มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่งบทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน

Now you are reading มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน

จนถึงช่วงค่ำ พวกอู๋คุนยังทำงานจนเหงื่อแตกเต็มตัว ถึงพวกเขาแต่ละคนเหนื่อยจนมือทั้งสองข้างสั่นไปหมด แต่ก็ยังทุ่มแรงทั้งหมด ขนอิฐมาไว้บนรถเข็นปูน

“อู๋คุน เราไปก่อนนะ ถ้านายรู้สึกเหนื่อย ก็รีบกลับเถอะ” มู่เซิ่งเห็นท้องฟ้ามืดแล้วจึงเอ่ยขึ้น

เป็นลูกคนรวยที่ผิวบอบบาง ทำงานกลางแดดได้นานขนาดนี้ ขนาดมู่เซิ่งยังรู้สึกตกใจในความขยันของอีกฝ่าย

ใครจะไปรู้ว่าเมื่ออู๋คุนได้ยินคำนี้ เขาดีใจเป็นลิงโลด เช็ดหน้าผากที่มีเหงื่อเต็มไปหมด รีบขนอิฐไปเรียงไว้บนรถเข็นปูน พูดด้วยความฮึกเหิมว่า “คุณชายมู่ ผมไม่เหนื่อยครับ!”

เจียงหว่านเห็นแล้วถึงกับอ้าปากค้าง

“มู่เซิ่ง นี่คืออู๋คุน ลูกชายคนเดียวของตระกูลอู๋จริงเหรอ” เจียงหว่านนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ยังตั้งสติไม่ได้ เธอถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“ตอนนี้ใช่ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นลูกชายคนเดียวหรือเปล่า คุณต้องถามอู๋หยู่เหวิน” มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

เจียงหว่านทำปากเบ้ เธอเคยติดต่อกับตระกูลอู๋อยู่ครั้งหนึ่ง จำได้อยู่แล้วว่าอู๋คุนเป็นใคร สาเหตุที่เธอถามแบบนี้ เพราะสงสัยว่ามู่เซิ่งรู้จักอู๋คุนได้ยังไง อีกทั้งยังสามารถทำให้อู๋คุน ทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้

แต่ดูท่ามู่เซิ่งแล้ว ถึงเธอถามไป ก็คงไม่ได้คำตอบอะไร

“หึ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันต้องค้นพบตัวตนที่แท้จริงของนาย” เจียงหว่านส่งเสียงหึอย่างเย็นชา

มู่เซิ่งหัวเราะ ไม่ได้สนใจอะไร เขาพูดว่า “อาหารที่บ้านจะหมดแล้ว ตอนนี้คุณจะกลับบ้านไหม หรือจะให้ผมลงข้างทาง จะได้ไปซื้ออาหารในตลาด”

“แบบนี้นายก็ลำบากสิ ยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำ ไปกับนายดีกว่า” เจียงหว่านเอ่ยขึ้น “นายทำอาหารทุกวันก็เหนื่อยแย่แล้ว คืนนี้ให้ฉันทำละกัน”

“ได้สิ”

สามปีมานี้ มู่เซิ่งไปซื้ออาหารที่ตลาดคนเดียวตลอด ครั้งนี้ทั้งสองคนไปด้วยกัน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ครั้งแรก เขาชะงักไปแล้วพูดต่อ “อีกทั้งนานขนาดนี้แล้ว ผมยังไม่เคยชิมอาหารฝีมือคุณเลย”

“งั้นนายลาภปากแล้วล่ะ ฝีมือการทำอาหารของฉันไม่ธรรมดาเลยนะ” เจียงหว่านเหวี่ยงหมัดไปมา ความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“ฮ่าๆๆ งั้นผมเป็นผู้ช่วยคุณเอง”

มู่เซิ่งพูดอย่างคาดหวัง

ทั้งสองขับรถมายังตลาดบริเวณใกล้ๆ รถคันละล้านกว่าจอดลงหน้าทางเข้า ดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนไม่น้อย

มู่เซิ่งคุ้นเคยกับตลาดแห่งนี้มาก อีกทั้งแม่ค้าหลายร้านเป็นฝ่ายเอ่ยทักมู่เซิ่งด้วย ภาพนี้ทำให้เจียงหว่านสงสัยขึ้นในใจ ก่อนหน้านี้ไม่นานมู่เซิ่งยังดุดันมาก แต่ตอนนี้กลับเป็นกันเองสนิทสนมกับพ่อค้าแม่ค้า ความแตกต่างของฐานะ ทำให้ไม่เข้าใจจริงๆ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ห้องรับแขกว่างเปล่าไม่มีใครสักคน จ้าวหลินน่าจะออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา

มู่เซิ่งกำลังจะเอาพวกผักไปล้างในห้องครัว อีกเดี๋ยวเจียงหว่านจะได้หั่นสะดวก

ขณะนั้นเอง เจียงหว่านรับโทรศัพท์ ไม่รู้คนที่โทรมาพูดอะไร แต่สีหน้าเจียงหว่านไม่ค่อยสู้ดีนัก

เธอถอนหายใจแล้วพูดกับมู่เซิ่งว่า “มู่เซิ่ง ไม่ต้องล้างผักแล้ว ใส่เข้าไปในตู้เย็นก่อน”

“มีอะไรเหรอ”

มู่เซิ่งมานั่งกับเจียงหว่าน

“แม่ฉันโทรมา เธอบอกว่าคืนนี้ไปเล่นไพ่ข้างนอก เจอครอบครัวของเหอโก๋ชิน เลยไปกินข้าวกับพวกเขา ยังโทรเรียกฉันไปด้วย” เจียงหว่านอธิบาย

เหอโก๋ชินเป็นเพื่อนเก่าของจ้าวหลิน เมื่อก่อนทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมาก เหอหรงลูกชายของเหอโก๋ชินชอบเจียงหว่าน จนกระทั่งมู่เซิ่งแต่งเข้ามาในตระกูลเจียง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็เริ่มไม่ลงรอยกัน

เหอโก๋ชินเคยพาลูกชายเขามาที่ตระกูลเจียงหลายครั้ง อยากไล่มู่เซิ่งออกไป แต่ตอนนั้นมู่เซิงอดทนไม่พูดอะไรสักคำ เหอโก๋ชินทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงกลับไป

ครั้งนี้ได้ยินว่าเหอหรงลูกชายเขา ได้เลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือน ได้เงินมาก้อนใหญ่ เปลี่ยนรถคันใหม่ที่ดีกว่า และซื้อบ้านใหม่ด้วย ดังนั้นจึงเรียกจ้าวหลินไปเยี่ยมชมบ้านพวกเขา

มู่เซิ่งกลับไม่สะทกสะท้าน เขาพยักหน้าพูดว่า “งั้นก็ไปเถอะ ผมอยู่บ้านก็ได้”

“ได้ยังไงล่ะ ทิ้งนายไว้ที่บ้านคนเดียวอีกแล้ว”

เจียงหว่านไม่อยากทำแบบนี้ ครั้งที่แล้วครอบครัวเธอไปทำสปา ทิ้งมู่เซิ่งไว้ที่บ้านคนเดียว หลังจากนั้นยังรบกวนให้เขาช่วย นี่ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ทิ้งให้มู่เซิ่งอยู่บ้านคนเดียว

“ในเมื่อคุณคิดอย่างนั้น งั้นผมไปกับคุณก็ได้” เห็นเจียงหว่านไม่ยอม มู่เซิ่งจึงพูดด้วยเสียงอ่อนโยน

“แต่……”

เจียงหว่านอึ้งไป

เธอรู้ธาตุแท้ของเหอโก๋ชินนานแล้ว ตอนนี้ตั้งใจเชิญจ้าวหลินไปบ้านพวกเขา นอกจากต้องการอวดแล้ว เธอก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออก

อีกทั้งครั้งนี้ เหอโก๋ชินยังเชิญเพื่อนอีกไม่น้อย ถ้ามู่เซิ่งไปต้องโดนคนอื่นวิจารณ์แน่นอน

“ไปกันเถอะ” มู่เซิ่งจับมือเจียงหว่านขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แค่คุณไม่เห็นผมเป็นไอ้ขยะ บนโลกนี้ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มองผมแบบนี้”

“ฉันจะเห็นนายเป็นไอ้ขยะได้ยังไงล่ะ” เจียงหว่านส่ายหน้าอย่างตะลีตะลาน

“ในเมื่อไม่ได้มองแบบนั้น งั้นไปดูกันเถอะ” มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

สุดท้ายเจียงหว่านก็พยักหน้า

เธอรู้ดีเช่นกัน ถ้าไปอยากมากก็แค่โดนคนโอ้อวดใส่ แต่ถ้าไม่ไป เดาว่าหลังจากจ้าวหลินกลับมา ไม่แน่อาจอาละวาดในห้องก็ได้

ไม่นาน เจียงหว่านขับรถมาถึงเขตหมู่บ้านของเหอโก๋ชิน

เขตหมู่บ้านของพวกเขาสภาพแวดล้อมดีมาก เป็นการก่อสร้างของบริษัทมู่หราน เขตหมู่บ้านที่เจียงหว่านเพิ่งรับช่วงตกแต่งเสร็จเรียบร้อย ราคาบ้านตารางเมตรละสองหมื่นกว่า ส่วนพวกตึกตารางเมตรละสามหมื่นกว่า ราคานี้สำหรับเมืองเจียงหนาน นอกจากพวกคฤหาสน์แล้ว นี่นับว่าเป็นเขตหมู่บ้านระดับไฮโซแล้ว

รปภ.หน้าประตูก็ตรวจรถอย่างจริงจัง หลังจากเห็นรถหรูราคาหลักล้านของเจียงหว่าน ก็รีบให้ผ่านไปทันที

ตอนมาถึงบ้านเหอโก๋ชิน มีแขกมากันเยอะแล้ว จ้าวหลินกำลังเล่นไพ่อยู่ในห้องรับแขก พูดคุยอย่างออกรส

“จ้าวหลิน ลูกสาวเธอมาแล้ว เธอพาลูกสาวเดินชมสักรอบไหม ฮ่าๆ บ้านไม่ใหญ่นัก นั่งตามสบายเลย” เหอโก๋ชินหยิบไพ่ออกมาหนึ่งใบ แล้วเอ่ยขึ้น

“พื้นที่สองร้อยตารางเมตรถือว่าไม่เล็กแล้ว” จ้าวหลินพูดอย่างอิจฉา

เธอหันมามองมู่เซิ่งที่ยืนอยู่ข้างเจียงหว่าน เปลี่ยนสีหน้าโดยอัตโนมัติ จากนั้นพูดว่า “ไอ้ขยะ ทำไมนายถึงตามมาด้วย”

“แม่ หนูให้เขามาด้วยกัน” เจียงหว่านมายืนขวางหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“ลูกเขยเธอเหรอ”

เหอโก๋ชินมองมู่เซิ่งแวบหนึ่ง นัยน์ตามีความขยะแขยง ตอนนั้นลูกชายเขาชอบเจียงหว่านมาก อีกทั้งเขายังพอใจทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเจียงหว่าน สุดท้ายโดนไอ้ขยะเข้ามาก้าวก่ายซะงั้น

“เฮ้อ ฉันก็อาศัยที่ลูกชายได้เลื่อนตำแหน่ง ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ก่อนหน้านี้ลูกชายยังซื้อรถดีๆ ให้ฉันด้วย น่าเสียดายที่เขางานยุ่งมาก ทำแต่งาน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีแฟนเลย”

เหอโก๋ชินพูดอย่างราบเรียบ แอบมีความในใจแฝงอยู่

“พอเทียบกันแบบนี้ จ้าวหลิน ตอนนี้เธอเสียใจไหม” มีแขกหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น

“ก็เพราะเจียงเจิ้งจื๋อดึงดันจะเอาไอ้ขยะนี่!”

จ้าวหลินพูดอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าโมโหไม่น้อย

“เฮ้อ อาจเป็นเพราะเจียงเจิ้งจื๋อสายตาไม่ค่อยดีน่ะสิ”

“ใช่ ฉันว่าเหอหรงกับเจียงหว่านเป็นคู่ที่ฟ้าดินสร้างมาเลยนะ”

“จะว่าไปแล้ว ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงอย่างนาย มีงานทำหรือเปล่า คงไม่ได้เป็นสามีที่ทำงานบ้านใช่ไหม”

แขกสองสามคนพูดเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า เสียงหัวเราะดังขึ้นในห้องรับแขกไม่หยุด

จ้าวหลินหน้าดำหน้าแดง ถลึงตาใส่มู่เซิ่งอย่างน่ากลัว ราวกับกำลังตำหนิเขาว่ามาทำไม

ขณะที่เจียงหว่านกำลังจะพูดว่ากลับ จู่ๆ มู่เซิ่งพูดออกมาต่อหน้าทุกคนว่า “ลุงเหอ ผมก็เพิ่งซื้อบ้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ตกแต่งเรียบร้อยแล้วด้วย ถ้ามีโอกาสเรียนเชิญพวกคุณมาเที่ยวที่บ้านเราด้วยนะครับ”

มู่เซิ่งพูดจบ

คนรอบๆ พากันอึ้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่งบทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน

Now you are reading มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง Chapter บทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 85 ซื้อบ้านใหม่เหมือนกัน

จนถึงช่วงค่ำ พวกอู๋คุนยังทำงานจนเหงื่อแตกเต็มตัว ถึงพวกเขาแต่ละคนเหนื่อยจนมือทั้งสองข้างสั่นไปหมด แต่ก็ยังทุ่มแรงทั้งหมด ขนอิฐมาไว้บนรถเข็นปูน

“อู๋คุน เราไปก่อนนะ ถ้านายรู้สึกเหนื่อย ก็รีบกลับเถอะ” มู่เซิ่งเห็นท้องฟ้ามืดแล้วจึงเอ่ยขึ้น

เป็นลูกคนรวยที่ผิวบอบบาง ทำงานกลางแดดได้นานขนาดนี้ ขนาดมู่เซิ่งยังรู้สึกตกใจในความขยันของอีกฝ่าย

ใครจะไปรู้ว่าเมื่ออู๋คุนได้ยินคำนี้ เขาดีใจเป็นลิงโลด เช็ดหน้าผากที่มีเหงื่อเต็มไปหมด รีบขนอิฐไปเรียงไว้บนรถเข็นปูน พูดด้วยความฮึกเหิมว่า “คุณชายมู่ ผมไม่เหนื่อยครับ!”

เจียงหว่านเห็นแล้วถึงกับอ้าปากค้าง

“มู่เซิ่ง นี่คืออู๋คุน ลูกชายคนเดียวของตระกูลอู๋จริงเหรอ” เจียงหว่านนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ยังตั้งสติไม่ได้ เธอถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“ตอนนี้ใช่ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นลูกชายคนเดียวหรือเปล่า คุณต้องถามอู๋หยู่เหวิน” มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

เจียงหว่านทำปากเบ้ เธอเคยติดต่อกับตระกูลอู๋อยู่ครั้งหนึ่ง จำได้อยู่แล้วว่าอู๋คุนเป็นใคร สาเหตุที่เธอถามแบบนี้ เพราะสงสัยว่ามู่เซิ่งรู้จักอู๋คุนได้ยังไง อีกทั้งยังสามารถทำให้อู๋คุน ทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้

แต่ดูท่ามู่เซิ่งแล้ว ถึงเธอถามไป ก็คงไม่ได้คำตอบอะไร

“หึ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันต้องค้นพบตัวตนที่แท้จริงของนาย” เจียงหว่านส่งเสียงหึอย่างเย็นชา

มู่เซิ่งหัวเราะ ไม่ได้สนใจอะไร เขาพูดว่า “อาหารที่บ้านจะหมดแล้ว ตอนนี้คุณจะกลับบ้านไหม หรือจะให้ผมลงข้างทาง จะได้ไปซื้ออาหารในตลาด”

“แบบนี้นายก็ลำบากสิ ยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำ ไปกับนายดีกว่า” เจียงหว่านเอ่ยขึ้น “นายทำอาหารทุกวันก็เหนื่อยแย่แล้ว คืนนี้ให้ฉันทำละกัน”

“ได้สิ”

สามปีมานี้ มู่เซิ่งไปซื้ออาหารที่ตลาดคนเดียวตลอด ครั้งนี้ทั้งสองคนไปด้วยกัน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ครั้งแรก เขาชะงักไปแล้วพูดต่อ “อีกทั้งนานขนาดนี้แล้ว ผมยังไม่เคยชิมอาหารฝีมือคุณเลย”

“งั้นนายลาภปากแล้วล่ะ ฝีมือการทำอาหารของฉันไม่ธรรมดาเลยนะ” เจียงหว่านเหวี่ยงหมัดไปมา ความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“ฮ่าๆๆ งั้นผมเป็นผู้ช่วยคุณเอง”

มู่เซิ่งพูดอย่างคาดหวัง

ทั้งสองขับรถมายังตลาดบริเวณใกล้ๆ รถคันละล้านกว่าจอดลงหน้าทางเข้า ดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนไม่น้อย

มู่เซิ่งคุ้นเคยกับตลาดแห่งนี้มาก อีกทั้งแม่ค้าหลายร้านเป็นฝ่ายเอ่ยทักมู่เซิ่งด้วย ภาพนี้ทำให้เจียงหว่านสงสัยขึ้นในใจ ก่อนหน้านี้ไม่นานมู่เซิ่งยังดุดันมาก แต่ตอนนี้กลับเป็นกันเองสนิทสนมกับพ่อค้าแม่ค้า ความแตกต่างของฐานะ ทำให้ไม่เข้าใจจริงๆ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ห้องรับแขกว่างเปล่าไม่มีใครสักคน จ้าวหลินน่าจะออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา

มู่เซิ่งกำลังจะเอาพวกผักไปล้างในห้องครัว อีกเดี๋ยวเจียงหว่านจะได้หั่นสะดวก

ขณะนั้นเอง เจียงหว่านรับโทรศัพท์ ไม่รู้คนที่โทรมาพูดอะไร แต่สีหน้าเจียงหว่านไม่ค่อยสู้ดีนัก

เธอถอนหายใจแล้วพูดกับมู่เซิ่งว่า “มู่เซิ่ง ไม่ต้องล้างผักแล้ว ใส่เข้าไปในตู้เย็นก่อน”

“มีอะไรเหรอ”

มู่เซิ่งมานั่งกับเจียงหว่าน

“แม่ฉันโทรมา เธอบอกว่าคืนนี้ไปเล่นไพ่ข้างนอก เจอครอบครัวของเหอโก๋ชิน เลยไปกินข้าวกับพวกเขา ยังโทรเรียกฉันไปด้วย” เจียงหว่านอธิบาย

เหอโก๋ชินเป็นเพื่อนเก่าของจ้าวหลิน เมื่อก่อนทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมาก เหอหรงลูกชายของเหอโก๋ชินชอบเจียงหว่าน จนกระทั่งมู่เซิ่งแต่งเข้ามาในตระกูลเจียง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็เริ่มไม่ลงรอยกัน

เหอโก๋ชินเคยพาลูกชายเขามาที่ตระกูลเจียงหลายครั้ง อยากไล่มู่เซิ่งออกไป แต่ตอนนั้นมู่เซิงอดทนไม่พูดอะไรสักคำ เหอโก๋ชินทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงกลับไป

ครั้งนี้ได้ยินว่าเหอหรงลูกชายเขา ได้เลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือน ได้เงินมาก้อนใหญ่ เปลี่ยนรถคันใหม่ที่ดีกว่า และซื้อบ้านใหม่ด้วย ดังนั้นจึงเรียกจ้าวหลินไปเยี่ยมชมบ้านพวกเขา

มู่เซิ่งกลับไม่สะทกสะท้าน เขาพยักหน้าพูดว่า “งั้นก็ไปเถอะ ผมอยู่บ้านก็ได้”

“ได้ยังไงล่ะ ทิ้งนายไว้ที่บ้านคนเดียวอีกแล้ว”

เจียงหว่านไม่อยากทำแบบนี้ ครั้งที่แล้วครอบครัวเธอไปทำสปา ทิ้งมู่เซิ่งไว้ที่บ้านคนเดียว หลังจากนั้นยังรบกวนให้เขาช่วย นี่ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ทิ้งให้มู่เซิ่งอยู่บ้านคนเดียว

“ในเมื่อคุณคิดอย่างนั้น งั้นผมไปกับคุณก็ได้” เห็นเจียงหว่านไม่ยอม มู่เซิ่งจึงพูดด้วยเสียงอ่อนโยน

“แต่……”

เจียงหว่านอึ้งไป

เธอรู้ธาตุแท้ของเหอโก๋ชินนานแล้ว ตอนนี้ตั้งใจเชิญจ้าวหลินไปบ้านพวกเขา นอกจากต้องการอวดแล้ว เธอก็คิดเหตุผลอื่นไม่ออก

อีกทั้งครั้งนี้ เหอโก๋ชินยังเชิญเพื่อนอีกไม่น้อย ถ้ามู่เซิ่งไปต้องโดนคนอื่นวิจารณ์แน่นอน

“ไปกันเถอะ” มู่เซิ่งจับมือเจียงหว่านขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แค่คุณไม่เห็นผมเป็นไอ้ขยะ บนโลกนี้ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มองผมแบบนี้”

“ฉันจะเห็นนายเป็นไอ้ขยะได้ยังไงล่ะ” เจียงหว่านส่ายหน้าอย่างตะลีตะลาน

“ในเมื่อไม่ได้มองแบบนั้น งั้นไปดูกันเถอะ” มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

สุดท้ายเจียงหว่านก็พยักหน้า

เธอรู้ดีเช่นกัน ถ้าไปอยากมากก็แค่โดนคนโอ้อวดใส่ แต่ถ้าไม่ไป เดาว่าหลังจากจ้าวหลินกลับมา ไม่แน่อาจอาละวาดในห้องก็ได้

ไม่นาน เจียงหว่านขับรถมาถึงเขตหมู่บ้านของเหอโก๋ชิน

เขตหมู่บ้านของพวกเขาสภาพแวดล้อมดีมาก เป็นการก่อสร้างของบริษัทมู่หราน เขตหมู่บ้านที่เจียงหว่านเพิ่งรับช่วงตกแต่งเสร็จเรียบร้อย ราคาบ้านตารางเมตรละสองหมื่นกว่า ส่วนพวกตึกตารางเมตรละสามหมื่นกว่า ราคานี้สำหรับเมืองเจียงหนาน นอกจากพวกคฤหาสน์แล้ว นี่นับว่าเป็นเขตหมู่บ้านระดับไฮโซแล้ว

รปภ.หน้าประตูก็ตรวจรถอย่างจริงจัง หลังจากเห็นรถหรูราคาหลักล้านของเจียงหว่าน ก็รีบให้ผ่านไปทันที

ตอนมาถึงบ้านเหอโก๋ชิน มีแขกมากันเยอะแล้ว จ้าวหลินกำลังเล่นไพ่อยู่ในห้องรับแขก พูดคุยอย่างออกรส

“จ้าวหลิน ลูกสาวเธอมาแล้ว เธอพาลูกสาวเดินชมสักรอบไหม ฮ่าๆ บ้านไม่ใหญ่นัก นั่งตามสบายเลย” เหอโก๋ชินหยิบไพ่ออกมาหนึ่งใบ แล้วเอ่ยขึ้น

“พื้นที่สองร้อยตารางเมตรถือว่าไม่เล็กแล้ว” จ้าวหลินพูดอย่างอิจฉา

เธอหันมามองมู่เซิ่งที่ยืนอยู่ข้างเจียงหว่าน เปลี่ยนสีหน้าโดยอัตโนมัติ จากนั้นพูดว่า “ไอ้ขยะ ทำไมนายถึงตามมาด้วย”

“แม่ หนูให้เขามาด้วยกัน” เจียงหว่านมายืนขวางหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“ลูกเขยเธอเหรอ”

เหอโก๋ชินมองมู่เซิ่งแวบหนึ่ง นัยน์ตามีความขยะแขยง ตอนนั้นลูกชายเขาชอบเจียงหว่านมาก อีกทั้งเขายังพอใจทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเจียงหว่าน สุดท้ายโดนไอ้ขยะเข้ามาก้าวก่ายซะงั้น

“เฮ้อ ฉันก็อาศัยที่ลูกชายได้เลื่อนตำแหน่ง ถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ก่อนหน้านี้ลูกชายยังซื้อรถดีๆ ให้ฉันด้วย น่าเสียดายที่เขางานยุ่งมาก ทำแต่งาน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีแฟนเลย”

เหอโก๋ชินพูดอย่างราบเรียบ แอบมีความในใจแฝงอยู่

“พอเทียบกันแบบนี้ จ้าวหลิน ตอนนี้เธอเสียใจไหม” มีแขกหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น

“ก็เพราะเจียงเจิ้งจื๋อดึงดันจะเอาไอ้ขยะนี่!”

จ้าวหลินพูดอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าโมโหไม่น้อย

“เฮ้อ อาจเป็นเพราะเจียงเจิ้งจื๋อสายตาไม่ค่อยดีน่ะสิ”

“ใช่ ฉันว่าเหอหรงกับเจียงหว่านเป็นคู่ที่ฟ้าดินสร้างมาเลยนะ”

“จะว่าไปแล้ว ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงอย่างนาย มีงานทำหรือเปล่า คงไม่ได้เป็นสามีที่ทำงานบ้านใช่ไหม”

แขกสองสามคนพูดเยาะเย้ยอย่างไม่ไว้หน้า เสียงหัวเราะดังขึ้นในห้องรับแขกไม่หยุด

จ้าวหลินหน้าดำหน้าแดง ถลึงตาใส่มู่เซิ่งอย่างน่ากลัว ราวกับกำลังตำหนิเขาว่ามาทำไม

ขณะที่เจียงหว่านกำลังจะพูดว่ากลับ จู่ๆ มู่เซิ่งพูดออกมาต่อหน้าทุกคนว่า “ลุงเหอ ผมก็เพิ่งซื้อบ้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ตกแต่งเรียบร้อยแล้วด้วย ถ้ามีโอกาสเรียนเชิญพวกคุณมาเที่ยวที่บ้านเราด้วยนะครับ”

มู่เซิ่งพูดจบ

คนรอบๆ พากันอึ้ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด