True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1133 ชื่อเสียง

Now you are reading True Martial World พิภพเทพยุทธ์ Chapter 1133 ชื่อเสียง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1133 ชื่อเสียง

สรรพสิ่งล้วนไม่แน่นอน หลังจากที่อี้อวิ๋นฟังเรื่องในอดีตจาดประมุขวังวิถีเจ็ดดาราก็เกิดความรู้สึกหลายอย่าง

ไม่รู้ว่าในประวัติศาสตร์ของสิบสองยอดสวรรค์มีอัจฉริยะที่โดดเด่นอยู่มากเท่าไร แต่ละคนต่างก็มีช่วงที่ชื่อเสียงโด่งดัง แต่ต่อมาพวกเขาก็ไม่อาจเอาชนะโชคชะตา ท้ายที่สุดก็กลายเป็นกระดูกร่างหนึ่งบนเส้นทางแห่งยุทธ์

ประมุขวังผู้นี้ก็เช่นกัน เพราะผ่านอุปสรรคและความรุ่งโรจน์ตกต่ำมามากมายจึงทะลุปรุโปร่งแม้กระทั่งชะตาชีวิตตัวเอง ย่อมไม่สนใจชะตากรรมของวังวิถีเจ็ดดาราอีก ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว

“พี่อี้…พวกเรา…กลับไปไหม…”

เจี้ยนเสี่ยวซวงถามอย่างลังเล นางรู้แค่ว่าอี้อวิ๋นกับประมุขวังเจ็ดดาราประมือกันเป็นเวลาสั้นๆ ยังไม่ตัดสินผลแพ้ชนะดี แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันบ้าง

“กลับไปเถอะ ต่อไปนี้วังวิถีเจ็ดดาราจะไม่สร้างปัญหาให้สำนักกระบี่สระใสแล้ว”

แม้จะทำลายวังวิถีเจ็ดดาราแต่อี้อวิ๋นกลับไม่มีความรู้สึกยินดี คำพูดของประมุขวังทำให้อี้อวิ๋นคิดถึงเรื่องในอดีตหลายอย่าง

นอกจากราชาชิงหยางแล้วผู้ยิ่งใหญ่ที่เขารู้จักก็มีนายแห่งวังกระบี่หยางบริสุทธิ์ที่แข็งแกร่งกว่าราชาชิงหยาง ทั้งยังมีเทพโอสถที่ตัวตนเป็นปริศนา มีตำแหน่งสูงในร่องสมุทรและมีจอมยุทธ์นับไม่ถ้วนนำสมบัติฟ้าดินมากมายมาขอร้องให้เขาช่วยหลอมโอสถ…

คนเหล่านี้ต่างก็จบชีวิตกันแล้ว

อี้อวิ๋นเชื่อว่าหากในอนาคตเขาไม่ตายเสียก่อนก็ต้องประสบความสำเร็จแน่นอน เขาอาจเหนือกว่าผู้อาวุโสเหล่านี้ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าไม่อาจหลบพ้นชะตากรรม ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะกลายเป็นแค่เศษฝุ่นเช่นกัน นอกจากว่าจะทำลายวัฏจักรฟ้าดินจนบรรลุวิถีอมตะในตำนาน ไม่มีวันตายไม่มีวันดับ…

ไม่รู้ว่านับแต่โบราณกาลมาเคยมีใครทำสำเร็จไหม?

ในหัวอี้อวิ๋นมีความคิดเหล่านี้แล่นผ่าน เขานึกถึงหญิงผมยาวชุดดำที่เจอในโลกไม้ฟ้าพยับหมอกเมื่อตอนนั้นขึ้นมาอย่างประหลาด บางที ในบรรดาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดที่เขาเคยเจอมาก็คงมีแต่นางที่เข้าใจระดับในตำนานมากที่สุดกระมัง…

เมื่ออี้อวิ๋นกลับถึงสำนักกระบี่สระใส ข่าวเรื่องที่วังวิถีเจ็ดดาราถูกทำลายก็กระจายผ่านศิษย์วังวิถีเจ็ดดาราที่หนีลงภูเขาอย่างรวดเร็ว

พวกเขารู้ชัดแล้วว่าอี้อวิ๋นที่หายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อนบุกสังหารไปที่ภูเขาเจ็ดดาราและทำลายวังวิถีเจ็ดดารา!

ชื่อเสียงของอี้อวิ๋นแพร่กระจายตั้งแต่ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ทุกคนต่างรู้ว่าเขาเป็นเด็กรุ่นเยาว์อันดับหนึ่ง มีพลังแข็งแกร่งกว่าเจี้ยนเสี่ยวซวง

แต่อย่างไรชื่อเสียงก็จำกัดอยู่เท่านี้ ทุกคนได้ยินว่าอี้อวิ๋นมีเรื่องกับวังวิถีเจ็ดดารา แม้แต่สำนักกระบี่สระใสก็เดือดร้อนไปด้วย หลายคนคิดว่าอี้อวิ๋นคงถูกวังวิถีเจ็ดดาราสังหารแน่แล้ว สำนักกระบี่สระใสก็อาจถูกทำลายเช่นกัน แต่ไม่มีใครคิดจริงๆ ว่าหลังจากที่เวลาผ่านมาหนึ่งปีจะมีข่าวน่าเหลือเชื่อเช่นนี้เกิดขึ้น

ตอนแรกทุกวันคิดว่านี่เป็นแค่ข่าวลือ แต่เมื่อมีคนไปตรวจสอบที่ภูเขาเจ็ดดาราแล้วเห็นว่าภูเขาถูกเผาจนเกรียม ศิษย์ในสำนักหนีหายจนแทบไม่มีคน

พวกเขาก็ไม่อาจไม่เชื่อ

อี้อวิ๋นอายุแค่นี้ เขามีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร ถึงขั้นชนะยอดฝีมือที่อาวุโสกว่าด้วยซ้ำ เรื่องนี้เพียงพอให้ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในแดนสวรรค์กลาง

ยิ่งไปกว่านั้นอี้อวิ๋นก็อายุน้อยจนน่ากลัว!

ว่ากันว่าเขาฝึกวรยุทธ์มาแค่หกสิบปี ไม่กล้าจินตนาการถึงอนาคตในวันข้างหน้าจริงๆ หากจะเป็นเทพราชาก็ไม่แปลก!

เดิมทีแดนสวรรค์กลางก็เป็นแดนสวรรค์ที่มีขนาดเล็กมากแห่งหนึ่งของโลกสวรรค์เทพหยาง ไม่มีชื่อเสียงอะไรนัก มันเพิ่งเป็นที่รู้จักเพราะการกำเนิดของราชาชิงหยางเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน

แต่หลังจากนั้นแดนสวรรค์กลางก็ไม่มีเทพราชาปรากฏขึ้นอีก

สำหรับสำนักในแดนสวรรค์กลาง เทพราชาคือคนที่ยากจะจินตนาการถึง คนระดับนั้นยกมือทำลายสำนักพวกเขาได้ง่ายเหมือนถอนหญ้า

กลุ่มอิทธิพลต่างๆ ในแดนสวรรค์กลางตื่นกังวลขึ้นมา กลุ่มอิทธิพลหลายกลุ่มเคยมีความขัดแย้งเล็กน้อยกับอี้อวิ๋น พวกเขาใช้ชีวิตอย่างไม่สบายใจนักเพราะเรื่องนี้ อยากฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอี้อวิ๋นอยู่ตลอด

พวกเขาไม่อาจพบตัวอี้อวิ๋น ไม่อาจไปสำนักกระบี่สระใส ดังนั้นร้านความลับเทพที่เดิมทีไม่มีค่าให้พูดถึงจึงได้รับการปฏิบัติพิเศษเพราะความเกี่ยวข้องที่มีต่ออี้อวิ๋น

เมื่อผู้อาวุโสจีพาจีสุ่ยเยียนกลับมาที่เมืองแสงหยกเพื่อก่อตั้งร้านความลับเทพขึ้นใหม่ เขาก็พบว่าสำนักสิบกว่าสำนักได้ส่งยอดฝีมือหลายร้อยคนมาร่วมงานเปิดร้านใหม่และเฉลิมฉลองให้ร้านความลับเทพ

เดิมทีผู้อาวุโสจีก็ไม่ได้ส่งเทียบเชิญให้ใครมากมาย เมื่อเห็นคนหลายร้อยคนมาร่วมงานโดยที่ไม่ได้เชิญและมีระดับยุทธ์ต่ำสุดอยู่ที่ระดับวังวิถี คนจากร้านความลับเทพก็พากันตะลึงงัน

พวกเขาต้องเพิ่มโต๊ะหลายสิบตัว แต่ถึงกระนั้นก็มีจอมยุทธ์อิสระจำนวนมากล้อมรอบอยู่นอกประตูร้านความลับเทพอย่างไม่มีที่นั่งด้วยเหตุผลต่างๆ ทันใดนั้นกลุ่มอิทธิพลเล็กๆ อย่างร้านความลับเทพก็กลายเป็นศูนย์รวมของทะเลทรายกลบอาทิตย์

ส่วนสำนักกระหายโลหิตก็เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนว่าตอนที่ร้านความลับเทพถูกร้านขยายฟ้าทำลาย เหยียนเทียนชงได้จับตัวสาวน้อยหน้าตาดีสิบกว่าคนจากร้านความลับเทพเพื่อมอบให้ศิษย์คนหนึ่งในสำนักพวกเขา สำนักกระหายโลหิตตกใจแทบแย่เมื่อรู้ข่าวนี้!

พวกเขาเพิ่งรู้ว่าคุณชายเสวี่ยอวี้ที่หายตัวไปเมื่อหนึ่งปีก่อนถูกอี้อวิ๋นสังหาร

เดิมทีสำนักกระหายโลหิตก็เป็นสำนักนอกรีต ปกป้องพวกเดียวกันเป็นอย่างยิ่ง หากใครสังหารศิษย์ของพวกเขาก็จะเอาคืนให้ได้ แต่กับอี้อวิ๋นพวกเขากลับไม่เอาความ มีหรือที่จะไปแก้แค้น พวกเขาไม่เพียงไม่แก้แค้น แต่ยังนำของกำนัลไปไถ่โทษให้ร้านความลับเทพ

คนนำคือรองเจ้าสำนักกระหายโลหิต คนที่มีตำแหน่งสูงเช่นนี้มาเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสจีด้วยตัวเอง

ถัดจากสำนักกระหายโลหิตก็มีสำนักความลับสวรรค์มาด้วยเช่นกัน

ตอนที่ผู้อาวุโสจีออกจากสำนักความสวรรค์ด้วยความแค้นก็ถูกมองว่าเป็นคนทรยศ วันนี้เจ้าสำนักคนปัจจุบันมาขอโทษด้วยตัวเอง ขอเพียงแค่ผู้อาวุโสจียินยอมก็กลับไปเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักได้เลย สำนักความลับสวรรค์ส่งของกำนัลมาจำนวนมาก ทั้งยังไม่กล้าพูดเรื่องเข็มทิศความลับสวรรค์แม่ลูกแม้แต่คำเดียว…

ผู้อาวุโสจีเกิดความรู้สึกหลากหลายเมื่อเห็นของกำนัลจากหลายสิบสำนักที่มีมากพอให้ซื้อร้านความลับเทพกลับคืนมาได้หลายครั้ง

ร้านความลับเทพมีความเกี่ยวข้องกับอี้อวิ๋นเพียงเล็กน้อยแต่กลับทำให้กลุ่มอิทธิพลใหญ่อย่างสำนักกระหายโลหิตเกรงกลัว ทำให้สำนักความลับเทพที่มีความแค้นกับเขามาหลายเข้ามาหาเหมือนหลานชาย ตำแหน่งของอี้อวิ๋นในตอนนี้สูงจนไม่อาจจินตนาการ

ความจริงอี้อวิ๋นไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงเปิดร้านนี้

ผู้อาวุโสจีรู้ว่ากลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ต่างมาร้านความลับเทพด้วยความหวังที่จะได้พบอี้อวิ๋นและผูกมิตรกัน แต่หลายเดือนมานี้อี้อวิ๋นอยู่ที่สำนักกระบี่สระใสมาโดยตลอด ไม่เคยออกมาแม้แต่ก้าวเดียว

ก่อนหน้านี้กลุ่มอิทธิพลหลายกลุ่มไปรวมตัวใกล้สำนักกระบี่สระใสเพื่อพบอี้อวิ๋น แต่เพราะอี้อวิ๋นไม่ออกจากสำนักจึงได้แต่ยอมแพ้

“เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณชายอี้บอกว่าเขาอาจจะจากไปในอีกสองสามเดือน”

จีสุ่ยเยียนยืนอยู่ข้างท่านปู่ นางมองงานเลี้ยงคึกคัก มองร้านความลับเทพที่รุ่งโรจน์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแต่กลับดีใจไม่ออก

ท้ายที่สุดอี้อวิ๋นก็ต้องไป

ตอนนั้นจีสุ่ยเยียนช่วยอี้อวิ๋นที่ทะเลทรายกลบอาทิตย์จึงมีวาสนาได้พบกัน แต่สองสามเดือนต่อจากนี้วาสนาคงจบลงแล้ว

จีสุ่ยเยียนรู้ว่านางอาจไม่ได้พบอี้อวิ๋นอีก เรื่องนี้ทำให้นางเสียใจมาก

“แต่ละคนมีชะตาชีวิตของตัวเอง เขายืนอยู่สูงเกินไป เรามีโอกาสได้พบเขาก็ถือเป็นโชคใหญ่แล้ว”

ผู้อาวุโสจีถอนหายใจ อี้อวิ๋นมอบโอสถและมรดกวิชาจำนวนมหาศาลให้ร้านความลับเทพเพื่อขอบคุณที่เข็มทิศความลับสวรรค์แม่ลูกช่วยแสดงตำแหน่งของวิญญาณหยาง ขอบคุณที่เสื้อหยกด้ายทองช่วยชีวิต ความจริงสิ่งที่อี้อวิ๋นมอบให้สกุลจีมีมากกว่าที่สกุลจีมอบให้อี้อวิ๋นเสียอีก

………………………………………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด