True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1136 หอเซียนสรรพสิ่ง

Now you are reading True Martial World พิภพเทพยุทธ์ Chapter 1136 หอเซียนสรรพสิ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1136 หอเซียนสรรพสิ่ง

ในที่สุดสำนักหม้อชาดที่เดิมทีอยู่ในสถานการณ์ง่อนแง่นก็พ้นขีดอันตราย

เรื่องนี้เป็นเหมือนการตายแล้วฟื้นคืนชีพสำหรับเจ้าสำนักหม้อชาด เขาพาเสี่ยวหรูผู้เป็นบุตรสาวมาขอบคุณอี้อวิ๋น เมื่อมาถึงที่พักของอี้อวิ๋นก็พบว่าอี้อวิ๋นกำลังนั่งสมาธิจึงรอให้เขานั่งสมาธิเสร็จอยู่ข้างนอกเงียบๆ

“พวกเจ้าเข้ามาเถอะ” อี้อวิ๋นพูด

เจ้าสำนักหม้อชาดผลักประตูออกเมื่อได้ยินดังนี้ หลังจากที่เข้ามาก็ทำความเคารพให้อี้อวิ๋นเคารพนบนอบ

“ข้าน้อยเจ้าสำนักหม้อชาด นามว่าหลินเทียนเฉิง ขอทำความเคารพท่านผู้อาวุโสอี้ ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิตขอรับ”

หรูเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างหลินเทียนเฉิงรีบทำความเคารพตามแบบฉบับของผู้น้อยเช่นกัน อี้อวิ๋นเป็นผู้อาวุโสยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งมากในสายตาสำนักหม้อชาด

“เราต่างก็คว้าสิ่งที่ตัวเองต้องการ ข้าต้องการไม้เลี้ยงวิญญาณชิ้นนี้ ความจริงการที่ข้าช่วยเจ้าก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ไม้เลี้ยงวิญญาณนี้มีประโยชน์ต่อข้ามากด้วยซ้ำ นับว่าข้าเป็นฝ่ายได้เปรียบ”

อี้อวิ๋นพูดอย่างตรงไปตรงมา

“ท่านผู้อาวุโสพูดหนักเกินไปแล้วขอรับ หากไม่มีท่าน ทั้งสำนักหม้อชาดก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ ไม่ใช่แค่ว่าไม้เลี้ยงวิญญาณนี้มีค่าแค่ไหน ต่อให้มันมีค่ามากเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์สำหรับสำนักหม้อชาดของข้า อาจนำภัยมาสู่ตัวด้วยซ้ำ”

น้ำเสียงของหลินเทียนเฉิงจริงใจมาก เขาไม่อยากได้ไม้เลี้ยงวิญญาณ เขาเดาได้นานแล้วว่านี่เป็นสมบัติชั้นสูง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะครอบครองได้

อี้อวิ๋นชื่นชมในคนที่ควบคุมความละโมบของตนเองได้เป็นอย่างมาก เขาพูดว่า “ข้าเป็นฝ่ายได้เปรียบมากในการซื้อขายครั้งนี้ ไม้เลี้ยงวิญญาณมีประโยชน์ต่อข้ามาก ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าเสียเปรียบแน่นอน พวกเจ้านำของพวกนี้ไป นับว่าเป็นสิ่งชดเชย”

ขณะที่อี้อวิ๋นพูดก็ดีดนิ้ว แหวนมิติวงหนึ่งบินเข้าสู่มือหลินเทียนเฉิง

หลินเทียนเฉิงรับมาดูแล้วก็เห็นว่าภายในแหวนมิติมีม้วนแผ่นหยกและขวดโอสถอยู่ไม่น้อย ทั้งหมดคือมรดกวิชาและโอสถธาตุกระดูก

“แม้ของพวกนี้จะมีจำนวนไม่มากแต่ก็มีค่ามากกว่าของที่ทิ้งไว้ให้พวกเจ้าเมื่อหนึ่งปีก่อนมากกว่าสิบเท่า ถือว่าชดเชยราคาของไม้เลี้ยงวิญญาณได้เล็กน้อย อย่าแพร่งพรายเรื่องนี้และเรื่องไม้เลี้ยงวิญญาณออกไป มิเช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัวพวกเจ้าเอง”

เพราะหลายปีมานี้อี้อวิ๋นสังหารศัตรู ทรัพย์สมบัติที่เขาสะสมจึงมีมหาศาล แต่เพราะรากฐานของอี้อวิ๋นแข็งแกร่งเกินไป คุณภาพของทรัพยากรที่ใช้จึงสูงเป็นอย่างยิ่ง สมบัติของอรหันต์ทั่วไปอาจไม่มีประโยชน์ต่อการฝึกของเขาด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงไม่ถือสาหรือเสียดายที่ต้องมอบของเหล่านี้ให้คนอื่น

ทว่าสำหรับสำนักหม้อชาด สิ่งของในแหวนมิติวงนี้กลับเพียงพอให้พวกเขาเติบโต พลังของสำนักพัฒนาขึ้นอีกระดับ หลินเทียนเฉิงจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วไม่ปฏิเสธ ฟังจากคำบรรยายของหรูเอ๋อร์ก่อนหน้านี้ เขาก็ได้รู้ว่าของพวกนี้ไม่นับเป็นอะไรสำหรับอี้อวิ๋น

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสมากขอรับ”

“อื้ม พวกเจ้ารู้ไหมว่าพื้นที่ซื้อขายที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของแดนสวรรค์สรรพสิ่งอยู่ที่ไหน?”

แม้อี้อวิ๋นจะเจอบันทึกเกี่ยวกับแดนสวรรค์สรรพสิ่งในคัมภีร์ของเทพโอสถ แต่นั่นก็เป็นเรื่องเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน เวลาผ่านมานานถึงเพียงนี้ กลุ่มอิทธิพลในแดนสวรรค์สรรพสิ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ไปนานแล้ว

อี้อวิ๋นกังวลเล็กน้อยว่าจะไม่เจอสิ่งที่ตัวเองต้องการที่แดนสวรรค์สรรพสิ่ง

เขาจะใช้รากคืนวิญญาณมาหลอมโอสถวิญญาณเปล่า

โอสถวิญญาณเปล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยหลิงเสียเอ๋อร์ได้ มันมีประโยชน์ต่ออี้อวิ๋นมากเช่นกัน

จากบันทึกในคัมภีร์ของเทพโอสถ หลังจากที่กินโอสถวิญญาณเปล่านี้จะทำให้จิตวิญญาณเปลี่ยนแปลง กำลังจิตแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก

จิตวิญญาณมีความสำคัญต่อจอมยุทธ์เป็นอย่างยิ่ง ทั้งการบรรลุ ควบคุมกฎ โจมตีทางจิต ตรวจสอบด้วยจิต หลอมโอสถ หลอมโอสถ ผสานค่ายกล ทั้งหมดล้วนแต่ต้องใช้จิตวิญญาณที่แข็งแกร่งทั้งสิ้น

จิตวิญญาณของอี้อวิ๋นไม่ได้อ่อนแอ แต่เขาก็ยังไม่พอใจ

เขามีผลึกม่วง การควบคุมผลึกม่วงก็ต้องใช้จิตวิญญาณกับกำลังจิต

ทุกครั้งที่ใช้ผลึกม่วงจะเป็นการใช้พลังไม่น้อยสำหรับจิตวิญญาณของอี้อวิ๋น

อย่างเช่นการหลอมโอสถ อี้อวิ๋นมีพรสวรรค์ด้านการหลอมโอสถมากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผลึกม่วง

อาศัยผลึกม่วงมาสกัดและควบคุมการไหลเวียนของพลังโอสถ อี้อวิ๋นแสดงพรสวรรค์ด้านวิชาปรมาจารย์อสูรที่ไม่มีใครเทียบได้มาหลายปีแล้ว เขาถึงขั้นเอาชนะลั่วหั่วเอ๋อร์ที่ฝึกวิชาปรมาจารย์อสูรหลายปีในหลายๆ ด้านด้วย

หากมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง อี้อวิ๋นก็จะเป็นดังเสือติดปีก ควบคุมผลึกม่วงง่ายเหมือนปลาได้น้ำ

แต่การหลอมโอสถวิญญาณเปล่าต้องใช้สมุนไพรเสริมอื่นด้วย สมุนไพรเสริมแต่ละอย่างก็มีค่าเป็นอย่างยิ่ง

สมุนไพรเสริมสองอย่างที่หายากที่สุดคือ ‘ทรายยมโลก’ และ ‘วารีสวรรค์’

ทั้งสองต่างเป็นวัตถุฟ้าดินที่เกิดจากการหล่อเลี้ยงของพลังวิญญาณฟ้าดินในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว เดิมทีสภาพแวดล้อมที่ตรงตามเงื่อนไขก็หายากมากอยู่แล้ว และต่อให้มีสภาพแวดล้อมเช่นนี้อยู่จริงก็ใช่ว่าจะมี ‘ทรายยมโลก’ กับ ‘วารีสวรรค์’ กำเนิด

แต่แน่นอนว่าเมื่อนำสองสิ่งนี้มาเทียบกับรากคืนวิญญาณในมืออี้อวิ๋นก็มีมูลค่าด้อยกว่าเล็กน้อย

ดูจากขนาดของรากคืนวิญญาณ หากเจอ ‘ทรายยมโลก’ และ ‘วารีสวรรค์’ ได้มากพอ อี้อวิ๋นก็อาจหลอมโอสถวิญญาณเปล่าได้หกเจ็ดเม็ด

หลิงเสียเอ๋อร์ใช้แค่สองเม็ดก็พอแล้ว ส่วนที่เหลือก็ไว้ให้อี้อวิ๋นเพิ่มความแข็งแกร่งให้จิตวิญญาณ

“เรียนท่านผู้อาวุโส ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในแดนสวรรค์สรรพสิ่งคือหอเซียนสรรพสิ่ง หอเซียนสรรพสิ่งมีสมบัติมหาศาล ภายในมีสมบัติฟ้าดินนับไม่ถ้วน ท่านผู้อาวุโสต้องเจอสิ่งที่ต้องการแน่ขอรับ”

หอเซียนสรรพสิ่ง?

อี้อวิ๋นเคยอ่านเจอชื่อนี้จากคัมภีร์ของเทพโอสถ แต่เกรงว่าเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนหอเซียนสรรพสิ่งจะยังไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลสิบอันดับแรกของแดนสวรรค์สรรพสิ่งด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะเป็นกลุ่มอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดของแดนสวรรค์สรรพสิ่ง

การค้าขายในแดนสวรรค์สรรพสิ่งมีกลุ่มอิทธิพลจากโลกสวรรค์เทพหยางมารวมตัวจำนวนมาก ผลกำไรที่กลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งได้รับคงมากจนไม่อาจจินตนาการ

“พูดเรื่องหอเซียนสรรพสิ่งให้ข้าฟังดู”

หลินเทียนเฉิงพูดอย่างเคารพว่า “เรียนท่านผู้อาวุโส หอเซียนสรรพสิ่งควบคุมการซื้อขายวัตถุล้ำค่าในแดนสวรรค์สรรพสิ่งประมาณเจ็ดส่วน ประมุขหอเซียนสรรพสิ่งคนปัจจุบันมีนามว่าถังเชียนอวี่ ถังเชียนอวี่ผู้นี้เป็นบุคคลระดับตำนานของแดนสวรรค์สรรพสิ่ง เขาเป็นเทพราชาสำเร็จเมื่อสิบล้านปีก่อน ผลักหอเซียนสรรพสิ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด คนระดับนั้นไม่ใช่คนที่ท่านผู้อาวุโสจะจินตนาการออก…”

ถังเชียนอวี่?

อี้อวิ๋นพยักหน้า แดนสวรรค์สรรพสิ่งไม่ใช่สิ่งที่แดนสวรรค์เล็กๆ ทั่วไปจะเทียบได้ ในฐานะที่เป็นกลุ่มอิทธิพลอันดับหนึ่งของที่นี่ ภายในคลังย่อมต้องมีวัตถุล้ำค่าจำนวนมหาศาล แต่ละวันต้องควบคุมการซื้อขายนับไม่ถ้วน หากไม่มีเทพราชารักษาการณ์ก็คงถูกปล้นหมดไปนานแล้ว

หอเซียนสรรพสิ่งที่มีเทพราชารักษาการณ์น่าจะมีทรายยมโลกกับวารีสวรรค์ แต่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไร…

อี้อวิ๋นปวดหัวเล็กน้อยเมื่อพูดเรื่องราคา

ตอนนี้สถานการณ์ของเขากระอักกระอ่วนมาก ด้านหนึ่งคือมีรากฐานดีเกินไป คุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้จึงสูงมาก อีกด้านคือเขายังยากจนมากเมื่อเทียบกับคนที่สะสมสมบัติมาหลายปี

เขาไม่ได้เปรียบอะไรเมื่อแข่งกับคนเหล่านั้น

‘ไม่ว่าอย่างไรก็ลองไปที่หอเซียนสรรพสิ่งก่อนแล้วค่อยวางแผนอีกที’

 …………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด