[นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ 46 นี่เป็นความผิดปกติที่น่ากลัวมากในโลกนี้

Now you are reading [นิยายแปล] วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ Chapter 46 นี่เป็นความผิดปกติที่น่ากลัวมากในโลกนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิ” (คูฟา)

 

หลังจากออกจากสถานที่สอบแล้ว คูฟาก็วิ่งตามมา

 

“อ๊ะ! อาจารย์! ผมกำลังตามหาอยู่เลย!” (ไคท์)

 

นอกจากนี้ไคท์ก็ปรากฏตัวขึ้นมา และวิ่งเข้ามาหาเช่นเดียวกัน

 

“เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย? ทำไมนายถึงใช้เวทมนตร์สีน้ำเงินที่ทรงพลังขนาดนั้นได้!?” (คูฟา)

 

“นี่มันหมายความว่ายังไงครับอาจารย์!? ที่ไปสอบเข้าที่สถาบันอื่นเนี่ย!” (ไคท์)

 

ผมไม่อยากให้พวกเขาทั้งสองคนคุยกับผมในเวลาเดียวกันเลย

 

โชคดีนะที่ผมสามารถตอบคำถามของพวกเขาทั้งสองได้พร้อมกัน

 

“ผมสามารถใช้เวทมนตร์สีแดง และสีน้ำเงินได้” (อาเรล)

 

ไคท์มองไกลออกไป

 

“เอ๋? อาจารย์สามารถใช้เวทมนตร์สีน้ำเงินได้ด้วยงั้นเหรอ!?” (ไคท์)

 

คูฟาตะโกนออกมาจากด้านข้าง

 

“นี่มันไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆเลยนะ!” (คูฟา)

 

แล้วเธอก็หันมาทางผม

 

“เนะ~ นายควรมุ่งเน้นไปที่เวทมนตร์สีน้ำเงินอย่างจริงจังนะ!” (คูฟา)

“หา? เธอกำลังพูดอะไรนะ?” (ไคท์)

 

คราวนี้เป็นเสียงของไคท์ที่ดังขึ้นมาเพื่อหยุดบทสนทนา

 

“อาจารย์คือคนที่จะครองตำแหน่งสูงสุดในเวทสีแดงนะ! เขาไม่มีเวลาว่างที่จะไปเรียนเวทสีน้ำเงินหรอก! เพราะเขาคือคนที่สามารถละลายเป้าที่ทำจากมิธริลในการสอบได้” (ไคท์)

 

“นั่นมันอะไรนะ! เขาเพิ่งยิงคมมีดน้ำแข็ง 40 อันในเวลาเดียวกันนะ และยังทำให้พวกมันเขาเป้าในเวลาเดียวกัน! นอกจากนั้นยังทะลุมิธริลได้อีก! นั่นถือเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของเวทสีน้ำเงินเลย! นาย นายไม่เห็นมันงั้นเหรอ!? มันน่าเสียดายมากเลยนะ!” (คูฟา)

“ฉันจะดูได้ยังไงล่ะ! ฉันเพิ่งมาถึงที่นี่เอง! ฉันหมายถึง ฉันอยากจะคืนคำนั้นให้กับเธอที่ไม่ได้เห็นเวทสีแดงของอาจารย์! มันน่าเสียดายสำหรับเธอนะ!” (ไคท์)

 

นี่ อย่าทะเลาะกันในสถานที่แบบนี้สิ

 

“ผู้ใช้เวทสีแดงนั้นมีแต่คนโง่ ที่คิดว่ายิ่งพลังเยอะยิ่งดี! ซึ่งเวทสีน้ำเงินนั้นในเชิงกลยุทธ์และศิละปะนั้นจะดีกว่านะ!” (คูฟา)

“อย่ามาล้อเลียนเวทสีแดงนะ ถ้างั้นแล้วอะไรคือกลยุทธ์ล่ะ พลังในการทำลายก็ต่ำ และทำได้เพียงแค่สร้างความเสียหายเท่านั้น! มันช่างไร้สาระจริงๆเลย!” (ไคท์)

“เวทน้ำแข็งนั้นมีพลังทำลายมากกว่าเวทสีแดงนะ!” (คูฟา)

“เนื่องจากว่ามันต้องใช้เวลาในการเปิดใช้งาน ดังนั้นผู้คนจึงไม่ค่อยใช้มันยังไงล่ะ!” (ไคท์)

 

…..นอกจากนี้ การโต้เถียงกันระหว่างความเหนือกว่าและด้อยกว่าของเวทมนตร์สีแดงและเวทมนตร์สีน้ำเงินก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว

การโต้เถียงกันครั้งนี้น่าจะไม่มีวันสิ้นสุด

 

ผมทิ้งพวกเขาทั้งสองเอาไว้ และตัดสินในมุ่งหน้าไปสถานที่สอบถัดไปตามลำพัง

สถานที่ที่ใกล้ที่สุดดูเหมือนจะเป็นสถาบันสีเขียวนะ

 

เมื่อผมพยายามที่จะเข้าไปในอาคาร ผมก็พบกับคนที่หมอบอยู่ด้านหลังของอาคารสถาบัน

ผมพยายามที่จะเข้าไปใกล้

 

“ฮือ~…เพราะว่าฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉัน….แต่…แต่ฉันคิดว่าฉันไม่อยากจะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง และต้องกลับบ้านตามลำพัง…ฉันไม่ต้องการแบบนั้น” (คอลเล็ต)

“แล้วเธอกำลังทำอะไรนะ?” (อาเรล)

“กรี๊ดดด!?” (คอลเล็ต)

 

เมื่อผมพูดจากทางด้านหลังเธอ เธอก็มองกลับมาที่ผม จากนั้นเธอก็ตกใจจนตัวกระโดด

 

เธอคือคอลเล็ต เด็กผู้หญิงที่มาที่เมืองนี้ด้วยกันกับไคท์และคูฟา 

 

“อ๊ะ? นั่นมัน….คุณอาเรล”

 

พูดถึงเรื่องนั้น เธอไม่ได้บอกว่าจะสอบเข้าที่สถาบันสีเขียวงั้นเหรอ

 

“อ-เอ่อ~นั้นสินะ…? เอ่อ-คุณอาเรล ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้…?” (คอลเล็ต)

“ผมมาที่นี่เพื่อสอบนะ” (อาเรล)

“เอ๋~” (คอลเล็ต)

 

คอลเล็ตทำตาโตด้วยความตกตะลึง

แต่ว่ามันยุ่งยากถ้าจะให้อธิบายตั้งแต่ต้น

 

“แล้วเธอล่ะมาทำอะไรที่นี่? เกิดอะไรขึ้นกับการสอบงั้นเหรอ?” (อาเรล)

“เอ่อ คือ~…จ-จริงๆแล้ว…” (คอลเล็ต)

 

ผมได้ยินมาว่าเธอนั้นกลัวการสอบ นอกจากนี้เธอยังกรอกใบสมัครไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ

 

ถ้าอย่างงั้นแล้ว ทำไมเธอถึงกลัวการสอบนักล่ะ

การสอบของสถาบันสีเขียวมันยากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ มันยากขนาดทำให้ผู้เข้าสอบหมอบลงเลยเหรอ

 

ดูเหมือนว่านักเรียนที่สอบเข้า จะได้รับการคัดเลือกที่เข้มงวดมากกว่าสถาบันสีแดงและสถาบันสีน้ำเงินนะ

 

“ฉ-ฉันเป็นคนประเภทที่กังวลมากจนทำให้ที่กลัวค่ะ… ค-คุณอาเรล เอ่ออ เวลาคุณกังวล คุณรับมือกับมันยังไงเหรอค่ะ…?” (คอลเล็ต)

 

คอลเล็ตถามออกมาด้วยความกลัว

 

อืม เวลากังวลงั้นเหรอ

แน่นอนว่ามันเป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน…

 

“น่าเสียดายนะ แต่ผมไม่เคยรู้สึกกังวลเลย” (อาเรล)

“ไม่เคยเลยงั้นเหรอค่ะ” (คอลเล็ต)

 

นั่นมันทำให้เธอประหลาดใจมากงั้นเหรอ?

 

“เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ผมรู้สึกว่า ผมไม่เข้าใจว่าความกังวลคืออะไรตั้งแต่แรก” (อาเรล)

“ตั้งแต่แรกงั้นเหรอ!?…ต-ตอนนี้ฉันตัวสั่นจนคิดอะไรไม่ออกเลย…” (คอลเล็ต)

 

ร่างกายของเธอสั่น และเธอก็คิดอะไรไม่ออก

นั่นเป็นเงื่อนไขที่ทำให้กลัวงั้นเหรอ?

 

“มันจะหายได้โดยพรคุ้มกันศักดิ์สิทธิ์ หรือเวทสีขาวรึเปล่านะ?” (อาเรล)

“ม-มันไม่เหมือนกับอาการบาดเจ็บหรืออาการป่วยหรอกค่ะ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ผล”

 

ถ้าแบบนั้นแล้ว

มันน่าจะเป็นสภาวะผิดปกติที่น่ากลัวมากในโลกเลยนะ…

 

“งั้นเธอตกอยู่ในสภาวะผิดปกติที่เรียกว่าความกังวลได้อย่างไร?” (อาเรล)

“ค-ความผิดปกติงั้นเหรอ…? เอ่ออ~ อืมม…คงเป็นเพราะฉันกังวลที่จะทำผิดพลาดค่ะ” (คอลเล็ต)

 

หือ…?

 

“ผมขอถามอย่างหนึ่งได้ไหม?” (อาเรล)

“ค-ค่ะ…?” (คอลเล็ต)

“เธอไม่เคยทำผิดพลาดในชีวิตเลยงั้นเหรอ?” (อาเรล)

“????” (คอลเล็ต)

 

คอลเล็ตนั้นสับสน เนื่องจากคำถามของผมนั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

ไม่ ผมต่างหากที่แปลกใจมากกว่า

 

“ถ้าหากเธอพยายามหลีกเลี่ยงความผิดพลาด แสดงว่าเธอไม่เคยทำผิดพลาดเลยสินะ” (อาเรล)

 

จริงๆแล้วเด็กผู้หญิงคนนี้ อาจจะปกปิดความสามารถของเธอเอาไว้ ซึ่งตรงข้างกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ

 

“ไม่! ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ ชีวิตของฉันนั้นเต็มไปด้วยความผิดพลาด และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันกลัว” (คอลเล็ต)

“….?” (อาเรล)

 

นั่นมันอะไรนะ?

ผมรู้สึกว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้มันไม่สัมพันธ์กันเลย

 

“มันหมายความว่ายังไงงั้นเหรอ? ถ้าหากเธอเคยทำผิดพลาดซ้ำๆ ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงพยายามหลีกเลี่ยงมันขนาดนั้น” (อาเรล)

“…อ เอ่อ?” (คอลเล็ต)

 

ผมพูดกับคอลเล็ตที่มีสีหน้าเขินอาย

 

“ความผิดพลาดนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าหากเธอเคยมีประสบการณ์มาหลายครั้ง เธอก็น่าจะรู้จักมันนะ…” (อาเรล)

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด