กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ 348 ฆ่าข้า หรือไม่เช่นนั้นก็ไปกับข้า! (3)

Now you are reading กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ Chapter 348 ฆ่าข้า หรือไม่เช่นนั้นก็ไปกับข้า! (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เขาต้องการจะสื่อว่านางปล่อยวางได้ง่ายเช่นนี้ เพราะไม่เคยรักด้วยใจจริงอย่างนั้นหรือ? หากไม่เคยรักเขาด้วยใจจริง แล้วจะไม่อาจเผชิญหน้ากับเขาเช่นนี้ได้อย่างไร? และในวันเวลาที่แยกจากกัน นางจะทุกข์ทรมานจนนอนไม่หลับทุกคืนได้อย่างไร?! หัวใจของซูหลีพลันเจ็บปวด นางรีบเบนสายตาหนีไปทางอื่น

“ข้าเคยคิดว่าข้าพบนางในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกัน นางยังไม่แต่งงาน ข้ายังไม่สู่ขอผู้ใด” ในห้องลับอันอับชื้นพลันถูกปกคลุมไปด้วยความเจ็บปวดในพริบตา สายตาเศร้าหมองของตงฟางเจ๋อจ้องนางตาไม่กะพริบ และพูดเรื่องในใจที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน

หัวใจของซูหลีสั่นสะท้านเล็กน้อย รอบกายไร้แสงสว่างสาดส่อง เค้าโครงอันเลือนรางของเขาที่ซ่อนอยู่ในเงามืดยิ่งดูลึกล้ำกว่าเดิม

เขากล่าวต่อ “แต่ข้ากลับไม่เคยรู้ว่ากว่าข้ากับนางจะได้พบกัน ก็สายไปมากเสียแล้ว”

โชคชะตาของพวกเขาบิดเบือนผิดพลาดไปแต่แรกแล้ว เดิมนึกว่าการพบกันบนภูเขาซูหมีเป็นการพบกันครั้งแรก แต่กลับคาดไม่ถึงว่าก่อนหน้านั้น เขากับนางเคยพบกันมาก่อนแล้ว! พวกเขาเคยพบกันก่อนงานแต่งงานเสียด้วยซ้ำ ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนโลกอันสับสนวุ่นวาย เขากับนางก็เหมือนเส้นทางอันเลี้ยวลดคดเคี้ยวสองสาย ใกล้ชิด ตัดผ่าน ทว่ากลับยิ่งไกลห่างกันออกไปเรื่อยๆ

ณ โรงเตี๊ยมริมแม่น้ำ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส นางยื่นมือช่วยเหลือ กลายเป็นค่ำคืนอันอบอุ่น และฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความรักเอาไว้ในใจเขา ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่านางได้รับพระราชทานงานอภิเษกสมรสจากเสด็จพ่อแล้ว และกำลังจะกลายเป็นว่าที่พระชายาของเสด็จพี่เขา ในวันแต่งงานของตงฟางจั๋ว เขามอบศิลาเลือดนกเพลิงเป็นของขวัญ มองดูนางถือศิลาเลือดนกเพลิงใต้แสงตะวันและเดินไปสู่ความตาย โดยไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่านางก็คือสตรีที่ช่วยชีวิตเขาและทำให้เขาใจเต้นในคืนนั้น!

เขาตามหานางมาโดยตลอด และคลาดกับนางมาโดยตลอดเช่นกัน กระทั่งเมื่อพบกันอีกครั้ง นางเหมือนนกเพลิงที่กระโจนเข้ากองไฟ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากความอัปยศ หัวใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้น หากการพบกันสองครั้งก่อนเป็นเขาที่ทำนางหลุดมือไป เช่นนั้นการพบกันครั้งที่สาม ก็คือความผิดพลาด การรักกันยิ่งเป็นความผิดพลาดบนความผิดพลาด นับตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

“ท่าน เสียใจภายหลังงั้นหรือ?” นางได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของตนเองดังขึ้น นางถามคำถามนี้ออกไปโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง ครั้นวาจานี้หลุดจากปาก ซูหลีพลันสะดุ้ง รีบเก็บซ่อนอารมณ์ด้วยการหันหลัง

ถึงแม้สวมหน้ากากไว้ แต่นางมักรู้สึกว่าทุกการกระทำของนางมิอาจหลุดรอดสายตาอันคมปลาบของเขาไปได้ ยังจำตอนที่ตัดขาดกับเขาที่ริมแม่น้ำหลานชางได้ ถึงแม้นางจะแค้นเขาถึงเพียงนั้น แต่กลับไม่เคยเสียใจที่รักเขาเลยสักนิด! ยามนี้เขากลับเสียใจงั้นหรือ?

“ไม่! ข้าไม่เคยเสียใจสักนิด” เสียงของเขาดังมาจากข้างหลัง น้ำเสียงที่หนักแน่นไร้ความลังเลของเขาทำให้หัวใจของนางสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม

แผ่นหลังอันบอบบาง ยังคงเป็นเหมือนเช่นในความทรงจำ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเคยฝันเห็นนางมากี่ครั้งแล้ว และกี่ครั้งแล้วที่ต้องตื่นมาท่ามกลางความสิ้นหวัง? ยามนี้คนที่เขาคำนึงหาอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ตนเองคว้านางเข้ามากอดไว้

“หากเราไม่ได้พบกันในครั้งนั้น และข้าไม่ค้นพบปิ่นปักผมที่เคลือบยาลับของเฉินเหมิน ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็คงไม่เกิดเรื่องหลังจากนั้นตามมา” เขาสูดหายใจลึกๆ “ข้าไม่มีวันลืม ไม่มีวันลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับนาง! ภายนอกนางดูแข็งแกร่ง เย็นชา แต่ลึกๆ นางเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก เพียงแต่ข้านึกไม่ถึงว่าคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกเช่นนาง ยามหมดรักกลับตัดเยื่อใยได้อย่างโหดร้ายเช่นนั้น นาง ถึงขั้นกระโดดแม่น้ำหลานชางเพื่อทิ้งข้าไปอย่างไม่ลังเล!”

ชั่วขณะหนึ่ง ภาพท้องฟ้าแปรปรวน และเหตุการณ์อันน่าตกใจพลันปรากฏชัดเจนอีกครั้ง

ลำคอของซูหลีแห้งผาก นางอดไม่ได้ที่จะหลับตาแน่นๆ

จากเคลือบแคลงสงสัย จนถึงรักใคร่ทะนุถนอม ความรักฝ่าอุปสรรคขวากหนาม ทว่ากลับมิอาจผ่านหุบเหวลึกที่โชคชะตากำหนดไว้ให้พวกเขาตั้งแต่แรกไปได้! นางอาจหมุนกายเดินจากไป และลืมเลือนทุกอย่างจนหมดสิ้น แต่เขากลับไม่อาจทำเช่นนั้นได้! นางเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา เขาจะลืมได้อย่างไร? แม้ต้องแลกด้วยทุกอย่าง ฟ้าถล่มดินทลายแผ่นดินกลับตาลปัตร เขาก็จะไม่มีวันปล่อยมือ!

“นับตั้งแต่วันนั้น ข้าถึงได้รู้ว่ารสชาติของการสูญเสียคนที่รักที่สุดไป เป็นรสชาติ…ที่ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย!” เสียงของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง เหมือนเป็นเสียงที่เค้นออกมาจากส่วนลึกของหัวใจอย่างไรอย่างนั้น

หัวใจของซูหลีเจ็บปวดอย่างรุนแรง เหมือนมีบางสิ่งกรีดเฉือนออกมาจากส่วนลึกในหัวใจทีละชั้นๆ เส้นชีพจรทั่วร่างกายราวกับหดเกร็งไปทั้งหมด ความเจ็บปวดอันแปลกประหลาดแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ใบหน้านางพลันเปลี่ยนสี ร่างกายโงนเงนเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุม

“เจ้าเป็นอะไรไป?” ตงฟางเจ๋อสังเกตเห็นอาการผิดปกติของนางอย่างรวดเร็ว รีบลุกขึ้นไปประคองนาง สีหน้าแสดงออกถึงความกังวลไม่แพ้น้ำเสียง ร่างกายอันผ่ายผอมบอบบางดั่งกิ่งหลิว ในความอ้อนแอ้นกลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวเหนือคนธรรมดา ความคุ้นเคยในความทรงจำพรั่งพรูกลับมา หัวใจของเขาขมปร่าขึ้นมาทันที

นางหมายจะขัดขืนตามสัญชาตญาณ ความเจ็บปวดมหาศาลกลับจู่โจมเข้ามาทันที ทำได้เพียงล้มลงไปอย่างอ่อนแรง เขาอุ้มนางขึ้นด้วยความร้อนใจ

แผงอกของเขายังคงกำยำและอบอุ่น ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม นางถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นอายของเขา ความทรงจำอันอ่อนโยนหวนกลับมาอย่างไม่อาจควบคุม นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความเจ็บปวดในหัวใจยิ่งรุนแรงขึ้นทุกชั่วขณะ แทบไม่อาจต้านทาน

ยาไร้รักเป็นอย่างที่พวกเขาพูดจริงๆ เมื่อใดที่กินมันลงไป ก็ห้ามมีความรักอีกเด็ดขาด มิเช่นนั้นยิ่งมีความรักลึกซึ้ง หัวใจก็จะยิ่งเจ็บปวด หากไม่อาจจัดการให้ทันเวลา สุดท้ายจะเจ็บปวดเหมือนมีธนูนับหมื่นแทงทะลุหัวใจ เส้นชีพจรขาดทั่วร่าง!

เหงื่อเย็นอาบท่วมกายซูหลี นางรู้สึกเพียงเส้นชีพจรที่ข้อมือกระตุกสั่นอย่างต่อเนื่อง นางซัดฝ่ามือใส่เขาทันทีอย่างไม่ลังเล ตงฟางเจ๋อไม่หลบเลี่ยง แขนที่โอบอุ้มนางยังคงแข็งแกร่งไม่ยอมคลาย

เสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น ฝ่ามือของนางตวัดใส่ใบหน้าเขาเต็มๆ รอยนิ้วมือสีแดงพลันปรากฏทันที

ซูหลีเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก นางสูดหายใจติดกันหลายครั้ง ก่อนจะกล่าวเสียงสั่น “ท่าน…ปล่อยข้า!”

เขากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน รีบมองสำรวจนางทั่วร่างกาย แล้วกล่าวเสียงร้อนใจ “เจ้าไม่สบายตรงไหน?” ลมหายใจอุ่นร้อนอันคุ้นเคยเป่ารดต้นคอที่เป็นจุดไวต่อความรู้สึกของนาง ความทรงจำที่เคยใกล้ชิดกันนับครั้งไม่ถ้วนพลันปรากฏในสมอง ชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ด้วยความร้อนใจ เขากลับนึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าเป็นฤทธิ์ของยาไร้รัก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าชีพจรของนางคงย้อนกลับ และเจ็บปวดจนตายไปทั้งอย่างนี้! ซูหลีกัดฟันแน่น เป็นเพราะนางประเมินความสามารถในการต้านทานเขาของตนเองสูงเกินไป! นางรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไป แล้วเซถอยไปหลายก้าว ยืนเอาหลังชิดกำแพงอันเย็นชืดและหอบหายใจหนักหน่วง ดาบสั้นในแขนเสื้อเลื่อนมาอยู่กลางฝ่ามืออย่างไร้ซุ่มเสียง นางยกดาบสั้นชี้หน้าเขา “ท่านไม่ได้ถูกผู้อาวุโสเสวียนจิ้งสะกดจุดลมปราณ! ท่านหลอกลวง! ท่านแสร้งโดนจับตัวเพื่อจุดประสงค์ใด?”

เหงื่อเย็นไหลเป็นสาย เรือนผมของนางเปียกชุ่ม ซูหลีอดกลั้นต่อความเจ็บปวดในร่างกาย สายตาคมปลาบดั่งมีด จ้องหน้าเขาอย่างเย็นชา

ดาบคมที่ชี้อยู่ตรงหน้าส่องประกายรัศมีอันเย็นเยียบ เขากลับไม่เหลียวแลมันแม้แต่น้อย เพียงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาจนน่าตกใจของนาง จู่ๆ ก็ค้นพบว่าพอนางออกจากอ้อมแขนเขา อาการของนางก็ดีขึ้นหลายส่วน สายตาเขาหมองลงเล็กน้อย ไม่ตอบกลับย้อนถาม “เมื่อครู่เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”

ซูหลีพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ไม่พูดอะไร

“ใช่ยาไร้รักหรือไม่? เจ้าไปจากที่นี่กับข้า ข้าจะหาทางแก้ไขเอง!”

เงาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดแผ่รัศมีกดดัน บีบคั้นหัวใจนางยิ่งนัก เขาเดินเข้ามาหานางทีละก้าวๆ ราวกับมองไม่เห็นอาวุธคร่าชีวิตในมือนาง

ซูหลีตึงเครียด จนถึงป่านนี้เขาก็ยังเอาแต่คิดจะพานางไปจากที่นี่งั้นหรือ? ครั้นเห็นว่าหากเขาก้าวเข้ามาอีกก้าว หน้าอกก็จะถูกปลายดาบแทง นางก็ขมวดคิ้ว พลิกข้อมือ เล็งไปยังแขนของเขาที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ แล้วใช้ด้ามดาบทุบเข้าไปเต็มแรง!

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ 348 ฆ่าข้า หรือไม่เช่นนั้นก็ไปกับข้า! (3)

Now you are reading กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ Chapter 348 ฆ่าข้า หรือไม่เช่นนั้นก็ไปกับข้า! (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เขาต้องการจะสื่อว่านางปล่อยวางได้ง่ายเช่นนี้ เพราะไม่เคยรักด้วยใจจริงอย่างนั้นหรือ? หากไม่เคยรักเขาด้วยใจจริง แล้วจะไม่อาจเผชิญหน้ากับเขาเช่นนี้ได้อย่างไร? และในวันเวลาที่แยกจากกัน นางจะทุกข์ทรมานจนนอนไม่หลับทุกคืนได้อย่างไร?! หัวใจของซูหลีพลันเจ็บปวด นางรีบเบนสายตาหนีไปทางอื่น

“ข้าเคยคิดว่าข้าพบนางในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีใจตรงกัน นางยังไม่แต่งงาน ข้ายังไม่สู่ขอผู้ใด” ในห้องลับอันอับชื้นพลันถูกปกคลุมไปด้วยความเจ็บปวดในพริบตา สายตาเศร้าหมองของตงฟางเจ๋อจ้องนางตาไม่กะพริบ และพูดเรื่องในใจที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน

หัวใจของซูหลีสั่นสะท้านเล็กน้อย รอบกายไร้แสงสว่างสาดส่อง เค้าโครงอันเลือนรางของเขาที่ซ่อนอยู่ในเงามืดยิ่งดูลึกล้ำกว่าเดิม

เขากล่าวต่อ “แต่ข้ากลับไม่เคยรู้ว่ากว่าข้ากับนางจะได้พบกัน ก็สายไปมากเสียแล้ว”

โชคชะตาของพวกเขาบิดเบือนผิดพลาดไปแต่แรกแล้ว เดิมนึกว่าการพบกันบนภูเขาซูหมีเป็นการพบกันครั้งแรก แต่กลับคาดไม่ถึงว่าก่อนหน้านั้น เขากับนางเคยพบกันมาก่อนแล้ว! พวกเขาเคยพบกันก่อนงานแต่งงานเสียด้วยซ้ำ ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บนโลกอันสับสนวุ่นวาย เขากับนางก็เหมือนเส้นทางอันเลี้ยวลดคดเคี้ยวสองสาย ใกล้ชิด ตัดผ่าน ทว่ากลับยิ่งไกลห่างกันออกไปเรื่อยๆ

ณ โรงเตี๊ยมริมแม่น้ำ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส นางยื่นมือช่วยเหลือ กลายเป็นค่ำคืนอันอบอุ่น และฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความรักเอาไว้ในใจเขา ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่านางได้รับพระราชทานงานอภิเษกสมรสจากเสด็จพ่อแล้ว และกำลังจะกลายเป็นว่าที่พระชายาของเสด็จพี่เขา ในวันแต่งงานของตงฟางจั๋ว เขามอบศิลาเลือดนกเพลิงเป็นของขวัญ มองดูนางถือศิลาเลือดนกเพลิงใต้แสงตะวันและเดินไปสู่ความตาย โดยไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่านางก็คือสตรีที่ช่วยชีวิตเขาและทำให้เขาใจเต้นในคืนนั้น!

เขาตามหานางมาโดยตลอด และคลาดกับนางมาโดยตลอดเช่นกัน กระทั่งเมื่อพบกันอีกครั้ง นางเหมือนนกเพลิงที่กระโจนเข้ากองไฟ ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากความอัปยศ หัวใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้น หากการพบกันสองครั้งก่อนเป็นเขาที่ทำนางหลุดมือไป เช่นนั้นการพบกันครั้งที่สาม ก็คือความผิดพลาด การรักกันยิ่งเป็นความผิดพลาดบนความผิดพลาด นับตั้งแต่แรก ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

“ท่าน เสียใจภายหลังงั้นหรือ?” นางได้ยินเสียงอันแผ่วเบาของตนเองดังขึ้น นางถามคำถามนี้ออกไปโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง ครั้นวาจานี้หลุดจากปาก ซูหลีพลันสะดุ้ง รีบเก็บซ่อนอารมณ์ด้วยการหันหลัง

ถึงแม้สวมหน้ากากไว้ แต่นางมักรู้สึกว่าทุกการกระทำของนางมิอาจหลุดรอดสายตาอันคมปลาบของเขาไปได้ ยังจำตอนที่ตัดขาดกับเขาที่ริมแม่น้ำหลานชางได้ ถึงแม้นางจะแค้นเขาถึงเพียงนั้น แต่กลับไม่เคยเสียใจที่รักเขาเลยสักนิด! ยามนี้เขากลับเสียใจงั้นหรือ?

“ไม่! ข้าไม่เคยเสียใจสักนิด” เสียงของเขาดังมาจากข้างหลัง น้ำเสียงที่หนักแน่นไร้ความลังเลของเขาทำให้หัวใจของนางสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม

แผ่นหลังอันบอบบาง ยังคงเป็นเหมือนเช่นในความทรงจำ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเคยฝันเห็นนางมากี่ครั้งแล้ว และกี่ครั้งแล้วที่ต้องตื่นมาท่ามกลางความสิ้นหวัง? ยามนี้คนที่เขาคำนึงหาอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ตนเองคว้านางเข้ามากอดไว้

“หากเราไม่ได้พบกันในครั้งนั้น และข้าไม่ค้นพบปิ่นปักผมที่เคลือบยาลับของเฉินเหมิน ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ก็คงไม่เกิดเรื่องหลังจากนั้นตามมา” เขาสูดหายใจลึกๆ “ข้าไม่มีวันลืม ไม่มีวันลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับนาง! ภายนอกนางดูแข็งแกร่ง เย็นชา แต่ลึกๆ นางเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก เพียงแต่ข้านึกไม่ถึงว่าคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกเช่นนาง ยามหมดรักกลับตัดเยื่อใยได้อย่างโหดร้ายเช่นนั้น นาง ถึงขั้นกระโดดแม่น้ำหลานชางเพื่อทิ้งข้าไปอย่างไม่ลังเล!”

ชั่วขณะหนึ่ง ภาพท้องฟ้าแปรปรวน และเหตุการณ์อันน่าตกใจพลันปรากฏชัดเจนอีกครั้ง

ลำคอของซูหลีแห้งผาก นางอดไม่ได้ที่จะหลับตาแน่นๆ

จากเคลือบแคลงสงสัย จนถึงรักใคร่ทะนุถนอม ความรักฝ่าอุปสรรคขวากหนาม ทว่ากลับมิอาจผ่านหุบเหวลึกที่โชคชะตากำหนดไว้ให้พวกเขาตั้งแต่แรกไปได้! นางอาจหมุนกายเดินจากไป และลืมเลือนทุกอย่างจนหมดสิ้น แต่เขากลับไม่อาจทำเช่นนั้นได้! นางเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขา เขาจะลืมได้อย่างไร? แม้ต้องแลกด้วยทุกอย่าง ฟ้าถล่มดินทลายแผ่นดินกลับตาลปัตร เขาก็จะไม่มีวันปล่อยมือ!

“นับตั้งแต่วันนั้น ข้าถึงได้รู้ว่ารสชาติของการสูญเสียคนที่รักที่สุดไป เป็นรสชาติ…ที่ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย!” เสียงของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง เหมือนเป็นเสียงที่เค้นออกมาจากส่วนลึกของหัวใจอย่างไรอย่างนั้น

หัวใจของซูหลีเจ็บปวดอย่างรุนแรง เหมือนมีบางสิ่งกรีดเฉือนออกมาจากส่วนลึกในหัวใจทีละชั้นๆ เส้นชีพจรทั่วร่างกายราวกับหดเกร็งไปทั้งหมด ความเจ็บปวดอันแปลกประหลาดแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ใบหน้านางพลันเปลี่ยนสี ร่างกายโงนเงนเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุม

“เจ้าเป็นอะไรไป?” ตงฟางเจ๋อสังเกตเห็นอาการผิดปกติของนางอย่างรวดเร็ว รีบลุกขึ้นไปประคองนาง สีหน้าแสดงออกถึงความกังวลไม่แพ้น้ำเสียง ร่างกายอันผ่ายผอมบอบบางดั่งกิ่งหลิว ในความอ้อนแอ้นกลับเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวเหนือคนธรรมดา ความคุ้นเคยในความทรงจำพรั่งพรูกลับมา หัวใจของเขาขมปร่าขึ้นมาทันที

นางหมายจะขัดขืนตามสัญชาตญาณ ความเจ็บปวดมหาศาลกลับจู่โจมเข้ามาทันที ทำได้เพียงล้มลงไปอย่างอ่อนแรง เขาอุ้มนางขึ้นด้วยความร้อนใจ

แผงอกของเขายังคงกำยำและอบอุ่น ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม นางถูกโอบล้อมด้วยกลิ่นอายของเขา ความทรงจำอันอ่อนโยนหวนกลับมาอย่างไม่อาจควบคุม นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว ความเจ็บปวดในหัวใจยิ่งรุนแรงขึ้นทุกชั่วขณะ แทบไม่อาจต้านทาน

ยาไร้รักเป็นอย่างที่พวกเขาพูดจริงๆ เมื่อใดที่กินมันลงไป ก็ห้ามมีความรักอีกเด็ดขาด มิเช่นนั้นยิ่งมีความรักลึกซึ้ง หัวใจก็จะยิ่งเจ็บปวด หากไม่อาจจัดการให้ทันเวลา สุดท้ายจะเจ็บปวดเหมือนมีธนูนับหมื่นแทงทะลุหัวใจ เส้นชีพจรขาดทั่วร่าง!

เหงื่อเย็นอาบท่วมกายซูหลี นางรู้สึกเพียงเส้นชีพจรที่ข้อมือกระตุกสั่นอย่างต่อเนื่อง นางซัดฝ่ามือใส่เขาทันทีอย่างไม่ลังเล ตงฟางเจ๋อไม่หลบเลี่ยง แขนที่โอบอุ้มนางยังคงแข็งแกร่งไม่ยอมคลาย

เสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้น ฝ่ามือของนางตวัดใส่ใบหน้าเขาเต็มๆ รอยนิ้วมือสีแดงพลันปรากฏทันที

ซูหลีเจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก นางสูดหายใจติดกันหลายครั้ง ก่อนจะกล่าวเสียงสั่น “ท่าน…ปล่อยข้า!”

เขากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน รีบมองสำรวจนางทั่วร่างกาย แล้วกล่าวเสียงร้อนใจ “เจ้าไม่สบายตรงไหน?” ลมหายใจอุ่นร้อนอันคุ้นเคยเป่ารดต้นคอที่เป็นจุดไวต่อความรู้สึกของนาง ความทรงจำที่เคยใกล้ชิดกันนับครั้งไม่ถ้วนพลันปรากฏในสมอง ชัดเจนเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ด้วยความร้อนใจ เขากลับนึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าเป็นฤทธิ์ของยาไร้รัก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าชีพจรของนางคงย้อนกลับ และเจ็บปวดจนตายไปทั้งอย่างนี้! ซูหลีกัดฟันแน่น เป็นเพราะนางประเมินความสามารถในการต้านทานเขาของตนเองสูงเกินไป! นางรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกไป แล้วเซถอยไปหลายก้าว ยืนเอาหลังชิดกำแพงอันเย็นชืดและหอบหายใจหนักหน่วง ดาบสั้นในแขนเสื้อเลื่อนมาอยู่กลางฝ่ามืออย่างไร้ซุ่มเสียง นางยกดาบสั้นชี้หน้าเขา “ท่านไม่ได้ถูกผู้อาวุโสเสวียนจิ้งสะกดจุดลมปราณ! ท่านหลอกลวง! ท่านแสร้งโดนจับตัวเพื่อจุดประสงค์ใด?”

เหงื่อเย็นไหลเป็นสาย เรือนผมของนางเปียกชุ่ม ซูหลีอดกลั้นต่อความเจ็บปวดในร่างกาย สายตาคมปลาบดั่งมีด จ้องหน้าเขาอย่างเย็นชา

ดาบคมที่ชี้อยู่ตรงหน้าส่องประกายรัศมีอันเย็นเยียบ เขากลับไม่เหลียวแลมันแม้แต่น้อย เพียงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่เย็นชาจนน่าตกใจของนาง จู่ๆ ก็ค้นพบว่าพอนางออกจากอ้อมแขนเขา อาการของนางก็ดีขึ้นหลายส่วน สายตาเขาหมองลงเล็กน้อย ไม่ตอบกลับย้อนถาม “เมื่อครู่เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”

ซูหลีพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ไม่พูดอะไร

“ใช่ยาไร้รักหรือไม่? เจ้าไปจากที่นี่กับข้า ข้าจะหาทางแก้ไขเอง!”

เงาร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดแผ่รัศมีกดดัน บีบคั้นหัวใจนางยิ่งนัก เขาเดินเข้ามาหานางทีละก้าวๆ ราวกับมองไม่เห็นอาวุธคร่าชีวิตในมือนาง

ซูหลีตึงเครียด จนถึงป่านนี้เขาก็ยังเอาแต่คิดจะพานางไปจากที่นี่งั้นหรือ? ครั้นเห็นว่าหากเขาก้าวเข้ามาอีกก้าว หน้าอกก็จะถูกปลายดาบแทง นางก็ขมวดคิ้ว พลิกข้อมือ เล็งไปยังแขนของเขาที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ แล้วใช้ด้ามดาบทุบเข้าไปเต็มแรง!

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+