ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1) / 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2)

Now you are reading ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ Chapter 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1) / 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1)

“แม่นางอวิ๋นต้องการสนับสนุนฉีหลิง”

เขาพูดวัตถุประสงค์ของอวิ๋นลั่วเฟิงออกมาง่ายๆ

มู่เสวี่ยซินพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้าได้ยินเรื่องขององค์ชายรองอาณาจักรเทียนฉีมาบ้าง เขาเป็นคนโดดเด่นจริงๆ แม่นางอวิ๋นตามีสายตาเฉียบคม ในอนาคตเขาต้องกลายเป็นผู้ช่วยมือดีของนางแน่นอน”

ฉีซูยกมือแตะหลังศีรษะของตัวเองแล้วยิ้มอย่างเขินอาย “มู่เอ๋อร์ ช่วงนี้ข้าจะอยู่กับกลุ่มของอาณาจักรเทียนฉี ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ข้ายินดีช่วยเจ้า” ฉีซูยังคงกังวลว่านางจะถูกรังแกที่นี่

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร”

ระหว่างที่พูด ดวงตาของมู่เสวี่ยซินก็เข้มขึ้นเมื่อคิดถึงคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิง บิดาของนางไม่มีบุตรชายมีแต่บุตรสาว ดังนั้นนางจึงกลายเป็นตัวตลกในสายตาองค์หญิงและองค์ชายอาณาจักรอื่น

เมื่อเห็นความกังวลในดวงตาของฉีซู มู่เสวี่ยซินก็พูดเพิ่ม “ถ้าข้าอยากให้เจ้าช่วย ข้าจะไปหาเจ้า”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉีซูก็ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นข้ากลับก่อนนะ แม่นางอวิ๋นอาจจะมีบางอย่างให้ข้าไปทำ เจ้าพักผ่อนเถอะ”

มู่เสวี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปหาแม่นางอวิ๋น”

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มู่เสวี่ยซินชื่นชอบอวิ๋นลั่วเฟิงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายช่วยชีวิตนางและบิดาของนางเอาไว้…

ขณะเดียวกันเฉียวเยี่ยเฟิงก็เดินเข้าไปในห้องที่เตรียมไว้ให้อาณาจักรจื่อเยว่อย่างโกรธเคืองแล้วสาปแช่งอย่างดุร้าย “บุรุษผู้นั้นต้องตาบอดแน่ ข้างามว่ามู่เสวี่ยซินเป็นร้อยเท่าแต่เขากลับสนใจแต่มู่เสวี่ยซิน”

“องค์หญิงเพคะ” เสี่ยวชุ่ยพูดขึ้น บนใบหน้าของนางยังมีรอยนิ้วมือสีแดงประดับอยู่แต่นางก็ไม่กล้าพูดแบบไม่คิดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นางพูดอย่างระมัดระวังว่า “หม่อมฉันได้ยินมู่เสวี่ยซินเรียกชายคนนั้นว่าฉีซู แต่ในอาณาจักรทั้งสี่ไม่มีองค์ชายคนใดที่ชื่อฉีซูเพคะ”

เฉียวเยี่ยเฟิงชะงักแล้วพูดว่า “จริงสิ บุรุษผู้นั้นไม่ได้เหมือนองค์ชายเลย เขาเป็นแค่องครักษ์ขององค์ชายสักคนงั้นหรือ ไม่แปลกใจเลยที่เขาเมินข้า เพราะเขารู้ว่าข้าไม่ได้โดนหลอกง่ายเหมือนมู่เสวี่ยซินน่ะสิ! ”

ยิ่งเฉียวเยี่ยเฟิงคิดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งรู้สึกว่านางถูกต้อง องครักษ์กลายเป็นคู่หมั้นขององค์หญิง จักรพรรดิอาณาจักรหลิวเฟิงยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร องครักษ์คนนั้นไม่ได้ตกหลุมรักนางแต่เพราะเขารู้ว่าอาณาจักรหลิวเฟิงไม่มีองค์ชาย ในฐานะราชบุตรเขยของจักรพรรดิ ถ้าเขาได้แต่งงานกับบุตรสาวที่อีกฝ่ายชื่นชอบไม่แน่เขาอาจจะได้เป็นรัชทายาทก็ได้

“โชคดีที่ข้าไม่ได้ชื่นชอบบุรุษแบบนี้ คนที่ยอมขายตัวเองให้มู่เสวี่ยซินเพื่ออำนาจ คนแบบนี้น่ารังเกียจจริงๆ! ” ดวงตาของเฉีวเยี่ยเฟิงฉายแววขยะแขยงและนางก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้หลงใหลไปกับใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม

นางเงยหน้ามองรอยนิ้วมือบนใบหน้าของเสี่ยวชุ่ยแล้วถามขึ้นว่า “เมื่อครู่ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตบเจ้า ข้าแค่โกรธมากไปหน่อย เจ้าเจ็บหรือไม่”

ดวงตาของเสี่ยวชุ่ยเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปีติแล้วรีบส่ายหน้า “ขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ หม่อมฉันไม่เจ็บสักนิดเดียวเพคะ”

“ดีแล้ว” เฉียวเยี่ยเฟิงยิ้ม “ไปปล่อยข่าวลือให้ข้าว่าคู่หมั้นของมู่เสวี่ยซินเป็นแค่องครักษ์ปลายแถว…”

ถึงอย่างไรเฉียวเยี่ยเฟิงก็ไม่ได้มาอาณาจักรหลิวเฟิงและรู้เกี่ยวกับอาณาจักรอื่นไม่มาก ดังนั้นนางจึงไม่รู้ถึงฐานะของฉีซูในอาณาจักรหลิวเฟิง แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้เกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรหลิวเฟิงบ้าง

ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าองค์หญิงและองค์ชายจากอาณาจักรอื่นจะไม่รู้ ดังนั้นนางจึงหาเรื่องใส่ตัวด้วยการให้นางกำนัลของนางไปปล่อยข่าวลือเรื่องนี้เท่านั้นเอง…

ตอนที่ 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2)

ในที่สุดการประลองระหว่างสี่อาณาจักรที่น่าเข้าร่วมที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น ภายในลานจัตุรัสกลางนครเฟิงอวิ๋น คนจากทุกอาณาจักรก็ค่อยๆ เดินทางมา

มู่เสวี่ยซินเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงและฉีซูก็ส่งยิ้มให้พวกเขา

ขณะเดียวกัน…

นางก็เหลือบมองเฉียวเยี่ยเฟิงที่ยืนอยู่ในกลุ่มของอาณาจักรจื่อเยว่และจ้องอวิ๋นลั่วเฟิง ตอนนั้นเองดวงตาของเฉียวเยี่ยเฟิงก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ พึงพอใจ และริษยา

นางแปลกใจเพราะคู่หมั้นของมู่เสวี่ยซินยืนอยู่กับสตรีอื่น

นางพึงพอใจก็แน่นอนว่าเพราะนางคิดว่านางจะได้เห็นการแสดงดีๆ …

นางริษยา…เพราะสตรีในชุดสีขาวสง่างามราวกับภาพวาดอันงดงาม

คนที่ภาคภูมิใจในความงามของตัวเองอย่างเฉียวเยี่ยเฟิงก็เต็มไปด้วยความอิจฉา นางอยากจะฉีกใบหน้านั้นออกจริงๆ แต่เมื่อคิดว่านางกำลังจะได้ดูการแสดงสนุกๆ นางก็ยังยิ้มได้อยู่

“นั่นไม่ใช่คู่หมั้นขององค์หญิงอาณาจักรหลิวเฟิงหรอกหรือ เขาทิ้งมู่เสวี่ยซินแล้วหาคนรักใหม่ได้เร็วอย่างนี้เชียวหรือ เหอะ บุรุษนี่พึ่งพาไม่ได้เลย”

เฉียวเยี่ยเฟิงไม่สนใจว่าจะมีสายตามองนางมากแค่ไหนแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า “เขาก็เป็นแค่องครักษ์ปลายแถวแท้ๆ เจ้าคว้าสตรีโง่เง่าอย่างมู่เสวี่ยซินเพื่ออำนาจของราชวงศ์แต่ตอนนี้เจ้ากำลังยืนอยู่กับสตรีอื่นกลางสาธารณชน! ข้าคิดว่าคงมีแต่สตรีไร้สมองอย่างมู่เสวี่ยซินเท่านั้นที่เลือกคู่หมั้นแบบนี้! ”

ใช่แล้ว! เฉียวเยี่ยเฟิงตั้งใจพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคน เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ถึงการตัดสินใจที่แย่ของมู่เสวี่ยซินแล้วทำให้อาณาจักรหลิวเฟิงอับอาย! อีกอย่าง…

นางอยากเห็นสตรีสองคนที่นางเกลียดสู้กันต่อหน้าสาธารณะจริงๆ!

น่าเสียดายที่นางไม่มีทางได้เห็นฉากแบบนั้น

มู่เสวี่ยซินเดินเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงพร้อมใบหน้าน่ารักที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับไม่ได้ยินเสียงยุยงของเฉียวเยี่ยเฟิง

“แม่นางอวิ๋น วันก่อนข้าอยากไปหาท่านแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีเหตุกาณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ได้โปรดอย่าถือสา”

ใบหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

เท่าที่นางรู้จักมู่เสวี่ยซิน สตรีผู้นี้ต้องเดือดดาลแน่นอนถ้ามีคนกล้ายุ่งกับผู้ชายของนาง แต่เหตุใดนางถึงทำตัวเป็นมิตรกับสตรีที่อยู่ข้างฉีซู เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฉียวเยี่ยเฟิงก็กัดฟัน ใบหน้าโกรธเคืองของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจและดวงตาของนางก็เข็มขึ้น

อวิ๋นลั่วเฟิงยื่นคางไปทางเฉียวเยี่ยเฟิง “เจ้ารู้จักนางหรือ”

“นางเป็นแค่สตรีเสียสติคนหนึ่ง มู่เอ๋อร์กับข้าไม่ยุ่งกับคนแบบนี้” ฉีซูพูดอย่างไร้อารมณ์และเย็นชา

เฉียวเยี่ยเฟิงโกรธจัดจนเกือบจะกระโดดตัวลอย “ฉีซู เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร เจ้าก็เป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง เจ้าไม่มีคุณสมบัติมาพูดต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ! ” เฉียวเยี่ยเฟิงสั่นไปทั้งตัวและใบหน้าของนางก็โกรธจนกลายเป็นสีม่วงขณะที่จ้องหน้าฉีซู

ตอนนั้นนางไม่ได้สังเกตเห็นสายตาตกตะลึงของคนอื่น

องครักษ์งั้นหรือ

ในอาณาจักรหลิวเฟิงตระกูลฉีเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดรองจากราชวงศ์และฉีซูก็มีอาจารย์ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย! ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาจากอาณาจักรอื่นแต่พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อของอวิ๋นเยว่ชิง…

พวกเขาไม่เหมือนกับตระกูลฉี พวกเขาไม่คิดว่าอวิ๋นเยว่ชิงจะไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ไม่แน่นางอาจจะติดกับดักอยู่ที่ไหนสักที่แล้วไม่ช้าก็เร็วนางก็จะออกมา ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากสร้างปัญหาให้กับลูกศิษย์ของอวิ๋นเยว่ชิง!

“เฟิงเอ๋อร์ หุบปาก! ”

ชายแต่งตัวดีผู้หนึ่งได้ยินคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิงแล้วใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1) / 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2)

Now you are reading ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ Chapter 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1) / 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1946 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (1)

“แม่นางอวิ๋นต้องการสนับสนุนฉีหลิง”

เขาพูดวัตถุประสงค์ของอวิ๋นลั่วเฟิงออกมาง่ายๆ

มู่เสวี่ยซินพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ข้าได้ยินเรื่องขององค์ชายรองอาณาจักรเทียนฉีมาบ้าง เขาเป็นคนโดดเด่นจริงๆ แม่นางอวิ๋นตามีสายตาเฉียบคม ในอนาคตเขาต้องกลายเป็นผู้ช่วยมือดีของนางแน่นอน”

ฉีซูยกมือแตะหลังศีรษะของตัวเองแล้วยิ้มอย่างเขินอาย “มู่เอ๋อร์ ช่วงนี้ข้าจะอยู่กับกลุ่มของอาณาจักรเทียนฉี ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ข้ายินดีช่วยเจ้า” ฉีซูยังคงกังวลว่านางจะถูกรังแกที่นี่

“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร”

ระหว่างที่พูด ดวงตาของมู่เสวี่ยซินก็เข้มขึ้นเมื่อคิดถึงคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิง บิดาของนางไม่มีบุตรชายมีแต่บุตรสาว ดังนั้นนางจึงกลายเป็นตัวตลกในสายตาองค์หญิงและองค์ชายอาณาจักรอื่น

เมื่อเห็นความกังวลในดวงตาของฉีซู มู่เสวี่ยซินก็พูดเพิ่ม “ถ้าข้าอยากให้เจ้าช่วย ข้าจะไปหาเจ้า”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฉีซูก็ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นข้ากลับก่อนนะ แม่นางอวิ๋นอาจจะมีบางอย่างให้ข้าไปทำ เจ้าพักผ่อนเถอะ”

มู่เสวี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ได้ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปหาแม่นางอวิ๋น”

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้มู่เสวี่ยซินชื่นชอบอวิ๋นลั่วเฟิงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าอีกฝ่ายช่วยชีวิตนางและบิดาของนางเอาไว้…

ขณะเดียวกันเฉียวเยี่ยเฟิงก็เดินเข้าไปในห้องที่เตรียมไว้ให้อาณาจักรจื่อเยว่อย่างโกรธเคืองแล้วสาปแช่งอย่างดุร้าย “บุรุษผู้นั้นต้องตาบอดแน่ ข้างามว่ามู่เสวี่ยซินเป็นร้อยเท่าแต่เขากลับสนใจแต่มู่เสวี่ยซิน”

“องค์หญิงเพคะ” เสี่ยวชุ่ยพูดขึ้น บนใบหน้าของนางยังมีรอยนิ้วมือสีแดงประดับอยู่แต่นางก็ไม่กล้าพูดแบบไม่คิดเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว นางพูดอย่างระมัดระวังว่า “หม่อมฉันได้ยินมู่เสวี่ยซินเรียกชายคนนั้นว่าฉีซู แต่ในอาณาจักรทั้งสี่ไม่มีองค์ชายคนใดที่ชื่อฉีซูเพคะ”

เฉียวเยี่ยเฟิงชะงักแล้วพูดว่า “จริงสิ บุรุษผู้นั้นไม่ได้เหมือนองค์ชายเลย เขาเป็นแค่องครักษ์ขององค์ชายสักคนงั้นหรือ ไม่แปลกใจเลยที่เขาเมินข้า เพราะเขารู้ว่าข้าไม่ได้โดนหลอกง่ายเหมือนมู่เสวี่ยซินน่ะสิ! ”

ยิ่งเฉียวเยี่ยเฟิงคิดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งรู้สึกว่านางถูกต้อง องครักษ์กลายเป็นคู่หมั้นขององค์หญิง จักรพรรดิอาณาจักรหลิวเฟิงยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร องครักษ์คนนั้นไม่ได้ตกหลุมรักนางแต่เพราะเขารู้ว่าอาณาจักรหลิวเฟิงไม่มีองค์ชาย ในฐานะราชบุตรเขยของจักรพรรดิ ถ้าเขาได้แต่งงานกับบุตรสาวที่อีกฝ่ายชื่นชอบไม่แน่เขาอาจจะได้เป็นรัชทายาทก็ได้

“โชคดีที่ข้าไม่ได้ชื่นชอบบุรุษแบบนี้ คนที่ยอมขายตัวเองให้มู่เสวี่ยซินเพื่ออำนาจ คนแบบนี้น่ารังเกียจจริงๆ! ” ดวงตาของเฉีวเยี่ยเฟิงฉายแววขยะแขยงและนางก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้หลงใหลไปกับใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม

นางเงยหน้ามองรอยนิ้วมือบนใบหน้าของเสี่ยวชุ่ยแล้วถามขึ้นว่า “เมื่อครู่ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตบเจ้า ข้าแค่โกรธมากไปหน่อย เจ้าเจ็บหรือไม่”

ดวงตาของเสี่ยวชุ่ยเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปีติแล้วรีบส่ายหน้า “ขอบพระทัยองค์หญิงเพคะ หม่อมฉันไม่เจ็บสักนิดเดียวเพคะ”

“ดีแล้ว” เฉียวเยี่ยเฟิงยิ้ม “ไปปล่อยข่าวลือให้ข้าว่าคู่หมั้นของมู่เสวี่ยซินเป็นแค่องครักษ์ปลายแถว…”

ถึงอย่างไรเฉียวเยี่ยเฟิงก็ไม่ได้มาอาณาจักรหลิวเฟิงและรู้เกี่ยวกับอาณาจักรอื่นไม่มาก ดังนั้นนางจึงไม่รู้ถึงฐานะของฉีซูในอาณาจักรหลิวเฟิง แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไม่นานมานี้เกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรหลิวเฟิงบ้าง

ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าองค์หญิงและองค์ชายจากอาณาจักรอื่นจะไม่รู้ ดังนั้นนางจึงหาเรื่องใส่ตัวด้วยการให้นางกำนัลของนางไปปล่อยข่าวลือเรื่องนี้เท่านั้นเอง…

ตอนที่ 1947 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (2)

ในที่สุดการประลองระหว่างสี่อาณาจักรที่น่าเข้าร่วมที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น ภายในลานจัตุรัสกลางนครเฟิงอวิ๋น คนจากทุกอาณาจักรก็ค่อยๆ เดินทางมา

มู่เสวี่ยซินเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงและฉีซูก็ส่งยิ้มให้พวกเขา

ขณะเดียวกัน…

นางก็เหลือบมองเฉียวเยี่ยเฟิงที่ยืนอยู่ในกลุ่มของอาณาจักรจื่อเยว่และจ้องอวิ๋นลั่วเฟิง ตอนนั้นเองดวงตาของเฉียวเยี่ยเฟิงก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ พึงพอใจ และริษยา

นางแปลกใจเพราะคู่หมั้นของมู่เสวี่ยซินยืนอยู่กับสตรีอื่น

นางพึงพอใจก็แน่นอนว่าเพราะนางคิดว่านางจะได้เห็นการแสดงดีๆ …

นางริษยา…เพราะสตรีในชุดสีขาวสง่างามราวกับภาพวาดอันงดงาม

คนที่ภาคภูมิใจในความงามของตัวเองอย่างเฉียวเยี่ยเฟิงก็เต็มไปด้วยความอิจฉา นางอยากจะฉีกใบหน้านั้นออกจริงๆ แต่เมื่อคิดว่านางกำลังจะได้ดูการแสดงสนุกๆ นางก็ยังยิ้มได้อยู่

“นั่นไม่ใช่คู่หมั้นขององค์หญิงอาณาจักรหลิวเฟิงหรอกหรือ เขาทิ้งมู่เสวี่ยซินแล้วหาคนรักใหม่ได้เร็วอย่างนี้เชียวหรือ เหอะ บุรุษนี่พึ่งพาไม่ได้เลย”

เฉียวเยี่ยเฟิงไม่สนใจว่าจะมีสายตามองนางมากแค่ไหนแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า “เขาก็เป็นแค่องครักษ์ปลายแถวแท้ๆ เจ้าคว้าสตรีโง่เง่าอย่างมู่เสวี่ยซินเพื่ออำนาจของราชวงศ์แต่ตอนนี้เจ้ากำลังยืนอยู่กับสตรีอื่นกลางสาธารณชน! ข้าคิดว่าคงมีแต่สตรีไร้สมองอย่างมู่เสวี่ยซินเท่านั้นที่เลือกคู่หมั้นแบบนี้! ”

ใช่แล้ว! เฉียวเยี่ยเฟิงตั้งใจพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคน เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ถึงการตัดสินใจที่แย่ของมู่เสวี่ยซินแล้วทำให้อาณาจักรหลิวเฟิงอับอาย! อีกอย่าง…

นางอยากเห็นสตรีสองคนที่นางเกลียดสู้กันต่อหน้าสาธารณะจริงๆ!

น่าเสียดายที่นางไม่มีทางได้เห็นฉากแบบนั้น

มู่เสวี่ยซินเดินเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงพร้อมใบหน้าน่ารักที่มีรอยยิ้มสดใสราวกับไม่ได้ยินเสียงยุยงของเฉียวเยี่ยเฟิง

“แม่นางอวิ๋น วันก่อนข้าอยากไปหาท่านแต่ก็ทำไม่ได้เพราะมีเหตุกาณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ได้โปรดอย่าถือสา”

ใบหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

เท่าที่นางรู้จักมู่เสวี่ยซิน สตรีผู้นี้ต้องเดือดดาลแน่นอนถ้ามีคนกล้ายุ่งกับผู้ชายของนาง แต่เหตุใดนางถึงทำตัวเป็นมิตรกับสตรีที่อยู่ข้างฉีซู เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เฉียวเยี่ยเฟิงก็กัดฟัน ใบหน้าโกรธเคืองของนางเต็มไปด้วยความไม่พอใจและดวงตาของนางก็เข็มขึ้น

อวิ๋นลั่วเฟิงยื่นคางไปทางเฉียวเยี่ยเฟิง “เจ้ารู้จักนางหรือ”

“นางเป็นแค่สตรีเสียสติคนหนึ่ง มู่เอ๋อร์กับข้าไม่ยุ่งกับคนแบบนี้” ฉีซูพูดอย่างไร้อารมณ์และเย็นชา

เฉียวเยี่ยเฟิงโกรธจัดจนเกือบจะกระโดดตัวลอย “ฉีซู เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร เจ้าก็เป็นแค่องครักษ์คนหนึ่ง เจ้าไม่มีคุณสมบัติมาพูดต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ! ” เฉียวเยี่ยเฟิงสั่นไปทั้งตัวและใบหน้าของนางก็โกรธจนกลายเป็นสีม่วงขณะที่จ้องหน้าฉีซู

ตอนนั้นนางไม่ได้สังเกตเห็นสายตาตกตะลึงของคนอื่น

องครักษ์งั้นหรือ

ในอาณาจักรหลิวเฟิงตระกูลฉีเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดรองจากราชวงศ์และฉีซูก็มีอาจารย์ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย! ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาจากอาณาจักรอื่นแต่พวกเขาก็เคยได้ยินชื่อของอวิ๋นเยว่ชิง…

พวกเขาไม่เหมือนกับตระกูลฉี พวกเขาไม่คิดว่าอวิ๋นเยว่ชิงจะไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีก ไม่แน่นางอาจจะติดกับดักอยู่ที่ไหนสักที่แล้วไม่ช้าก็เร็วนางก็จะออกมา ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากสร้างปัญหาให้กับลูกศิษย์ของอวิ๋นเยว่ชิง!

“เฟิงเอ๋อร์ หุบปาก! ”

ชายแต่งตัวดีผู้หนึ่งได้ยินคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิงแล้วใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+