[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu 20 อรุณของค่ำคืนแห่งการหักหลังและความเศร้าโศก (ตอนต้น)

Now you are reading [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu Chapter 20 อรุณของค่ำคืนแห่งการหักหลังและความเศร้าโศก (ตอนต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในยามเช้าตรู่……

ณ ห้องหนึ่งในโรงแรมอันสวยงาม

ผมกำลังเพลิดเพลินไปกับน้ำหนักอันอ่อนนุ่มและสุขใจในอ้อมอก

ในอ้อมอกของผมคือหญิงสาว…… ใช่ครับ เธอคือรุ่นพี่ซากุระจิมะ โทวโกะ

ตั้งแต่เมื่อคืน ผมเรียกเธอว่า “โทวโกะ” แล้วก็เถอะ

เธอทำสีหน้าอันสงบสุข นอนหายใจอยู่ดูน่ารักน่าชัง

 

เรื่องหนึ่งเมื่อคืนวาน ตอนที่รู้ความจริงที่ว่าแฟนเก่าของผมคาเรน กับแฟนเก่าของโทวโกะ คาโมกุระ กำลังนอกใจต่อหน้าต่อตา

คนที่คอยปลอบประโลมใจที่แตกสลายของโทวโกะก็คือตัวเรา

จากนั้น พวกเราก็…… เพื่อเติมเต็มบาดแผลจิตใจของกันและกัน เผยความปรารถนาต่อเธอ

เธอในตอนนี้ ภายหลังสัมผัสที่หลงเหลือเมื่อแต่ยามค่ำคืนวาน คงจะกำลังลิ้มรสนิทราอันน่าสุขใจอยู่เป็นแน่

 

“โทวโกะ”

 

พอผมเรียกชื่อของเธอเสียงเล็ก พลางยื่นมือไปค่อย ๆ สัมผัสริมฝีปากจางอันนุ่มนวลนั้น

แตะไว้อย่างอ่อนโยน

โทวโกะลืมตาขึ้นมาสลัว

 

“ยูว?”

 

“อรุณสวัสดิ์”

 

เมื่อนั้น ยิ่งไปกว่าการทักทายยามเช้า เธอโถมตัวเข้ามาในอกของผม

 

“จากนี้ อยู่ด้วยกันไปตลอดเลยนะ ยูว”

 

“อา ตลอดชีวิตนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยโทวโกะไปเลย เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

 

มือก็สัมผัสแนบหน้าอกอันตึงแน่นของเธอ

 

“อ้ะ”

 

เพียงเท่านั้น เธอก็หลุดหายใจเสียงหวาน

ในตอนนั้นพวกเราสองคน ก็แนบซ้อนร่างกายเข้าราวกับจะมองหากันและกัน

 

ใช่ครับ

พวกเราได้ก้าวผ่านความรู้สึกอันน่าเจ็บปวดของกันและกัน ณ บัดนั้นที่นั้น เราก็ได้พบกับความรักที่แท้จริงจนได้

 

 

 

“——ช่วยเลิกบรรยายพรรณนาอะไรตามอำเภอใจได้รึยัง?”

 

ผมพูดไปตรง ๆ ด้วยสีหน้าไม่พึงใจ

ถ้าปล่อยหมอนี่ไว้ต่อไป ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องเพ้อฝันตามใจชอบต่อไปไหนต่อไหนแล้วกระมัง

 

“อะไรว้า ถ้าไปถึงขนาดนั้นแล้ว มันก็ต้องทำเรื่องนั้นกันแล้วสิ ยูว!”

 

คนที่พูดอยู่ก็คืออิชิดะ โยตะ ซึ่งกำลังซดกาแฟยามเช้าอยู่

ที่นี่คือร้านอาหารครอบครัวบนทางหลวงหมายเลข 14 ซึ่งเชื่อมระหว่างชิบะกับโตเกียว

พวกเราชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่ที่นั่นตั้งแต่เก้าโมงเช้า

 

“แกเนี่ยน้า~ อีกฝ่ายเป็นถึงรุ่นพี่โทวโกะคนนั้นเลยนะ? คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

พอผมขึ้นเสียงใส่ อิชิดะก็ยกมือซ้ายขึ้นมาโบกซ้ายขวา

แปลว่า ‘ไม่หรอก ๆ’

 

“ถึงจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ จังหวะนั้นผู้ชายมันต้องไปให้สุดสิว้า นี่อะไร? อยู่กับรุ่นพี่โทวโกะที่กำลังร้องไห้อยู่อย่างนั้นสักพัก พอเฝ้ามองอพาร์ทเมนท์จนหมดเวลารถไฟขบวนสุดท้าย ก็เลยไปส่งเธอกลับบ้านครับ? อะไรกันครับเนี่ย เป็นเด็กมัธยมปลายใส ๆ รึไงเอ็งน่ะ?

 

“หนวกหูน่า เราอะนะ ไม่ใช่พวกคนทรามขนาดที่ว่าจะอาศัยประโยชน์ตอนที่ผู้หญิงกำลังจิตใจอ่อนแอมาทำให้เธอมาเป็นของเราอย่างงั้นหรอกนะเว้ย!”

 

ไม่สิ อันที่จริงถ้าทำเรื่องนั้นได้ก็คงจะทำไปแล้วนั่นแหละ

แต่ถ้าคิดจะทำอย่างนั้นล่ะก็ ยังไงรุ่นพี่โทวโกะจะต้องยืนกรานปฏิเสธอย่างแน่นอน

เธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นแหละ

 

“โถ่เอ้ย แกหนอ พลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ไปซะได้ ถ้าทำดี ๆ ล่ะก็ อาจจะกลายเป็นเรื่องราวแบบที่เราเล่ามาตะกี้ไปแล้วก็ได้นะ”

 

“จินตนาการล้ำเลิศดีเหลือเกินนะ ไปเป็นพวกนักแต่งนิยายกับคนเขียนบทละครไป”

 

“โอ๋ ก็เข้าท่าดีเนอะ ถ้าทุกอย่างลงตัวดีแล้ว เอาเรื่องนี้ไปโพสต์เป็นเว็บโนเวลในเน็ตดีมั้ยนะ?”

 

“แกนี่ ถ้าทำแบบนั้นจะเลิกคบแล้วจริง ๆ ด้วย”

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ถ้าแต่งนิยายล่ะก็ มีแต่ตอนแฮปปี้เอนดิ้งอยู่แล้วล่ะ”

 

พอพูดอย่างนั้นอิชิดะก็หัวเราะ

ไอนี่นิ เป็นห่วงกันจริงป่าวเนี้ย?

มันไม่ใช่เรื่องน่าตลกเลยนะ

 

“ต่อจากนี้จะทำอะไรต่อไปหรอ?”

 

จู่ ๆ อิชิดะก็ถามมาด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“อะไรคือ?”

 

“ในที่สุดก็ได้ทำจริง ๆ ซะทีสินะ? ‘แผนการเล่นงานแบบที่ร้ายที่สุด ตอนที่อีกฝ่ายตกหลุมรักเรามากที่สุด’ น่ะ”

 

“นั่นสิน้า……”

 

ผมดื่มกาแฟพลางคิดไปพลาง

 

แผนการที่ว่า ‘บอกเลิกกันในตอนที่อีกฝ่ายหลงรักเรามากที่สุด เพื่อไปนอนด้วยกันกับคนอื่น’

 

ถ้าเป็นรุ่นพี่โทวโกะล่ะก็ เรื่องนั้นก็คงเป็นไปได้อยู่หรอก

เอาจริง ๆ เท่าที่ผมสังเกตเห็น คาโมกุระก็ยังรักรุ่นพี่โทวโกะอยู่

 

แต่ตัวเราในตอนนี้ จะสามารถทำให้คาเรน ‘หลงรักหัวปักหัวปำถึงขึ้นว่าไม่อยากจะจากกันไปเลย’ อะไรเทือกนั้นได้จริง ๆ เหรอ?

พอนึกถึงตอนที่โทรศัพท์คุยกับคาเรนเมื่อวันก่อน เหมือนว่าความรู้สึกของคาเรนได้ห่างเหินไปจากผมซะแล้วสิ

ลำพังแค่ ‘เรียกคืนหัวใจของอีกฝ่ายที่ห่างหายกันไป’ แค่นั้นก็ยากแล้ว เรื่อง ‘ทำให้รักเราถึงขั้นสุด’ นี่แทบเป็นไปไม่ได้เลยไม่ใช่หรือไงกัน?

 

“ตอนนี้ ก็คงจะรอให้รุ่นพี่โทวโกะคิดแผนการอะไรขึ้นมาละมั้ง……”

 

“อะไรกัน พึ่งคนอื่นอีกแล้วเรอะ? เรื่องของตัวเองแท้ ๆ นะนั่น”

 

“มันก็ช่วยไม่ได้นิ? ถ้าเรื่อง ‘วิธีการทำให้ผู้หญิงตกหลุมรัก’ มันเข้าใจง่ายขนาดนั้น คงจะไม่ต้องมาลำบากกันแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอกเว้ย!”

 

ผมตอบกลับไปแบบเคือง ๆ อิชิดะก็เอนหลังลงไปพิงหลังเก้าอี้

 

“ก็จริงอะน้า ‘วิธีทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่อยากจะเลิกกันเลย’ เนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกเนอะ ถ้ามันเป็นไปได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นตั้งแต่ต้น โลกเราคงจะไม่มีคู่รักไหนที่เลิกกันแล้วแหละ”

 

พูดอะไรเรื่อยเปื่อย

แต่ว่า…… มันก็คงงั้นจริง ๆ แหละ

 

หลังจากนั้น สิ่งที่ผมต้องกังวล ไม่ได้มีแค่เรื่องนั้นอย่างเดียว

เราจะต้องถูกเลือกให้เป็น ‘คู่นอนในค่ำคืนนั้นของรุ่นพี่โทวโกะ ในคราวชี้ชะตาวาระสุดท้าย’ ให้ได้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ก็โคตรยากทั้งนั้น เป็นเกมที่ไม่มีวันเอาชนะได้เลยสินะเนี่ย?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu 20 อรุณของค่ำคืนแห่งการหักหลังและความเศร้าโศก (ตอนต้น)

Now you are reading [นิยายแปล] Kanojo ga Senpai ni NTR-reta node, Senpai no Kanojo wo NTR-masu Chapter 20 อรุณของค่ำคืนแห่งการหักหลังและความเศร้าโศก (ตอนต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในยามเช้าตรู่……

ณ ห้องหนึ่งในโรงแรมอันสวยงาม

ผมกำลังเพลิดเพลินไปกับน้ำหนักอันอ่อนนุ่มและสุขใจในอ้อมอก

ในอ้อมอกของผมคือหญิงสาว…… ใช่ครับ เธอคือรุ่นพี่ซากุระจิมะ โทวโกะ

ตั้งแต่เมื่อคืน ผมเรียกเธอว่า “โทวโกะ” แล้วก็เถอะ

เธอทำสีหน้าอันสงบสุข นอนหายใจอยู่ดูน่ารักน่าชัง

 

เรื่องหนึ่งเมื่อคืนวาน ตอนที่รู้ความจริงที่ว่าแฟนเก่าของผมคาเรน กับแฟนเก่าของโทวโกะ คาโมกุระ กำลังนอกใจต่อหน้าต่อตา

คนที่คอยปลอบประโลมใจที่แตกสลายของโทวโกะก็คือตัวเรา

จากนั้น พวกเราก็…… เพื่อเติมเต็มบาดแผลจิตใจของกันและกัน เผยความปรารถนาต่อเธอ

เธอในตอนนี้ ภายหลังสัมผัสที่หลงเหลือเมื่อแต่ยามค่ำคืนวาน คงจะกำลังลิ้มรสนิทราอันน่าสุขใจอยู่เป็นแน่

 

“โทวโกะ”

 

พอผมเรียกชื่อของเธอเสียงเล็ก พลางยื่นมือไปค่อย ๆ สัมผัสริมฝีปากจางอันนุ่มนวลนั้น

แตะไว้อย่างอ่อนโยน

โทวโกะลืมตาขึ้นมาสลัว

 

“ยูว?”

 

“อรุณสวัสดิ์”

 

เมื่อนั้น ยิ่งไปกว่าการทักทายยามเช้า เธอโถมตัวเข้ามาในอกของผม

 

“จากนี้ อยู่ด้วยกันไปตลอดเลยนะ ยูว”

 

“อา ตลอดชีวิตนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยโทวโกะไปเลย เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”

 

มือก็สัมผัสแนบหน้าอกอันตึงแน่นของเธอ

 

“อ้ะ”

 

เพียงเท่านั้น เธอก็หลุดหายใจเสียงหวาน

ในตอนนั้นพวกเราสองคน ก็แนบซ้อนร่างกายเข้าราวกับจะมองหากันและกัน

 

ใช่ครับ

พวกเราได้ก้าวผ่านความรู้สึกอันน่าเจ็บปวดของกันและกัน ณ บัดนั้นที่นั้น เราก็ได้พบกับความรักที่แท้จริงจนได้

 

 

 

“——ช่วยเลิกบรรยายพรรณนาอะไรตามอำเภอใจได้รึยัง?”

 

ผมพูดไปตรง ๆ ด้วยสีหน้าไม่พึงใจ

ถ้าปล่อยหมอนี่ไว้ต่อไป ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องเพ้อฝันตามใจชอบต่อไปไหนต่อไหนแล้วกระมัง

 

“อะไรว้า ถ้าไปถึงขนาดนั้นแล้ว มันก็ต้องทำเรื่องนั้นกันแล้วสิ ยูว!”

 

คนที่พูดอยู่ก็คืออิชิดะ โยตะ ซึ่งกำลังซดกาแฟยามเช้าอยู่

ที่นี่คือร้านอาหารครอบครัวบนทางหลวงหมายเลข 14 ซึ่งเชื่อมระหว่างชิบะกับโตเกียว

พวกเราชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งอยู่ที่นั่นตั้งแต่เก้าโมงเช้า

 

“แกเนี่ยน้า~ อีกฝ่ายเป็นถึงรุ่นพี่โทวโกะคนนั้นเลยนะ? คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

พอผมขึ้นเสียงใส่ อิชิดะก็ยกมือซ้ายขึ้นมาโบกซ้ายขวา

แปลว่า ‘ไม่หรอก ๆ’

 

“ถึงจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ จังหวะนั้นผู้ชายมันต้องไปให้สุดสิว้า นี่อะไร? อยู่กับรุ่นพี่โทวโกะที่กำลังร้องไห้อยู่อย่างนั้นสักพัก พอเฝ้ามองอพาร์ทเมนท์จนหมดเวลารถไฟขบวนสุดท้าย ก็เลยไปส่งเธอกลับบ้านครับ? อะไรกันครับเนี่ย เป็นเด็กมัธยมปลายใส ๆ รึไงเอ็งน่ะ?

 

“หนวกหูน่า เราอะนะ ไม่ใช่พวกคนทรามขนาดที่ว่าจะอาศัยประโยชน์ตอนที่ผู้หญิงกำลังจิตใจอ่อนแอมาทำให้เธอมาเป็นของเราอย่างงั้นหรอกนะเว้ย!”

 

ไม่สิ อันที่จริงถ้าทำเรื่องนั้นได้ก็คงจะทำไปแล้วนั่นแหละ

แต่ถ้าคิดจะทำอย่างนั้นล่ะก็ ยังไงรุ่นพี่โทวโกะจะต้องยืนกรานปฏิเสธอย่างแน่นอน

เธอเป็นผู้หญิงแบบนั้นแหละ

 

“โถ่เอ้ย แกหนอ พลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ไปซะได้ ถ้าทำดี ๆ ล่ะก็ อาจจะกลายเป็นเรื่องราวแบบที่เราเล่ามาตะกี้ไปแล้วก็ได้นะ”

 

“จินตนาการล้ำเลิศดีเหลือเกินนะ ไปเป็นพวกนักแต่งนิยายกับคนเขียนบทละครไป”

 

“โอ๋ ก็เข้าท่าดีเนอะ ถ้าทุกอย่างลงตัวดีแล้ว เอาเรื่องนี้ไปโพสต์เป็นเว็บโนเวลในเน็ตดีมั้ยนะ?”

 

“แกนี่ ถ้าทำแบบนั้นจะเลิกคบแล้วจริง ๆ ด้วย”

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ถ้าแต่งนิยายล่ะก็ มีแต่ตอนแฮปปี้เอนดิ้งอยู่แล้วล่ะ”

 

พอพูดอย่างนั้นอิชิดะก็หัวเราะ

ไอนี่นิ เป็นห่วงกันจริงป่าวเนี้ย?

มันไม่ใช่เรื่องน่าตลกเลยนะ

 

“ต่อจากนี้จะทำอะไรต่อไปหรอ?”

 

จู่ ๆ อิชิดะก็ถามมาด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“อะไรคือ?”

 

“ในที่สุดก็ได้ทำจริง ๆ ซะทีสินะ? ‘แผนการเล่นงานแบบที่ร้ายที่สุด ตอนที่อีกฝ่ายตกหลุมรักเรามากที่สุด’ น่ะ”

 

“นั่นสิน้า……”

 

ผมดื่มกาแฟพลางคิดไปพลาง

 

แผนการที่ว่า ‘บอกเลิกกันในตอนที่อีกฝ่ายหลงรักเรามากที่สุด เพื่อไปนอนด้วยกันกับคนอื่น’

 

ถ้าเป็นรุ่นพี่โทวโกะล่ะก็ เรื่องนั้นก็คงเป็นไปได้อยู่หรอก

เอาจริง ๆ เท่าที่ผมสังเกตเห็น คาโมกุระก็ยังรักรุ่นพี่โทวโกะอยู่

 

แต่ตัวเราในตอนนี้ จะสามารถทำให้คาเรน ‘หลงรักหัวปักหัวปำถึงขึ้นว่าไม่อยากจะจากกันไปเลย’ อะไรเทือกนั้นได้จริง ๆ เหรอ?

พอนึกถึงตอนที่โทรศัพท์คุยกับคาเรนเมื่อวันก่อน เหมือนว่าความรู้สึกของคาเรนได้ห่างเหินไปจากผมซะแล้วสิ

ลำพังแค่ ‘เรียกคืนหัวใจของอีกฝ่ายที่ห่างหายกันไป’ แค่นั้นก็ยากแล้ว เรื่อง ‘ทำให้รักเราถึงขั้นสุด’ นี่แทบเป็นไปไม่ได้เลยไม่ใช่หรือไงกัน?

 

“ตอนนี้ ก็คงจะรอให้รุ่นพี่โทวโกะคิดแผนการอะไรขึ้นมาละมั้ง……”

 

“อะไรกัน พึ่งคนอื่นอีกแล้วเรอะ? เรื่องของตัวเองแท้ ๆ นะนั่น”

 

“มันก็ช่วยไม่ได้นิ? ถ้าเรื่อง ‘วิธีการทำให้ผู้หญิงตกหลุมรัก’ มันเข้าใจง่ายขนาดนั้น คงจะไม่ต้องมาลำบากกันแบบนี้ตั้งแต่แรกหรอกเว้ย!”

 

ผมตอบกลับไปแบบเคือง ๆ อิชิดะก็เอนหลังลงไปพิงหลังเก้าอี้

 

“ก็จริงอะน้า ‘วิธีทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่อยากจะเลิกกันเลย’ เนี่ย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรอกเนอะ ถ้ามันเป็นไปได้ง่าย ๆ ขนาดนั้นตั้งแต่ต้น โลกเราคงจะไม่มีคู่รักไหนที่เลิกกันแล้วแหละ”

 

พูดอะไรเรื่อยเปื่อย

แต่ว่า…… มันก็คงงั้นจริง ๆ แหละ

 

หลังจากนั้น สิ่งที่ผมต้องกังวล ไม่ได้มีแค่เรื่องนั้นอย่างเดียว

เราจะต้องถูกเลือกให้เป็น ‘คู่นอนในค่ำคืนนั้นของรุ่นพี่โทวโกะ ในคราวชี้ชะตาวาระสุดท้าย’ ให้ได้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ก็โคตรยากทั้งนั้น เป็นเกมที่ไม่มีวันเอาชนะได้เลยสินะเนี่ย?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+