แม่มดสาวมุ้งมิ้ง 11 เศร้าหมอง

Now you are reading แม่มดสาวมุ้งมิ้ง Chapter 11 เศร้าหมอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 11 เศร้าหมอง

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของแม่มดย่อมไม่เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เพราะเธอสามารถเห็นภูตผีวิญญาณด้วยตาเปล่า และสามารถเห็นพลังงานทางจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ในตัวบุคคล

 

 

“ตอนนี้โทรแจ้งตำรวจไม่ทันแล้ว เราต้องตามไปดูก่อน” แม่มดสาวกล่าวอย่ารีบร้อน

 

 

“อย่าลืมใช้เวทมนต์อำพรางตัวด้วย” แมวน้อยสั่ง

 

 

“โอเค!”

 

 

หลังจากเดินตามไปสักครู่ก็พบว่าชายหนุ่มที่ถือกระติกน้ำใบใหญ่ได้เดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาดเล็กและมีสนามหญ้าหน้าบ้าน

 

 

ขณะที่ดวงวิญญาณของผู้ชายอีกคนเดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

 

 

“กลับมาแล้วเหรอ? เรียบร้อยดีหรือเปล่า” เหลียงหมิงเอ่ยถาม

 

 

“เรียบร้อยดี” เหลียงจี้กล่าวอย่างเฉยเมยและเอ่ยถามอีกว่า

 

 

“กำลังดูอะไรอยู่?”

 

 

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีและถือเบียร์กระป๋องในมือตอบทันทีว่า

 

 

“ก็ดูข่าวฆาตกรต่อเนื่องน่ะสิ…ใครจะคิดว่าคนคนนั้นกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน”

 

 

“หึ!…ฉันเป็นคนฆ่า แต่แกเป็นคนเอาไปขาย มันก็เลวพอกันนั่นแหละ”

 

 

“ถ้ามีทางเลือกเราสองคนก็คงไม่ต้องทำแบบนี้”

 

 

เหลียงจี้เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ห้าในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ แต่ตอนนั้นเขาต้องประสบปัญหาทางครอบครัว เนื่องจากบิดาล้มละลายจึงยิ่งตัวตายพร้อมกับมารดาของพวกเขา

 

 

สำหรับเหลียงหยูผู้เป็นน้องชายนั้นเขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามในมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เขาเรียนด้านบริหารธุรกิจ

 

 

เมื่อบิดามารดาจากไปทั้งสองคนจึงจำเป็นต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย แต่นับว่าโชคดีที่บิดาของเขาทิ้งบ้านหลังนี้เอาไว้ให้ได้อยู่อาศัย

 

 

แม้กระนั้นการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรับเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการหาเงินเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง

 

 

“โทรนัดลูกค้าหรือยัง?” เหลียงจี้สอบถามพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบกระป๋องเบียร์ออกมาเปิดก่อนจะยกขึ้นซด

 

 

“เรียบร้อยแล้วพรุ่งนี้ตอนเที่ยงเจอกันที่เดิม” น้องชายตอบ

 

 

“โอเค”

 

 

การฆาตกรรมครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สี่แล้ว เนื่องจากเหลียงจี้เป็นนักศึกษาแพทย์เขาจึงมีความสามารถในการผ่าตัด แต่การใช้ความสามารถไปในทางที่ผิดเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด

 

 

สำหรับการขายไตและหัวใจในแต่ละครั้งพวกเขามีรายได้ถึงหนึ่งล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลสำหรับทั้งสองคน โดยลูกค้าของพวกเขานั้นเป็นคนที่รู้จักกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตและเคยซื้อขายกันมาหลายครั้งแล้ว

 

 

“ไอ้พวกคนเลว! แกฆ่าฉันเพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ?” เสียงคำรามของดวงวิญญาณที่ท่วมท้นไปด้วยความโกรธแค้นดังขึ้น ขณะที่ผู้ชายสองคนนั้นไม่ได้ยิน แต่ผู้ที่สามารถได้ยินอย่างชัดเจนคือแม่มดสาวกับแมวสีขาวขนยาวปุกปุย

 

 

ท่านใดนั้นวิญญาณร้ายก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องครัวของบ้านหลังนี้และหยิบมีดพร้อมกับวิ่งตรงไปยังโซฟาที่ผู้ชายสองคนนั้นนั่งอยู่

 

 

“ไอ้หยา! เกิดอะไรขึ้น” เหลียงจี้ร้องตะโกนเสียงดังลั่น

 

 

“มะ…มีด…มีดลอยได้” เหลียงหยูผู้เป็นน้องชายเหลือกตาขึ้นพร้อมกับหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

 

พวกเขาเห็นเพียงมี่ที่ลอยออกมาจากห้อง ครัวและกำลังจะจ้วงแทงลงมาที่ตนเอง แต่ไม่สามารถมองเห็นดวงวิญญาณนั้นได้

 

 

และไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ในฉับพลันแสงไฟในห้องก็เริ่มกระพริบถี่ราวกับว่ามันกำลังจะดับแต่ก็ไม่ยอมดับไปในที่สุด

 

 

สิ่งนี้เป็นเพราะแม่มดสาวได้ใช้นิ้วชี้ไปที่มีเล่มนั้นเพื่อผลักพลังไปปัดมันให้ตกลงบนพื้นอย่างง่ายดาย ส่งผลให้วิญญาณร้ายหันหน้ามาทางแม่มดสาวในทันทีด้วยความโกรธแค้น

 

 

“แกเป็นใคร?…เข้ามาขวางฉันทำไม?”

 

 

“อย่าทำแบบนั้นเลยมันจะส่งผลร้ายแก่ตัวคุณเองนะ” แม่มดสาวพยายามโน้มน้าว

 

 

“แต่มันฆ่าฉัน…มันฆ่าฉัน” วิญญาณร้ายกล่าวด้วยแรงอาฆาต

 

 

“คุณทำแบบนี้ไม่ได้ มันเป็นการละเมิดกฎสวรรค์…อันที่จริงคุณไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะพวกเขาจะต้องชดใช้ผลกรรมของตัวเองอย่างแน่นอน!…”

 

 

“แล้วผมล่ะ…ผมทำดีมาทั้งชีวิตแต่ต้องมารับผลตอบแทนแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”

 

 

“นั่นเป็นกรรมดีที่คุณสะสมไว้…และครั้งนี้ถ้าคุณสามารถปล่อยวางได้ แน่นอนว่ามันจะเป็นผลดีต่อตัวคุณ”

 

 

ตอนนี้แม่มดสาวเริ่มร่ายเวทย์มนตร์เพื่อกระตุ้นจิตวิญญาณในด้านดีของผู้ชายคนนี้ให้เผยภาพความทรงจำที่เขาเคยประกอบกรรมดีมาตั้งแต่เกิด ส่งผลให้ร่างของเขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นและร้องไห้คร่ำครวญออกมา

 

 

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ แต่มันฆ่าผม”เขากล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังเหลียงจี้ด้วยน้ำตาที่ไหลรินด้วยความเศร้าเสียใจ

 

 

“วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดอายุยี่สิบห้าปีของคุณใช่หรือเปล่า?” แม่มดสาวเอ่ยถาม

 

 

“ใช่! คุณรู้ได้ยังไง?”

 

 

“ฉันรู้ทุกอย่าง ถ้าฉันอยากรู้” แม่มดสาวเชิดคางขึ้นและกล่าวอีกว่า

 

 

“แม้วันนี้ผู้ชายคนนั้นไม่ฆ่าคุณ คุณก็ต้องตายอยู่ดี เพราะอายุขัยของคุณหมดแล้ว…ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้คือการปล่อยวางและจงจำไว้ว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรเพราะสิ่งนี้จะทำให้จิตวิญญาณของคุณเศร้าหมอง”

 

 

“ผมหมดอายุขัยแล้วจริง ๆ เหรอครับ?”

 

 

“จริงสิ! ฉันไม่ชอบพูดโกหก” แม่มดสาวกล่าวพร้อมกับใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวาไขว้กันพร้อมกับซ่อนเอาไว้ที่ข้างหลังตนเอง ขณะที่เจ้าแมวมองด้วยอาการขมวดคิ้วแต่มันก็ไม่ได้กล่าวแทรกอะไรขึ้นมา

 

 

แม่มดสาวกล่าวขึ้นอีกว่า

 

 

“สำหรับสองคนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง…คุณไม่ต้องกังวล”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แม่มดสาวมุ้งมิ้ง 11 เศร้าหมอง

Now you are reading แม่มดสาวมุ้งมิ้ง Chapter 11 เศร้าหมอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 11 เศร้าหมอง

 

อย่างไรก็ตามดวงตาของแม่มดย่อมไม่เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาทั่วไป เพราะเธอสามารถเห็นภูตผีวิญญาณด้วยตาเปล่า และสามารถเห็นพลังงานทางจิตวิญญาณที่แฝงอยู่ในตัวบุคคล

 

 

“ตอนนี้โทรแจ้งตำรวจไม่ทันแล้ว เราต้องตามไปดูก่อน” แม่มดสาวกล่าวอย่ารีบร้อน

 

 

“อย่าลืมใช้เวทมนต์อำพรางตัวด้วย” แมวน้อยสั่ง

 

 

“โอเค!”

 

 

หลังจากเดินตามไปสักครู่ก็พบว่าชายหนุ่มที่ถือกระติกน้ำใบใหญ่ได้เดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาดเล็กและมีสนามหญ้าหน้าบ้าน

 

 

ขณะที่ดวงวิญญาณของผู้ชายอีกคนเดินตามเขาไปอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

 

 

“กลับมาแล้วเหรอ? เรียบร้อยดีหรือเปล่า” เหลียงหมิงเอ่ยถาม

 

 

“เรียบร้อยดี” เหลียงจี้กล่าวอย่างเฉยเมยและเอ่ยถามอีกว่า

 

 

“กำลังดูอะไรอยู่?”

 

 

ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีและถือเบียร์กระป๋องในมือตอบทันทีว่า

 

 

“ก็ดูข่าวฆาตกรต่อเนื่องน่ะสิ…ใครจะคิดว่าคนคนนั้นกำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน”

 

 

“หึ!…ฉันเป็นคนฆ่า แต่แกเป็นคนเอาไปขาย มันก็เลวพอกันนั่นแหละ”

 

 

“ถ้ามีทางเลือกเราสองคนก็คงไม่ต้องทำแบบนี้”

 

 

เหลียงจี้เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ห้าในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐ แต่ตอนนั้นเขาต้องประสบปัญหาทางครอบครัว เนื่องจากบิดาล้มละลายจึงยิ่งตัวตายพร้อมกับมารดาของพวกเขา

 

 

สำหรับเหลียงหยูผู้เป็นน้องชายนั้นเขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามในมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เขาเรียนด้านบริหารธุรกิจ

 

 

เมื่อบิดามารดาจากไปทั้งสองคนจึงจำเป็นต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย แต่นับว่าโชคดีที่บิดาของเขาทิ้งบ้านหลังนี้เอาไว้ให้ได้อยู่อาศัย

 

 

แม้กระนั้นการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนักสำหรับเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการหาเงินเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง

 

 

“โทรนัดลูกค้าหรือยัง?” เหลียงจี้สอบถามพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบกระป๋องเบียร์ออกมาเปิดก่อนจะยกขึ้นซด

 

 

“เรียบร้อยแล้วพรุ่งนี้ตอนเที่ยงเจอกันที่เดิม” น้องชายตอบ

 

 

“โอเค”

 

 

การฆาตกรรมครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สี่แล้ว เนื่องจากเหลียงจี้เป็นนักศึกษาแพทย์เขาจึงมีความสามารถในการผ่าตัด แต่การใช้ความสามารถไปในทางที่ผิดเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด

 

 

สำหรับการขายไตและหัวใจในแต่ละครั้งพวกเขามีรายได้ถึงหนึ่งล้านเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลสำหรับทั้งสองคน โดยลูกค้าของพวกเขานั้นเป็นคนที่รู้จักกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตและเคยซื้อขายกันมาหลายครั้งแล้ว

 

 

“ไอ้พวกคนเลว! แกฆ่าฉันเพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ?” เสียงคำรามของดวงวิญญาณที่ท่วมท้นไปด้วยความโกรธแค้นดังขึ้น ขณะที่ผู้ชายสองคนนั้นไม่ได้ยิน แต่ผู้ที่สามารถได้ยินอย่างชัดเจนคือแม่มดสาวกับแมวสีขาวขนยาวปุกปุย

 

 

ท่านใดนั้นวิญญาณร้ายก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องครัวของบ้านหลังนี้และหยิบมีดพร้อมกับวิ่งตรงไปยังโซฟาที่ผู้ชายสองคนนั้นนั่งอยู่

 

 

“ไอ้หยา! เกิดอะไรขึ้น” เหลียงจี้ร้องตะโกนเสียงดังลั่น

 

 

“มะ…มีด…มีดลอยได้” เหลียงหยูผู้เป็นน้องชายเหลือกตาขึ้นพร้อมกับหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนก

 

 

พวกเขาเห็นเพียงมี่ที่ลอยออกมาจากห้อง ครัวและกำลังจะจ้วงแทงลงมาที่ตนเอง แต่ไม่สามารถมองเห็นดวงวิญญาณนั้นได้

 

 

และไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด ในฉับพลันแสงไฟในห้องก็เริ่มกระพริบถี่ราวกับว่ามันกำลังจะดับแต่ก็ไม่ยอมดับไปในที่สุด

 

 

สิ่งนี้เป็นเพราะแม่มดสาวได้ใช้นิ้วชี้ไปที่มีเล่มนั้นเพื่อผลักพลังไปปัดมันให้ตกลงบนพื้นอย่างง่ายดาย ส่งผลให้วิญญาณร้ายหันหน้ามาทางแม่มดสาวในทันทีด้วยความโกรธแค้น

 

 

“แกเป็นใคร?…เข้ามาขวางฉันทำไม?”

 

 

“อย่าทำแบบนั้นเลยมันจะส่งผลร้ายแก่ตัวคุณเองนะ” แม่มดสาวพยายามโน้มน้าว

 

 

“แต่มันฆ่าฉัน…มันฆ่าฉัน” วิญญาณร้ายกล่าวด้วยแรงอาฆาต

 

 

“คุณทำแบบนี้ไม่ได้ มันเป็นการละเมิดกฎสวรรค์…อันที่จริงคุณไม่ต้องกังวลอะไรเลย เพราะพวกเขาจะต้องชดใช้ผลกรรมของตัวเองอย่างแน่นอน!…”

 

 

“แล้วผมล่ะ…ผมทำดีมาทั้งชีวิตแต่ต้องมารับผลตอบแทนแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”

 

 

“นั่นเป็นกรรมดีที่คุณสะสมไว้…และครั้งนี้ถ้าคุณสามารถปล่อยวางได้ แน่นอนว่ามันจะเป็นผลดีต่อตัวคุณ”

 

 

ตอนนี้แม่มดสาวเริ่มร่ายเวทย์มนตร์เพื่อกระตุ้นจิตวิญญาณในด้านดีของผู้ชายคนนี้ให้เผยภาพความทรงจำที่เขาเคยประกอบกรรมดีมาตั้งแต่เกิด ส่งผลให้ร่างของเขาทรุดลงคุกเข่ากับพื้นและร้องไห้คร่ำครวญออกมา

 

 

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ แต่มันฆ่าผม”เขากล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปยังเหลียงจี้ด้วยน้ำตาที่ไหลรินด้วยความเศร้าเสียใจ

 

 

“วันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดอายุยี่สิบห้าปีของคุณใช่หรือเปล่า?” แม่มดสาวเอ่ยถาม

 

 

“ใช่! คุณรู้ได้ยังไง?”

 

 

“ฉันรู้ทุกอย่าง ถ้าฉันอยากรู้” แม่มดสาวเชิดคางขึ้นและกล่าวอีกว่า

 

 

“แม้วันนี้ผู้ชายคนนั้นไม่ฆ่าคุณ คุณก็ต้องตายอยู่ดี เพราะอายุขัยของคุณหมดแล้ว…ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในตอนนี้คือการปล่อยวางและจงจำไว้ว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรเพราะสิ่งนี้จะทำให้จิตวิญญาณของคุณเศร้าหมอง”

 

 

“ผมหมดอายุขัยแล้วจริง ๆ เหรอครับ?”

 

 

“จริงสิ! ฉันไม่ชอบพูดโกหก” แม่มดสาวกล่าวพร้อมกับใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางของมือขวาไขว้กันพร้อมกับซ่อนเอาไว้ที่ข้างหลังตนเอง ขณะที่เจ้าแมวมองด้วยอาการขมวดคิ้วแต่มันก็ไม่ได้กล่าวแทรกอะไรขึ้นมา

 

 

แม่มดสาวกล่าวขึ้นอีกว่า

 

 

“สำหรับสองคนนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง…คุณไม่ต้องกังวล”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+