ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล 408 บังคับให้ใช้พลังขี้โกง!

Now you are reading ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล Chapter 408 บังคับให้ใช้พลังขี้โกง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 408 บังคับให้ใช้พลังขี้โกง!

หนึ่งคน หนึ่งสัตว์ สบตากันอยู่อย่างนี้ เขตแดนตัดขาดไม่ให้คนภายนอกตรวจจับด้านในได้ แต่สภาพภายในไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คล้ายกับผีบังตาแต่ขั้นสูงกว่า

ลมยามเย็นพัดเอื่อยๆ เข้ามากระทบใบหน้าเรื่อยๆ

จู่ๆ โจวเจ๋อก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย วันนี้เขาน่าจะใส่เสื้อหลวมกว่านี้สักหน่อย เสื้อแขนยาวสะบัดพลิ้วและผมพัดปลิวภายในที่แห่งนี้ แถมยังเผชิญหน้ากับสัตว์เทพตรงหน้านี่อีก ถ้าให้ไป๋อิงอิงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปจากข้างหลัง สามารถใช้แทนภาพแต่งงานเอาไปแขวนไว้บนหัวเตียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เอาไว้เชยชมหลังจากที่ตื่นนอน แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้แขนข้างขวาของเขาดันเข้าเฝือก และนิ้วมือข้างซ้ายยังโดนพันแผลเต็มไปหมด ดูยังไงมันก็เป็นภาพที่น่าสังเวชของคนตกอับจนตรอก เป็นมุมมองที่ไม่เข้าท่าจริงๆ

เซี่ยจื้อไม่แน่ใจว่าในเวลานี้โจวเจ๋อกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าหากมันรู้เข้า คาดว่าความโกรธคงจะปะทุขึ้นไปอีกขั้นแล้วละ!

ยมทูตของยมโลกตัวเล็กๆ ตรงหน้าอยากจะใช้มันเป็นฉากหลังงั้นเหรอ

แน่นอนว่ามีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ เซี่ยจื้อจำโจวเจ๋อไม่ได้ มันจำไม่ได้ว่าคนตรงหน้านี้ เป็นคนเดียวกันกับที่หักเขาข้างหนึ่งของมันเมื่อหลายพันปีก่อน

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่แพร่หลายในหมู่ผู้คน และคนทั่วไปต่างก็คิดว่ามันเกิดมามีเขาเดียว แต่ความอัปยศอดสูแบบนี้มันกลับจำได้ไม่เคยลืม

เซี่ยจื้อยังคงเดินไปข้างหน้า เจ้าสัตว์เขาเดียวอยู่ห่างจากโจวเจ๋อไม่ถึงสองเมตร ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องเที่ยงธรรมซื่อตรง ไม่ว่าใครจะมายับยั้ง ใครจะมาขัดขวาง จะขับไล่ออกไปพร้อมกันให้หมด!

ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของเซี่ยจื้อ โจวเจ๋อที่อยู่ตรงหน้านี้คุณสมบัติยังห่างไกลเกินกว่าที่จะมาขอร้องอ้อนวอนต่อหน้ามันได้!

“เถ้าแก่!”

ไป๋อิงอิงกำหมัดแน่น เตรียมพร้อมจะพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา

ทนายอันยังคุกเข่าอยู่บนพื้นข้างๆ ด้วยสีหน้าดิ้นรน เงยหน้าขึ้นมองโจวเจ๋อที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าลิงน้อย มีความขมขื่น ‘นึกเสียใจที่ปล่อยให้สามีออกไปแสวงหาลาภยศ’ อยู่ในใจ เถ้าแก่ ต่อไปผมจะไม่ตักเตือนหรือรบเร้าคุณอีกแล้ว พวกเรามาเป็นปลาเค็มต่อเถอะ ได้ไหมครับ

โจวเจ๋อส่ายหน้าเบาๆ บอกเป็นนัยๆ ว่าไป๋อิงอิงอย่าเข้าไป เมื่อเผชิญกับสัตว์ใหญ่มหึมาขนาดนี้ หากอิงอิงรุกเข้าไปละก็ เดาว่าตอนจบคงไม่ต่างจากเจ้าลิงเมื่อสักครู่

ห่างออกไปไม่ไกล สาวน้อยโลลิและสวี่ชิงหล่างรวมถึงเดดพูลกำลังเฝ้าดูอยู่ห่างๆ

บนตัวสวี่ชิงหล่างมีพลาสเตอร์แปะไว้จำนวนไม่น้อยเลย ก่อนหน้านี้ถูกเจ้าลิงฟาดหางใส่ในร้านหนังสือ ทว่ามันก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขาเช่นกัน เพียงแต่นั่นก็เป็นฉากถูกหวดกระเด็นที่ดูไม่ได้เลย แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก

“นี่ คุณจะทำอะไรน่ะ!” สาวน้อยโลลิคว้ามือของสวี่ชิงหล่างไว้

“เข้าไปช่วยน่ะสิ” สวี่ชิงหล่างถามกลับ

“คุณรู้หรือเปล่าว่ามันคือตัวอะไร”

“เซี่ยจื้อไง”

“คุณเข้าไปตอนนี้มันก็ช่วยอะไรไม่ได้นักหรอก คอยดูไปก่อน ถึงเวลาช่วยจริงๆ พวกเราค่อยออกโรง”

“นี่นับว่าเห็นคนกำลังจะตายก็ไม่ยื่นมือเข้าช่วยหรือเปล่า”

“จะบ้าเหรอ มีแค่สวรรค์ที่รู้ว่าก่อนที่เจ้าหมอนี่จะตายอยากจะพาสาวใช้ไปอุ่นเตียงบนเส้นทางน้ำพุเหลืองด้วยหรือเปล่า ฉันเป็นคนที่ไม่อยากเห็นเขาตายที่สุด! แต่ในสถานการณ์นี้ ผู้เล่นธรรมดาไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมอีกต่อไป”

“หมายความว่ายังไง” สวี่ชิงหล่างยังงงอยู่เล็กน้อย

“ต่อไปเป็นรอบพิเศษของพวกที่มีพลังขี้โกงโดยเฉพาะ”

สาวน้อยโลลิเหลือบมองสวี่ชิงหล่าง

“รอหลังจากเถ้าแก่เริ่มแล้ว คุณค่อยหาจังหวะไปพาทนายอันและคนอื่นออกมา คุณเป็นคน ผู้บำเพ็ญเต๋า ยังไงสัตว์เทพมองคุณก็ไม่ขัดหูขัดตาเหมือนมองพวกเรา”

สวี่ชิงหล่างพยักหน้า

สาวน้อยโลลิมองเดดพูลอีกครั้ง “เดดพูล หากข้าให้เจ้าลุย เจ้าก็ลุยเลยนะ หากสถานการณ์เปลี่ยนไป เจ้าพยายามช่วยพวกเถ้าแก่โจมตี อย่าฝืนตัวเองเข้าใจไหม อย่าปล่อยให้โดนซัดจนน่วมในตอนท้ายล่ะ ฟื้นฟูไม่ได้แล้วนะ”

เดดพูลยิ้มอย่างโง่เขลา

เวลาล่วงเลยผ่านไปทีละนิดๆ ส่วนเซี่ยจื้อกำลังเข้าใกล้ทีละก้าวๆ

ราวกับว่ามันสัมผัสได้เช่นกัน คนตรงหน้านี้ดูเหมือนได้เตรียมอะไรมาต่อกรกับมัน และเพราะมันเป็นแค่ภาพเสมือน แม้ว่าจะถูกเจ้าลิงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องทำให้มันมีอารมณ์คุกรุ่นเล็กน้อยไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้สติปัญญาของมันไม่ได้สูงมากนัก กระทั่งเหมือนกับเด็กน้อยด้วยซ้ำ รอให้ชายตรงหน้ามันลงมือ

แต่โจวเจ๋อยังคงสงบมั่นคงราวกับภูเขาไท่ซาน!

อยู่ต่อหน้าสัตว์เทพ นิ่งไม่ไหวติงเลยแม้สักนิด สีหน้าราวกับน้ำหยุดนิ่ง!

ทว่าในความเป็นจริงนั้น ในใจกำลังร่ำร้องคำรามอย่างสุดชีวิต

“ไอ้คุณท่านบรรพบุรุษเดี๋ยวก็งัดโลงโคตรเหง้าแม่งเลย ตอนปกติไม่ให้แกออกมา แกก็แหกปากโวยวายจังเลย ตอนนี้ฉันให้แกออกมา ทำไมแกไม่ร้องออกมาล่ะ”

ผนึกของเจ้างั่งอ่อนแอลงภายใต้คำสั่งของโจวเจ๋อ ตัวอักษร ‘ผนึก’ สีแดงเข้มแต่เดิม ตอนนี้จางลงไปมาก แค่บิดขี้เกียจก็สามารถเจาะทะลุมันออกมาได้แล้ว

แต่เจ้านั่น กลับเงียบหายไปไร้ข่าวคราว คล้ายกับหลับสนิทเสียอย่างนั้น

“บัดซบเอ๊ย ทุกทีแกชอบคิดว่าตัวเองเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าไม่ใช่หรือไง ตอนนี้ทำไมถึงเป็นเต่าหัวหดได้เก่งขนาดนี้ คราวก่อนคนจากไน่เหอมาแกก็ขี้ขลาด ครั้งนี้แกก็ขี้ขลาดเหมือนกันเหรอ”

แวบหนึ่ง ราวกับเถ้าแก่โจวถูกทนายอันในตอนแรกเข้าสิง กำลังเตือนสติตัวเองอีกคนอยู่

มาเลยสิน่า

ดีดตัวเองขึ้นมาสิ

เลิกเสแสร้งงอมืองอเท้ารอวันตายสักที!!!

จิตวิญญาณการต่อสู้ของแกล่ะ

จิตใจมั่นคงแน่วแน่ของแกล่ะ

ความมุมานะบากบั่นของแกล่ะ

“แกร้องเจี๊ยกออกมาเลยสิ!”

“เจี๊ยก”

“…” โจวเจ๋อ

ครู่หนึ่ง คำสบถด่านับไม่ถ้วนหวีดหวิวในหัวใจ เจ้านั่นกลายเป็นคนไร้ยางอายตั้งแต่เมื่อไรกัน

“เจ้าปิดผนึกข้าไว้ไม่ใช่หรือ…ปิดผนึกไว้อย่างภูมิอกภูมิใจไม่ใช่หรือไง”

“งั้นก็ตายไปพร้อมกันเลยสิ”

“ข้า…ไม่อยาก…ช่วยเจ้าอีกแล้ว…”

“ข้ออ้าง”

“ข้ออ้าง…เจ้าคิดว่า…ข้ากลัวมัน…งั้นหรือ ไอ้หอกหักที่ถูกข้าหักเขาข้างหนึ่ง…ในตอนแรก…ที่มันตั้งใจถ่อมาสั่งสอนข้า…ถึงในนรก…สัตว์เลี้ยงของจักรพรรดิเหยา…กล้าดียังไงมาด่าข้า…”

“ตอนนี้ล่ะ แกไม่กล้าออกมาแล้วใช่ไหม”

“วิธีการยั่วยุ…ไร้ประโยชน์สิ้นดี…หากเจ้าอยากมีชีวิตอยู่ละก็…ถอยไปซะ…”

“ว่ากันถึงแก่นแท้แล้ว แกก็ยังขี้ขลาดอยู่ดี”

“เหอะ…เหอะ…”

ไม่ว่าในใจจะทะเลาะกันแบบไหนก็ตาม เมื่อเซี่ยจื้อเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เถ้าแก่โจวรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยจริงๆ

เจ้านั่นที่อยู่ข้างในไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ถ้าให้เผยตัวให้พวกปลาเล็กปลาน้อยรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันนั้นสามารถทำได้ ถึงอย่างไร มันก็มั่นใจว่าสามารถจัดการปลาเล็กปลาน้อยเหล่านั้นได้โดยตรง ไม่สลักสำคัญอะไร

แต่มันไม่กล้าเปิดเผยให้โลกรู้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่

ใช้ฝ่าเท้าคิดยังสามารถจินตนาการออก จากนิสัยของเจ้านั่น ก่อนจะพลาดท่าในตอนแรกยโสโอหังแค่ไหน ล่วงเกินคนมาตั้งเท่าไร พอตัวเองพลาดท่าก็เริ่มกลัวคนอื่นมาซ้ำเติม

แต่จะให้ถอยจริงๆ แล้วส่งมอบเจ้าลิงน้อยออกไป จากนั้นก็ก้มหัวยอมแพ้ให้เซี่ยจื้อ และตะโกนว่า ‘ท่านสัตว์เทพ เชิญท่านต่อได้เลย ไม่รบกวนท่านแล้ว’ อย่างนั้นเหรอ

แม้ว่าเถ้าแก่โจวจะเป็นคนรักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเหลือบมองเจ้าลิงน้อยที่พิงชายกางเกงของเขาสลบไป เขาทนทำเรื่องพรรค์นั้นไม่ลงจริงๆ

หลายๆ คนต่างใช้ชีวิตนี้เพื่อมุ่งแสวงหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงความลำบากกันทั้งนั้น แต่ทว่าสัจธรรมที่แท้จริงของชีวิต อันที่จริงมันกลับตรงกันข้าม

“เฮ้”

โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยจื้อ

หางตาของเซี่ยจื้อฉายแววเย้ยหยัน

“ทำไมเขาของท่านถึงได้มีแค่ข้างเดียวล่ะ หรือว่าตอนเด็กๆ เอาแต่เล่นซน ใช้เขาของท่านไล่ขวิดไปทั่วจนสุดท้ายโดนคนหักทิ้งไปข้างหนึ่งล่ะ เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ถ้าเหลืออยู่แค่ข้างเดียวละก็ มันก็ยิ่งขวิดคนสะดวกกว่าไม่ใช่หรือไง”

แสงแวววาวในดวงตาของเซี่ยจื้อเริ่มแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่ามันเริ่มโมโหเลือดขึ้นหน้าแล้ว คำพูดของโจวเจ๋อสะกิดแผลในใจของมันอย่างไม่ต้องสงสัย

ในอดีตมันเป็นสัตว์เทพแห่งความยุติธรรมภายใต้อำนาจของจักรพรรดิเหยา เป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมในสมัยโบราณ มันไม่พอใจที่ได้ดูแลความยุติธรรมแค่ในโลกมนุษย์เท่านั้น ยังมีแผนคิดขยายรวมนรกเข้าไปด้วย แบบนั้นถึงจะบรรลุความปรารถนาดั้งเดิมในการครอบครองธรรมลักษณากฎหยินหยางของทั้งสองภพ แต่ปรากฏว่าหลังจากที่มันไปนรกก็ได้พบกับเจ้าทะเลแห่งความตายผู้นั้น และความอัปยศจากการสูญเสียเขา!!!!!

เขาหันไปพูดต่อ “เฮ้ ท่านแหกตาแล้วมองให้ชัดๆ สิ มองให้ชัดๆ ว่าผมเป็นใครกันแน่!!!!!”

เซี่ยจื้อขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่างที่เหมือนกิเลนเริ่มย้ายฝีเท้าไปรอบๆ โจวเจ๋ออย่างเชื่องช้า

อันที่จริง นับตั้งแต่มันโผล่มาที่นี่ มันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ความรู้สึกอึดอัดแบบนี้มาจากไหนก็บอกไม่ถูกจริงๆ มันไม่สามารถรู้ได้เลย และด้วยเหตุนี้ ตอนที่โจวเจ๋อสั่งให้มันมองให้ละเอียด มันก็มองอย่างละเอียดจริงๆ!

แต่มองอยู่นานมาก ก็ยังมองไม่เห็นอะไรอยู่ดี

“เอ๊ะ ดูไม่ออกงั้นเหรอ” โจวเจ๋ออึ้งไปครู่หนึ่ง ไอ้บ้าแกตาบอดหรือไง!

อันที่จริง ไม่แปลกใจเลยที่เซี่ยจื้อจะจำไม่ได้จริงๆ ประการแรกเลยตัวมันเป็นเพียงแค่ภาพฉาย ไม่นับว่าเป็นร่างแยก ประการที่สอง การมีอยู่ของเจ้างั่งบวกกับเจ้านั่นจงใจซ่อนเร้นลมหายใจ ทำให้การตรวจจับยากขึ้นไปอีก

ก็ได้ๆ ถ้าแกคิดไม่ออก ฉันก็จะบอกคำตอบแกไปตรงๆ

“ผม ก็คือคนที่หักเขาข้างนั้นของท่านในตอนนั้นยังไงล่ะ!” โจวเจ๋อตะโกนปาวๆ

ฉันเปิดเผยเรื่องนั้นของแกออกมาหมดเปลือกแล้ว แกอยากจะซ่อนตัวต่อไป งั้นก็เชิญซ่อนตัวต่อไปเถอะ!

อย่างมากก็ตายไปพร้อมกัน!

อารมณ์คุกรุ่นในแววตาของเซี่ยจื้อเริ่มฉายแววปั่นป่วนขึ้นมา รอยสีแดงก่ำนั้นเข้มข้นจนดูเหมือนแทบจะถลนลงมา!

“โฮก!!!!”

วินาทีต่อมา เซี่ยจื้อเงยหน้าขึ้นทันที แสงสีขาวจางๆ ผุดขึ้นบริเวณเขาข้างเดียว พุ่งตรงหมายเข้าไปขวิดโจวเจ๋อและเจ้าลิงน้อยข้างเท้าโจวเจ๋อ!

‘ตู้ม!!!!’

เสียงระเบิดน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นริมถนนนอกสถานีตำรวจจนปรากฏเป็นหลุมขนาดใหญ่ยักษ์ คาดว่าหลังจากเหตุการณ์นี้จบลง คุณอาตำรวจที่มาทำงานพรุ่งนี้เช้าจะต้องประหลาดใจ แม้แต่ไป๋อิงอิงและทนายอันที่อยู่ข้างๆ ยังพลอยได้รับผลกระทบจากพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ด้วย โดนฟาดลอยกระเด็นออกไป ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น

“เถ้าแก่!!!!”

อิงอิงที่ล้มอยู่บนพื้นรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที และมองไปที่หลุมทางนั้น

เซี่ยจื้อลอยอยู่กลางอากาศ มันไม่ได้หายไปไหน เพราะหลังจากที่ฝุ่นและควันค่อยๆ สลายไป มีร่างหนึ่งยืนอยู่ในหลุม

คนผู้นี้กางแขนขึ้น ราวกับว่าเมื่อครู่นี้เพิ่งจะใช้ฝ่ามือของตัวเองสกัดพลังโจมตีของเจ้าสัตว์เขาเดียว!

หลุมรอบๆ นั้นมีอยู่จริง แต่พื้นที่ใต้ฝ่าเท้าของคนผู้นี้กลับนูนขึ้นอยู่จุดเดียวเพียงลำพัง แม้แต่เจ้าลิงน้อยที่อยู่ข้างกายยังคงหลับใหลต่อ ราวกับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

โจวเจ๋อลดแขนลง สิ่งที่ไหลวนอยู่ในดวงตาก็คือ ความมืดมิดของรัตติกาล

เขาเงยหน้าขึ้นมองบนหัวของเซี่ยจื้อแล้วยิ้มขัน พลางเอ่ยว่า

“ไม่เจอ…กันนาน…เลยนะ…เจ้าหมาร่ำรวย…”

………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *