True Martial World พิภพเทพยุทธ์ 1156 หลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย

Now you are reading True Martial World พิภพเทพยุทธ์ Chapter 1156 หลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1156 หลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวย

รถม้าศึกหยุดลงตรงหน้าทางเข้าห้องหออวิ๋นซิน เจ้าเมืองฉินกับองค์หญิงจิ้งจอกขาวเดินลงจากรถม้า พวกจั่วชิวเฮ่าอวี้พากันทำความเคารพ

“ท่านเจ้าเมืองฉินช่างมีอารมณ์รื่นเริงยิ่ง แค่การเดิมพันของเด็กๆ ก็ยังสนใจมาดู” จั่วชิวปั๋วพูดพร้อมยิ้มบางๆ

“อู๋เสียอยากมาดูสหายของนางน่ะ” เจ้าเมืองฉินกวาดตาไปในฝูงชนจนมาหยุดอยู่ที่อี้อวิ๋น เขาได้ยินเรื่องที่อี้อวิ๋นทำในช่วงไม่กี่วันมานี้เช่นกัน มันทำให้เขาสงสัยในเด็กหนุ่มคนนี้ เขาอยากเห็นผลงานการหลอมโอสถในวันนี้ของอี้อวิ๋นจริงๆ

“มีคนชอบเรื่องสนุกอยู่ไม่น้อยเลย” เจ้าเมืองฉินพูดด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้มีคนมุงเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

จั่วชิวเฮ่าอวี้กับฮูเหยียนชางเดินเข้ามา ฮูเหยียนชางมององค์หญิงจิ้งจอกขาวแล้วก็ตาเป็นประกาย “แม่นางท่านนี้คือเทพธิดาอู๋เสียสินะขอรับ? ได้ยินชื่อไม่สู้พบหน้าจริงๆ”

ผู้หญิงคนนี้งดงามไร้ที่ติโดยแท้ แม้จะสวมผ้าคลุมหน้า แต่ท่าทีที่ล่องลอยดุจเซียนก็ทำให้จิตใจเฝ้าปรารถนาถึงเช่นกัน

“ข้าคงต้องขอโทษเทพธิดาอู๋เสียด้วยแล้ว แม้อี้อวิ๋นจะเป็นสหายของท่านเทพธิดา แต่ท่านเทพธิดาก็คงถูกเขาหลอกลวง คนผู้นี้ต่ำต้อยไร้ยางอาย ข้าน้อยไม่อาจปล่อยให้เขาหลอกลวงในเมืองสรรพสิ่ง” จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดอย่างยึดมั่นในความถูกต้อง

องค์หญิงจิ้งจอกขาวมีปฏิกิริยาเย็นชาราวกับไม่ได้ยิน

ตอนนี้อี้อวิ๋นเดินออกมาจากห้องอวิ๋นซินเช่นกัน เขาไม่สนใจคำใส่ร้ายของจั่วชิวเฮ่าอวี้ ทำแค่โค้งคำนับให้เจ้าเมืองฉิน “ข้าน้อยอี้อวิ๋น คารวะท่านเจ้าเมืองฉินขอรับ”

อี้อวิ๋นรู้สึกขอบคุณเจ้าเมืองฉินเป็นอย่างมาก

“เทพธิดาอู๋เสีย” อี้อวิ๋นยิ้มบางๆ ให้องค์หญิงจิ้งจอกขาว นับว่าเขากับองค์หญิงจิ้งจอกขาวมีวาสนาต่อกันจริงๆ

“ฮ่าฮ่า วันนี้ข้ามาเป็นพยานเจ้า เจ้าหลอมโอสถอย่างสบายใจเถอะ!”

เจ้าเมืองฉินหัวเราะให้อี้อวิ๋นอย่างอ่อนโยน สีหน้าจั่วชิวเฮ่าอวี้จมลงเมื่อเห็นภาพนี้ อี้อวิ๋นมีคุณสมบัติอะไรให้ได้รับความโปรดปรานจากเจ้าเมืองฉินและเทพธิดาอู๋เสียกัน

ส่วนคำพูดเขากลับถูกเพิกเฉยอย่างเย็นชาเหมือนคนโง่

มุมปากเขากระตุกเบาๆ เขาพูดอย่างจงใจจี้จุดเจ็บของอี้อวิ๋นว่า “อี้อวิ๋น ต่งเสี่ยวหวั่นคงยังนอนอยู่ที่นี่สินะ เจ้าหลอมโอสถปลอมหม้อหนึ่งให้เจ้าสำนักคลื่นหยก ตอนนี้ต่งเสี่ยวหวั่นกำลังนอนรอความตายอยู่ในห้องหออวิ๋นซินของเจ้า! วันนี้ข้าจะรักษากฎของเมืองสรรพสิ่งและทวงความยุติธรรมให้ต่งเสี่ยวหวั่น!”

จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนฮึกเหิม “หากวันนี้เจ้าหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยล้มเหลว ข้าก็ไม่เพียงแต่ให้เจ้าชดเชยราคาสองเท่า แต่ยังจะตัดมือทั้งสองข้างของเจ้าด้วย เจ้ากล้าหรือไม่!”

จั่วชิวเฮ่าอวี้กังวลเล็กน้อยว่าแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เสวี่ยอู๋เสียก็อาจช่วยจ่ายหนี้ให้อี้อวิ๋น หากเป็นเช่นนั้นอี้อวิ๋นก็ไม่มีอะไรเสียหาย ตอนนี้จั่วชิวเฮ่าอวี้ยินดีเสียสมุนไพรล้ำค่าเพื่อแลกกับจากทำร้ายอี้อวิ๋น

“เจ้าจะตัดมือข้า เช่นนั้นหากเจ้าแพ้จะทำอย่างไร?” อี้อวิ๋นถามจั่วชิวเฮ่าอวี้กลับ

“หากเจ้าหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยสำเร็จ เช่นนั้นข้าก็จะถอนคำพูดทั้งหมดและจ่ายเงินเพิ่มให้ห้าแสนอักขระ”

จั่วชิวเฮ่าอวี้ส่งเสียงฮึดฮัด เขาไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้

เจ้าเมืองฉินหัวเราะเมื่อได้ยินคำพูดของจั่วชิวเฮ่าอวี้ “หากอี้อวิ๋นหลอมล้มเหลวจะถูกตัดมือ แต่หากไม่ล้มเหลวเจ้าก็จะถอยคำพูดและจ่ายเงินเพิ่มให้เล็กน้อย เงื่อนไขเช่นนี้ช่างยุติธรรมยิ่ง”

เจ้าเมืองฉินพูดเรียบๆ ไม่ว่าใครก็ฟังออกว่าเขากำลังถากถาง

สีหน้าจั่วชิวเฮ่าอวี้แข็งทื่อ หากอี้อวิ๋นเป็นคนพูดเขาก็ยังถากถางกลับได้ เพราะตามกฎของเมืองสรรพสิ่งแล้วมือคู่หนึ่งของจอมยุทธ์ระดับวังวิถีมีราคาไม่ถึงห้าแสนอักขระ แต่นี่เจ้าเมืองฉินเป็นคนพูด เขาจะตอบโต้อะไรได้

“ในเมื่อจะพนันด้วยมือของข้า เช่นนั้นก็มีแต่ต้องนำมือของเจ้ามาพนันด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ก็อย่าละลืมปรมาจารย์โอสถฮูเหยียน ข้ามีมือมีเท้า พนันมือคู่หนึ่งกับเจ้าด้วยเลยแล้วกัน”

ฮูเหยียนชางหน้าซีดเมื่อได้ยินคำพูดของอี้อวิ๋น อี้อวิ๋นคิดจะทำอะไรน่ะ?

“เหอะ! เจ้าก็แค่เด็กที่เหมือนมดตัวหนึ่ง จะหลอมโอสถเก่งแค่ไหนกันเชียว? เจ้ามันคนโกหก วันนี้ข้าจะกระชากหน้ากากเจ้า”

ฮูเหยียนชางพูดด้วยความโมโห

“เจ้านี่พูดไร้สาระมากจริง ข้าถามว่าเจ้าจะเดิมพันหรือไม่?”

อี้อวิ๋นพูดบีบคั้นรัวๆ ทุกคนมองออกมาฮูเหยียนชางเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว ในตอนนี้เองที่จั่วชิวเฮ่าอวี้พูดขึ้นว่า “ข้าจะเดิมพันกับเจ้า”

อาการป่วยของต่งเสี่ยวหวั่นไม่มีทางแสร้งทำ เขามั่นใจว่าอี้อวิ๋นหลอมโอสถชำระร่างไม่สำเร็จ เช่นนั้นจะหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยที่มีความยากสูงกว่าได้อย่างไร

“ดี! หรูเอ๋อร์ เปิดหม้อหลอมโอสถ!”

วัตถุดิบสำหรับหลอมโอสถหทัยน้ำแข็งไท่เวยมาจากจั่วชิวเฮ่าอวี้ทั้งหมด ทุกอย่างเตรียมมาพร้อมหมดแล้ว

ถนนนอกห้องหออวิ๋นซินมีผู้คนหนาแน่นจนไม่อาจสัญจรไปมาแล้ว พื้นที่ภายในห้องหออวิ๋นซินก็มีจำกัด ตอนนี้จั่วชิวปั๋วจึงนำแผ่นทรงกลมสีดำแผ่นหนึ่งออกมาแล้วพูดว่า “นี่คือแท่นโอสถของข้า พวกเราขึ้นไปกันเถอะ!”

ขณะที่จั่วชิวปั๋วพูดก็โยนแผ่นทรงกลมออกมา แผ่นทรงกลมนี้ปรากฏขึ้นใต้เท้าทุกคน เมื่อมันสัมผัสอากาศก็ขยายใหญ่ขึ้นและห่อหุ้มทุกคนไว้ภายในอย่างรวดเร็ว ทั้งโรงโอสถทั้งท้องถนนรอบๆ สลายหายไปทันที รอบตัวกลายเป็นพื้นที่ที่กว้างขวางมาก พวกอี้อวิ๋นกับเจ้าเมืองฉินยืนอยู่กลางแท่นโอสถ ตรงหน้าอี้อวิ๋นมีแท่นศิลาแท่นหนึ่ง นี่คือแท่นโอสถที่เตรียมไว้ให้เขา

อี้อวิ๋นไม่พูดอะไรมาก เขาโบกมือ หม้อโอสถขนาดเล็กหม้อหนึ่งปรากฏอยู่ในมือพร้อมลอยหมุน

ฮูเหยียนชางหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่ได้เมื่อเห็นหม้อโอสถของอี้อวิ๋น

เขาไม่ได้หัวเราะเยาะรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายของหม้อโอสถ หม้อโอสถหลายใบดูภายนอกแล้วเก่าทรุดโทรมก็จริง ทว่าแท้จริงคุณภาพกลับไม่ธรรมดา นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เขาหัวเราะที่ค่ายกลของหม้อโอสถนี้ชำรุดจนเป็นของคุณภาพไม่ดีต่างหาก

ต่อให้หม้อโอสถจะคุณภาพดีอย่างไร หากค่ายกลชำรุดก็คือของที่เสียแล้ว

“เป็นปรมาจารย์โอสถ แต่แค่จะนำของดีออกมาใช้ยังทำไม่ได้ ได้แต่ใช้หม้อโอสถชำรุดที่ค่ายกลเสียหาย ต่อให้โยนหม้อโอสถเช่นนี้มาตรงหน้าข้า ข้าก็คงไม่แม้แต่จะชายตามอง”

ฮูเหยียนชางพูด ทุกคนฟังแล้วก็ตกใจและพากันมองไปที่จั่วชิวปั๋ว

จั่วชิวปั๋วพยักหน้า “ค่ายกลของหม้อโอสถใบนี้เสียหายจริง ดูจากภายนอกแล้วข้าก็มองความพิเศษอะไรไม่ออก ปกติแล้วเมื่อค่ายกลของหม้อโอสถเสียหาย คุณภาพก็จะลดลงมากกว่าเก้าส่วน”

คุณภาพลดลงมากขนาดนี้เชียว?

ทุกคนตะลึงงัน ต่อให้เป็นหม้อโอสถชั้นดีอย่างไรก็คงใช้การไม่ได้แล้วกระมัง

อี้อวิ๋นจะใช้หม้อพังๆ นี้มาหลอมโอสถ?

ในตอนนี้เองที่อี้อวิ๋นเปิดหม้อโอสถออก สองสามวันมานี้เขาปรับตัวเข้ากับหม้อเทพโอสถเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเขากับตัวหม้อเหมือนจิตเชื่อมต่อกัน

อี้อวิ๋นคว้าสมุนไพรมาสามต้นและโยนเข้าสู่หม้อเทพโอสถโดยตรง!

แค่เริ่มก็ใช้สมุนไพรสามต้น แม้แต่คนนอกก็ยังรู้ว่าปรมาจารย์โอสถต้องค่อยๆ หลอมตามลำดับขั้นตอน แต่นี่อี้อวิ๋นใช้สมุนไพรสามต้นตั้งแต่เริ่ม เขาไม่กลัวว่ามันจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านหรือ?

‘เชื้อเพลิงเทพมาร!’

จิตใจอี้อวิ๋นจดจ่อ ตอนนี้เสียงโหวกเหวกรอบด้านไม่มีอยู่สำหรับเขาอีกต่อไป ตัวเขาประหนึ่งอยู่กลางมิติอันกว้างไร้ขีดจำกัดและมีเขาเพียงคนเดียว

เชื้อเพลิงเทพมารสองสายถูกส่งเข้าสู่หม้อเทพโอสถเหมือนวิญญาณสีเทาที่ร่ายรำ คอยวนเวียนอยู่รอบสมุนไพร

ก่อนที่อี้อวิ๋นจะใช้โอสถน้ำค้างสวรรค์เลี้ยงวิญญาณ เขาก็ควบคุมเชื้อเพลิงเทพมารได้แค่สายเดียว แต่ตอนนี้เขาควบคุมได้สองสายแล้ว นี่คือพัฒนาการก้าวใหญ่ ด้วยเหตุนี้อี้อวิ๋นจึงกล้าโยนสมุนไพรสามต้นเข้าสู่หม้อในคราเดียว

 …………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด