ทาสรักทาสหัวใจ 48 พบกันอีกครั้ง(เธอเปลี่ยนไป)

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 48 พบกันอีกครั้ง(เธอเปลี่ยนไป) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สองเดือนต่อมา

ภายในร้านอาหารร้านหนึ่งในห้างชื่อดังภพกำลังนั่งร่วมโต๊ะทานอาหารกับปรางและแม็กซ์พร้อมกับพูดคุยกันถึงเรื่องงานและเรื่องมุกเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ภพยังคงให้คนสืบเสาะตามหาเบาะแสของเธออยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยก็ตาม แต่เขายังคงมีความหวังที่จะได้พบเจอเธออีกครั้งในสักวันหนึ่งที่ฟ้าเปิดทางให้เขา

“ถามแต่เรื่องของฉัน แล้วแกสองคนเมื่อไหร่จะมีข่าวดีสักที” ภพเอ่ยถามขึ้น

“ที่นัดมาทานข้าววันนี้ ก็เพราะว่าเรื่องนี้แหละ” แม็กซ์ยิ้มมุมปาก

“หมายความว่ายังไง” ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน

“เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันเดือนหน้าจ้ะ” ปรางเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

“อะไรกัน ทำไมมันถึงปุ๊บปั๊บขนาดนี้วะ” ภพมองหน้าปรางกับแม็กซ์ด้วยความงงงวย

“จะไม่ให้รีบได้ไงวะ ปรางเขาท้องแล้ว”

“อ้าว จริงเหรอ ยินดีด้วยนะ” ภพส่งยิ้มให้คนทั้งคู่

“อืม อย่าลืมมาร่วมงานด้วยก็แล้วกัน”

“รีบตามหามุกให้เจอ ก่อนวันงานล่ะ นี่การ์ดแต่งงานของเราสองคน” ปรางหยิบการ์ดแต่งงานออกมาจากกระเป๋าวางลงตรงหน้าภพ

มือหนาหยิบการ์ดแต่งงานสีฟ้าขึ้นมาพร้อมกับนึกถึงมุกไปด้วย ถ้าหากวันใดที่เขาเจอเธออีกครั้งเขาจะไม่ลังเลอะไรอีกแล้วเขาจะทำตามเสียงหัวใจของเขาที่มันพร่ำเรียกร้องหาเธอทุกวินาที จะมอบความรักความจริงใจให้เธอโดยไม่มีข้อแม้เงื่อนไขใดๆ จะรั้งเธอเอาไว้แนบกายไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปจากเขาอีกเด็ดขาด

ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋ากางเกงภพสั่นขึ้นชายหนุ่มจึงขอตัวออกไปรับสายจากคนที่เขาว่าจ้างให้สืบหาเบาะแสของมุก และก็เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ในที่สุดก็มีความคืบหน้าข้อมูลของมุกถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดจากปลายสายส่งผ่านให้เขารับรู้ที่อยู่และความเคลื่อนไหวของเธอในขณะนี้

หลังวางสายจากนักสืบไปภพก็เดินยิ้มกลับเข้าไปหาปรางกับแม็กซ์ข้างในร้านพร้อมกับบอกเล่าส่งที่เพิ่งได้รับรู้มาให้คนทั้งคู่ฟัง ซึ่งทั้งสองคนก็ดีใจไม่ต่างจากภพเลย จากนั้นภพก็ขอตัวรีบเร่งฝีเท้าไปยังรถคันหรูเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดปลายที่มีหัวใจของเขาอยู่ตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว

ณ บ้านเช่านอกชานเมืองในระหว่างที่มุกกำลังยืนล้างจานอยู่นั้น หมอนนท์ก็เดินเข้าไปสวมกอดเธอจากทางด้านหลังพร้อมกับหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง ใช้มือหนารวบจับมือข้างซ้ายของเธอมองแหวนเพชรน้ำงามที่สวมตรงนิ้วนางด้วยรอยยิ้มกว้างตาเป็นประกาย

“หมอจะทำอะไรคะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยความเขินอาย

“ยังไม่ชินอีกเหรอ ผมชื่นใจมุกแล้ว มุกก็ควรจะชื่นใจผมบ้างนะ”

“มุกขอล้างจานเสร็จก่อนได้ไหมคะ”

“ตามใจผมหน่อยสิครับ คนดี”

“ก็ได้ค่ะ” หันหน้าไปหอมแก้มหมอหนุ่มฟอดหนึ่งแล้วหันกลับไปล้างจานในอ่างต่อ

หมอนนท์ค่อยๆ ผละออกจากร่างบางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้ามีความสุข ส่วนร่างบางก็ยืนล้างจานไปด้วยใบหน้าแดงก่ำมีความสุขอบอุ่นอยู่ข้างในหัวใจตั้งแต่ที่เธอฟื้นคืนกลับมาได้สติจากอุบัติเหตุในวันนั้นก็มีแต่หมอหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่เธอไม่ห่างเลยสักวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูแลลูกชายเธอเป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกับชายหนุ่มเลย เธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีชายหนุ่มเข้ามาในชีวิต มุกยิ้มแก้มปริ

หลังจากมุกจัดการในครัวจนเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็ออกไปเล่นกับลูกชายวัยห้าเดือนเศษสลับกันอุ้มกับหมอนนท์ไปมาอย่างมีความสุข โดยมีป้าบุญนั่งยิ้มให้คนทั้งคู่อยู่ข้างๆ มีความสุขไปด้วย

อีกด้านหนึ่งตรงนอกรั้วหน้าบ้านเช่าภพยืนมองจ้องรถยนต์คันหรูของหมอนนท์ที่คุ้นตาจอดสนิทอยู่ในบ้านด้วยความคับแค้นใจขบกรามแน่นกำมือจนเส้นเลือดปูดนูนเห็นได้อย่างชัดเจน ที่แท้หมอนนท์รู้มาโดยตลอดว่ามุกอยู่ที่นี้ แต่กลับปิดบังเขามาได้นานเป็นปีมันช่างน่าเจ็บใจนัก

ระหว่างที่ภพกำลังยืนกวาดสายตาไปยังหน้าบ้านก็ปรากฏร่างบางที่คุ้นเคยสนิทสนมแนบชิดกันมาก่อนผ่านสายตาคมกริบ มุกในชุดเดรสสั้นเหนือเข่าลายดอกไม้สีฟ้าอ่อนถือสายยางยืนรดน้ำต้นไม้ในกระถางด้วยใบหน้าที่สดใส หน้าท้องที่แบนราบนั้นมันบ่งบอกว่าลูกของเขาและเธอได้คลอดออกมาลืมตาดูโลกแล้ว

ร่างหนายืนนิ่งตัวแข็งทื่อดวงตาแดงก่ำเขาดีใจที่ได้พบเธออีกครั้งหลังจากที่ตามหาเธอมานานเป็นปี นับจากนาทีนี้ต่อไปเขาจะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันจะชดเชยให้เธอกับลูกด้วยความรักความอบอุ่นจากเขาให้สมกับที่เธอเคยมอบความรักความจริงใจให้เขาตลอดเวลาที่ผ่านมา

ภพค่อยๆ เดินผลักประตูรั้วอย่างเบามือที่สุดไม่ให้ร่างบางที่ยืนหันให้เขาอยู่รู้ตัว ชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนนิ่งอยู่ทางด้านหลังบางด้วยความประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรเป็นประโยคแรกกับเธอ เร็วเท่าความคิดเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาจึงเข้าประชิดจู่โจมเธอด้วยการสวมกอดเธอทันที

“มุก” ร่างหนาสวมกอดเธอเอาไว้แน่น

“____” ร่างบางสะดุ้งตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกลวนลามจากคนแปลกหน้า

“ฉันขอโทษ กลับบ้านกับฉันนะ” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความนุ่มนวล

“ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันนะ!” พอได้สติร่างบางก็รีบสลัดตัวออกจากร่างหนาทันที

ภพได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจกับประโยคที่มุกด่าทอเขาออกมาจากปากเมื่อกี้ ร่างหนายืนจ้องมองร่างบางที่ยืนมองเขาด้วยสายตาวางเปล่าเหมือนคนแปลกหน้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่เข้าใจกับท่าทางที่เธอแสดงออกต่อเขามันช่างห่างเหินเหลือเกิน

“ฉันขอโทษ กลับบ้านด้วยกันนะ” ภพเดินเข้าไปหาร่างบาง

“อย่าเข้ามานะ! ฉันไม่รู้จักแก! ไอ้โรคจิต! ไอ้บ้า! ” มุกถอยหลังหนีชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว

“มุก เธอกลัวฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ภพยอมยืนหยุดนิ่งกับที่

“คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง ฉันไม่เคยรู้จักคุณ รีบออกไปจากบ้านฉันซะ! ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ” มุกยังคงทำใจดีสู้เสือ

“ไม่รู้จัก เธออย่าบอกนะ ว่าเธอจะใช้วิธีนี้เอาคืนฉัน มุก” ภพมองหน้าหญิงสาวน้ำตาคลอเบ้า

“หมอคะ ช่วยมุกด้วย!” ร่างบางตะโกนให้หมอหนุ่มช่วย

เมื่อสิ้นเสียงตะโกนหมอนนท์ก็รีบเดินออกมาตรงหน้าบ้านทั้งที่ในมืออุ้มมิคเด็กน้อยวัยห้าเดือนเศษมาด้วย ทันทีที่หมอนนท์หันไปเห็นภพที่ยืนจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาตกใจยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ศัตรูหัวใจจะตามหาหญิงสาวตรงหน้าเจอ

ภพจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขนหมอนนท์ดวงตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวดใจ เขาเจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้โอกาสดีๆ ในชีวิตไปแทนที่จะรักษามันเอาไว้ตั้งแต่แรกและคงจะไม่ทุกข์ทรมานมาจนถึงทุกวันนี้

“หมอช่วยไล่เขาออกไปทีค่ะ มุกกลัว” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“ผมหวังว่าจะได้ยินเหตุผลดีๆ กับสิ่งที่หมอทำนะ” ภพมองหน้าหมอนนท์ดวงตาแข็งกร้าว

“หมอรู้จักเขาด้วยเหรอคะ” มุกถามหมอนนท์ด้วยความอยากรู้

“มันเกิดอะไรขึ้นกับมุกกันแน่” ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีท่าทางเหมือนว่าจะแกล้งไม่รู้จักเขาจริงๆ

“ผมว่าคุณกลับไปเถอะ มุกเขาลืมคุณไปหมดแล้ว”

“ไม่จริง มุกเขาไม่มีทางลืมผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดไปได้หรอก ผมไม่เชื่อ มุกบอกฉันมาสิว่าเธอไม่เคยลืมฉัน”

“ฉันไม่รู้จักคุณ” ร่างบางยังคงยืนยันคำเดิม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทาสรักทาสหัวใจ 48 พบกันอีกครั้ง(เธอเปลี่ยนไป)

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 48 พบกันอีกครั้ง(เธอเปลี่ยนไป) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สองเดือนต่อมา

ภายในร้านอาหารร้านหนึ่งในห้างชื่อดังภพกำลังนั่งร่วมโต๊ะทานอาหารกับปรางและแม็กซ์พร้อมกับพูดคุยกันถึงเรื่องงานและเรื่องมุกเหมือนเช่นทุกครั้งที่เจอกัน ภพยังคงให้คนสืบเสาะตามหาเบาะแสของเธออยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยก็ตาม แต่เขายังคงมีความหวังที่จะได้พบเจอเธออีกครั้งในสักวันหนึ่งที่ฟ้าเปิดทางให้เขา

“ถามแต่เรื่องของฉัน แล้วแกสองคนเมื่อไหร่จะมีข่าวดีสักที” ภพเอ่ยถามขึ้น

“ที่นัดมาทานข้าววันนี้ ก็เพราะว่าเรื่องนี้แหละ” แม็กซ์ยิ้มมุมปาก

“หมายความว่ายังไง” ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน

“เราสองคนกำลังจะแต่งงานกันเดือนหน้าจ้ะ” ปรางเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้า

“อะไรกัน ทำไมมันถึงปุ๊บปั๊บขนาดนี้วะ” ภพมองหน้าปรางกับแม็กซ์ด้วยความงงงวย

“จะไม่ให้รีบได้ไงวะ ปรางเขาท้องแล้ว”

“อ้าว จริงเหรอ ยินดีด้วยนะ” ภพส่งยิ้มให้คนทั้งคู่

“อืม อย่าลืมมาร่วมงานด้วยก็แล้วกัน”

“รีบตามหามุกให้เจอ ก่อนวันงานล่ะ นี่การ์ดแต่งงานของเราสองคน” ปรางหยิบการ์ดแต่งงานออกมาจากกระเป๋าวางลงตรงหน้าภพ

มือหนาหยิบการ์ดแต่งงานสีฟ้าขึ้นมาพร้อมกับนึกถึงมุกไปด้วย ถ้าหากวันใดที่เขาเจอเธออีกครั้งเขาจะไม่ลังเลอะไรอีกแล้วเขาจะทำตามเสียงหัวใจของเขาที่มันพร่ำเรียกร้องหาเธอทุกวินาที จะมอบความรักความจริงใจให้เธอโดยไม่มีข้อแม้เงื่อนไขใดๆ จะรั้งเธอเอาไว้แนบกายไม่ปล่อยให้เธอหลุดมือไปจากเขาอีกเด็ดขาด

ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋ากางเกงภพสั่นขึ้นชายหนุ่มจึงขอตัวออกไปรับสายจากคนที่เขาว่าจ้างให้สืบหาเบาะแสของมุก และก็เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ในที่สุดก็มีความคืบหน้าข้อมูลของมุกถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดจากปลายสายส่งผ่านให้เขารับรู้ที่อยู่และความเคลื่อนไหวของเธอในขณะนี้

หลังวางสายจากนักสืบไปภพก็เดินยิ้มกลับเข้าไปหาปรางกับแม็กซ์ข้างในร้านพร้อมกับบอกเล่าส่งที่เพิ่งได้รับรู้มาให้คนทั้งคู่ฟัง ซึ่งทั้งสองคนก็ดีใจไม่ต่างจากภพเลย จากนั้นภพก็ขอตัวรีบเร่งฝีเท้าไปยังรถคันหรูเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดปลายที่มีหัวใจของเขาอยู่ตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว

ณ บ้านเช่านอกชานเมืองในระหว่างที่มุกกำลังยืนล้างจานอยู่นั้น หมอนนท์ก็เดินเข้าไปสวมกอดเธอจากทางด้านหลังพร้อมกับหอมแก้มเนียนฟอดหนึ่ง ใช้มือหนารวบจับมือข้างซ้ายของเธอมองแหวนเพชรน้ำงามที่สวมตรงนิ้วนางด้วยรอยยิ้มกว้างตาเป็นประกาย

“หมอจะทำอะไรคะ” เสียงหวานเอ่ยด้วยความเขินอาย

“ยังไม่ชินอีกเหรอ ผมชื่นใจมุกแล้ว มุกก็ควรจะชื่นใจผมบ้างนะ”

“มุกขอล้างจานเสร็จก่อนได้ไหมคะ”

“ตามใจผมหน่อยสิครับ คนดี”

“ก็ได้ค่ะ” หันหน้าไปหอมแก้มหมอหนุ่มฟอดหนึ่งแล้วหันกลับไปล้างจานในอ่างต่อ

หมอนนท์ค่อยๆ ผละออกจากร่างบางเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วด้วยรอยยิ้มเปื้อนหน้ามีความสุข ส่วนร่างบางก็ยืนล้างจานไปด้วยใบหน้าแดงก่ำมีความสุขอบอุ่นอยู่ข้างในหัวใจตั้งแต่ที่เธอฟื้นคืนกลับมาได้สติจากอุบัติเหตุในวันนั้นก็มีแต่หมอหนุ่มที่คอยดูแลเอาใจใส่เธอไม่ห่างเลยสักวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังดูแลลูกชายเธอเป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกับชายหนุ่มเลย เธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีชายหนุ่มเข้ามาในชีวิต มุกยิ้มแก้มปริ

หลังจากมุกจัดการในครัวจนเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็ออกไปเล่นกับลูกชายวัยห้าเดือนเศษสลับกันอุ้มกับหมอนนท์ไปมาอย่างมีความสุข โดยมีป้าบุญนั่งยิ้มให้คนทั้งคู่อยู่ข้างๆ มีความสุขไปด้วย

อีกด้านหนึ่งตรงนอกรั้วหน้าบ้านเช่าภพยืนมองจ้องรถยนต์คันหรูของหมอนนท์ที่คุ้นตาจอดสนิทอยู่ในบ้านด้วยความคับแค้นใจขบกรามแน่นกำมือจนเส้นเลือดปูดนูนเห็นได้อย่างชัดเจน ที่แท้หมอนนท์รู้มาโดยตลอดว่ามุกอยู่ที่นี้ แต่กลับปิดบังเขามาได้นานเป็นปีมันช่างน่าเจ็บใจนัก

ระหว่างที่ภพกำลังยืนกวาดสายตาไปยังหน้าบ้านก็ปรากฏร่างบางที่คุ้นเคยสนิทสนมแนบชิดกันมาก่อนผ่านสายตาคมกริบ มุกในชุดเดรสสั้นเหนือเข่าลายดอกไม้สีฟ้าอ่อนถือสายยางยืนรดน้ำต้นไม้ในกระถางด้วยใบหน้าที่สดใส หน้าท้องที่แบนราบนั้นมันบ่งบอกว่าลูกของเขาและเธอได้คลอดออกมาลืมตาดูโลกแล้ว

ร่างหนายืนนิ่งตัวแข็งทื่อดวงตาแดงก่ำเขาดีใจที่ได้พบเธออีกครั้งหลังจากที่ตามหาเธอมานานเป็นปี นับจากนาทีนี้ต่อไปเขาจะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันจะชดเชยให้เธอกับลูกด้วยความรักความอบอุ่นจากเขาให้สมกับที่เธอเคยมอบความรักความจริงใจให้เขาตลอดเวลาที่ผ่านมา

ภพค่อยๆ เดินผลักประตูรั้วอย่างเบามือที่สุดไม่ให้ร่างบางที่ยืนหันให้เขาอยู่รู้ตัว ชายหนุ่มเดินไปหยุดยืนนิ่งอยู่ทางด้านหลังบางด้วยความประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรเป็นประโยคแรกกับเธอ เร็วเท่าความคิดเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาจึงเข้าประชิดจู่โจมเธอด้วยการสวมกอดเธอทันที

“มุก” ร่างหนาสวมกอดเธอเอาไว้แน่น

“____” ร่างบางสะดุ้งตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกลวนลามจากคนแปลกหน้า

“ฉันขอโทษ กลับบ้านกับฉันนะ” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความนุ่มนวล

“ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันนะ!” พอได้สติร่างบางก็รีบสลัดตัวออกจากร่างหนาทันที

ภพได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจกับประโยคที่มุกด่าทอเขาออกมาจากปากเมื่อกี้ ร่างหนายืนจ้องมองร่างบางที่ยืนมองเขาด้วยสายตาวางเปล่าเหมือนคนแปลกหน้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความไม่เข้าใจกับท่าทางที่เธอแสดงออกต่อเขามันช่างห่างเหินเหลือเกิน

“ฉันขอโทษ กลับบ้านด้วยกันนะ” ภพเดินเข้าไปหาร่างบาง

“อย่าเข้ามานะ! ฉันไม่รู้จักแก! ไอ้โรคจิต! ไอ้บ้า! ” มุกถอยหลังหนีชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว

“มุก เธอกลัวฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ” ภพยอมยืนหยุดนิ่งกับที่

“คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง ฉันไม่เคยรู้จักคุณ รีบออกไปจากบ้านฉันซะ! ก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับคุณ” มุกยังคงทำใจดีสู้เสือ

“ไม่รู้จัก เธออย่าบอกนะ ว่าเธอจะใช้วิธีนี้เอาคืนฉัน มุก” ภพมองหน้าหญิงสาวน้ำตาคลอเบ้า

“หมอคะ ช่วยมุกด้วย!” ร่างบางตะโกนให้หมอหนุ่มช่วย

เมื่อสิ้นเสียงตะโกนหมอนนท์ก็รีบเดินออกมาตรงหน้าบ้านทั้งที่ในมืออุ้มมิคเด็กน้อยวัยห้าเดือนเศษมาด้วย ทันทีที่หมอนนท์หันไปเห็นภพที่ยืนจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว เขาตกใจยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ศัตรูหัวใจจะตามหาหญิงสาวตรงหน้าเจอ

ภพจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขนหมอนนท์ดวงตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวดใจ เขาเจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้โอกาสดีๆ ในชีวิตไปแทนที่จะรักษามันเอาไว้ตั้งแต่แรกและคงจะไม่ทุกข์ทรมานมาจนถึงทุกวันนี้

“หมอช่วยไล่เขาออกไปทีค่ะ มุกกลัว” เสียงหวานเอ่ยขึ้น

“ผมหวังว่าจะได้ยินเหตุผลดีๆ กับสิ่งที่หมอทำนะ” ภพมองหน้าหมอนนท์ดวงตาแข็งกร้าว

“หมอรู้จักเขาด้วยเหรอคะ” มุกถามหมอนนท์ด้วยความอยากรู้

“มันเกิดอะไรขึ้นกับมุกกันแน่” ภพขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่มีท่าทางเหมือนว่าจะแกล้งไม่รู้จักเขาจริงๆ

“ผมว่าคุณกลับไปเถอะ มุกเขาลืมคุณไปหมดแล้ว”

“ไม่จริง มุกเขาไม่มีทางลืมผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดไปได้หรอก ผมไม่เชื่อ มุกบอกฉันมาสิว่าเธอไม่เคยลืมฉัน”

“ฉันไม่รู้จักคุณ” ร่างบางยังคงยืนยันคำเดิม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+