รักเล่ห์เร้นใจ 95

Now you are reading รักเล่ห์เร้นใจ Chapter 95 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ร่วมมือ

 

 

 

หลินหว่านสะกดกลั้นความตื่นเต้นดีใจของตัวเองไว้ไม่อยู่ เธอยิ้มออกมาราวกับดอกไม้บาน ยิ่งชวนกินใจผู้คนเข้าไปอีก

 

 

“แน่นอนว่าฉันเต็มใจอยู่แล้วค่ะ ได้ร่วมร้องเพลงกับอันลั่วเฉิงเป็นเรื่องที่ฉันไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลย ตอนนี้ได้มีโอกาสดีขนาดนี้ ฉันต้องไม่ยอมแพ้แน่ค่ะ ถ้าที่คุณพูดเป็นความจริงละก็ฉันจะร้องอย่างตั้งใจจริงแน่นอนค่ะ”

 

 

ซวี่กวงเห็นท่าทีดีใจของหลินหว่านแล้วก็พูดขึ้นช้าๆ ว่า “คุณก็อย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไปนัก โอกาสนี้ยังไม่แน่ว่าจะเป็นของคุณ คุณยังต้องผ่านด่านของโปรดิวเซอร์อีกคน เขาเป็นคนตัดสินขั้นสุดท้าย ผมแค่แนะนำคุณให้ไปด้วยเท่านั้น”

 

 

หลินหว่านค่อยเข้าใจว่าที่แท้เป็นการเตรียมนักร้องนำของฝ่ายหญิงนั่นเอง ซึ่งยังต้องคัดเลือกจากผู้คนอีกเป็นกอง ดูว่าคนไหนเหมาะโอกาสนี้จึงจะเป็นของคนนั้น หลินหว่านคิดว่าในวงการบันเทิงมีนักร้องดังตั้งมากมายขนาดนั้น ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีผลงานที่โดดเด่นอะไรนักในวงการดนตรี ซึ่งทำให้หลินหว่านเป็นกังวลอยู่บ้าง

 

 

“คุณยังจะไปไหม อันที่จริงผมว่าคุณก็ถือซะว่าครั้งนี้เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่ง บางทีคุณอาจทำให้เขาเลือกคุณก็ได้ ต้องเชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิ อีกอย่างตอนนี้คุณยังอายุน้อย ทุกอย่างล้วนเป็นการเรียนรู้ทั้งนั้น ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกหลายปี คุณจะกลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังของวงการบันเทิงก็ได้นะ” ซวี่กวงพูดเหมือนไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ เขาดูเหมือนจะรู้ความคิดของหลินหว่าน ทุกคำพูดจึงเหมือนจะชี้นำทางให้กับเธอ

 

 

หลินหว่านนึกตามคำพูดของซวี่กวงแล้ว สุดท้ายตัดสินใจลองไปดูกันสักตั้ง อีกทั้งเธอยังแอบมั่นใจว่าจะทำให้ได้อีกด้วย เธอจะคว้าเอาโอกาสที่ได้มาไม่ง่ายเลยนี้ให้ได้

 

 

“ฉันจะไปแน่ค่ะ ในเมื่อคุณเป็นคนแนะนำฉัน ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ค่ะ ฉันจะตั้งใจทำโอกาสครั้งนี้ให้ดีที่สุด ถึงแม้ฉันจะรู้ดีว่ามันออกจะลำบาก แต่ฉันยังจะเผชิญกับมันด้วยความเชื่อมั่นค่ะ” หลินหว่านพูดอย่างจริงจัง ทุกคำพูดล้วนบอกถึงความมุ่งมั่นในใจเธอ

 

 

“งั้นก็ดีแล้ว อัลบั้มชุดนี้ของเขากำลังจะบันทึกเสียงในเร็วๆ นี้ คุณรอข่าวจากผมนะ ผมจะเรียกให้คุณไปลองทดสอบเสียงที่นั่นเอง เอาล่ะ ตอนนี้คุณกลับไปพักผ่อนได้แล้ว นี่ก็บ่ายมากแล้ว” ซวี่กวงก้มศีรษะพูด ดวงตาคู่นั้นดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

หลินหว่านเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ทั้งๆ ที่ตอนนี้ยังห่างจากเวลาตะวันตกดินอีกนานนัก ซวี่กวงยังให้เธอจากมา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาไม่ชอบใจที่เธออยู่รบกวนเวลาทำงานของเขา หลินหว่านขมวดคิ้ว ผู้กำกับคนนี้มักทำให้เธอคาดเดาใจไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลินหว่านได้แต่กลับไปพักผ่อนก่อน

 

 

“หลินหว่าน เมื่อครู่ฉันอยู่ด้านข้างได้ยินหมดแล้วนะ ตอนนี้เธอมีโอกาสดีมากขนาดนี้ ต้องรักษาไว้ให้ดีล่ะ เธอยังบอกว่าผู้กำกับซวี่กวงจะตั้งแง่กับเธอเพราะเรื่องนั้น ฉันว่าตรงกันข้าม เขาดีกับเธอมากทีเดียวเลยนะ อย่างน้อยถ้าเทียบกับข่าวลือที่ว่าเขาเป็นผู้กำกับที่สีหน้าเย็นชาจนทำเอานักแสดงแทบเป็นบ้านั่นก็เรียกว่าดีกว่าตั้งเยอะเลยนะ เขายังออกปากแนะนำเธอให้ร่วมร้องเพลงคู่กับนักร้องดังอีกด้วย” อวิ๋นซีเผยรอยยิ้มบางอย่างพอใจ

 

 

แม้หลินหว่านจะรู้สึกว่าผู้กำกับซวี่กวงดีกว่าที่เธอคิดไว้ แต่กลับยิ่งทำให้เธอคาดเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกเหมือนมีบางอย่างบดบังเอาไว้ หลินหว่านรู้แค่ว่าเขาเป็นคนเข้าใกล้ได้ยากนิดหน่อย

 

 

“เขาช่วยฉัน ฉันก็น่าจะขอบคุณเขาให้มาก ตอนนี้โอกาสนี้ยังไม่เป็นของฉัน หลายวันนี้กลับไปแล้วต้องฝึกร้องเพลงให้ดีๆ สักหน่อยแล้ว หวังว่าจะคว้าโอกาสนี้มาได้นะ จะได้ไม่ทำให้เขาผิดหวัง แต่ว่ามันดูยากชะมัดเลย” หลินหว่านก้มหน้าคิดอย่างท้อใจ เริ่มกังวลว่าตัวเองจะร้องเพลงไม่เข้าขั้น

 

 

ตอนค่ำ อาบน้ำเสร็จแล้วมานอนเล่นมือถืออยู่บนเตียง จู่ๆ ก็ได้รับข้อความหนึ่งจากซวี่กวง

 

 

“พรุ่งนี้ผมจะส่งคุณไปทดสอบเสียงที่นั่น คุณเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้พยายามตื่นแต่เช้า” ข้อความบนหน้าจอมีอยู่ไม่กี่คำ ทำให้นึกถึงน้ำเสียงการพูดจาของซวี่กวง

 

 

หลินหว่านสะดุ้งเฮือกใหญ่ เธอคิดไม่ถึงว่าจะไปทดสอบเสียงเร็วขนาดนี้ สมองของเธอชาวาบ คิดอะไรไม่ออก แต่ยังจำได้ว่าเธอตอบกลับไปว่า “อื้อ ได้ค่ะ ฉันทราบแล้ว”

 

 

ชั่วเวลานั้นหลินหว่านทำอะไรไม่ถูก รู้สึกทั้งตื่นเต้นดีใจ ทั้งหวั่นกลัวอยู่ในใจ

 

 

“อวิ๋นซี ช่วยมาที่ห้องฉันหน่อยค่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกเธอ เร็วๆ นะ” หลินหว่านรีบโทรหาอวิ๋นซี

 

 

อวิ๋นซียังไม่ทันได้ตอบรับก็พบว่าสายตัดไปแล้ว จึงได้แต่สวมเสื้อผ้าออกจากห้องไป

 

 

“เธอทำอะไรกันแน่หือ นี่มันดึกแล้วนะ เมื่อกี้ฉันกำลังจะนอนอยู่แล้วเชียว เธอดันเรียกฉันมาซะได้ มีเรื่องสำคัญอะไรนักหนาถึงต้องให้ฉันมาหาตอนนี้ด้วย” อวิ๋นซีบ่นกระปอดกระแปดกับหลินหว่าน

 

 

หลินหว่านพอเห็นอวิ๋นซีมาถึงก็เตรียมจะเอ่ยปากเล่าอยู่แล้ว เธอกับอวิ๋นซีนั่งลงที่โซฟาด้วยกัน

 

 

“อวิ๋นซี พรุ่งนี้ฉันต้องไปทดสอบเสียงที่นั่นล่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้ไหม แต่ตอนนี้ฉันยังเครียดอยู่บ้าง ฉันคิดไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เมื่อกี้ผู้กำกับส่งข้อความให้ฉันแล้ว พรุ่งนี้เช้าเธอก็ต้องตื่นแต่เช้านะ” หลินหว่านยิ้มกับอวิ๋นซี จากสีหน้าแล้วดูไม่ออกเลยว่าเธอเครียดมาก

 

 

อวิ๋นซีตาตื่นขึ้นมาทันที เธอมีสีหน้าว่าเหลือเชื่อ สายตาสงสัยจ้องมายังหลินหว่าน

 

 

“คงไม่มั้ง ผู้กำกับซวี่กวงเป็นคนเข้มงวดกับหนังของตัวเองขนาดนั้น ไม่น่าจะให้เธอไปที่อื่นทั้งที่กำลังถ่ายหนังอยู่ เธอไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม แล้วจะเป็นวันพรุ่งนี้ได้ยังไง เร็วขนาดนี้เชียว?” อวิ๋นซีหน้ายู่อย่างคิดไม่ตก

 

 

หลินหว่านเองถ้าไม่ได้เห็นข้อความที่ผู้กำกับซวี่กวงส่งมาให้กับตา เธอคงไม่กล้าเชื่อว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ มันเร็วเกินไป แล้วยิ่งกำลังถ่ายหนังอยู่ด้วย

 

 

หลินหว่านคุยกับอวิ๋นซีอีกครู่หนึ่งก็แยกย้ายกันกลับไปนอน หลินหว่านนอนบนเตียงพลิกตัวไปมานอนไม่หลับ เธอไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำให้สำเร็จได้อย่างไร เพียงแต่ด้วยความที่เธออยู่ในวงการบันเทิงมานานขนาดนี้ รู้ว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสามารถที่แท้จริง ต้องพยายามไต่เต้าขึ้นไปด้วยตัวเองจึงจะบรรลุเป้าหมาย

 

 

วันรุ่งขึ้นหลินหว่านตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ ผู้กำกับซวี่กวงส่งตัวเธอไปหาอันลั่วเฉิงเพื่อทดสอบเสียง ระหว่างทางเขาไม่ได้มีท่าทีเข้มงวดจริงจังเหมือนยามปกติ หลินหว่านก็พูดคุยกับผู้กำกับซวี่กวงเป็นครั้งคราว

 

 

ในที่สุดก็มาถึง ผู้กำกับซวี่กวงให้หลินหว่านกับอวิ๋นซีรออยู่ที่ห้องหนึ่ง ส่วนตัวเองก็ไปคุยกับคนอื่น

 

 

“อวิ๋นซี ที่จริงลึกๆ แล้วเขาเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยนมากคนหนึ่งเลยทีเดียว เดิมทีฉันหลงเข้าใจว่าเขาไม่ชอบให้นักแสดงที่กำลังถ่ายหนังของเขาอยู่แวบไปทำงานงานที่อื่น ตอนนี้ดูไปแล้วเขาไม่ใช่คนแบบนั้น นอกจากนั้นเขายังส่งพวกเราสองคนมานี่ด้วยตัวเองอีก จู่ๆ ก็รู้สึกดีมากเลย ถ้าไม่ได้ใกล้ชิดกับเขาแล้วบางทีฉันคงจะเชื่อว่าเขาเป็นอย่างในข่าวที่ลือกัน” หลินหว่านพูดยิ้มๆ

 

 

อวิ๋นซียิ้มอย่างจนใจ “เธอนี่น้า ถ้าคนเขาดีกับเธอ เธอก็จะรู้สึกว่าเขาเป็นคนแสนดีมีเมตตา ก่อนหน้านี้แม่อันซิงนั่น เธอก็เจอมากับตัวแล้วไม่ใช่หรือไง”

 

 

หลินหว่านฟังคำพูดของอวิ๋นซีแล้วรู้สึกไม่ชอบใจอยู่บ้าง ในสายตาของเธอคนหนึ่งต่างกับอีกคนห่างกันไกลลิบ เหตุเพราะคนหนึ่งเคยทำร้ายเธอแล้วมองทุกคนว่าไม่ดีไปหมดไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ในใจหลินหว่านเห็นว่าผู้กำกับซวี่กวงเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด