แม่มดสาวมุ้งมิ้ง 32 แมวผี

Now you are reading แม่มดสาวมุ้งมิ้ง Chapter 32 แมวผี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม่มดสาวมุ่งมิ่ง ตอนที่ 32 แมวผี

 

ตอนที่ 32 แมวผี

 

หญิงสาวสังเกตเห็นว่าผู้ชายสองคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีความสุภาพ ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องแบบอะไรสักอย่างซึ่งเธอไม่รู้

 

“เธอคือฮันเปาเม่ยใช่หรือเปล่า?” ผู้ชายคนที่แม่มดสาวรู้สึกคุ้นเคยกล่าวขึ้น

 

พวกเขาเป็นสมาชิกขององค์กรจิตวิญญาณของเมืองนี้ โดยสมาชิกขององค์กรมีข้อมูลของฮันเปาเมียมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากซือฮานได้เห็นเธอปราบวิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในร่างของแมวดําในสวนสาธารณะ

 

โดยสมาชิกในองค์กรจิตวิญญาณเข้าใจว่า เด็กสาวคนนี้ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของนิกายลี้ลับซึ่งมีการฝึกฝนวิชาที่ชั่วร้าย ดังนั้นฮันเปาเม่ยจึงกลายเป็นจุดสนใจของสมาชิกในองค์กร

 

“ดูเหมือนฉันจะเคยเห็นหน้าคุณมาก่อน!” ฮันเปาเม่ยเอ่ยขึ้น

“เราเจอกันในสวนสาธารณะเมื่อเดือนที่แล้วไง! พวกเรามาจากทีมตรวจสอบขององค์กรจิตวิญญาณและมาเพื่อจับวิญญาณเด็กที่ชื่อเปาจื่อ”

 

” จับ? จับทําไม? ฮันเปาเม่ยเบิกตากว้างขึ้น

 

ผู้ชายอีกคนที่ชื่อตงเทียนซึ่งยืนอยู่ด้านข้างกล่าวแทรกขึ้นมาว่า

 

“เราปล่อยให้วิญญาณร้ายของเด็กคนนั้นไปทําร้ายคนอื่นตามใจชอบต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

“แน่ใจหรือว่าจะจัดการกับเขาได้?”

 

แม่มดสาวเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย ต่อมาหลังจากที่เธอทิ้งถุงหมาล่าลงในถังขยะที่อยู่ด้านข้างแล้ว แม่มดสาวได้หยิบตุ๊กตาเวทมนตร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่สวมอยู่ ออกมาแสดงให้พวกเขาดู

 

เมื่อซือฮานเห็นตุ๊กตาตัวนั้นใบหน้าของเขาก็ขาวซีดในทันที

 

“ตงเทียน! ระวังตัวด้วย!”

 

ตงเทียนรู้สึกตกใจกับคํากล่าวนั้น และเมื่อเขามองไปยังตุ๊กตาตรงหน้าก็พบว่าคิ้วของเจ้าตุ๊กตาขมวดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งมันยังส่งยิ้มกว้างให้กับเขาซึ่งมันทําให้ชายผู้นี้ถึงกับขนลุกซู่ในทันที

 

แม้จะรู้สึกหวาดกลัวแต่ตงเทียนก็ยังคงกัดฟันกล่าวว่า

 

“ผีเด็กตัวนี้ทําร้ายผู้คน…ทําให้เขาต้องฆ่าตัวตาย!”

 

” ทําร้ายใคร?” แม่มดสาวเอ่ยถาม

 

“ตันหลี่หมิง!” ตงเทียนตอบทันทีและกล่าวอีกว่า

 

“เขาเป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าแห่งหนึ่ง”

 

จากนั้นตงเทียนได้หยิบเครื่องรางออกมาจากกระเป๋า เสื้อของเขา และในทันใดวิญญาณของต้นหลี่หมิงก็ปรากฏ นต่อหน้าทุกคน

 

“ตายไปแล้วก็คือจบ! จะมาวุ่นวายกับคนอื่นทําไม?” แม่มดสาวกล่าวอย่างหงุดหงิด

 

ในเวลานี้วิญญาณของตันหลี่หมิงไม่มีอํานาจพุทธคุณคุ้มครองแล้ว อีกทั้งยังรู้ว่าฮันเปาเม่ยรู้จักวิธีขับไล่วิญญาณ ทําให้เขาต้องถอยไปหลบที่ด้านหลังของตงเทียนด้วยความตื่นตระหนก

 

“อาจารย์ครับช่วยจัดการผู้หญิงคนนี้ด้วย!”

 

“ไม่ต้องกลัว! ไม่มีใครทําอะไรคุณได้แน่นอน”

 

แม้ว่าตันหลี่หมิงจะทําบาปกรรมโดยการขายอวัยวะของเด็กกําพร้า แต่เขาก็ยังไม่หมดอายุขัย อีกทั้งเขายังเคยทําความดีที่เคยเลี้ยงดูเด็กกําพร้าที่ถูกทอดทิ้งมาแล้วหลายสิบคน

 

ดังนั้นเขาจึงไม่กลายร่างเป็นปีศาจร้ายหลังจากเสียชีวิต และตราบใดที่วิญญาณของเขาไม่ได้ทําร้ายใคร องค์กรทางจิตวิญญาณก็จะไม่เข้าไปกําจัดเขา

 

หลังจากได้ยินตงเทียนกล่าวเช่นนี้แล้ว ระดับความรู้สึกหวาดกลัวของตันหลีหมิงก็ลดลง

 

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขามันสมควรแล้ว!” แม่มดสาวตะคอกเสียงดังอีกครั้งว่า

 

“มันฆ่าตัวตายเองแล้วจะมาโทษคนอื่นได้อย่างไร?”

 

แม่มดสาวเหลือบมองผู้คนตรงหน้าและกล่าวอีกครั้งว่า

 

“อันที่จริงอาจจะเป็นเพราะช่วงหลายวันก่อนตาย เขาไม่ได้สวมใส่สร้อยข้อมือพุทธคุณ ดังนั้นวิญญาณที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาจึงมีโอกาสเข้ามาทําร้าย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมีจํานวนไม่ใช่น้อย แล้วจะมาโทษเปาจื่อคนเดียวได้ยัง

ไง?”

 

” ตงเทียน

 

“อยากตายซ้ําสองใช่ไหม?” แม่มดสาวคํารามด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

“ไม่…ไม่…” วิญญาณของต้นหลี่หมิงสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกตกใจโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เห็นรัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของแม่มดสาว

 

“ถ้ายังไม่อยากตายอีกครั้งก็รีบกลับไป ก่อนที่จะถูกตุ๊กตาตัวนี้ดูดวิญญาณ”

 

หลังจากสิ้นเสียงของฮันเปาเม่ย ตุ๊กตาเวทมนตร์ที่อยู่ในมือของแม่มดสาวก็หันศีรษะสามร้อยหกสิบองศาก่อนที่จะส่งเสียงดังออกมา

 

“ฮ่า ๆ ๆ …”

 

วิญญาณของเปาจื่อคิดเพียงว่า ตันหลี่หมิงผู้นี้ช่างน่าขยะแขยงเสียจริง เนื่องจากผู้ชายคนนี้เคยทําร้ายตนเองตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังจะตามมาทําร้ายเขาในตอนที่อยู่ในโลกวิญญาณอีก

 

“ฮันเปาเม่ย เธอต้องการที่จะทําอะไร?”

 

ตงเทียนก้าวเข้ามาข้างหน้าเพื่อที่จะบังวิญญาณของตันหลี่หมิงไว้พร้อมกับจ้องมองไปยังตุ๊กตาที่อยู่ในมือของเด็กสาวด้วยท่าทางระแวดระวัง

 

” ทําแบบนี้มันผิดกฎนะ!”

 

“ฉันไม่มีกฏและไม่เคยมีกฏ!” แม่มดสาวเยาะเย้ย จากนั้นเธอก็หันกลับไปกระซิบกับเจ้าตุ๊กตาเวทมนตร์ว่า

 

“คายวิญญาณของเปาจื่อออกมาก่อน!”

 

ตุ๊กตาเวทมนตร์หยุดหัวเราะ จากนั้นมันก็อ้าปากกว้างเพื่อที่จะคายวิญญาณออกมา จากนั้นดวงวิญญาณทรงกลมที่มีแสงสว่างก็กลายร่างเป็นวิญญาณของเปาจื่อ

“ไอ้เด็กผี!” ซือฮานร้องตะโกนขึ้น

 

ตงเทียนสามารถมองเห็นวิญญาณของเด็กชายเช่นเดียวกัน และเห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้าตุ๊กตาตัวนี้คายวิญญาณของเปาจื่อออกมา แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของเด็กน้อยจะมีพลังที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสัญญาณของความเสียหายใดๆ

 

และทันทีที่วิญญาณของเปาจื่อหลุดเป็นอิสระ เขาก็เห็นตันหลี่หมิงซึ่งกลายเป็นวิญญาณไปแล้วอยู่ไม่ไกลนัก ทันใดนั้นวิญญาณของผีเด็กจึงต้องการจะพุ่งตรงไปหาเขาโดยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น

 

” ตันหลี่หมิง กูจะฉีกมึงออกเป็นชิ้นๆ “ ผีเด็กข่มขู่

 

“ไอ้ผีร้ายแกกล้าลองดีหรือ?” ตงเทียนคํารามออกมา

 

ชั่วพริบตาเสียงหัวเราะที่น่ากลัวของเจ้าแมวจอมซ่าส์ก็ดังขึ้นจากระยะไกล แต่มันเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

“ฮ่าๆๆๆ.เมี้ยว..!”

 

โดยไม่ทันตั้งตัวเจ้าแม่สีขาวที่มีตาสองสีก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และมันใช้มือตะปบไปที่แผ่นกระดาษเครื่องรางสีเหลืองที่อยู่ในมือของชายหนุ่มเพื่อนํามาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

นี่มันอะไร?! แมวผีเหรอ?!

 

ตงเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ขณะที่เขาไม่แน่ใจว่าแมวตัวนี้เป็นแมวผีหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นสิ่งชั่วร้ายมันก็ไม่น่าจะสัมผัสยันต์ปราบวิญญาณของเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

 

” ตงเทียน! ระวังด้วย! มันไม่ใช่แมวธรรมดา! ซือฮานร้องตะโกนสุดเสียง

 

ซือฮานเคยพบกับฮันเปาเมียมาก่อนและทราบดีว่าเด็กสาวคนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษอย่างแน่นอน!

 

“เธอต้องการจะทําอะไร?” ตงเทียนเอ่ยถามอย่างระมัดระวังแม้เขาจะเคยเห็นจอมขมังเวทย์ในลัทธิต่างๆมาแล้วมากมาย แต่ไม่เคยเห็นใครฝึกฝนเวทมนตร์ที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แม่มดสาวมุ้งมิ้ง 32 แมวผี

Now you are reading แม่มดสาวมุ้งมิ้ง Chapter 32 แมวผี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม่มดสาวมุ่งมิ่ง ตอนที่ 32 แมวผี

 

ตอนที่ 32 แมวผี

 

หญิงสาวสังเกตเห็นว่าผู้ชายสองคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีความสุภาพ ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องแบบอะไรสักอย่างซึ่งเธอไม่รู้

 

“เธอคือฮันเปาเม่ยใช่หรือเปล่า?” ผู้ชายคนที่แม่มดสาวรู้สึกคุ้นเคยกล่าวขึ้น

 

พวกเขาเป็นสมาชิกขององค์กรจิตวิญญาณของเมืองนี้ โดยสมาชิกขององค์กรมีข้อมูลของฮันเปาเมียมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากซือฮานได้เห็นเธอปราบวิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในร่างของแมวดําในสวนสาธารณะ

 

โดยสมาชิกในองค์กรจิตวิญญาณเข้าใจว่า เด็กสาวคนนี้ดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของนิกายลี้ลับซึ่งมีการฝึกฝนวิชาที่ชั่วร้าย ดังนั้นฮันเปาเม่ยจึงกลายเป็นจุดสนใจของสมาชิกในองค์กร

 

“ดูเหมือนฉันจะเคยเห็นหน้าคุณมาก่อน!” ฮันเปาเม่ยเอ่ยขึ้น

“เราเจอกันในสวนสาธารณะเมื่อเดือนที่แล้วไง! พวกเรามาจากทีมตรวจสอบขององค์กรจิตวิญญาณและมาเพื่อจับวิญญาณเด็กที่ชื่อเปาจื่อ”

 

” จับ? จับทําไม? ฮันเปาเม่ยเบิกตากว้างขึ้น

 

ผู้ชายอีกคนที่ชื่อตงเทียนซึ่งยืนอยู่ด้านข้างกล่าวแทรกขึ้นมาว่า

 

“เราปล่อยให้วิญญาณร้ายของเด็กคนนั้นไปทําร้ายคนอื่นตามใจชอบต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

“แน่ใจหรือว่าจะจัดการกับเขาได้?”

 

แม่มดสาวเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย ต่อมาหลังจากที่เธอทิ้งถุงหมาล่าลงในถังขยะที่อยู่ด้านข้างแล้ว แม่มดสาวได้หยิบตุ๊กตาเวทมนตร์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่สวมอยู่ ออกมาแสดงให้พวกเขาดู

 

เมื่อซือฮานเห็นตุ๊กตาตัวนั้นใบหน้าของเขาก็ขาวซีดในทันที

 

“ตงเทียน! ระวังตัวด้วย!”

 

ตงเทียนรู้สึกตกใจกับคํากล่าวนั้น และเมื่อเขามองไปยังตุ๊กตาตรงหน้าก็พบว่าคิ้วของเจ้าตุ๊กตาขมวดขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งมันยังส่งยิ้มกว้างให้กับเขาซึ่งมันทําให้ชายผู้นี้ถึงกับขนลุกซู่ในทันที

 

แม้จะรู้สึกหวาดกลัวแต่ตงเทียนก็ยังคงกัดฟันกล่าวว่า

 

“ผีเด็กตัวนี้ทําร้ายผู้คน…ทําให้เขาต้องฆ่าตัวตาย!”

 

” ทําร้ายใคร?” แม่มดสาวเอ่ยถาม

 

“ตันหลี่หมิง!” ตงเทียนตอบทันทีและกล่าวอีกว่า

 

“เขาเป็นเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าแห่งหนึ่ง”

 

จากนั้นตงเทียนได้หยิบเครื่องรางออกมาจากกระเป๋า เสื้อของเขา และในทันใดวิญญาณของต้นหลี่หมิงก็ปรากฏ นต่อหน้าทุกคน

 

“ตายไปแล้วก็คือจบ! จะมาวุ่นวายกับคนอื่นทําไม?” แม่มดสาวกล่าวอย่างหงุดหงิด

 

ในเวลานี้วิญญาณของตันหลี่หมิงไม่มีอํานาจพุทธคุณคุ้มครองแล้ว อีกทั้งยังรู้ว่าฮันเปาเม่ยรู้จักวิธีขับไล่วิญญาณ ทําให้เขาต้องถอยไปหลบที่ด้านหลังของตงเทียนด้วยความตื่นตระหนก

 

“อาจารย์ครับช่วยจัดการผู้หญิงคนนี้ด้วย!”

 

“ไม่ต้องกลัว! ไม่มีใครทําอะไรคุณได้แน่นอน”

 

แม้ว่าตันหลี่หมิงจะทําบาปกรรมโดยการขายอวัยวะของเด็กกําพร้า แต่เขาก็ยังไม่หมดอายุขัย อีกทั้งเขายังเคยทําความดีที่เคยเลี้ยงดูเด็กกําพร้าที่ถูกทอดทิ้งมาแล้วหลายสิบคน

 

ดังนั้นเขาจึงไม่กลายร่างเป็นปีศาจร้ายหลังจากเสียชีวิต และตราบใดที่วิญญาณของเขาไม่ได้ทําร้ายใคร องค์กรทางจิตวิญญาณก็จะไม่เข้าไปกําจัดเขา

 

หลังจากได้ยินตงเทียนกล่าวเช่นนี้แล้ว ระดับความรู้สึกหวาดกลัวของตันหลีหมิงก็ลดลง

 

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขามันสมควรแล้ว!” แม่มดสาวตะคอกเสียงดังอีกครั้งว่า

 

“มันฆ่าตัวตายเองแล้วจะมาโทษคนอื่นได้อย่างไร?”

 

แม่มดสาวเหลือบมองผู้คนตรงหน้าและกล่าวอีกครั้งว่า

 

“อันที่จริงอาจจะเป็นเพราะช่วงหลายวันก่อนตาย เขาไม่ได้สวมใส่สร้อยข้อมือพุทธคุณ ดังนั้นวิญญาณที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเขาจึงมีโอกาสเข้ามาทําร้าย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องมีจํานวนไม่ใช่น้อย แล้วจะมาโทษเปาจื่อคนเดียวได้ยัง

ไง?”

 

” ตงเทียน

 

“อยากตายซ้ําสองใช่ไหม?” แม่มดสาวคํารามด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

“ไม่…ไม่…” วิญญาณของต้นหลี่หมิงสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกตกใจโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่เห็นรัศมีที่เปล่งประกายออกมาจากร่างของแม่มดสาว

 

“ถ้ายังไม่อยากตายอีกครั้งก็รีบกลับไป ก่อนที่จะถูกตุ๊กตาตัวนี้ดูดวิญญาณ”

 

หลังจากสิ้นเสียงของฮันเปาเม่ย ตุ๊กตาเวทมนตร์ที่อยู่ในมือของแม่มดสาวก็หันศีรษะสามร้อยหกสิบองศาก่อนที่จะส่งเสียงดังออกมา

 

“ฮ่า ๆ ๆ …”

 

วิญญาณของเปาจื่อคิดเพียงว่า ตันหลี่หมิงผู้นี้ช่างน่าขยะแขยงเสียจริง เนื่องจากผู้ชายคนนี้เคยทําร้ายตนเองตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังจะตามมาทําร้ายเขาในตอนที่อยู่ในโลกวิญญาณอีก

 

“ฮันเปาเม่ย เธอต้องการที่จะทําอะไร?”

 

ตงเทียนก้าวเข้ามาข้างหน้าเพื่อที่จะบังวิญญาณของตันหลี่หมิงไว้พร้อมกับจ้องมองไปยังตุ๊กตาที่อยู่ในมือของเด็กสาวด้วยท่าทางระแวดระวัง

 

” ทําแบบนี้มันผิดกฎนะ!”

 

“ฉันไม่มีกฏและไม่เคยมีกฏ!” แม่มดสาวเยาะเย้ย จากนั้นเธอก็หันกลับไปกระซิบกับเจ้าตุ๊กตาเวทมนตร์ว่า

 

“คายวิญญาณของเปาจื่อออกมาก่อน!”

 

ตุ๊กตาเวทมนตร์หยุดหัวเราะ จากนั้นมันก็อ้าปากกว้างเพื่อที่จะคายวิญญาณออกมา จากนั้นดวงวิญญาณทรงกลมที่มีแสงสว่างก็กลายร่างเป็นวิญญาณของเปาจื่อ

“ไอ้เด็กผี!” ซือฮานร้องตะโกนขึ้น

 

ตงเทียนสามารถมองเห็นวิญญาณของเด็กชายเช่นเดียวกัน และเห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้าตุ๊กตาตัวนี้คายวิญญาณของเปาจื่อออกมา แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของเด็กน้อยจะมีพลังที่แข็งแกร่งโดยไม่มีสัญญาณของความเสียหายใดๆ

 

และทันทีที่วิญญาณของเปาจื่อหลุดเป็นอิสระ เขาก็เห็นตันหลี่หมิงซึ่งกลายเป็นวิญญาณไปแล้วอยู่ไม่ไกลนัก ทันใดนั้นวิญญาณของผีเด็กจึงต้องการจะพุ่งตรงไปหาเขาโดยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรทั้งสิ้น

 

” ตันหลี่หมิง กูจะฉีกมึงออกเป็นชิ้นๆ “ ผีเด็กข่มขู่

 

“ไอ้ผีร้ายแกกล้าลองดีหรือ?” ตงเทียนคํารามออกมา

 

ชั่วพริบตาเสียงหัวเราะที่น่ากลัวของเจ้าแมวจอมซ่าส์ก็ดังขึ้นจากระยะไกล แต่มันเคลื่อนตัวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

 

“ฮ่าๆๆๆ.เมี้ยว..!”

 

โดยไม่ทันตั้งตัวเจ้าแม่สีขาวที่มีตาสองสีก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว และมันใช้มือตะปบไปที่แผ่นกระดาษเครื่องรางสีเหลืองที่อยู่ในมือของชายหนุ่มเพื่อนํามาฉีกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

นี่มันอะไร?! แมวผีเหรอ?!

 

ตงเทียนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ขณะที่เขาไม่แน่ใจว่าแมวตัวนี้เป็นแมวผีหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นสิ่งชั่วร้ายมันก็ไม่น่าจะสัมผัสยันต์ปราบวิญญาณของเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

 

” ตงเทียน! ระวังด้วย! มันไม่ใช่แมวธรรมดา! ซือฮานร้องตะโกนสุดเสียง

 

ซือฮานเคยพบกับฮันเปาเมียมาก่อนและทราบดีว่าเด็กสาวคนนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษอย่างแน่นอน!

 

“เธอต้องการจะทําอะไร?” ตงเทียนเอ่ยถามอย่างระมัดระวังแม้เขาจะเคยเห็นจอมขมังเวทย์ในลัทธิต่างๆมาแล้วมากมาย แต่ไม่เคยเห็นใครฝึกฝนเวทมนตร์ที่แปลกประหลาดแบบนี้มาก่อน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+