Mystical Journey 176 สุดยอดแห่งยุค (2)

Now you are reading Mystical Journey Chapter 176 สุดยอดแห่งยุค (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 176 สุดยอดแห่งยุค (2)

ตอนนี้เขายังคงอยู่ในสภาวะปกติธรรมดา การใช้สภาวะนี้สัมผัสกับพลังฝ่ามือของปาโร่ ทำให้เขาพอจะเข้าใจคร่าวๆ ได้ถึงพลังทำลายล้างของฝ่ามือนี้ แม้ภายใต้สภาวะปกติธรรมดา ร่างกายของเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่เขาก็ทำอะไรเขาไม่ได้

นอกจากนี้ การได้ใช้สภาวะความแข็งแกร่งระดับต่ำสุดประลองกับกำปั้นศักดิ์สิทธ์ ก็เป็นอีกหนึ่งปรารถนาในการมาที่นี่เพื่อฝึกตนของเขา

ระหว่างที่ถูกปาโร่ประทับฝ่ามือลงบนร่างกายครั้งแล้วครั้งเล่า กาเรนก็เริ่มสังเกตวิถีฝ่ามือของปาโร่ จู่ๆ เขาก็มองเห็นอะไรบางอย่าง

ทุกครั้งที่ปาโร่ยกฝ่ามือขึ้นและผลักไปข้างหน้า มือของเขาจะกระดกขึ้นเล็กน้อยทำให้วิถีของฝ่ามือเบ้เอียงนิดหน่อย วิธีนี้จะทำให้กระดูกและร่างกายผสานกันปล่อยพลังได้อย่างเหมาะสม แต่ก็ด้วยวิธีนี้ ก็จะทำให้เกิดช่องว่างเล็กๆ บริเวณใต้วงแขนของเขา

ดวงตาทั้งสองข้างของกาเรนหรี่ลง เขารวบรวมพลังทั้งหมดของร่างกายเพื่อพร้อมสำหรับการโจมตี

“ยอมรับความพ่ายแพ้เสียเถอะ!” ปาโร่พุ่งไปอีกด้าน ฝ่ามือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นเตรียมโจมตีใส่กาเรนที่กำลังลอยมา

“ได้โอกาสล่ะ!!” กาเรนพลิกตัวกลางอากาศอย่างกะทันหัน และเหวี่ยงศอกขวาเข้าหารักแร้ของปาโร่

การโจมตีนี้พุ่งตรงไปที่จุดอ่อนของปาโร่ ด้วยพละกำลังของเขา ด้วยสมรรถภาพร่างกายของปาโร่ในวัยนี้ การโจมตีนี้สามารถชี้ขาดผลแพ้ชนะได้!

แต่ในเวลาเดียวกันนี้ ฝ่ามือของปาโร่ก็ประทับเข้าที่หน้าผากของกาเรนพอดี

ทั้งสองต่างก็ปะทะอีกฝ่ายที่ใต้วงแขนและส่วนศีรษะตามลำดับ เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของกาเรนเร็วขึ้นเล็กน้อย

ณ ขณะนี้

พู่ว!!

จิตสังหารในสภาวะของแข็งกดทับลงบนตัวของกาเรนอย่างกะทันหัน ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงักทันที

ปัง!!!

ฝ่ามือนี้ซัดตรงเข้าที่หน้าผากของกาเรนอย่างรุนแรง

สองขาที่เหยียบรั้งไว้บนก้อนหินของกาเรนถูกไล่ต้อนให้ถอยหลังอย่างรวดเร็ว จนใต้ฝ่าเท้าทั้งสองของเขาเกิดรอยเสียดสีไหม้ดำลากเป็นทาง

ทุกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ไม่ไกล ต่างก็ตกตะลึง

“หัวหน้าสำนักจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” แจ็คกลืนน้ำลายขณะที่เห็นกาเรนถูกฝ่ามือซัดเข้าที่ศีรษะอย่างรุนแรง นั่นมันคือส่วนหัวนะ ไม่ใช่ส่วนอื่น ประกอบกับปาโร่ใช้พลังมืดอันน่าสะพรึงควบคุมสมาธิ…

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่พลังเทพของหัวหน้าสำนักไร้ผู้เปรียบปาน จะมีปัญหากับแค่ฝ่ามือเดียวได้อย่างไรกัน” ซินเทียหยุดเคี้ยวหมากฝรั่งแล้ว แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ แต่ใบหน้ายังแสดงออกถึงความวิตกกังวล “เลโอ คุณเป็นยอดฝีมือระดับนักสู้ คุณมีความเห็นว่า…?”

เลโอที่อยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน

“มันยากที่จะพูด…แต่พลังปราณเพิ่มความแข็งแกร่งของหัวหน้าสำนักได้บรรลุถึงจุดสูงสุดที่น่าสะพรึงที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว คงไม่มีปัญหาหรอก”

“คง?” ซินเทียและแจ็คเข้าใจดี แม้แต่เลโอก็ไม่อาจจะคาดเดาได้

คนในชุดขาวข้างๆ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักหมัดเทวะก็ยังคงจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของสังเวียนด้านล่าง ไม่เพียงแต่เขา ยังมีผู้อาวุโสที่มาด้วยกันอีกคน ภายในดวงตาของคนทั้งสองปรากฏขึ้นซึ่งความหวาดผวา

นับตั้งแต่พวกเขาพบกับปาโร่ ไม่ว่าปาโร่จะเจอกับบุคคลใดๆ ยอดฝีมือแบบไหน หรือกระทั่งคนในระดับนักสู้ ไม่เกินฝ่ามือที่สอง อีกฝ่ายจะต้องบาดเจ็บสาหัสแล้ว

แต่ตอนนี้ กาเรนโดนฝ่ามือซัดเข้าไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร เห็นได้ชัดว่าปาโร่ไม่ได้ออมมือเลย แล้วเขาก็ไม่เคยออมมือด้วย แต่กาเรนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย

“ช่างเป็นหัวหน้าสำนักเมฆขาวที่น่ากลัวมาก! ช่างเป็นสุดยอดแห่งพลังปราณแข็งที่น่าสะพรึงจริงๆ!” หัวหน้าสำนักหมัดเทวะมองกาเรนที่ยืนอยู่บนแท่นหิน ในดวงตาของเขามีแววตาแห่งความเสียดายผุดขึ้นจางๆ “วิชาฝ่ามือของคุณปู่ปาโร่ ทุกฝ่ามือล้วนแล้วแต่มุ่งเน้นการทำลายจากภายใน แม้แต่จระเข้ยักษ์และแรดตัวโตในป่าลึกยังทนทานต่อฝ่ามือที่สองไม่ได้”

“หัวหน้าปาโร่ได้หดจิตสังหารลงอย่างเห็นได้ชัด เขามุ่งเน้นไปที่การปะทะกับกาเรน” ผู้อาวุโสชายอีกคนพูดขึ้น “สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน”

หัวหน้าสำนักหมัดเทวะพยักหน้าเล็กน้อยและหยุดพูด

ทุกคนจับจ้องสถานการณ์ด้านล่างอย่างตื่นเต้น กาเรนยังคงยืนนิ่งแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ยังอีกยาวไกลไม่จบสิ้น

“ปักษาขาวกำปั้นเทวดา! ผมมองไม่เห็นเงาของปักษาขาวในฝ่ามือของคุณเลย” กาเรนลดความพลุ่งพล่านของเลือดลมแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง “ดูท่าแล้ว หากไม่เอาจริงคงไม่ได้แล้วสินะ…”

ปัง!

ใต้เท้าของกาเรนระเบิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ จากนั้นเขาก็พุ่งไปข้างหน้า ร่างกายแปรเปลี่ยนเป็นลูกศรยิงเข้าใส่ปาโร่

“กระบวนที่หนึ่ง!!”

เขาระเบิดเสียงคำรามออกมากลางอากาศ ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็พองตัวขึ้น เสื้อผ้าท่อนบนของเขาขาดวิ่นกระจายไปในอากาศ หลุดพ้นจากจิตสังหารในสภาวะของแข็งทันที

มือสีดำคล้ำน่ากลัวขนาดเท่าอ่างน้ำใหญ่ๆ ข้างหนึ่งคว้าใบหน้าของปาโร่ไว้

ปาโร่เองก็คาดไม่ถึงว่าฝ่ามือนั้นจะไม่ได้ทำให้กาเรนเสียหายเลย ส่วนศีรษะเป็นตำแหน่งอันตรายถึงชีวิต แต่การปะทะตรงๆ กับฝ่ามือของเขากลับไม่ได้ทำให้กาเรนเป็นอะไรเลย พลังปราณเพิ่มความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากจริงๆ

ตอนนี้เขาเห็นกาเรนกำลังกระโจนเข้าใส่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า ซึ่งหลอมรวมพละกำลัง ความเร็ว และบุคลิกสังหารเป็นหนึ่งเดียว เฉกเช่นเดียวกับคลื่นยักษ์ในทะเลที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จำต้องต้านทานเท่านั้น

โครม!!

ทั้งตัวของกาเรนถูกลูกเตะเหวี่ยงกระแทกเข้าที่ด้านข้างอย่างรุนแรง ทันทีที่เงาร่างสั่นไหว ร่างของเขาก็กระแทกเข้ากับกองหินด้านข้างแล้ว

ในชั่วพริบตาที่เขาเปล่งพลังเมื่อสักครู่นี้ จู่ๆ ก็มีจิตสังหารในสภาวะของแข็งขนาดมหึมาปรากฏขึ้นและระงับกระบวนท่าต่อไปของเขา เขายังไม่ทันได้ออกกระบวนท่าจนครบเลยด้วยซ้ำ แต่กลับถูกเหวี่ยงลงไปในกองหิน ก้อนหินส่งเสียงแตกไม่หยุด ไม่รู้ว่าก้อนหินถูกกระแทกแตกไปจำนวนเท่าไร

“บัดซบ! ไม้นี้อีกแล้ว!!” กาเรนพลิกตัวลุกขึ้นจากกองหินด้วยอารมณ์หงุดหงิด ขณะที่กำลังจะเคลื่อนไหว ดวงตาของเขากลับพร่ามัว

ปังๆๆ!!!

ฝ่ามือที่รุนแรงซัดใส่หน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง พลังฝ่ามือซัดลงตรงตำแหน่งเดียวกันทั้งหมด

หลังจากขยายร่างมาพักหนึ่งแล้ว เวลานี้ กาเรนรู้สึกถึงความเจ็บปวดภายในร่างกายเป็นระยะๆ ตัวของเขาถูกผลักเข้าใส่กองหินอย่างต่อเนื่อง

ใบหน้าของปาโร่แดงขึ้นเล็กน้อย สีหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นคล้ายกับจิตสังหารที่ก่อตัวเป็นร่างมนุษย์

“ช่างน่าผิดหวังเหลือเกิน!! กาเรน หัวหน้าสำนักเมฆขาว มีความสามารถแค่นี้กลับกล้าพูดจาใหญ่โต! ฉันรู้สึกเสียใจแทนพ่อแม่พี่น้องของคุณจริงๆ ไม่มีใครบังคับให้คุณมาที่นี่ คุณรนหาที่ตายเอง!!”

เขาซัดฝ่ามือออกไปอย่างง่ายๆ แต่ละฝ่ามือทำให้ร่างกายของกาเรนชาไปหมด ประกอบกับการกดทับของจิตสังหารอันน่าสะพรึง ทำให้กาเรนไม่สามารถขยับได้เลย

สภาวะร่างกายที่น่าสะพรึงกลัว ความสามารถในการป้องกันที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก รวมถึงการระเบิดพลัง ยังไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ ทำได้เพียงปล่อยให้คู่ต่อสู้ซัดฝ่ามือใส่

ดูเหมือนปาโร่จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนเลย เวลานี้เขากลายเป็นคนโหดร้ายใจดำ แตกต่างจากบุคลิกที่ดูใจดีมีเมตตาดังเช่นเมื่อก่อน

กาเรนรู้สึกอัดอั้นมากในเวลานี้ เมื่อใดก็ตามที่คิดจะตอบโต้ เขากลับถูกขัดจังหวะโดยจิตสังหารที่แข็งแกร่ง จากนั้นก็ถูกโจมตีก่อนหนึ่งก้าวเสมอ ทำให้จังหวะของเขาช้าลงเรื่อยๆ

ทว่า พลังกัมปนสะท้อนกลับของพลังปราณแข็งที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวของเขาในเวลานี้ได้ทำให้ทุกการโจมตีของปาโร่ต้องหยุดชะงักเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่การถูกหยุดยั้งเช่นนี้จะทำให้เขาทนไม่ได้

พลังฝ่ามือที่รุนแรงเขย่าภายในร่างกายของกาเรนอย่างต่อเนื่อง แม้ส่วนใหญ่จะถูกพลังปราณแข็งขจัดทิ้งไป แต่ก็ยังคงสั่นสะเทือนให้เลือดลมของเขาพลุ่งพล่าน การโต้ตอบก็จะเฉื่อยชาลงเรื่อยๆ

“ตอบโต้สิ!” ใบหน้าของปาโร่ค่อยๆ กลายเป็นสีดำ

พวกเขาทั้งสองจมอยู่ในกองหิน การโจมตีด้วยฝ่ามือและการเคลื่อนไหวทำให้ก้อนกรวดจำนวนมากกระเด็นออกมาไม่หยุด การสั่นไหวและพลังต่อต้านของจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวทำให้สิ่งมีชีวิตรอบข้างไม่กล้าเข้าใกล้ แม้แต่หนอนประหลาดในสระน้ำต่างก็ถอยห่างจากโขดหินบริเวณนั้น

“พละกำลังอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ คงไม่ได้มาที่นี่เพื่อถูกซ้อมใช่ไหมล่ะ ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณเอาชนะอังศราได้ยังไง ลอบโจมตีตอนเขาไม่ทันระวังสินะ หรือว่าฉวยจังหวะท้าทายตอนที่เขาบาดเจ็บสาหัส คนอ่อนแอก็คือคนอ่อนแอ ชาตินี้ไม่มีทางได้เงยหน้าหรอก” ปาโร่พูดจาเหน็บแนม

“คุณ…”

ปัง!

กาเรนยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกตัดบทด้วยฝ่ามือ เสียงของเขาอัดแน่นอยู่ในอกไม่ทันได้เปล่งออกมา เศษหินปลิวเข้าหาตาทั้งสองข้างของเขา ทันใดนั้น เขาก็หลับตาลง

“อ่อนแอเกินไป!!” ปาโร่ยกมือขวาขึ้นปัด

สิ้นเสียงโครมคราม กาเรนถูกซัดใส่อีกครั้งจนลอยออกไปด้านข้างกระเด็นเข้าไปในป่าใกล้ๆ

“อ่อนแอขนาดนี้ยังจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ไปทำไม!” ปาโร่วาดแขนเป็นวงกลม สีหน้าที่ดำคล้ำก็มืดมนลงเรื่อยๆ

ทันใดนั้น ก็มีเสียงนกร้องขึ้นมาในอากาศ มันเหมือนกันเสียงของนกอินทรี แต่ก็เหมือนนกกระเรียนด้วยเช่นกัน

เขากระโจนร่างไปข้างหน้าพุ่งตรงเข้าไปในป่าทึบที่กาเรนกระเด็นลอยเข้าไป

ทั้งสอง คนหนึ่งรุก คนหนึ่งรับ เสียงปะทะหนักๆ ของหมัดดังกึกก้องดั่งเสียงฟ้าคำราม สั่นไหวสะเทือนอยู่ในกลางป่า

ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้รีบเดินตามเข้าไปในป่าทึบ ก็ได้เห็นกาเรนที่ถูกโจมตีตลอดล่าถอยเข้าไปยังส่วนลึกของป่า

“ดรรชนีสกายลาร์ค!!”

มือทั้งสองของปาโร่เปลี่ยนเป็นสีขาว เขาวาดเส้นสีขาวในอากาศสองเส้น ทันใดนั้น สายฟ้าก็พุ่งเข้าเจาะที่คอของกาเรนประหนึ่งนกบิน

“การโจมตีครั้งสุดท้าย ถ้ากันไม่ได้ ก็ตายไปซะ!” ใบหน้าของปาโร่บิดเบี้ยวขึ้นอย่างโหดเหี้ยม จากนั้นก็แทงนิ้วไปตรงๆ

ในขณะนี้ ดวงตาที่ปิดสนิทของกาเรนก็เปิดขึ้น

“หยกแดง สรรพสิ่งคืนกลับ!!”

มือของเขาเปล่งประกายสีแดงงดงามต้อนรับนิ้วมือทั้งสองที่ทิ่มแทงเข้าหา

ฝ่ามือและนิ้วปะทะกัน

เปรี้ยง!!!

ทันใดนั้น จิตสังหารในสภาวะของเหลวที่น่าสะพรึงกลัวก็พุ่งทะลุทำลายผนึก ก่อตัวเป็นร่างของช้างเผือกยักษ์ที่มีความสูงสิบกว่าเมตรอยู่ด้านหลังกาเรน ช้างเผือกยักษ์ยกเท้าหน้าขึ้นคำราม เท้าหน้าที่ยกขึ้นประสานกับแขนของกาเรนกดทับปาโร่ลงเหมือนเสาหินขนาดใหญ่

เสียงดังหนักแน่นกึกก้องไปทั่ว พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ปาโร่อุทานออกมาก่อนจะปลิวลอยไปด้านหลัง กระแทกเข้ากับต้นไม้สองต้นขนาดใหญ่และเล็กตรงๆ

ใบไม้จำนวนมากร่วงหล่นราวกับหยาดฝนโปรยปราย

กาเรนยืนอยู่ในป่า ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า ตอนนี้ร่างกายของกาเรนขยายใหญ่ขึ้นอีก โดยมีความสูงถึง 2.5 เมตร ต่อให้เป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้ร่างกายที่แข็งแกร่งดุดันของเขาเลย

“นี่คือร่างสุดท้ายของผมเหมือนกัน” สีหน้าของเขากลับมาสงบอีกครั้ง ก่อนจะมองเข้าไปในป่าที่อยู่ไม่ไกล “น่าเสียดายมาก โลกนี้ไม่ใช่ยุคสมัยของคุณอีกต่อไปแล้ว…”

บึ้ม!!

ร่างของเขาหายวับไป จากนั้นก็วาร์ปไปปรากฏต่อหน้าปาโร่ในทันที

“พลังแห่งขุนพลสวรรค์!!!” กาเรนคำรามเสียงต่ำพลางตั้งท่าอุ้มบอลที่ด้านหน้า แขนที่ใหญ่โตอยู่แล้วก็พองขึ้นอีก ก่อนจะฟาดไปทางปาโร่อย่างดุร้าย

ปัง!!

ฟู่!!

ลมกระโชกแรงพัดมาจากทุกทิศทุกทาง ใบไม้ร่วงหล่นโปรยปรายรอบๆ ตัวคนทั้งสองเป็นจำนวนมากจนทำให้มองเห็นเหตุการณ์ด้านในได้ไม่ถนัดตา รู้สึกได้เพียงพื้นดินที่สั่นสะเทือนไม่หยุดราวกับแผ่นดินไหว

ในเวลานี้ ต้นไม้ใหญ่หลายต้นในบริเวณใกล้เคียงหักและล้มลง เพราะลูกหลงจากแรงปะทะของคนทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ กิ่งก้านใบจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมา แมลงมีพิษที่อยู่บนต้นไม้ต่างวิ่งหนีตายกันอย่างบ้าคลั่งอลหม่านไปหมด

หลังจากผ่านไปกว่าสิบวินาที เมื่อใบไม้ที่ร่วงหล่นได้กระจายหายไปหมดแล้ว ผู้คนที่ตามมาสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้อย่างชัดเจน

มือของกาเรนที่เป็นเหมือนกรงเล็บอยู่ห่างจากใบหน้าของปาโร่แค่ไม่กี่เซนติเมตร แต่ก็ถูกแขนของอีกฝ่ายสกัดกั้นไว้แน่น

การเคลื่อนไหวของคนทั้งสองหยุดลงชั่วขณะ บนมวลอากาศรอบข้าง มีเงาร่างมนุษย์สีดำและช้างเผือกยักษ์กำลังโรมรันพันตูกันอยู่

มีเลือดค่อยๆ ซึมไหลออกมาที่หว่างคิ้วของปาโร่

“ปาโร่… บาดเจ็บแล้ว!!!”

หัวหน้าสำนักหมัดเทวะและคนอื่นๆ ต่างก็รู้สึกว่ามีความเย็นยะเยือกพุ่งขึ้นมาจากกระดูกก้นกบ

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด