที่ผมนึกถึงก็คือเครื่องหมายคำถาม ไม่สิ อันที่จริงมันน่าตกใจมาก แม้ว่าคะแนนรวมของค่าความสามารถจะสำคัญ แต่โดยไปแล้วนักเวทจะมีคะแนนเวทมนตร์สูงทดแทนคะแนนทางกายภาพที่มีแนวโน้มว่าจะน้อยกว่า ดังนั้นการตัดสินพวกนักเวทด้วยคะแนนรวมของค่าความสามารถจึงเป็นเรื่องที่โง่เขลา

 

 

แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น…หากพิจารณาจากการเป็นนักเวทแล้ว ถือเป็นค่าความสามารถที่น่าตกใจทีเดียว

 

 

‘พุ่งขึ้นมาขนาดนั้นได้ยังไงนะ’

 

 

ผมมัวแต่อ้าปากค้าง ยังไม่ทันได้พิจารณาทักษะเฉพาะ ทักษะพิเศษ ทักษะแฝงและผลงานด้านล่าง พี่จินฮาก็พูดขึ้นมาเบาๆ

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณน้อง…ลอร์ดเมอร์เซนต์นารี่ เรื่องทั้งหมดจบลงที่คลังอุปกรณ์ไปแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะคะ อย่างไรเสียเราก็คิดจะนำอุปกรณ์บางอย่างไปใช้หาอิลิกเซอร์อยู่แล้ว ตอนนี้ทุกอย่างเป็นปกติแล้ว ถ้าลองคิดดูก็จะเห็นว่าพวกเราต่างก็ลดรายจ่ายลงไปมาก”

 

 

“ใช่แล้ว ในบรรดาอุปกรณ์ของแคลนลอร์ดของเรา อุปกรณ์ที่ช่วยเสริมความคล่องแคล่วกับโชคนั้นมีน้อยมาก โชคดีจริงๆ”

 

 

‘ก็ไม่ได้เกรงใจหรอก…แต่จะว่ายังไงดีล่ะ’

 

 

ความคล่องแคล่วและโชคจะเพิ่มขึ้นไหมนะ แน่นอนว่าถ้าผมมีเกียรติยศแห่งวิคตอเรีย ความแข็งแกร่งของผมก็เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังแปลกใจอยู่ดี

 

 

“อืม ซูฮยอน พี่เสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้ดูแลนายให้ดีกว่านี้”

 

 

“มะ ไม่หรอก เท่านี้ก็พอแล้ว”

 

 

“อืม ถึงนายจะไม่ยอมรับไป ฉันก็จะบังคับให้นายใส่อยู่ดี ดีแล้วล่ะ ถ้างั้นไม่ลองถือเกียรติยศแห่งวิคตอเรียดูหน่อยเหรอ ฉันอยากรู้ผลน่ะ”

 

 

“…”

 

 

จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง พี่ชายยิ้มกว้างและให้กำลังใจว่าถึงจะไม่สำเร็จก็ไม่ต้องผิดหวัง เมื่อหันหน้าไปเล็กน้อยก็เห็นอันซลที่มองผมด้วยดวงตาเป็นประกายและอีกสองคนซึ่งกำลังเอามือปิดปากราวกับว่ามันตลกมาก ดูเหมือนศักดิ์ศรีในฐานะแคลนลอร์ดที่สั่งสมจนถึงตอนนี้จะพังทลายลงหลังจากได้พบกับกับพี่ ผมถอนหายใจอีกครั้ง

 

 

“เฮ้อ อย่าคาดหวังนักก็แล้วกัน”

 

 

“รู้แล้วน่า ฉันก็ถูกมันปฏิเสธเหมือนกัน แต่ว่านะซูฮยอน ถ้าเป็นนายอาจจะทำได้ก็ได้นี่ ไม่ต้องหนักใจไปหรอก ฮ่าๆ”

 

 

พูดอะไรเนี่ย ให้ตายสิ ไม่ต้องหนักใจเนี่ยนะ

 

 

ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นและถือต่างหูไว้ในมือ ตอนนั้นเอง

 

 

หวืด!

 

 

ไม่ถึงหนึ่งวินาที ต่างหูก็เปลี่ยนเป็นดาบทันทีที่สัมผัสกับมือของผมราวกับกำลังรอคอย ดาบอันสง่างามส่องประกายแสงแวววาวอวดโฉมตนเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นด้วยความมึนงงก็เห็นพวกผู้เล่นคนอื่นมีสีหน้าเช่นเดียวกับผม รวมถึงพี่ด้วย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด