มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่งบทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา

Now you are reading มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา

เซียวผิงตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าไป๋เสี่ยวเสียนพูดถึงมู่เซิ่งกับเขาในเวลานี้

แต่ว่า โจวเสว่ฉีที่เขาตามจีบมาตลอดคิดไม่ถึงว่าจะร่วมทานอาหารเย็นด้วยกันกับมู่เซิ่ง เรื่องนี้ทำให้เขาไม่สบายใจอย่างมากจริงๆ เขาพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ไป๋เสี่ยวเสียน แกมีแผนการอะไร?”

“ง่ายมาก ไล่เขาออกไป!”ไป๋เสี่ยวเสียนยิ้มอย่างเยือกเย็น

เซียวผิงขมวดคิ้ว “ไล่ออกไปยังไง?ถ้าหากว่าโจ่งแจ้งเกินไป พวกโจวเสว่ฉีเธอก็ไม่พอใจ”

“วางใจ ฉันมีวิธีของฉัน ถึงตอนนั้น แกคอยร่วมมือกับฉัน รอฉันบอก ก็ตีลูกไปทางฉันก็ได้แล้ว ไป๋เสี่ยวเสียนตระเตรียมมาอย่างดี”

“อันนี้ง่ายๆ”เซียวผิงพยักหน้าตอบตกลง

ไม่นาน การแข่งขันเล่นวิลเลย์บอลก็เริ่มขึ้นแล้ว

ไป๋เสี่ยวเสียนเป็นคนเสิร์ฟบอล ผู้คนเล่นกันคึกคักอย่างเต็มที่ทันที เจียงหว่านและโจวเสว่ฉีทั้งสองก็มองภาพฉากนี้กันอย่างเพลิดเพลิน พูดคุยกัน

ในเวลานี้ ณ ตระกูลเจียง

เจียงมู่หลงเดินออกมาจากคฤหาสน์ ตัวสั่นคลอน ในใจทั้งตื่นเต้น และก็รู้สึกหวาดกลัว

“กลัวอะไรกันล่ะ ถ้าหากคุณไม่ทำแบบนี้ จะได้นั่งบนตำแหน่งของผู้นำตระกูลเจียงเหรอ!”

เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง กำลังปลอบใจตัวเอง “อีกอย่างทำก็ทำไปแล้ว คุณมาเสียใจภายหลังตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วยซ้ำ!คุณไม่เคยได้ยินคนเคยพูดกันเหรอ คิดอยากจะทำเรื่องใหญ่สำเร็จ แม้คนที่ใกล้ชิดที่สุดก็ฆ่าทิ้งซะ! ”

“เรื่องที่คุณต้องทำในตอนนี้ ไม่ใช่หวาดกลัว แต่เป็นการเตรียมให้ดี จะรับช่วงต่อตระกูลเจียงอย่างไร!”

เจียงมู่หลงปลุกเร้าใจให้ตัวเองฮึกเหิมอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากไม่เกิดการคาดหมาย คืนนี้ท่านเจียงสาม จะต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย!

รอหลังจากที่ท่านเจียงสามตาย ตัวเองก็รับช่วงต่อตระกูลเจียง ก็เป็นเรื่องที่เงื่อนไขพร้อม คนเดียวที่สามารถขัดขวางเขาได้ มีเพียงเจียงหว่าน!เขาจะต้องคิดหาทางไล่เจียงหว่านออกจากตระกูลเจียง!

“เหอะๆ เจียงหว่าน คุณแต่งงานกับไอ้เศษสวะ ทำให้ตระกูลเจียงของเราขายขี้หน้านานมากขนาดนั้น ควรไสหัวออกไปตั้งนานแล้ว!”

เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง

มู่เซิ่งไอ้เศษสวะคนนี้ คิดไม่ถึงว่ายังอยากจะให้คุณปู่มอบตำแหน่งของผู้นำตระกูลให้แก่เจียงหว่านอีก เจียงมู่หลงไม่ยินยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน ตำแหน่งของผู้นำตระกูล เป็นของเขาได้แค่คนเดียวเท่านั้น!

และในเวลานี้ มีรถคันหนึ่งจอดที่หน้าของเขา ชายหนุ่มสวมเสื้อกันลมสีดำคนหนึ่ง เดินลมมาจากรถ นึกไม่ถึงว่าเป็นอู๋คุน

“คุุณชายอู๋ ลมอะไรพัดคุณมาได้ล่ะ?”เจียงมู่หลงตกตะลึง เดินเข้าไปพูดจาประจบประแจง

“เป็นลมที่หน้าด้านอย่างแน่นอน เจียงมู่หลง แกติดค้างค่าก่อสร้างสถานที่ฉัน เมื่อไหร่จะคืน?”อู๋คุนกวาดสายตามองเจียงมู่หลงอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง พูดกล่าว

เขาจ่ายค่าก่อสร้างแล้ว อู๋คุนพูด เห็นได้ชัดว่าฉวยโอกาสเอาเปรียบคนที่กำลังเดือดร้อน แต่เจียงมู่หลงไม่กล้าต่อต้าน แม้ว่าเขาเป็นผู้นำตระกูลแล้ว ตำแหน่งที่อยู่ระหว่างอู๋คุน ก็คือคนหนึ่งอยู่บนฟ้า คนหนึ่งอยู่ใต้ดิน

“คุณชายอู๋ การเงินของผมค่อนข้างขัดสน จ่ายเงินคืนให้ไม่ไหว”เจียงมู่หลงยิ้มฝืนพร้อมพูดกล่าว

“พูดจาแม่มึงสิ!”อู๋คุนเตะเจียงมู่หลงลงบนพื้นด้วยเท้าเดียว พูดด่าทออย่างรุนแรง “ช่วงนี้พวกแกกู้เงินพันล้าน กระจายไปทั่วทั้งเจียงหนานอย่างโกลาหล แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ?”

เขาเหยียบไว้ใต้เท้าอย่างไร้ความปรานี เจียงมู่หลงเผยสีหน้าที่เจ็บปวดออกมาทันที พูดว่า : “คุณชายอู๋ ผมไม่มีเงินจริงๆนะ เงินพันหน้าล้านอยู่ในมือของเจียงหว่านทั้งหมด ไม่งั้น คุณไปเอาจากเธอ?”

เจียงหว่าน?

อู๋คุนตัวสั่นไปทั้งตัว

นั่นมันภรรยาของมู่เซิ่งนะ ขอเงินจากเจียงหว่าน งั้นก็เป็นการรนหาที่ตายไม่ใช่เหรอ!อู๋คุนออกแรงใต้เท้าเพิ่มขึ้นแล้ว “หยุดพูดจาไร้สาระกับฉัน รีบเอาเงินมาให้ฉัน ไม่เช่นนั้น ฉันจะไปเอาจากท่านเจียงสาม!”

“ผมไม่มีเงิน ไม่มีเงินจริงๆนะ”เจียงมู่หลงถูกเตะจนเจ็บปวดมาก ตอนนี้เงินทุนเพิ่งจะถูกจัดสรร เขาจะเอาเงินมาจากไหน

จากนิสัยของเจียงมู่หลง ถูกเตะจนอนาถเช่นนี้ จะต้องคืนเงินตั้งนานแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเงินจริงๆ อู๋คุนหยุดเตะแล้ว ถึงยังไงตระกูลอู๋ของพวกเขาก็ไม่ขาดแคลนเงิน เป็นเพราะว่ามู่เซิ่งไม่ชอบขี้หน้าเจียงมู่หลง เพราะงั้นเขาจึงมาหาเรื่องทุกครั้ง สร้างปัญหาให้เจียงมู่หลงเพิ่ม

“เหอะๆ ในเมื่อแกไม่มีเงิน งั้นฉันก็ไปเอาจากท่านเจียงสาม บอกว่าไอ้เศษสวะอย่างแกติดเงินฉัน!”อู๋คุนยิ้มเยาะไม่หยุด เดินก้าวเท้าออกไปจากคฤหาสน์

“คุณ……”

เจียงมู่หลงฟุบลงบนพื้น โมโหอย่างมาก มือที่ชี้ไปยังอู๋คุนสั่นคลอนไม่หยุด

มองดูเงาหลังของอู๋คุน เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง เผชิญหน้ากับการสบประมาทของตระกูลอันดับหนึ่ง เขาโต้คืนกลับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทำได้เพียงเอาความเกลียดแค้นเปลี่ยนไปลงที่เจียงหว่านและมู่เซิ่ง

“อีกนังโสฯ รอผมได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล แกรอความตายเลยนะ!”

เจียงมู่หลงสูดลมหายใจเข้าลึก ปีนไป๋ขึ้นมาจากบนพื้น เข้าไปในรถ ขับออกไป

สิ่งที่เขาต้องทำให้ตอนนี้ ก็คืออยู่บ้าน รอข่าวคราวการตายของท่านเจียงสามอย่างสงบจิตสงบใจ!

บนชายหาด โจวเสว่ฉียังติดใจรสชาติที่แสนอร่อยของซุปนั่น อดไม่ได้ที่จะถอนใจ “เจียงหว่าน ฝีมือการทำอาหารของสามีคุณสุดยอดเลยนะ อิจฉาที่คุณมีลาภปากจริงๆ ”

“ใช่ไง สามีของฉันมีหลายอย่างที่สุดยอดมากนะ!”

ริมฝีปากของเจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มยกขึ้น ภาคภูมิใจมาก

โจวเสว่ฉีตกตะลึง เธอคิดไม่ถึงว่าเจียงหว่านจะประเมินมู่เซิ่งสูงขนาดนี้ มองอีกแวบหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ เกิดข้อสงสัยในใจ นี่มันเป็นความประทับใจที่แตกต่างจากที่พวกลูกเศรษฐีเหล่านั้นพูดกันว่ามู่เซิ่งเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านภรรยาโดยสิ้นเชิงนะ

บนชายหาด การแข่งขันวอลเลย์บอลเข้าสู่ช่วงที่ดุเดือดที่สุดแล้ว ไป๋เสี่ยวเสียนเห็นเช่นนี้ ส่งสายตาให้เซียวผิงทันที

เซียวผิงเข้าใจได้ เสิร์ฟบอลไปยังไป๋เสี่ยวเสียนทันที

“ดูผมนะ!”

ไป๋เสี่ยวเสียนตะโกนเสียงดังลั่น กระโดดขึ้นสูง ใช้แรงทั้งหมดทุบไปบนลูกวอลเลย์บอล เป้าหมายชี้ตรงไปยังกองไฟและเต็นท์ที่อยู่ด้านหลังของเจียงหว่าน!

ปัง!

ลูกวอลเลย์บอลลอยออกไปอย่างรุนแรง

“อ๊า!”

เห็นลูกวอลเลย์บอลลอยมา โจวเสว่ฉีที่เดิมทียังพูดคุยอยู่กับเจียงหว่านตกใจจนร้องลั่น หลบไปข้างๆทันที

วินาทีต่อมา

ลูกวอลเลย์บอลทุบลงบนกองไฟอย่างหนักหน่วง แตกออกเป็นประกายไฟ หลังจากนั้นก็หล่นลงบนเต็นท์อีก เผาเต็นท์ที่มู่เซิ่งกางไว้เรียบร้อยแล้ว

เปลวไฟทะยานสู่ฟ้า ผู้คนตกใจจนอึ้งไปแล้ว

“คุณพระช่วย!”

“ไฟไหม้แล้ว รีบดับไฟสิ!”

“น้ำ ที่ไหนมีน้ำบ้าง?รีบดับไฟ”

ยังคงเป็นเจียงหว่านที่มีการตอบสนองก่อนเพื่อน สาดน้ำไปบนเต็นท์หนึ่งกะละมัง ผู้คนก็ตามเข้าไป ช่วยกันดับไฟคนละไม้คนละมือ แต่ว่าสายไปแล้ว รอหลังจากที่เปลวไฟถูกดับลง เต็นท์นั่นก็ถูกเผาไหม้จนพังไปนานแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย!

และในเวลานี้ มู่เซิ่งเดินกลับมาแล้ว ถือผลไม้กำมือหนึ่ง สายตากวาดมองไปบนเต็นท์อย่างเยือกเย็น

ไป๋เสี่ยวเสียนเห็นมู่เซิ่งกลับมาในเวลานี้ ท่าทางดุร้าย ลนลานทันที เขารู้ว่าเซิ่งมู่สู้หมีสีน้ำตาลตัวหนึ่งได้ ถ้าหากชกต่อยขึ้นมาจริงๆ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เซิ่งโดยสิ้นเชิง

เขาเกิดความคิดขึ้นมาทันที วิ่งไปข้างๆเจียงหว่าน พูดขอโทษ : “เจียงหว่าน ขอโทษจริงๆนะ ฉันตีบอลตื่นเต้นเกินไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะตีพลาดแล้ว ขอโทษจริงๆนะ ทำให้พวกคุณไม่มีที่นอนแล้ว”

“นี่คือไม่ทันระวังตีพลาดแล้ว?”

มู่เวิ่งเดินมาตรงหน้าของไป๋เสี่ยวเสียน มือข้างหนึ่งง้างขึ้นแล้ว

ตำแหน่งเต็นท์ของเขาห่างจากสนามเล่นวอลเลย์บอลไกลมากๆ นอกจากจงใจตีลูกมาที่นี่ จะตีมาโดนเต็นท์ของพวกเขาได้ยังไง?แถมยังตีโดนกองไฟข้างๆพอดีด้วย ถ้าหากบอกว่าไม่จงใจ มู่เซิ่งไม่เชื่อเลย!

“ผม ผม……”

ไป๋เสี่ยวเสียนจะยอมรับได้ยังไง กัดฟันพูดเถียงข้างๆคูๆว่า “มู่เซิ่ง ผมไม่ระวังจริงๆ ถ้าหากแกจะโทษฉันอย่างนี้ งั้นแกก็ลงมือเถอะ!”

พูดจบ เขาก็เผยท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายออกมา

“แกคิดว่าฉันไม่กล้าต่อยแกจริงๆใช่ไหม?”มู่เซิ่งโมโหมาก

“มู่เซิ่ง ไป๋เสี่ยวเสียนไม่ระวังจริงๆ คิดไม่ถึงว่าแกยังอยากจะต่อยเขา?แกก็ช่างเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ!”

ในเวลานี้เซียวผิงเดินออกมาพร้อมพูดกล่าว

“จริงด้วยมู่เซิ่ง ไป๋เสี่ยวเสียนไม่ได้จงใจสักหน่อย แกก็ช่างมันเถอะ”

“เหอะๆ คนบ้านนอกแบบนี้ชอบชวนทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลที่สุด จากที่ฉันดู ไม่ควรให้เขามา”

“จริงด้วย เศษสวะแบบนี้หากไม่มีภรรยา เขาก็ถือว่าเป็นอะไรกันเชียว!”

มู่เซิ่งก็เป็นแค่ผู้ชายที่แต่งงานมาอยู่บ้านภรรยา และไป๋เสี่ยวเสียนกลับว่าเหมือนกันกับพวกเขาถือว่าเป็นคุณชายของตระกูลอันดับสอง เห็นมู่เซิ่งจะต่อยไป๋เสี่ยวเสียน ผู้คนก็ทนมองต่อไปไม่ได้ ต่างก็พูดตำหนิ

ไอ้เศษสวะคนนี้ ช่างกล้าเสียจริง!

“มู่เซิ่ง ไม่งั้นช่างมันเถอะ?”สีหน้าเจียงหว่านแย่มาก แม้ว่าเธอก็รู้สึกว่าไป๋เสี่ยวเสียนจงใจทำ แต่ตอนนี้ ไม่มีหลักฐานที่ทราบอย่างชัดเจนว่าไป๋เสี่ยวเสียนจงใจทำเช่นนี้

มู่เซิ่งพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ถอนกำลังบนมือแล้ว

ไป๋เสี่ยวเสียนเสียงดังตูมหล่นลงบนพื้น แม้ว่าจะปวดก้นมาก แต่ตอนนี้พลิกสถานการณ์กลับมาชนะแล้ว เขาพูดอย่างได้ใจว่า : “ถุ้ย ไอ้เศษสวะอย่างแก ยังคิดอยากจะจัดการฉัน!”

ผู้คนหัวเราะดังลั่น

ตอนนี้มู่เซิ่งแม้แต่เต็นท์ก็ถูกเผาแล้ว ดูว่าคืนนี้เขาจะไปนอนที่ไหนได้!

“มู่เซิ่ง พวกเรากลับกันเถอะ”เจียงหว่านริเริ่มดึงมือของมู่เซิ่ง

“ดึกขนาดนี้แล้ว กลับไปก็ไม่สะดวกมากเลยนะ?ไม่งั้นฉันพูดกับตระกูลหลิ่วสักคำ ให้พวกคุณอยู่ที่ของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนะ?”โจวเสว่ฉีพูดกล่าว

เธอก็รู้สึกว่า ไป๋เสี่ยวเสียนทำแบบนี้มันเกินไปมากจริงๆ

“รอดูเถอะ ยังมีละครสนุกๆไม่ได้ดูเลยนะ”

มู่เซิ่งไม่รีบร้อน เขาประมาณการ ประสิทธิภาพของพิษในเห็ดกำลังจะเริ่มแล้ว เขายังเตรียมที่จะดูละครสนุกๆนะ!

“ละครสนุกเหรอ ละครสนุกๆอะไร?”เจียงหว่านสงสัย ส่ายหน้าพร้อมพูด : “ช่างมันเถอะมู่เซิ่ง ฉันไม่ชอบที่นี่”

ตอนนี้ไม่เพียงถูกเยาะเย้ย แม้แต่เต็นท์ก็ถูกเผาแล้ว นี่ทำให้เจียงหว่านมีความประทับใจที่แย่สุดๆต่อการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว

มู่เซิ่งกลับจับมือของเธอไว้ พูดอย่างจริงจังว่า : “วางใจเถอะ เป็นละครที่สนุกแน่นอน รับรองเธอได้ระบายความโกรธแน่!”

โจวเสว่ฉีก็มองมู่เซิ่งอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าละครสนุกๆที่มู่เซิ่งพูดคืออะไร ตอนนี้เต็นท์ของเขาถูกเผาแล้ว หรือว่ายังต้องอยู่ต่องั้นเหรอ?

เห็นมู่เซิ่งไม่ยอมไป ไป๋เสี่ยวเสียนก็ยิ่งจะหัวเราะเสียงดังขึ้น “มู่เซิ่ง ตอนนี้แกยังไม่ไป คิดอยากจะนอนบนพื้นเหรอ?แต่ว่าก็ถูกนะ ถึงยังไงแกก็คุ้นชินแล้ว”

“ฮ่าๆๆๆ”

ผู้คนมีความสุขกันแล้ว

และในเวลานี้ ……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่งบทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา

Now you are reading มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 122 เต็นท์ถูกเผา

เซียวผิงตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าไป๋เสี่ยวเสียนพูดถึงมู่เซิ่งกับเขาในเวลานี้

แต่ว่า โจวเสว่ฉีที่เขาตามจีบมาตลอดคิดไม่ถึงว่าจะร่วมทานอาหารเย็นด้วยกันกับมู่เซิ่ง เรื่องนี้ทำให้เขาไม่สบายใจอย่างมากจริงๆ เขาพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ไป๋เสี่ยวเสียน แกมีแผนการอะไร?”

“ง่ายมาก ไล่เขาออกไป!”ไป๋เสี่ยวเสียนยิ้มอย่างเยือกเย็น

เซียวผิงขมวดคิ้ว “ไล่ออกไปยังไง?ถ้าหากว่าโจ่งแจ้งเกินไป พวกโจวเสว่ฉีเธอก็ไม่พอใจ”

“วางใจ ฉันมีวิธีของฉัน ถึงตอนนั้น แกคอยร่วมมือกับฉัน รอฉันบอก ก็ตีลูกไปทางฉันก็ได้แล้ว ไป๋เสี่ยวเสียนตระเตรียมมาอย่างดี”

“อันนี้ง่ายๆ”เซียวผิงพยักหน้าตอบตกลง

ไม่นาน การแข่งขันเล่นวิลเลย์บอลก็เริ่มขึ้นแล้ว

ไป๋เสี่ยวเสียนเป็นคนเสิร์ฟบอล ผู้คนเล่นกันคึกคักอย่างเต็มที่ทันที เจียงหว่านและโจวเสว่ฉีทั้งสองก็มองภาพฉากนี้กันอย่างเพลิดเพลิน พูดคุยกัน

ในเวลานี้ ณ ตระกูลเจียง

เจียงมู่หลงเดินออกมาจากคฤหาสน์ ตัวสั่นคลอน ในใจทั้งตื่นเต้น และก็รู้สึกหวาดกลัว

“กลัวอะไรกันล่ะ ถ้าหากคุณไม่ทำแบบนี้ จะได้นั่งบนตำแหน่งของผู้นำตระกูลเจียงเหรอ!”

เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง กำลังปลอบใจตัวเอง “อีกอย่างทำก็ทำไปแล้ว คุณมาเสียใจภายหลังตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วด้วยซ้ำ!คุณไม่เคยได้ยินคนเคยพูดกันเหรอ คิดอยากจะทำเรื่องใหญ่สำเร็จ แม้คนที่ใกล้ชิดที่สุดก็ฆ่าทิ้งซะ! ”

“เรื่องที่คุณต้องทำในตอนนี้ ไม่ใช่หวาดกลัว แต่เป็นการเตรียมให้ดี จะรับช่วงต่อตระกูลเจียงอย่างไร!”

เจียงมู่หลงปลุกเร้าใจให้ตัวเองฮึกเหิมอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากไม่เกิดการคาดหมาย คืนนี้ท่านเจียงสาม จะต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย!

รอหลังจากที่ท่านเจียงสามตาย ตัวเองก็รับช่วงต่อตระกูลเจียง ก็เป็นเรื่องที่เงื่อนไขพร้อม คนเดียวที่สามารถขัดขวางเขาได้ มีเพียงเจียงหว่าน!เขาจะต้องคิดหาทางไล่เจียงหว่านออกจากตระกูลเจียง!

“เหอะๆ เจียงหว่าน คุณแต่งงานกับไอ้เศษสวะ ทำให้ตระกูลเจียงของเราขายขี้หน้านานมากขนาดนั้น ควรไสหัวออกไปตั้งนานแล้ว!”

เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง

มู่เซิ่งไอ้เศษสวะคนนี้ คิดไม่ถึงว่ายังอยากจะให้คุณปู่มอบตำแหน่งของผู้นำตระกูลให้แก่เจียงหว่านอีก เจียงมู่หลงไม่ยินยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน ตำแหน่งของผู้นำตระกูล เป็นของเขาได้แค่คนเดียวเท่านั้น!

และในเวลานี้ มีรถคันหนึ่งจอดที่หน้าของเขา ชายหนุ่มสวมเสื้อกันลมสีดำคนหนึ่ง เดินลมมาจากรถ นึกไม่ถึงว่าเป็นอู๋คุน

“คุุณชายอู๋ ลมอะไรพัดคุณมาได้ล่ะ?”เจียงมู่หลงตกตะลึง เดินเข้าไปพูดจาประจบประแจง

“เป็นลมที่หน้าด้านอย่างแน่นอน เจียงมู่หลง แกติดค้างค่าก่อสร้างสถานที่ฉัน เมื่อไหร่จะคืน?”อู๋คุนกวาดสายตามองเจียงมู่หลงอย่างเยือกเย็นแวบหนึ่ง พูดกล่าว

เขาจ่ายค่าก่อสร้างแล้ว อู๋คุนพูด เห็นได้ชัดว่าฉวยโอกาสเอาเปรียบคนที่กำลังเดือดร้อน แต่เจียงมู่หลงไม่กล้าต่อต้าน แม้ว่าเขาเป็นผู้นำตระกูลแล้ว ตำแหน่งที่อยู่ระหว่างอู๋คุน ก็คือคนหนึ่งอยู่บนฟ้า คนหนึ่งอยู่ใต้ดิน

“คุณชายอู๋ การเงินของผมค่อนข้างขัดสน จ่ายเงินคืนให้ไม่ไหว”เจียงมู่หลงยิ้มฝืนพร้อมพูดกล่าว

“พูดจาแม่มึงสิ!”อู๋คุนเตะเจียงมู่หลงลงบนพื้นด้วยเท้าเดียว พูดด่าทออย่างรุนแรง “ช่วงนี้พวกแกกู้เงินพันล้าน กระจายไปทั่วทั้งเจียงหนานอย่างโกลาหล แกคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ?”

เขาเหยียบไว้ใต้เท้าอย่างไร้ความปรานี เจียงมู่หลงเผยสีหน้าที่เจ็บปวดออกมาทันที พูดว่า : “คุณชายอู๋ ผมไม่มีเงินจริงๆนะ เงินพันหน้าล้านอยู่ในมือของเจียงหว่านทั้งหมด ไม่งั้น คุณไปเอาจากเธอ?”

เจียงหว่าน?

อู๋คุนตัวสั่นไปทั้งตัว

นั่นมันภรรยาของมู่เซิ่งนะ ขอเงินจากเจียงหว่าน งั้นก็เป็นการรนหาที่ตายไม่ใช่เหรอ!อู๋คุนออกแรงใต้เท้าเพิ่มขึ้นแล้ว “หยุดพูดจาไร้สาระกับฉัน รีบเอาเงินมาให้ฉัน ไม่เช่นนั้น ฉันจะไปเอาจากท่านเจียงสาม!”

“ผมไม่มีเงิน ไม่มีเงินจริงๆนะ”เจียงมู่หลงถูกเตะจนเจ็บปวดมาก ตอนนี้เงินทุนเพิ่งจะถูกจัดสรร เขาจะเอาเงินมาจากไหน

จากนิสัยของเจียงมู่หลง ถูกเตะจนอนาถเช่นนี้ จะต้องคืนเงินตั้งนานแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีเงินจริงๆ อู๋คุนหยุดเตะแล้ว ถึงยังไงตระกูลอู๋ของพวกเขาก็ไม่ขาดแคลนเงิน เป็นเพราะว่ามู่เซิ่งไม่ชอบขี้หน้าเจียงมู่หลง เพราะงั้นเขาจึงมาหาเรื่องทุกครั้ง สร้างปัญหาให้เจียงมู่หลงเพิ่ม

“เหอะๆ ในเมื่อแกไม่มีเงิน งั้นฉันก็ไปเอาจากท่านเจียงสาม บอกว่าไอ้เศษสวะอย่างแกติดเงินฉัน!”อู๋คุนยิ้มเยาะไม่หยุด เดินก้าวเท้าออกไปจากคฤหาสน์

“คุณ……”

เจียงมู่หลงฟุบลงบนพื้น โมโหอย่างมาก มือที่ชี้ไปยังอู๋คุนสั่นคลอนไม่หยุด

มองดูเงาหลังของอู๋คุน เจียงมู่หลงขบเคี่ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง เผชิญหน้ากับการสบประมาทของตระกูลอันดับหนึ่ง เขาโต้คืนกลับไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทำได้เพียงเอาความเกลียดแค้นเปลี่ยนไปลงที่เจียงหว่านและมู่เซิ่ง

“อีกนังโสฯ รอผมได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล แกรอความตายเลยนะ!”

เจียงมู่หลงสูดลมหายใจเข้าลึก ปีนไป๋ขึ้นมาจากบนพื้น เข้าไปในรถ ขับออกไป

สิ่งที่เขาต้องทำให้ตอนนี้ ก็คืออยู่บ้าน รอข่าวคราวการตายของท่านเจียงสามอย่างสงบจิตสงบใจ!

บนชายหาด โจวเสว่ฉียังติดใจรสชาติที่แสนอร่อยของซุปนั่น อดไม่ได้ที่จะถอนใจ “เจียงหว่าน ฝีมือการทำอาหารของสามีคุณสุดยอดเลยนะ อิจฉาที่คุณมีลาภปากจริงๆ ”

“ใช่ไง สามีของฉันมีหลายอย่างที่สุดยอดมากนะ!”

ริมฝีปากของเจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะยิ้มยกขึ้น ภาคภูมิใจมาก

โจวเสว่ฉีตกตะลึง เธอคิดไม่ถึงว่าเจียงหว่านจะประเมินมู่เซิ่งสูงขนาดนี้ มองอีกแวบหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ เกิดข้อสงสัยในใจ นี่มันเป็นความประทับใจที่แตกต่างจากที่พวกลูกเศรษฐีเหล่านั้นพูดกันว่ามู่เซิ่งเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงแต่งงานเข้ามาอยู่ในบ้านภรรยาโดยสิ้นเชิงนะ

บนชายหาด การแข่งขันวอลเลย์บอลเข้าสู่ช่วงที่ดุเดือดที่สุดแล้ว ไป๋เสี่ยวเสียนเห็นเช่นนี้ ส่งสายตาให้เซียวผิงทันที

เซียวผิงเข้าใจได้ เสิร์ฟบอลไปยังไป๋เสี่ยวเสียนทันที

“ดูผมนะ!”

ไป๋เสี่ยวเสียนตะโกนเสียงดังลั่น กระโดดขึ้นสูง ใช้แรงทั้งหมดทุบไปบนลูกวอลเลย์บอล เป้าหมายชี้ตรงไปยังกองไฟและเต็นท์ที่อยู่ด้านหลังของเจียงหว่าน!

ปัง!

ลูกวอลเลย์บอลลอยออกไปอย่างรุนแรง

“อ๊า!”

เห็นลูกวอลเลย์บอลลอยมา โจวเสว่ฉีที่เดิมทียังพูดคุยอยู่กับเจียงหว่านตกใจจนร้องลั่น หลบไปข้างๆทันที

วินาทีต่อมา

ลูกวอลเลย์บอลทุบลงบนกองไฟอย่างหนักหน่วง แตกออกเป็นประกายไฟ หลังจากนั้นก็หล่นลงบนเต็นท์อีก เผาเต็นท์ที่มู่เซิ่งกางไว้เรียบร้อยแล้ว

เปลวไฟทะยานสู่ฟ้า ผู้คนตกใจจนอึ้งไปแล้ว

“คุณพระช่วย!”

“ไฟไหม้แล้ว รีบดับไฟสิ!”

“น้ำ ที่ไหนมีน้ำบ้าง?รีบดับไฟ”

ยังคงเป็นเจียงหว่านที่มีการตอบสนองก่อนเพื่อน สาดน้ำไปบนเต็นท์หนึ่งกะละมัง ผู้คนก็ตามเข้าไป ช่วยกันดับไฟคนละไม้คนละมือ แต่ว่าสายไปแล้ว รอหลังจากที่เปลวไฟถูกดับลง เต็นท์นั่นก็ถูกเผาไหม้จนพังไปนานแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย!

และในเวลานี้ มู่เซิ่งเดินกลับมาแล้ว ถือผลไม้กำมือหนึ่ง สายตากวาดมองไปบนเต็นท์อย่างเยือกเย็น

ไป๋เสี่ยวเสียนเห็นมู่เซิ่งกลับมาในเวลานี้ ท่าทางดุร้าย ลนลานทันที เขารู้ว่าเซิ่งมู่สู้หมีสีน้ำตาลตัวหนึ่งได้ ถ้าหากชกต่อยขึ้นมาจริงๆ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เซิ่งโดยสิ้นเชิง

เขาเกิดความคิดขึ้นมาทันที วิ่งไปข้างๆเจียงหว่าน พูดขอโทษ : “เจียงหว่าน ขอโทษจริงๆนะ ฉันตีบอลตื่นเต้นเกินไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะตีพลาดแล้ว ขอโทษจริงๆนะ ทำให้พวกคุณไม่มีที่นอนแล้ว”

“นี่คือไม่ทันระวังตีพลาดแล้ว?”

มู่เวิ่งเดินมาตรงหน้าของไป๋เสี่ยวเสียน มือข้างหนึ่งง้างขึ้นแล้ว

ตำแหน่งเต็นท์ของเขาห่างจากสนามเล่นวอลเลย์บอลไกลมากๆ นอกจากจงใจตีลูกมาที่นี่ จะตีมาโดนเต็นท์ของพวกเขาได้ยังไง?แถมยังตีโดนกองไฟข้างๆพอดีด้วย ถ้าหากบอกว่าไม่จงใจ มู่เซิ่งไม่เชื่อเลย!

“ผม ผม……”

ไป๋เสี่ยวเสียนจะยอมรับได้ยังไง กัดฟันพูดเถียงข้างๆคูๆว่า “มู่เซิ่ง ผมไม่ระวังจริงๆ ถ้าหากแกจะโทษฉันอย่างนี้ งั้นแกก็ลงมือเถอะ!”

พูดจบ เขาก็เผยท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายออกมา

“แกคิดว่าฉันไม่กล้าต่อยแกจริงๆใช่ไหม?”มู่เซิ่งโมโหมาก

“มู่เซิ่ง ไป๋เสี่ยวเสียนไม่ระวังจริงๆ คิดไม่ถึงว่าแกยังอยากจะต่อยเขา?แกก็ช่างเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ!”

ในเวลานี้เซียวผิงเดินออกมาพร้อมพูดกล่าว

“จริงด้วยมู่เซิ่ง ไป๋เสี่ยวเสียนไม่ได้จงใจสักหน่อย แกก็ช่างมันเถอะ”

“เหอะๆ คนบ้านนอกแบบนี้ชอบชวนทะเลาะแบบไม่มีเหตุผลที่สุด จากที่ฉันดู ไม่ควรให้เขามา”

“จริงด้วย เศษสวะแบบนี้หากไม่มีภรรยา เขาก็ถือว่าเป็นอะไรกันเชียว!”

มู่เซิ่งก็เป็นแค่ผู้ชายที่แต่งงานมาอยู่บ้านภรรยา และไป๋เสี่ยวเสียนกลับว่าเหมือนกันกับพวกเขาถือว่าเป็นคุณชายของตระกูลอันดับสอง เห็นมู่เซิ่งจะต่อยไป๋เสี่ยวเสียน ผู้คนก็ทนมองต่อไปไม่ได้ ต่างก็พูดตำหนิ

ไอ้เศษสวะคนนี้ ช่างกล้าเสียจริง!

“มู่เซิ่ง ไม่งั้นช่างมันเถอะ?”สีหน้าเจียงหว่านแย่มาก แม้ว่าเธอก็รู้สึกว่าไป๋เสี่ยวเสียนจงใจทำ แต่ตอนนี้ ไม่มีหลักฐานที่ทราบอย่างชัดเจนว่าไป๋เสี่ยวเสียนจงใจทำเช่นนี้

มู่เซิ่งพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ถอนกำลังบนมือแล้ว

ไป๋เสี่ยวเสียนเสียงดังตูมหล่นลงบนพื้น แม้ว่าจะปวดก้นมาก แต่ตอนนี้พลิกสถานการณ์กลับมาชนะแล้ว เขาพูดอย่างได้ใจว่า : “ถุ้ย ไอ้เศษสวะอย่างแก ยังคิดอยากจะจัดการฉัน!”

ผู้คนหัวเราะดังลั่น

ตอนนี้มู่เซิ่งแม้แต่เต็นท์ก็ถูกเผาแล้ว ดูว่าคืนนี้เขาจะไปนอนที่ไหนได้!

“มู่เซิ่ง พวกเรากลับกันเถอะ”เจียงหว่านริเริ่มดึงมือของมู่เซิ่ง

“ดึกขนาดนี้แล้ว กลับไปก็ไม่สะดวกมากเลยนะ?ไม่งั้นฉันพูดกับตระกูลหลิ่วสักคำ ให้พวกคุณอยู่ที่ของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนะ?”โจวเสว่ฉีพูดกล่าว

เธอก็รู้สึกว่า ไป๋เสี่ยวเสียนทำแบบนี้มันเกินไปมากจริงๆ

“รอดูเถอะ ยังมีละครสนุกๆไม่ได้ดูเลยนะ”

มู่เซิ่งไม่รีบร้อน เขาประมาณการ ประสิทธิภาพของพิษในเห็ดกำลังจะเริ่มแล้ว เขายังเตรียมที่จะดูละครสนุกๆนะ!

“ละครสนุกเหรอ ละครสนุกๆอะไร?”เจียงหว่านสงสัย ส่ายหน้าพร้อมพูด : “ช่างมันเถอะมู่เซิ่ง ฉันไม่ชอบที่นี่”

ตอนนี้ไม่เพียงถูกเยาะเย้ย แม้แต่เต็นท์ก็ถูกเผาแล้ว นี่ทำให้เจียงหว่านมีความประทับใจที่แย่สุดๆต่อการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้ว

มู่เซิ่งกลับจับมือของเธอไว้ พูดอย่างจริงจังว่า : “วางใจเถอะ เป็นละครที่สนุกแน่นอน รับรองเธอได้ระบายความโกรธแน่!”

โจวเสว่ฉีก็มองมู่เซิ่งอย่างประหลาดใจแวบหนึ่ง ไม่รู้ว่าละครสนุกๆที่มู่เซิ่งพูดคืออะไร ตอนนี้เต็นท์ของเขาถูกเผาแล้ว หรือว่ายังต้องอยู่ต่องั้นเหรอ?

เห็นมู่เซิ่งไม่ยอมไป ไป๋เสี่ยวเสียนก็ยิ่งจะหัวเราะเสียงดังขึ้น “มู่เซิ่ง ตอนนี้แกยังไม่ไป คิดอยากจะนอนบนพื้นเหรอ?แต่ว่าก็ถูกนะ ถึงยังไงแกก็คุ้นชินแล้ว”

“ฮ่าๆๆๆ”

ผู้คนมีความสุขกันแล้ว

และในเวลานี้ ……

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+