ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว นับตั้งแต่พวกอาร์ทโชว์หายตัวไป

พระราชาขอร้องอย่างยิ่งให้ผู้กล้าจัดการกองทัพจอมมารที่วางกำลังอยู่ที่นอกกำแพงปราสาทให้ แต่ผู้กล้าผมบลอนด์ปฏิเสธแบบหัวชนฝา

พระราชาไม่มีทางเลือกจึงสั่งบัญชาให้ใช้เวทย์ชำระล้างแห่งอาณาจักรเวทมนตร์ไคน์โร้จ เพื่อให้กองทัพจอมมารล่าถอยไปซะ
แต่เพราะพลังเวทย์ที่อยู่ในร่างกายของเหล่าจอมเวทย์หลวงชั้นสูงต่างหมด กลายเป็นว่าจะใช้เวทมนตร์ไม่ได้อีกราวๆ 2 ถึง 3 ปี
พระราชาจึงต้องใช้พลังเวทย์ของตัวเองจนถึงขีดสุด ทำให้อยู่ในอาการโคม่า
ดังนั้นเจ้าหญิงคนโตจึงรับช่วงต่อบัลลังก์แทนพระราชาที่อยู่ในอาการโคม่า

เวทย์ที่นำมาชำระล้างนั้นคือเวทย์ที่อาร์ทโชว์เคยใช้กับป่าเดลาเบซ่า โดยใช้เวทย์ไป 1 ใน 3 ของอาร์ทโชว์ (มันฟื้นฟูพลังเวทย์แค่ 2 นาทีก็เต็มแล้ว)

ทางด้านกองทัพจอมมาร
ถึงแม้ว่าจะต้องถอยเพราะเวทย์ชำระล้าง ซึ่งทางอาณาจักรใช้เวลาถึง 3 วัน 3 คืน ในการร่ายมนต์ แต่เพราะทางกองทัพจอมมารรู้ตัวก่อน จึงได้ถอยทัพเพื่อให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
ดังนั้นแม้ดินแดนจะถูกชำระล้างแต่ก้ไม่มีมอนสเตอร์ของกองทัพจอมมารตัวใดเลยที่ตาย เพราะถอยทัพไปก่อนนั้นเอง

เมื่อกองทัพจอมมารถอยทัพไปแล้ว จู่ๆ ผู้กล้าผมบลอนด์ก็บอกว่าอยากเดินทางไปฝึกที่ทางใต้ 
มอนสเตอร์ทางใต้ถ้าเทียบกับทางเหนือที่จอมมารวางกำลังไว้แล้ว ระดับต่างกันแบบเห็นชัดๆ 
ซึ่งทำให้ทางใต้เหมาะกับการฝึก (มีแต่มอนอ่อนๆ) เพราะหากผู้กล้าจะต่อสู้กับจอมมารตอนนี้ เขายังอ่อนแอเกินไป
ไร้ซึ่งการสนใจใครทั้งสิ้น ผู้กล้าผมบลอนด์พอถึงป้อมทางใต้ก็ปิดตัวเป็นฮิคิโคโมริอีกครั้ง พร้อมบอกให้เจ้าหญิงคนโตนำอาหารและผู้หญิงมาให้ 
เพราะทำอะไรกับสถานการณ์นี้ไม่ได้ เจ้าหญิงจึงตัดสินทิ้งผู้กล้าผมบลอนด์ไว้เช่นนั้น
โดยในใจเจ้าหญิงอยากจะอัญเชิญผู้กล้าคนใหม่แทบแย่ แต่การใช้เวย์อัญเชิญผู้กล้าเป็นเวทย์ที่มีความบริสุทธิ์ระดับสูง ทั้งยังต้องใช้จอมเวทย์ระดับสูงจึงจะสามารถเรียกผู้กล้าได้ และจอมเวทย์ระดับสูงตอนนี้อยู่ในอาการโคม่าแทบจะทุกคนจึงอัญเชิญไม่ได้

เจ้าหญิงจึงไปถามจากนั้นจอมเวทย์ชั้นสูงผู้หนึ่งที่คงสติไว้ไม่อยู่ เพราะหากสูญเสียพลังเวทย์ไปมากกว่าครึ่งจะคงสติไว้ไม่ได้ จอมเวทย์ชั้นสูงผู้นั้นตอบเธอว่า
“ความจริงผู้กล้าถูกอัญเชิญมาแล้ว แต่ทุกคนกลับเมินเขา”

เขาบอกออกมาเช่นนั้น
และผู้ทำนายในปราสาทต่างบอกว่าอาร์ทโชว์ที่หายตัวไปเพราะการกระทำที่โง่เขลาของผู้กล้านั้นแหละ คือผู้กล้าตัวจริง

จนถึงตอนนี้ก็ยังมีคำสั่งให้ออกตามหาตัวอาร์ทโชวือยู่ เพื่อให้เขาเข้าร่วมปาร์ตี้กับผู้กล้าผมบลอนด์เพื่อปราบจอมมาร แต่เจ้าหญิงคนโตเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นการหาตัวผู้กล้าตัวจริง ซึ่งก็คืออาร์ทโชว์
แต่ผู้กล้าผมบลอนด์ที่ได้ยินข่าวนี้ก็เริ่มดำเนินแผนลับ…

…ขณะเดียวกันกับที่อาณาจักรทางใต้กำลังวุ่นวาย
“ท่านฟุริโอ้ โล่นี้.. ทำขึ้นจากเกล็ดมังกรจริงๆ เหรอ?”
เจ้าของร้านขายอาวุธกลืนน้ำลายขณะมองไปยังโล่ที่ชายผู้ฟูริโอ้นำมา

“ต้องแน่อยู่แล้วครับนายท่าน โล่นี้เป็นของที่ดีที่สุดที่ผมได้จากเส้นทางลับๆ ทางการค้าส่วนตัวเชียวนะ”
ฟูริโอ้หัวเราะ

เจ้าของร้านมองไปที่โล่และยิ้มให้ฟูริโอ้หลายต่อหลายครั้ง
“ราคาก็สมเหตุผลสมผลดี ถ้ามีอาวุธที่ทำจากมังกรอีกก็มาขายให้ร้านฉันล่ะ!”
แล้วเขาก็ยื่นถุงที่เต็มไปด้วยทองคำให้อาร์ทโชว์

เมืองโฮทาโร่
เมืองการค้าที่ห่างไกลทางตะวันออกจากอาณาจักร 
ผิดกับเมืองที่อยู่ด้านล่างปราสาท ที่เมืองนี้มีเผ่าพันธุ์ต่างๆ อยู่มากมาย และยังมีทั้งนักผจญภัยและพ่อค้า

ฟูริโอ้เดินเข้าบ้าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชานเมือง
“ท่านสามี ยินดีต้อนรับกลับค่ะ!”
หญิงสาวซึ่งเหมือนจะเป็นภรรยาของเขา กอดฟูริโอ้แน่น 
พวกเขาจูบและทักทายกัน 
“ผมกลับมาแล้วลิซ”
ฟูริโอ้ยิ้มและกอดภรรยาของเขาอีกครั้ง

ฟูริโอ้คือหนึ่งในชื่อเล่นของบานาซ่า เหมือนกับอาร์ทโชว์
ที่เมืองนี้บานาซ่าเรียกตัวเองว่าฟูริโอ้และอยู่ในฐานะพ่อค้าเร่
ถึงแม้พวกเขาจะมีเงินมากมายจนเกลื่อนกลาดบ้านและไม่จำเป็นต้องทำงานเลยก็ได้ แต่ฟูริโอ้เป็นคนชอบทำงาน ตอนนี้จึงทำงานเป็นพ่อค้าอยู่ทุกวัน

“โล่ที่ผมทำจากเกล็ดมังกรของกองทัพมังกรนี้ขายได้ราคาค่อนข้างสูงเลยนะ”
“ท่านสามีจะทำอะไรก็ได้ทุกอย่างเลยจริงๆ นะคะ ถึงเวลามองโล่นั้น ฉันจะเลือดร้อนก็เถอะ”
ลิซพูดแล้วยิ้ม
อนึ่งเธอคืออดีตปีสาจระดับสูงนะ

ฟูริโอ้นำซากมังกรและซากมอนสเตอร์ที่ฟูริโอ้เคยปราบได้เก็บไว้ในกระเป๋าเวทมนตร์ แล้วนำมาสร้างเป็นอาวุธหรืออุปกรณ์เวทย์มาขายในเมือง แต่จะมีคนมาสั่งซื้อมากเกินไป เขาเลยบอกว่าได้มาจากเส้นทางการค้าลับๆ 

ตอนนี้ 
อัศวินหญิงวาลิซซ่ากำลังล่าสัตว์ในป่าใกล้ๆ บ้าน ด้วยอาวุธและชุดเกราะที่ฟุริโอ้ทำให้ แต่ว่ายังไม่ได้ทำแหวนเสริมพลังให้เธอหรอกนะ
นักดาบหญิงโบลแซมกำลังดูแลสวนหลังบ้าน 
ถึงโลกนี้จะมีคนมากมายอยู่แค่ไหน แต่คงมีแค่เธอคนเดียวนี้ล่ะที่ใช้อุปกรณ์ทำสวนที่ทำจากเกล็ดมังกร

นักธนูหญิงบิลลี่ ปลูกหญ้าอยู่ถัดไปจากสวน และกำลังดูแลม้าและวัว
เธอมีรายได้มากมายจากการให้พ่อค้าเช่ายืมม้า

ส่วนทางด้านนักเวทย์หญิงเบลาโน่ กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนเวทมนตร์ในเมือง
เบลาโน่ที่มีเวทย์โจมตีเป็นศูนย์ ตอนนี้กำลังศึกษาเวทย์มนตร์โจมตีอยู่

สุดท้ายก็คือซาแบร์ เพราะรูปร่างหมีมันเด่นสะดุดตาเกินไป ฟูริโอ้จึงใช้เวทย์เปลี่ยนรูปร่างให้เป็นกระต่ายเขาเดียวซะ และมันมักจะตามวาลิซซ่าไปล่าสัตว์อยู่บ่อยๆ พร้อมส่งเสียง ฟันซุ ฟันซุ 
แต่ถึงมันจะเป็นกระต่ายก็เถอะ แต่ล่าสัตว์ได้มากกว่าวาลิซซ่าซะอีก ….

ภาพของกระต่ายเขาเดียวฮะ