ทาสรักทาสหัวใจ 9 ยิ้มสู้

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 9 ยิ้มสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เช้าวันใหม่มุกตื่นแต่เช้าทำข้าวต้มหมูร้อนๆ พร้อมกับจัดปอกผลไม้ใส่จานเอาไว้ให้น้องชาย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอนแต่งตัวด้วยชุดทำงาน วันนี้เธอตั้งใจว่าหลังเลิกงานเธอจะไปทำงานที่ผับของปรางสาวรุ่นพี่เลย เธอจำใจต้องทิ้งน้องไว้ที่บ้านคนเดียวถ้าไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเงินรักษายื้อชีวิตของน้องชายเอาไว้

"มิค พี่ไปทำงานก่อนนะ" ร่างบางนั่งลงบนเตียงพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะน้องชายที่กำลังนอนหลับอยู่เตียง

"พี่จะไปแล้วเหรอครับ" มิคลืมตาตื่นขึ้น

"จ้ะ พี่ทำข้าวต้มหมูร้อนๆ ไว้ให้ในครัวแล้วนะ อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วย"

"ครับ ถ้าผมหายง่วงแล้วจะลุกไปกินเอง พี่ไม่ต้องห่วงนะ"

"พี่มีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกมิค"

"เรื่องอะไรเหรอครับ"

"ตอนเย็นหลังเลิกงานพี่จะไปทำงานเสริมที่ผับพี่ปรางนะ มิคอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม"

"ครับ ผมอยู่ได้ แต่ทำไมพี่ต้องทำงานเยอะด้วยครับ เพราะมิคหรือเปล่า"

"ครับ พี่ทำเพื่อมิคเราจะได้มีเงินเยอะๆ มีบ้านเป็นของตัวเองสักที พี่ถึงต้องขยันทำงานเพิ่มไง" มุกจำใจโกหกน้องชายออกไป

"จริงเหรอครับ เพราะมิคป่วยใช่ไหมเงินเลยเหลือน้อยลง" มิคลุกขึ้นนั่งมองหน้าพี่สาวไม่วางตา

"เรายังมีเงินพอใช้จ้ะ แต่พี่อยากเก็บอีกเยอะๆ วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ลำบาก มิคเข้าใจพี่ไหม"

"ผมเข้าใจครับ" มิคพยักหน้ารับ

"ครับ ดีมาก พี่ไปทำงานก่อนนะ เลิกงานเจอกัน พี่จะซื้อขนมอร่อยๆ มาฝาก"

"ครับ"

มุกเดินออกจากบ้านตรงไปยังป้ายรถเมล์หน้าปากซอยทั้งน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจุกแน่นในอกที่บอกใครไม่ได้ เธอพยายามหลอกตัวเองว่าน้องชายไม่ได้ป่วยเป็นอะไรร้ายแรงและจะอยู่กับเธอตลอดไป เธอจะทำทุกอย่างให้เป็นปกติทุกอย่างไม่ให้มิคสงสัยให้เขาได้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนที่ผ่านมาให้ได้มากที่สุด

มือบางปาดน้ำตาทิ้งขึ้นไปนั่งบนรถเมล์ด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งไม่นานก็ไปถึงหน้าบริษัท ร่างบางพาตนเองเข้าไปยังแผนกบัญชีส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานทุกคนเหมือนเช่นเคย ใครถามถึงอาการป่วยน้องชายเธอก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับตอบกลับว่าหายดีแล้ว

"พี่ดีใจด้วยนะ ที่มิคหายดีแล้วมุกจะได้หายห่วงทำงานได้เต็มที่" บุษบาส่งนิ้มให้มุก

"ขอบคุณค่ะ พี่บุษ" มุกยิ้มรับ

"ฉันดีใจมากเลย ที่มุกกลับมาทำงานแล้ว งานล้นมือเลยฉันทำไม่ทัน" ทิพยิ้มหน้าบาน

"จ้ะ"

"มุกเดี๋ยวพี่วานเอาเอกสารไปให้พิศเขาหน่อยนะ ถ้าคุณภพเขาเซ็นต์เสร็จแล้วเอากลับมาด้วยนะ" บุษบาเอ่ยขึ้น

"ได้ค่ะ พี่บุษ"

ชั้นบนสูงสุดของตึกหน้าห้องประธานบริษัทพิศกำลังก้มหน้าเช็คตารางงานของเจ้านายหนุ่มอยู่ ภพก็เดินตรงเข้ามาด้วยใบหน้าไม่ค่อยจะสดใสมากนัก เหมือนกำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ด้วยมือหนาถือโทรศัพท์เครื่องบางจดจ้องหน้าจอไม่วางตา

"สวัสดีค่ะ คุณภพ" พิศเอ่ยทักทายขึ้น

"สวัสดีครับ "

"คุณภพค่ะ ช่วงนี้พิศไม่เห็นคุณน้ำเธอเลย เธอไปไหนเหรอคะ"

"เขาคงไม่มาแล้วล่ะ" ภพเอ่ยจบแล้วเดินตรงเข้าไปข้างในห้องทันที

ภพนั่งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับถอนหายใจแรงๆ โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี เมื่อคืนเขาถูกน้ำเอ่ยตัดความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ได้รักเขาและขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เธอบอกว่าเธอไม่อยากจะฝืนใจตัวเอง เธอเป็นได้แค่น้องสาวของเขาเท่านั้น เขาพยายามตื้อเธอแล้วแต่สุดท้ายมันก็ไม่สำเร็จแถมเธอยังปิดเครื่องใส่เขาอีก

มุกเดินไปหยุดหน้าโต๊ะทำงานพิศที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่พร้อมกับวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ

"พี่พิศ มีเอกสารให้คุณภพเซ็นต์ค่ะ"

"มุกเอาเข้าไปเลยจ้ะ พี่ขอคุยธุระสำคัญก่อนนะ" พิศเงยหน้าขึ้นตอบแล้วคุยต่อ

"ค่ะ" ร่างบางเดินไปเคาะประตูพร้อมกับผลักเข้าไปช้าๆ

ภพเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่ถูกผลักเข้ามาก็แปลกใจเล็กน้อยที่เป็นหญิงสาวที่คอยแอบเฝ้ามองเขาเวลาทำงานก่อนหน้านั้นแทบทุกวัน มุกวางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานชายหนุ่มพร้อมกับก้มหน้าลงไม่ยอมสบตากับชายหนุ่มแม้แต่น้อย

"พอดี พี่พิศติดคุยธุระอยู่ค่ะ ก็เลยให้มุกเอาเอกสารเข้ามาแทน" อธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจทันควัน

"น้องชายเธอหายป่วยแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

"คุณรู้" มุกเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่ม

"ฉันเป็นเจ้านาย จะรู้เรื่องของพนักงานในบริษัทก็คงจะไม่แปลกหรอกใช่ไหม"

"ขอโทษค่ะ"

"ว่าไงตกลงน้องชายเธอเป็นยังไงบ้าง"

"หายดีแล้ว กลับมาอยู่บ้านได้ตามปกติแล้วค่ะ"

"อืม ไปได้แล้วไป" มือหนายื่นแฟ้มเอกสารส่งคืนให้มุกทันทีที่เซ็นต์เสร็จ

มุกรับเอกสารมาถือไว้แล้วเดินออกไปจากห้องตรงไปยังแผนกของตนเอง เธออดที่จะข้องใจไม่ได้ที่เจ้านายหนุ่มรู้ว่าน้องชายเธอป่วยแต่โชคดีที่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร เธออยากจะรู้ว่าชายหนุ่มทราบเรื่องจากใคร ถ้าเป็นปรางไม่ใช่แน่ๆ เพราะเธอขอร้องไม่ให้บอกใครเด็ดขาด ทันทีที่เธอเห็นหน้าบุษบาก็อดที่จะถามความข้องใจออกมาไม่ได้

"พี่บุษคะ คุณภพเขารู้จากใครเหรอคะ ว่าน้องชายมุกป่วย"

"อ่อ พอดีคุณภพเขาไม่เห็นมุกหลายวันก็เลยถาม พี่ก็เลยบอกไปจ้ะ มุกมีอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ"

"ดีแล้วจ้ะ พี่ก็นึกว่าคุณภพเขาไม่พอใจอะไรเสียอีก"

"น้ำขอตัวไปทำงานต่อนะคะ" ร่างบางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อโดยไม่ใส่ใจเรื่องอะไรอีก

หลังมื้อเที่ยงมุกกำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับน้องชายอยู่ตรงสนามหญ้าข้างล่างตึก บิ๊กก็เดินตรงเข้าไปหาเธอ เป็นจังหวะเดียวกับที่มุกวางสายจากน้องพอดี

"มุกพี่ขอนั่งคุยด้วยได้ไหม"

"ได้สิคะ"

"พี่ได้ข่าวว่าน้องชายมุกไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

"ดีขึ้นมากแล้วค่ะ กลับบ้านได้แล้ว"

"มีอะไรให้ช่วย ก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"มุกไม่ได้ลำบากอะไร ขอบคุณมากนะคะ" ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม

"มุกจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะขอเบอร์มุก"

"พี่จะเอาไปทำอะไรคะ"

"คือ พี่ชอบมุก อยากจะคุยด้วยทุกวันได้ไหม"

"มุกยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใครหรอกค่ะ มุกมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องคิดต้องทำ มุกว่าเราเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ดีต่อกันก็พอนะคะ"

"พูดแบบนี้แสดงว่ามีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหม"

"ชอบแล้วยังไงคะ ยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา ช่างเถอะค่ะ มุกขอตัวไปทำงานก่อน ไว้เจอกันค่ะ" พูดจบเธอก็เดินจากไปบิ๊กได้แต่มองตามหลังบางตาระห้อยลับสายตาไป

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงห้าโมงเย็นมุกจึงรีบเก็บของตรงขึ้นรถกลับบ้านด้วยความรวดเร็ว เธอมีเวลาอาบน้ำแต่งตัวทำกับข้าวให้น้องชายก่อนไปทำงานที่ผับต่อแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากจัดการข้าวปลาอาหารให้น้องชายเรียบร้อย มุกก็รีบไปยังผับชื่อดังใจกลางเมืองด้วยความไม่สบายใจนักที่ปล่อยให้มิคอยู่บ้านคนเดียวทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าน้องชายกำลังป่วยอยู่ แต่ด้วยความจำเป็นเธอจำใจต้องทำ เธอไม่อยากไปหยิบยืมใครถ้าไม่จำเป็น สู้ทำงานหาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองให้ถึงที่สุดดีกว่า

คืนนี้มุกเลือกที่จะแต่งตัวให้มิดชิดที่สุดด้วยเสื้อเซิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาว เธอตั้งใจมาทำงานที่นี้ในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟถึงเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น ซึ่งปรางรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการเป็นอย่างดี มุกเดินตรงเข้าไปหาปรางที่ยืนรออยู่ผ่านผู้คนชายหญิงที่เริ่มทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวด้วยความเป็นกังวลใจ เพราะที่อโคจรแบบนี้มักจะมีอันตรายแฝงอยู่เสมอ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เธอไม่คิดแม้แต่ที่จะเข้ามาเหยียบด้วยซ้ำ

"มุกมาแล้วเหรอ" ปรางเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหน้ามุก

"ค่ะ มุกต้องทำยังไงบ้างคะ"

"ตามพี่มาเลยจ้ะ" ปรางเดินนำมุกไปยังหน้าเคาร์เตอร์บาร์พร้อมกับแนะนำให้เธอรู้จักพนักงานทุกคน

หลังจากที่ทำความรู้จักกับทุกคนมุกก็เริ่มนำเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ไปเสิร์ฟยังโต๊ะต่างๆ ถึงแม้เธอจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ จากลูกค้าเพราะการแต่งกายที่มิดชิดไม่เหมือนหญิงสาวรายอื่นที่คอยให้บริการในผับแต่งกายน้อยชิ้นโป๊เปลือยเปิดเผยสัดส่วนบนเรือนร่างให้ผู้คนได้เชยชมเป็นอาหารตา แต่เธอก็ไม่หวั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนเองไป เมื่อมีสายตามองมาเธอก็หันไปส่งยิ้มให้ด้วยความเป็นมิตรทุกครั้ง

มุกทำงานจนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนระหว่างที่กำลังหยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์เก็บกระเป๋า เพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นพี่นุ้งน้อยห่มน้อยก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งยิ้มให้มองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

"หน้าตาสะสวยรูปร่างก็ดี แต่กลับแต่งตัวมิดชิดเหมือนแม่ชีขนาดนี้ เสียของหมด" แตงโมจิบปากจิบคอพูด

"เอ่อ…มุกแต่งแบบนี้ สบายใจกว่าจ้ะ"

"ไม่อยากได้เงินเยอะๆ เหรอ แค่เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว รับรองหนุ่มๆ มองตาเป็นมัน เผลอๆ ถ้าวันไหนโชคดีอาจจะมีผู้ชายกระเป๋าหนักพาไปต่อข้างนอก ได้ค่าตัวเป็นหมื่นเป็นแสน ฉันไม่อยากจะเม้าส์"

"แต่ว่าแบบนั้นมันจะไม่เปลืองตัวไปหน่อยเหรอคะ"

"ลองสักครั้งสิจ๊ะ แล้วจะติดใจ"

"ไม่ดีกว่าจ้ะ" มุกส่ายหน้า

"ลองแบบง่ายๆ ไปก่อนก็ได้ เปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ ฉันรับรองเลยนะได้ทิปเยอะจนนับไม่หวั่นไม่ไหวแน่นอน พี่กลับก่อนนะลูกค้าประจำรออยู่" แตงโมโบกมือให้มุกแล้วเดินจากไป

มุกเดินออกไปยังหน้าผับเพื่อจะโบกแท็กซี่กลับบ้าน พร้อมกับเอาคำพูดของแตงโมมาคิดไปพลางๆ เธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยสักครั้งจะให้เธอไปทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวของตัวเองเธอคงทำไม่ได้ ระหว่างที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่ปรางก็ขับรถมาเทียบข้างๆ เธอ

"มุกขึ้นมาสิ พี่จะไปส่งที่บ้าน"

"ค่ะ พี่ปราง" มุกยิ้มดีใจรีบขึ้นไปนั่งบนรถ

"ทำงานโอเคใช่ไหม มีปัญหาอะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"มุกทำได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร"

"ถ้ามีเวลาพี่จะสอนมุกชงเครื่องดื่มนะ จะได้ทำเป็นเวลาที่มีคนหยุดจะได้ทำแทนได้"

"อย่าเลยค่ะ แค่นี้มุกก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ"

"จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น"

"ขอบคุณมากนะคะ ที่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้มุกมาโดยตลอด"

"มุกเป็นน้องสาวพี่นะ พี่ทิ้งไม่ลงหรอก จะคอยอยู่ช่วยเหลือจนกว่ามุกจะมีคนที่มุกรักและรักมุกมาดูแล"

"เหมือนพี่แม็กซ์ที่รักปรางใช่ไหมคะ ถ้าแบบนั้นคงจะหายากหน่อยค่ะ"

"ไม่ต้องมาวกเข้าเรื่องพี่เลย แน่ใจนะว่าเราไม่เคยมีคนที่ชอบเลย"

"มีค่ะ แต่เขามีเจ้าของแล้ว"

"แย่จังเลยนะ ว่าแต่ใครเหรอ"

"มุกไม่อยากจะคิดถึงเขาแล้วค่ะ เพราะมิคสำคัญกว่า"

"นั่นสินะ พี่ก็ลืมคิดข้อนี้ไปเลย"

"สักวันมิคจะต้องรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร ถึงตอนนั้นเขาจะทำใจยอมรับมันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ "

"อย่าคิดมากสิ ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ อยู่ด้วยกันให้มีความสุขนะ"

"ค่ะ มุกจะพยายามทำให้มิคมีความสุขในทุกๆ วัน หากวันไหนที่จากกันจะได้ไม่เสียดายเวลา" มุกเอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ทาสรักทาสหัวใจ 9 ยิ้มสู้

Now you are reading ทาสรักทาสหัวใจ Chapter 9 ยิ้มสู้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เช้าวันใหม่มุกตื่นแต่เช้าทำข้าวต้มหมูร้อนๆ พร้อมกับจัดปอกผลไม้ใส่จานเอาไว้ให้น้องชาย จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอนแต่งตัวด้วยชุดทำงาน วันนี้เธอตั้งใจว่าหลังเลิกงานเธอจะไปทำงานที่ผับของปรางสาวรุ่นพี่เลย เธอจำใจต้องทิ้งน้องไว้ที่บ้านคนเดียวถ้าไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีเงินรักษายื้อชีวิตของน้องชายเอาไว้

"มิค พี่ไปทำงานก่อนนะ" ร่างบางนั่งลงบนเตียงพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะน้องชายที่กำลังนอนหลับอยู่เตียง

"พี่จะไปแล้วเหรอครับ" มิคลืมตาตื่นขึ้น

"จ้ะ พี่ทำข้าวต้มหมูร้อนๆ ไว้ให้ในครัวแล้วนะ อย่าลืมกินข้าวกินยาด้วย"

"ครับ ถ้าผมหายง่วงแล้วจะลุกไปกินเอง พี่ไม่ต้องห่วงนะ"

"พี่มีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอกมิค"

"เรื่องอะไรเหรอครับ"

"ตอนเย็นหลังเลิกงานพี่จะไปทำงานเสริมที่ผับพี่ปรางนะ มิคอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม"

"ครับ ผมอยู่ได้ แต่ทำไมพี่ต้องทำงานเยอะด้วยครับ เพราะมิคหรือเปล่า"

"ครับ พี่ทำเพื่อมิคเราจะได้มีเงินเยอะๆ มีบ้านเป็นของตัวเองสักที พี่ถึงต้องขยันทำงานเพิ่มไง" มุกจำใจโกหกน้องชายออกไป

"จริงเหรอครับ เพราะมิคป่วยใช่ไหมเงินเลยเหลือน้อยลง" มิคลุกขึ้นนั่งมองหน้าพี่สาวไม่วางตา

"เรายังมีเงินพอใช้จ้ะ แต่พี่อยากเก็บอีกเยอะๆ วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ลำบาก มิคเข้าใจพี่ไหม"

"ผมเข้าใจครับ" มิคพยักหน้ารับ

"ครับ ดีมาก พี่ไปทำงานก่อนนะ เลิกงานเจอกัน พี่จะซื้อขนมอร่อยๆ มาฝาก"

"ครับ"

มุกเดินออกจากบ้านตรงไปยังป้ายรถเมล์หน้าปากซอยทั้งน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจุกแน่นในอกที่บอกใครไม่ได้ เธอพยายามหลอกตัวเองว่าน้องชายไม่ได้ป่วยเป็นอะไรร้ายแรงและจะอยู่กับเธอตลอดไป เธอจะทำทุกอย่างให้เป็นปกติทุกอย่างไม่ให้มิคสงสัยให้เขาได้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนที่ผ่านมาให้ได้มากที่สุด

มือบางปาดน้ำตาทิ้งขึ้นไปนั่งบนรถเมล์ด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งไม่นานก็ไปถึงหน้าบริษัท ร่างบางพาตนเองเข้าไปยังแผนกบัญชีส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมงานทุกคนเหมือนเช่นเคย ใครถามถึงอาการป่วยน้องชายเธอก็ส่งยิ้มให้พร้อมกับตอบกลับว่าหายดีแล้ว

"พี่ดีใจด้วยนะ ที่มิคหายดีแล้วมุกจะได้หายห่วงทำงานได้เต็มที่" บุษบาส่งนิ้มให้มุก

"ขอบคุณค่ะ พี่บุษ" มุกยิ้มรับ

"ฉันดีใจมากเลย ที่มุกกลับมาทำงานแล้ว งานล้นมือเลยฉันทำไม่ทัน" ทิพยิ้มหน้าบาน

"จ้ะ"

"มุกเดี๋ยวพี่วานเอาเอกสารไปให้พิศเขาหน่อยนะ ถ้าคุณภพเขาเซ็นต์เสร็จแล้วเอากลับมาด้วยนะ" บุษบาเอ่ยขึ้น

"ได้ค่ะ พี่บุษ"

ชั้นบนสูงสุดของตึกหน้าห้องประธานบริษัทพิศกำลังก้มหน้าเช็คตารางงานของเจ้านายหนุ่มอยู่ ภพก็เดินตรงเข้ามาด้วยใบหน้าไม่ค่อยจะสดใสมากนัก เหมือนกำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ด้วยมือหนาถือโทรศัพท์เครื่องบางจดจ้องหน้าจอไม่วางตา

"สวัสดีค่ะ คุณภพ" พิศเอ่ยทักทายขึ้น

"สวัสดีครับ "

"คุณภพค่ะ ช่วงนี้พิศไม่เห็นคุณน้ำเธอเลย เธอไปไหนเหรอคะ"

"เขาคงไม่มาแล้วล่ะ" ภพเอ่ยจบแล้วเดินตรงเข้าไปข้างในห้องทันที

ภพนั่งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับถอนหายใจแรงๆ โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี เมื่อคืนเขาถูกน้ำเอ่ยตัดความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่ได้รักเขาและขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เธอบอกว่าเธอไม่อยากจะฝืนใจตัวเอง เธอเป็นได้แค่น้องสาวของเขาเท่านั้น เขาพยายามตื้อเธอแล้วแต่สุดท้ายมันก็ไม่สำเร็จแถมเธอยังปิดเครื่องใส่เขาอีก

มุกเดินไปหยุดหน้าโต๊ะทำงานพิศที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่พร้อมกับวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ

"พี่พิศ มีเอกสารให้คุณภพเซ็นต์ค่ะ"

"มุกเอาเข้าไปเลยจ้ะ พี่ขอคุยธุระสำคัญก่อนนะ" พิศเงยหน้าขึ้นตอบแล้วคุยต่อ

"ค่ะ" ร่างบางเดินไปเคาะประตูพร้อมกับผลักเข้าไปช้าๆ

ภพเงยหน้าขึ้นไปมองประตูที่ถูกผลักเข้ามาก็แปลกใจเล็กน้อยที่เป็นหญิงสาวที่คอยแอบเฝ้ามองเขาเวลาทำงานก่อนหน้านั้นแทบทุกวัน มุกวางเอกสารลงบนโต๊ะทำงานชายหนุ่มพร้อมกับก้มหน้าลงไม่ยอมสบตากับชายหนุ่มแม้แต่น้อย

"พอดี พี่พิศติดคุยธุระอยู่ค่ะ ก็เลยให้มุกเอาเอกสารเข้ามาแทน" อธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจทันควัน

"น้องชายเธอหายป่วยแล้วเหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

"คุณรู้" มุกเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่ม

"ฉันเป็นเจ้านาย จะรู้เรื่องของพนักงานในบริษัทก็คงจะไม่แปลกหรอกใช่ไหม"

"ขอโทษค่ะ"

"ว่าไงตกลงน้องชายเธอเป็นยังไงบ้าง"

"หายดีแล้ว กลับมาอยู่บ้านได้ตามปกติแล้วค่ะ"

"อืม ไปได้แล้วไป" มือหนายื่นแฟ้มเอกสารส่งคืนให้มุกทันทีที่เซ็นต์เสร็จ

มุกรับเอกสารมาถือไว้แล้วเดินออกไปจากห้องตรงไปยังแผนกของตนเอง เธออดที่จะข้องใจไม่ได้ที่เจ้านายหนุ่มรู้ว่าน้องชายเธอป่วยแต่โชคดีที่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร เธออยากจะรู้ว่าชายหนุ่มทราบเรื่องจากใคร ถ้าเป็นปรางไม่ใช่แน่ๆ เพราะเธอขอร้องไม่ให้บอกใครเด็ดขาด ทันทีที่เธอเห็นหน้าบุษบาก็อดที่จะถามความข้องใจออกมาไม่ได้

"พี่บุษคะ คุณภพเขารู้จากใครเหรอคะ ว่าน้องชายมุกป่วย"

"อ่อ พอดีคุณภพเขาไม่เห็นมุกหลายวันก็เลยถาม พี่ก็เลยบอกไปจ้ะ มุกมีอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ"

"ดีแล้วจ้ะ พี่ก็นึกว่าคุณภพเขาไม่พอใจอะไรเสียอีก"

"น้ำขอตัวไปทำงานต่อนะคะ" ร่างบางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อโดยไม่ใส่ใจเรื่องอะไรอีก

หลังมื้อเที่ยงมุกกำลังนั่งคุยโทรศัพท์กับน้องชายอยู่ตรงสนามหญ้าข้างล่างตึก บิ๊กก็เดินตรงเข้าไปหาเธอ เป็นจังหวะเดียวกับที่มุกวางสายจากน้องพอดี

"มุกพี่ขอนั่งคุยด้วยได้ไหม"

"ได้สิคะ"

"พี่ได้ข่าวว่าน้องชายมุกไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

"ดีขึ้นมากแล้วค่ะ กลับบ้านได้แล้ว"

"มีอะไรให้ช่วย ก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"มุกไม่ได้ลำบากอะไร ขอบคุณมากนะคะ" ส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม

"มุกจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะขอเบอร์มุก"

"พี่จะเอาไปทำอะไรคะ"

"คือ พี่ชอบมุก อยากจะคุยด้วยทุกวันได้ไหม"

"มุกยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใครหรอกค่ะ มุกมีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องคิดต้องทำ มุกว่าเราเป็นเพื่อนเป็นพี่ที่ดีต่อกันก็พอนะคะ"

"พูดแบบนี้แสดงว่ามีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหม"

"ชอบแล้วยังไงคะ ยังไงก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา ช่างเถอะค่ะ มุกขอตัวไปทำงานก่อน ไว้เจอกันค่ะ" พูดจบเธอก็เดินจากไปบิ๊กได้แต่มองตามหลังบางตาระห้อยลับสายตาไป

เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงห้าโมงเย็นมุกจึงรีบเก็บของตรงขึ้นรถกลับบ้านด้วยความรวดเร็ว เธอมีเวลาอาบน้ำแต่งตัวทำกับข้าวให้น้องชายก่อนไปทำงานที่ผับต่อแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หลังจากจัดการข้าวปลาอาหารให้น้องชายเรียบร้อย มุกก็รีบไปยังผับชื่อดังใจกลางเมืองด้วยความไม่สบายใจนักที่ปล่อยให้มิคอยู่บ้านคนเดียวทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าน้องชายกำลังป่วยอยู่ แต่ด้วยความจำเป็นเธอจำใจต้องทำ เธอไม่อยากไปหยิบยืมใครถ้าไม่จำเป็น สู้ทำงานหาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองให้ถึงที่สุดดีกว่า

คืนนี้มุกเลือกที่จะแต่งตัวให้มิดชิดที่สุดด้วยเสื้อเซิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ขายาว เธอตั้งใจมาทำงานที่นี้ในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟถึงเวลาเที่ยงคืนเท่านั้น ซึ่งปรางรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่เธอต้องการเป็นอย่างดี มุกเดินตรงเข้าไปหาปรางที่ยืนรออยู่ผ่านผู้คนชายหญิงที่เริ่มทยอยกันเข้ามาไม่ขาดสาย เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวด้วยความเป็นกังวลใจ เพราะที่อโคจรแบบนี้มักจะมีอันตรายแฝงอยู่เสมอ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เธอไม่คิดแม้แต่ที่จะเข้ามาเหยียบด้วยซ้ำ

"มุกมาแล้วเหรอ" ปรางเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นหน้ามุก

"ค่ะ มุกต้องทำยังไงบ้างคะ"

"ตามพี่มาเลยจ้ะ" ปรางเดินนำมุกไปยังหน้าเคาร์เตอร์บาร์พร้อมกับแนะนำให้เธอรู้จักพนักงานทุกคน

หลังจากที่ทำความรู้จักกับทุกคนมุกก็เริ่มนำเครื่องดื่มชนิดต่างๆ ไปเสิร์ฟยังโต๊ะต่างๆ ถึงแม้เธอจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ จากลูกค้าเพราะการแต่งกายที่มิดชิดไม่เหมือนหญิงสาวรายอื่นที่คอยให้บริการในผับแต่งกายน้อยชิ้นโป๊เปลือยเปิดเผยสัดส่วนบนเรือนร่างให้ผู้คนได้เชยชมเป็นอาหารตา แต่เธอก็ไม่หวั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตนเองไป เมื่อมีสายตามองมาเธอก็หันไปส่งยิ้มให้ด้วยความเป็นมิตรทุกครั้ง

มุกทำงานจนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนระหว่างที่กำลังหยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์เก็บกระเป๋า เพื่อนร่วมงานที่เป็นรุ่นพี่นุ้งน้อยห่มน้อยก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งยิ้มให้มองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

"หน้าตาสะสวยรูปร่างก็ดี แต่กลับแต่งตัวมิดชิดเหมือนแม่ชีขนาดนี้ เสียของหมด" แตงโมจิบปากจิบคอพูด

"เอ่อ…มุกแต่งแบบนี้ สบายใจกว่าจ้ะ"

"ไม่อยากได้เงินเยอะๆ เหรอ แค่เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว รับรองหนุ่มๆ มองตาเป็นมัน เผลอๆ ถ้าวันไหนโชคดีอาจจะมีผู้ชายกระเป๋าหนักพาไปต่อข้างนอก ได้ค่าตัวเป็นหมื่นเป็นแสน ฉันไม่อยากจะเม้าส์"

"แต่ว่าแบบนั้นมันจะไม่เปลืองตัวไปหน่อยเหรอคะ"

"ลองสักครั้งสิจ๊ะ แล้วจะติดใจ"

"ไม่ดีกว่าจ้ะ" มุกส่ายหน้า

"ลองแบบง่ายๆ ไปก่อนก็ได้ เปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ ฉันรับรองเลยนะได้ทิปเยอะจนนับไม่หวั่นไม่ไหวแน่นอน พี่กลับก่อนนะลูกค้าประจำรออยู่" แตงโมโบกมือให้มุกแล้วเดินจากไป

มุกเดินออกไปยังหน้าผับเพื่อจะโบกแท็กซี่กลับบ้าน พร้อมกับเอาคำพูดของแตงโมมาคิดไปพลางๆ เธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยสักครั้งจะให้เธอไปทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวของตัวเองเธอคงทำไม่ได้ ระหว่างที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่ปรางก็ขับรถมาเทียบข้างๆ เธอ

"มุกขึ้นมาสิ พี่จะไปส่งที่บ้าน"

"ค่ะ พี่ปราง" มุกยิ้มดีใจรีบขึ้นไปนั่งบนรถ

"ทำงานโอเคใช่ไหม มีปัญหาอะไรก็บอกพี่ได้เลยนะ"

"มุกทำได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร"

"ถ้ามีเวลาพี่จะสอนมุกชงเครื่องดื่มนะ จะได้ทำเป็นเวลาที่มีคนหยุดจะได้ทำแทนได้"

"อย่าเลยค่ะ แค่นี้มุกก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ"

"จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น"

"ขอบคุณมากนะคะ ที่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้มุกมาโดยตลอด"

"มุกเป็นน้องสาวพี่นะ พี่ทิ้งไม่ลงหรอก จะคอยอยู่ช่วยเหลือจนกว่ามุกจะมีคนที่มุกรักและรักมุกมาดูแล"

"เหมือนพี่แม็กซ์ที่รักปรางใช่ไหมคะ ถ้าแบบนั้นคงจะหายากหน่อยค่ะ"

"ไม่ต้องมาวกเข้าเรื่องพี่เลย แน่ใจนะว่าเราไม่เคยมีคนที่ชอบเลย"

"มีค่ะ แต่เขามีเจ้าของแล้ว"

"แย่จังเลยนะ ว่าแต่ใครเหรอ"

"มุกไม่อยากจะคิดถึงเขาแล้วค่ะ เพราะมิคสำคัญกว่า"

"นั่นสินะ พี่ก็ลืมคิดข้อนี้ไปเลย"

"สักวันมิคจะต้องรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไร ถึงตอนนั้นเขาจะทำใจยอมรับมันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ "

"อย่าคิดมากสิ ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ อยู่ด้วยกันให้มีความสุขนะ"

"ค่ะ มุกจะพยายามทำให้มิคมีความสุขในทุกๆ วัน หากวันไหนที่จากกันจะได้ไม่เสียดายเวลา" มุกเอ่ยเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวดใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+