อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ

“คุณ…แม่ของคุณป่วยหนักมากเลยเหรอ” มู่เถาเยาอดไม่ได้ที่จะถาม

“หนักอยู่ครับ ทิ้งให้อยู่คนเดียวไม่ได้เลย ตั้งแต่แม่สูญเสียน้องสาว…เย่ว์จืออิ๋ง ผมของแม่ก็กลายเป็นสีขาวในชั่วข้ามคืน และท่านก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในเวลาต่อมา ปัจจุบัน…ท่านมี…มีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย”

ทุกคนที่โต๊ะมองไปที่มู่เถาเยาอย่างประหม่า

เจียงเฟิงเหมียนมองไปที่มู่เถาเยาตามการจ้องมองของทุกคน และเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในใจของเธอ

มู่เถาเยารู้สึกซับซ้อนมาก ไม่ถึงกับไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจ

เธอไม่มีความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งมากเกินไปในสองชีวิตนี้ ยกเว้นแต่คนใกล้ชิด เช่น อนุชาและอาจารย์ของเธอในชาติก่อน ตระกูลของปู่เธอ และอาจารย์ทั้งสองในชีวิตนี้ ส่วนคนอื่นๆ โดยทั่วไป เธอจะไม่ผูกพันกับพวกเขามากนัก

อย่างไรก็ตามแม่ของร่างนี้ป่วยเพราะเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องใส่ใจกับมัน

ต้องเป็นเพราะนิสัยรับผิดชอบของเธอแน่ๆ ที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้!

“เผ่าพระจันทร์ของคุณ ไม่มีหมอที่จะดูแลท่านได้ดีเลยเหรอ”

“โรคทางใจ…ก็ต้องใช้ยาใจรักษาเท่านั้น”

“แม่คุณ ทำไมท่าน…ไม่ใช่บอกว่ายังตามหากันอยู่”

“อาการป่วยของแม่เกิดจากการโทษตัวเอง เพราะคนที่แม่พามาจากตระกูลเป่ยเป็นคนดูแลน้องสาว”

“น่าสงสารจัง! คุณหาน้องสาวเจอแล้วหรือยัง” เจียงเฟิงเมียนสูดจมูก

“เจอแล้วครับ” แต่เธอยังไม่ยอมกลับบ้าน

เย่ว์จือกวงมองไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ…เจียงเฟิงเหมียนพลางพูด

ดวงตาของมู่เถาเยาสั่นไหว

“ดีจัง! อาการป่วยของแม่คุณคงจะหายในเร็วๆ นี้!”

ไม่มีใครในโต๊ะที่รู้ว่าต้องแสดงสีหน้าอย่างไร

เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่เมื่อเจียงเฟิงเหมียนพูดขึ้นกลับเปลี่ยนไปทันที

กู่ย่ารู้สึกสิ้นหวังกับลูกสาว เธอต้องพลาดอะไรบางอย่างไปเมื่อตอนให้กำเนิดลูกสาว! ไม่อย่างนั้นเธอกับสามีฉลาดขนาดนี้ พวกเขาจะคลอด…ลูกสาว อืม ที่ทั้งโง่และน่ารักได้ยังไง

เศร้า…

มู่เถาเยาคีบปีกไก่อีกปีกให้กับเจียงเฟิงเหมียน

“ขอบคุณค่ะพี่เยาเยา”

เจียงเฟิงเหมียนยิ้มอย่างสดใส

มู่เถาเยาลูบผมสีดำขลับของเธอเบาๆ และมีรอยยิ้มเล็กๆ ในดวงตาที่กลมโตและใสกระจ่างคู่นั้น ซึ่งช่วยล้างความรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้

นิสัยของเจียงเฟิงเหมียนคล้ายกับเย่ว์หย่าเอ๋อร์ ญาติผู้น้องในชาติที่แล้วของเธอ

นามสกุลฝั่งแม่ของเธอในชาติที่แล้วคือเย่ว์

ความบังเอิญที่มากขึ้นทำให้เธอรักโลกนี้มากขึ้นทุกวัน

เพียงแต่…ถ้าเสด็จแม่และอาจารย์ของเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยคงดี

เธอไม่กังวลเกี่ยวกับอนุชาของเธอที่ขึ้นสืบทอดราชวงศ์เทียนเยว่บนแผ่นดินจงโจว เพราะเธอได้สอนศาสตร์แห่งการเป็นจักรพรรดิให้เขาแล้ว กอปรกับเธอยังได้มอบดอกไม้สองชีวิต สิ่งที่มีค่าที่สุดของสำนักให้กับเขาไว้ด้วย จึงไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ง่ายๆ

แต่สำหรับเสด็จแม่ เห็นได้ชัดว่าท่านมีวรยุทธ์ แต่ท่านเต็มใจตายเพื่อพวกพี่น้องของเธอ

ตอนนั้นเธออายุได้แปดขวบและจับตัวไว้ ทำได้เพียงแต่มองดูเสด็จแม่ถูกไฟเผาอย่างช่วยไม่ได้…

ยังมีอาจารย์ลู่จือฉิน เพราะท่านพาเธอไปยังพื้นที่โรคระบาด แม้ในที่สุดจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคระบาด แต่ท่านกลับต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่น…

น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาของมู่เถาเยา ทำให้ดวงตากวางคู่นั้นดูน่าสงสารจับใจ

ผู้คนทั้งโต๊ะให้ความสนใจกับอารมณ์ของเธออยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเห็นสีหน้าทั้งร้องไห้และยิ้มของเธอในตอนนี้ พวกเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์มาก

“เสี่ยวเยาเยา…” คนที่โต๊ะพูดออกมาแทบจะพร้อมกัน

“หือ ฉันสบายดีค่ะ แค่คิดถึงเหตุการณ์ในอดีตบางอย่างเลยเหม่อลอยเล็กน้อย”

สายตากังวลของทุกคนทำให้มู่เถาเยารีบกลั้นน้ำตาไว้

“เสี่ยวเยาเยา ถ้าเธอตกลง ให้เย่ว์จือกวงพา…แม่ของเขา…มาให้เธอรักษาดีไหม”

อาจารย์อาเล็กคิดว่าเธอเศร้าเพราะ…แม่ของเย่ว์จือกวงล้มป่วย

เขาเป็นเด็กกำพร้า และตอนที่เขายังเด็กเขาก็ปรารถนาจะมีชีวิตร่วมกับพ่อแม่ ดังนั้นจึงคิดว่ามู่เถาเยาก็คิดแบบเดียวกัน

คุณจะไม่กังวลได้อย่างไรเมื่อได้ยินว่าแม่ป่วยหนัก?

มู่เถาเยายิ้ม รู้ว่าอาจารย์อาเล็กเข้าใจผิด แต่เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไร

“เย่ว์…” มู่เถาเยาพูดไม่ออกเล็กน้อย

แต่ในแง่ของคนที่อยู่ตรงนี้ มองว่าเธออายเล็กน้อย

กู่ย่ายิ้มพลางพูดอย่างใส่ใจ “เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอถึงไม่เรียกเขาว่าพี่รองเย่ว์ล่ะ เขาแก่กว่าเธอหลายปีอยู่นะ”

“พี่รองเย่ว์!” เจียงเฟิงเหมียนเรียกออกมาอย่างคมชัดและยิ้ม

เย่ว์จือกวง “…”

ทุกคน “…”

กู่ย่าลูบหน้าผากของเธอ

มู่เถาเยาเกือบจะหัวเราะออกมา

เฟิงเหมียนดูเหมือนเย่ว์หย่าเอ๋อร์จริงๆ!

“พี่รองเย่ว์ ถ้าแม่ของคุณเต็มใจ ก็พาเธอไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานให้อาจารย์ของฉันช่วยรักษาเถอะค่ะ”

หลังจากถูกเจียงเฟิงเหมียนขัดจังหวะ ในที่สุดมู่เถาเยาก็ได้พูดออกมา

“ตกลง” สีหน้าของเย่ว์จือกวงดูตกใจมาก

น้องสาวของเขาไม่เพียงแต่เรียกเขาว่าพี่รองเท่านั้น แต่เธอยังเต็มใจให้พวกเขาไปยังที่ที่เธอเติบโตและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกับเธอ

เขาเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถยอมรับกันและกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งในไม่ช้า!

ตอนนี้ทุกคนต่างมีรอยยิ้มบนใบหน้า ยกเว้นเจียงเฟิงเหมียนที่ยังคงอยู่ในสถานะคล้ายคนนอก

“พี่เยาเยา ทำไมพี่ถึงไม่รักษาให้แทนล่ะ พี่เฉิงหรานก็ไม่รักษา พ่อก็ไม่รักษาเหมือนกัน”

ที่นี่มีหมอชื่อดังมากมาย ทำไมต้องถ่อไปไกลถึงขนาดนั้น แถมยังรบกวนลุงหยวนด้วย

เจียงเฟิงเหมียนดูงงงวย

ปากของเฉิงหรานกระตุก

เขาเป็นชายชราในวัยห้าสิบที่ถูกเด็กสาวอายุสิบเจ็ดปีเรียกว่าพี่ชาย นี่ไม่แปลกจริงๆ เหรอ?

คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาเป็นคนร้ายล่อลวงเด็กสาว!

โชคดีที่เสี่ยวเยาเยาเรียกเขาว่าศิษย์พี่ใหญ่! มิฉะนั้นเขาคงอับอายที่ต้องพบปะผู้คนหากมีเด็กสาววัยรุ่นเรียกเขาว่าพี่ชายทุกวัน!

“เสี่ยวเหมียน ผู้คนในหมู่บ้านเถาหยวนซานมีความเมตตาและบรรยากาศก็ดี ดีต่ออารมณ์ของผู้ป่วยทีเดียว เมื่ออารมณ์ดี อาการเจ็บป่วยก็จะหายได้ง่าย ถ้าลูกไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพูด” กู่ย่าแทบอยากจะใช้เทปกาวใสปิดปากลูกสาว!

เจียงเฟิงเหมียนคร่ำครวญแล้วก้มหน้าลงกินปีกไก่ต่อ

หลี่อวี้เสวี่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ประธานเย่ว์ คุณวางแผนที่จะอยู่ในเย่ว์ตูต่ออีกนานแค่ไหนคะ”

“พี่สะใภ้ พรุ่งนี้ผมก็จะกลับเผ่าแล้วครับ แม่รอไม่ไหวแล้ว”

เจียงเฟิงเหมียนต้องการพูดอีกครั้ง แต่แม่ของเธอรีบคว้าซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งแล้วอุดปากเธอ

“กินของลูกไป”

เจียงเฟิงเมี่ยน “…”

เธอแค่อยากจะถามว่ามันเป็นเผ่าอะไร! มันเหมือนกับเผ่าเหมียวเจียงที่ใช้หนอนพิษพวกนั้นไหม

แล้วทำไมเขาถึงเรียกพี่สะใภ้เธอว่าพี่สะใภ้ด้วย!

ปกติเขาควรจะเรียกเธอว่าคุณป้ามากกว่านะ!

หลี่อวี้เสวี่ยมองไปยังมู่เถาเยาพลางพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน ถ้าโรคนี้หายขาดก็จะสบายใจขึ้น”

เย่ว์จือกวงพยักหน้า จากนั้นก็หันไปหามู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยา หลังผมจัดการเรื่องแม่เสร็จ ผมจะมาพบคุณใหม่นะ”

“คุณควรใช้เวลากับเธอให้มากขึ้น”

“ผมจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วง”

มู่เถาเยา “…”

เธอไม่ได้กังวลเลยโอเคไหม? ชัดเจนรึเปล่า!

เป็นแค่คำพูดธรรมดาๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไร! อย่าพูดไร้สาระ!

“แล้วตระกูลเป่ย…”

“ลูกสาวล้มป่วยยังไม่หาย หลานสาวเองก็ยังไม่กลับบ้าน คุณตาและคุณยายเลยบอกว่าไม่กล้าป่วย ไม่กล้าแก่ตายน่ะ”

น้ำตาของมู่เถาเยารื้นขึ้นมา เอ่อล้นในดวงตาของเธออีกครั้ง

ท่านปู่ในชาติที่แล้วของเธอก็พูดเช่นเดียวกัน แค้นของลูกสาวยังไม่ได้รับการชำระและหลานสาวหลานชายยังเด็ก พวกเขาไม่กล้าตายและไม่สามารถตายได้

เมื่อเห็นการแสดงออกของมู่เถาเยา หัวใจของเย่ว์จือกวงก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวด

“เสี่ยวเยาเยา คุณตากับคุณยายสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ต้องกังวล”

น้องสาวของเขาเป็นหญิงสาวที่จิตใจงดงามและอ่อนโยนที่สุดในโลก! เธอไม่เพียงแต่ไม่โทษพวกเขาที่ทำเธอหายไป แต่เธอยังกังวลเรื่องสุขภาพของคนในตระกูลด้วย!

“…ฉันไม่ได้กังวลค่ะ”

มู่เถาเยารู้จากท่าทีของทุกคนว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

“พี่เยาเยา…พี่คือ…น้องสาวของพี่รองเย่ว์?” เจียงเฟิงเมียนดูเหมือนจะคิดตกกับเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว

เธอแค่บ้า ไม่ได้โง่จริงๆ

มีรอยยิ้มลึกๆ ในดวงตาของเย่ว์จือกวงราวกับว่ากำลังส่องแสงอยู่

ใช่! ตระกูลตามหาน้องสาวมาสิบแปดปีแล้ว! และในที่สุดก็พบแล้ว!

“อ๋า อ๋า อ๋า…พี่เยาเยาของฉันไม่ใช่เด็กกำพร้า! เยี่ยมมาก! ฮ่าๆ…”

ทั้งห้องส่วนตัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายน่าตีของเจียงเฟิงเหมียน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 57 มีแต่ต้องใช้ยาใจ

“คุณ…แม่ของคุณป่วยหนักมากเลยเหรอ” มู่เถาเยาอดไม่ได้ที่จะถาม

“หนักอยู่ครับ ทิ้งให้อยู่คนเดียวไม่ได้เลย ตั้งแต่แม่สูญเสียน้องสาว…เย่ว์จืออิ๋ง ผมของแม่ก็กลายเป็นสีขาวในชั่วข้ามคืน และท่านก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าในเวลาต่อมา ปัจจุบัน…ท่านมี…มีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย”

ทุกคนที่โต๊ะมองไปที่มู่เถาเยาอย่างประหม่า

เจียงเฟิงเหมียนมองไปที่มู่เถาเยาตามการจ้องมองของทุกคน และเครื่องหมายคำถามนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในใจของเธอ

มู่เถาเยารู้สึกซับซ้อนมาก ไม่ถึงกับไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจ

เธอไม่มีความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งมากเกินไปในสองชีวิตนี้ ยกเว้นแต่คนใกล้ชิด เช่น อนุชาและอาจารย์ของเธอในชาติก่อน ตระกูลของปู่เธอ และอาจารย์ทั้งสองในชีวิตนี้ ส่วนคนอื่นๆ โดยทั่วไป เธอจะไม่ผูกพันกับพวกเขามากนัก

อย่างไรก็ตามแม่ของร่างนี้ป่วยเพราะเธอ ดังนั้นเธอจึงต้องใส่ใจกับมัน

ต้องเป็นเพราะนิสัยรับผิดชอบของเธอแน่ๆ ที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้!

“เผ่าพระจันทร์ของคุณ ไม่มีหมอที่จะดูแลท่านได้ดีเลยเหรอ”

“โรคทางใจ…ก็ต้องใช้ยาใจรักษาเท่านั้น”

“แม่คุณ ทำไมท่าน…ไม่ใช่บอกว่ายังตามหากันอยู่”

“อาการป่วยของแม่เกิดจากการโทษตัวเอง เพราะคนที่แม่พามาจากตระกูลเป่ยเป็นคนดูแลน้องสาว”

“น่าสงสารจัง! คุณหาน้องสาวเจอแล้วหรือยัง” เจียงเฟิงเมียนสูดจมูก

“เจอแล้วครับ” แต่เธอยังไม่ยอมกลับบ้าน

เย่ว์จือกวงมองไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ…เจียงเฟิงเหมียนพลางพูด

ดวงตาของมู่เถาเยาสั่นไหว

“ดีจัง! อาการป่วยของแม่คุณคงจะหายในเร็วๆ นี้!”

ไม่มีใครในโต๊ะที่รู้ว่าต้องแสดงสีหน้าอย่างไร

เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่เมื่อเจียงเฟิงเหมียนพูดขึ้นกลับเปลี่ยนไปทันที

กู่ย่ารู้สึกสิ้นหวังกับลูกสาว เธอต้องพลาดอะไรบางอย่างไปเมื่อตอนให้กำเนิดลูกสาว! ไม่อย่างนั้นเธอกับสามีฉลาดขนาดนี้ พวกเขาจะคลอด…ลูกสาว อืม ที่ทั้งโง่และน่ารักได้ยังไง

เศร้า…

มู่เถาเยาคีบปีกไก่อีกปีกให้กับเจียงเฟิงเหมียน

“ขอบคุณค่ะพี่เยาเยา”

เจียงเฟิงเหมียนยิ้มอย่างสดใส

มู่เถาเยาลูบผมสีดำขลับของเธอเบาๆ และมีรอยยิ้มเล็กๆ ในดวงตาที่กลมโตและใสกระจ่างคู่นั้น ซึ่งช่วยล้างความรู้สึกไม่สบายใจที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้

นิสัยของเจียงเฟิงเหมียนคล้ายกับเย่ว์หย่าเอ๋อร์ ญาติผู้น้องในชาติที่แล้วของเธอ

นามสกุลฝั่งแม่ของเธอในชาติที่แล้วคือเย่ว์

ความบังเอิญที่มากขึ้นทำให้เธอรักโลกนี้มากขึ้นทุกวัน

เพียงแต่…ถ้าเสด็จแม่และอาจารย์ของเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยคงดี

เธอไม่กังวลเกี่ยวกับอนุชาของเธอที่ขึ้นสืบทอดราชวงศ์เทียนเยว่บนแผ่นดินจงโจว เพราะเธอได้สอนศาสตร์แห่งการเป็นจักรพรรดิให้เขาแล้ว กอปรกับเธอยังได้มอบดอกไม้สองชีวิต สิ่งที่มีค่าที่สุดของสำนักให้กับเขาไว้ด้วย จึงไม่มีใครสามารถทำร้ายเขาได้ง่ายๆ

แต่สำหรับเสด็จแม่ เห็นได้ชัดว่าท่านมีวรยุทธ์ แต่ท่านเต็มใจตายเพื่อพวกพี่น้องของเธอ

ตอนนั้นเธออายุได้แปดขวบและจับตัวไว้ ทำได้เพียงแต่มองดูเสด็จแม่ถูกไฟเผาอย่างช่วยไม่ได้…

ยังมีอาจารย์ลู่จือฉิน เพราะท่านพาเธอไปยังพื้นที่โรคระบาด แม้ในที่สุดจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับโรคระบาด แต่ท่านกลับต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่น…

น้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาของมู่เถาเยา ทำให้ดวงตากวางคู่นั้นดูน่าสงสารจับใจ

ผู้คนทั้งโต๊ะให้ความสนใจกับอารมณ์ของเธออยู่แล้ว ยิ่งเมื่อเห็นสีหน้าทั้งร้องไห้และยิ้มของเธอในตอนนี้ พวกเขาก็รู้สึกเป็นทุกข์มาก

“เสี่ยวเยาเยา…” คนที่โต๊ะพูดออกมาแทบจะพร้อมกัน

“หือ ฉันสบายดีค่ะ แค่คิดถึงเหตุการณ์ในอดีตบางอย่างเลยเหม่อลอยเล็กน้อย”

สายตากังวลของทุกคนทำให้มู่เถาเยารีบกลั้นน้ำตาไว้

“เสี่ยวเยาเยา ถ้าเธอตกลง ให้เย่ว์จือกวงพา…แม่ของเขา…มาให้เธอรักษาดีไหม”

อาจารย์อาเล็กคิดว่าเธอเศร้าเพราะ…แม่ของเย่ว์จือกวงล้มป่วย

เขาเป็นเด็กกำพร้า และตอนที่เขายังเด็กเขาก็ปรารถนาจะมีชีวิตร่วมกับพ่อแม่ ดังนั้นจึงคิดว่ามู่เถาเยาก็คิดแบบเดียวกัน

คุณจะไม่กังวลได้อย่างไรเมื่อได้ยินว่าแม่ป่วยหนัก?

มู่เถาเยายิ้ม รู้ว่าอาจารย์อาเล็กเข้าใจผิด แต่เธอก็ไม่ได้อธิบายอะไร

“เย่ว์…” มู่เถาเยาพูดไม่ออกเล็กน้อย

แต่ในแง่ของคนที่อยู่ตรงนี้ มองว่าเธออายเล็กน้อย

กู่ย่ายิ้มพลางพูดอย่างใส่ใจ “เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอถึงไม่เรียกเขาว่าพี่รองเย่ว์ล่ะ เขาแก่กว่าเธอหลายปีอยู่นะ”

“พี่รองเย่ว์!” เจียงเฟิงเหมียนเรียกออกมาอย่างคมชัดและยิ้ม

เย่ว์จือกวง “…”

ทุกคน “…”

กู่ย่าลูบหน้าผากของเธอ

มู่เถาเยาเกือบจะหัวเราะออกมา

เฟิงเหมียนดูเหมือนเย่ว์หย่าเอ๋อร์จริงๆ!

“พี่รองเย่ว์ ถ้าแม่ของคุณเต็มใจ ก็พาเธอไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานให้อาจารย์ของฉันช่วยรักษาเถอะค่ะ”

หลังจากถูกเจียงเฟิงเหมียนขัดจังหวะ ในที่สุดมู่เถาเยาก็ได้พูดออกมา

“ตกลง” สีหน้าของเย่ว์จือกวงดูตกใจมาก

น้องสาวของเขาไม่เพียงแต่เรียกเขาว่าพี่รองเท่านั้น แต่เธอยังเต็มใจให้พวกเขาไปยังที่ที่เธอเติบโตและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกับเธอ

เขาเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถยอมรับกันและกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งในไม่ช้า!

ตอนนี้ทุกคนต่างมีรอยยิ้มบนใบหน้า ยกเว้นเจียงเฟิงเหมียนที่ยังคงอยู่ในสถานะคล้ายคนนอก

“พี่เยาเยา ทำไมพี่ถึงไม่รักษาให้แทนล่ะ พี่เฉิงหรานก็ไม่รักษา พ่อก็ไม่รักษาเหมือนกัน”

ที่นี่มีหมอชื่อดังมากมาย ทำไมต้องถ่อไปไกลถึงขนาดนั้น แถมยังรบกวนลุงหยวนด้วย

เจียงเฟิงเหมียนดูงงงวย

ปากของเฉิงหรานกระตุก

เขาเป็นชายชราในวัยห้าสิบที่ถูกเด็กสาวอายุสิบเจ็ดปีเรียกว่าพี่ชาย นี่ไม่แปลกจริงๆ เหรอ?

คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเขาเป็นคนร้ายล่อลวงเด็กสาว!

โชคดีที่เสี่ยวเยาเยาเรียกเขาว่าศิษย์พี่ใหญ่! มิฉะนั้นเขาคงอับอายที่ต้องพบปะผู้คนหากมีเด็กสาววัยรุ่นเรียกเขาว่าพี่ชายทุกวัน!

“เสี่ยวเหมียน ผู้คนในหมู่บ้านเถาหยวนซานมีความเมตตาและบรรยากาศก็ดี ดีต่ออารมณ์ของผู้ป่วยทีเดียว เมื่ออารมณ์ดี อาการเจ็บป่วยก็จะหายได้ง่าย ถ้าลูกไม่เข้าใจก็ไม่ต้องพูด” กู่ย่าแทบอยากจะใช้เทปกาวใสปิดปากลูกสาว!

เจียงเฟิงเหมียนคร่ำครวญแล้วก้มหน้าลงกินปีกไก่ต่อ

หลี่อวี้เสวี่ยถามด้วยรอยยิ้ม “ประธานเย่ว์ คุณวางแผนที่จะอยู่ในเย่ว์ตูต่ออีกนานแค่ไหนคะ”

“พี่สะใภ้ พรุ่งนี้ผมก็จะกลับเผ่าแล้วครับ แม่รอไม่ไหวแล้ว”

เจียงเฟิงเหมียนต้องการพูดอีกครั้ง แต่แม่ของเธอรีบคว้าซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานชิ้นหนึ่งแล้วอุดปากเธอ

“กินของลูกไป”

เจียงเฟิงเมี่ยน “…”

เธอแค่อยากจะถามว่ามันเป็นเผ่าอะไร! มันเหมือนกับเผ่าเหมียวเจียงที่ใช้หนอนพิษพวกนั้นไหม

แล้วทำไมเขาถึงเรียกพี่สะใภ้เธอว่าพี่สะใภ้ด้วย!

ปกติเขาควรจะเรียกเธอว่าคุณป้ามากกว่านะ!

หลี่อวี้เสวี่ยมองไปยังมู่เถาเยาพลางพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน ถ้าโรคนี้หายขาดก็จะสบายใจขึ้น”

เย่ว์จือกวงพยักหน้า จากนั้นก็หันไปหามู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยา หลังผมจัดการเรื่องแม่เสร็จ ผมจะมาพบคุณใหม่นะ”

“คุณควรใช้เวลากับเธอให้มากขึ้น”

“ผมจะจัดการเอง ไม่ต้องห่วง”

มู่เถาเยา “…”

เธอไม่ได้กังวลเลยโอเคไหม? ชัดเจนรึเปล่า!

เป็นแค่คำพูดธรรมดาๆ ดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไร! อย่าพูดไร้สาระ!

“แล้วตระกูลเป่ย…”

“ลูกสาวล้มป่วยยังไม่หาย หลานสาวเองก็ยังไม่กลับบ้าน คุณตาและคุณยายเลยบอกว่าไม่กล้าป่วย ไม่กล้าแก่ตายน่ะ”

น้ำตาของมู่เถาเยารื้นขึ้นมา เอ่อล้นในดวงตาของเธออีกครั้ง

ท่านปู่ในชาติที่แล้วของเธอก็พูดเช่นเดียวกัน แค้นของลูกสาวยังไม่ได้รับการชำระและหลานสาวหลานชายยังเด็ก พวกเขาไม่กล้าตายและไม่สามารถตายได้

เมื่อเห็นการแสดงออกของมู่เถาเยา หัวใจของเย่ว์จือกวงก็บีบรัดด้วยความเจ็บปวด

“เสี่ยวเยาเยา คุณตากับคุณยายสุขภาพแข็งแรงดี ไม่ต้องกังวล”

น้องสาวของเขาเป็นหญิงสาวที่จิตใจงดงามและอ่อนโยนที่สุดในโลก! เธอไม่เพียงแต่ไม่โทษพวกเขาที่ทำเธอหายไป แต่เธอยังกังวลเรื่องสุขภาพของคนในตระกูลด้วย!

“…ฉันไม่ได้กังวลค่ะ”

มู่เถาเยารู้จากท่าทีของทุกคนว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว

“พี่เยาเยา…พี่คือ…น้องสาวของพี่รองเย่ว์?” เจียงเฟิงเมียนดูเหมือนจะคิดตกกับเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว

เธอแค่บ้า ไม่ได้โง่จริงๆ

มีรอยยิ้มลึกๆ ในดวงตาของเย่ว์จือกวงราวกับว่ากำลังส่องแสงอยู่

ใช่! ตระกูลตามหาน้องสาวมาสิบแปดปีแล้ว! และในที่สุดก็พบแล้ว!

“อ๋า อ๋า อ๋า…พี่เยาเยาของฉันไม่ใช่เด็กกำพร้า! เยี่ยมมาก! ฮ่าๆ…”

ทั้งห้องส่วนตัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายน่าตีของเจียงเฟิงเหมียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+