อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 134 โสมวิญญาณ

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 134 โสมวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 134 โสมวิญญาณ

สองพี่น้องบินตรงไปยังเขตแดนระหว่างเขตป่าชั้นนอกและเขตป่าชั้นในด้วยทักษะวิชาตัวเบาและเหาะลงมาที่ใต้ต้นท้อขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง

เย่ว์จือกวงมองดูต้นไม้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยผลไม้สีแดง พูดชมว่า “ต้นท้อนี้เติบโตได้ดีมากจริงๆ! สีสวย กลิ่นหอมแรง แถมยังลูกใหญ่มาก”

รอยยิ้มบนริมฝีปากของมู่เถาเยายกโค้งขึ้น เธอเอื้อมมือไปเด็ดลูกท้อที่สุกงอมแล้วสองลูกลงมา ยื่นลูกหนึ่งส่งให้กับเย่ว์จือกวง

“พี่รองรู้หรือเปล่าว่าอาจารย์ใหญ่เก็บฉันได้จากใต้ต้นท้อต้นนี้นี่แหละ เขาเลยตั้งชื่อให้ฉันว่ามู่เถาเยา”

สีหน้าของเย่ว์จือกวงเปลี่ยนไปในทันที

เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดถึงน้องสาวของเขา คิดถึงภาพเด็กทารกที่ถูกนำไปโยนทิ้งในป่าที่แสนอันตรายนี้ หัวใจของเขาเจ็บปวดมากจนแทบหายใจไม่ออก

มู่เถาเยารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของคนที่อยู่ข้างๆ เธอ

เธอสับสนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

เสียงหวานๆ ปลอบโยนเขาไปว่า “พี่รอง อย่าคิดถึงเรื่องในอดีตอีกเลยค่ะ มองที่ปัจจุบันดีกว่า”

“…โอเค” นั่นสิ ปัจจุบันสำคัญที่สุด

มู่เถาเยาปอกลูกท้อที่สุกแล้วก่อนจะกัดลงไป น้ำหวานหวานฉ่ำและหอมหวนพุ่งเข้ามาในปากของเธอ ทำให้เธอหรี่ตาลงด้วยความพึงพอใจ

เมื่อเห็นว่าน้องสาวมีความสุข เย่ว์จือกวงจึงปอกลูกท้อในมือกินบ้าง

ของในป่าอร่อยกว่าที่ปลูกเองจริงๆ! สายพันธุ์ที่เพาะปลูกกันอยู่ในโลกภายนอกเทียบไม่ได้เลย!

หลังจากกินลูกท้อเสร็จ มู่เถาเยาก็ยิ้มกว้าง

“รอขากลับเราค่อยมาเก็บไปฝากทุกคนกันนะคะ ให้ทุกคนได้ลองชิม” ของดีแบบนี้ต้องแบ่งปันสิ

“อื้ม”

ไม่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ ในบริเวณนี้ ดังนั้นมู่เถาเยาและเย่ว์จือกวงจึงทำได้เพียงก้าวเข้าไปในเขตป่าชั้นในด้วยมือที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของลูกท้อ

“พี่รอง ตามฉันมาใกล้ๆ และอย่าแตะต้องพืชใดๆ นะคะ สัตว์ที่อยู่ในเขตป่าชั้นในที่ใกล้กับเขตป่าชั้นนอกจะอ่อนโยนกว่า ตราบใดที่พี่ไม่เริ่มโจมตีก่อน มันก็จะไม่โจมตีพี่เช่นกัน”

ส่วนเจ้าพวกตัวที่อยู่ตรงกลางนั้นร้ายกาจมาก ถึงคุณจะมองไม่เห็น มันก็จะโจมตีคุณอยู่ดี

ครั้งนี้ไม่ต้องเข้าไปในเขตนั้นเพื่อหาสมุนไพรแล้ว ไม่งั้นใช้เวลาตลอดบ่ายก็คงไม่พอ

“พี่รู้ น้องสาวเองก็ระวังตัวด้วยล่ะ”

“ค่ะ”

สองพี่น้องเดินเข้าป่าจากเส้นทางตรง ทั้งสองช่วยเหลือและระมัดระวังให้กันไปตลอดทาง

มู่เถาเยามองหาสมุนไพรเป็นหลัก ส่วนเย่ว์จือกวงมองหาร่องรอยของหมอหญิงเดินเท้าเป็นหลัก

เธอเชื่อในตัวของอู๋เปียนและเขาก็เชื่อในน้องสาวของเขา

ทุกครั้งที่มู่เถาเยาพบสมุนไพร เธอจะบอกกับเย่ว์จือกวงว่ามันคืออะไร รักษาโรคอะไรได้ และจะใช้อย่างไรให้ได้ได้ผลสูงสุด

ทุกครั้งที่เย่ว์จือกวงพบเบาะแส เขาก็จะปรึกษากับมู่เถาเยาว่าหมอหญิงเดินเท้าอาจจะหยุดลงที่ตรงนี้เพื่อขุดสมุนไพรหรือพักผ่อนหรืออะไรสักอย่าง

เมื่อมู่เถาเยาพบสมุนไพรทั้งหมดที่จำเป็น เย่ว์จือกวงก็รวบรวมเบาะแสทั่วไปของหมอหญิงเดินเท้าไว้ได้ส่วนหนึ่งแล้ว

แม้ว่าเขาจะทำธุรกิจเป็นหลัก แต่ด้วยภูมิหลังของเขา สิ่งที่เขาเรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็กนั้นจึงแตกต่างจากคนทั่วไป และความสามารถในการลาดตระเวนและทักษะการสอดแนมของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าหน่วยสอดแนมที่แข็งแกร่งที่สุดเลย

ในช่วงเวลานี้พวกเขาพบกับดอกไม้พิษ พืชพิษ เถาวัลย์พิษ งูพิษ มดพิษ แมงมุมพิษ และสัตว์กินพืชขนาดใหญ่มากมาย

มู่เถาเยาพาเย่ว์จือกวงหลบหลีกพวกมันอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าเธอจะจัดการกับพิษพวกนี้ได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากทนทุกข์ทรมานกับมันหรอกใช่ไหม

พวกมันไม่ได้เปิดฉากโจมตีพวกเขาก่อน ดังนั้นพวกเขาเองจึงไม่ได้เข่นฆ่าพวกมันโดยไม่จำเป็น

ขณะที่สองพี่น้องกำลังจะกลับออกจากป่าทางเดิม มู่เถาเยาก็ขยับจมูกเล็กๆ ของเธอ

มีกลิ่นหอมแปลกๆ แทรกซึมเข้ามาในโสตประสาทของเธอ

“พี่รองคะ พี่ได้กลิ่นหอมอะไรหรือเปล่า”

เย่ว์จือกวงสูดดมอย่างแรง เขาไม่ได้กลิ่นอะไรที่ผิดปกติเลยนอกจากกลิ่นเฉพาะของหญ้าและต้นไม้ในป่า

“น้องสาว พี่ไม่ได้กลิ่นอะไรเลย มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

มู่เถาเยาพยักหน้า

อาจเป็นเพราะเธอมาจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์ ร่างกายของเธอจึงแข็งแกร่งกว่าชีวิตที่แล้วมาก และจมูกของเธอเองก็ไวกว่าปกติมาก

เย่ว์จือกวงไม่ได้กลิ่นเพราะระดับวรยุทธ์ของเขานั้นต่ำกว่าเธอ และเขาเองก็ไม่ใช่หมอจึงไม่คุ้นเคยกับวัตถุดิบยา

ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นของป่าที่รุนแรงก็ได้กลบกลิ่นบางเบานี้ไปจนหมด ดังนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะไม่ได้กลิ่น

ถ้าไม่ใช่เพราะจมูกของเธอมีความไวมากเกินกว่าคนทั่วไป เธอคงไม่สามารถได้กลิ่นเลย

“น้องสาว มีอะไรหรือเปล่า”

“กลิ่นของสมุนไพรที่หายากมาก…โสมวิญญาณ! ไม่คิดเลยว่าในสถานที่นี้จะมีโสมวิญญาณอยู่ด้วย! แถมมันยังสุกงอมพร้อมเก็บแล้วด้วย! เราโชคดีมากจริงๆ!”

โสมที่ยังไม่สุกงอมจะไม่ส่งกลิ่นหอม

แต่โสมที่แก่เต็มที่แล้วนั้นที่จะส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล

เพราะต้องใช้ภาวะนั้นในการพรางตัว โสมที่ยังไม่สุกงอมดีจึงมีใบเล็กมาก และจะหดตัวซ่อนอยู่ใต้ดอกไม้และพืชรอบๆ ในระหว่างวัน

ถ้าไม่หาดูดีๆ ก็คงไม่มีทางเจอแน่ๆ

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยตอนที่เธอเข้าและออกจากป่าจากนี้

“น้องสาว โสมวิญญาณคืออะไรเหรอ พี่รู้จักแต่เห็ดหลินจือกับโสมทั่วไป”

“โสมวิญญาณมีสรรพคุณที่เหมือนกับเห็ดหลินจือและโสมทั่วไป แต่ผลทางยาจะดีกว่าการใช้ทั้งสองอย่างพร้อมกันซะอีก ดังนั้นในทางการแพทย์จึงเรียกมันว่า ‘โสมวิญญาณ’”

“อ้อ แล้วนอกจากนี้แล้วมันต่างจากเห็ดหลินจือและโสมทั่วไปตรงไหนอีกเหรอ”

“ไม่ต่างจากโสมค่ะ สมุนไพรชนิดนี้หายากมาก หนึ่งคือเป็นเพราะมันหาได้จากป่าเท่านั้นและไม่สามารถเพาะปลูกได้ อีกอย่างหนึ่งคือต้องใช้โชคอย่างมากที่จะหาให้พบเมื่อมันเติบโตเต็มที่”

คุณต้องมีจมูกที่ละเอียดอ่อนมาก มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถหาพบได้กระทั่งว่ามันอยู่ที่ใต้จมูกของคุณแล้ว เพราะกิ่งก้านและใบของมันธรรมดาเกินไปซึ่งถูกใช้เพื่อซ่อนตัว

คนธรรมดาไม่สามารถได้กลิ่นของมันแม้ว่าพวกเขาจะเจอมันโตเต็มที่แล้ว พวกเขาจะหามันเจอได้อย่างไร

นอกจากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ในตำนานแล้ว มันเป็นสมุนไพรเพียงชนิดเดียวที่ผู้ปรุงยาต้องการไขว่คว้ามาครอบครองให้ได้

“งั้นเราไปเก็บกันเลยดีไหม”

“เดี๋ยวก่อนค่ะ อีกสักพักมันก็จะโตเต็มที่อย่างสมบูรณ์แล้ว”

มู่เถาเยาเปิดกล่องยาขนาดเล็กในมือของเธอ หยิบยาถอนพิษรุ่นที่ปรับปรุงแล้วออกมา และกลืนลงไปหนึ่งเม็ดโดยไม่ต้องดื่มน้ำตามเลย

“โดยทั่วไปแล้ว สมุนไพรที่ดีต้องมีสัตว์ร้ายคอยเฝ้าอยู่รอบๆ ดังนั้นมันจะต้องมีสัตว์บางชนิดคอยคุ้มกันรอบๆ โสมวิญญาณแน่ พี่รอง พี่อยู่ที่นี่นะ ฉันจะไปที่นั่น”

“ไม่ได้ พี่จะไปเก็บให้เอง”

“แต่พี่ไม่รู้จักมันนี่นา แถมยังไม่ได้กลิ่นด้วย”

เย่ว์จือกวง “…”

เขาไม่มีประโยชน์อะไรเลย! ช่วยอะไรน้องสาวไม่ได้เลยสักนิด!

มู่เถาเยาหยิบถุงมือไหมสีทองบางๆ ออกมาจากถุงผ้าบนไหล่แล้วสวมมัน จากนั้นมอบถุงผ้าให้เย่ว์จือกวง ถือจอบขนาดเล็กไว้ในมือ

“น้องสาว…”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่รอง ฉันมักจะเข้าป่ามาเก็บสมุนไพรเพียงคนเดียวเป็นประจำ โสมวิญญาณเหมาะมากสำหรับอาการป่วยของแม่และสุขภาพของพวกอาจารย์ มันช่วยบำรุงร่างกายของพวกเขาได้”

โสมวิญญาณสามารถกระตุ้นพลังได้อย่างมหาศาล แถมยังช่วยกระตุ้นประสาททำให้สมองโล่ง ความคิดความอ่านชัดเจนขึ้น เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงและโรคระยะยาว และผลของมันยังช่วยชะลอความแก่ชราของเซลล์ได้อีกด้วย

ในฤดูหนาว เมื่อดอกเถียนซินของเธอกลายเป็นแร่ผลึกก็จะถูกใช้เป็นยาเพื่อให้ตี้อู๋เปียนสามารถรับยาตัวอื่นได้ ซึ่งโสมวิญญาณนี้เองก็ช่วยเขาได้เหมือนกัน

“น้องสาว ถ้าแค่ให้แม่กับอาจารย์ทั้งหลายบำรุงร่างกาย พี่ว่าช่างมันเถอะ ที่บ้านเรายังมีโสมและเห็ดหลินจือคุณภาพเยี่ยมอีกมาก”

สมุนไพรของตระกูลเย่ว์นั้นเป็นที่โดดเด่นและรู้จักในระดับสากล แต่ที่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยนั้นเพราะก่อนหน้านี้แม่เลือกที่จะไม่รักษาตัวเอง

“การใช้โสมวิญญาณตัวนี้ในการรักษาย่อมแตกต่างกับการรับประทานโสมและเห็ดหลินจือพร้อมกันอยู่แล้ว โอกาสมีน้อยมาก พี่รองคะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันแน่ใจว่าฉันสามารถกลับมาอย่างไร้รอยขีดข่วนได้”

ก็แค่ขุดโสมวิญญาณเอง ถ้าอีกหน่อยเธอไปค้นหาดอกไม้สองชีวิตและหญ้าพิษชีวิตในอนาคต พี่ชายคนนี้จะไม่กังวลจนตายเลยเหรอ

“…พี่รองช่วยอะไรเธอได้บ้าง” เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวน้องสาวได้ เย่ว์จือกวงจึงทำได้แค่สนับสนุน

“ไม่จำเป็นค่ะ พี่รองรอฉันอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว ตอนนี้กลิ่นค่อยๆ รวมตัวกันแล้ว เหมาะที่ฉันจะไปที่นั่นในเวลานี้”

มู่เถาเยาเดินตามกลิ่นไปโดยไม่รอให้เย่ว์จือกวงมีโอกาสพูดอีกครั้ง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *