เสน่ห์คมดาบ 194

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 194 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เพราะว่าเจ้าสวยที่สุดอย่างไร” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ

 

 

“ข้ายอมไม่สวยดีกว่า” ตงเฟิงโฮ่วทำหน้าจะร้องไห้ ทำไมแผนหญิงงามนี่ต้องมาตกอยู่ที่เขาด้วยล่ะ เขาเป็นชายแท้นะ! ทำไมต้องให้เขามาแต่งหญิงหลอกล่อเชวหลงเฟยด้วย ทำไม?

 

 

“รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวเชวหลงเฟยจะต้องผ่านมาทางนี้แน่ๆ” ชีอ้าวชวางลุกขึ้นยืนปัดเสื้อผ้า “เจ้าแค่ต้องแฝงตัวเข้าไปสืบว่าเจ้าหญิงเงือกอยู่ที่ไหนก็เท่านั้นเอง” ชีอ้าวชวางพูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกชังเชวหลงเฟยมากเมื่อวานนางวางแผนว่าจะไปสืบที่อยู่ของเจ้าหญิงเงือกที่คฤหาสน์เจ้าเมือง แต่กลับต้องพูดไม่ออกเพราะฮาเร็มขนาดใหญ่ที่มีอยู่จำนวนมากในนั้น เชวหลงเฟยที่สมควรตายผู้นั้นสร้างอาคารที่อยู่ให้กับนางบำเรอของเขาทุกคน อีกทั้งรูปแบบและโครงสร้างของอาคารที่พักจำนวนมากนั้นแทบจะเหมือนกันทุกประการ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่มากถ้าอยากจะหาที่อยู่ของเจ้าหญิงเงือก แต่นางได้ยินมาว่าเหล่าฮาเร็มของเชวหลงเฟยมีความกลมเกลียวกันมาก ดังนั้นการที่ตงเฟิงโฮ่วแฝงตัวเข้าไปสืบน่าจะง่ายกว่า

 

 

พอเห็นว่าชีอ้าวชวางกำลังจะเดินจากไป ตงเฟิงโฮ่วก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา “ถ้าหากเจ้านั่นจะทำอะไรข้า ข้าจะทำอย่างไรดีล่ะ?”

 

 

“เจ้าสบายใจได้ เชวียหลงเฟยไม่เคยบังคับผู้หญิง” ชีอ้าวชวางทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วเดินจากไป

 

 

ตงเฟิงโฮ่วมองแผ่นหลังของชีอ้าวชวางที่เดินจากไปด้วยความทรมานใจ

 

 

ในขณะที่ชีอ้าวชวางกำลังจะเดินไป ก็มีเงาหนึ่งมาขวางทางเอาไว้ เร็วมาก! ชีอ้าวชวางแปลกใจกับความเร็วของคนตรงหน้า

 

 

“สาวสวย ให้เกียรติไปดื่มชากับข้าได้หรือไม่?” น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าและแววตาแปลกใจ ดวงตาที่ราวกับดวงดาว ผมสีบลอนด์นุ่มสลวย ริมฝีปากบางเซ็กซี่ ความสมบูรณ์แบบทั้งหมดนี้กลับมารวมกันอยู่ที่ผู้ชายคนเดียว แบบนี้มันเกินไปจริงๆ เมื่อมองใบหน้าไร้ที่ติและการแต่งตัวที่หรูหรา บวกกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมนั้น ชีอ้าวชวางก็รู้ถึงตัวตนของคนตรงหน้าได้ทันที

 

 

เขาผู้นี้คือเจ้าเมืองปู้จี…เชวียหลงเฟยนั่นเอง!

 

 

เพียงแต่เป้าหมายในการสนทนาของเขาไม่ใช่ตงเฟิงโฮ่ว แต่เป็นชีอ้าวชวาง

 

 

รอยยิ้มของชายตรงหน้านี้ทำให้คนมองรู้สึกถึงสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ชีอ้าวชวางจำต้องยอมรับจริงๆ ว่าเขามีต้นทุนที่ดีมาก เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่งเลย บางทีเจ้าหญิงเงือกอาจจะหลงใหลไปกับรอยยิ้มดั่งสายลมในฤดูใบไม้ผลินี้ก็เป็นได้

 

 

ชีอ้าวชวางเงียบอยู่นาน แต่เชวหลงเฟยกลับพูดประโยคที่ทำให้สีหน้าของชีอ้าวชวางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “เจ้ารอข้าอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”

 

 

ชีอ้าวชวางเงียบไปแล้วก้าวถอยหลังมองเชวียหลงเฟยที่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอย่างเย็นชา นางสบประมาทชายผู้นี้มากเกินไปแล้ว!

 

 

“แคลร์ ฮิลล์ ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกนี่เอง ขอข้าแนะนำตัวหน่อยนะ ข้าชื่อเชวียหลงเฟย” เชวหลงเฟยจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวผู้นี้คือคนที่มีปัญหาร้ายแรงกับวิหารแห่งแสงไม่ใช่หรือ? หญิงสาวที่วิหารแห่งแสงต้องการตัว ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตามน่ะหรือ?

 

 

สีหน้าของชีอ้าวชวางเรียบนิ่ง นี่อีกฝ่ายรู้ตัวตนของนางแล้วงั้นหรือ?!

 

 

เชวหลงเฟยพูดเบาๆ พร้อมรอยยิ้มขี้เล่น “เจ้าคงจะกำลังแปลกใจว่าข้ารู้ตัวตนของเจ้าได้อย่างไรอยู่สินะ เหอะๆ พวกเพื่อนของเจ้าที่อยู่ที่โรงแรมนั่นก็คงจะกำลังเผชิญหน้ากับคนของวิหารแห่งแสงและกลุ่มสายฟ้าสีดำอยู่ ตอนนี้ก็คงจะมีเพียงการต่อสู้ระหว่างเราสองคนแล้วล่ะ” สายตาของเชวหลงเฟยมีประกายความตื่นเต้นออกมา เดิมทีเขาไม่ได้ให้ความสนใจหญิงสาวที่ชื่อแคลร์ ฮิลล์ผู้นี้เลย แต่หลังจากที่นางต่อสู้กับวิหารแห่งแสงก็ทำให้เขาสนใจนางจนได้รู้ว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลขุนนางใหญ่ผู้นี้ที่ในอดีตเคยเป็นหญิงบ้าผู้ชายมาก่อนกลายเป็นอัจฉริยะที่ใครๆ ต่างก็ติดตามแล้ว นางเป็นทั้งที่รักของอันพาแกรนด์ ทั้งนักบวชของวิหารแห่งแสง จนสุดท้ายที่นางได้มีการปะทะกับพระสันตปาปาและอาร์ชบิชอปทั้งสิบสอง มันทำให้เขาจดจำความแข็งแกร่งนั้นเอาไว้ เขาอยากจะต่อสู้กับหญิงสาวตรงหน้าเขาในตอนนี้ดูสักครั้ง

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบตามองตงเฟิงโฮ่ว ก็เห็นว่าตอนนี้ตงเฟิงโฮ่วกำลังถูกหญิงสาวผู้หนึ่งวิ่งไล่ตามจนเขาต้องหนีกระเจิดกระเจิง ภาพนั้นทำให้ชีอ้าวชวางอึ้งไปเลย ตงเฟิงโฮ่วเป็นผู้อัญเชิญไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ล่ะ?

 

 

“อาชีพของหญิงสาวผู้นั้นเป็นสิ่งหักล้างกันกับผู้อัญเชิญ เขาจึงไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เวทออกมาได้” คำพูดเรียบๆ ของเชวหลงเฟยไขข้อข้องใจเรื่องสถานการณ์ในตอนนี้ของตงเฟิงโฮ่วได้อย่างชัดเจน

 

 

เฮ้อ!

 

 

ชีอ้าวชวางรู้สึกไม่พอใจ มองชายตรงหน้าอย่างเย็นชา ดูท่าทางเชวหลงเฟยนี่จะจัดการทุกอย่างเอาไว้อย่างดีแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!

 

 

ตอนนี้บรรดาชาวเมืองออกจากจัตุรัสแห่งนี้ไปจนหมด แต่พวกเขาไม่ได้ไปไกล มีคนจำนวนมากที่อยู่บนตึกสูงและมองมาทางนี้ และยังมีอีกจำนวนมากที่คอยมองอยู่ในบริเวณรอบๆ จัตุรัส

 

 

“ท่านเจ้าเมืองไร้คู่ต่อกร!”

 

 

“ท่านเจ้าเมืองสู้ๆ!”

 

 

“ท่านเจ้าเมืองเป็นหนึ่งในใต้หล้า!”

 

 

ทันใดนั้นบริเวณรอบๆ ก็เกิดความตื่นเต้นขึ้น ต่างคนต่างพากันส่งเสียงเชียร์ดังลั่น

 

 

เชวียหลงเฟยเหลือบตามองแล้วยกมือขึ้นตอบรับด้วยท่าทางมีความสุข ดูท่าทางคนๆ นี้จะไม่เพียงแต่เป็นคนเจ้าชู้ แต่เขายังเป็นคนหลงตัวเองอีกด้วย อีกทั้งจากที่ดูปฏิกิริยาของชาวเมืองทั้งหลายนี้แล้ว เชวหลงเฟยคงจะเป็นคนที่กระตือรือร้นอยากจะต่อสู้มาก แล้วเขาก็คงจะชอบให้ชาวเมืองมามุงดูชัยชนะของเขาเพื่อตอบสนองความหลงใหลของเขาด้วยเช่นกัน พอเห็นอย่างนี้ก็ดูออกเลยว่าชาวเมืองรักเจ้าเมืองของพวกเขามาก และเคารพเขาอย่างหน้ามืดตามัวเลย

 

 

“แคลร์ ฮิลล์ เข้ามาสิ แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งอย่างที่เล่าลือกันหรือไม่ อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ” เชวียหลงเฟยพูดเสียงเรียบและรอยยิ้มก็หายไปจากใบหน้าของเขาทันที ทั่วร่างเขาปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาแล้วยกมือขึ้นช้าๆ ทันใดนั้นก็มีดาบสีทองอร่ามปรากฏขึ้นในมือของเขา เชวหลงเฟยยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น จนทำให้ชีอ้าวชวางต้องชำเลืองมองลมหายใจที่มั่นคงราวกับภูผาของเขา

 

 

เชวียหลงเฟยคือคนเก่งชั้นยอดเลย! เขาคู่ควรกับการได้รับยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะของประเทศสวิท! อายุเขาเพียงแค่ยี่สิบเจ็ดปี แต่กลับประสบความสำเร็วในทุกด้านถึงขนาดนี้แล้ว

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบตามองแล้วยิ้มเยาะ นางสะบัดมือ จากนั้นดาบชังหลันก็ปรากฏขึ้นในมือ

 

 

ชีอ้าวชวางมองดาบชังหลันในมือแล้วลอบถอนหายใจ ช่างเป็นดาบที่ไร้ที่ติจริงๆ!

 

 

ลมทะเลพัดผ่านพาให้ผมและชุดของทั้งสองปลิวสะบัดตามแรงลม ทันใดนั้นสายตาของทั้งสองก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แล้วพลังที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกมา

 

 

เหล่านกทะเลที่เดิมทีกำลังหาอาหารอยู่ที่พื้นก็บินขึ้นไปบนฟ้าทั้งหมด ขนนกปลิวไปทั่วท้องฟ้าแล้วตกลงมาบนตัวและตรงหน้าของทั้งสองคน

 

 

ในขณะนั้น สถานการณ์ก็ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางและเชวหลงเฟยต่างก็จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

 

 

ทั้งสองควบคุมลมหายใจที่รุนแรงของตัวเองเอาไว้ไม่ให้แผ่กระจายออกไปยังชาวเมืองที่อยู่บริเวณรอบ สายตาของเชวหลงเฟยมีประกายความชื่นชม และในใจเขาก็มั่นใจในการคาดเดาของเขาแล้ว

 

 

“ท่านเจ้าเมืองไร้คู่ต่อกร!”

 

 

“กรี๊ด…ท่านเจ้าเมือง…”

 

 

เหล่าบรรดาหญิงสาวที่รักและชื่นชมเชวหลงเฟยพากันส่งเสียงกรี๊ดมาจากโดยรอบจัตุรัส ในใจของพวกเขาท่านเจ้าเมืองเก่งที่สุด ไม่มีเรื่องอะไรมาระคายท่านเจ้าเมืองของพวกเขาได้เลย

 

 

เคร้ง…

 

 

ราวกับว่าเวลาหยุดเดิน ทั้งสองเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน ดาบในมือของทั้งสองก็ส่องสว่างเสียจนผู้คนลืมตาไม่ได้

 

 

ทั้งสองปะทะกันอยู่กลางอากาศ

 

 

เสียงการปะทะดังก้องไปทั่ว

 

 

ทั้งจัตุรัสนั้นสั่นสะเทือนไปหมด ไม่สิ! ทั้งเกาะเลยต่างหากที่สั่นสะเทือน

 

 

เสียงการปะทะกันดังรุนแรงจนผู้คนต่างพากันปิดหูเอาไว้ บริเวณโดยรอบที่สั่นสะเทือนอยู่นั้นก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัว

 

 

ทั้งสองคนที่ปะทะกันอยู่กลางอากาศแยกออกจากกันแล้วถอยไปจากตำแหน่งเดิม

 

 

ชีอ้าวชวางมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่เชวียหลงเฟยก็มองหญิงสาวตรงหน้าโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิดฝีมือสูสีกันทั้งคู่?!

 

 

ผู้คนที่อยู่รอบจัตุรัสต่างเงียบมองสถานการณ์ตรงหน้าตาค้าง

 

 

หญิงสาวผู้นั้นฝีมือสูสีกับท่านเจ้าเมืองงั้นหรือ?! ทุกคนมองกันอย่างไม่เชื่อสายตา มันจะเป็นไปได้อย่างไร?!

 

 

ทันใดนั้นวิกผมสีบลอนด์บนหัวของหญิงสาวก็ร่วงลงสู่พื้น เผยให้เห็นผมสีดำราวกับหมึกที่น่าหลงใหลของนาง วิกผมที่พื้นนั้นเห็นรอยมีดอย่างชัดเจนเลย

 

 

ว้าว…

 

 

เสียงเชียร์ดังกึกก้องทันที

 

 

“ท่านเจ้าเมือง!”

 

 

“ท่านเจ้าเมือง!”

 

 

“ไร้คู่ต่อกร! ไร้คู่ต่อกรจริงๆ!”

 

 

เสียงเชียร์ของเหล่าชาวเมืองแทบจะกลบทั้งสองคนที่อยู่กลางจัตุรัสไปหมดเลย

 

 

ทันใดนั้น เชวียหลงเฟยก็กระอักเลือดออกมา แล้วร่างกายก็ทรุดลงไป พยุงร่างไว้ไม่อยู่ เชวียหลงเฟยปักดาบไว้ที่พื้นช่วยพยุงร่างของเขา

 

 

เสียงเชียร์กึกก้องหยุดชะงักไปทันที

 

 

ทั้งจัตุรัสมีแต่ความเงียบงัน ทุกคนมองท่านเจ้าเมืองของพวกเขาที่ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้ใครแต่ตอนนี้มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้อย่างไม่เชื่อสายตา ท่านเจ้าเมืองแพ้หรือ? ท่านเจ้าเมืองผู้เป็นที่หนึ่งในใจของพวกเขาแพ้ให้กับหญิงสาวผู้นั้นในเวลาอันสั้นเพียงเท่านี้หรือ?! ตอนนี้สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่หญิงสาวผมดำผู้นั้น

 

 

ผมสีดำของชีอ้าวชวางปลิวตามสายลม ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบของนางตอนนี้เย็นชาและเย่อหยิ่งนางยืนเงียบๆ อยู่แบบนั้นก็สยบผู้คนได้แล้ว

 

 

“เจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ว่ายังไม่พอ” น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมาเบาๆ แต่กลับดังก้องอยู่ในใจของทุกคนราวกับฝันร้าย

 

 

“เจ้าแข็งแกร่งมาก” เชวียหลงเฟยยื่นมือไปเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วพูดเรียบๆ

 

 

“ยังอยู่หรือว่าตายเสียแล้วล่ะ?” ชีอ้าวชวางถามชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเย็นชา

 

 

“ก็ต้องยังอยู่สิ” เชวียหลงเฟยยิ้มเผยฟันขาวแล้วเขาก็เอานิ้วเข้าปากเป่าออกมาเป็นเสียง ทันใดนั้นหญิงสาวที่วิ่งไล่ตงเฟิงโฮ่วก็หยุดทันทีแล้วเข้ามาหาเขาอย่างว่าง่าย “ข้ายังสำราญไม่หนำใจเลย ชีวิตดีขนาดนี้ข้าจะตายได้อย่างไรล่ะ?”

 

 

ชีอ้าวชวางมองเชวียหลงเฟยที่ยิ้มสดใสอยู่ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คนๆ นี้คิดอะไรอยู่กันแน่?

 

 

“ทุกคนแยกย้าย มีอะไรต้องทำก็ไปทำเถอะ!” เชวียหลงเฟยตะโกนบอกชาวเมืองรอบๆ ที่กำลังมองชีอ้าวชวางอย่างเกลียดชัง จากนั้นทั้งหมดก็หายไปกันอย่างรวดเร็ว

 

 

ตงเฟิงโฮ่วรีบไปข้างชีอ้าวชวางอย่างรีบร้อนราวกับไฟลนก้น “อ้าวชวาง ข้า ข้า ข้าไปที่โรงแรมนะ ฉู่ซิน ฉู่ซินยังอยู่ที่นั่น” เห็นได้ชัดตงเฟิงโฮ่วได้ยินที่เชวหลงเฟยบอกว่าคนของวิหารแห่งแสงและกลุ่มสายฟ้าสีดำไปล้อมที่โรงแรมไว้ ตอนนี้เขาจึงแทบอยากจะบินไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เสน่ห์คมดาบ 194

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 194 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เพราะว่าเจ้าสวยที่สุดอย่างไร” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ

 

 

“ข้ายอมไม่สวยดีกว่า” ตงเฟิงโฮ่วทำหน้าจะร้องไห้ ทำไมแผนหญิงงามนี่ต้องมาตกอยู่ที่เขาด้วยล่ะ เขาเป็นชายแท้นะ! ทำไมต้องให้เขามาแต่งหญิงหลอกล่อเชวหลงเฟยด้วย ทำไม?

 

 

“รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวเชวหลงเฟยจะต้องผ่านมาทางนี้แน่ๆ” ชีอ้าวชวางลุกขึ้นยืนปัดเสื้อผ้า “เจ้าแค่ต้องแฝงตัวเข้าไปสืบว่าเจ้าหญิงเงือกอยู่ที่ไหนก็เท่านั้นเอง” ชีอ้าวชวางพูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกชังเชวหลงเฟยมากเมื่อวานนางวางแผนว่าจะไปสืบที่อยู่ของเจ้าหญิงเงือกที่คฤหาสน์เจ้าเมือง แต่กลับต้องพูดไม่ออกเพราะฮาเร็มขนาดใหญ่ที่มีอยู่จำนวนมากในนั้น เชวหลงเฟยที่สมควรตายผู้นั้นสร้างอาคารที่อยู่ให้กับนางบำเรอของเขาทุกคน อีกทั้งรูปแบบและโครงสร้างของอาคารที่พักจำนวนมากนั้นแทบจะเหมือนกันทุกประการ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่มากถ้าอยากจะหาที่อยู่ของเจ้าหญิงเงือก แต่นางได้ยินมาว่าเหล่าฮาเร็มของเชวหลงเฟยมีความกลมเกลียวกันมาก ดังนั้นการที่ตงเฟิงโฮ่วแฝงตัวเข้าไปสืบน่าจะง่ายกว่า

 

 

พอเห็นว่าชีอ้าวชวางกำลังจะเดินจากไป ตงเฟิงโฮ่วก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา “ถ้าหากเจ้านั่นจะทำอะไรข้า ข้าจะทำอย่างไรดีล่ะ?”

 

 

“เจ้าสบายใจได้ เชวียหลงเฟยไม่เคยบังคับผู้หญิง” ชีอ้าวชวางทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วเดินจากไป

 

 

ตงเฟิงโฮ่วมองแผ่นหลังของชีอ้าวชวางที่เดินจากไปด้วยความทรมานใจ

 

 

ในขณะที่ชีอ้าวชวางกำลังจะเดินไป ก็มีเงาหนึ่งมาขวางทางเอาไว้ เร็วมาก! ชีอ้าวชวางแปลกใจกับความเร็วของคนตรงหน้า

 

 

“สาวสวย ให้เกียรติไปดื่มชากับข้าได้หรือไม่?” น้ำเสียงอ่อนโยนดังขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางเงยหน้ามองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าและแววตาแปลกใจ ดวงตาที่ราวกับดวงดาว ผมสีบลอนด์นุ่มสลวย ริมฝีปากบางเซ็กซี่ ความสมบูรณ์แบบทั้งหมดนี้กลับมารวมกันอยู่ที่ผู้ชายคนเดียว แบบนี้มันเกินไปจริงๆ เมื่อมองใบหน้าไร้ที่ติและการแต่งตัวที่หรูหรา บวกกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมนั้น ชีอ้าวชวางก็รู้ถึงตัวตนของคนตรงหน้าได้ทันที

 

 

เขาผู้นี้คือเจ้าเมืองปู้จี…เชวียหลงเฟยนั่นเอง!

 

 

เพียงแต่เป้าหมายในการสนทนาของเขาไม่ใช่ตงเฟิงโฮ่ว แต่เป็นชีอ้าวชวาง

 

 

รอยยิ้มของชายตรงหน้านี้ทำให้คนมองรู้สึกถึงสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ชีอ้าวชวางจำต้องยอมรับจริงๆ ว่าเขามีต้นทุนที่ดีมาก เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่งเลย บางทีเจ้าหญิงเงือกอาจจะหลงใหลไปกับรอยยิ้มดั่งสายลมในฤดูใบไม้ผลินี้ก็เป็นได้

 

 

ชีอ้าวชวางเงียบอยู่นาน แต่เชวหลงเฟยกลับพูดประโยคที่ทำให้สีหน้าของชีอ้าวชวางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน “เจ้ารอข้าอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะ?”

 

 

ชีอ้าวชวางเงียบไปแล้วก้าวถอยหลังมองเชวียหลงเฟยที่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอย่างเย็นชา นางสบประมาทชายผู้นี้มากเกินไปแล้ว!

 

 

“แคลร์ ฮิลล์ ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้ามานานแล้ว เพิ่งได้เจอกันครั้งแรกนี่เอง ขอข้าแนะนำตัวหน่อยนะ ข้าชื่อเชวียหลงเฟย” เชวหลงเฟยจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวผู้นี้คือคนที่มีปัญหาร้ายแรงกับวิหารแห่งแสงไม่ใช่หรือ? หญิงสาวที่วิหารแห่งแสงต้องการตัว ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรก็ตามน่ะหรือ?

 

 

สีหน้าของชีอ้าวชวางเรียบนิ่ง นี่อีกฝ่ายรู้ตัวตนของนางแล้วงั้นหรือ?!

 

 

เชวหลงเฟยพูดเบาๆ พร้อมรอยยิ้มขี้เล่น “เจ้าคงจะกำลังแปลกใจว่าข้ารู้ตัวตนของเจ้าได้อย่างไรอยู่สินะ เหอะๆ พวกเพื่อนของเจ้าที่อยู่ที่โรงแรมนั่นก็คงจะกำลังเผชิญหน้ากับคนของวิหารแห่งแสงและกลุ่มสายฟ้าสีดำอยู่ ตอนนี้ก็คงจะมีเพียงการต่อสู้ระหว่างเราสองคนแล้วล่ะ” สายตาของเชวหลงเฟยมีประกายความตื่นเต้นออกมา เดิมทีเขาไม่ได้ให้ความสนใจหญิงสาวที่ชื่อแคลร์ ฮิลล์ผู้นี้เลย แต่หลังจากที่นางต่อสู้กับวิหารแห่งแสงก็ทำให้เขาสนใจนางจนได้รู้ว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลขุนนางใหญ่ผู้นี้ที่ในอดีตเคยเป็นหญิงบ้าผู้ชายมาก่อนกลายเป็นอัจฉริยะที่ใครๆ ต่างก็ติดตามแล้ว นางเป็นทั้งที่รักของอันพาแกรนด์ ทั้งนักบวชของวิหารแห่งแสง จนสุดท้ายที่นางได้มีการปะทะกับพระสันตปาปาและอาร์ชบิชอปทั้งสิบสอง มันทำให้เขาจดจำความแข็งแกร่งนั้นเอาไว้ เขาอยากจะต่อสู้กับหญิงสาวตรงหน้าเขาในตอนนี้ดูสักครั้ง

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบตามองตงเฟิงโฮ่ว ก็เห็นว่าตอนนี้ตงเฟิงโฮ่วกำลังถูกหญิงสาวผู้หนึ่งวิ่งไล่ตามจนเขาต้องหนีกระเจิดกระเจิง ภาพนั้นทำให้ชีอ้าวชวางอึ้งไปเลย ตงเฟิงโฮ่วเป็นผู้อัญเชิญไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นแบบนี้ล่ะ?

 

 

“อาชีพของหญิงสาวผู้นั้นเป็นสิ่งหักล้างกันกับผู้อัญเชิญ เขาจึงไม่สามารถอัญเชิญสัตว์เวทออกมาได้” คำพูดเรียบๆ ของเชวหลงเฟยไขข้อข้องใจเรื่องสถานการณ์ในตอนนี้ของตงเฟิงโฮ่วได้อย่างชัดเจน

 

 

เฮ้อ!

 

 

ชีอ้าวชวางรู้สึกไม่พอใจ มองชายตรงหน้าอย่างเย็นชา ดูท่าทางเชวหลงเฟยนี่จะจัดการทุกอย่างเอาไว้อย่างดีแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!

 

 

ตอนนี้บรรดาชาวเมืองออกจากจัตุรัสแห่งนี้ไปจนหมด แต่พวกเขาไม่ได้ไปไกล มีคนจำนวนมากที่อยู่บนตึกสูงและมองมาทางนี้ และยังมีอีกจำนวนมากที่คอยมองอยู่ในบริเวณรอบๆ จัตุรัส

 

 

“ท่านเจ้าเมืองไร้คู่ต่อกร!”

 

 

“ท่านเจ้าเมืองสู้ๆ!”

 

 

“ท่านเจ้าเมืองเป็นหนึ่งในใต้หล้า!”

 

 

ทันใดนั้นบริเวณรอบๆ ก็เกิดความตื่นเต้นขึ้น ต่างคนต่างพากันส่งเสียงเชียร์ดังลั่น

 

 

เชวียหลงเฟยเหลือบตามองแล้วยกมือขึ้นตอบรับด้วยท่าทางมีความสุข ดูท่าทางคนๆ นี้จะไม่เพียงแต่เป็นคนเจ้าชู้ แต่เขายังเป็นคนหลงตัวเองอีกด้วย อีกทั้งจากที่ดูปฏิกิริยาของชาวเมืองทั้งหลายนี้แล้ว เชวหลงเฟยคงจะเป็นคนที่กระตือรือร้นอยากจะต่อสู้มาก แล้วเขาก็คงจะชอบให้ชาวเมืองมามุงดูชัยชนะของเขาเพื่อตอบสนองความหลงใหลของเขาด้วยเช่นกัน พอเห็นอย่างนี้ก็ดูออกเลยว่าชาวเมืองรักเจ้าเมืองของพวกเขามาก และเคารพเขาอย่างหน้ามืดตามัวเลย

 

 

“แคลร์ ฮิลล์ เข้ามาสิ แสดงให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งอย่างที่เล่าลือกันหรือไม่ อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ” เชวียหลงเฟยพูดเสียงเรียบและรอยยิ้มก็หายไปจากใบหน้าของเขาทันที ทั่วร่างเขาปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัวออกมาแล้วยกมือขึ้นช้าๆ ทันใดนั้นก็มีดาบสีทองอร่ามปรากฏขึ้นในมือของเขา เชวหลงเฟยยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น จนทำให้ชีอ้าวชวางต้องชำเลืองมองลมหายใจที่มั่นคงราวกับภูผาของเขา

 

 

เชวียหลงเฟยคือคนเก่งชั้นยอดเลย! เขาคู่ควรกับการได้รับยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะของประเทศสวิท! อายุเขาเพียงแค่ยี่สิบเจ็ดปี แต่กลับประสบความสำเร็วในทุกด้านถึงขนาดนี้แล้ว

 

 

ชีอ้าวชวางเหลือบตามองแล้วยิ้มเยาะ นางสะบัดมือ จากนั้นดาบชังหลันก็ปรากฏขึ้นในมือ

 

 

ชีอ้าวชวางมองดาบชังหลันในมือแล้วลอบถอนหายใจ ช่างเป็นดาบที่ไร้ที่ติจริงๆ!

 

 

ลมทะเลพัดผ่านพาให้ผมและชุดของทั้งสองปลิวสะบัดตามแรงลม ทันใดนั้นสายตาของทั้งสองก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แล้วพลังที่มองไม่เห็นก็แผ่กระจายออกมา

 

 

เหล่านกทะเลที่เดิมทีกำลังหาอาหารอยู่ที่พื้นก็บินขึ้นไปบนฟ้าทั้งหมด ขนนกปลิวไปทั่วท้องฟ้าแล้วตกลงมาบนตัวและตรงหน้าของทั้งสองคน

 

 

ในขณะนั้น สถานการณ์ก็ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางและเชวหลงเฟยต่างก็จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

 

 

ทั้งสองควบคุมลมหายใจที่รุนแรงของตัวเองเอาไว้ไม่ให้แผ่กระจายออกไปยังชาวเมืองที่อยู่บริเวณรอบ สายตาของเชวหลงเฟยมีประกายความชื่นชม และในใจเขาก็มั่นใจในการคาดเดาของเขาแล้ว

 

 

“ท่านเจ้าเมืองไร้คู่ต่อกร!”

 

 

“กรี๊ด…ท่านเจ้าเมือง…”

 

 

เหล่าบรรดาหญิงสาวที่รักและชื่นชมเชวหลงเฟยพากันส่งเสียงกรี๊ดมาจากโดยรอบจัตุรัส ในใจของพวกเขาท่านเจ้าเมืองเก่งที่สุด ไม่มีเรื่องอะไรมาระคายท่านเจ้าเมืองของพวกเขาได้เลย

 

 

เคร้ง…

 

 

ราวกับว่าเวลาหยุดเดิน ทั้งสองเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน ดาบในมือของทั้งสองก็ส่องสว่างเสียจนผู้คนลืมตาไม่ได้

 

 

ทั้งสองปะทะกันอยู่กลางอากาศ

 

 

เสียงการปะทะดังก้องไปทั่ว

 

 

ทั้งจัตุรัสนั้นสั่นสะเทือนไปหมด ไม่สิ! ทั้งเกาะเลยต่างหากที่สั่นสะเทือน

 

 

เสียงการปะทะกันดังรุนแรงจนผู้คนต่างพากันปิดหูเอาไว้ บริเวณโดยรอบที่สั่นสะเทือนอยู่นั้นก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัว

 

 

ทั้งสองคนที่ปะทะกันอยู่กลางอากาศแยกออกจากกันแล้วถอยไปจากตำแหน่งเดิม

 

 

ชีอ้าวชวางมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ในขณะที่เชวียหลงเฟยก็มองหญิงสาวตรงหน้าโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิดฝีมือสูสีกันทั้งคู่?!

 

 

ผู้คนที่อยู่รอบจัตุรัสต่างเงียบมองสถานการณ์ตรงหน้าตาค้าง

 

 

หญิงสาวผู้นั้นฝีมือสูสีกับท่านเจ้าเมืองงั้นหรือ?! ทุกคนมองกันอย่างไม่เชื่อสายตา มันจะเป็นไปได้อย่างไร?!

 

 

ทันใดนั้นวิกผมสีบลอนด์บนหัวของหญิงสาวก็ร่วงลงสู่พื้น เผยให้เห็นผมสีดำราวกับหมึกที่น่าหลงใหลของนาง วิกผมที่พื้นนั้นเห็นรอยมีดอย่างชัดเจนเลย

 

 

ว้าว…

 

 

เสียงเชียร์ดังกึกก้องทันที

 

 

“ท่านเจ้าเมือง!”

 

 

“ท่านเจ้าเมือง!”

 

 

“ไร้คู่ต่อกร! ไร้คู่ต่อกรจริงๆ!”

 

 

เสียงเชียร์ของเหล่าชาวเมืองแทบจะกลบทั้งสองคนที่อยู่กลางจัตุรัสไปหมดเลย

 

 

ทันใดนั้น เชวียหลงเฟยก็กระอักเลือดออกมา แล้วร่างกายก็ทรุดลงไป พยุงร่างไว้ไม่อยู่ เชวียหลงเฟยปักดาบไว้ที่พื้นช่วยพยุงร่างของเขา

 

 

เสียงเชียร์กึกก้องหยุดชะงักไปทันที

 

 

ทั้งจัตุรัสมีแต่ความเงียบงัน ทุกคนมองท่านเจ้าเมืองของพวกเขาที่ไม่เคยเพลี่ยงพล้ำให้ใครแต่ตอนนี้มาตกอยู่ในสภาพแบบนี้อย่างไม่เชื่อสายตา ท่านเจ้าเมืองแพ้หรือ? ท่านเจ้าเมืองผู้เป็นที่หนึ่งในใจของพวกเขาแพ้ให้กับหญิงสาวผู้นั้นในเวลาอันสั้นเพียงเท่านี้หรือ?! ตอนนี้สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่หญิงสาวผมดำผู้นั้น

 

 

ผมสีดำของชีอ้าวชวางปลิวตามสายลม ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบของนางตอนนี้เย็นชาและเย่อหยิ่งนางยืนเงียบๆ อยู่แบบนั้นก็สยบผู้คนได้แล้ว

 

 

“เจ้าแข็งแกร่งมาก แต่ว่ายังไม่พอ” น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมาเบาๆ แต่กลับดังก้องอยู่ในใจของทุกคนราวกับฝันร้าย

 

 

“เจ้าแข็งแกร่งมาก” เชวียหลงเฟยยื่นมือไปเช็ดเลือดที่มุมปากแล้วพูดเรียบๆ

 

 

“ยังอยู่หรือว่าตายเสียแล้วล่ะ?” ชีอ้าวชวางถามชายตรงหน้าด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเย็นชา

 

 

“ก็ต้องยังอยู่สิ” เชวียหลงเฟยยิ้มเผยฟันขาวแล้วเขาก็เอานิ้วเข้าปากเป่าออกมาเป็นเสียง ทันใดนั้นหญิงสาวที่วิ่งไล่ตงเฟิงโฮ่วก็หยุดทันทีแล้วเข้ามาหาเขาอย่างว่าง่าย “ข้ายังสำราญไม่หนำใจเลย ชีวิตดีขนาดนี้ข้าจะตายได้อย่างไรล่ะ?”

 

 

ชีอ้าวชวางมองเชวียหลงเฟยที่ยิ้มสดใสอยู่ตรงหน้าแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คนๆ นี้คิดอะไรอยู่กันแน่?

 

 

“ทุกคนแยกย้าย มีอะไรต้องทำก็ไปทำเถอะ!” เชวียหลงเฟยตะโกนบอกชาวเมืองรอบๆ ที่กำลังมองชีอ้าวชวางอย่างเกลียดชัง จากนั้นทั้งหมดก็หายไปกันอย่างรวดเร็ว

 

 

ตงเฟิงโฮ่วรีบไปข้างชีอ้าวชวางอย่างรีบร้อนราวกับไฟลนก้น “อ้าวชวาง ข้า ข้า ข้าไปที่โรงแรมนะ ฉู่ซิน ฉู่ซินยังอยู่ที่นั่น” เห็นได้ชัดตงเฟิงโฮ่วได้ยินที่เชวหลงเฟยบอกว่าคนของวิหารแห่งแสงและกลุ่มสายฟ้าสีดำไปล้อมที่โรงแรมไว้ ตอนนี้เขาจึงแทบอยากจะบินไปที่นั่นเดี๋ยวนี้เลย

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+