เสน่ห์คมดาบ 208

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 208 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาจารย์ล่ะ?” ชีอ้าวชวางกังวลเรื่องนี้มากที่สุด

 

 

“ข้าไม่รู้” จินเหยียนส่ายหัว “ปรมาจารย์คลิฟหายตัวไปแล้วก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย”

 

 

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและก้มหน้าลงเล็กน้อย นางรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และราอูลดีกว่าใครๆ ราอูลเป็นเพื่อนคนเดียวของอาจารย์ เป็นเพื่อนที่จริงใจต่อกัน แต่เพราะตนเอง ตอนนี้เลยต้องกลายเป็นแบบนี้…

 

 

เหลิ่งหลิงยวิ๋นหลับตาลงอย่างช้าๆ และไม่พูดอะไร มีเพียงแค่ความเศร้าที่ชัดเจนมาก

 

 

“ข้าเกรงว่าอันพาแกรนด์จะต้องเสียใจที่ออกหมายจับเจ้าแล้วล่ะสิ” เบนพูดอย่างดูถูก “พวกเขาได้เห็นว่าเจ้าทำร้ายคนของวิหารแห่งแสงอย่างสาหัส พวกเขาต้องสูญเสียปรมาจารย์คลิฟ และตอนนี้ก็ต้องสูญเสียอัศวินอย่างจินเหยียน แต่พวกเขากลับไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเจ้าเลย”

 

 

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรเลย

 

 

“เอาละ นี่พวกเจ้าสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่?” เบนตะคอกอย่างไม่พอใจ “อาจารย์ของพวกเจ้ายังไม่ตายนะ อ้าวชวาง เจ้าเองก็ยังไม่ตาย รอให้อาจารย์ของเจ้าหาเจ้าจนพบก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นก็จะกำจัดวิหารแห่งแสงได้ สุดท้ายทุกอย่างก็จะคลี่คลายไป”

 

 

ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ “อืม ข้าไม่อยากให้อาจารย์ต้องสูญเสียเพื่อนคนเดียวของเขาไปเพราะข้า”

 

 

“เช่นนั้นก็เร่งทำไปอีก” เบนถูกำปั้นของเขาด้วยความกระตือรือร้น

 

 

“ได้ข่าวเกี่ยวกับวัลโดบ้างหรือไม่?” ชีอ้าวชวางคิดถึงวัลโดที่เห็นได้ชัดว่ากลัวตายแต่ก็ยังไม่ยอมละทิ้งนางไป

 

 

“วัลโด…” จินเหยียนส่ายหัวเบาๆ “ไม่มีข่าวของเขาเลย เขาเป็นนักเวทแห่งความมืด คงจะปรากฏตัวไม่ได้ง่ายๆ แต่เขาก็น่าจะรู้เรื่องของคุณหนูแล้ว บางทีเขาอาจจะกำลังตามหาคุณหนูอยู่”

 

 

ชีอ้าวชวางครุ่นคิดและไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

“คืนนี้เราพักผ่อนกันที่นี่นะ พรุ่งนี้เช้าค่อยรีบออกเดินทางกัน” จินเหยียนมองจูดี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลแล้วพูดเบาๆ “จูดี้เองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”

 

 

ทุกคนเห็นพ้องต้องกันแล้วก็เริ่มแยกกันไปจัดแคมป์

 

 

“อ้าวชวาง เจ้าดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากเลยนะ เอาไว้เรามาลองสู้กันดูดีหรือไม่?” เบนแสยะยิ้ม

 

 

ชีอ้าวชวางไม่สนใจรอยยิ้มของเบนแล้วเตรียมฟืนกับเหลิ่งหลิงยวิ๋นเพื่อเตรียมของกิน เบนก็ยังคงพูดอยู่ข้างๆ ไม่รู้จักจบ ส่วนออสต้าก็นั่งเงียบอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไร

 

 

ทันใดนั้นจินเหยียนก็ลุกขึ้นพูด “ข้าจะไปหากระต่ายสักสองสามตัว”

 

 

“ไปสิๆ เอาอ้วนๆ หน่อยนะ” เบนออกคำสั่ง

 

 

จินเหยียนเดินไปหาจูดี้ที่นั่งอยู่อีกด้านแล้วพูดเบาๆ “จูดี้ไปกันเถอะ”

 

 

“เจ้านาย?” จูดี้มองจินเหยียนที่เข้ามาใกล้ด้วยความประหลาดใจ

 

 

“ไปหาของกินกันเถอะ” จินเหยียนพูดออกไปเท่านั้นโดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม

 

 

จูดี้ไม่พูดอะไรอีก นางลุกขึ้นแล้วเดินตามจินเหยียนไป คนหนึ่งคนและมังกรหนึ่งตัวเดินเข้าไปในป่าโดยไม่มีการพูดคุยกันในระหว่างทางเลย

 

 

หลังจากที่เดินมาไกลแล้วจินเหยียนก็พูดเบาๆ “จูดี้…”

 

 

“คะ? เจ้านาย?” จูดี้เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง

 

 

“จูดี้ เจ้าไม่ชอบคุณหนูหรือ?” จินเหยียนหยุดแล้วหันกลับมามองจูดี้ จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็น

 

 

สีหน้าของจูดี้เปลี่ยนไปทันที นางมองจินเหยียนด้วยความงุนงงและคิดไม่ถึงว่าจินเหยียนพูดมาตรงๆ แบบนี้ และยิ่งไม่คิดเลยว่าเขาจะอ่านความคิดของตนเองออก

 

 

จูดี้ก้มหัวลงและกัดริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร

 

 

จินเหยียนก็ไม่ได้พูดเช่นกัน แต่รอฟังอย่างเงียบๆ

 

 

“ใช่! ข้าเกลียดนาง!” หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดจูดี้ก็พูดออกมา นางเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่จินเหยียน “ข้าเกลียดนางมากๆ ทำไมล่ะ? ทำไมเจ้านายถึงต้องดีกับนางขนาดนั้น? ทั้งที่ในสายตาของนางไม่มีท่านอยู่เลย สิ่งที่เจ้านายทำไปทุกอย่างมีอะไรตอบแทนกลับมาหรือไม่?”

 

 

“จูดี้ นางสำคัญสำหรับข้ามากนะ” หลังจากที่จูดี้โพล่งออกมา จินเหยียนก็ยังดูสงบ และค่อยๆ พูด “ไม่มีใครมาแทนที่ของนางที่อยู่ในใจของข้าได้”

 

 

จูดี้มองใบหน้าที่สงบของจินเหยียนและฟังคำพูดเหล่านั้น หัวใจของนางบีบแน่นแล้วน้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างควบคุมไม่ได้

 

 

“แน่นอน ไม่มีใครแทนที่จูดี้ในใจข้าได้เช่นกัน” จินเหยียนมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของจูดี้และพูดเบาๆ “จูดี้เองก็แตกต่างจากคนอื่นๆ”

 

 

“แต่ แต่! เจ้านายดีกับนางขนาดนี้ นาง…” จูดี้สะอื้นเบาๆ

 

 

“เจ้าดีกับข้ามากขนาดนี้ เจ้าคิดจะขอให้ข้าตอบแทนอะไรให้เจ้าบ้างหรือไม่?” จินเหยียนถามเบาๆ

 

 

“ไม่ ไม่เลย” จูดี้เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและส่ายหัว น้ำตาของนางก็ไหลออกมา จูดี้พูดอย่างกังวล “ข้าเต็มใจ ข้าเต็มใจมากๆ ความปรารถนาของเจ้านายคือความปรารถนาของข้าเช่นกัน”

 

 

“ข้าก็ไม่ได้คิดจะขอให้คุณหนูตอบแทนอะไรให้ข้า ข้าแค่อยากอยู่กับคุณหนู และได้เห็นคุณหนูมีความสุขก็พอแล้ว” จินเหยียนพูดเบาๆ เขายื่นมือไปลูบหัวจูดี้แล้วยิ้ม “เจ้าเข้าใจความรู้สึกของข้าที่เป็นแบบนี้ใช่หรือไม่? อีกอย่าง เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าหากเจ้าทำร้ายคุณหนู ข้าจะทำอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้าจะเมินเฉยต่อคุณหนูและไม่มีนางในสายตาของข้าอีกต่อไปงั้นหรือ?”

 

 

จูดี้อ้าปากค้างแล้วมองใบหน้ารูปงามของจินเหยียนพร้อมกับคิดถึงสิ่งที่จินเหยียนพูดไปด้วย ในใจของนางก็รู้สึกกลัวว่าถ้านางทำอะไรคนๆ นั้นจริงๆ เจ้านายก็จะไม่ปล่อยให้คนๆ นั้นอยู่คนเดียวหรอก อีกทั้งคงจะลงโทษตนเองอย่างรุนแรงด้วย หรืออาจจะทิ้งตนเองไปเลย? คิดถึงเรื่องนี้แล้วจูดี้ก็เริ่มกลัวมากขึ้น

 

 

“ฮือๆๆ…” ในที่สุดจูดี้ก็ร้องไห้ออกมาและพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของจินเหยียน “เจ้านาย ข้าเข้าใจ ข้าขอโทษ ข้า ข้าแค่อิจฉานางมากที่นางได้รับความเป็นห่วงเป็นใยจากเจ้านาย และเจ้านายก็คอยดูแลปกป้องนาง ข้าเองก็ ข้าเองก็อยากให้เจ้านายสนใจข้ามากๆ เป็นห่วงข้ามากๆ” จูดี้ร้องไห้เป็นคนขี้แย

 

 

จินเหยียนยิ้ม เขาลูบหัวจูดี้แล้วพูด “ข้าไม่ดีเอง ข้าทำให้เจ้าเสียใจ”

 

 

หลังจากจินเหยียนพูดจบ จูดี้ก็ร้องไห้เสียใจมากยิ่งขึ้น จินเหยียนไม่ขยับตัว เขาปล่อยให้จูดี้ร้องไห้ไป ที่จริงจินเหยียนรู้มานานแล้วว่าจูดี้ไม่ชอบชีอ้าวชวาง เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจูดี้จะยิ่งแสดงอาการมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ต่อไปก็ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น พูดตามตรงก็คือจูดี้เป็นมังกรที่เพิ่งเติบโตและนางก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะทางความคิด นางเดิมทีเป็นเด็กที่บริสุทธิ์มาก แต่หากหัวใจต้องบิดเบี้ยวเพราะความหึงหวงแล้วคิดทำทุกอย่างเพื่อทำร้ายชีอ้าวชวาง จินเหยียนจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองและจูดี้เลย ดังนั้นก่อนที่สาวน้อยผู้นี้จะทำอะไรผิดไป เขาจะต้องดึงนางกลับมาให้ได้ก่อน

 

 

“ข้าก็อยากอยู่กับเจ้านายตลอด ข้ารู้ว่าเรื่องระหว่างข้ากับเจ้านายมันเป็นไปไม่ได้ แต่ แต่ข้าก็อดอิจฉานางไม่ได้ ในขณะที่บินอยู่ในอากาศ ข้าก็ยังอยากหาโอกาสที่จะกำจัดนางไปซะ” จูดี้สะอื้นและร้องออกมาอย่างซื่อตรงกับใจของนาง จากนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากในทันที ในใจของนางเคยคิดอยากจะทำอะไรบางอย่างชีอ้าวชวางจริงๆ นั่นก็คือนางอยากจะโยนชีอ้าวชวางให้ตกลงจากกลางอากาศ แต่ตอนนี้นางดีใจมากที่นางเพียงแค่คิด ถ้านางทำแบบนั้นจริงๆ เจ้านายคงโกรธมากและอาจจะจัดการกับตนเองเลยก็ได้!

 

 

จินเหยียนอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของจูดี้ เด็กโง่ผู้นี้คิดจะทำร้ายคุณหนูจริงๆ หรือ?

 

 

“ฮือๆ เจ้านาย ข้าขอโทษ ข้าเลวมากใช่หรือไม่?” จูดี้ร้องไห้เมื่อมองใบหน้าที่ตกตะลึงของจินเหยียนก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ

 

 

“จูดี้ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าคุณหนูบินได้” จินเหยียนมองจูดี้ที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าแล้วทั้งโกรธและขำ แต่โชคดีที่เมื่อครู่นี้ด็กกสาวนี้รับรู้ถึงความผิดพลาดของนางและไม่ได้ทำความผิดที่คิดไว้

 

 

“หือ?” จูดี้หยุดร้องไห้และมองจินเหยียนอย่างโง่เขลาจากนั้นก็ยิ้มและพูด “ข้า ข้าลืมไปจริงๆ”

 

 

“ต่อไปเจ้าก็อย่าคิดเช่นนี้อีกนะ” จินเหยียนลูบหัวของจูดี้และพูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

“อื้ม ไม่ทำอีกแล้วค่ะ” จูดี้พยักหน้ารัวราวกับไก่กำลังจิกข้าวเลย

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเราออกไปล่ากันเถอะ สองสามวันมานี้อาจจะต้องรบกวนเจ้าหน่อยนะ ต้องรับน้ำหนักคนตั้งเยอะเลย” ถ้าจินเหยียนบอกว่าเขาไม่มีความสุขที่อยู่กับจูดี้คงจะเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะจูดี้อยู่เคียงข้างเขามาตลอด

 

 

“ไม่ลำบาก” ตอนนี้จูดี้ยิ้มแล้ว และนางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก จินเหยียนยิ้มด้วยความโล่งใจ จูดี้เป็นมังกร หากชอบก็คือชอบ เช่นเดียวกัน หากเกลียดชังก็คือเกลียดชัง แม้ว่านางจะเกลียดคนๆ หนึ่ง แต่นางก็จะไม่วางแผนทำอะไรที่ไร้ยางอายเหมือนมนุษย์ นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างมังกรกับมนุษย์…

 

 

ตอนที่จินเหยียนและจูดี้กลับมาพร้อมกับอาหารมากมาย ชีอ้าวชวางก็รู้สึกประหลาดใจกับท่าทีของจูดี้ เห็นได้ชัดว่าจูดี้เป็นมิตรกับนางมากขึ้น และพูดคุยกับนางอยู่ตลอด ชีอ้าวชวางมองไปที่จินเหยียนด้วยความสงสัย แต่จินเหยียนก็เพียงแค่ยิ้มและไม่พูดอะไร

 

 

“เฮ้ เจ้าทำได้ง่ายๆ อย่างนั้นเลย” เบนพึมพำเบาๆ ใกล้กับจินเหยียน

 

 

“ข้ายังไม่อยากให้จูดี้ถูกถล่มนะ” จินเหยียนตะคอกอย่างเย็นชา

 

 

“นับว่าเจ้าฉลาด” เบนพูดอย่างคลุมเครือพลางกัดผลไม้ ความเป็นปรปักษ์ของมังกรงี่เง่าที่มีต่อชีอ้าวชวางนั้น มังกรดำจะมองไม่เห็นในตอนแรกได้อย่างไร แต่เขาก็เงียบ หากมังกรงี่เง่ากระทำการใดกับชีอ้าวชวา มังกรดำก็จะฆ่าจูดี้ทันที นี่คือสิ่งที่มังกรดำได้เรียนรู้จากชีอ้าวชวาง

 

 

“ในอนาคตก็อย่ารังแกจูดี้มากนัก” จินเหยียนพูดอย่างเย็นชา

 

 

“ก็ได้” เบนเห็นได้จากความตั้งใจของจินเหยียนจึงฮัมเพลงอย่างเย็นชาและหยุดพูด แม้ว่าจูดี้จะไม่ละทิ้งศักดิ์ศรีและความทระนงตนของเผ่ามังกร แต่เดิมทีเบนมองนางอย่างไม่พอใจ ตราบใดที่ยังเป็นเผ่ามังกรที่กลายเป็นพาหนะให้มนุษย์ เบนก็ไม่มีความสุข เดิมทีต้องการกลั่นแกล้งจูดี้ในการเดินทาง แต่ตอนนี้จินเหยียนกลับพูดแบบนั้น

 

 

ตามแผนที่ในมือของชีอ้าวชวาง วันรุ่งขึ้นจูดี้พาทุกคนไปที่บ้านของโนม

 

 

โนมเป็นผู้เชี่ยวชาญและชื่นชอบสถาปัตยกรรม พวกมันเป็นตัวตลกตัวเล็ก แต่ไอคิวของพวกเขานั้นไม่ควรมองข้ามเลย อุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ใต้ดินขยายออกไปทุกทิศทางทำให้ผู้คนตกตะลึงได้ และพระราชวังใต้ดินก็ยิ่งงดงามมากขึ้นไปอีก มันเป็นเรื่องยากที่จะได้สิ่งประดิษฐ์ที่อยู่ในมือของโนมมา แม้ว่ามนุษย์จะเข้าไปในถ้ำของพวกเขา แต่ถ้ำที่เหมือนเขาวงกตก็จะดักจับผู้คนในถ้ำนั้น

 

 

“ป่าผืนนี้เป็นดินแดนของโนม” เบนเหลือบตามองไปที่ป่าตรงหน้าเขา “โนมไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าพันธุ์อื่น”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เสน่ห์คมดาบ 208

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 208 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อาจารย์ล่ะ?” ชีอ้าวชวางกังวลเรื่องนี้มากที่สุด

 

 

“ข้าไม่รู้” จินเหยียนส่ายหัว “ปรมาจารย์คลิฟหายตัวไปแล้วก็ไม่ปรากฏตัวอีกเลย”

 

 

ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วและก้มหน้าลงเล็กน้อย นางรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และราอูลดีกว่าใครๆ ราอูลเป็นเพื่อนคนเดียวของอาจารย์ เป็นเพื่อนที่จริงใจต่อกัน แต่เพราะตนเอง ตอนนี้เลยต้องกลายเป็นแบบนี้…

 

 

เหลิ่งหลิงยวิ๋นหลับตาลงอย่างช้าๆ และไม่พูดอะไร มีเพียงแค่ความเศร้าที่ชัดเจนมาก

 

 

“ข้าเกรงว่าอันพาแกรนด์จะต้องเสียใจที่ออกหมายจับเจ้าแล้วล่ะสิ” เบนพูดอย่างดูถูก “พวกเขาได้เห็นว่าเจ้าทำร้ายคนของวิหารแห่งแสงอย่างสาหัส พวกเขาต้องสูญเสียปรมาจารย์คลิฟ และตอนนี้ก็ต้องสูญเสียอัศวินอย่างจินเหยียน แต่พวกเขากลับไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของเจ้าเลย”

 

 

ทุกคนเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรเลย

 

 

“เอาละ นี่พวกเจ้าสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่?” เบนตะคอกอย่างไม่พอใจ “อาจารย์ของพวกเจ้ายังไม่ตายนะ อ้าวชวาง เจ้าเองก็ยังไม่ตาย รอให้อาจารย์ของเจ้าหาเจ้าจนพบก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นก็จะกำจัดวิหารแห่งแสงได้ สุดท้ายทุกอย่างก็จะคลี่คลายไป”

 

 

ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ “อืม ข้าไม่อยากให้อาจารย์ต้องสูญเสียเพื่อนคนเดียวของเขาไปเพราะข้า”

 

 

“เช่นนั้นก็เร่งทำไปอีก” เบนถูกำปั้นของเขาด้วยความกระตือรือร้น

 

 

“ได้ข่าวเกี่ยวกับวัลโดบ้างหรือไม่?” ชีอ้าวชวางคิดถึงวัลโดที่เห็นได้ชัดว่ากลัวตายแต่ก็ยังไม่ยอมละทิ้งนางไป

 

 

“วัลโด…” จินเหยียนส่ายหัวเบาๆ “ไม่มีข่าวของเขาเลย เขาเป็นนักเวทแห่งความมืด คงจะปรากฏตัวไม่ได้ง่ายๆ แต่เขาก็น่าจะรู้เรื่องของคุณหนูแล้ว บางทีเขาอาจจะกำลังตามหาคุณหนูอยู่”

 

 

ชีอ้าวชวางครุ่นคิดและไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

“คืนนี้เราพักผ่อนกันที่นี่นะ พรุ่งนี้เช้าค่อยรีบออกเดินทางกัน” จินเหยียนมองจูดี้ที่นั่งอยู่ไม่ไกลแล้วพูดเบาๆ “จูดี้เองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน”

 

 

ทุกคนเห็นพ้องต้องกันแล้วก็เริ่มแยกกันไปจัดแคมป์

 

 

“อ้าวชวาง เจ้าดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากเลยนะ เอาไว้เรามาลองสู้กันดูดีหรือไม่?” เบนแสยะยิ้ม

 

 

ชีอ้าวชวางไม่สนใจรอยยิ้มของเบนแล้วเตรียมฟืนกับเหลิ่งหลิงยวิ๋นเพื่อเตรียมของกิน เบนก็ยังคงพูดอยู่ข้างๆ ไม่รู้จักจบ ส่วนออสต้าก็นั่งเงียบอยู่ข้างๆ โดยไม่พูดอะไร

 

 

ทันใดนั้นจินเหยียนก็ลุกขึ้นพูด “ข้าจะไปหากระต่ายสักสองสามตัว”

 

 

“ไปสิๆ เอาอ้วนๆ หน่อยนะ” เบนออกคำสั่ง

 

 

จินเหยียนเดินไปหาจูดี้ที่นั่งอยู่อีกด้านแล้วพูดเบาๆ “จูดี้ไปกันเถอะ”

 

 

“เจ้านาย?” จูดี้มองจินเหยียนที่เข้ามาใกล้ด้วยความประหลาดใจ

 

 

“ไปหาของกินกันเถอะ” จินเหยียนพูดออกไปเท่านั้นโดยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม

 

 

จูดี้ไม่พูดอะไรอีก นางลุกขึ้นแล้วเดินตามจินเหยียนไป คนหนึ่งคนและมังกรหนึ่งตัวเดินเข้าไปในป่าโดยไม่มีการพูดคุยกันในระหว่างทางเลย

 

 

หลังจากที่เดินมาไกลแล้วจินเหยียนก็พูดเบาๆ “จูดี้…”

 

 

“คะ? เจ้านาย?” จูดี้เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง

 

 

“จูดี้ เจ้าไม่ชอบคุณหนูหรือ?” จินเหยียนหยุดแล้วหันกลับมามองจูดี้ จากนั้นก็พูดอย่างใจเย็น

 

 

สีหน้าของจูดี้เปลี่ยนไปทันที นางมองจินเหยียนด้วยความงุนงงและคิดไม่ถึงว่าจินเหยียนพูดมาตรงๆ แบบนี้ และยิ่งไม่คิดเลยว่าเขาจะอ่านความคิดของตนเองออก

 

 

จูดี้ก้มหัวลงและกัดริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร

 

 

จินเหยียนก็ไม่ได้พูดเช่นกัน แต่รอฟังอย่างเงียบๆ

 

 

“ใช่! ข้าเกลียดนาง!” หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดจูดี้ก็พูดออกมา นางเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนใส่จินเหยียน “ข้าเกลียดนางมากๆ ทำไมล่ะ? ทำไมเจ้านายถึงต้องดีกับนางขนาดนั้น? ทั้งที่ในสายตาของนางไม่มีท่านอยู่เลย สิ่งที่เจ้านายทำไปทุกอย่างมีอะไรตอบแทนกลับมาหรือไม่?”

 

 

“จูดี้ นางสำคัญสำหรับข้ามากนะ” หลังจากที่จูดี้โพล่งออกมา จินเหยียนก็ยังดูสงบ และค่อยๆ พูด “ไม่มีใครมาแทนที่ของนางที่อยู่ในใจของข้าได้”

 

 

จูดี้มองใบหน้าที่สงบของจินเหยียนและฟังคำพูดเหล่านั้น หัวใจของนางบีบแน่นแล้วน้ำตาก็ร่วงลงมาอย่างควบคุมไม่ได้

 

 

“แน่นอน ไม่มีใครแทนที่จูดี้ในใจข้าได้เช่นกัน” จินเหยียนมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของจูดี้และพูดเบาๆ “จูดี้เองก็แตกต่างจากคนอื่นๆ”

 

 

“แต่ แต่! เจ้านายดีกับนางขนาดนี้ นาง…” จูดี้สะอื้นเบาๆ

 

 

“เจ้าดีกับข้ามากขนาดนี้ เจ้าคิดจะขอให้ข้าตอบแทนอะไรให้เจ้าบ้างหรือไม่?” จินเหยียนถามเบาๆ

 

 

“ไม่ ไม่เลย” จูดี้เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและส่ายหัว น้ำตาของนางก็ไหลออกมา จูดี้พูดอย่างกังวล “ข้าเต็มใจ ข้าเต็มใจมากๆ ความปรารถนาของเจ้านายคือความปรารถนาของข้าเช่นกัน”

 

 

“ข้าก็ไม่ได้คิดจะขอให้คุณหนูตอบแทนอะไรให้ข้า ข้าแค่อยากอยู่กับคุณหนู และได้เห็นคุณหนูมีความสุขก็พอแล้ว” จินเหยียนพูดเบาๆ เขายื่นมือไปลูบหัวจูดี้แล้วยิ้ม “เจ้าเข้าใจความรู้สึกของข้าที่เป็นแบบนี้ใช่หรือไม่? อีกอย่าง เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าหากเจ้าทำร้ายคุณหนู ข้าจะทำอย่างไร? เจ้าคิดว่าข้าจะเมินเฉยต่อคุณหนูและไม่มีนางในสายตาของข้าอีกต่อไปงั้นหรือ?”

 

 

จูดี้อ้าปากค้างแล้วมองใบหน้ารูปงามของจินเหยียนพร้อมกับคิดถึงสิ่งที่จินเหยียนพูดไปด้วย ในใจของนางก็รู้สึกกลัวว่าถ้านางทำอะไรคนๆ นั้นจริงๆ เจ้านายก็จะไม่ปล่อยให้คนๆ นั้นอยู่คนเดียวหรอก อีกทั้งคงจะลงโทษตนเองอย่างรุนแรงด้วย หรืออาจจะทิ้งตนเองไปเลย? คิดถึงเรื่องนี้แล้วจูดี้ก็เริ่มกลัวมากขึ้น

 

 

“ฮือๆๆ…” ในที่สุดจูดี้ก็ร้องไห้ออกมาและพุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของจินเหยียน “เจ้านาย ข้าเข้าใจ ข้าขอโทษ ข้า ข้าแค่อิจฉานางมากที่นางได้รับความเป็นห่วงเป็นใยจากเจ้านาย และเจ้านายก็คอยดูแลปกป้องนาง ข้าเองก็ ข้าเองก็อยากให้เจ้านายสนใจข้ามากๆ เป็นห่วงข้ามากๆ” จูดี้ร้องไห้เป็นคนขี้แย

 

 

จินเหยียนยิ้ม เขาลูบหัวจูดี้แล้วพูด “ข้าไม่ดีเอง ข้าทำให้เจ้าเสียใจ”

 

 

หลังจากจินเหยียนพูดจบ จูดี้ก็ร้องไห้เสียใจมากยิ่งขึ้น จินเหยียนไม่ขยับตัว เขาปล่อยให้จูดี้ร้องไห้ไป ที่จริงจินเหยียนรู้มานานแล้วว่าจูดี้ไม่ชอบชีอ้าวชวาง เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจูดี้จะยิ่งแสดงอาการมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ต่อไปก็ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น พูดตามตรงก็คือจูดี้เป็นมังกรที่เพิ่งเติบโตและนางก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะทางความคิด นางเดิมทีเป็นเด็กที่บริสุทธิ์มาก แต่หากหัวใจต้องบิดเบี้ยวเพราะความหึงหวงแล้วคิดทำทุกอย่างเพื่อทำร้ายชีอ้าวชวาง จินเหยียนจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองและจูดี้เลย ดังนั้นก่อนที่สาวน้อยผู้นี้จะทำอะไรผิดไป เขาจะต้องดึงนางกลับมาให้ได้ก่อน

 

 

“ข้าก็อยากอยู่กับเจ้านายตลอด ข้ารู้ว่าเรื่องระหว่างข้ากับเจ้านายมันเป็นไปไม่ได้ แต่ แต่ข้าก็อดอิจฉานางไม่ได้ ในขณะที่บินอยู่ในอากาศ ข้าก็ยังอยากหาโอกาสที่จะกำจัดนางไปซะ” จูดี้สะอื้นและร้องออกมาอย่างซื่อตรงกับใจของนาง จากนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากในทันที ในใจของนางเคยคิดอยากจะทำอะไรบางอย่างชีอ้าวชวางจริงๆ นั่นก็คือนางอยากจะโยนชีอ้าวชวางให้ตกลงจากกลางอากาศ แต่ตอนนี้นางดีใจมากที่นางเพียงแค่คิด ถ้านางทำแบบนั้นจริงๆ เจ้านายคงโกรธมากและอาจจะจัดการกับตนเองเลยก็ได้!

 

 

จินเหยียนอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของจูดี้ เด็กโง่ผู้นี้คิดจะทำร้ายคุณหนูจริงๆ หรือ?

 

 

“ฮือๆ เจ้านาย ข้าขอโทษ ข้าเลวมากใช่หรือไม่?” จูดี้ร้องไห้เมื่อมองใบหน้าที่ตกตะลึงของจินเหยียนก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ

 

 

“จูดี้ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าคุณหนูบินได้” จินเหยียนมองจูดี้ที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้าแล้วทั้งโกรธและขำ แต่โชคดีที่เมื่อครู่นี้ด็กกสาวนี้รับรู้ถึงความผิดพลาดของนางและไม่ได้ทำความผิดที่คิดไว้

 

 

“หือ?” จูดี้หยุดร้องไห้และมองจินเหยียนอย่างโง่เขลาจากนั้นก็ยิ้มและพูด “ข้า ข้าลืมไปจริงๆ”

 

 

“ต่อไปเจ้าก็อย่าคิดเช่นนี้อีกนะ” จินเหยียนลูบหัวของจูดี้และพูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

“อื้ม ไม่ทำอีกแล้วค่ะ” จูดี้พยักหน้ารัวราวกับไก่กำลังจิกข้าวเลย

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเราออกไปล่ากันเถอะ สองสามวันมานี้อาจจะต้องรบกวนเจ้าหน่อยนะ ต้องรับน้ำหนักคนตั้งเยอะเลย” ถ้าจินเหยียนบอกว่าเขาไม่มีความสุขที่อยู่กับจูดี้คงจะเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะจูดี้อยู่เคียงข้างเขามาตลอด

 

 

“ไม่ลำบาก” ตอนนี้จูดี้ยิ้มแล้ว และนางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก จินเหยียนยิ้มด้วยความโล่งใจ จูดี้เป็นมังกร หากชอบก็คือชอบ เช่นเดียวกัน หากเกลียดชังก็คือเกลียดชัง แม้ว่านางจะเกลียดคนๆ หนึ่ง แต่นางก็จะไม่วางแผนทำอะไรที่ไร้ยางอายเหมือนมนุษย์ นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างมังกรกับมนุษย์…

 

 

ตอนที่จินเหยียนและจูดี้กลับมาพร้อมกับอาหารมากมาย ชีอ้าวชวางก็รู้สึกประหลาดใจกับท่าทีของจูดี้ เห็นได้ชัดว่าจูดี้เป็นมิตรกับนางมากขึ้น และพูดคุยกับนางอยู่ตลอด ชีอ้าวชวางมองไปที่จินเหยียนด้วยความสงสัย แต่จินเหยียนก็เพียงแค่ยิ้มและไม่พูดอะไร

 

 

“เฮ้ เจ้าทำได้ง่ายๆ อย่างนั้นเลย” เบนพึมพำเบาๆ ใกล้กับจินเหยียน

 

 

“ข้ายังไม่อยากให้จูดี้ถูกถล่มนะ” จินเหยียนตะคอกอย่างเย็นชา

 

 

“นับว่าเจ้าฉลาด” เบนพูดอย่างคลุมเครือพลางกัดผลไม้ ความเป็นปรปักษ์ของมังกรงี่เง่าที่มีต่อชีอ้าวชวางนั้น มังกรดำจะมองไม่เห็นในตอนแรกได้อย่างไร แต่เขาก็เงียบ หากมังกรงี่เง่ากระทำการใดกับชีอ้าวชวา มังกรดำก็จะฆ่าจูดี้ทันที นี่คือสิ่งที่มังกรดำได้เรียนรู้จากชีอ้าวชวาง

 

 

“ในอนาคตก็อย่ารังแกจูดี้มากนัก” จินเหยียนพูดอย่างเย็นชา

 

 

“ก็ได้” เบนเห็นได้จากความตั้งใจของจินเหยียนจึงฮัมเพลงอย่างเย็นชาและหยุดพูด แม้ว่าจูดี้จะไม่ละทิ้งศักดิ์ศรีและความทระนงตนของเผ่ามังกร แต่เดิมทีเบนมองนางอย่างไม่พอใจ ตราบใดที่ยังเป็นเผ่ามังกรที่กลายเป็นพาหนะให้มนุษย์ เบนก็ไม่มีความสุข เดิมทีต้องการกลั่นแกล้งจูดี้ในการเดินทาง แต่ตอนนี้จินเหยียนกลับพูดแบบนั้น

 

 

ตามแผนที่ในมือของชีอ้าวชวาง วันรุ่งขึ้นจูดี้พาทุกคนไปที่บ้านของโนม

 

 

โนมเป็นผู้เชี่ยวชาญและชื่นชอบสถาปัตยกรรม พวกมันเป็นตัวตลกตัวเล็ก แต่ไอคิวของพวกเขานั้นไม่ควรมองข้ามเลย อุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ใต้ดินขยายออกไปทุกทิศทางทำให้ผู้คนตกตะลึงได้ และพระราชวังใต้ดินก็ยิ่งงดงามมากขึ้นไปอีก มันเป็นเรื่องยากที่จะได้สิ่งประดิษฐ์ที่อยู่ในมือของโนมมา แม้ว่ามนุษย์จะเข้าไปในถ้ำของพวกเขา แต่ถ้ำที่เหมือนเขาวงกตก็จะดักจับผู้คนในถ้ำนั้น

 

 

“ป่าผืนนี้เป็นดินแดนของโนม” เบนเหลือบตามองไปที่ป่าตรงหน้าเขา “โนมไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าพันธุ์อื่น”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+