การกลับมาของฮีโร่ 81

Now you are reading การกลับมาของฮีโร่ Chapter 81 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 81

“ดวงตาของคราเคน ฟื้นคืนสภาพเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ไม่กี่นาทีก่อนหน้าคราเคนยังสูญเสียการมองเห็นอยู่เลย…ลีคังฮุยทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆ คราเคนที่มองไม่เห็นกลับสามารถฟื้นคืนดวงตามืดมอดให้กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง พลังการฟื้นฟูของคราเคนเหลือล้นกว่าจินตนาการเขาไปไกล…

ถึงว่า ทำไมคราเคนไม่ยอมปล่อยการโจมตีน่าเกรงขามออกมา นอกจากเสียงคำรามและหนวดยักษ์ แสดงว่าคราเคนคงเอาพลังทั้งหมดที่มีในร่าง โฟกัสไปกับการรักษาดวงตาอย่างไม่ต้องสงสัย

“แม่มันเถอะ ทำไมถึงกลายเป็นยังงี้ไปได้?”

คลื่น คลื่น

คราเคนค่อยๆยกหนวดที่ใหญ่โตขึ้นไปบนฟ้า จนเลยเหนือหัวลีคังฮุยและสมาชิกกิลด์ปาปิยองขึ้นไป

แม้หนวดจะเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ผู้ตื่นขึ้นบางคนกลับไม่ยอมหนี เหตุเพราะพวกเขาโดนเสียงคำรามของคราเคนเมื่อครู่ ทำให้ร่างกายของพวกเขาเกิดอาการอัมพาต..

“เวรแล้วไง!!!”ลีคังฮุยรำไห้

นับว่าลีคังฮุยยังดวงแข็ง ในฐานะผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A ทำให้เขาสามารถต้านทานเสียงคำรามจากคราเคนได้..

เมื่อลีคังฮุยเห็นว่าคราเคนกำลังปล่อยการโจมตี เขาจึงรีบกระโดดถอยหนีไปด้านหลัง…

อย่างไรก็ตามมีผู้ตื่นขึ้น 2 คนที่อยู่ใกล้กับลีคังฮุย ไม่สามารถกระโดดหลบได้..เพราะร่างกายของพวกเขาเป็นอัมพาตอยู่..

“มะ..ไม่!!!”

“ใครก็ได้ ช่วยด้วย!!”

หนวดคราเคนที่ยกขึ้นไปเหนือฟ้า ฟาดลงมาใส่ร่างการของสมาชิกกิลด์ปาปิยองที่อยู่ใกล้มากทุกสุด

สวบ!!!!

ตูม ตูม

หนวด 2 เส้นที่กำลังฟาดลงมา จู่ๆก็ขาดออกจากกันกลางอากาศ จนเลือดสาดกระเซ็น…

ไม่รู้ใครเป็นคนช่วยเหลือพวกเขา แต่ต้องไม่ใช่ผู้ตื่นขึ้นธรรมดาทั่วไปแน่ๆ เพราะหนวดที่หนาและใหญ่ กลับถูกตัดออกมาด้วยการโจมตีที่สายตามองไม่ทัน..

“หืม….”

“เกิดอะไรขึ้น?”

หนวดของคราเคนที่ถูกตัดขาดดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น…หลังจากคราเคนทราบว่าหนวดหายไป 2 เส้น มันก็ร้องคำรามออกมา ก่อนโบกสะบัดหนวดที่เหลือด้วยความโมโห..

สมาชิกกิลด์ปาปิยองมองไปยังเหตุการณ์เบื้องหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ…

ในระหว่างที่พวกเขากำลังช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงของใครบางคนก็ตะโกนออกมาจากด้านหลัง

“พวกคุณมีเวลาหนี 10 วินาที”

เสียงที่ตะโกนเป็นผู้หวังดี ที่ตัดหนวดคราเคนช่วยเหลือชีวิตพวกเขา คนผู้นั้นก็คือซูฮยอน…

ซูฮยอนหันไปมองลีคังฮุยด้วยสายตาดูถูก เพราะเขาหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว ไม่ยอมเหลียวแลช่วยเหลือสมาชิกในกิลด์ปาปิยองเลยสักติ๊ดเดียว..

“ทุกท่านรีบหนีไปและกลับเข้าไปประจำตำแหน่งซะ ไม่งั้นละก็..”ซูฮยอนจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงและกลับมาเข้าทรง ก่อนหันหน้าที่พูดกับทุกคน

“ถ้ายังดื้อรั้นอยู่อีก หนทางสุดท้ายที่รอคือความตายเท่านั้น”

ผู้ตื่นขึ้นที่ได้ยินคำเตือนของซูฮยอนขนลุกขนชันไปทั่วทั้งตัว คำเตือนของซูฮยอนไม่ใช้คำพูดพล่อยๆ

ดวงตาคราเคนที่เคยมืดบอดกลับมามองเห็นอีกครั้ง หากพวกเขายังบุกตะลุยต่อไปโดยไม่สนใจ ชีวิตน้อยๆที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เพียงครั้งเดียว คงสิ้นชีพลงที่นี่

“ทุกคน ทำตามที่หัวหน้าซูฮยอนบอก รีบกลับเข้าประจำตำแหน่งเร็ว”

“รักษารูปขบวนและวิ่งกลับไปแนวหลังพร้อมกัน”

ผู้ตื่นขึ้นกิลด์ปาปิยองตะโกนขึ้นมาอย่างรีบร้อน ก่อนจับกลุ่มวิ่งกลับไปแนวหลังเหมือนเดิม ซูฮฺยอนยืนดูพวกเขาและขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ..

ต้องขอบคุณคราเคนที่ฟื้นคืนสภาพดวงตาได้เร็วกว่าที่คิด ทำให้ผู้ตื่นขึ้นกิลด์ปาปิยองรู้แจ้งว่า การต่อสู้กับมันไม่ใช่เรื่องง่าย…

โฮกกกกกกกกกกกก

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะมันสูญหนวดหรือสังหารผู้คนที่หมายตาไว้ไม่ได้ คราเคนร้องคำรามออกมาจนแก้วหูสั่นสะเทือน ซูฮยอนที่อยู่ใกล้มันที่สุด สัมผัสได้ว่า เสียงคำรามของคราเคนเต็มไปด้วยความโกธรแค้น..

ต่อให้คราเคนอย่างสังหารซูฮยอนใจจะขาด มันก็ไม่กล้า เพราะคราเคนรู้ดีว่าซูฮยอนไม่ใช่พวกมดปลวก…

“ขนาดตัวของมันเล็กกว่าตัวที่เคยเจอ แต่มันก็ยังเป็นมอนสเตอร์ที่น่ารำคาญเหมือนเดิม”ซูฮยอนคิด

ความสามารถพิเศษของคราเคนคือทำให้คู่ต่อสู้ติดสถานะหวาดกลัว…

สถานะหวาดกลัว เป็นความสามรถที่พบเห็นได้ทั่วไปจากมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆ

ยิ่งอยู่ใกล้กับมอนสเตอร์สถานะหวาดกลัวยิ่งทรงพลังขึ้น…

วิธีการรับมือกับสถานะหวาดกลัว ควรอยู่ห่างจากมันให้ได้มากที่สุด หากไม่สกิลต้านทานสถานะหวาดกลัวอย่าได้ริอ่านเข้าไปใกล้ๆกับมอนสเตอร์โดยเด็ดขาด

“โชคดีที่พวกเขายอมถอยไปโดยดี จะได้ไม่มีคนมาเกะกะขวางทางฉัน”ซูฮยอนคิด

เขาหันไปมองผู้ตื่นขึ้นที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนตะโกน “ใครมีความมารถโจมตีระยะไกล โจมตีต่อได้”

ร่างกายของซูฮยอนอยู่ห่างกลุ่มผู้ตื่นขึ้นหลายกิโลเมตร แต่เสียงกลับได้ยินไปถึงโสตประสาท ราวกับว่าซูฮยอนมายืนอยู่ข้างๆพวกเขา

คิมแดโฮมองกลับไปกลับมาระหว่างซูฮยอนและคราเคน ก่อนตะโกนถามความคิดเห็นของซูฮยอน

“จะให้พวกเราเริ่มโจมตีเลยไหม?”

แม้คิมแดโฮจะอยู่แรงค์ A แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาไม่เหมาะสมกับแนวหน้า..

สิ่งที่เขาถนัดมากที่สุดเป็นการสื่อสารจากระยะไกลๆ…สกิลที่คิมแดโฮถือครองอยู่ ต่อให้อยู่ไกลหลายร้อยหลายพันเมตรเสียงของเขาก็เดินทางไปถึง

ซูฮยอนพยักหน้าให้กลับคำพูดของคิมแดโฮ “อย่างที่พวกเราเคยว่างแผนเอาไว้ตอนแรก ถ้าพร้อมแล้วเริ่มได้เลย”

คำพูดของซูฮยอน หากตั้งใจฟังดีๆเหมือนเขากำลังรำคาญ ที่ต้องพูดอะไรซ้ำๆซากๆ..

คิมแดโฮลองถามอีกฝ่ายว่าเป็นอะไรหรือป่าว ทำไมถึงอารมณ์เสีย แต่เจ้าตัวก็ยังปากแข็งบอกว่าไม่ต้องมีอะไร..

แผนการที่คิมแดโฮและซูฮยอนแบ่งหน้าที่กันเอาไว้ตอนแรก คือ ซูฮยอนรับหน้าที่เป็นแนวหน้าเพื่อดึงดูดความสนใจจากคราเคน แล้วให้พวกคิมแดโฮสนับสนุนจากด้านหลัง….แต่แผนทุกอย่างกลับพังไม่เหลือชิ้นดี

“ความจริง พวกเรามีโอกาสโจมตีตั้งหลายครั้ง…”คิมแดโฮคิด

หลังจากคราเคนสูญเสียการมองเห็น การโจมตีระยะไกลที่เตรียมเอาไว้ก็พร้อมโปรยปราย

หากคราเคนโดยการโจมตี จนเกิดบาดแผลเล็กๆตามร่างของมัน ผู้ตื่นขึ้นที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิดก็ได้เวลาเปิดฉาก แต่แผนการที่ว่างไว้เป็นอย่างดีก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะการตัดสินใจที่โง่เขลาของกิลด์มาสเตอร์ปาปิยอง

“แม่งเอ๋ยน่าโมโหเป็นบ้า แต่ช่างเถอะ”

คิมแดโฮหลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รอมานานในที่สุด เขาก็สามารถทำตามแผนการที่ซูฮยอมมอบหมายได้สักที

“ทุกคน โจมตีได้” คิมแดโฮตะโกน

“รับทราบ!”

สวบ สวบ

บึม บึม

ในหมู่ผู้ตื่นขึ้น 60 คน มีคนที่สามรถโจมตีระยะไกลได้ประมาณ 40 คน

พวกเขาเริ่มร่ายสกิลที่ตัวเองถือครองก่อนปล่อยออกไปพร้อมกัน..สกิลที่กำลังวิ่งผ่านสายลม มีหลายประเภทไม่จะเป็น เปลวเพลิง ไฟฟ้า น้ำแข็ง…

ต่อให้คราเคนจะมีพลังป้องกันมากว่ามอนสเตอร์ทั่วไป แต่พลังเวทย์ที่ปล่อยออกไปหลายแขนง ไม่ใช่พลังเวทย์กระจอกๆ แต่มันถูกปล่อยออกมาจากผู้ตื่นขึ้นแรงค์ B ใกล้เคียงแรงค์ A ทำให้คราเคนไม่อาจทดต่ออานุภาพของมันได้.

โฮกกกกกกกกกกกกกกก

ขนาดตัวที่ใหญ่เกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะการโจมตีจากผู้ตื่นขึ้น เข้าเป้าคราเคนทุกดอก

คราเคนร้องคำรามออกมาอย่างทรมาน สายตาที่ฟื้นคืนกลับมา จ้องเขม็งไปยังกลุ่มผู้ตื่นขึ้น..

คราเคนพยายามใช้หนวดที่เหลืออยู่ ยันเอาพื้นเพื่อเคลื่อนย้ายร่างกายที่ใหญ่โตหนีไปจุดอื่น..

ฉัวะ!!!

ซูฮยอนชักดาบออกมาอีกรอบ ก่อนฟันไปยังหนวดยักษ์ของคราเคน

“แกจะหนีไปไหนไม่ทราบ?”

ซูฮยอนมองไปที่คราเคน พร้อมส่งยิ้มหวาด

“เข้ามาจัดการฉันสิ เจ้าหมึกหัวเหม่ง”

*********************

ฉัวะ ฉัวะ

หนวดที่กำลังตะเกียกตะกายยั้วเยี้ยถูกคมดาบตัดขาด จนตกลงไปยังพื้นด้านล่างอีกเส้น

ตามพื้นเต็มไปด้วยหนวดยักษ์กำลังดิ้นทุรนทุราย ยิ่งดูยิ่งขยะแขยง

หนวดแต่ละเส้นของคราเคนมีขนาดใหญ่โตมากๆ ขนาดของมันเทียบเท่ากับมอนสเตอร์ตัวใหญ่ๆ 1 ตัวเลยที่เดียว..

“เอาจริงดิ?…”

คิมแดโฮมองไปยังซากหนวดอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ผู้ตื่นขึ้นที่กำลังปล่อยการโจมตีออกไปเรื่อยๆ ก็มีอาการไม่ต่างกัน

“ฉันก็สงสัยมาตั้งนาน ว่าเขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน”

ตอนแรกคิมแดโฮคิดว่าหน้าที่ของซูฮยอนคือการดึงดูดความสนใจจากคราเคนเพียงอย่างเดียว ด้วยสติปัญญาที่ต่ำต้อยของคราเคน มันจึงเลือกโจมตีเฉพาะคนที่อยู่ใกล้ๆเท่านั้น ซึ่งคนที่อาสารับมือรับเท้านอกจากซูฮยอนก็ไม่มีใครอื่นอีก

หลังจากดึงดูดความคนใจจากคราเคนได้สำเร็จ หน้าที่สร้างบาดแผล ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ตื่นขึ้นที่โจมตีจากระยะไกลๆ แต่เหมือนความคิดของ คิมแดโฮ จะผิดเพี้ยนไป

“ฉันคิดว่าเขาจะรับหน้าที่ถ่วงเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ที่ไหนได้ ฉันกลับคิดผิด”

โฮกกกกกกกกกก

ฉัวะ

ในระหว่างที่ คิมแดโฮ คิดอะไรเพลินๆ ดาบของซูฮยอนก็ตัดหนวดของคราเคนขาดไปอีกเส้น

ด้วยสัญชาตญาณอยากมีชีวิตรอดของคราเคน มันจึงยกหนวดขึ้นมาพันรอบๆร่างของตัวเอง เพื่อป้องกันการโจมตีจากระยะไกลๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ซูฮยอนก็เล็งการโจมตีไปยังจุดอ่อนของมันซ้ำๆโดยไม่ลดละ หลังจากคราเคนเป็นมาตั้งรับ ร่างของมันก็หยุดอยู่กับที่

บึม บึม

สกิลนับไม่ถ้วนบินผ่านสายลมโจมตีคราเคนอีกชุด ซูฮยอนที่ยืนอยู่บนผิวหนังของคราเคนรีบกระโดดหลบการโจมตี..

ซูฮยอนและสมาชิกทุกคนประสานงานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ…หากซูฮยอนสั่งการให้โจมตี ผู้ตื่นขึ้นทุกคนก็พร้อมใจปล่อยสกิลที่ตัวเองถนัดออกไป..

“ตำแหน่งหน้าที่ของพวกเรา ดูไร้ประโยชน์ยังไงชอบกล”ผู้ตื่นขึ้นต่างคิดเป็นเสียงเดียวกัน

ผู้ตื่นขึ้นที่มาโจมตีดันเจี้ยนระดับสีเขียวที่ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า แม้บางคนจะเป็นมือใหม่แต่พวกเขาก็ร่วมมือกับกิลด์ 3 แห่งได้อย่างเข้าขา….

หลังจากผู้ตื่นขึ้นทุกคนปล่อยสกิลและความสามารถที่ตัวเองถนัดเสร็จ พวกเขาสังเกตเห็นว่าซูฮยอนสามารถสร้างบาดแผลให้กับคราเคนได้ง่ายๆ ต่อให้ไม่ต้องมีพวกเขาก็ตาม

“จะว่าไป ฉันเคยได้ยินข่าวว่า เขาปราบบอสดันเจี้ยนระดับสีเขียวในเมืองอันยังด้วยตัวคนเดียว ดูเหมือนจะเป็นความจริง”

วีรกรรมในเมืองอันยัง ทำให้ซูฮยอนถูกยกย่องในเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ S ทั้งๆที่ยังไม่ได้รับการประเมินอย่างเป็นทางการ..

“พอเอาตัวเองไปเทียบกับซูฮยอน ฉันก็เป็นได้แค่เศษฝุ่น” คิมแทคฮยอนบ่นพึมพ่ำออกมา

คิมแทคฮยอน ผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A ในหมู่แรงค์ A ด้วยกัน เขามั่นใจว่าความแข็งแกร่งของตัวเองไม่เป็นสองรองใคร เขามีความเชื่อในใจลึกๆว่าอีกไม่นาน แรงค์ S คงมาอยู่ในมือ แต่พอมาเจอซูฮยอน จิตใจที่มั่นคง กลับเริ่มสั่นคลอน…

“อีกกี่ปีกันแน่ ฉันถึงจะได้แรงค์ S….”

ซูฮยอนใช้เวลาแค่ 2 ปี ก็กระโดดมาจากผู้ตื่นขึ้นหน้าใหม่กลายมาเป็นผู้ตื่นขึ้นชั้นแนวหน้า หากเขายังรักษามาตรฐานให้คงเส้นคงวา คิมแทคฮยอนอยากรู้จริงๆ ว่าซูฮยอนจะเติบโตไปอีกแค่ไหน..

“ถึงไม่รู้ว่าแรงค์ S จะไปถึงวันไหน แต่ฉันก็ควรเดินหน้าต่อไป ห้ามนอกลู่นอกทาง”คิมแทคฮยอนพูดเบา และมองไปยังลีจุนโฮที่ยืนอยู่เคียงไหล่

“หืม…เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?”ลีจุนโฮหันไปมองตาอีกฝ่ายแล้วถาม

คิมแทคฮยอนสายหน้าไปมาก่อนตอบลีจุนโฮว่าไม่มีอะไร….

หลังจากเห็นเขี้ยวเล็บของซูฮยอน การโจมตีดันเจี้ยนที่ถูกความกังวลเข้าครอบงํา กลับถูกสายลมอ่อนๆพัดหายไป

***

ฉัวะ!!!

หนวดอีกเส้นของคราเคนถูกดาบแกรมเชือดจนขาด….หนวดคราเคนไม่ใช้หนวดธรรมดา ต่อให้ถูกตัดขาดไป มันก็งอกออกมาได้ใหม่อยู่ดี

ซูฮยอนคิดว่า การฟื้นฟูของคราเคนน่าจะทำได้รวดเร็วกว่านี้ แต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิด เพราะผ่านมาตั้งนาน หนวดที่ขาดไปก็ไม่ยอมงอกใหม่สักที….

นอกจากเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวด คราเคนที่ตัวใหญ่ยักษ์ สร้างบาดแผลในกับซูฮยอนไม่ได้เลยสักแผล

โฮกกกกกกกกกกกกก

วุป!!!!

ตูม ตูม

เมื่อซูฮยอนเห็นหนวดคราเคนเริ่มฟื้นคืนสภาพเดิม เขาจึงตัดสินใจใช้สกิลกระโดด และ รีบออกท่าดาบเพื่อตัดหนวดที่กำลังงอกใหม่…

ก่อนจากลาซูฮยอนไม่ลืมฝากบาดแผลเอาไว้บนตัวของคราเคนอีกหลายสิบแผล

หลังจากสกิลกระโดดติดคูลดาวน์ ซูฮยอนร่อยลงไปยืนบนซากหนวดยักษ์ และเงยหน้าขึ้นไปมองคราเคน..

“เขามาเลย ถึงเวลาตายของแกแล้ว”ซูฮยอนพูด

หน้าผากของซูฮยอนเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เม็ดเล็กๆ

หลังจากผ่านมาการต่อสู้กับดุลลาฮาน…พักหายเหนื่อยได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซูฮยอนต้องมาเผชิญหน้ากับคราเคนอีก…

กว่าจะตัดหนวดคราเคนได้แต่ละเส้น เขาต้องถ่ายเทพลังเวทย์ลงไปในดาบเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มระยะการฟันและความคม….พลังเวทย์ที่เก็บสำรองเอาไว้ถูกใช้ออกมาเกือบหมด

หากไม่รีบเผด็จศึก ซูฮยอนคงเป็นฝ่ายถูกเผด็จศึกซะเอง

“คราเคนน้อย แกไม่มีขาสำรองแล้วใช่ไหม?”

ซูฮยอนก้มหน้าลงไปนวดขาที่เริ่มปวดเมื่อยและเริ่มออกวิ่งไปมาคราเคนเป็นครั้งสุดท้าย…

เมื่อร่างกายของซูฮยอนเริ่มขยับ คราเคนก็รีบถอยร่นไปด้านหลังด้วยความหวาดกลัว

ราวกับว่าคราเคนรู้ว่า หากยังเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายต่อ ชะตากรรมของมันจะลงเอ่ยเช่นไร

ฟรึบ

ปัง

ร่างกายของซูฮยอนพุ่งออกตัวเหมือนลูกกระสุน จนสายเปล่ามองไม่ทัน ไม่นานซูฮยอนก็ลอยอยู่เหนือหัวคราเคน

โฮกกกกกกก

คราเปิดปากกว้างๆอันน่าสยดสยอง และแล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ปากของคราเคนกลืนกินร่างกายของซูฮยอนเข้าไป..

“คุณซูฮยอน!!!”ผู้ตืนขึ้นที่ยืนอยู่ด้านหลางตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

พวกที่เห็นเหตุการณ์ตั้งหมดไม่เคยคิดมาก่อน ว่าฉากจบของดันเจี้ยนระดับสีเขียวจะได้เห็นซูฮยอนลงไปในท้องของคราเคน แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่มีอาการปกติมากกว่าเพื่อน..

“ทุกคนไม่ต้องตกใจไป มันเป็นแผนการของหัวหน้าทีม”ลีจุนโฮพูด

“อะไรนะ?”คิมแทคฮยอนยืนอยู่ข้างลีจุนโฮ ตะโกนออกมาเสียงดัง เขาอยากรู้จริงๆว่าลีจุนโฮกำลังจะบอกอะไรกันแน่

บูม บูม

ฉึก

บริเวณหัวของคราเคนเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ก่อนเลือดสีขาวใสจะพวยพุ่งขึ้นมาคล้ายสายฝน

ซูฮยอนปีนออกมาจากบาดแผลที่เปิดกว้าง….ก่อนสะบั้นดาบไปอีกชุด

ลมหายใจคราเคนเริ่มรวยรินลงเรื่อยๆ ไม่นานร่างของมันก็ล้มไปนอนกับพื้น..

ซูฮยอนกระโดดลงมาจากซากศพคราเคน ก้นของเขาลงไปนั่งกับพื้นพร้อมผ่อนลมหายใจ

“ฟู่……”

เสมือนเวลาหยุดลง นอกจากเสียงลมหายไม่มีเสียงอย่างอื่นแทรกเลย…ผู้ตื่นขึ้นทุกคนต่างคิดเหมือนกัน ซูฮยอนที่ลงไปในปากของคราเคน คงถูกกรดในกระเพาะกัดกร่อนจนไมเหลือแม้แต่กระดูก แต่ที่ไหน เจ้าตัวกลับรอบโจมตีจากภายในทำให้ คราเคนไม่อาจปัดป้อง สุดท้ายมันก็หนีความตายไม่พ้น…

“พวกเรา…พวกเราชนะแล้ว!!!.” นิยาย อ่านนิยาย

“ยะฮู้ววว จบสักที”

บอสดันเจี้ยนระดับสีเขียวในที่สุดก็สิ้นลมหายใจ ที่สำคัญการโจมตีก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำให้ผู้ตื่นขึ้นที่สนับสนุนอยู่ด้านหลังตะโกนโห่ร้องออกมา

“อย่าพึ่งดีใจไป”

ซูฮยอนแบรกความยินดีของพวกเขา ก่อนสาวเท้าเข้าไปหา “ใครบอกว่า เรื่องทุกอย่างจบแล้ว?”

เสียงตะโกนโห่ร้องด้วยความปิติ เงียบลงไปทันที สีหน้าเยือกเย็นของซูฮยอน ทำให้บรรยากาศรอบๆจริงจังขึ้น

“ยังไม่จบงั้นเหรอ…แล้วเหลืออะไรในจัดการอีกหล่ะ?”

“นั้นสิ อยากบออกนะว่า ยังเหลือมอนสเตอร์ที่ทรงพลังกว่าคราเคนอีก?”

คำพูดของพวกเขาเป็นเพียงการคาดเดา แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมา คราเคนน่าจะเป็นบอสของดันเจี้ยนแห่งนี้ตัวจริงเสียจริง..

ถ้ายังหลงเหลือมอนสเตอร์ที่เก่งกว่าคราเคน แสดงว่าดันเจี้ยนแห่งนี้ ไม่สมควรเรียกว่าระดับสีเขียว

“หัวหน้าทำไมเงียบไป? หรือว่ายังเหลือมอนสเตอร์อยู่จริงๆเหรอ?”

ฝูงผู้ตื่นขึ้นเริ่มมีอาการกระวนกระวายฉายขึ้นบนใบหน้า แต่ซูฮยอนไม่สนใจ เขาเพ่งสายตามองไปยังลีคังฮุยที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังสุด..

“ในหมู่พวกเรา มีคนบางคน ต้องได้รับการลงโทษ”ซูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

คำพูดของซูฮยอน ทำให้กระดูสันหลังของลีคังฮุยสั่นระริก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซูฮยอนกำลังพูดถึงเขาอยู่…

“ฉันให้เวลา 10 วินาที ใครรู้ตัวว่าตัวเองทำผิด รีบก้าวออกมาด้านหน้าซะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด