เสน่ห์คมดาบ 211

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 211 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

“ข้าเข้าใจ” จินเหยียนเอื้อมมือไปลูบหัวจูดี้แล้วพูดเบาๆ “เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าก็เห็นนี่ว่าข้าไม่ได้เป็นอะไร ถ้าเจ้าถูกพาไป เราต้องไปสถานที่ต่างๆ ได้ช้ามากแน่ๆ”

 

 

จูดี้ยังคงสะอื้นอยู่

 

 

ออสต้ายกมือขึ้นกอดอกอย่างไม่แยแส และมองชีอ้าวชวางที่ยังคงเงียบอยู่

 

 

ใบหน้าชีอ้าวชวางนิ่งเฉย ไม่ได้กล่าวอะไร

 

 

“ฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่วกำลังตกอยู่ในอันตราย” ชีอ้าวชวางพูดออกมา

 

 

“อะไรนะ?!” ทุกคนตกใจ มีเพียงแค่ออสต้าเท่านั้นที่นิ่งเฉย

 

 

“ในที่สุดเทพีแห่งแสงก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว” ใบหน้าของชีอ้าวชวางย่ำแย่กว่าปกติ เป็นเพราะนางต้องรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ทั้งชุดเพื่อฆ่าเทพีแห่งแสง เทพีแห่งแสงจึงจำเป็นต้องเอาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งออกไปเพื่อทำให้ความพยายามของชีอ้าวชวางไม่สำเร็จ สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในตอนนี้ก็คือ เฉียวฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทูตสวรรค์เหล่านั้นเลย ทูตสวรรค์ทั้งห้าถูกส่งมาเพื่อจัดการกับพวกเขา แล้วยังมีทูตสวรรค์แปดปีกด้วย เช่นนั้นทางฝั่งของตงเฟิงโฮ่วล่ะ? ไม่ต้องพูดถึงทูตสวรรค์แปดปีกหรอก แม้แต่ทูตสวรรค์หกปีกเพียงหนึ่งพวกเขาก็รับมือไม่ได้!

 

 

“ข้าจะไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้” ชีอ้าวชวางไม่สนใจคนอื่นไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่าเผ่าโนมจะอยู่ตรงหน้า และสิ่งประดิษฐ์นั้นจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่หัวใจของชีอ้าวชวางในขณะนี้คิดถึงแต่ความปลอดภัยของเฉียวฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่ว

 

 

ทุกคนไม่มีใครขัดข้อง เพราะพวกเขาเข้าใจว่าสิ่งใดสำคัญกว่า

 

 

จูดี้กลายร่างเป็นร่างมังกรทันทีและรีบพาทุกคนบินขึ้นฟ้า

 

 

พวกเขาต้องไปหาออร์คทันที เพราะจุดแรกของตงเฟิงโฮ่วและเฉียวฉู่ซินอยู่ที่นั่น นับจากเวลาแล้วพวกเขาน่าจะยังไปไม่ถึง

 

 

เวลานี้เบนถูกมัดเป็นเกี๊ยวและวางอยู่บนก้อนเมฆหลากสีโดยมีชายชราหน้าแดงนั่งอยู่ข้างๆ ชายชราผู้นี้ก็คือเทพเจ้ามังกรนั่นเอง

 

 

“อื้อๆๆ…อู้ๆๆๆ…” เบนยังคงบิดตัวไปมาอยู่

 

 

เทพเจ้ามังกรก้มหัวลงมองเบน และทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปสะกิดเบนที่ถูกมัดไว้ ดวงตาของเบนเบิกกว้างและเขาก็ยิ่งดิ้นรนหนักขึ้นกว่าเดิม

 

 

“ร้องอะไรนักหนา” ทันทีที่เทพเจ้ามังกรพูดเขาก็เคาะเบน เสียงอันสง่างามกล่าวเช่นนั้น เพียงแค่ตอนที่จับเบนมาครั้งแรก เขาไม่ได้สังเกตว่าเทพเจ้ามังกรพูดว่าจะพาเจ้านี่ไป ในเวลานั้นเขากำลังดิ้นรนอย่างหนักที่จะหลบหนีจากกรงเล็บของเทพเจ้ามังกร

 

 

“อู้ๆ!” เบนดิ้นและร้องเสียงดัง

 

 

“ทำไมเจ้าถึงโง่อย่างนี้? จะสร้างปัญหาให้ข้าหรือไง?” เทพเจ้ามังกรลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธและเหยียบเบน ส่วนเบนที่ถูกเหยียบก็ร้องลั่น

 

 

“เจ้าคิดว่าจะสร้างปัญหาอย่างไรก็ได้หรือ แถมยังจะไปยั่วยุเทพีแห่งแสงอีก เจ้าคิดว่าไปยั่วยุนางแล้วจะจบหรือ ไปให้อีกฝ่ายรู้ตัวตนของเจ้าอีก! เจ้านี่มันเป็นมังกรหรือหมูเนี่ย?” เทพเจ้ามังกรที่เดิมทีหน้าแดงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งแดงไปถึงหูกับคอ ไม่รู้ว่าเขาโกรธหรือเครียด

 

 

“อู้ๆ?” เบนได้ยินบางอย่างแปลกๆ ความหมายของคำเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตำหนิที่เขาไปยั่วยุเทพีแห่งแสงนะ?

 

 

“เจ้าไม่รู้จักเก็บงานให้เรียบร้อยหรือไง? ยังต้องให้ข้าไปตามเช็ดตามล้างให้อีก! เจ้าเป็นเผ่ามังกรนะไม่ใช่หมู! ใช้สมองหน่อยสิ!” เทพเจ้ามังกรว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ ปากก็สั่งสอนไปเท้าของเขาก็เหยียบต่อไป เบนถูกเหยียบย่ำจนแย่แล้วแต่ก็ร้องไม่ออก

 

 

ในที่สุดเทพเจ้ามังกรก็บ่นเสร็จและเลิกเหยียบ จากนั้นเขาก็นั่งลงอีกครั้งอย่างพึงพอใจ จากนั้นเพียงแค่สะบัดนิ้ว สิ่งที่มัดเบนอยู่ก็คลายออกให้เบนหายใจอยู่บนก้อนเมฆ

 

 

“ตอนแรกที่ข้าเห็นเจ้าเตะราชามังกรงี่เง่าตัวนั้นลงจากบัลลังก์ได้ ข้ายังนึกชื่นชมเจ้าอยู่เลย แต่สุดท้ายต้องมาเห็นเจ้าทำเรื่องไร้สาระอะไรแบบนี้เนี่ยนะ? จะให้เทพีแห่งแสงมาร้องเรียนกับข้าเองหรือ!” ยิ่งพูดเทพเจ้ามังกรก็ยิ่งโมโห เขากำลังคิดจะอบรมเบน แต่เวลานี้เบนที่างกายฟื้นฟูร่แล้วกลับหลบกรงเล็บของเทพเจ้ามังกรไปอยู่ด้านข้างแล้ว

 

 

ตอนนี้เบนเข้าใจเรื่องหนึ่งอย่างละเอียดแล้ว นั่นคือเทพเจ้ามังกรที่พวกเขาชื่นชมไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่เลย! เขาเป็นผู้ชายที่ไร้ยางอายและหยิ่งยโส!

 

 

“ท่านเทพเจ้ามังกรผู้มีเกียรติ ข้า…” เบนเพิ่งจะอ้าปากก็โดนเลย

 

 

“อย่ามาตีสองหน้ากับข้า ตอนนี้ในใจของเจ้าคงด่าข้าอยู่ล่ะสิ” เทพเจ้ามังกรมองเบนด้วยรอยยิ้มอันตราย

 

 

“ใช่! แล้วอย่างไรล่ะ ตาแก่ ทำไมต้องจับข้ามาด้วย? หรือว่าเผ่ามังกรของเราต้องกลัวเทพีแห่งแสงหรือ?” ในที่สุดเบนก็เข้าใจนิสัยของเทพเจ้ามังกรและพูดโพล่งออกมา

 

 

เบนถลึงตาจ้องเทพเจ้ามังกรที่อยู่ตรงหน้าเขา เมื่อเทพเจ้ามังกรเฒ่าได้ยินคำพูดของเบนเขาก็โกรธมากและเริ่มทุบตีเบน

 

 

“ท่านรังแกคนอ่อนแอ!” เบนกุมหัวตนไว้เพื่อหลบการทุบตี

 

 

“เจ้าหัวหมู เจ้าเองก็รู้หรือว่าการรังแกคนที่อ่อนแอกว่ามันเป็นอย่างไร? ห๊ะ! เจ้ารู้แล้วยังจะถามอีก เจ้างี่เง่าหรือ?” ชายชราเทพเจ้ามังกรโกรธมาก เขาทุบตีจนเบนร้องออกมา

 

 

“ท่านหมายถึงอะไร? หมายความว่าอย่างไร?” เบนกุมหัวของเขาแล้วร้อง จากนั้นถามชายชรา “หรือว่าท่านกลัวคนอื่นพูดว่าท่านรังแกคนอ่อนแอ ดังนั้น…”

 

 

“โอ้ ดีขึ้นแล้ว จากโง่เง่ากลายเป็นโง่เฉยๆ” เทพเจ้ามังกรหยุดมือของเขาและประชดประชัน “ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจเรื่องนี้ มังกรแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มาก เทพีแห่งแสงอะไรนั่นไม่ได้อยู่ในสายตาข้าหรอก แต่หากเทพเจ้าอื่นๆ ต่อว่าว่าข้ากลั่นแกล้งผู้อ่อนแอนั้นมันจะดูไม่ดี” เทพเจ้ามังกรนั่งไขว่ห้างและพูด

 

 

“หือ?” เบนตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเทพเจ้ามังกรผู้นี้จะไม่เพียงไร้ยางอาย แต่ยังเอาหน้าอีกด้วย! “เป็นเช่นนี้หรือ?” ใบหน้าของเบนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

 

 

“ไร้สาระ!” เทพเจ้ามังกรพูดอย่างหยิ่งผยอง “ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงผู้นั้นที่เดินมาที่ประตูด้วยท่าทางน่าสงสารและขอให้ข้าทำข้อตกลง ข้าจะสนใจเรื่องพวกนี้หรือ? “เทพเจ้ามังกรยกมุมปาก เหมือนพึมพำกับตัวเอง “หญิงผู้นั้นเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าไม่ค่อยชอบนางมากนักหรอก”

 

 

ในที่สุดเบนก็ได้ยินทุกอย่างจากคำพูดเหล่านี้ ดูท่าเรื่องก็คือเทพีแห่งแสงเข้าใจจุดอ่อนของเทพเจ้ามังกร นางจึงแสร้งทำเป็นน่าสงสารและขอให้เทพเจ้ามังกรทำข้อตกลงว่าเผ่ามังกรที่ทรงพลังจะไม่โจมตีมนุษย์ได้ตามอำเภอใจ และละเมิดอาณาเขตของมนุษย์ตามต้องการไม่ได้

 

 

“ในเมื่อท่านไม่ชอบหญิงผู้นั้น ท่านก็แค่ปล่อยข้าไปช่วยเพื่อนของข้าสิ ข้าแอบช่วยอยู่ห่างๆ ก็ได้” เบนขมวดคิ้วและพูดขัดจังหวะความคิดของเทพเจ้ามังกร

 

 

“เจ้าหมูโง่ มีคนรู้ตัวตนของเจ้าแล้วยังจะช่วยอีก ช่วยบ้าอะไรล่ะ! หยุดหาเรื่องให้ข้าเถอะ!” เมื่อเทพเจ้ามังกรได้ยินดังนั้นเขาก็กระโดดโผงชี้จมูกเบนแล้วเริ่มก่นด่าทันที หลังจากด่าเสร็จเขาก็กลอกตามองท้องฟ้าโดยไม่พูด ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

 

ตอนนี้เบนระมัดระคำพูดแล้วนั่งลงบนก้อนเมฆอย่างเชื่อฟังเพื่อรอคำพูดจากเทพเจ้ามังกร

 

 

“ไอ้ตัวเล็กทำไมก่อนหน้านี้ข้าไม่พบชื่อของเจ้าในเผ่ามังกรเลยล่ะ? เจ้าทั้งร้ายกาจไร้ยางอาย และเจ้าเล่ห์สมกับเหตุผลที่ว่า อืม น่าจะเป็นบุคลิกที่คนชอบ และข้าน่าจะเคยเห็นมานานแล้วนะ ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?” เทพเจ้ามังกรเปลี่ยนเรื่อง

 

 

เบนอ้าปากกว้าง “นี่ท่านชมหรือด่าข้า?”

 

 

“เจ้าก็คิดเสียว่าเป็นคำชมก็ได้” เทพเจ้ามังกรชราพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

 

 

“เพื่อนมนุษย์ของข้าเป็นคนสอนข้า ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายจากนาง จากนั้นข้าก็ล้มราชามังกรตัวนั้นลงได้อย่างไร” เบนเห็นท่าทีของเทพเจ้ามังกรก็บอกอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“อื้ม…ไม่เลวๆ” เทพเจ้ามังกรพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ผู้หญิงคนนี้ได้ใจข้าไปเลย”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าท่านให้ข้าไปช่วยนางได้ใช่หรือไม่?” เบนยิ้มอย่างประจบ

 

 

“ข้าพูดว่าได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เทพเจ้ามังกรเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

 

 

ยังไม่ทันที่เบนจะได้ทำหน้าเศร้า เทพเจ้ามังกรก็กลอกตาและหัวเราะ “กลางวันไม่ได้ เราไปกลางคืนดีกว่า ข้าไม่ชอบเทพีนั่นมานานแล้ว อยากจะดึงนางให้ตกไปเร็วๆ”

 

 

เบนนิ่ง “…”

 

 

ในเวลาเดียวกันนั้น จูดี้รีบไปยังทิศทางของเผ่าออร์คพร้อมกับทุกคน ไม่ต้องให้ชีอ้าวชวางบอกทิศทาง จูดี้ก็บอกว่านางรู้ ดังนั้นนางจึงบินไปในทิศทางนั้นเลย

 

 

จูดี้บินไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่หยุดเลยแม้ในตอนกลางคืน นางรู้ดีว่าถ้านางช้าเกินไป บางทีเพื่อนของเจ้านายทั้งสองอาจจะตายก็ได้!

 

 

“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเจ้านะจูดี้” จินเหยียนนั่งตรงหน้าแล้วยื่นมือออกมาลูบหัวจูดี้เบาๆ เพื่อปลอบโยนความทุกข์ใจอย่างแผ่วเบา

 

 

จูดี้กัดฟันไม่พูดเพราะกลัวว่าพูดแล้วแรงจะผ่อนลง จึงกระพือปีกบินไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง

 

 

หัวใจของชีอ้าวชวางกระวนกระวายและรู้สึกผิดต่อจูดี้ที่ทำให้นางต้องเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้หยุดไม่ได้ เพราะหากหยุดทุกอย่างอาจจะสายเกินไป

 

 

จูดี้บินอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาสองวันสองคืน ในที่สุดก็มาถึงเผ่าออร์ค อาณาเขตของออร์คอยู่ตรงหน้า และในที่สุดจูดี้ก็ฝืนไม่ไหวอีกต่อไป นางบ่นงึมงัมและล้มลงด้วยร่างกายที่ใหญ่โตนั้น

 

 

“จูดี้!” สีหน้าของจินเหยียนเปลี่ยนไปทันที เขาส่งเสียงเรียกจูดี้อย่างร้อนใจ

 

 

แต่เวลานี้จูดี้ได้ทิ้งตัวไปแล้ว นางหมดสติไป ควบคุมร่างกายหนักๆ ใหญ่โตของนางไม่ได้เลย

 

 

ชีอ้าวชวางกางปีกเปลวไฟสีทองออกทันทีและบินสร้างเขตกั้นเป็นชั้นๆ เพื่อป้องกันร่างของจูดี้ไว้

 

 

ในเวลานี้ออสต้าบินเบาๆ โดยไม่รอใคร เขาร่ายคาถาที่ซับซ้อนแล้วลมแรงก็พัดเข้าใต้ร่างของจูดี้ ทำให้ร่างของจูดี้ตกช้าลง จากนั้นออสต้าก็ปล่อยอนุภาคสีเขียวขนาดเล็กออกจากมือของเขา และก้อนกลมๆ สีเขียวเล็กๆ ก็ตกลงบนพื้นหยั่งราก แตกหน่อและผลิใบในทันที มันเติบโตเป็นเตียงสีเขียวนุ่มๆ โอบร่างของจูดี้เอาไว้แน่น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เสน่ห์คมดาบ 211

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 211 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

 

“ข้าเข้าใจ” จินเหยียนเอื้อมมือไปลูบหัวจูดี้แล้วพูดเบาๆ “เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าก็เห็นนี่ว่าข้าไม่ได้เป็นอะไร ถ้าเจ้าถูกพาไป เราต้องไปสถานที่ต่างๆ ได้ช้ามากแน่ๆ”

 

 

จูดี้ยังคงสะอื้นอยู่

 

 

ออสต้ายกมือขึ้นกอดอกอย่างไม่แยแส และมองชีอ้าวชวางที่ยังคงเงียบอยู่

 

 

ใบหน้าชีอ้าวชวางนิ่งเฉย ไม่ได้กล่าวอะไร

 

 

“ฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่วกำลังตกอยู่ในอันตราย” ชีอ้าวชวางพูดออกมา

 

 

“อะไรนะ?!” ทุกคนตกใจ มีเพียงแค่ออสต้าเท่านั้นที่นิ่งเฉย

 

 

“ในที่สุดเทพีแห่งแสงก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว” ใบหน้าของชีอ้าวชวางย่ำแย่กว่าปกติ เป็นเพราะนางต้องรวบรวมสิ่งประดิษฐ์ทั้งชุดเพื่อฆ่าเทพีแห่งแสง เทพีแห่งแสงจึงจำเป็นต้องเอาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งออกไปเพื่อทำให้ความพยายามของชีอ้าวชวางไม่สำเร็จ สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในตอนนี้ก็คือ เฉียวฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่วไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทูตสวรรค์เหล่านั้นเลย ทูตสวรรค์ทั้งห้าถูกส่งมาเพื่อจัดการกับพวกเขา แล้วยังมีทูตสวรรค์แปดปีกด้วย เช่นนั้นทางฝั่งของตงเฟิงโฮ่วล่ะ? ไม่ต้องพูดถึงทูตสวรรค์แปดปีกหรอก แม้แต่ทูตสวรรค์หกปีกเพียงหนึ่งพวกเขาก็รับมือไม่ได้!

 

 

“ข้าจะไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้” ชีอ้าวชวางไม่สนใจคนอื่นไม่ได้อีกต่อไป แม้ว่าเผ่าโนมจะอยู่ตรงหน้า และสิ่งประดิษฐ์นั้นจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่หัวใจของชีอ้าวชวางในขณะนี้คิดถึงแต่ความปลอดภัยของเฉียวฉู่ซินและตงเฟิงโฮ่ว

 

 

ทุกคนไม่มีใครขัดข้อง เพราะพวกเขาเข้าใจว่าสิ่งใดสำคัญกว่า

 

 

จูดี้กลายร่างเป็นร่างมังกรทันทีและรีบพาทุกคนบินขึ้นฟ้า

 

 

พวกเขาต้องไปหาออร์คทันที เพราะจุดแรกของตงเฟิงโฮ่วและเฉียวฉู่ซินอยู่ที่นั่น นับจากเวลาแล้วพวกเขาน่าจะยังไปไม่ถึง

 

 

เวลานี้เบนถูกมัดเป็นเกี๊ยวและวางอยู่บนก้อนเมฆหลากสีโดยมีชายชราหน้าแดงนั่งอยู่ข้างๆ ชายชราผู้นี้ก็คือเทพเจ้ามังกรนั่นเอง

 

 

“อื้อๆๆ…อู้ๆๆๆ…” เบนยังคงบิดตัวไปมาอยู่

 

 

เทพเจ้ามังกรก้มหัวลงมองเบน และทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไปสะกิดเบนที่ถูกมัดไว้ ดวงตาของเบนเบิกกว้างและเขาก็ยิ่งดิ้นรนหนักขึ้นกว่าเดิม

 

 

“ร้องอะไรนักหนา” ทันทีที่เทพเจ้ามังกรพูดเขาก็เคาะเบน เสียงอันสง่างามกล่าวเช่นนั้น เพียงแค่ตอนที่จับเบนมาครั้งแรก เขาไม่ได้สังเกตว่าเทพเจ้ามังกรพูดว่าจะพาเจ้านี่ไป ในเวลานั้นเขากำลังดิ้นรนอย่างหนักที่จะหลบหนีจากกรงเล็บของเทพเจ้ามังกร

 

 

“อู้ๆ!” เบนดิ้นและร้องเสียงดัง

 

 

“ทำไมเจ้าถึงโง่อย่างนี้? จะสร้างปัญหาให้ข้าหรือไง?” เทพเจ้ามังกรลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธและเหยียบเบน ส่วนเบนที่ถูกเหยียบก็ร้องลั่น

 

 

“เจ้าคิดว่าจะสร้างปัญหาอย่างไรก็ได้หรือ แถมยังจะไปยั่วยุเทพีแห่งแสงอีก เจ้าคิดว่าไปยั่วยุนางแล้วจะจบหรือ ไปให้อีกฝ่ายรู้ตัวตนของเจ้าอีก! เจ้านี่มันเป็นมังกรหรือหมูเนี่ย?” เทพเจ้ามังกรที่เดิมทีหน้าแดงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งแดงไปถึงหูกับคอ ไม่รู้ว่าเขาโกรธหรือเครียด

 

 

“อู้ๆ?” เบนได้ยินบางอย่างแปลกๆ ความหมายของคำเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตำหนิที่เขาไปยั่วยุเทพีแห่งแสงนะ?

 

 

“เจ้าไม่รู้จักเก็บงานให้เรียบร้อยหรือไง? ยังต้องให้ข้าไปตามเช็ดตามล้างให้อีก! เจ้าเป็นเผ่ามังกรนะไม่ใช่หมู! ใช้สมองหน่อยสิ!” เทพเจ้ามังกรว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ ปากก็สั่งสอนไปเท้าของเขาก็เหยียบต่อไป เบนถูกเหยียบย่ำจนแย่แล้วแต่ก็ร้องไม่ออก

 

 

ในที่สุดเทพเจ้ามังกรก็บ่นเสร็จและเลิกเหยียบ จากนั้นเขาก็นั่งลงอีกครั้งอย่างพึงพอใจ จากนั้นเพียงแค่สะบัดนิ้ว สิ่งที่มัดเบนอยู่ก็คลายออกให้เบนหายใจอยู่บนก้อนเมฆ

 

 

“ตอนแรกที่ข้าเห็นเจ้าเตะราชามังกรงี่เง่าตัวนั้นลงจากบัลลังก์ได้ ข้ายังนึกชื่นชมเจ้าอยู่เลย แต่สุดท้ายต้องมาเห็นเจ้าทำเรื่องไร้สาระอะไรแบบนี้เนี่ยนะ? จะให้เทพีแห่งแสงมาร้องเรียนกับข้าเองหรือ!” ยิ่งพูดเทพเจ้ามังกรก็ยิ่งโมโห เขากำลังคิดจะอบรมเบน แต่เวลานี้เบนที่างกายฟื้นฟูร่แล้วกลับหลบกรงเล็บของเทพเจ้ามังกรไปอยู่ด้านข้างแล้ว

 

 

ตอนนี้เบนเข้าใจเรื่องหนึ่งอย่างละเอียดแล้ว นั่นคือเทพเจ้ามังกรที่พวกเขาชื่นชมไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่เลย! เขาเป็นผู้ชายที่ไร้ยางอายและหยิ่งยโส!

 

 

“ท่านเทพเจ้ามังกรผู้มีเกียรติ ข้า…” เบนเพิ่งจะอ้าปากก็โดนเลย

 

 

“อย่ามาตีสองหน้ากับข้า ตอนนี้ในใจของเจ้าคงด่าข้าอยู่ล่ะสิ” เทพเจ้ามังกรมองเบนด้วยรอยยิ้มอันตราย

 

 

“ใช่! แล้วอย่างไรล่ะ ตาแก่ ทำไมต้องจับข้ามาด้วย? หรือว่าเผ่ามังกรของเราต้องกลัวเทพีแห่งแสงหรือ?” ในที่สุดเบนก็เข้าใจนิสัยของเทพเจ้ามังกรและพูดโพล่งออกมา

 

 

เบนถลึงตาจ้องเทพเจ้ามังกรที่อยู่ตรงหน้าเขา เมื่อเทพเจ้ามังกรเฒ่าได้ยินคำพูดของเบนเขาก็โกรธมากและเริ่มทุบตีเบน

 

 

“ท่านรังแกคนอ่อนแอ!” เบนกุมหัวตนไว้เพื่อหลบการทุบตี

 

 

“เจ้าหัวหมู เจ้าเองก็รู้หรือว่าการรังแกคนที่อ่อนแอกว่ามันเป็นอย่างไร? ห๊ะ! เจ้ารู้แล้วยังจะถามอีก เจ้างี่เง่าหรือ?” ชายชราเทพเจ้ามังกรโกรธมาก เขาทุบตีจนเบนร้องออกมา

 

 

“ท่านหมายถึงอะไร? หมายความว่าอย่างไร?” เบนกุมหัวของเขาแล้วร้อง จากนั้นถามชายชรา “หรือว่าท่านกลัวคนอื่นพูดว่าท่านรังแกคนอ่อนแอ ดังนั้น…”

 

 

“โอ้ ดีขึ้นแล้ว จากโง่เง่ากลายเป็นโง่เฉยๆ” เทพเจ้ามังกรหยุดมือของเขาและประชดประชัน “ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจเรื่องนี้ มังกรแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มาก เทพีแห่งแสงอะไรนั่นไม่ได้อยู่ในสายตาข้าหรอก แต่หากเทพเจ้าอื่นๆ ต่อว่าว่าข้ากลั่นแกล้งผู้อ่อนแอนั้นมันจะดูไม่ดี” เทพเจ้ามังกรนั่งไขว่ห้างและพูด

 

 

“หือ?” เบนตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเทพเจ้ามังกรผู้นี้จะไม่เพียงไร้ยางอาย แต่ยังเอาหน้าอีกด้วย! “เป็นเช่นนี้หรือ?” ใบหน้าของเบนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

 

 

“ไร้สาระ!” เทพเจ้ามังกรพูดอย่างหยิ่งผยอง “ถ้าไม่ใช่เพราะหญิงผู้นั้นที่เดินมาที่ประตูด้วยท่าทางน่าสงสารและขอให้ข้าทำข้อตกลง ข้าจะสนใจเรื่องพวกนี้หรือ? “เทพเจ้ามังกรยกมุมปาก เหมือนพึมพำกับตัวเอง “หญิงผู้นั้นเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าไม่ค่อยชอบนางมากนักหรอก”

 

 

ในที่สุดเบนก็ได้ยินทุกอย่างจากคำพูดเหล่านี้ ดูท่าเรื่องก็คือเทพีแห่งแสงเข้าใจจุดอ่อนของเทพเจ้ามังกร นางจึงแสร้งทำเป็นน่าสงสารและขอให้เทพเจ้ามังกรทำข้อตกลงว่าเผ่ามังกรที่ทรงพลังจะไม่โจมตีมนุษย์ได้ตามอำเภอใจ และละเมิดอาณาเขตของมนุษย์ตามต้องการไม่ได้

 

 

“ในเมื่อท่านไม่ชอบหญิงผู้นั้น ท่านก็แค่ปล่อยข้าไปช่วยเพื่อนของข้าสิ ข้าแอบช่วยอยู่ห่างๆ ก็ได้” เบนขมวดคิ้วและพูดขัดจังหวะความคิดของเทพเจ้ามังกร

 

 

“เจ้าหมูโง่ มีคนรู้ตัวตนของเจ้าแล้วยังจะช่วยอีก ช่วยบ้าอะไรล่ะ! หยุดหาเรื่องให้ข้าเถอะ!” เมื่อเทพเจ้ามังกรได้ยินดังนั้นเขาก็กระโดดโผงชี้จมูกเบนแล้วเริ่มก่นด่าทันที หลังจากด่าเสร็จเขาก็กลอกตามองท้องฟ้าโดยไม่พูด ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

 

ตอนนี้เบนระมัดระคำพูดแล้วนั่งลงบนก้อนเมฆอย่างเชื่อฟังเพื่อรอคำพูดจากเทพเจ้ามังกร

 

 

“ไอ้ตัวเล็กทำไมก่อนหน้านี้ข้าไม่พบชื่อของเจ้าในเผ่ามังกรเลยล่ะ? เจ้าทั้งร้ายกาจไร้ยางอาย และเจ้าเล่ห์สมกับเหตุผลที่ว่า อืม น่าจะเป็นบุคลิกที่คนชอบ และข้าน่าจะเคยเห็นมานานแล้วนะ ทำไมข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?” เทพเจ้ามังกรเปลี่ยนเรื่อง

 

 

เบนอ้าปากกว้าง “นี่ท่านชมหรือด่าข้า?”

 

 

“เจ้าก็คิดเสียว่าเป็นคำชมก็ได้” เทพเจ้ามังกรชราพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

 

 

“เพื่อนมนุษย์ของข้าเป็นคนสอนข้า ข้าได้เรียนรู้อะไรมากมายจากนาง จากนั้นข้าก็ล้มราชามังกรตัวนั้นลงได้อย่างไร” เบนเห็นท่าทีของเทพเจ้ามังกรก็บอกอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“อื้ม…ไม่เลวๆ” เทพเจ้ามังกรพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ผู้หญิงคนนี้ได้ใจข้าไปเลย”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าท่านให้ข้าไปช่วยนางได้ใช่หรือไม่?” เบนยิ้มอย่างประจบ

 

 

“ข้าพูดว่าได้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เทพเจ้ามังกรเปลี่ยนเป็นเสียงเข้มและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม

 

 

ยังไม่ทันที่เบนจะได้ทำหน้าเศร้า เทพเจ้ามังกรก็กลอกตาและหัวเราะ “กลางวันไม่ได้ เราไปกลางคืนดีกว่า ข้าไม่ชอบเทพีนั่นมานานแล้ว อยากจะดึงนางให้ตกไปเร็วๆ”

 

 

เบนนิ่ง “…”

 

 

ในเวลาเดียวกันนั้น จูดี้รีบไปยังทิศทางของเผ่าออร์คพร้อมกับทุกคน ไม่ต้องให้ชีอ้าวชวางบอกทิศทาง จูดี้ก็บอกว่านางรู้ ดังนั้นนางจึงบินไปในทิศทางนั้นเลย

 

 

จูดี้บินไปข้างหน้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่หยุดเลยแม้ในตอนกลางคืน นางรู้ดีว่าถ้านางช้าเกินไป บางทีเพื่อนของเจ้านายทั้งสองอาจจะตายก็ได้!

 

 

“ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของเจ้านะจูดี้” จินเหยียนนั่งตรงหน้าแล้วยื่นมือออกมาลูบหัวจูดี้เบาๆ เพื่อปลอบโยนความทุกข์ใจอย่างแผ่วเบา

 

 

จูดี้กัดฟันไม่พูดเพราะกลัวว่าพูดแล้วแรงจะผ่อนลง จึงกระพือปีกบินไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง

 

 

หัวใจของชีอ้าวชวางกระวนกระวายและรู้สึกผิดต่อจูดี้ที่ทำให้นางต้องเหนื่อยล้า แต่ตอนนี้หยุดไม่ได้ เพราะหากหยุดทุกอย่างอาจจะสายเกินไป

 

 

จูดี้บินอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาสองวันสองคืน ในที่สุดก็มาถึงเผ่าออร์ค อาณาเขตของออร์คอยู่ตรงหน้า และในที่สุดจูดี้ก็ฝืนไม่ไหวอีกต่อไป นางบ่นงึมงัมและล้มลงด้วยร่างกายที่ใหญ่โตนั้น

 

 

“จูดี้!” สีหน้าของจินเหยียนเปลี่ยนไปทันที เขาส่งเสียงเรียกจูดี้อย่างร้อนใจ

 

 

แต่เวลานี้จูดี้ได้ทิ้งตัวไปแล้ว นางหมดสติไป ควบคุมร่างกายหนักๆ ใหญ่โตของนางไม่ได้เลย

 

 

ชีอ้าวชวางกางปีกเปลวไฟสีทองออกทันทีและบินสร้างเขตกั้นเป็นชั้นๆ เพื่อป้องกันร่างของจูดี้ไว้

 

 

ในเวลานี้ออสต้าบินเบาๆ โดยไม่รอใคร เขาร่ายคาถาที่ซับซ้อนแล้วลมแรงก็พัดเข้าใต้ร่างของจูดี้ ทำให้ร่างของจูดี้ตกช้าลง จากนั้นออสต้าก็ปล่อยอนุภาคสีเขียวขนาดเล็กออกจากมือของเขา และก้อนกลมๆ สีเขียวเล็กๆ ก็ตกลงบนพื้นหยั่งราก แตกหน่อและผลิใบในทันที มันเติบโตเป็นเตียงสีเขียวนุ่มๆ โอบร่างของจูดี้เอาไว้แน่น

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+