รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 73 : สงครามปะทุ

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 73 : สงครามปะทุ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

ตอนที่ 73 : สงครามปะทุ

หลังจากผ่านไปราวๆครึ่งเดือนในที่สุดเรื่องราวของสงครามก็เริ่มชัดเจนขึ้นกองทัพของอาณาจักรแดแซมเข้ามาใกล้ชายแดนของป่าแล้ว พวกเขาได้ทําการตั้งค่ายทหารกันอยู่ที่รอบนอกซึ่งเป็นทุ่งโล่งกว้าง

พวกเขาคงไม่อยากจะเข้ามาด้านในป่าเพราะมันจะทําให้กองกําลังทหารของพวกเขานั้นเสียเปรียบและคิดว่าพวกเอลฟ์นั้นจะอ่อนแอเมื่อต่อสู้ในที่โล่ง

แน่นอนว่าทางราชินีอาเวลไม่ใช่พวกที่บ้าสงครามเมื่อประมาณสองวันก่อนเธอพยายามส่งทูตไปเจรจาแล้วแต่ดูเหมือนทางแดแซมจะไม่เอาด้วยเขาได้ไล่ท่านฑูตกลับอย่างไม่ใยดี

แน่นอนว่าเมื่อท่านฑูตกลับมาเขาก็ได้นําเอาคํากล่าวของแม่ทัพฝั่งตรงข้ามมากล่าวต่อราชินีอาเวลโดยการใส่สีตีไข่เพิ่มเข้าไปอีกนิดหน่อยเนื่องจากเอลฟ์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงพวกเขาจึงมีความหยิ่งทนงอยู่ภายในตัวอยู่เสมอการที่ผู้เป็นทูตนั้นถูกไล่ออกมาจากการเจรจาอย่างไร้เยื้อใยแบบนี้ทําให้เขารับไม่ได้

ราชินีอาเวลที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยท่าที่เย็นชาว่า

“ดูเหมือนทางแดแซมจะมั่นใจในตัวเองมากเกินไปถึงขั้นได้ไม่ไว้หน้าข้าแบบนี้”

คําพูดของราชินีอาเวลแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยทางด้านลู่หมิงที่อยู่ไม่ไกลสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากตัวเธอทําเอาเขาถึงกับตัวสั่น

หลังจากการประชุมครั้งนั้นบรรยากาศภายในเมืองก็แลดูจะตึงเคลียดขึ้นเล็กน้อยแต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้กังวลอะไรมากนักเพราะพวกเขานั้นเชื่อมั่นในตัวของราชินีอาเวลซึ่งลู่หมิงก็พอจะเข้าใจ

หลังจากผ่านการประชุมใหญ่อยู่สอง สามครั้งทุกคนก็ลงความเห็นกันให้ทําสงครามเต็มรูปแบบและขับไล่กองทัพ ของอาณาจักรแดแซมออกไปซะ

เมื่อมีมติลงมาเช่นนี้ทางกองทัพของ อาณาจักรเอลฟ์ก็ได้มีการเคลื่อนไหวกันอย่างยกใหญ่เหล่าเอลฟ์ผู้พิทักษ์และ ดรูอิดได้ถูกเรียกมารวมตัวกันและจัดกองทัพ

ทางด้านลู่หมิงเองที่กําลังฝึกเวทมนต์ อยู่ที่สวนก็ได้เห็นราชินีอาเวลเดินมาหา เขาเธอถามกับลู่หมิงว่า

“เธอจะเข้าร่วมสงครามจริงๆงั้นเหรอ

“ทําไมงั้นเหรอครับ ?”

ลู่หมิงถามออกไปด้วยความสงสัย ราชิ นี้อาเวลจึงพูดขึ้นว่า

“ก็อีกฝ่ายเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเธอ บางทีมันอาจจะไม่ควรก็เป็นได้

ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและ รู้สึกว่าอาจารย์คนนี้จะเป็นห่วงเขาไปแล้วลู่หมิงจึงตอบกลับไปว่า

“ผมไม่ใช่พวกแบ่งเผ่าพันธุ์หลอกนะ ครับอาจารย์ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นมนุษย์เหมือนกันแต่ผมก็ไม่รู้จักพวกเขาเสียหน่อยอีกอย่างคุณก็เป็นอาจารย์ของผมจะให้ผมไปเข้าร่วมกับอีกฝ่ายได้ยังไงกัน”

ลู่หมิงพูดจบก็ยิ้มออกมาราชินีอาเวลที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะ หยิบเสื้อคลุมสีดําออกมาให้กับเขา

เสื้อคลุมโอริมเทียร์ : ระดับกึ่งตํานาน

เสื้อคลุมที่ถูกถูกถอด้วยเส้นไหมโอริม ผสมด้วยมิธวิลถูกสร้างสรรค์ด้วยเอลฟ์ช่างฝีมือระดับสูงและถูกเสริมพลังด้วย เวทมนต์

คุณสมบัติ

ป้องกันการโจมตีทางกายภาพและเว ทมนต์ 200%

ป้องกันการโจมตีด้วยเวทมนต์ประเภทพิเศษ

ป้องกันการโจมตีถึงตาย 1 ครั้ง

ลู่หมิงมองเสื้อคลุมโอริมเทียร์และราชิ นีอาเวลด้วยความสับสน เธอยิ้มพร้อมกับบอกว่า

“ตั้งแต่ที่เธอมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน ฉันก็ไม่เคยได้ให้ของขวัญเธอเลยถือสะว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน”

ลู่หมิงยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ

“ขอบคุณครับ”

ราชินีอาเวลยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“มันจะช่วยเธอได้มากในช่วงเวลาแห่งสงครามเตรียมตัวเถอะพรุ่งนี้สงครามก็จะเริ่มแล้ว”

ลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะกลับไปฝึกฝนเวทมนต์ต่อราชินีอาเวลที่เห็นท่าที่ของลู่หมิงเธอก็ถอนหายใจออกมาเพราะเธออยากจะให้เขาได้พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สงครามในวันพรุ่งนี้เพราะที่ดูจากอายุแล้วนี้ถือว่าเป็นสงครามครั้งแรกของเขาเธอจึงอยากให้เขาพักผ่อนให้เต็มที่มากกว่าฝันฝน

เมื่อเห็นว่าลู่หมิงจดจ่ออยู่กับการฝึกราชินีอาเวลก็ไม่คิดจะพูดต่อเธอจึงหันหลังและเดินกลับเข้าไปในปราสาท

แต่สําหรับลู่หมิงแล้วสงครามครั้งนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากในชีวิตก่อนเขาได้ผ่านสงครามมาพอสมควรแล้วฉะนั้นสงครามครั้งนี้ก็เหมือนกับการรื้อฟื้นอารมณ์และความรู้สึกของเขาเท่านั้น

เช้าวันต่อมาลู่หมิงออกมายืนอยู่ที่ชายป่าฟอร์เรียพร้อมกับเหล่าเอลฟ์แม่ทัพ เขาจ้องมองกองทัพนับแสนของอาณา จักร

แดแซมอย่างครุ่นคิดก่อนจะหันกลับไปถามแม่ทัพเอลฟ์ที่อยู่ข้างๆ

“คุณคิดยังไงเกี่ยวกับพวกเขาเหรอ ครับ ?”

แม่ทัพเอลฟ์คนนั้นจ้องมองกองทัพแดแซมอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับสู่หมิงละดอ

“ก็แค่พวกหยิ่งยโสที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกเท่านั้น”
ภายใน

ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจากนั้นแม่ทัพเอลฟ์ก็ได้ตะโกนขึ้น

“ลั่นกลองศึก !!”

ตึง ตึง ตึง ตึง

เสียงกลองศึกดังสนั่นไปทั่วบริเวณทางกองทัพของอาณาจักรแดแซมเองก็ไม่น้อยหน้าพวกเขาเริ่มลั่นกลองศึกพร้อมกับโห่ร้องออกมาเช่นกัน

เสียงกลองศึกดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับกองทัพของอาณาจักรแดแซมที่พร้อมใจกันเดินทัพใกล้เข้ามา

“เดินทัพ !!”

เสียงของแม่ทัพเอลฟ์ดังขึ้นพร้อมกับปรากฏให้เห็นเหล่าทหารเอลฟ์ในชุดเกราะสีเงินงดงามเดินกันออกมาจากป่าอย่างเป็นระเบียบ

แรงกดดันและรังสีฆ่าฟันของทั้งสองฝ่ายแผ่ขยายออกไปทั่วบริเวณหลายสิบกิโลเมตรลู่หมิงชูมือขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับมีลูกไฟขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา

ลู่หมิงสบัดมือปลดปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่เข้าสู่กองทัพของอาณาจักรแด

แซมดูม !!!

เกิดการระเบิดขึ้นรุนแรงตรงกองทัพของอาณาจักรแดแซมมีทหารนับร้อยถูกเผาเป็นเถ้าถ่านแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเดินหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

การกระทําของลู่หมิงเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่า
สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 73 : สงครามปะทุ

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 73 : สงครามปะทุ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ

ตอนที่ 73 : สงครามปะทุ

หลังจากผ่านไปราวๆครึ่งเดือนในที่สุดเรื่องราวของสงครามก็เริ่มชัดเจนขึ้นกองทัพของอาณาจักรแดแซมเข้ามาใกล้ชายแดนของป่าแล้ว พวกเขาได้ทําการตั้งค่ายทหารกันอยู่ที่รอบนอกซึ่งเป็นทุ่งโล่งกว้าง

พวกเขาคงไม่อยากจะเข้ามาด้านในป่าเพราะมันจะทําให้กองกําลังทหารของพวกเขานั้นเสียเปรียบและคิดว่าพวกเอลฟ์นั้นจะอ่อนแอเมื่อต่อสู้ในที่โล่ง

แน่นอนว่าทางราชินีอาเวลไม่ใช่พวกที่บ้าสงครามเมื่อประมาณสองวันก่อนเธอพยายามส่งทูตไปเจรจาแล้วแต่ดูเหมือนทางแดแซมจะไม่เอาด้วยเขาได้ไล่ท่านฑูตกลับอย่างไม่ใยดี

แน่นอนว่าเมื่อท่านฑูตกลับมาเขาก็ได้นําเอาคํากล่าวของแม่ทัพฝั่งตรงข้ามมากล่าวต่อราชินีอาเวลโดยการใส่สีตีไข่เพิ่มเข้าไปอีกนิดหน่อยเนื่องจากเอลฟ์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงพวกเขาจึงมีความหยิ่งทนงอยู่ภายในตัวอยู่เสมอการที่ผู้เป็นทูตนั้นถูกไล่ออกมาจากการเจรจาอย่างไร้เยื้อใยแบบนี้ทําให้เขารับไม่ได้

ราชินีอาเวลที่ได้ฟังก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยท่าที่เย็นชาว่า

“ดูเหมือนทางแดแซมจะมั่นใจในตัวเองมากเกินไปถึงขั้นได้ไม่ไว้หน้าข้าแบบนี้”

คําพูดของราชินีอาเวลแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยทางด้านลู่หมิงที่อยู่ไม่ไกลสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจากตัวเธอทําเอาเขาถึงกับตัวสั่น

หลังจากการประชุมครั้งนั้นบรรยากาศภายในเมืองก็แลดูจะตึงเคลียดขึ้นเล็กน้อยแต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้กังวลอะไรมากนักเพราะพวกเขานั้นเชื่อมั่นในตัวของราชินีอาเวลซึ่งลู่หมิงก็พอจะเข้าใจ

หลังจากผ่านการประชุมใหญ่อยู่สอง สามครั้งทุกคนก็ลงความเห็นกันให้ทําสงครามเต็มรูปแบบและขับไล่กองทัพ ของอาณาจักรแดแซมออกไปซะ

เมื่อมีมติลงมาเช่นนี้ทางกองทัพของ อาณาจักรเอลฟ์ก็ได้มีการเคลื่อนไหวกันอย่างยกใหญ่เหล่าเอลฟ์ผู้พิทักษ์และ ดรูอิดได้ถูกเรียกมารวมตัวกันและจัดกองทัพ

ทางด้านลู่หมิงเองที่กําลังฝึกเวทมนต์ อยู่ที่สวนก็ได้เห็นราชินีอาเวลเดินมาหา เขาเธอถามกับลู่หมิงว่า

“เธอจะเข้าร่วมสงครามจริงๆงั้นเหรอ

“ทําไมงั้นเหรอครับ ?”

ลู่หมิงถามออกไปด้วยความสงสัย ราชิ นี้อาเวลจึงพูดขึ้นว่า

“ก็อีกฝ่ายเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเธอ บางทีมันอาจจะไม่ควรก็เป็นได้

ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาและ รู้สึกว่าอาจารย์คนนี้จะเป็นห่วงเขาไปแล้วลู่หมิงจึงตอบกลับไปว่า

“ผมไม่ใช่พวกแบ่งเผ่าพันธุ์หลอกนะ ครับอาจารย์ ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นมนุษย์เหมือนกันแต่ผมก็ไม่รู้จักพวกเขาเสียหน่อยอีกอย่างคุณก็เป็นอาจารย์ของผมจะให้ผมไปเข้าร่วมกับอีกฝ่ายได้ยังไงกัน”

ลู่หมิงพูดจบก็ยิ้มออกมาราชินีอาเวลที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะ หยิบเสื้อคลุมสีดําออกมาให้กับเขา

เสื้อคลุมโอริมเทียร์ : ระดับกึ่งตํานาน

เสื้อคลุมที่ถูกถูกถอด้วยเส้นไหมโอริม ผสมด้วยมิธวิลถูกสร้างสรรค์ด้วยเอลฟ์ช่างฝีมือระดับสูงและถูกเสริมพลังด้วย เวทมนต์

คุณสมบัติ

ป้องกันการโจมตีทางกายภาพและเว ทมนต์ 200%

ป้องกันการโจมตีด้วยเวทมนต์ประเภทพิเศษ

ป้องกันการโจมตีถึงตาย 1 ครั้ง

ลู่หมิงมองเสื้อคลุมโอริมเทียร์และราชิ นีอาเวลด้วยความสับสน เธอยิ้มพร้อมกับบอกว่า

“ตั้งแต่ที่เธอมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน ฉันก็ไม่เคยได้ให้ของขวัญเธอเลยถือสะว่าเป็นของขวัญก็แล้วกัน”

ลู่หมิงยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ

“ขอบคุณครับ”

ราชินีอาเวลยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“มันจะช่วยเธอได้มากในช่วงเวลาแห่งสงครามเตรียมตัวเถอะพรุ่งนี้สงครามก็จะเริ่มแล้ว”

ลู่หมิงพยักหน้าก่อนจะกลับไปฝึกฝนเวทมนต์ต่อราชินีอาเวลที่เห็นท่าที่ของลู่หมิงเธอก็ถอนหายใจออกมาเพราะเธออยากจะให้เขาได้พักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่สงครามในวันพรุ่งนี้เพราะที่ดูจากอายุแล้วนี้ถือว่าเป็นสงครามครั้งแรกของเขาเธอจึงอยากให้เขาพักผ่อนให้เต็มที่มากกว่าฝันฝน

เมื่อเห็นว่าลู่หมิงจดจ่ออยู่กับการฝึกราชินีอาเวลก็ไม่คิดจะพูดต่อเธอจึงหันหลังและเดินกลับเข้าไปในปราสาท

แต่สําหรับลู่หมิงแล้วสงครามครั้งนี้ไม่มีอะไรพิเศษมากในชีวิตก่อนเขาได้ผ่านสงครามมาพอสมควรแล้วฉะนั้นสงครามครั้งนี้ก็เหมือนกับการรื้อฟื้นอารมณ์และความรู้สึกของเขาเท่านั้น

เช้าวันต่อมาลู่หมิงออกมายืนอยู่ที่ชายป่าฟอร์เรียพร้อมกับเหล่าเอลฟ์แม่ทัพ เขาจ้องมองกองทัพนับแสนของอาณา จักร

แดแซมอย่างครุ่นคิดก่อนจะหันกลับไปถามแม่ทัพเอลฟ์ที่อยู่ข้างๆ

“คุณคิดยังไงเกี่ยวกับพวกเขาเหรอ ครับ ?”

แม่ทัพเอลฟ์คนนั้นจ้องมองกองทัพแดแซมอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับสู่หมิงละดอ

“ก็แค่พวกหยิ่งยโสที่ไม่เคยเห็นโลกภายนอกเท่านั้น”
ภายใน

ลู่หมิงที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาจากนั้นแม่ทัพเอลฟ์ก็ได้ตะโกนขึ้น

“ลั่นกลองศึก !!”

ตึง ตึง ตึง ตึง

เสียงกลองศึกดังสนั่นไปทั่วบริเวณทางกองทัพของอาณาจักรแดแซมเองก็ไม่น้อยหน้าพวกเขาเริ่มลั่นกลองศึกพร้อมกับโห่ร้องออกมาเช่นกัน

เสียงกลองศึกดังอย่างต่อเนื่องพร้อมกับกองทัพของอาณาจักรแดแซมที่พร้อมใจกันเดินทัพใกล้เข้ามา

“เดินทัพ !!”

เสียงของแม่ทัพเอลฟ์ดังขึ้นพร้อมกับปรากฏให้เห็นเหล่าทหารเอลฟ์ในชุดเกราะสีเงินงดงามเดินกันออกมาจากป่าอย่างเป็นระเบียบ

แรงกดดันและรังสีฆ่าฟันของทั้งสองฝ่ายแผ่ขยายออกไปทั่วบริเวณหลายสิบกิโลเมตรลู่หมิงชูมือขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับมีลูกไฟขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา

ลู่หมิงสบัดมือปลดปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่เข้าสู่กองทัพของอาณาจักรแด

แซมดูม !!!

เกิดการระเบิดขึ้นรุนแรงตรงกองทัพของอาณาจักรแดแซมมีทหารนับร้อยถูกเผาเป็นเถ้าถ่านแต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเดินหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

การกระทําของลู่หมิงเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่า
สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+