เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้าบทที่ 1968 การต่อสู้วิชาชี่ (2)

Now you are reading เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า Chapter บทที่ 1968 การต่อสู้วิชาชี่ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.



แสงสว่างจ้าแยงตา เกาะลอยฟ้าทั้งเกาะระเบิดทันที

เวลาเพียงแค่พริบตาเดียว แสงสว่างจ้าทำลายค่ายกลทั้งหมดบนเกาะลอยฟ้า

ก้อนหินแหลกเป็นผุยผงท่ามกลางแสง ในม่านแสงอากาศเวิ้งว้างฉีกขาดเป็นสีดำ เกาะลอยฟ้าระเบิดไม่หยุด ไม่นานก็พังทลายกลายเป็นชิ้นๆ จากนั้นหายไปท่ามกลางแสงระเบิด เห็นพลังทำลายล้างของผู้ฝึกชี่จากสิ่งนี้เลย

ในใต้หล้าไม่มีใครไม่รู้ว่า อริยปราชญ์ที่ปล่อยวิชาจากระยะไกลน่ากลัวขนาดไหน

เรียกได้ว่าทำลายล้างทั้งประเทศ อย่างเช่นเริ่นหยู่กับหวงฝู่อู่ในตอนนี้

ถ้าทั้งสองคนเอาพลังนี้ปกคลุมครึ่งเมืองฉิงเทียน น่าจะไม่มีปัญหาเลย

เมื่อเห็นว่าค่ายกลสกัดกั้นพลังทั้งสองคนไม่ไหวแล้ว กลุ่มคนรีบถอยไปด้านหลังทันที

ตอนนี้ดูออกชัดเจนว่าในกลุ่มคนมีผู้แข็งแกร่งอยู่กี่คน

ผู้อ่อนแอคิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง เห็นวิชาของผู้ฝึกชี่น่ากลัวขนาดนี้กำลังจะร่วงลงมาจากฟ้า มีเหตุผลอะไรที่จะไม่หนี

มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่ไม่เกรงกลัวพลังนี้ยังยืนนิ่งอยู่

อย่างเช่น ลู่ฝานกับเฟิงเสี่ยวชี่

อย่างเช่นพวกเซียนบู๊กับอริยปราชญ์ในกลุ่มคน

หนานกงสิงกับอู่คงหลิงคิดจะถอยหลัง แต่ลู่ฝานเอากระบี่หนักไร้คมออกมาปักลงบนพื้น แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “มายืนหลังฉันให้หมด!”

สิบสามรีบมายืนด้านหลังลู่ฝานเป็นคนแรก

เขาเชื่อลู่ฝานอย่างไม่มีเงื่อนไข ใบหน้านิ่งเป็นอย่างมาก

หนานกงสิงกับอู่คงหลิงได้ยินก็มายืนด้านหลังลู่ฝานเช่นกัน พวกเขาเลือกที่จะเชื่อลู่ฝาน

เพราะตอนนี้ลู่ฝานอยู่ในระดับอริยปราชญ์แล้ว ต้านทานพลังเล็กน้อยแค่นี้น่าจะไม่หนักเท่าไร

ตอนนี้เทพเงินแปดทิศเห็นสถานการณ์ควบคุมไม่ได้แล้ว เขาสะบัดมือโยนของออกมาหนึ่งชิ้น

มันคือพัดพับ เขี้ยวมังกรเป็นโครงพัด ตัวพัดเป็นเนบิวลา

พัดเปิดออกกลางอากาศ กลายเป็นกาแล็กซีอย่างรวดเร็ว ควบคุมพลังทั้งหมดไว้รอบเกาะลอยฟ้า

อีกทั้งยังปกคลุมซูตงกับโฉวล่วนที่ยังไม่ได้ประลองเข้ามาในกาแล็กซีด้วย เพื่อไม่ให้พวกเขาสูญเสียพลังไปกับเริ่นหยู่และหวงฝู่อู่ก่อนที่ยังไม่ได้ประลอง

เสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง ราวกับไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย

แต่ขณะนั้น จู่ๆ เสียงเกรี้ยวกราดเล็กน้อยของหวงฝู่อู่ดังขึ้น

“ภาพทิวทัศน์ใสสะอาด ดวงอาทิตย์ส่องสว่างทางตะวันออก!”

เสียงระเบิดทั้งหมดหายไปทันที

จากนั้นสิ่งที่ปรากฏในสายตาทุกคนคือภาพภูเขาและแม่น้ำที่วาดด้วยการสะบัดหมึก

เงาของเริ่นหยู่อยู่ในภาพ

แต่ตอนนี้เริ่นหยู่ดูเหมือนคนที่อยู่ในภาพภูเขาและแม่น้ำ เป็นโครงร่างคนที่สะบัดพู่กันเพียงไม่กี่ครั้ง เงาเบาบางกับสายตาที่มองไปรอบๆ

“นี่มันวิชาอะไรกัน”

เฟิงเสี่ยวชี่ถามอย่างไม่เข้าใจ เขาเพิ่งเคยเห็นวิชาแปลกแบบนี้ครั้งแรก คิดไม่ถึงเลยว่าจะใส่คนเข้าไปในภาพ

อีกทั้งยังไม่ใช่แค่นั้น จากนั้นมีภาพสัตว์อสูรขนาดใหญ่ปรากฏใสภาพภูเขาและแม่น้ำ

รอยหมึกแผ่ซ่านออกไป ปรากฏออกมาเป็นภาพสัตว์วาดด้วยหมึกดำเกือบพันตัว

เมื่อสะบัดพู่กันอีกครั้ง ค่ายกลกระบี่ร่วงลงมาอีก

เริ่นหยู่ที่อยู่ในภาพวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนก แต่กลับโดนกระบี่นับหมื่นแทงทะลุหัวใจอย่างรวดเร็ว

จากนั้นสัตว์อสูรพุ่งเข้ามาฉีกเริ่นหยู่ กลายเป็นจุดหมึกดำมากมาย

ทุกคนเห็นภาพนี้แล้วตกตะลึง

แม้แต่สามอริยบุคคลก็ยังดูไม่ออกว่านี่ชนะแล้วหรือเปล่า!

เพราะพวกเขาเพิ่งเคยเห็นวิชาแปลกแบบนี้ครั้งแรกเหมือนกัน รู้สึกผิดปกติตั้งแต่หัวจรดเท้า

ขณะนั้นภาพค่อยๆ หดเล็กลง สุดท้ายกลายเป็นแสงร่วงลงไปในมือหวงฝู่อู่

ตอนนี้หวงฝู่อู่ขมวดคิ้วแน่น

พู่กันวิเศษสีขาว-ดำสลับกันในมือชะงักอยู่ด้านบนภาพ ไม่กล้าจรดพู่กันลงมา

เขาอยู่ในสภาพนี้ประมาณครู่หนึ่ง

ลู่ฝานขมวดคิ้วพูดว่า “เขากำลังทำอะไร”

ลู่ฝานไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน ถ้าเริ่นหยู่แพ้แล้ว หวงฝู่อู่ทำท่าแบบนี้หมายความว่ายังไง

ถ้าเริ่นหยู่ยังไม่แพ้ ทำไมหวงฝู่อู่ถึงไม่ใช้โอกาสตอนได้เปรียบ ปล่อยวิชาออกมาโจมตีอีก กลับยกพู่กันวิเศษอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าปล่อยกระบวนท่าออกมา

แทบทุกสายตามองไปยังหวงฝู่อู่

ทว่าตอนนี้มือของหวงฝู่อู่เริ่มสั่นเบาๆ

ภาพที่เขาควบคุมมาตลอดส่งเสียงฉีกขาดออกมา แม้มันจะเบามาก แต่ดูผ่านม่านแสงขนาดใหญ่บนท้องฟ้า ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจน

หวงฝู่อู่กัดฟันกรอด จากนั้นจรดพู่กันลงมาอย่างรวดเร็ว

ปลายพู่กันมีแสงสีแดงสว่างไสว เหมือนมีกลิ่นเลือดโชยออกมาบางๆ ด้วย

พู่กันวิเศษแตะลงบนภาพ สีแดงเปื้อนเต็มภาพวาด

แต่ถึงเป็นเช่นนี้ เสียงฉีกขาดก็ยังดังมาจากภาพวาดเหมือนเดิม

จากนั้นประกายแสงมากมายทะลักออกมาจากภาพวาด

หวงฝู่อู่กระอักเลือดออกมาทันที ภาพวาดในมือกลายเป็นเปลวไฟ แผดเผาจนหมด

ประกายแสงมากมายลอยมากลางอากาศ รวมตัวเป็นรูปร่างคนอย่างรวดเร็ว

ถ้าไม่ใช่เริ่นหยู่จะเป็นใครได้อีก

ตอนนี้เริ่นหยู่ดูท่าไม่ค่อยดีเท่าไรเหมือนกัน

ทั้งตัวพรุนไปด้วยรอยเลือด มองดูดีๆ เหมือนโดนคนเอาปากกาทิ่ม

อีกทั้งตรงมือและหน้าอกของเขา ยังมีรอยแผลจากการโดนสัตว์อสูรกัดและรอยแผลจากกระบี่

หมายความว่าเรื่องที่เกิดในภาพวาดคือความจริง!

เริ่นหยู่ถือหม้อเจ็ดสี ขนาดกะทัดรัดในมือ พูดด้วยเสียงหอบว่า “ฟ้าดินในภาพ วิชาดี ทำให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ!”

หวงฝู่อู่ปาดเลือดมุมปาก จากนั้นพูดโอดครวญว่า “กระอักเลือดแล้วเนี่ย ฉันบอกแล้วว่าอย่ามาๆ บางคนเอาแต่จะลากฉันมาให้ได้ ฉันเป็นบัณฑิตวาดภาพ เขียนตัวอักษรจีนอยู่ดีๆ ตอนนี้มาสู้จนกระอักเลือด อายุขัยลดลงไปตั้งเท่าไรแล้วเนี่ย ใครจะมาชดใช้ให้ฉัน!”

เสียงโอดครวญของหวงฝู่อู่ ทำให้คนด้านล่างพากันหัวเราะ

โดยเฉพาะคนประเทศว่านจุน เหมือนพวกเขาไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศขายหน้า กลับหัวเราะออกมาเสียงดังกว่าใครเพื่อน!

จากนั้นเสียงเกรี้ยวกราดของผู้หญิงดังขึ้นในกลุ่มคน

“รีบจัดการให้เสร็จเร็วๆ ถ้ายังทะเลาะกันอีก ระวังคืนนี้จะได้คุกเข่าหน้าประตู!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ หวงฝู่อู่ถึงกับขนลุก

เขารีบยกพู่กันวิเศษในมือไปทางเริ่นหยู่ ดูออกเลยว่าในใจหวงฝู่อู่ ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวกว่าเริ่นหยู่เยอะ

เริ่นหยู่สีหน้าอึมครึม เขาไม่เคยเห็นผู้ฝึกชี่ไร้เกียรติขนาดนี้มาก่อน

เริ่นหยู่ส่งเสียงหึแล้วพูดว่า “ตอนนี้ถึงตาฉันทำให้นายได้เห็นวิชาของประเทศตันเซิ่งบ้าง ปรากฏ!”

เริ่นหยู่เอาฝ่ามือตบลงบนหม้อเจ็ดสีใบเล็กของตัวเอง คลื่นเสียงแผ่ซ่านออกมา สะเทือนจนกาแล็กซีสั่นไปมา ทุกคนปวดแก้วหูไปหมด

จากนั้นหม้อเจ็ดสีที่มีแสงเคลื่อนไหวลอยขึ้นไปด้านบน แสงเจ็ดสีแผ่ซ่านออกมาทันที ทั่วทั้งฟ้าดินกลายเป็นเจ็ดสีแบ่งแยกชัดเจน

“เขตยิ่งใหญ่! กลับชาติไร้ที่สิ้นสุด!”

เริ่นหยู่แผดเสียงออกมา ฟ้าดินกลายเป็นสีดำขลับทันที

สีสันหายไปต่อหน้าทุกคน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด