เสน่ห์คมดาบ 232

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 232 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหลิ่งหลิงยวิ๋นมองหลิวเฉว่ฉิงเงียบๆ หลิวเฉว่ฉิงเองก็มองเหลิ่งหลิงยวิ๋นด้วยรอยยิ้ม เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

 

 

ผ่านไปสักพัก เหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ค่อยๆ ยื่นมือออกไปแล้วลูบตาของหลิวเฉว่ฉิงให้นางหลับตา เบาๆ ขณะนี้หลิวเฉว่ฉิงไม่หายใจแล้ว

 

 

เหลิ่งหลิงยวิ๋นชักมือกลับมาแล้วหันหลังลุกขึ้นยืนมองตรงไปข้างหน้า จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อ้าวชวาง หากข้าจากไป เจ้าจะจดจำข้าหรือไม่?

 

 

ชีอ้าวชวางยืนอยู่ข้างนอกประตูของวิหารแห่งแสงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ หลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางค่อยๆ เดินออกจากสถานที่นั้นไปช้าๆ ไปยังเส้นทางที่ในอดีตนางคุ้นเคยเป็นอย่างดี

 

 

คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์

 

 

น่าแปลกใจที่คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ไม่มีคนอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ไม่เหมือนคฤหาสน์ของชนชั้นสูงคนอื่นๆ ที่เละเทะไปหมด ขุนนางเหล่านั้นหนีไปกันหมดแล้ว คฤหาสน์จึงเละไม่เป็นระเบียบ

 

 

ในขณะนี้มีร่างที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่

 

 

ผมสีทองกำลังปลิวไสว และดวงตาสีเขียวก็เต็มไปด้วยความเย็นชาและมุ่งมั่น

 

 

ราเซีย

 

 

“ข้ารอท่านพี่มานานมากแล้ว!” ราเซียยืนอยู่ที่ประตูและเงยหน้าขึ้นมองชีอ้าวชวางอย่างเย็นชา

 

 

ชีอ้าวชวางยกมือขึ้นเพื่อหยุดคนข้างหลังที่กำลังจะเคลื่อนไหว จินเหยียนและคนอื่นๆ จึงถอยห่างออกไป พวกเขาเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของชีอ้าวชวาง

 

 

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ

 

 

“จะใช่หรือไม่ก็ต้องสู้ก่อนถึงจะรู้!” ราเซียกัดริมฝีปากขมวดคิ้วและพูดประโยคนี้ออกมา ขณะนี้ในมือของนางก็มีองค์ประกอบเวทแล้ว

 

 

“สายฟ้าฟาด!” ราเซียตะโกนออกมาแล้วสายฟ้าที่อยู่ในมือของนางก็พุ่งเข้าใส่ชีอ้าวชวาง แต่สายฟ้านั้นกลับหยุดอยู่แค่ตรงหน้าของชีอ้าวชวางราวกับเป็นแรงกระเพื่อมของฝนที่ตกลงในทะเลสาบ ชีอ้าวชวางทำแค่เพียงสร้างเขตกั้นขึ้นมาเป็นโล่เท่านั้น นางไม่ได้โจมตี

 

 

“สายฟ้า!” ราเซียยืนนิ่ง ดวงตาทั้งสองเป็นประกาย มือของนางก็กำลังโบกสะบัดอยู่ และปากของนางก็ร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว

 

 

สายฟ้ามาจากเหนือศีรษะของชีอ้าวชวาง แต่มันก็ยังคงเหมือนเดิม สายฟ้ากระเพื่อมอยู่บนศีรษะของชีอ้าวชวางและสักพักก็หายไป

 

 

“เจ้าพัฒนาขึ้นมากเลย” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ

 

 

ราเซียกัดริมฝีปากและประสานมือที่หน้าอก จากนั้นก็ร่ายคาถาที่ซับซ้อน ต่อจากนั้นสายฟ้าก็เริ่มก่อตัวบนศีรษะของชีอ้าวชวางอีกครั้ง

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง แต่นางมองราเซียที่ยังคงพยายามอย่างหนักอยู่เงียบๆ

 

 

“พายุฟ้าคะนอง!” ดวงตาของราเซียเบิกโพลงขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวและปล่อยเวทมนตร์สูงสุดของนางออกไป

 

 

เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น แต่ดูเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงบนศีรษะของชีอ้าวชวางจะยังคงเกิดการกระเพื่อมเพียงเล็กน้อยและหายไปอีกครั้ง

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ แล้วเดินไปข้างหน้า คนที่นางต้องการจะเจอคือคนที่ทั้งสองมือเต็มไปด้วยเลือดของแม่

 

 

“หยุดนะ!” ราเซียยื่นมือออกไปขวางตรงหน้าของชีอ้าวชวางพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น

 

 

ชีอ้าวชวางค่อยๆ ก้มหน้าลงมองหญิงสาวที่ดื้อรั้นตรงหน้าแล้วยื่นออกไปลูบหัวของราเซียเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของนาง จากนั้นก็พูดอย่างแผ่วเบา “เจ้าโตขึ้นแล้ว”

 

 

ราเซียเม้มปากแน่น แต่น้ำตากลับไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้อีกต่อไป ในที่สุดนางก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักแล้วยื่นมือออกไปกอดชีอ้าวชวาง “ทำไม? ทำไมตอนแรกไม่พาข้าไปด้วย? ทำไมพี่ถึงทิ้งข้าไว้? ทำไมพี่ถึงไม่ต้องการข้าแล้ว?”

 

 

ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร

 

 

“ข้ารู้ ข้ารู้ว่าตอนแรกข้าไม่ได้ร่วมสู้กับพี่ แต่ข้าก็เสียใจมาตลอด ข้าเสียใจมาก ข้าเสียใจจนเกลียดตัวเองที่ตอนนั้นข้าไม่ก้าวไปอยู่ข้างๆ พี่ ข้าเสียใจ เสียใจมากๆ…ท่านพี่! ฮือๆๆๆ…ท่านพี่! ข้าคิดถึงท่านพี่! ข้าคิดถึงท่านพี่นะ!” ราเซียร้องไห้ออกมาอย่างหนักและกอดชีอ้าวชวางแน่นไม่ยอมปล่อย

 

 

ชีอ้าวชวางลูบหัวของราเซียและยิ้มเบาๆ “อืม ข้ารู้แล้ว”

 

 

ราเซียร้องไห้จนหายใจไม่ออก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือเลย

 

 

ชีอ้าวชวางก็ไม่ได้ขยับเช่นกัน นางปล่อยให้ราเซียกอดนางร้องไห้เป็นคนขี้แยอยู่อย่างนั้น

 

 

“ข้าไล่พวกคนรับใช้ออกไปหมดแล้ว ตอนนี้คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ว่างเปล่า ท่านพ่อก็หายตัวไปนานแล้ว พี่ใหญ่ก็หายตัวไปเช่นกัน ที่บ้านนี้ไม่มีอะไรแล้ว” ผ่านไปสักพักราเซียจึงเรียกสติคืนมาได้ นางเช็ดน้ำตาแล้วพูดกับชีอ้าวชวาง

 

 

“อื้ม” ชีอ้าวชวางแค่พูดเรียบๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก นางทำเพียงแค่ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน เพราะนางรู้สึกได้ว่าคนๆ นั้นไม่ได้ไปไหน

 

 

“พวกเจ้าทุกคนรออยู่ที่นี่” ชีอ้าวชวางพูดประโยคนี้เบาๆ โดยที่ไม่ได้หันกลับไป ทุกคนหยุดฝีเท้า ราเซียก็อยากจะตามไปแต่ถูกจินเหยียนห้ามไว้ ราเซียขมวดคิ้วและหันกลับไปมองจินเหยียนด้วยใบหน้าเย็นชา จินเหยียนส่ายศีรษะน้อยๆ แต่ในแววตาของเขาเป็นการเตือนอย่างเย็นชา ทำให้ราเซียต้องถอยหลับมามองแผ่นหลังของชีอ้าวชวางที่เดินเข้าไป

 

 

ชีอ้าวชวางเดินไปห้องที่นางคุ้นเคยมากที่สุดอย่างช้าๆ ห้องโถงที่หรูหราและกว้างขวางนี้เป็นที่จัดงานวันเกิดครบรอบปีที่สิบห้าของนาง พอเดินผ่านทางเดิน ชีอ้าวชวางก็มองไปที่เรือนดอกไม้ทางด้านขวาและสนามฝึกซ้อมที่อยู่ไกลๆ ที่นี่มีความทรงจำมากมายที่ลบไม่ออก ห้องน้ำชาที่นางนั่งดื่มชาอย่างสบายใจ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไป๋ตี้ที่สนามฝึกซ้อม รวมถึงตอนที่ต่อสู้กับจินเหยียนอย่างหนักด้วย คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ที่เคยรุ่งโรจน์ ในตอนนี้เงียบเหงาไปมาก

 

 

ที่นี่ไม่มีรอยยิ้มอันอบอุ่นของแคทเธอรีนอีกแล้ว…

 

 

ชีอ้าวชวางค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องนอนของตัวเอง นางเปิดประตูอย่างเบามือแล้วมองไปที่เตียงใหญ่นั้นอย่างว่างเปล่า ที่นี่แหละที่นางลืมตาขึ้นมาครั้งแรกแล้วก็ได้พบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของแคทเธอรีน ที่นี่แหละที่แรกที่นางได้รับแสงอาทิตย์ในโลกนี้

 

 

ทุกอย่างดูเหมือนผ่านไปเนิ่นนานแล้ว แต่กลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

 

 

ชีอ้าวชวางปิดประตูอย่างเบามือแล้วหันหน้าเดินไปที่ห้องหนังสือ

 

 

ชีอ้าวชวางเปิดประตูห้องหนังสือออก สิ่งที่เห็นก็คือตรารูปดอกกุหลาบป่าที่โดดเด่นบนผนัง

 

 

ธงดอกกุหลาบป่าจะโบกสะบัดไปตลอดกาล ตระกูลฮิลล์จะคงอยู่ตลอดไป…

 

 

คำสาบานในอดีตนั้น ตอนนี้ทุกอย่างได้หายไปแล้ว

 

 

บางที กอร์ตั้นอาจจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่านางไม่ใช่แคลร์คนเดิม

 

 

“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว…” จู่ๆ เสียงของคนชราก็ดังขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้หันไป เพราะเสียงนั้นคือเสียงของกอร์ตั้น

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะกลับมาแน่นอน” ชีอ้าวชวางยิ้มอย่างเย็นชาและหันไปมองกอร์ตั้นที่ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ

 

 

“ข้าเคยคิดว่าข้าผิดที่ทำเช่นนั้นกับเจ้า” กอร์ตั้นก็มองชีอ้าวชวางและพูดช้าๆ “หลังจากคิดถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ข้าคิดว่าข้าไม่ได้ผิด มักจะต้องมีคนที่เสียสละเพื่อความรุ่งเรืองและการดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ของตระกูลฮิลล์เสมอ นั่นคือราคาที่ต้องจ่าย”

 

 

ชีอ้าวชวางยิ้มจางๆ โดยที่มุมปากของนางปรากฏความเยาะเย้ยออกมา คนคนนี้ยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับผิดเสมอ ในสายตาของเขาคือทุกอย่างล้วนเสียสละได้

 

 

“แต่ตระกูลฮิลล์อันเป็นนิรันดร์ของเจ้าไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างหายไปแล้ว” ชีอ้าวชวางหัวเราะเยาะแล้วมองใบหน้าสงบของกอร์ตั้นที่ค่อยๆ แย่ลง ชีอ้าวชวางนึกถึงภาพสายตาอันอบอุ่นและเจ็บปวดของแคทเธอรีนก่อนที่จะเสียชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ใจของนางก็ยิ่งเกลียดคนตรงหน้ามากขึ้น ไม่มีความเมตตาอีกต่อไป “ฮ่าๆ ตระกูลฮิลล์งั้นหรือ? ตระกูลฮิลล์ที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนาน ตอนนี้มีอะไรอยู่อีกบ้างล่ะ? ตอนนี้เจ้าก็เหมือนสุนัขที่ไร้บ้าน อย่าว่าแต่ไม่มีบ้านเลย แม้แต่เจ้าของก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ อันพาแกรนด์ก็ล่มสลายแล้ว เจ้ายังจะเหลืออะไรอยู่อีกล่ะ?” ชีอ้าวชวางมองกอร์ตั้นและหัวเราะอย่างเย็นชา ในที่สุดก็มีวันนี้เสียที ในที่สุดก็ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของคนตรงหน้านี้ได้!

 

 

ดวงตาของกอร์ตั้นเบิกกว้างด้วยความโกรธพร้อมทั้งกำหมัดแน่น ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนแล้ววิ่งเข้าไปพร้อมกับระเบิดพลังยุทธ์ของเขาปล่อยหมัดใส่ชีอ้าวชวาง

 

 

หมัดนั้นขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าของชีอ้าวชวาง ทำให้ชีอ้าวชวางนึกถึงภาพในวันนั้น หมัดนี้คือหมัดที่กระแทกเข้าที่หัวใจของแคทเธอรีนจนเลือดสาดไปทั่วร่างของนาง คนๆ นี้คือคนที่ฆ่าแคทเธอรีนที่นางห่วงใยที่สุด!

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้หลบหมัดนั้น แต่มีประกายความกระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางค่อยๆ ยกมือขึ้นจับหมัดของกอร์ตั้น นางไม่ได้บดขยี้ให้แหลก แต่นางกำหมัดนั้นแล้วค่อยๆ ออกแรงกำจนมือของกอร์ตั้นใช้การไม่ได้อีก เสียงกรีดร้องดังไปทั่วห้องหนังสือ กอร์ตั้นเจ็บปวดจนทั้งร่างกระตุกไปหมด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนตรงหน้าจะใช้วิธีที่โหดร้ายขนาดนี้กับเขา!

 

 

“ปีศาจ เจ้ามันปีศาจ…” กอร์ตั้นอ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวดและพูดเหล่านี้ออกมาด้วยความยากลำบาก ความเกลียดชังในใจของเขาที่มีต่อชีอ้าวชวางก็ยิ่งฝังลึก

 

 

ชีอ้าวชวางยิ้มเยาะ “เจ้าไม่ใช่คนแรกหรอกที่พูดเช่นนี้กับข้า”

 

 

ชีอ้าวชวางโบกมือเบาๆ ให้กอร์ตั้นหลบทางไป ร่างของกอร์ตั้นไปกระแทกเข้ากับกำแพงด้านหลัง จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ค่อยๆ ทรุดลง

 

 

“ตระกูลฮิลล์ ตระกูลฮิลล์จะมั่นคงดังเดิม…” กอร์ตั้นพึมพำขณะที่เขาทอดสายตาไปที่พื้น

 

 

“นับจากนี้ไป ในทวีปนี้จะไม่มีตระกูลฮิลล์อีกต่อไป” สายตาของชีอ้าวชวางมีเพียงความเย็นชา นางยกมือขึ้นแล้วสะบัด จากนั้นตรารูปดอกกุหลาบป่าบนผนังก็ไหม้และสลายไปทันที

 

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” กอร์ตั้นร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งและพยายามจะลุกขึ้นยืน

 

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้าหรือไม่?” ชีอ้าวชวางถามด้วยความเย่อหยิ่ง

 

 

“เจ้าคนบาป! เจ้าทำให้ตระกูลฮิลล์ต้องลงเอยเช่นนี้! เจ้าสมควรตาย ต่อให้เจ้าตายร้อยพันหรือหมื่นครั้งไม่เพียงพอที่จะหักล้างอาชญากรรมชั่วร้ายที่เจ้าก่อ!” กอร์ตั้นตะคอกใส่ด้วยความโกรธ

 

 

ชีอ้าวชวางทำเพียงแค่มองกอร์ตั้นอย่างเงียบๆ คนๆ นี้ถูกชื่อเสียงกัดกร่อนไปจนหมดแล้ว เขาไม่มีความรู้สึกของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว จะเศร้าหรือขำดีนะ?

 

 

“ไปตายซะ! เจ้ามันก็แค่ผู้หญิงที่ไม่มีที่มา!” กอร์ตั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วระเบิดพลังยุทธ์ออกมาอีกครั้งด้วยการฟาดมือออกไป

 

 

ชีอ้าวชวางอึ้งและเกิดลางไม่ดีขึ้นในใจ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่นางถูกคนจากวิหารแห่งแสงซุ่มโจมตีในป่านั้นเลย! กอร์ตั้นไม่ได้โจมตีนางแต่โจมตีไปที่พื้นงั้นหรือ?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เสน่ห์คมดาบ 232

Now you are reading เสน่ห์คมดาบ Chapter 232 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหลิ่งหลิงยวิ๋นมองหลิวเฉว่ฉิงเงียบๆ หลิวเฉว่ฉิงเองก็มองเหลิ่งหลิงยวิ๋นด้วยรอยยิ้ม เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

 

 

ผ่านไปสักพัก เหลิ่งหลิงยวิ๋นก็ค่อยๆ ยื่นมือออกไปแล้วลูบตาของหลิวเฉว่ฉิงให้นางหลับตา เบาๆ ขณะนี้หลิวเฉว่ฉิงไม่หายใจแล้ว

 

 

เหลิ่งหลิงยวิ๋นชักมือกลับมาแล้วหันหลังลุกขึ้นยืนมองตรงไปข้างหน้า จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อ้าวชวาง หากข้าจากไป เจ้าจะจดจำข้าหรือไม่?

 

 

ชีอ้าวชวางยืนอยู่ข้างนอกประตูของวิหารแห่งแสงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ หลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางค่อยๆ เดินออกจากสถานที่นั้นไปช้าๆ ไปยังเส้นทางที่ในอดีตนางคุ้นเคยเป็นอย่างดี

 

 

คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์

 

 

น่าแปลกใจที่คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ไม่มีคนอยู่เลย แต่ก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ไม่เหมือนคฤหาสน์ของชนชั้นสูงคนอื่นๆ ที่เละเทะไปหมด ขุนนางเหล่านั้นหนีไปกันหมดแล้ว คฤหาสน์จึงเละไม่เป็นระเบียบ

 

 

ในขณะนี้มีร่างที่คุ้นเคยกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่

 

 

ผมสีทองกำลังปลิวไสว และดวงตาสีเขียวก็เต็มไปด้วยความเย็นชาและมุ่งมั่น

 

 

ราเซีย

 

 

“ข้ารอท่านพี่มานานมากแล้ว!” ราเซียยืนอยู่ที่ประตูและเงยหน้าขึ้นมองชีอ้าวชวางอย่างเย็นชา

 

 

ชีอ้าวชวางยกมือขึ้นเพื่อหยุดคนข้างหลังที่กำลังจะเคลื่อนไหว จินเหยียนและคนอื่นๆ จึงถอยห่างออกไป พวกเขาเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวของชีอ้าวชวาง

 

 

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ

 

 

“จะใช่หรือไม่ก็ต้องสู้ก่อนถึงจะรู้!” ราเซียกัดริมฝีปากขมวดคิ้วและพูดประโยคนี้ออกมา ขณะนี้ในมือของนางก็มีองค์ประกอบเวทแล้ว

 

 

“สายฟ้าฟาด!” ราเซียตะโกนออกมาแล้วสายฟ้าที่อยู่ในมือของนางก็พุ่งเข้าใส่ชีอ้าวชวาง แต่สายฟ้านั้นกลับหยุดอยู่แค่ตรงหน้าของชีอ้าวชวางราวกับเป็นแรงกระเพื่อมของฝนที่ตกลงในทะเลสาบ ชีอ้าวชวางทำแค่เพียงสร้างเขตกั้นขึ้นมาเป็นโล่เท่านั้น นางไม่ได้โจมตี

 

 

“สายฟ้า!” ราเซียยืนนิ่ง ดวงตาทั้งสองเป็นประกาย มือของนางก็กำลังโบกสะบัดอยู่ และปากของนางก็ร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว

 

 

สายฟ้ามาจากเหนือศีรษะของชีอ้าวชวาง แต่มันก็ยังคงเหมือนเดิม สายฟ้ากระเพื่อมอยู่บนศีรษะของชีอ้าวชวางและสักพักก็หายไป

 

 

“เจ้าพัฒนาขึ้นมากเลย” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ

 

 

ราเซียกัดริมฝีปากและประสานมือที่หน้าอก จากนั้นก็ร่ายคาถาที่ซับซ้อน ต่อจากนั้นสายฟ้าก็เริ่มก่อตัวบนศีรษะของชีอ้าวชวางอีกครั้ง

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง แต่นางมองราเซียที่ยังคงพยายามอย่างหนักอยู่เงียบๆ

 

 

“พายุฟ้าคะนอง!” ดวงตาของราเซียเบิกโพลงขึ้นอย่างโกรธเกรี้ยวและปล่อยเวทมนตร์สูงสุดของนางออกไป

 

 

เกิดเสียงดังกึกก้องขึ้น แต่ดูเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงบนศีรษะของชีอ้าวชวางจะยังคงเกิดการกระเพื่อมเพียงเล็กน้อยและหายไปอีกครั้ง

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ชีอ้าวชวางพูดเรียบๆ แล้วเดินไปข้างหน้า คนที่นางต้องการจะเจอคือคนที่ทั้งสองมือเต็มไปด้วยเลือดของแม่

 

 

“หยุดนะ!” ราเซียยื่นมือออกไปขวางตรงหน้าของชีอ้าวชวางพร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น

 

 

ชีอ้าวชวางค่อยๆ ก้มหน้าลงมองหญิงสาวที่ดื้อรั้นตรงหน้าแล้วยื่นออกไปลูบหัวของราเซียเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของนาง จากนั้นก็พูดอย่างแผ่วเบา “เจ้าโตขึ้นแล้ว”

 

 

ราเซียเม้มปากแน่น แต่น้ำตากลับไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้อีกต่อไป ในที่สุดนางก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักแล้วยื่นมือออกไปกอดชีอ้าวชวาง “ทำไม? ทำไมตอนแรกไม่พาข้าไปด้วย? ทำไมพี่ถึงทิ้งข้าไว้? ทำไมพี่ถึงไม่ต้องการข้าแล้ว?”

 

 

ชีอ้าวชวางถอนหายใจเบาๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร

 

 

“ข้ารู้ ข้ารู้ว่าตอนแรกข้าไม่ได้ร่วมสู้กับพี่ แต่ข้าก็เสียใจมาตลอด ข้าเสียใจมาก ข้าเสียใจจนเกลียดตัวเองที่ตอนนั้นข้าไม่ก้าวไปอยู่ข้างๆ พี่ ข้าเสียใจ เสียใจมากๆ…ท่านพี่! ฮือๆๆๆ…ท่านพี่! ข้าคิดถึงท่านพี่! ข้าคิดถึงท่านพี่นะ!” ราเซียร้องไห้ออกมาอย่างหนักและกอดชีอ้าวชวางแน่นไม่ยอมปล่อย

 

 

ชีอ้าวชวางลูบหัวของราเซียและยิ้มเบาๆ “อืม ข้ารู้แล้ว”

 

 

ราเซียร้องไห้จนหายใจไม่ออก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือเลย

 

 

ชีอ้าวชวางก็ไม่ได้ขยับเช่นกัน นางปล่อยให้ราเซียกอดนางร้องไห้เป็นคนขี้แยอยู่อย่างนั้น

 

 

“ข้าไล่พวกคนรับใช้ออกไปหมดแล้ว ตอนนี้คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ว่างเปล่า ท่านพ่อก็หายตัวไปนานแล้ว พี่ใหญ่ก็หายตัวไปเช่นกัน ที่บ้านนี้ไม่มีอะไรแล้ว” ผ่านไปสักพักราเซียจึงเรียกสติคืนมาได้ นางเช็ดน้ำตาแล้วพูดกับชีอ้าวชวาง

 

 

“อื้ม” ชีอ้าวชวางแค่พูดเรียบๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก นางทำเพียงแค่ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน เพราะนางรู้สึกได้ว่าคนๆ นั้นไม่ได้ไปไหน

 

 

“พวกเจ้าทุกคนรออยู่ที่นี่” ชีอ้าวชวางพูดประโยคนี้เบาๆ โดยที่ไม่ได้หันกลับไป ทุกคนหยุดฝีเท้า ราเซียก็อยากจะตามไปแต่ถูกจินเหยียนห้ามไว้ ราเซียขมวดคิ้วและหันกลับไปมองจินเหยียนด้วยใบหน้าเย็นชา จินเหยียนส่ายศีรษะน้อยๆ แต่ในแววตาของเขาเป็นการเตือนอย่างเย็นชา ทำให้ราเซียต้องถอยหลับมามองแผ่นหลังของชีอ้าวชวางที่เดินเข้าไป

 

 

ชีอ้าวชวางเดินไปห้องที่นางคุ้นเคยมากที่สุดอย่างช้าๆ ห้องโถงที่หรูหราและกว้างขวางนี้เป็นที่จัดงานวันเกิดครบรอบปีที่สิบห้าของนาง พอเดินผ่านทางเดิน ชีอ้าวชวางก็มองไปที่เรือนดอกไม้ทางด้านขวาและสนามฝึกซ้อมที่อยู่ไกลๆ ที่นี่มีความทรงจำมากมายที่ลบไม่ออก ห้องน้ำชาที่นางนั่งดื่มชาอย่างสบายใจ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของไป๋ตี้ที่สนามฝึกซ้อม รวมถึงตอนที่ต่อสู้กับจินเหยียนอย่างหนักด้วย คฤหาสน์ตระกูลฮิลล์ที่เคยรุ่งโรจน์ ในตอนนี้เงียบเหงาไปมาก

 

 

ที่นี่ไม่มีรอยยิ้มอันอบอุ่นของแคทเธอรีนอีกแล้ว…

 

 

ชีอ้าวชวางค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องนอนของตัวเอง นางเปิดประตูอย่างเบามือแล้วมองไปที่เตียงใหญ่นั้นอย่างว่างเปล่า ที่นี่แหละที่นางลืมตาขึ้นมาครั้งแรกแล้วก็ได้พบกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของแคทเธอรีน ที่นี่แหละที่แรกที่นางได้รับแสงอาทิตย์ในโลกนี้

 

 

ทุกอย่างดูเหมือนผ่านไปเนิ่นนานแล้ว แต่กลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

 

 

ชีอ้าวชวางปิดประตูอย่างเบามือแล้วหันหน้าเดินไปที่ห้องหนังสือ

 

 

ชีอ้าวชวางเปิดประตูห้องหนังสือออก สิ่งที่เห็นก็คือตรารูปดอกกุหลาบป่าที่โดดเด่นบนผนัง

 

 

ธงดอกกุหลาบป่าจะโบกสะบัดไปตลอดกาล ตระกูลฮิลล์จะคงอยู่ตลอดไป…

 

 

คำสาบานในอดีตนั้น ตอนนี้ทุกอย่างได้หายไปแล้ว

 

 

บางที กอร์ตั้นอาจจะรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่านางไม่ใช่แคลร์คนเดิม

 

 

“ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว…” จู่ๆ เสียงของคนชราก็ดังขึ้น

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้หันไป เพราะเสียงนั้นคือเสียงของกอร์ตั้น

 

 

“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะกลับมาแน่นอน” ชีอ้าวชวางยิ้มอย่างเย็นชาและหันไปมองกอร์ตั้นที่ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ

 

 

“ข้าเคยคิดว่าข้าผิดที่ทำเช่นนั้นกับเจ้า” กอร์ตั้นก็มองชีอ้าวชวางและพูดช้าๆ “หลังจากคิดถึงเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ข้าคิดว่าข้าไม่ได้ผิด มักจะต้องมีคนที่เสียสละเพื่อความรุ่งเรืองและการดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ของตระกูลฮิลล์เสมอ นั่นคือราคาที่ต้องจ่าย”

 

 

ชีอ้าวชวางยิ้มจางๆ โดยที่มุมปากของนางปรากฏความเยาะเย้ยออกมา คนคนนี้ยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับผิดเสมอ ในสายตาของเขาคือทุกอย่างล้วนเสียสละได้

 

 

“แต่ตระกูลฮิลล์อันเป็นนิรันดร์ของเจ้าไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างหายไปแล้ว” ชีอ้าวชวางหัวเราะเยาะแล้วมองใบหน้าสงบของกอร์ตั้นที่ค่อยๆ แย่ลง ชีอ้าวชวางนึกถึงภาพสายตาอันอบอุ่นและเจ็บปวดของแคทเธอรีนก่อนที่จะเสียชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ใจของนางก็ยิ่งเกลียดคนตรงหน้ามากขึ้น ไม่มีความเมตตาอีกต่อไป “ฮ่าๆ ตระกูลฮิลล์งั้นหรือ? ตระกูลฮิลล์ที่เจริญรุ่งเรืองมายาวนาน ตอนนี้มีอะไรอยู่อีกบ้างล่ะ? ตอนนี้เจ้าก็เหมือนสุนัขที่ไร้บ้าน อย่าว่าแต่ไม่มีบ้านเลย แม้แต่เจ้าของก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ อันพาแกรนด์ก็ล่มสลายแล้ว เจ้ายังจะเหลืออะไรอยู่อีกล่ะ?” ชีอ้าวชวางมองกอร์ตั้นและหัวเราะอย่างเย็นชา ในที่สุดก็มีวันนี้เสียที ในที่สุดก็ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของคนตรงหน้านี้ได้!

 

 

ดวงตาของกอร์ตั้นเบิกกว้างด้วยความโกรธพร้อมทั้งกำหมัดแน่น ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนแล้ววิ่งเข้าไปพร้อมกับระเบิดพลังยุทธ์ของเขาปล่อยหมัดใส่ชีอ้าวชวาง

 

 

หมัดนั้นขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าของชีอ้าวชวาง ทำให้ชีอ้าวชวางนึกถึงภาพในวันนั้น หมัดนี้คือหมัดที่กระแทกเข้าที่หัวใจของแคทเธอรีนจนเลือดสาดไปทั่วร่างของนาง คนๆ นี้คือคนที่ฆ่าแคทเธอรีนที่นางห่วงใยที่สุด!

 

 

ชีอ้าวชวางไม่ได้หลบหมัดนั้น แต่มีประกายความกระหายเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง นางค่อยๆ ยกมือขึ้นจับหมัดของกอร์ตั้น นางไม่ได้บดขยี้ให้แหลก แต่นางกำหมัดนั้นแล้วค่อยๆ ออกแรงกำจนมือของกอร์ตั้นใช้การไม่ได้อีก เสียงกรีดร้องดังไปทั่วห้องหนังสือ กอร์ตั้นเจ็บปวดจนทั้งร่างกระตุกไปหมด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคนตรงหน้าจะใช้วิธีที่โหดร้ายขนาดนี้กับเขา!

 

 

“ปีศาจ เจ้ามันปีศาจ…” กอร์ตั้นอ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวดและพูดเหล่านี้ออกมาด้วยความยากลำบาก ความเกลียดชังในใจของเขาที่มีต่อชีอ้าวชวางก็ยิ่งฝังลึก

 

 

ชีอ้าวชวางยิ้มเยาะ “เจ้าไม่ใช่คนแรกหรอกที่พูดเช่นนี้กับข้า”

 

 

ชีอ้าวชวางโบกมือเบาๆ ให้กอร์ตั้นหลบทางไป ร่างของกอร์ตั้นไปกระแทกเข้ากับกำแพงด้านหลัง จากนั้นทั้งร่างของเขาก็ค่อยๆ ทรุดลง

 

 

“ตระกูลฮิลล์ ตระกูลฮิลล์จะมั่นคงดังเดิม…” กอร์ตั้นพึมพำขณะที่เขาทอดสายตาไปที่พื้น

 

 

“นับจากนี้ไป ในทวีปนี้จะไม่มีตระกูลฮิลล์อีกต่อไป” สายตาของชีอ้าวชวางมีเพียงความเย็นชา นางยกมือขึ้นแล้วสะบัด จากนั้นตรารูปดอกกุหลาบป่าบนผนังก็ไหม้และสลายไปทันที

 

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า!” กอร์ตั้นร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งและพยายามจะลุกขึ้นยืน

 

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้ของข้าหรือไม่?” ชีอ้าวชวางถามด้วยความเย่อหยิ่ง

 

 

“เจ้าคนบาป! เจ้าทำให้ตระกูลฮิลล์ต้องลงเอยเช่นนี้! เจ้าสมควรตาย ต่อให้เจ้าตายร้อยพันหรือหมื่นครั้งไม่เพียงพอที่จะหักล้างอาชญากรรมชั่วร้ายที่เจ้าก่อ!” กอร์ตั้นตะคอกใส่ด้วยความโกรธ

 

 

ชีอ้าวชวางทำเพียงแค่มองกอร์ตั้นอย่างเงียบๆ คนๆ นี้ถูกชื่อเสียงกัดกร่อนไปจนหมดแล้ว เขาไม่มีความรู้สึกของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว จะเศร้าหรือขำดีนะ?

 

 

“ไปตายซะ! เจ้ามันก็แค่ผู้หญิงที่ไม่มีที่มา!” กอร์ตั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วระเบิดพลังยุทธ์ออกมาอีกครั้งด้วยการฟาดมือออกไป

 

 

ชีอ้าวชวางอึ้งและเกิดลางไม่ดีขึ้นในใจ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่นางถูกคนจากวิหารแห่งแสงซุ่มโจมตีในป่านั้นเลย! กอร์ตั้นไม่ได้โจมตีนางแต่โจมตีไปที่พื้นงั้นหรือ?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+