ทาสรักทาสหัวใจ 2 ซะตาไม่เป็นใจ

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 2 ซะตาไม่เป็นใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งภายในห้องทำงานประธานบริษัท ทรงสิทธิ์ชายสูงวัยร่างท้วมกำลังก้มหน้าพลิกเปิดเอกสารการเงินของบริษัทที่ถูกสรุปออกมาอย่างสุดความสามารถของหญิงสาวร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายสูงวัยด้วยสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก

มุก ดารากานต์ วาสนาดี วัยยี่สิบห้าปีฝ่ายบัญชีที่เพิ่งจะทำงานครบสามเดือนแอบกังวลใจเล็กน้อยกับท่าทางที่อ่านไม่ออกของเจ้านายตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่เธอมั่นใจว่าตนเองไม่พลาดเรื่องตัวเลขแน่ๆ เพราะเธอได้ตรวจทานหลายครั้งแล้วก่อนที่จะนำมาให้ประธานสูงวัยตรงหน้าตรวจตราตามคำสั่ง

“ฉันว่าตัวเลขนี่ มันผิดปกตินะ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“ตรงไหนคะ” มุกขมวดคิ้วเข้าหากัน

“เข้ามาดูใกล้ๆ ข้างฉันสิ อยู่ตรงนั่นมันจะไปเห็นอะไร”

“ค่ะ” มุกรับคำพร้อมกับเดินเข้าไปหยุดยืนข้างๆ เก้าอี้ชายสูงวัยแล้วก้มลงมองตัวเลขในเอกสารทันที

“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” ทรงสิทธิ์เอ่ยพลางยิ้มมุมปาก

“ฉันเห็นแล้วค่ะ แต่ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดนะคะ ว้าย! “ ร่างบางร้องเสียงหลงด้วยความสะดุ้งตกใจ เมื่ออยู่ๆ ถูกชายแก่สูงวัยคว้าเอวเธอไปนั่งลงบนตักด้วยความรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว

“ทั้งหอม ทั้งนุ่มเลย…ฟุด!” ชายแก่สูดดมกลิ่นกายสาวที่หมายปองเข้าไปเต็มปอดอย่างหื่นกระหาย

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!” มุกพยายามดิ้นขัดขืนให้หลุดพ้นจากการคุกคาม

“ยอมเป็นเมียฉันเถอะนะ รู้ไหมฉันรอเวลานี้มานานแล้ว หึ” ท่อนแขนแกร่งกอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ไม่! คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง แล้วฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”

“เป็นเมียฉันไม่ดีตรงไหนเหรอ อยากได้อะไรฉันให้ได้หมดทุกอย่าง ขอแค่เธอเอ่ยปากฉันจะจัดการให้เธอทุกอย่าง แค่ยอมเป็นเมียฉันอย่างเต็มใจก็พอ”

“ฉันไม่ต้องการ แค่มีงานมีเงินเดือนแค่นี้ฉันก็พอใจแล้วค่ะ คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” มุกพยายามควบคุมสติคุยกับชายสูงวัยที่กำลังหน้ามืดลวนลามเธออยู่

“แต่ฉันอยากได้เธอเป็นเมียอีกคน” มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามต้นขาอ่อนพร้อมกับใช้ริมฝีปากหนาจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน

มุกหลับตาลงด้วยร่างกายที่สั่นเทารวบรวมสติและแรงทั้งหมดที่มี ลุกขึ้นผลักทรงสิทธิ์แรงๆ จนล้มลงหงายหลังลงไปกองกับพื้นทั้งเก้าอี้พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะขว้างปาใส่หน้าชายแก่ตัณหากลับแล้วถอยออกไปยืนมองดูด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“เธอกล้าดียังไง มาทำร้ายฉัน!” ทรงสิทธิ์โกรธเลือดขึ้นหน้ามองหน้ามุกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“ก็คุณลวนลามฉันก่อน ฉันก็ต้องป้องกันตัวสิ”

“ผู้หญิงอะไรวะ แปลกประหลาดสิ้นดี เงินมากองอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่คว้าเอาไว้ เธออยากจะลำบากไปจนตายหรือไง”

“ฉันมีศักดิ์ศรีพอค่ะ ไม่จำเป็นที่จะต้องขอเงินใคร โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัวแล้วอย่างคุณ”

“ได้ งั้นฉันไล่เธอออก! จะได้ไปอยู่กับศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้ของเธอซะ!”

“ถึงคุณไม่ไล่ฉันออก ฉันก็จะลาออกอยู่ดี ใครเจอเจ้านายอย่างคุณไม่มีใครอยากจะอยู่ทำงานให้คุณต่อหรอก”

มุกหมุนตัวพาตนเองรีบเดินออกไปจากห้องตรงไปเก็บข้าวของใส่กระเป๋าสะพายทั้งน้ำตาคลอเบ้า เพื่อนร่วมงานต่างก็เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่อยู่ๆ ทรงสิทธิ์ที่อารมณ์กำลังเดือดดาลก็เดินมาหยุดทางด้านหลังเพื่อนๆ ของเธอพร้อมกับจ้องหน้าเธอเขม้น

“มายืนมุงดูอะไรกัน อยากจะโดนไล่ออกกันหมดหรือไง!”

เพียงได้ยินเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยอำนาจและอารมณ์ขุ่นมัวพนักงานทุกคนก็ต่างรีบพากันถอยห่างออกไปจากบริเวณโต๊ะทำงานของมุกทันที

“ทันทีที่เธอก้าวขาออกไปจากที่นี้แล้ว อย่าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใครเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันเอาเธอตายแน่” ทรงสิทธิ์ข่มขู่เสียงเข้ม

“ค่ะ” มุกรับคำหนักแน่น

“ดี เก็บของเสร็จแล้ว ก็รีบๆ ไสหัวออกไปซะ!”

ทรงสิทธิ์เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานด้วยอาการหัวเสียเขาคาดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวที่เขาหมายปองจะหัวแข็งหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขนาดนี้ ถึงขนาดกล้าปฏิเสธและทำร้ายร่างกายของเขาโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย ในเมื่อเธอกล้าแข็งข้อไม่ยอมโอนอ่อนตามสิ่งที่เขาต้องการมันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เธอได้รับ

มุกเดินพาร่างกายที่อ่อนแอตรงไปยังป้ายรถเมล์ทั้งน้ำตา ภาพและสัมผัสหยาบโลนจากชายแก่คราวพ่อยังคงติดตาเธออยู่ด้วยความหวาดหวั่นที่พยายามเก็บเอาไว้ข้างใน แต่มันกลับเอ่อล้นออกมาเป็นหยดน้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง ความหวังที่จะได้ทำงานที่มั่นคงและก้าวหน้ามันได้พังทลายไปต่อหน้าต่อตา เธอผิดอะไรทำไมถึงได้เจอเรื่องแบบนี้มุกถามตัวเองในใจพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้งแล้วก้าวขาขึ้นไปบนรถเมล์

มุกนั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายจนเธอตัดสินใจลงตรงหน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมืองแทนที่จะกลับบ้านเช่าของตนเอง มุกเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ด้วยหัวใจที่อ่อนล้าพร้อมกับถอนหายใจแรงๆ จากนั้นก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เมื่อนึกได้ว่าเธอไม่มีเวลาท้อแท้เพราะเธอยังมีน้องชายอีกคนที่ต้องดูแลอีกคน

มือบางค่อยๆ เลื่อนหน้าจอมือถือช้าๆ เพื่อหางานตามตำแหน่งที่ต้องการผ่านหน้าเว็บไซด์หางานยอดนิยม มือบางกดส่งประวัติของตนเองสมัครทิ้งไว้ทันทีที่เจอบริษัทสองสามแห่งที่กำลังประกาศรับพนักงานบัญชีอย่างไม่ลังเลและมีความหวังว่าจะได้รับการติดต่อกลับมาในเร็ววัน

ถึงแม้โชคซะตาจะกลั่นแกล้งเธอสักแค่ไหนเธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด เธอจะจะต่อสู้กับมันให้ถึงที่สุดด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่ออนาคตที่ดีและสดใสของเธอกับน้องชายต่อไป

มุกใช้เวลานั่งอยู่ในสวนสาธารณะนานพอสมควร จากนั้นก็รีบตรงไปยังบ้านเช่าหลังเล็กที่อยู่ในซอยใจกลางเมือง จัดการทำมื้อเย็นรอน้องชายกลับมาจากโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน

“พี่มุก มิคกลับมาแล้วครับ” เด็กชายวัยสิบห้าปีเดินเข้ามาในบ้าน

“มาแล้วเหรอ ไปอาบน้ำเร็วจะได้มาทานข้าวกัน” มุกตะโกนออกมาจากในครัว  

“ครับ”

ทั้งสองคนพี่น้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เพราะท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสิบกว่าปีก่อน มุกกับมิคจึงได้รับอุปการะจากบ้านเด็กกำพร้าเลี้ยงดู จนมุกเรียนจบมหาวิทลัยเธอก็เริ่มทำงานเก็บเงินพอมีเงินเก็บพอสมควร เธอก็พาน้องชายออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าส่งเสียเลี้ยงดูตัวเองและน้องเอง แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะกลับไปเยี่ยมผู้มีพระคุณกับเธออยู่เสมอเมื่อมีโอกาส

“ทานเยอะๆ นะ พี่ทำสุดฝีมือเลยรู้ไหม” มุกตักอาหารใส่จานให้น้องชาย

“ครับ กับข้าวฝีมือพี่มุกอร่อยที่สุดในโลกเลย” มิคยิ้มมีความสุข

“แน่นอนอยู่แล้วจ้ะ ถ้าไม่อร่อยมิคก็อดจริงไหม” มุกพูดหยอกล้อน้องชาย

“พี่มุก ไม่ทางให้ผมอดหรอกครับ พี่รักมิคจะตาย”

“ครับ ไม่ให้พี่รักมิคแล้วจะให้พี่ไปรักใครล่ะ”มือบางยื่นไปลูบศีรษะน้องชายด้วยความเอ็นดู

“ผมก็รักพี่ครับ”

“พี่รู้ มิค พี่ลาออกจากที่ทำงานแล้วนะ ตอนนี้กำลังหางานที่ใหม่อยู่”

“อ้าว ทำไมล่ะครับ “

“พอดีที่ทำงานมีปัญหานิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะต้องได้งานเร็วๆ นี้แน่ๆ “

“ครับ”

ตกดึกภายในห้องนอนมุกยังคงจดจ้องอยู่ตรงหน้าจอโน๊ตบุคเพื่อหางานทำด้วยความมุ่งมั่น ระหว่างนั้นเธอก็หันไปมองน้องชายที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงใกล้ๆ เป็นระยะ ด้วยกลัวจะทำให้น้องชายตื่น ตลอดเวลาที่โตด้วยกันมาเธอมักจะเป็นห่วงน้องชายกว่าตนเองเสมอในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเธอจะไม่มีวันทิ้งน้องชายที่เปรียบเสมือนหัวใจดวงเดียวที่เต้นอยู่ไปอย่างเด็ดขาด

เช้าวันใหม่หลังจากที่มุกนั่งรถเมล์เป็นเพื่อนมิคไปส่งที่โรงเรียน เธอก็ตรงไปหาปรางรุ่นพี่ที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง โดยที่เธอโทรคุยกับมะปรางเมื่อคืนแล้ว

“มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ” ปรางสาวสวยหุ่นเซ็กส์ซี่เปิดประตูต้อนรับเธอเหมือนเช่นเคย

“มุกซื้อขนมมาฝากพี่ด้วยนะคะ” มุกพูดพลางวางถุงขนมลงบนโต๊ะพร้อมกับนั่งลงบนโซฟานุ่ม  

“ขอบใจจ้ะ เพิ่งไปส่งมิคไปโรงเรียนมาล่ะสิเรา” ปรางวางแก้วน้ำดื่มลงตรงหน้ามุกแล้วนั่งลงตรงข้าม

“ค่ะ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นอย่างหวัง คนเราสมัยนี้ดูกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ “  มุกตัดพ้อด้วยความผิดหวังกับอดีตเจ้านาย

“ตาแก่นั้นมันคงจะหน้ามืดแหละ มุกรอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว อย่าคิดมากเลย ถ้าหางานไม่ได้จริงๆ ผับของพี่รออยู่นะ อยากจะทำเมื่อไหร่ก็บอกได้ตลอดเลยนะ” ปรางยกยิ้มมุมปาก

“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ก็รู้ว่ามุกไม่ชอบงานแบบนั้น”

“พี่รู้ ลองทำดูสักหน่อยก็ไม่เห็นเสียหายอะไรเลย ขอแค่ให้บอกว่าอยากจะทำตำแหน่งอะไร พี่จะจัดการให้ตามที่ต้องการเลย เชื่อใจพี่ได้ ส่วนเงินเดือนพี่จะคิดให้เป็นพิเศษรับรองได้”

“ขอบคุณมากนะคะ” มุกส่งยิ้มให้ปราง

“จ้ะ พอดีพี่นัดแม็กซ์ที่ร้านกาแฟ มุกไปด้วยกันไหม” ปรางมองเวลาตรงหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

“พี่แม็กซ์กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอคะ”

“จ้ะ กลับมาได้หลายวันแล้วล่ะ แต่ติดงานที่บริษัทก็เลยไม่มีเวลาให้พี่เลยช่วงนี้”

“แต่งเลยไหมคะ จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน” มุกหยอกเย้าสาวรุ่นพี่

“แต่พี่สองคนคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นานมากแล้วนะคะ”

“จ้ะ ถ้าแต่งเมื่อไหร่จะบอกก็แล้วกัน ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวโดนดุ” ปรางหยิบกระเป๋าหรูแล้วเดินไปทางประตูห้องทันที

ภายในร้านกาแฟน่ารักๆ แห่งหนึ่งใจกลางเมืองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสมส่วนในชุดสูทกำลังนั่งจิบกาแฟร้อนรอแฟนสาวอย่างใจเย็นด้วยท่าทางสง่าสงบเคร่งครึมอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน ไม่นานปรางกับมุกก็มาถึงที่ร้าน

“รอนานไหมคะ พอดีมุกไปหาปรางที่คอนโด ปรางก็เลยพามาด้วยกันเลย”

“ครับ”

“สวัสดีค่ะ พี่แม็กซ์” มุกพนมมือไหว้รุ่นพี่

“ครับ นั่งลงก่อนสิ” แม็กซ์เอ่ยเสียงราบเรียบ

“ค่ะ”

“มุกเขากำลังหางานทำอยู่ ที่บริษัทพอจะมีตำแหน่งว่างไหมคะ”

“อ้าว! เหรอ น่าเสียดายจัง ช่วงนี้ตำแหน่งไม่ว่างเลย พี่ขอให้ได้งานเร็วๆ นะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“อยากทานอะไรก็สั่งได้ตามสบายเลยนะ พี่เป็นเจ้ามือเอง” แม็กซ์วางเมนูลงตรงหน้าหญิงสาวรุ่นน้อง

“ค่ะ” มุกยิ้มรับ

“คิดถึงจังเลย รู้ไหม” มือหนาโอบเอวปรางเอาไว้แน่นพร้อมกับส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้เธอ

“ปรางก็คิดถึงแม็กซ์ค่ะ” ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม

“ดื่มกาแฟเสร็จแล้ว จะไปไหนกันต่อดีคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”

“ปรางตามใจแม็กซ์ค่ะ”

“งั้นก็ไปคอนโดปรางกันนะ อยากจะชื่นใจจะแย่”

“แม็กซ์! พูดอะไร เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ มุกก็นั่งอยู่ด้วย” ปรางต่อว่าชายหนุ่มไม่จริงจังนัก

“ตามสบายเลยค่ะ มุกเข้าใจ” มุกส่งยิ้มให้คนทั้งคู่

“เห็นไหม ว่ามุกเขาเข้าใจเราสองคนเป็นอย่างดี” แม็กซ์ยื่นมือหนาไปบีบหยอกล้อแก้มนุ่มๆ ของปรางเล่นด้วยความมันเขี้ยว

เธอดีใจที่ปรางกับแม็กซ์ไม่เคยรังเกียจผู้หญิงฐานะต่ำต้อยอย่างเธอเลย ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีฐานะที่ร่ำรวยมากมายเพียงใด แต่กลับไม่เคยดูถูกเหยียดหยามในตัวเธอเลยสักครั้ง แต่กลับเมตตาเอ็นดูเธอมาโดยตลอดตั้งแต่ที่รู้จักกันมาจนมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งเธอซึ้งใจในคนทั้งสองมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทาสรักทาสหัวใจ 2 ซะตาไม่เป็นใจ

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 2 ซะตาไม่เป็นใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งภายในห้องทำงานประธานบริษัท ทรงสิทธิ์ชายสูงวัยร่างท้วมกำลังก้มหน้าพลิกเปิดเอกสารการเงินของบริษัทที่ถูกสรุปออกมาอย่างสุดความสามารถของหญิงสาวร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายสูงวัยด้วยสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก

มุก ดารากานต์ วาสนาดี วัยยี่สิบห้าปีฝ่ายบัญชีที่เพิ่งจะทำงานครบสามเดือนแอบกังวลใจเล็กน้อยกับท่าทางที่อ่านไม่ออกของเจ้านายตรงหน้า เธอไม่รู้ว่าเธอทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่เธอมั่นใจว่าตนเองไม่พลาดเรื่องตัวเลขแน่ๆ เพราะเธอได้ตรวจทานหลายครั้งแล้วก่อนที่จะนำมาให้ประธานสูงวัยตรงหน้าตรวจตราตามคำสั่ง

“ฉันว่าตัวเลขนี่ มันผิดปกตินะ” เสียงทุ้มแหบเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“ตรงไหนคะ” มุกขมวดคิ้วเข้าหากัน

“เข้ามาดูใกล้ๆ ข้างฉันสิ อยู่ตรงนั่นมันจะไปเห็นอะไร”

“ค่ะ” มุกรับคำพร้อมกับเดินเข้าไปหยุดยืนข้างๆ เก้าอี้ชายสูงวัยแล้วก้มลงมองตัวเลขในเอกสารทันที

“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” ทรงสิทธิ์เอ่ยพลางยิ้มมุมปาก

“ฉันเห็นแล้วค่ะ แต่ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดนะคะ ว้าย! “ ร่างบางร้องเสียงหลงด้วยความสะดุ้งตกใจ เมื่ออยู่ๆ ถูกชายแก่สูงวัยคว้าเอวเธอไปนั่งลงบนตักด้วยความรวดเร็วไม่ทันได้ตั้งตัว

“ทั้งหอม ทั้งนุ่มเลย…ฟุด!” ชายแก่สูดดมกลิ่นกายสาวที่หมายปองเข้าไปเต็มปอดอย่างหื่นกระหาย

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!” มุกพยายามดิ้นขัดขืนให้หลุดพ้นจากการคุกคาม

“ยอมเป็นเมียฉันเถอะนะ รู้ไหมฉันรอเวลานี้มานานแล้ว หึ” ท่อนแขนแกร่งกอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“ไม่! คุณปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอร้อง แล้วฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”

“เป็นเมียฉันไม่ดีตรงไหนเหรอ อยากได้อะไรฉันให้ได้หมดทุกอย่าง ขอแค่เธอเอ่ยปากฉันจะจัดการให้เธอทุกอย่าง แค่ยอมเป็นเมียฉันอย่างเต็มใจก็พอ”

“ฉันไม่ต้องการ แค่มีงานมีเงินเดือนแค่นี้ฉันก็พอใจแล้วค่ะ คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” มุกพยายามควบคุมสติคุยกับชายสูงวัยที่กำลังหน้ามืดลวนลามเธออยู่

“แต่ฉันอยากได้เธอเป็นเมียอีกคน” มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามต้นขาอ่อนพร้อมกับใช้ริมฝีปากหนาจูบไซ้ไปตามซอกคอขาวเนียน

มุกหลับตาลงด้วยร่างกายที่สั่นเทารวบรวมสติและแรงทั้งหมดที่มี ลุกขึ้นผลักทรงสิทธิ์แรงๆ จนล้มลงหงายหลังลงไปกองกับพื้นทั้งเก้าอี้พร้อมกับหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะขว้างปาใส่หน้าชายแก่ตัณหากลับแล้วถอยออกไปยืนมองดูด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“เธอกล้าดียังไง มาทำร้ายฉัน!” ทรงสิทธิ์โกรธเลือดขึ้นหน้ามองหน้ามุกเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“ก็คุณลวนลามฉันก่อน ฉันก็ต้องป้องกันตัวสิ”

“ผู้หญิงอะไรวะ แปลกประหลาดสิ้นดี เงินมากองอยู่ตรงหน้า แต่กลับไม่คว้าเอาไว้ เธออยากจะลำบากไปจนตายหรือไง”

“ฉันมีศักดิ์ศรีพอค่ะ ไม่จำเป็นที่จะต้องขอเงินใคร โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัวแล้วอย่างคุณ”

“ได้ งั้นฉันไล่เธอออก! จะได้ไปอยู่กับศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้ของเธอซะ!”

“ถึงคุณไม่ไล่ฉันออก ฉันก็จะลาออกอยู่ดี ใครเจอเจ้านายอย่างคุณไม่มีใครอยากจะอยู่ทำงานให้คุณต่อหรอก”

มุกหมุนตัวพาตนเองรีบเดินออกไปจากห้องตรงไปเก็บข้าวของใส่กระเป๋าสะพายทั้งน้ำตาคลอเบ้า เพื่อนร่วมงานต่างก็เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง แต่อยู่ๆ ทรงสิทธิ์ที่อารมณ์กำลังเดือดดาลก็เดินมาหยุดทางด้านหลังเพื่อนๆ ของเธอพร้อมกับจ้องหน้าเธอเขม้น

“มายืนมุงดูอะไรกัน อยากจะโดนไล่ออกกันหมดหรือไง!”

เพียงได้ยินเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยอำนาจและอารมณ์ขุ่นมัวพนักงานทุกคนก็ต่างรีบพากันถอยห่างออกไปจากบริเวณโต๊ะทำงานของมุกทันที

“ทันทีที่เธอก้าวขาออกไปจากที่นี้แล้ว อย่าเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใครเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันเอาเธอตายแน่” ทรงสิทธิ์ข่มขู่เสียงเข้ม

“ค่ะ” มุกรับคำหนักแน่น

“ดี เก็บของเสร็จแล้ว ก็รีบๆ ไสหัวออกไปซะ!”

ทรงสิทธิ์เดินกลับเข้าไปในห้องทำงานด้วยอาการหัวเสียเขาคาดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวที่เขาหมายปองจะหัวแข็งหยิ่งในศักดิ์ศรีถึงขนาดนี้ ถึงขนาดกล้าปฏิเสธและทำร้ายร่างกายของเขาโดยไม่เกรงกลัวอะไรเลย ในเมื่อเธอกล้าแข็งข้อไม่ยอมโอนอ่อนตามสิ่งที่เขาต้องการมันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เธอได้รับ

มุกเดินพาร่างกายที่อ่อนแอตรงไปยังป้ายรถเมล์ทั้งน้ำตา ภาพและสัมผัสหยาบโลนจากชายแก่คราวพ่อยังคงติดตาเธออยู่ด้วยความหวาดหวั่นที่พยายามเก็บเอาไว้ข้างใน แต่มันกลับเอ่อล้นออกมาเป็นหยดน้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง ความหวังที่จะได้ทำงานที่มั่นคงและก้าวหน้ามันได้พังทลายไปต่อหน้าต่อตา เธอผิดอะไรทำไมถึงได้เจอเรื่องแบบนี้มุกถามตัวเองในใจพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้งแล้วก้าวขาขึ้นไปบนรถเมล์

มุกนั่งรถเมล์ไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายจนเธอตัดสินใจลงตรงหน้าสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมืองแทนที่จะกลับบ้านเช่าของตนเอง มุกเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ด้วยหัวใจที่อ่อนล้าพร้อมกับถอนหายใจแรงๆ จากนั้นก็ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เมื่อนึกได้ว่าเธอไม่มีเวลาท้อแท้เพราะเธอยังมีน้องชายอีกคนที่ต้องดูแลอีกคน

มือบางค่อยๆ เลื่อนหน้าจอมือถือช้าๆ เพื่อหางานตามตำแหน่งที่ต้องการผ่านหน้าเว็บไซด์หางานยอดนิยม มือบางกดส่งประวัติของตนเองสมัครทิ้งไว้ทันทีที่เจอบริษัทสองสามแห่งที่กำลังประกาศรับพนักงานบัญชีอย่างไม่ลังเลและมีความหวังว่าจะได้รับการติดต่อกลับมาในเร็ววัน

ถึงแม้โชคซะตาจะกลั่นแกล้งเธอสักแค่ไหนเธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด เธอจะจะต่อสู้กับมันให้ถึงที่สุดด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่ออนาคตที่ดีและสดใสของเธอกับน้องชายต่อไป

มุกใช้เวลานั่งอยู่ในสวนสาธารณะนานพอสมควร จากนั้นก็รีบตรงไปยังบ้านเช่าหลังเล็กที่อยู่ในซอยใจกลางเมือง จัดการทำมื้อเย็นรอน้องชายกลับมาจากโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน

“พี่มุก มิคกลับมาแล้วครับ” เด็กชายวัยสิบห้าปีเดินเข้ามาในบ้าน

“มาแล้วเหรอ ไปอาบน้ำเร็วจะได้มาทานข้าวกัน” มุกตะโกนออกมาจากในครัว  

“ครับ”

ทั้งสองคนพี่น้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก เพราะท่านทั้งสองประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสิบกว่าปีก่อน มุกกับมิคจึงได้รับอุปการะจากบ้านเด็กกำพร้าเลี้ยงดู จนมุกเรียนจบมหาวิทลัยเธอก็เริ่มทำงานเก็บเงินพอมีเงินเก็บพอสมควร เธอก็พาน้องชายออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าส่งเสียเลี้ยงดูตัวเองและน้องเอง แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะกลับไปเยี่ยมผู้มีพระคุณกับเธออยู่เสมอเมื่อมีโอกาส

“ทานเยอะๆ นะ พี่ทำสุดฝีมือเลยรู้ไหม” มุกตักอาหารใส่จานให้น้องชาย

“ครับ กับข้าวฝีมือพี่มุกอร่อยที่สุดในโลกเลย” มิคยิ้มมีความสุข

“แน่นอนอยู่แล้วจ้ะ ถ้าไม่อร่อยมิคก็อดจริงไหม” มุกพูดหยอกล้อน้องชาย

“พี่มุก ไม่ทางให้ผมอดหรอกครับ พี่รักมิคจะตาย”

“ครับ ไม่ให้พี่รักมิคแล้วจะให้พี่ไปรักใครล่ะ”มือบางยื่นไปลูบศีรษะน้องชายด้วยความเอ็นดู

“ผมก็รักพี่ครับ”

“พี่รู้ มิค พี่ลาออกจากที่ทำงานแล้วนะ ตอนนี้กำลังหางานที่ใหม่อยู่”

“อ้าว ทำไมล่ะครับ “

“พอดีที่ทำงานมีปัญหานิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะต้องได้งานเร็วๆ นี้แน่ๆ “

“ครับ”

ตกดึกภายในห้องนอนมุกยังคงจดจ้องอยู่ตรงหน้าจอโน๊ตบุคเพื่อหางานทำด้วยความมุ่งมั่น ระหว่างนั้นเธอก็หันไปมองน้องชายที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงใกล้ๆ เป็นระยะ ด้วยกลัวจะทำให้น้องชายตื่น ตลอดเวลาที่โตด้วยกันมาเธอมักจะเป็นห่วงน้องชายกว่าตนเองเสมอในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเธอจะไม่มีวันทิ้งน้องชายที่เปรียบเสมือนหัวใจดวงเดียวที่เต้นอยู่ไปอย่างเด็ดขาด

เช้าวันใหม่หลังจากที่มุกนั่งรถเมล์เป็นเพื่อนมิคไปส่งที่โรงเรียน เธอก็ตรงไปหาปรางรุ่นพี่ที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง โดยที่เธอโทรคุยกับมะปรางเมื่อคืนแล้ว

“มาแล้วเหรอ เข้ามาสิ” ปรางสาวสวยหุ่นเซ็กส์ซี่เปิดประตูต้อนรับเธอเหมือนเช่นเคย

“มุกซื้อขนมมาฝากพี่ด้วยนะคะ” มุกพูดพลางวางถุงขนมลงบนโต๊ะพร้อมกับนั่งลงบนโซฟานุ่ม  

“ขอบใจจ้ะ เพิ่งไปส่งมิคไปโรงเรียนมาล่ะสิเรา” ปรางวางแก้วน้ำดื่มลงตรงหน้ามุกแล้วนั่งลงตรงข้าม

“ค่ะ ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นอย่างหวัง คนเราสมัยนี้ดูกันแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆ “  มุกตัดพ้อด้วยความผิดหวังกับอดีตเจ้านาย

“ตาแก่นั้นมันคงจะหน้ามืดแหละ มุกรอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว อย่าคิดมากเลย ถ้าหางานไม่ได้จริงๆ ผับของพี่รออยู่นะ อยากจะทำเมื่อไหร่ก็บอกได้ตลอดเลยนะ” ปรางยกยิ้มมุมปาก

“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ก็รู้ว่ามุกไม่ชอบงานแบบนั้น”

“พี่รู้ ลองทำดูสักหน่อยก็ไม่เห็นเสียหายอะไรเลย ขอแค่ให้บอกว่าอยากจะทำตำแหน่งอะไร พี่จะจัดการให้ตามที่ต้องการเลย เชื่อใจพี่ได้ ส่วนเงินเดือนพี่จะคิดให้เป็นพิเศษรับรองได้”

“ขอบคุณมากนะคะ” มุกส่งยิ้มให้ปราง

“จ้ะ พอดีพี่นัดแม็กซ์ที่ร้านกาแฟ มุกไปด้วยกันไหม” ปรางมองเวลาตรงหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

“พี่แม็กซ์กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอคะ”

“จ้ะ กลับมาได้หลายวันแล้วล่ะ แต่ติดงานที่บริษัทก็เลยไม่มีเวลาให้พี่เลยช่วงนี้”

“แต่งเลยไหมคะ จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันทุกวัน” มุกหยอกเย้าสาวรุ่นพี่

“แต่พี่สองคนคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นานมากแล้วนะคะ”

“จ้ะ ถ้าแต่งเมื่อไหร่จะบอกก็แล้วกัน ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวโดนดุ” ปรางหยิบกระเป๋าหรูแล้วเดินไปทางประตูห้องทันที

ภายในร้านกาแฟน่ารักๆ แห่งหนึ่งใจกลางเมืองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสมส่วนในชุดสูทกำลังนั่งจิบกาแฟร้อนรอแฟนสาวอย่างใจเย็นด้วยท่าทางสง่าสงบเคร่งครึมอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน ไม่นานปรางกับมุกก็มาถึงที่ร้าน

“รอนานไหมคะ พอดีมุกไปหาปรางที่คอนโด ปรางก็เลยพามาด้วยกันเลย”

“ครับ”

“สวัสดีค่ะ พี่แม็กซ์” มุกพนมมือไหว้รุ่นพี่

“ครับ นั่งลงก่อนสิ” แม็กซ์เอ่ยเสียงราบเรียบ

“ค่ะ”

“มุกเขากำลังหางานทำอยู่ ที่บริษัทพอจะมีตำแหน่งว่างไหมคะ”

“อ้าว! เหรอ น่าเสียดายจัง ช่วงนี้ตำแหน่งไม่ว่างเลย พี่ขอให้ได้งานเร็วๆ นะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“อยากทานอะไรก็สั่งได้ตามสบายเลยนะ พี่เป็นเจ้ามือเอง” แม็กซ์วางเมนูลงตรงหน้าหญิงสาวรุ่นน้อง

“ค่ะ” มุกยิ้มรับ

“คิดถึงจังเลย รู้ไหม” มือหนาโอบเอวปรางเอาไว้แน่นพร้อมกับส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้เธอ

“ปรางก็คิดถึงแม็กซ์ค่ะ” ส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม

“ดื่มกาแฟเสร็จแล้ว จะไปไหนกันต่อดีคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”

“ปรางตามใจแม็กซ์ค่ะ”

“งั้นก็ไปคอนโดปรางกันนะ อยากจะชื่นใจจะแย่”

“แม็กซ์! พูดอะไร เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ มุกก็นั่งอยู่ด้วย” ปรางต่อว่าชายหนุ่มไม่จริงจังนัก

“ตามสบายเลยค่ะ มุกเข้าใจ” มุกส่งยิ้มให้คนทั้งคู่

“เห็นไหม ว่ามุกเขาเข้าใจเราสองคนเป็นอย่างดี” แม็กซ์ยื่นมือหนาไปบีบหยอกล้อแก้มนุ่มๆ ของปรางเล่นด้วยความมันเขี้ยว

เธอดีใจที่ปรางกับแม็กซ์ไม่เคยรังเกียจผู้หญิงฐานะต่ำต้อยอย่างเธอเลย ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีฐานะที่ร่ำรวยมากมายเพียงใด แต่กลับไม่เคยดูถูกเหยียดหยามในตัวเธอเลยสักครั้ง แต่กลับเมตตาเอ็นดูเธอมาโดยตลอดตั้งแต่ที่รู้จักกันมาจนมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งเธอซึ้งใจในคนทั้งสองมาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+