เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้าบทที่ 1866 เรื่องที่คาดไม่ถึง (1)

Now you are reading เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า Chapter บทที่ 1866 เรื่องที่คาดไม่ถึง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1866 เรื่องที่คาดไม่ถึง (1)

หานเฟิงพูดพลางเดินมาด้านหน้า จะยื่นมือไปแยกลู่ฝานกับหลิงเหยาออกจากกัน

จู่ๆ ลู่ฝานยิ้มแบบมีเลศนัยให้หานเฟิง รอยยิ้มมุมปากเขาทำให้หานเฟิงอึ้งทันที

แขนชะงักอยู่กลางอากาศ หานเฟิงเบิกตาโตมองลู่ฝาน “ไม่ใช่ละ ฉันเคยเห็นรอยยิ้มนาย ให้ตายเถอะ ไอ้เลว นายคือศิษย์น้องลู่ฝาน ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน นายกล้าหลอกฉันเหรอ!”

จู่ๆ กล้ามเนื้อบนใบหน้าลู่ฝานบิดเบี้ยว เผยให้เห็นใบหน้าแท้จริงของตัวเอง

ศิษย์พี่ฉู่เทียน ศิษย์พี่ฉู่สิงและศิษย์พี่ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังอ้าปากค้าง พวกเขาเบิกตาโตพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน!”

“ใช่นายจริงด้วย!”

“ฮ่าๆ ศิษย์น้องลู่ฝาน!”

ทั้งสามคนเดินมาด้านหน้า ยื่นแขนสองข้างไปหาลู่ฝาน

ลู่ฝานปล่อยหลิงเหยาแล้วกอดศิษย์พี่ทุกคน

ตอนนี้อบอวลไปด้วยความผูกพันของศิษย์พี่และศิษย์น้อง

ศิษย์พี่หานเฟิงมองลู่ฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน เคล็ดวิชาบู๊สรรพสิ่งไร้รูปร่างของนายดีกว่าฉันเยอะเลย ไม่เสียแรงที่เป็นศิษย์น้องฉัน ต่อไปฉันคงต้องอยู่กับนายแล้วล่ะ!”

ศิษย์พี่ใหญ่หมุนตัวลู่ฝานแล้วพูดว่า “พลังมีอานุภาพ ร่างกายแข็งแกร่ง ศิษย์น้องลู่ฝานสุขสบายดีมากเลย ศิษย์น้องหลิงเหยาบอกเราว่านายตกอยู่ในอันตราย ไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ ตอนนั้นพวกเรากังวลอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนคงเป็นแค่อุปสรรคเล็กน้อยสินะ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ทุกสิ่งที่เอาชนะฉันไม่ได้ จะทำให้ฉันแข็งแกร่งขึ้น ศิษย์พี่ทุกคน ฉันสุขสบายดี”

ลู่ฝานหันมาลูบแก้มหลิงเหยาอย่างอ่อนโยน “ขอโทษที่ทำให้เธอกังวลนะ”

หลิงเหยาเช็ดน้ำตาจนหมด ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่านายต้องไม่เป็นอะไร อาจารย์หวูเฉิน สิบสาม แล้วก็ปู่นาย เชื่อว่านายต้องไม่เป็นอะไร”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่มีวันทำให้เธอผิดหวัง!”

หลิงเหยาซบอกลู่ฝานอีกครั้ง

ศิษย์พี่หานเฟิงกระแอมสองครั้งแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันรู้ว่ายิ่งห่างไกล ยิ่งทำให้รักกัน แต่รักนวลสงวนตัวหน่อย ให้เราออกไปก่อนไหม พวกนายจะได้มีเวลาพลอดรักกัน เวลาหนึ่งก้านธูปพอไหม”

ลู่ฝานถลึงตาใส่ศิษย์พี่หานเฟิง “อย่างน้อยสักสองสามชั่วโมง พอแล้ว เราออกไปหาที่คุยกันข้างนอกดีกว่า ที่นี่คนเยอะมาก ไม่สะดวกคุย อีกทั้งตอนนี้ฉันชื่อว่าเงามืด พวกพี่อย่าพลั้งปากพูดเด็ดขาด”

หานเฟิงโบกมือไปมาแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้วๆ อาจารย์นายบอกเราแล้ว คำสั่งอมตะ อริยบุคคลทั้งใต้หล้ากำลังตามจับนาย”

ลู่ฝานอึ้งไป “อะไรนะ อริยบุคคลทั้งใต้หล้ากำลังตามจับเหรอ”

หานเฟิงพูดอย่างประหลาดใจ “นายไม่รู้เหรอ อาจารย์นายบอกว่าประมุขประเทศตันเซิ่งผู้เป็นอมตะ ออกคำสั่งให้อริยบุคคลทั้งใต้หล้าตามหานาย เขาได้รับข่าวจากวิถีแห่งฟ้าดิน สองวันก่อนยังสั่งเราว่าถ้าเจอนายห้ามพูดชื่อนายไปทั่วด้วย”

ลู่ฝานช็อกจนพูดอะไรไม่ออก เขารู้แค่ว่าพวกผู้ฝึกชั่วร้ายกำลังตามจับเขา แต่ไม่รู้ว่าประมุขประเทศตันเซิ่งออกคำสั่งตามจับเขาด้วย

นี่มันคือการโจมตีจากทั่วทุกทิศ ถูกล้อมด้วยข้าศึกทุกด้าน

แต่พอคิดกลับกัน เขาเจอเรื่องมากมายจนไม่กังวลแล้ว

ยังไงก็โดนตามจับแล้ว คนเยอะหน่อยก็ไม่เห็นเป็นไร

เขาจะเจออริยบุคคลพวกนั้นหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง

จิตใจลู่ฝานหนักอึ้ง เขาพูดว่า “แล้วอาจารย์ฉันล่ะ สิบสามล่ะ”

หลิงเหยาเงยหน้าพูดว่า “อยู่ในเมือง ถ้านายอยากเจอพวกเขา ฉันพานายไปได้ ลู่ฝาน นายเจออาจารย์นายแล้วใช่ไหม เหมือนเขารู้ว่านายอยู่ที่นี่”

ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “เปล่า ฉันยังไม่เจออาจารย์เลย แต่ถ้าเขาอยากเจอฉัน เขามีวิธีอยู่แล้ว”

ลู่ฝานคิดถึงความสัมพันธ์ของอาจารย์กับผู้อาวุโสซู่มั่น แค่พวกเขายังติดต่อกัน การตามหาเขาไม่ใช่เรื่องยากเลย

ลู่ฝานถามอีกว่า “ตอนนี้อาจารย์ฉันเป็นยังไงบ้าง เขาแข็งแรงดีไหม”

ศิษย์พี่หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “แข็งแรงมาก เดินเหินคล่องแคล่ว นายให้หลิงเหยาเอาของดีอะไรกลับมาให้เขาเหรอ อาจารย์นายเอาน้ำยาออกมาจากในนั้น หลังจากกินเข้าไปก็กระปรี้กระเปร่า หน้าตาสดใส ยังมีอีกไหม ฉันขอหน่อยสิ”

หลิงเหยาพูดว่า “อาจารย์หวูเฉินบอกว่าเสริมอายุขัยแล้ว แม้พลังยังไม่ฟื้นคืน แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องตายแล้ว ตอนฉันเอาขวดยาให้ เขาร้องห่มร้องไห้ เอาแต่พูดขอโทษนายไม่หยุด ลู่ฝาน อาจารย์รักนายมากจริงๆ”

ลู่ฝานพยักหน้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอบอุ่น

จากนั้นเขาพูดกับศิษย์พี่หานเฟิงพูดว่า “จะว่ามีก็มีอยู่นะ รอมีโอกาสฉันจะเอาให้พวกพี่”

พวกศิษย์พี่หานเฟิงยิ้มกว้างทันที

ลู่ฝานสะบัดมือแล้วพูดว่า “ออกไปกันเถอะ อย่าอยู่ที่นี่นาน”

พูดจบ ลู่ฝานจูงมือหลิงเหยาออกจากห้อง พวกหานเฟิงรีบเดินตามไปทันที

พวกลู่ฝานเดินออกจากงานประมูลอย่างรวดเร็ว

ลู่ฝานเลือกรถม้าของผู้ฝึกชั่วร้ายคนหนึ่ง จากนั้นขึ้นมานั่ง อีกฝ่ายกำลังจะพูด ลู่ฝานเอาป้ายออกมาแกว่งตรงหน้าเขา

ผู้ฝึกชั่วร้ายยอมให้เขาอย่างนอบน้อม อีกทั้งใบหน้ายังมีรอยยิ้มด้วย

ผู้ฝึกชั่วร้ายปาดเหงื่อบนหน้าผากแล้วพูดว่า “คนของจวนองค์ชายใหญ่ นั่นมันสำนักที่ 15 ไม่ใช่เหรอ สำนักคนบ้าชัดๆ ฉันไม่ไปมีเรื่องด้วยหรอก”

บนรถม้า ศิษย์พี่หานเฟิงพูดอย่างตกใจว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ตอนนี้ฐานะของนายคือใครกัน ฉันเห็นนายเป็นที่ยอมรับในประเทศฉิงเทียนมากเลย ตอนองค์ชายสี่เห็นนาย เหมือนหนูเจอแมวเลย ตอนนี้นายขึ้นรถม้าของใครก็ได้ นายรู้จักองค์หญิงประเทศฉิงเทียนเหรอ”

เมื่อพูดจบ หลิงเหยาถลึงตาใส่ศิษย์พี่หานเฟิง

ศิษย์พี่หานเฟิงรู้ตัวว่าพลั้งปากพูด เขารีบทำเป็นยิ้มทันที

ลู่ฝานพูดว่า “ดีกว่านั้นอีก ตอนนี้เจ้าหญิงประเทศฉิงเทียนเจอฉันยังต้องคุกเข่าให้!”

ศิษย์พี่ฉู่สิงยื่นหน้ามาพูดว่า “จริงหรือเปล่า ศิษย์น้องลู่ฝานทำได้ยังไง”

ศิษย์พี่หานเฟิงมองลู่ฝานอย่างสงสัย “ศิษย์น้องลู่ฝาน ตอนนี้หนังหน้านายใกล้สู้ฉันได้แล้วนะ ท่าทางพูดโม้ของนายเหมือนฉันตอนนั้นเลย!”

จู่ๆ รถม้าค่อยๆ หยุดลง ชายคนหนึ่งขวางอยู่หน้ารถม้า “องค์ชายสี่มีคำเชิญ!”

ลู่ฝานพูดเสียงดังว่า “นำทางสิ”

ผู้ชายคำนับแล้วขานรับ นำทางรถม้าไปยังซอยเล็กๆ

ลู่ฝานหันมาพูดกับศิษย์พี่หานเฟิง “พี่ไม่เชื่อเหรอ เดี๋ยวพี่เห็นก็รู้เอง”

พวกศิษย์พี่หานเฟิงมองลู่ฝานด้วยตาเป็นประกาย

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เชื่อ แค่อยากให้ลู่ฝานบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง

แน่นอนว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้เห็นด้วยตาตัวเอง

ด้านนอกรถม้า บนถนนมีผู้ชายสองสามคนรีบเดินตามรถม้า

แม้พวกเขาแต่งตัวต่างกัน แต่มีลายเจดีย์ยาของประเทศตันเซิ่งอยู่บนตัว

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ มีกลุ่มคนเดินตามหลังพวกเขาอยู่

คนพวกนี้หน้าตาอัปลักษณ์ รูปร่างแตกต่างกัน

คนพวกนี้พูดคุยกันเสียงเบาว่า “ลงมือตอนนี้เลยไหม”

“ไม่ได้ รองหัวหน้าสำนักบอกแล้วว่าให้รอคำสั่ง”

“ตามไป!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *