รักเล่ห์เร้นใจ 205 ความทรงจำ

Now you are reading รักเล่ห์เร้นใจ Chapter 205 ความทรงจำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ธ…เธอ…เธอคือ…” อี้อวิ๋นฉันสะกดกลั้นความประหลาดใจสุดๆ ของตัวเองไม่ให้หลุดปากคำว่า “หลินหว่าน” ออกมา เพราะตอนนี้เธอต่างหากที่เป็น ‘หลินหว่าน’

 

 

แต่ผู้หญิงที่หน้าเหมือนหลินหว่านอย่างกับแกะตรงหน้านี้เป็นใครกัน? ทำไมเธอจึงมาอยู่ที่บริษัทของเซียวจิ่งสือได้

 

 

หรือว่า…หรือว่าเธอต่างหากที่เป็นหลินหว่านตัวจริง

 

 

งั้นทำไมเซียวจิ่งสือจึงเข้าใจว่าเธอเป็นหลินหว่านได้ล่ะ

 

 

หรือว่า…หรือว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของเซียวจิ่งสือ? เขาต้องการปกป้องหลินหว่านตัวจริง ไม่ต้องการให้เธอถูกทำร้ายอีก จึงบอกกับคนภายนอกว่าหลินหว่านหายสาบสูญ แต่ที่จริงเขารู้ว่าเธอเองไม่ใช่หลินหว่านตัวจริง แค่ไม่ได้เปิดโปงเธอออกมาเท่านั้น…

 

 

อี้อวิ๋นฉังยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดหวั่น

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวกำลังจะออกไปจากที่นี่ด้วยอาการเศร้าเสียใจจนขวัญหาย เธอได้ยินเสียงคนเรียกให้หยุด เงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นผู้หญิงที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอราวกับพิมพ์เดียวกัน

 

 

ชั่ววูบนั้นอินเสี่ยวเสี่ยวนึกอย่างประหลาดใจ แล้วคิดได้ว่า เธอคนนี้น่าจะเป็น ‘หลินหว่าน’ ล่ะมั้ง อย่างนั้น ตัวเธอเองที่มีใบหน้าเหมือนกับเธอ ก็ย่อมจะเป็นตัวสำรองจริงๆ สินะ เธอนึกเย้ยหยันตัวเองอยู่ในใจ

 

 

“สวัสดีค่ะ คุณหลิน ฉันชื่ออินเสี่ยวเสี่ยวค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวตั้งสติได้ เอ่ยทักทายกับ ‘หลินหว่าน’ ที่ตรงหน้าเธอ

 

 

อี้อวิ๋นฉังฟังคำพูดเธอแล้ว มองหน้าเธอกลับเป็นฝ่ายอึ้งไป “อิน…อินเสี่ยวเสี่ยว? เธอชื่ออินเสี่ยวเสี่ยว?”

 

 

“ใช่ค่ะ ก็น่าอยู่ที่คุณหลินไม่รู้จักฉัน แต่ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงของคุณที่บริษัทนี้มานานแล้วนะคะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพูด

 

 

“ง…งั้นเหรอ? เธอรู้จักฉัน?” อี้อวิ๋นฉังยังตลึงอึ้งอยู่

 

 

“เรื่องของคุณหลินกับท่านประธานเซียว คนในบริษัทเล่าลือกันมาตลอดค่ะ ฉันก็เคยได้ยินมาค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพูด

 

 

คนตรงหน้านี่เหมือนหลินหว่านอย่างกับแกะ แต่กลับบอกว่าตัวเองไม่ใช่หลินหว่าน อี้อวิ๋นฉังยิ่งคิดก็ยิ่งมึนงงสงสัย เธอลองหยั่งเชิงดูอีกว่า “งั้นทำไมเธอมาอยู่นี่ได้ล่ะ ทำไมจึงหน้าเหมือนฉันเลย”

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวหน้าซีด ยิ้มขมอยู่ในใจ พูดว่า “ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เดิมทีฉันอยู่ที่หมู่บ้านบนเขาแห่งหนึ่ง แต่พอคุณหลินหายตัวไป ไม่ทราบว่าทำไมท่านประธานเซียวมาหาฉัน พาฉันมาที่นี่ค่ะ”

 

 

อี้อวิ๋นฉังขมวดคิ้ว “คุณทำงานที่นี่เหรอ?”

 

 

“เมื่อก่อนทำงานที่นี่อยู่พักหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังเล่นละครค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวตอบ

 

 

พูดจบ อินเสี่ยวเสี่ยวก็นึกถึงเรื่องข่าวลือในบริษัท ถามอีกว่า “ได้ยินว่าเมื่อก่อนคุณหลินก็เป็นนักแสดงเหมือนกัน ท่านประธานเซียวยังเปิดบริษัทเอเจนซี่เพื่อคุณหลินอีกด้วย เป็นความจริงหรือเปล่าคะ?”

 

 

ที่อินเสี่ยวเสี่ยวพูดถึงคือบริษัทเซียงเฉิงเอ็นเตอร์เทนเมนท์ อี้อวิ๋นฉังซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นนกกาเหว่าแย่งรังคนอื่น กลับพูดได้เต็มปากว่า “จริงแท้แน่นอนเลยค่ะ”

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวแววตาสลดลง อี้อวิ๋นฉังเห็นแล้วก็ถามหยั่งดูว่า “งั้นก่อนหน้านี้เธอทำอะไรล่ะ”

 

 

พูดจบ อี้อวิ๋นฉังก็พบว่า พอเธอถามจบ อินเสี่ยวเสี่ยวมีท่าทางผิดปกติมาก สายตาหลบไปมา มือไม้ไม่รู้จะวางตรงไหน มือทั้งสองข้างมีการเคลื่อนไหวเล็กๆ ที่ตัวเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกต

 

 

หลังจากที่อี้อวิ๋นฉังเรียนต่อด้านการแสดง ก็รู้ว่านี่เป็นอาการแสดงออกของความตื่นเต้นตึงเครียดในจิตใจ ซึ่งหมายความว่า อินเสี่ยวเสี่ยวไม่ต้องการตอบคำถามของเธอ หรือไม่อย่างงั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร

 

 

“ฉัน…” ไม่รู้ทำไม อินเสี่ยวเสี่ยวไม่อยากให้ ‘หลินหว่าน’ รู้เรื่องที่เธอเสียความทรงจำ เธอลนลานตอบว่า “ม…ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณหลิน ฉันเพิ่งนึกได้ว่ายังมีงานต้องทำอีก ฉันไปก่อนนะคะ”

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวพูดจบ ก็คิดจะรีบไปจากที่นี่ ทำไมเธอต้องถามคำถามนั่นด้วยนะ เธอรู้สึกว่าตัวเองยังถูกเหยียบย่ำไม่พอหรือไง

 

 

“รอเดี๋ยวค่ะ คุณอิน!” อี้อวิ๋นฉังเรียกตัวอินเสี่ยวเสี่ยวเอาไว้ นึกดูแล้วเธอก็ถามเพื่อให้แน่ใจอะไรบางอย่างว่า “คุณอิน คุณถูกเซียวจิ่งสือพากลับมาเมื่อไหร่คะ?”

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวหน้าเสีย ตอบว่า “หลังจากที่คุณหลินหายไปในทะเลเป็นวันที่ห้าค่ะ”

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวจากไปแล้ว แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่ทันได้สังเกตว่าฝีเท้าของเธอบอกว่าเธอสับสนขนาดไหน

 

 

อี้อวิ๋นฉังมองดูเงาหลังของเธอ ฉุกคิดด้วยความสงสัยขึ้นมา ทำไมเธอกับหลินหว่านจึงหน้าตาเหมือนกันนัก แต่กลับบอกว่าตัวเองชื่ออินเสี่ยวเสี่ยว?

 

 

ทำไมหลังจาก ‘หลินหว่าน’ ตัวจริงหายตัวไปในทะเล วันที่ห้าเซียวจิ่งสือจึงพาตัวเธอกลับมา? ทำไมพอเธอพูดถึงเรื่องราวเมื่อก่อนอินเสี่ยวเสี่ยวจึงดูปั่นป่วนลนลานขนาดนี้

 

 

หรือว่าเธอก็คือหลินหว่านตัวจริง แต่สูญเสียความทรงจำไป จากนั้นเปลี่ยนฐานะเป็นอีกคนหนึ่ง?

 

 

อี้อวิ๋นฉังลองนึกดูถึงความเป็นไปได้ที่เหลือเชื่อนี้ เหลือแค่รอให้เธอพิสูจน์ความจริงเท่านั้น

 

 

อี้อวิ๋นฉังไปหาเลขาของเซียวจิ่งสือ ถ่ายทอดคำพูดของเซียวจิ่งสือกับเขาแล้วแอบหลบไปหาข่าวเกี่ยวกับอินเสี่ยวเสี่ยวจากพนักงานคนอื่นๆ อย่างเงียบกริบ

 

 

พนักงานในบริษัทต่างก็รู้ว่าหลินหว่านเป็นที่โปรดปรานของเซียวจิ่งสือขนาดไหน ดังนั้นหลังจาก ‘หลินหว่าน’ กลับมา พวกเขาจึงไม่เคยพูดถึงเรื่องของอินเสี่ยวเสี่ยวเลย อี้อวิ๋นฉังจึงไม่รู้เรื่องของอินเสี่ยวเสี่ยว

 

 

ตอนนี้ พอเห็นว่าอี้อวิ๋นฉังมาสอบถามพวกเขาเรื่องของอินเสี่ยวเสี่ยว พวกเขาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่รู้ให้ ‘หลินหว่าน’ ฟัง

 

 

อี้อวิ๋นฉังไปสืบข่าวมารอบหนึ่ง แต่กลับไม่ได้ข่าวที่เป็นประโยชน์นัก ที่พวกพนักงานบอกก็แค่เรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างเช่น ‘ท่านประธานเซียวไล่พนักงานที่รังแกอินเสี่ยวเสี่ยวออก’ กับเรื่องที่ ‘ตอนอินเสี่ยวเสี่ยวไม่สบาย เป็นลมหมดสติที่ห้องของประธานเซียว เขาคอยดูแลเอาใจใส่อินเสี่ยวเสี่ยวทุกวัน’ เป็นต้น

 

 

นั่นยิ่งทำให้อี้อวิ๋นฉังหึงหวงหนักขึ้นอีก แต่เธอก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นด้วย หรือว่าอินเสี่ยวเสี่ยวคือหลินหว่านตัวจริง?

 

 

ตอนเที่ยง ขณะอี้อวิ๋นฉังกับเซียวจิ่งสือทานอาหารด้วยกัน อี้อวิ๋นฉังมีความสุขมาก เธอเข้าใจว่านี่เป็นโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ของเธอกับเซียวจิ่งสือให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่า ระหว่างที่เซียวจิ่งสือทานข้าว เขาไล่ต้อนเธอไม่หยุด อีกทั้งคอยพูดถึงเรื่องในอดีตของเขากับหลินหว่านอยู่เรื่อยเพื่อให้เธอเผยพิรุธออกมา โชคดีที่เธอให้คนสืบเรื่องของหลินหว่านมาก่อน ทั้งตั้งใจเลียนแบบความเคยชินในการทานอาหารของหลินหว่าน กับคอยหลบเลี่ยงการซักถามบางเรื่องของเซียวจิ่งสือ

 

 

แต่อี้อวิ๋นฉังเห็นว่าถ้าเธอไม่มีความทรงจำในอดีตของหลินหว่านแล้วล่ะก็ จะเผยพิรุธได้ง่ายมาก

 

 

นึกดูแล้ว ตอนบ่ายเธอจึงไปหาอินเสี่ยวเสี่ยวอีกครั้ง สอบถามเรื่องสถานะตัวตนและความทรงจำของเธอ

 

 

อินเสี่ยวเสี่ยวที่ต้องเจอกับคำถามของอี้อวิ๋นฉังก็เครียดมาก ทางหนึ่งก็ไม่อยากให้เธอรู้เรื่องที่ตัวเองเสียความทรงจำ ส่วนอีกทางหนึ่งก็ตอบคำถามของเธอกลับไปกลับมาขัดแย้งกันเองจนเละเทะไปหมด

 

 

สุดท้าย อี้อวิ๋นฉังก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นไปตามที่เธอคาดไว้ อินเสี่ยวเสี่ยวก็คือหลินหว่าน เพียงแต่ตัวเธอเองไม่รู้ตัว เพราะเธอไม่มีความทรงจำในอดีต

 

 

พออี้อวิ๋นฉังแน่ใจแล้วก็ดีใจมาก เธอกลับไปแล้วนึกหาวิธีการสารพัด ติดต่อแพทย์เฉพาะทางด้านสมองจากต่างประเทศที่ดีที่สุด

 

 

เพราะเธอเคยได้ยินมาว่า ต่างประเทศมีเทคโนโลยีสุดล้ำชนิดหนึ่ง ที่สามารถย้ายความทรงจำส่วนลึกของสมองจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้ ต่อให้เป็นคนที่สูญเสียความทรงจำก็ตาม

 

 

ถ้าหากความทรงจำในอดีตของอินเสี่ยวเสี่ยวย้ายมาที่สมองของเธอ อย่างนั้นเธอก็จะมีความทรงจำในอดีตของหลินหว่านซึ่งจะทำให้เธอไม่ถูกเซียวจิ่งสือเปิดโปงตัวตนของเธออย่างเด็ดขาด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด